วันรุ่งขึ้นหลิงอวี๋กำลังนึกถึงเรื่องของหลิงหว่าน นางลุกขึ้นไปกินอาหารเช้า จากนั้นจึงพาหลิงเยวี่ยกับเถาจื่อไปที่บ้านป้าสะใภ้ใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพาเสี่ยวเยี่ยนจื่อทำงานอยู่ในเรือน เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ยมา ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม“เยวี่ยเยวี่ยหลานรัก เจ้ามาแล้วหรือ! คิดถึงยายหรือไม่?”หลิงเยวี่ยเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “คิดถึงขอรับ คิดถึงพี่เยี่ยนจื่อด้วยขอรับ!”เสี่ยวเยี่ยนจื่อยิ้มแล้ววิ่งไปจับมือหลิงเยวี่ย “น้องเยวี่ยเยวี่ย ข้าชอบกระต่ายน้อยที่เจ้าให้ข้ามาครั้งที่แล้วมาก ข้าจะพาเจ้าไปดู มันโตขึ้นมากเลย!”หลิงเยวี่ยตามเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปดูกระต่ายน้อยอย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มิเห็นหลิงหว่าน จึงเอ่ยถาม “ป้าสะใภ้ใหญ่ หว่านเอ๋อร์เล่า?”“นางหรือ ออกไปจ่ายตลาดตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว บอกว่าหลังช่วยข้าจ่ายตลาดแล้ว นางต้องไปดูที่ตั้งโรงงาน นางบอกว่านางพบสถานที่ที่ดีที่จะสร้างโรงงาน และกำลังเจรจาราคากับพวกเขาอยู่!”ขณะที่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพูดอยู่นั้น หลิงหว่านก็เข้ามาพร้อมกับถือตะกร้าผักใบใหญ่มาด้วยเถาจื่อกับสุ่ยหลิงรีบไปช่วยนาง หลิงหว่านเห็นหลิงอวี๋ก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ท่านพี่หลิงหลิง ท่านพี
ป้าสะใภ้ใหญ่รีบเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างอ้อนวอน “อาอวี๋ เจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น เจ้าช่วยน้องสาวคิดหน่อยเถิด!”“หว่านเอ๋อร์จะต้องมิเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ยเด็ดขาด! เช่นนั้นท่านปู่กับท่านลุงของเจ้าจะต้องโกรธแย่แน่!”“ป้าสะใภ้ใหญ่มิต้องกังวล อย่าว่าหว่านเอ๋อร์มิยอมเลย แม้แต่ข้าเองก็จะมิยอมให้หว่านเอ๋อร์ไปเป็นภรรยาน้อยเด็ดขาด!”หลิงอวี๋ปลอบใจทั้งสองคน “หลิงเยี่ยนยังมิได้บอกฮองเฮาเว่ยเรื่องความคิดนี้ ดังนั้นเราต้องชิงให้หลิงหว่านหมั้นหมายก่อนที่นางจะเอ่ยปาก เพื่อสกัดความคิดของฮองเฮาเว่ยออกไป!”ป้าสะใภ้ใหญ่เอ่ยอย่างกังวล “แต่ในเวลานี้ จะไปหาใครที่ไหนมาหมั้นกับหลิงหว่านได้เล่า?”หลิงอวี๋จับมือของหลิงหว่านแล้วเอ่ยอย่างจนใจ “ข้าคิดสามวิธีไว้ให้เจ้า วิธีแรกคือการหมั้นหมายกับเฉาอี้องครักษ์ของเซียวหลินเทียน!”“เฉาอี้เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความภักดีต่อเซียวหลินเทียนมาก หากเจ้ามิอยากแต่งงานกับเขา เจ้าหมั้นไว้ก่อนก็ได้!”“หลังจากผ่านตรงนี้ไป ก็หาข้ออ้างที่จะมิแต่งงานชั่วคราวได้ แล้วหลังจากผ่านไปสองสามปี หาข้ออ้างยุติการหมั้นไปเสีย!”ป้าสะใภ้ใหญ่ขมวดคิ้ว “นี่… จะมิส่งผลกระทบต่อชื่อเส
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนเป็นพ่อสื่อให้ใคร หลังจากเลิกงานเขาก็ลากเผยอวี้ไปดื่มชาที่โรงน้ำชา แต่จะเอ่ยปากอยู่หลายครั้งก็พูดมิออกเสียทีเผยอวี้มองเซียวหลินเทียนอย่างแปลกใจแล้วยิ้มหยอกล้อพลางเอ่ย “นี่ท่านจะทำอะไร? อยากพูดสิ่งใดก็พูดมาเถิด!”“ระหว่างเราสองพี่น้อง ยังมีอะไรที่พูดต่อกันมิได้อีกหรือ?”เซียวหลินเทียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแล้วพูดออกไป “เจ้าคิดว่าหลิงหว่านเป็นอย่างไรบ้าง?”“นางก็ดี! นางมีความสามารถแล้วก็มิอ่อนแอ เป็นสตรีที่ดีทีเดียว!” เผยอวี้เอ่ยอย่างสบาย ๆเซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หลิงหว่านเป็นคนดี อาอวี๋ชอบนางมาก! แต่ในมิช้านี้นางจะเดือดร้อนมาก ๆ หากทำมิดีก็อาจตายได้!”เผยอวี้ขมวดคิ้วทันที “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ต้องการความช่วยเหลือจากกระหม่อมหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเล่าให้เผยอวี้ฟังถึงสิ่งที่หลิงอวี๋ไปสืบมาจากหลิงเยี่ยน แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา“หากฮองเฮาเว่ยทำตามที่หลิงเยี่ยนบอกจริง ๆ แล้วบังคับให้หลิงหว่านเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ย เช่นนั้นหากเพียงหลิงหว่านเข้าตำหนักนางจะต้องสิ้นชีพในมิช้าเป็นแน่!”“ให้ตายสิ… นี่มันจะรังแกกันมากเกินไ
เผยอวี้ปวดหัวขึ้นมาทันที เขารู้ว่าเซียวหลินเทียนมิได้ล้อเล่นกับตน สิ่งที่เขาพูดทุกอย่างเกิดขึ้นได้จริงทั้งหมด“กระหม่อม… กระหม่อมต้องบอกพ่อแม่ของกระหม่อม! เช่นนั้นกระหม่อมจะบอกท่านในคืนนี้แน่นอน!”เพราะว่าเรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานพ่อแม่คือผู้ที่ตัดสินใจ หากมิบอกพ่อแม่ตระกูลเผยก็คงจะมิถูกต้อง!เซียวหลินเทียนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอข่าวจากเจ้า!”เผยอวี้พยักหน้า แล้วรีบตรงกลับบ้านทันทีฮูหยินเผย ใต้เท้าเผย และฮูหยินผู้เฒ่าเผยกำลังกินอาหารกันอยู่ เมื่อเห็นเผยอวี้รีบร้อนเข้ามา ฮูหยินเผยจึงรีบให้คนรับใช้ไปเอาชามกับตะเกียบมาให้เผยอวี้ทันทีเผยอวี้มีเรื่องอยู่ในใจ จึงกินเข้าไปเล็กน้อยก็ให้คนรับใช้เก็บไปแล้วใต้เท้าเผยคิดว่าลูกชายของเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ จึงวางตะเกียบแล้วเอ่ยถาม “องค์จักรพรรดิให้เจ้าออกไปเฝ้าด่านชายแดนใช่หรือไม่?”“ยังมิได้รับการแจ้งเลย! ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า ข้ามีเรื่องจะหารือกับพวกท่าน!”เผยอวี้เห็นว่าเผยเหลียนน้องสาวของเขาอยู่ด้วย จึงเอ่ย “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าออกไปข้างนอกสักครู่เถิด!”เผยเหลียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “ท่านพี่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันมิใช่หรือ? ที
ใต้เท้าเผยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเผยอวี้เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านแม่ หลิงหว่านมีบิดาที่ถูกถอดออกจากตำแหน่งขุนนาง แต่เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรด้อยไปกว่าสตรีอื่นเลย ท่านตอบตกลงเถิด!”“ข้ากล้ารับประกันได้เลยว่า หลิงหว่านเข้ามาจะต้องให้ความเคารพกตัญญูพวกท่านอย่างแน่นอน!”ฮูหยินเผยยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ข้าอยากให้นางกตัญญูกับข้ารึ? แต่งงานกับใครเข้ามาก็จะต้องกตัญญูต่อพวกเราทั้งนั้น!”“มีบุตรีของขุนนางต้องโทษอยู่ในบ้าน เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าชีวิตภายหน้าจะเป็นเยี่ยงไร? ไม่มีใครชวนเราไปงานเลี้ยงหรอก… ทั้งยังต้องถูกพูดถึงต่าง ๆ นานาอีก!”“น้องสาวเจ้าจะถึงวัยพูดเรื่องแต่งงานปีหน้านี้แล้ว มีลูกสะใภ้เช่นนี้ แล้วตระกูลไหนจะยอมพูดเรื่องแต่งงานกับเราเล่า?”“อวี้เอ๋อร์ หากเจ้ามิคิดถึงครอบครัว เจ้าก็ควรคิดถึงน้องสาวของเจ้าบ้าง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองไปทางเผยเหลียน “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าก็กลัวว่าการมีพี่สะใภ้เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของเจ้าหรือ?”เผยเหลียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ท่านย่า ในแวดวงของหลิงหว่านไม่มีใครที่ยินดีจะคบค้าสมาคมกับนางเลย! ข้า... ข้ามิอยากมีพี่สะใภ้เช่
เซียวหลินเทียนคืออ๋องอี้!ก่อนหน้านี้ขาของเขาใช้การมิได้ จึงไม่มีโอกาสได้เป็นองค์รัชทายาท!แต่ตอนนี้เซียวหลินเทียนยืนได้แล้ว!และในการแข่งขันทางทหารครั้งนี้ องค์จักรพรรดิเห็นแววของเซียวหลินเทียน!หากเซียวหลินเทียนสามารถเอาชนะการแข่งขันทางทหารได้ เขาจะยิ่งเข้าใกล้การเป็นองค์รัชทายาทมากขึ้นเผยอวี้ลูกชายของเขาเป็นสหายที่ภักดีของเซียวหลินเทียน หากเซียวหลินเทียนได้นั่งตำแหน่งองค์รัชทายาท เผยอวี้ก็จะได้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญไปด้วย!พระชายาของเซียวหลินเทียนคือหลิงอวี๋!หลิงหว่านก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของหลิงอวี๋อีก!หากพวกเขานิ่งดูดายมองหลิงหว่านเข้าไปในตำหนักองค์ชายเว่ยในฐานะอนุภรรยาเช่นนั้นก็จะทำให้หลิงอวี๋ขุ่นเคืองแน่!ในชั่วพริบตา ใต้เท้าเผยมีความคิดนับมิถ้วนแวบขึ้นมาในหัวของเขาเขามองเผยอวี้ หากในตอนนี้เผยอวี้ไปหาที่พึ่งกับองค์ชายคนอื่น ๆ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว!ตัวตนเผยอวี้ถูกจดจำไปแล้วว่าเป็นคนของเซียวหลินเทียน!อีกทั้งองค์ชายกับท่านอ๋องคนอื่น ๆ ก็อาจมิได้มีอนาคตแบบเซียวหลินเทียน!ใต้เท้าเผยตัดสินใจได้ในทันที พลางเอ่ยเสียงทุ้ม “ฮูหยิน ข้าตัดสินใจในเรื่องนี้แล้ว ข้าเห็นด
ตระกูลเผยตอบตกลงเรื่องการแต่งงาน!ทันทีที่ได้ข่าวนี้ หลิงอวี๋ก็ให้สุ่ยหลิงไปแจ้งให้หลิงหว่านกับป้าสะใภ้ใหญ่ทราบป้าสะใภ้ใหญ่ก็รู้ว่ามันผิกปกติ จึงดึงหลิงหว่านพลางเอ่ยอย่างกังวล “จริงหรือ? แม่ฟังมิผิดใช่หรือไม่?”“ท่านย่าใหญ่ ท่านได้ยินถูกต้องแล้ว!”สุ่ยหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินเผยบอกว่า นางจะเชิญแม่สื่อมาคุยในวันพรุ่ง แล้วก็จะเลือกวันหมั้นหมายเจ้าค่ะ!”“ส่วนท่าน พรุ่งนี้ก็รออยู่ที่บ้าน เมื่อถึงเวลาพระชายาก็จะมาด้วยเจ้าค่ะ!”“ได้ ๆ ๆ… เจ้ากลับไปบอกอาอวี๋ว่าข้าจะเตรียมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอย่างแน่นอน!”ป้าสะใภ้ใหญ่วิ่งไปรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นเต้น “หว่านเอ๋อร์ เราทำความสะอาดในห้องกับในเรือนอีกรอบดีหรือไม่? วันพรุ่งต้องเตรียมอะไรไว้ต้อนรับแขกบ้าง? อีกอย่าง แม่คู่หมั้นต้องเตรียมอะไรให้เจ้าหรือ?”หลิงหว่านเห็นความตื่นเต้นของแม่ ดวงตาก็รื้นชื้นขึ้นมาทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ก่อนที่จะถึงวันนี้ นางมิคิดมิฝันเลยว่าจะได้แต่งงานกับเผยอวี้! และคิดมิถึงด้วยว่าการแต่งงานของตนจะกำหนดกันอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้!ท่านแม่มิพร้อม แล้วตนจะพร้อมได้เยี่ยงไรกัน! “พี่สุ่ยหลิง กลับไปบอกกับท่านพี่
ตอนที่หลิงอวี๋แจกโจ๊ก นางได้ยินสิ่งที่ฮูหยินเผยพูดกับหลิงหว่านด้วยหูของตนเอง นางจึงรู้ดีถึงความกังวลของหลิงหว่านหลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจนาง “อย่ากลัวเลย หว่านเอ๋อร์ เจ้ามีพี่คอยสนับสนุนอยู่! หากผฮูหยินเผยปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี พี่ก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี!”“หากพวกเขากล้าทำให้เจ้าลำบาก ข้าจะหาคู่ครองใหม่ให้เจ้า! เรามิได้เจาะจงว่าต้องเป็นตระกูลเผย มิจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผลได้ผลเสียหรอก!”หลิงหว่านฝืนยิ้ม นางชอบเผยอวี้จริง ๆแต่ท่านพี่หลิงหลิงพูดถูก การแต่งงานเป็นเรื่องของการรักกันยาวนาน แม้ว่าตนจะรีบร้อนหมั้นหมาย แต่หากตระกูลเผยมิยินยอมเช่นนั้นตนก็มิสามารถบังคับได้ ไฉนตอนนี้ต้องคิดแค่จะเอาใจตระกูลเผยเล่า!ป้าสะใภ้ใหญ่ต้มชาแล้วให้เถาจื่อช่วยฆ่าไก่มาตุ๋นแต่รอจนถึงตอนอาหารกลางวัน ก็ยังไม่มีคนจากตระกูลเผยมาเยือนเลย“บางทีตระกูลเผยอาจกำลังเตรียมของสำหรับการหมั้น คงจะมาตอนเที่ยงกระมัง!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจ “พวกเรากินข้าวกันก่อนเถิด!”หลิงอวี๋ขยิบตาให้สุ่ยหลิง สุ่ยหลิงเข้าใจทันที แล้วเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ......หลิงเยี่ยนยังมิรู้อะไรทั้งนั้น นางกำลังรอหวางซือกลับมาที่จวนเสนาบดี