“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนดึงหลิงอวี๋ให้นั่งลงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้า... ข้าต้องแต่งชายารอง!”หา!หลิงอวี๋สะบัดมือของเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณ หัวใจบีบแน่นอย่างประหลาด“เซี่ยโฮ่วตานรั่วหรือเพคะ? เช่นนั้นก็ยินดีด้วย!”“มิใช่... เจ้าอย่าโกรธเลย! ข้า... ข้าปฏิเสธไปแล้ว!” เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าคงมิคาดคิดเช่นกันว่าฮองเฮาเว่ยมอบใครให้ข้า!”“ใครหรือเพคะ?”หลิงอวี๋เอ่ยเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คนที่ฮองเฮาเว่ยเลือกนั้นย่อมงดงาม มีน้ำใจ และเป็นสตรีจากตระกูลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ท่านยังมีสิ่งใดมิพอใจอีกหรือ?”“ฉินรั่วซือ!” เซียวหลินเทียนเอ่ยชื่อออกมาทีละคำอย่างช้า ๆ“ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ฉินซานสูญเสียแขนไปเพราะเซียวทง แม้ว่านี่จะเป็นความรับผิดชอบของเขา แต่ตระกูลฉินก็เต็มไปด้วยความภักดีและทำอะไรเพื่อฉินตะวันตกมามิน้อย!”“ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้ตระกูลฉินในนามของราชวงศ์ ฉินซานทำงานอยู่ภายใต้ข้า การแต่งงานกับน้องสาวของเขาในฐานะชายารอง จะยิ่งทำให้ฉินซานทำงานเพื่อข้าหนักขึ้นอีก!”“เสด็จพ่อเองก็เห็นด้วยเช่นกัน ทั้งยังบอกด้วยว่า ในตำหนักอ๋องอี้นั้นมีคนอยู่น้อย ฉินรั่
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างอดทน “เมื่อคืนนี้เสด็จพ่อเรียกประชุมคณะขุนนาง และมีการตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นในเมืองหลวงในหนึ่งเดือนข้างหน้า!”“เช่นนั้นเกี่ยวอะไรกับที่ท่านจะแต่งชายารองเพคะ” หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชาเซียวหลินเทียนใช้มือลูบหัวของหลิงอวี๋แล้วยิ้มพลางเอ่ย“เด็กโง่ เจ้าโกรธจนสับสนแล้ว คิดให้ดีสิว่า หลังการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นมันหมายความว่าอย่างไร! ข้ามิเชื่อว่าความฉลาดของเจ้าจะคิดมิออก!”หลิงอวี๋ตีมือของเซียวหลินเทียนด้วยความโกรธ จากนั้นจึงสงบสติอารมณ์ครุ่นคิดเรื่องนี้การแข่งขันทางทหารในสมัยใหม่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแต่ละประเทศ ในสมัยโบราณก็เช่นเดียวกัน ใครจะอยู่ว่าง ๆ แล้วมาแข่งขันเช่นนี้เล่า?เมื่อนึกถึงทูตเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกที่ตอนนี้มาอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อรอการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็คิดออก“เสด็จพ่อตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้น เสด็จพ่อมิอยากแพ้ให้กับอีกสามแคว้น! หากผู้จัดงานแพ้เสียเอง อย่าว่าแต่เสียหน้าเลย มันจะทำให้อีกสามแคว้นคอยเพ่งเล็งด้วย!”“ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาด ต้องเข้าใจได้รวดเร็วแน่นอน!”เซียวหลินเทียนอยากเอื้อม
“เรื่องอันใด?”เซียวหลินเทียนเองก็เขินอายมิกล้ามองหลิงอวี๋ และนั่งลงตรงข้ามนางหลิงอวี๋เล่าเรื่องที่กู่ซุ่ยได้ยินมาให้เขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยใบหน้าขมขื่น “ท่านก็รู้เรื่องความแค้นของตระกูลเรากับครอบครัวองค์ชายเว่ย หากหว่านเอ๋อร์ถูกบังคับให้แต่งงานไปเป็นภรรยาน้อยในตำหนักองค์ชายเว่ยจริง ๆ หม่อมฉันพนันได้เลยว่า ในหนึ่งเดือนนางจะต้องถูกพระชายาเว่ยสังหารเป็นแน่!”เซียวหลินเทียนตกใจเล็กน้อย เหตุใดหลิงเยี่ยนจึงมีความคิดเลวร้ายเช่นนี้ได้กัน?“เซียวหลินเทียน ตอนนี้หลิงหว่านก็มิสามารถหนีได้ หากนางหนีไป ป้าสะใภ้ใหญ่ของหม่อมฉันต้องทุกข์ทรมาน! หม่อมฉันทำได้เพียงพูดเรื่องแต่งงานกับหลิงหว่านโดยเร็วที่สุดเท่านั้น!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างร้อนใจ “เดิมทีหม่อมฉันคิดว่าจะให้หลิงหว่านแกล้งป่วย แต่กังวลว่าวิธีนี้จะมิได้ผล! ฮองเฮาเว่ยจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ว่าหลิงหว่านกำลังหลอกลวงองค์จักรพรรดิอย่างแน่นอนเพคะ!”เซียวหลินเทียนปวดหัวมาก เขาคิดพลางเอ่ย “เช่นนั้นเจ้าก็เลือกคนที่คู่ควรกับหลิงหว่านในหมู่สหายกับองครักษ์ของข้าดีหรือไม่ ข้ารับประกันได้ว่าคนของข้าจะปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดี!”หลิงอวี๋ยิ้มข
วันรุ่งขึ้นหลิงอวี๋กำลังนึกถึงเรื่องของหลิงหว่าน นางลุกขึ้นไปกินอาหารเช้า จากนั้นจึงพาหลิงเยวี่ยกับเถาจื่อไปที่บ้านป้าสะใภ้ใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพาเสี่ยวเยี่ยนจื่อทำงานอยู่ในเรือน เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ยมา ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม“เยวี่ยเยวี่ยหลานรัก เจ้ามาแล้วหรือ! คิดถึงยายหรือไม่?”หลิงเยวี่ยเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “คิดถึงขอรับ คิดถึงพี่เยี่ยนจื่อด้วยขอรับ!”เสี่ยวเยี่ยนจื่อยิ้มแล้ววิ่งไปจับมือหลิงเยวี่ย “น้องเยวี่ยเยวี่ย ข้าชอบกระต่ายน้อยที่เจ้าให้ข้ามาครั้งที่แล้วมาก ข้าจะพาเจ้าไปดู มันโตขึ้นมากเลย!”หลิงเยวี่ยตามเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปดูกระต่ายน้อยอย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มิเห็นหลิงหว่าน จึงเอ่ยถาม “ป้าสะใภ้ใหญ่ หว่านเอ๋อร์เล่า?”“นางหรือ ออกไปจ่ายตลาดตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว บอกว่าหลังช่วยข้าจ่ายตลาดแล้ว นางต้องไปดูที่ตั้งโรงงาน นางบอกว่านางพบสถานที่ที่ดีที่จะสร้างโรงงาน และกำลังเจรจาราคากับพวกเขาอยู่!”ขณะที่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพูดอยู่นั้น หลิงหว่านก็เข้ามาพร้อมกับถือตะกร้าผักใบใหญ่มาด้วยเถาจื่อกับสุ่ยหลิงรีบไปช่วยนาง หลิงหว่านเห็นหลิงอวี๋ก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ท่านพี่หลิงหลิง ท่านพี
ป้าสะใภ้ใหญ่รีบเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างอ้อนวอน “อาอวี๋ เจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น เจ้าช่วยน้องสาวคิดหน่อยเถิด!”“หว่านเอ๋อร์จะต้องมิเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ยเด็ดขาด! เช่นนั้นท่านปู่กับท่านลุงของเจ้าจะต้องโกรธแย่แน่!”“ป้าสะใภ้ใหญ่มิต้องกังวล อย่าว่าหว่านเอ๋อร์มิยอมเลย แม้แต่ข้าเองก็จะมิยอมให้หว่านเอ๋อร์ไปเป็นภรรยาน้อยเด็ดขาด!”หลิงอวี๋ปลอบใจทั้งสองคน “หลิงเยี่ยนยังมิได้บอกฮองเฮาเว่ยเรื่องความคิดนี้ ดังนั้นเราต้องชิงให้หลิงหว่านหมั้นหมายก่อนที่นางจะเอ่ยปาก เพื่อสกัดความคิดของฮองเฮาเว่ยออกไป!”ป้าสะใภ้ใหญ่เอ่ยอย่างกังวล “แต่ในเวลานี้ จะไปหาใครที่ไหนมาหมั้นกับหลิงหว่านได้เล่า?”หลิงอวี๋จับมือของหลิงหว่านแล้วเอ่ยอย่างจนใจ “ข้าคิดสามวิธีไว้ให้เจ้า วิธีแรกคือการหมั้นหมายกับเฉาอี้องครักษ์ของเซียวหลินเทียน!”“เฉาอี้เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความภักดีต่อเซียวหลินเทียนมาก หากเจ้ามิอยากแต่งงานกับเขา เจ้าหมั้นไว้ก่อนก็ได้!”“หลังจากผ่านตรงนี้ไป ก็หาข้ออ้างที่จะมิแต่งงานชั่วคราวได้ แล้วหลังจากผ่านไปสองสามปี หาข้ออ้างยุติการหมั้นไปเสีย!”ป้าสะใภ้ใหญ่ขมวดคิ้ว “นี่… จะมิส่งผลกระทบต่อชื่อเส
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนเป็นพ่อสื่อให้ใคร หลังจากเลิกงานเขาก็ลากเผยอวี้ไปดื่มชาที่โรงน้ำชา แต่จะเอ่ยปากอยู่หลายครั้งก็พูดมิออกเสียทีเผยอวี้มองเซียวหลินเทียนอย่างแปลกใจแล้วยิ้มหยอกล้อพลางเอ่ย “นี่ท่านจะทำอะไร? อยากพูดสิ่งใดก็พูดมาเถิด!”“ระหว่างเราสองพี่น้อง ยังมีอะไรที่พูดต่อกันมิได้อีกหรือ?”เซียวหลินเทียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแล้วพูดออกไป “เจ้าคิดว่าหลิงหว่านเป็นอย่างไรบ้าง?”“นางก็ดี! นางมีความสามารถแล้วก็มิอ่อนแอ เป็นสตรีที่ดีทีเดียว!” เผยอวี้เอ่ยอย่างสบาย ๆเซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หลิงหว่านเป็นคนดี อาอวี๋ชอบนางมาก! แต่ในมิช้านี้นางจะเดือดร้อนมาก ๆ หากทำมิดีก็อาจตายได้!”เผยอวี้ขมวดคิ้วทันที “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ต้องการความช่วยเหลือจากกระหม่อมหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเล่าให้เผยอวี้ฟังถึงสิ่งที่หลิงอวี๋ไปสืบมาจากหลิงเยี่ยน แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา“หากฮองเฮาเว่ยทำตามที่หลิงเยี่ยนบอกจริง ๆ แล้วบังคับให้หลิงหว่านเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ย เช่นนั้นหากเพียงหลิงหว่านเข้าตำหนักนางจะต้องสิ้นชีพในมิช้าเป็นแน่!”“ให้ตายสิ… นี่มันจะรังแกกันมากเกินไ
เผยอวี้ปวดหัวขึ้นมาทันที เขารู้ว่าเซียวหลินเทียนมิได้ล้อเล่นกับตน สิ่งที่เขาพูดทุกอย่างเกิดขึ้นได้จริงทั้งหมด“กระหม่อม… กระหม่อมต้องบอกพ่อแม่ของกระหม่อม! เช่นนั้นกระหม่อมจะบอกท่านในคืนนี้แน่นอน!”เพราะว่าเรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานพ่อแม่คือผู้ที่ตัดสินใจ หากมิบอกพ่อแม่ตระกูลเผยก็คงจะมิถูกต้อง!เซียวหลินเทียนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอข่าวจากเจ้า!”เผยอวี้พยักหน้า แล้วรีบตรงกลับบ้านทันทีฮูหยินเผย ใต้เท้าเผย และฮูหยินผู้เฒ่าเผยกำลังกินอาหารกันอยู่ เมื่อเห็นเผยอวี้รีบร้อนเข้ามา ฮูหยินเผยจึงรีบให้คนรับใช้ไปเอาชามกับตะเกียบมาให้เผยอวี้ทันทีเผยอวี้มีเรื่องอยู่ในใจ จึงกินเข้าไปเล็กน้อยก็ให้คนรับใช้เก็บไปแล้วใต้เท้าเผยคิดว่าลูกชายของเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ จึงวางตะเกียบแล้วเอ่ยถาม “องค์จักรพรรดิให้เจ้าออกไปเฝ้าด่านชายแดนใช่หรือไม่?”“ยังมิได้รับการแจ้งเลย! ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า ข้ามีเรื่องจะหารือกับพวกท่าน!”เผยอวี้เห็นว่าเผยเหลียนน้องสาวของเขาอยู่ด้วย จึงเอ่ย “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าออกไปข้างนอกสักครู่เถิด!”เผยเหลียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “ท่านพี่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันมิใช่หรือ? ที
ใต้เท้าเผยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเผยอวี้เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านแม่ หลิงหว่านมีบิดาที่ถูกถอดออกจากตำแหน่งขุนนาง แต่เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรด้อยไปกว่าสตรีอื่นเลย ท่านตอบตกลงเถิด!”“ข้ากล้ารับประกันได้เลยว่า หลิงหว่านเข้ามาจะต้องให้ความเคารพกตัญญูพวกท่านอย่างแน่นอน!”ฮูหยินเผยยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ข้าอยากให้นางกตัญญูกับข้ารึ? แต่งงานกับใครเข้ามาก็จะต้องกตัญญูต่อพวกเราทั้งนั้น!”“มีบุตรีของขุนนางต้องโทษอยู่ในบ้าน เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าชีวิตภายหน้าจะเป็นเยี่ยงไร? ไม่มีใครชวนเราไปงานเลี้ยงหรอก… ทั้งยังต้องถูกพูดถึงต่าง ๆ นานาอีก!”“น้องสาวเจ้าจะถึงวัยพูดเรื่องแต่งงานปีหน้านี้แล้ว มีลูกสะใภ้เช่นนี้ แล้วตระกูลไหนจะยอมพูดเรื่องแต่งงานกับเราเล่า?”“อวี้เอ๋อร์ หากเจ้ามิคิดถึงครอบครัว เจ้าก็ควรคิดถึงน้องสาวของเจ้าบ้าง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองไปทางเผยเหลียน “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าก็กลัวว่าการมีพี่สะใภ้เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของเจ้าหรือ?”เผยเหลียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ท่านย่า ในแวดวงของหลิงหว่านไม่มีใครที่ยินดีจะคบค้าสมาคมกับนางเลย! ข้า... ข้ามิอยากมีพี่สะใภ้เช่