สุ่ยหลิงกับหานอวี้ต่างก็เป็นคนที่มีวรยุทธ ทั้งสองสบตากันแล้วแยกทางกันตามกระทั่งหลิงอวี๋ตามหานอวี้วิ่งเข้าไปในตรอก ก็เห็นว่าชายร่างเตี้ยไล่ตามไปถึงตัวเด็กชายแล้ว เขาโบกแส้ในมือพันรอบน่องของเด็กชายเด็กชายกรีดร้องแล้วล้มลงกับพื้น“เจ้าหัวขโมยตัวน้อย ตกไปอยู่ในมือของข้าแล้วยังคิดจะหนีอีก ข้าจะฟาดให้เจ้าฟันหลุดเสียนี่…”มู่หรงชิ่งดึงแส้ลากเด็กชายมาอยู่ตรงหน้าตน เด็กชายพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรง แต่ก็สู้มิได้ จึงถูกมู่หรงชิ่งลากตัวไป“ส่งกระเป๋าเงินออกมา! มิฉะนั้นข้าจะตัดมือเจ้า!”มู่หรงชิ่งดึงกริชออกมาจากรองเท้าของนาง แล้วโบกมันตรงหน้าของเด็กชายเด็กชายกัดฟันแล้วจ้องมองมู่หรงชิ่งด้วยสายตาโกรธเคืองหลิงอวี๋กับหานอวี้ตามมาถึงแล้ว นางเห็นว่าเด็กชายสวมชุดขาดรุ่งริ่ง น่องกับแขนของเขาได้รับบาดเจ็บ มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว พลางเอ่ยอย่างอดทน “เด็กน้อย เจ้าเอากระเป๋าเงินของข้าไปสินะ! เอากระเป๋าเงินมาให้ข้าแล้วข้าจะมิเอาความเจ้า!”มู่หรงชิ่งเอ่ยอย่างมิพอใจ “จะมิเอาความได้เยี่ยงไร! อายุยังน้อยถึงเพียงนี้ก็ขโมยของเสียแล้ว เติบโตขึ้นไปจะมิฆ่าคนหรอกหรือ! คนเช่นนี้หากถูกจับได้ในที่ขอ
“ได้สิ! แต่อาหารมื้อแรกข้าจะเป็นคนเลี้ยงเอง ข้าเป็นเจ้าบ้าน ถือเสียว่าข้าทำหน้าที่เจ้าบ้านแล้วกันนะ!”หลิงอวี๋มองมู่หรงชิ่งอย่างใจเย็น แม้ว่าอาภรณ์ของนางจะดูมิเอิกเกริก แต่ก็ทำจากผ้าดิ้นเงินดิ้นทองล้ำค่าอีกทั้งนางก็มีท่าทีวางตัวอยู่ในทุกอิริยาบถด้วยหูที่บอบบางของหลิงอวี๋ได้ยินว่ามีคนจำนวนมากเข้ามาใกล้ น่าจะติดตามหรงชิ่งมาฉีตะวันออกมีองค์หญิงชื่อเซี่ยโฮ่วตานรั่วแล้ว ด้วยกลิ่นอายของหรงชิ่ง กอปรกับที่มีผู้คอยปกป้องนางอย่างลับ ๆ ตัวตนของนางก็น่าจะเป็นองค์หญิงแห่งเยวี่ยใต้ชื่อของหรงชิ่งก็น่าจะเป็นมู่หรงชิ่ง!หลิงอวี๋นึกถึงจี้หยกของหลานฮุ่ยจวนที่มีมู่หรงสลักอยู่บนนั้น เมื่อเห็นว่ามู่หรงชิ่งดีกับตนก่อน จึงอยากหาข้อมูลบางอย่างจากมู่หรงชิ่ง จึงตอบตกลงทันที“พี่หญิงหลิงอวี๋ เมื่อครู่ข้าเห็นว่าเจ้าพาเด็กมาด้วย เป็นลูกของเจ้าหรือ? กลับไปเรียกเขาแล้วเราไปกินข้าวกันเถิด!”มู่หรงชิ่งลากหลิงอวี๋เดินออกไปด้วยท่าทางคุ้นเคยกันกระทั่งกลับมาที่การแสดง หลิงอวี๋เห็นว่าหลิงเยวี่ยยังคงกุมมือของเถาจื่อยืนดูนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิมหลิงเยวี่ยยิ้มเล็กน้อย แล้วให้หานอวี้ไปบอกเถาจื่อว่า หลังจากที่หลิงเยวี่
ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร จู่ ๆ เปียวจื่อก็นึกขึ้นถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดที่เขายังมิได้บอกกับหลิงอวี๋จึงเอ่ยออกไป“พระชายา ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่านั้น เราเพิ่งรู้มาเมื่อคืนนี้… ได้ยินมาว่าตระกูลจ้าวได้เลือกที่ตั้งโรงงานในหมู่บ้านตระกูลหลี่ และกำลังเตรียมจะทำโรงงานยาด้วยขอรับ!”“นายน้อยเสี่ยวห่าวได้ยินข่าวเมื่อคืนนี้ ก็ไปสืบข่าวจนข้ามคืนเลย!”“ท่านว่าตระกูลจ้าวเล็งเป้าหมายมาที่ท่านอยู่หรือไม่?”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นรัว นี่คงเป็นฝีมือของจ้าวเจินเจินกับพระชายาเส้าสินะ!เมื่อเห็นโรงงานยาของตนขายยาให้กับกองทัพ และได้รับคำชมและเงินทองจากองค์จักรพรรดิ ก็เลยรู้สึกอิจฉาตาร้อนพวกเขาไม่มีความสามารถในการเริ่มต้นกิจการด้วยตนเอง ดังนั้นจึงคิดจะคัดลอกประสบการณ์ความสำเร็จของตนใช่หรือไม่?ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหลี่มีประสบการณ์ในการแสวงหาผลกำไรแล้ว หากตระกูลจ้าวให้เงินเพิ่มอีกเล็กน้อย พวกเขาจะขายกลยุทธ์ทางการค้าของโรงงานยาให้กับตระกูลจ้าวแน่นอน“รังแกกันมากเกินไปแล้ว!”หลิงอวี๋กัดฟัน แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกแย่พระชายาเส้าให้ตงจู๋ลักพาตัวตนเองในวัง นางยังมิได้คิดบัญชีด้วยเลย ตอนนี้ยังพยายา
หลิงอวี๋มิเคยคิดที่จะให้หลิงหว่านแต่งงานไปไกลถึงเพียงนั้นอยู่แล้ว ก็ทำเหมือนมู่หรงชิงพูดเล่น นางเอ่ยอย่างสบาย ๆ“น้องสาวของข้ามิเหมาะกับพี่ชายของเจ้าหรอก องค์จักรพรรดิน่าจะมีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว เราจะมิไปยุ่ง!”“องค์หญิงชิ่ง มาสิ เจ้าดูสิว่าชอบกินสิ่งใด ขนมอบกับอาหารในภัตตาคารจี๋เสียงแห่งนี้อร่อยมาก!”มู่หรงชิ่งเอ่ยอย่างสบาย ๆ ว่าพี่ชายของนางดูดีมาก นางจะมิจับคู่ให้เขาไปเรื่อยเด็ดขาด!ทั้งสองกินไปคุยไป หลิงอวี๋ให้หานอวี้เพิ่มโต๊ะให้ฉีเต๋อกับคนอื่น ๆ กินข้าวด้วยหลิงอวี๋กับมู่หรงชิ่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ภายใต้การนำของหลิงอวี๋ มู่หรงชิ่งเล่าให้หลิงอวี๋ฟังเกี่ยวกับเยวี่ยใต้มิน้อยหลิงอวี๋รู้ว่ามู่หรงเหยียนซงพี่ชายของมู่หรงชิ่งเป็นองค์รัชทายาทแห่งเยวี่ยใต้แม่ของมู่หรงชิ่งกับมู่หรงเหยียนซ่ง คือฮองเฮาแห่งเยวี่ยใต้คนปัจจุบันจักรพรรดิแห่งเยวี่ยใต้มีความยุติธรรมกับเข้มงวดในเรื่องการบ้านการเมือง แต่ชีวิตส่วนตัวของเขากลับยุ่งเหยิง เขามีองค์ชายกับองค์หญิงยี่สิบกว่าคนหลิงอวี๋ฟังแล้วก็รู้สึกเหนื่อยแทนจักรพรรดิเยวี่ยใต้ มีลูก ๆ มากถึงเพียงนี้ เขาจะจำได้จริง ๆ กี่คนกัน!หลังจากกินอาหารเ
“พระชายา ในตรอกนั้นมีนางผดุงครรภ์สกุลป้าวอยู่เจ้าค่ะ ได้ยินมาว่านางเชี่ยวชาญเรื่องทำแท้งให้พวกลูกสาวคนรวยที่มิอยากมีลูกเจ้าค่ะ!”สุ่ยหลิงกระซิบเอ่ย “หวางซือพาหลิงเยี่ยนไปที่นั่น แต่หลิงเยี่ยนมิยอมเข้าไป เอาแต่ร้องไห้ขอร้องหวางซือ! หวางซือจึงได้ยอมแพ้ไปเจ้าค่ะ!”“พระชายา แล้วเด็กผู้นั้นอยากให้บ่าวดูหรือไม่เจ้าคะว่าเป็นลูกของใคร?”หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิต้องหรอก! ข้าเดาได้ว่าเป็นลูกของใคร!”เรื่องที่หลิงเยี่ยนตั้งครรภ์นอกสมรส นางทำใจมิได้ อีกทั้งยังคงคาดหวังที่จะแต่งงานกับองค์ชายเว่ยอยู่ เด็กจะเป็นลูกของใครไปได้เล่านอกเสียจากองค์ชายเว่ย? พระชายาเว่ยเพิ่งสูญเสียจ่างหนิงไป ย่อมมิยอมให้หลิงเยี่ยนแต่งงานเข้ามาอยู่แล้วเพียงแต่หวางซือคิดเยี่ยงไรเล่า?ลูกเพียงคนเดียวขององค์ชายเว่ยจากไปแล้ว เช่นนั้นเด็กในท้องของหลิงเยี่ยนจึงยิ่งมีค่ามิใช่หรือ?ในเวลานี้ มันควรจะเป็นหมากต่อรองของหวางซือที่จะบังคับให้องค์ชายเว่ยแต่งงานกับหลิงเยี่ยน แต่เหตุใดหวางซือยังพาหลิงเยี่ยนไปหานางผดุงครรภ์เพื่อเอาเด็กออกอีก? หลิงอวี๋คิดอยู่สักพักก็มิเข้าใจเรื่องนี้ นางครุ่นคิดแล้วเอ่ย “สุ่ยหลิง เจ้าแอบไปหากู่ซุ
“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนดึงหลิงอวี๋ให้นั่งลงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้า... ข้าต้องแต่งชายารอง!”หา!หลิงอวี๋สะบัดมือของเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณ หัวใจบีบแน่นอย่างประหลาด“เซี่ยโฮ่วตานรั่วหรือเพคะ? เช่นนั้นก็ยินดีด้วย!”“มิใช่... เจ้าอย่าโกรธเลย! ข้า... ข้าปฏิเสธไปแล้ว!” เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าคงมิคาดคิดเช่นกันว่าฮองเฮาเว่ยมอบใครให้ข้า!”“ใครหรือเพคะ?”หลิงอวี๋เอ่ยเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คนที่ฮองเฮาเว่ยเลือกนั้นย่อมงดงาม มีน้ำใจ และเป็นสตรีจากตระกูลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ท่านยังมีสิ่งใดมิพอใจอีกหรือ?”“ฉินรั่วซือ!” เซียวหลินเทียนเอ่ยชื่อออกมาทีละคำอย่างช้า ๆ“ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ฉินซานสูญเสียแขนไปเพราะเซียวทง แม้ว่านี่จะเป็นความรับผิดชอบของเขา แต่ตระกูลฉินก็เต็มไปด้วยความภักดีและทำอะไรเพื่อฉินตะวันตกมามิน้อย!”“ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้ตระกูลฉินในนามของราชวงศ์ ฉินซานทำงานอยู่ภายใต้ข้า การแต่งงานกับน้องสาวของเขาในฐานะชายารอง จะยิ่งทำให้ฉินซานทำงานเพื่อข้าหนักขึ้นอีก!”“เสด็จพ่อเองก็เห็นด้วยเช่นกัน ทั้งยังบอกด้วยว่า ในตำหนักอ๋องอี้นั้นมีคนอยู่น้อย ฉินรั่
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างอดทน “เมื่อคืนนี้เสด็จพ่อเรียกประชุมคณะขุนนาง และมีการตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นในเมืองหลวงในหนึ่งเดือนข้างหน้า!”“เช่นนั้นเกี่ยวอะไรกับที่ท่านจะแต่งชายารองเพคะ” หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชาเซียวหลินเทียนใช้มือลูบหัวของหลิงอวี๋แล้วยิ้มพลางเอ่ย“เด็กโง่ เจ้าโกรธจนสับสนแล้ว คิดให้ดีสิว่า หลังการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นมันหมายความว่าอย่างไร! ข้ามิเชื่อว่าความฉลาดของเจ้าจะคิดมิออก!”หลิงอวี๋ตีมือของเซียวหลินเทียนด้วยความโกรธ จากนั้นจึงสงบสติอารมณ์ครุ่นคิดเรื่องนี้การแข่งขันทางทหารในสมัยใหม่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแต่ละประเทศ ในสมัยโบราณก็เช่นเดียวกัน ใครจะอยู่ว่าง ๆ แล้วมาแข่งขันเช่นนี้เล่า?เมื่อนึกถึงทูตเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกที่ตอนนี้มาอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อรอการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็คิดออก“เสด็จพ่อตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้น เสด็จพ่อมิอยากแพ้ให้กับอีกสามแคว้น! หากผู้จัดงานแพ้เสียเอง อย่าว่าแต่เสียหน้าเลย มันจะทำให้อีกสามแคว้นคอยเพ่งเล็งด้วย!”“ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาด ต้องเข้าใจได้รวดเร็วแน่นอน!”เซียวหลินเทียนอยากเอื้อม
“เรื่องอันใด?”เซียวหลินเทียนเองก็เขินอายมิกล้ามองหลิงอวี๋ และนั่งลงตรงข้ามนางหลิงอวี๋เล่าเรื่องที่กู่ซุ่ยได้ยินมาให้เขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยใบหน้าขมขื่น “ท่านก็รู้เรื่องความแค้นของตระกูลเรากับครอบครัวองค์ชายเว่ย หากหว่านเอ๋อร์ถูกบังคับให้แต่งงานไปเป็นภรรยาน้อยในตำหนักองค์ชายเว่ยจริง ๆ หม่อมฉันพนันได้เลยว่า ในหนึ่งเดือนนางจะต้องถูกพระชายาเว่ยสังหารเป็นแน่!”เซียวหลินเทียนตกใจเล็กน้อย เหตุใดหลิงเยี่ยนจึงมีความคิดเลวร้ายเช่นนี้ได้กัน?“เซียวหลินเทียน ตอนนี้หลิงหว่านก็มิสามารถหนีได้ หากนางหนีไป ป้าสะใภ้ใหญ่ของหม่อมฉันต้องทุกข์ทรมาน! หม่อมฉันทำได้เพียงพูดเรื่องแต่งงานกับหลิงหว่านโดยเร็วที่สุดเท่านั้น!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างร้อนใจ “เดิมทีหม่อมฉันคิดว่าจะให้หลิงหว่านแกล้งป่วย แต่กังวลว่าวิธีนี้จะมิได้ผล! ฮองเฮาเว่ยจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ว่าหลิงหว่านกำลังหลอกลวงองค์จักรพรรดิอย่างแน่นอนเพคะ!”เซียวหลินเทียนปวดหัวมาก เขาคิดพลางเอ่ย “เช่นนั้นเจ้าก็เลือกคนที่คู่ควรกับหลิงหว่านในหมู่สหายกับองครักษ์ของข้าดีหรือไม่ ข้ารับประกันได้ว่าคนของข้าจะปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดี!”หลิงอวี๋ยิ้มข