Share

บทที่ 907

Author: กานเฟย
เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยถูกทรมานเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกปวดใจและโกรธมาก น้ำเสียงของเขาจึงเฉียบคมขึ้นมา

“เจ้าทาสสุนัข ปล่อยเขาลงมา! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดกัน?”

“บังอาจ! ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีสิทธิ์ตะโกนเช่นนี้แล้วรึ?”

จักรพรรดิอู่อันตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ ไปเรียกหมอหลวง บอกว่าจะมีการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์!”

“เซียวหลินเทียน เจ้าเต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกผู้อื่น มิได้หมายความว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย!”

“วันนี้เราจะหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์กันอีกครั้ง หากเลือดมิเข้ากัน ข้าจะตัดหัวของหลิงอวี๋กับลูกนอกสมรสนี้ทิ้ง!”

หมอจางนำแอ่งน้ำมาเอง เขาเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูก กำลังจะก้าวไปกรีดมือของหลิงเยวี่ย

แล้วไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ฝ่าบาท ให้คนของแม่ไปตักน้ำเถิด! ไป่ซุ่ย ไปเอาอ่างน้ำมาให้หมอจาง!”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง “ฝ่าบาท คงจะมิสงสัยว่าแม่จะมีกลอุบายใดหรอกใช่หรือไม่?”

จักรพรรดิอู่อันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “ไทเฮามีความยุติธรรมและเข้มงวด ข้าจะสงสัยท่านได้เยี่ยงไร!”

ไป่ซุ่ยออกไปตักน้ำมาใหม่อีกครั้ง

หมอจางรู้สึกตื่นตร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Chaweewan Siriyom
เป็นพ่อแบบไหนคอยแต่จะทำร้ายลูก หูเบาเชื่อเมียบริหารประเทศได้ยังไง งงงงงงงจัง
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
ฮ่องเต้เมียเมียตั้งเยอะแยะแต่พอฮองเฮาเป่าหูก็เชื่อและทำตามฮองเฮาหาเรื่องฆ่าหลิงอวี่ไม่ได้ผ่านไปยังไม่ถึง2ชม.ก็หาเรื่องฆ่าใหม่ขึ้นมาพิสูจน์เลือดครั้งแรกผ่านก็กล่าวหาว่าว่าใช้กลอุบายเลือดถึงเข้ากันคราวนี้ฮองเฮาใช้กลอุบายอีสมควรยึดบัลลังตัดกัวฮองเฮาพระสนมเส้าองค์ชายเว่ยพระชายาเว่ยอ๋องคังและพระชายาคัง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 908

    สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันดูมิดีไปทันที พลางจ้องมองพระชายาหรงอย่างดุร้าย แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ถามพระชายาหรงดูเถิด!”พระชายาหรงเอ่ยตะกุกตะกัก “เทียนเอ๋อร์ ป้าก็กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกจึงขอให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบอีกครั้ง… มีคนมาบอกว่าผงราชาไข่มุกหากเอาไปทาที่มือจะสามารถทำให้เลือดของคนที่มิเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมาหลอมรวมกันได้!”“หลิงอวี๋ นาง...นาง...”“พระชายาหรง ข่าวที่ไม่มีมูลความจริงก็เชื่อได้เยี่ยงนั้นหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านคิดที่จะใส่ร้ายหลิงอวี๋เพียงเพราะข่าวที่ลือกันมา ทั้งยังไปรบกวนองค์จักรพรรดิกับไทเฮาให้วุ่นวายไปกับท่านอีก… นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”“เสด็จพ่อทรงยุ่งกับเรื่องการบ้านการเมืองมากอยู่แล้ว หากทุกคนเป็นเหมือนท่านที่พอได้ยินข่าวลือก็มารบกวนเสด็จพ่อแล้วพระองค์จะดูแลจัดการฉินตะวันตกได้เยี่ยงไร?”ครั้งนี้เซียวหลินเทียนโกรธมาก จึงดุพระชายาหรงอย่างเปิดเผย จริง ๆ แล้วเขาดุจักรพรรดิอู่อันไปด้วยซ้ำจักรพรรดิผู้สง่างามของแคว้น กลับเพิกเฉยต่อเรื่องการบ้านการเมืองแล้วมารับฟังเรื่องข่าวลือไม่มีมูลของสตรี นี่มิใช่เรื่องไร้สาระหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันมี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 909

    หนังสือหย่า?เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็ตกตะลึงหลิงอวี๋จำได้ว่าตอนที่ตนข้ามเวลามา นางถูกเซียวหลินเทียนทุบตีจนเนื้อแตก เมื่อนางสามารถต้านทานได้ก็ใช้กลอุบายแขวนเซียวหลินเทียนไว้บนต้นไม้ บังคับให้เซียวหลินเทียนตกลงที่จะหย่าร้างกับตน!หลังจากที่เซียวหลินเทียนส่งหนังสือหย่ามาหลิงอวี๋ก็เก็บซ่อนมันไว้ตลอด เพียงรอโอกาสให้องค์จักรพรรดิเห็นชอบกับการหย่าร้างและออกจากตำหนักอ๋องอี้!หนังสือหย่านั้นนางมิเคยตรวจสอบดูเลย ไหนเลยจะคิดว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของพระชายาหรง...หลังจากที่จักรพรรดิอู่อันอ่านหนังสือหย่าแล้ว เขาก็โกรธมาก “เซียวหลินเทียน ที่แท้เจ้ามิพอใจการแต่งงานที่ข้าประทานให้เจ้ามานานแล้ว! ดังนั้นจึงเขียนหนังสือหย่าไว้!”“เช่นนั้นก็ได้ วันนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง! นับจากนี้ไป ข้าจะมิยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”“เสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกังวลแล้วตะโกน “หนังสือหย่านี้ลูกเขียนไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว! ตอนนั้นหลิงอวี๋ทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระมากมาย ดังนั้นลูกจึงตอบรับคำขอของนางด้วยความโกรธ!”“แต่ตอนนี้ ลูกรู้ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกของลูก ลูกเองก็ชอบหลิงอวี๋ด้วย ลูกมิต้องการหย่าร้างกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 910

    จักรพรรดิอู่อันเข้าใจคำใบ้ของไทเฮา หากวันนี้ตนยืนกรานที่จะให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋หย่าร้างกัน และหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนในเรื่องไร้ความสามารถเรื่องนั้นก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงของราชวงศ์ด้วย!และไทเฮายังได้เตือนจักรพรรดิอู่อันถึงยาที่เป็นความกตัญญูของหลิงอวี๋ด้วยหลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม หากปล่อยหลิงอวี๋ออกไป แล้วหากตนเจ็บป่วยในภายหน้า เช่นนั้นก็จะมิมีหมอที่ยอมมารักษาตนเองแล้วจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋แล้วชั่งน้ำหนักข้อดีกับข้อเสีย จากนั้นจึงเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล “ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผล เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะมิทำให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ!”“ได้ยินสิ่งที่ไทเฮาบอกแล้วหรือไม่? กลับไปก็มีชีวิตที่ดี แล้วมีหลานชายอีกคนให้ข้าโดยเร็ววัน!”“หากเจ้ากล้าทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระอีก ข้าจะมิยกโทษให้เจ้าเป็นอันขาด!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็คำนับพระชายาหรงกับฮองเฮาเว่ยโกรธมาก เหตุใดหลิงอวี๋จึงโชคดีเช่นนี้ พลิกเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้ครั้งแล้วครั้งเล่าฮองเฮาเว่ยมองไทเฮา นางเกลียดไทเฮาอย่างมากเหตุใดยายแก่ผู้นี้จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 911

    หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย ในฐานะคนในยุคใหม่ นางมิเชื่อเรื่องการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์เลยวันนี้เรื่องการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์ในวันนี้นางทำอะไรบางอย่างไปจริง ๆ!เพียงแต่ว่างานป้องกันนี้มิได้เพิ่งทำในวันนี้ ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าชิวเหวินซวงไปยุยงเซียวหลินเทียนว่าตนได้ใช้อุบายในตอนที่หลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์ตอนนั้นหลิงอวี๋มีลางสังหรณ์ว่า เรื่องทำนองเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง นางจึงบอกแม่นมลี่กับฉีเต๋อว่าหากมีคนในวังมารับตัวหลิงเยวี่ยไป ให้ป้อนยาที่ตนทำขึ้นเป็นพิเศษให้หลิงเยวี่ยหลิงอวี๋กังวลว่าเลือดจะมิสามารถหลอมรวมกันได้ ทำให้จักรพรรดิอู่อันมีข้ออ้างที่จะประหารตนกับหลิงเยวี่ยหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ หลิงอวี๋รู้สึกว่ามาตรการป้องกันของตนนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก!หากเลือดของเซียวหลินเทียนกับหลิงเยวี่ยมิหลอมรวมกันในวันนี้ เช่นนั้นตนกับหลิงเยวี่ยก็จบสิ้นแล้ว แม้แต่เซียวหลินเทียนกับไทเฮาก็มิสามารถปกป้องตนได้หลิงอวี๋มิเสียใจที่ใช้อุบายในเรื่องนี้เลย!แม้ว่านางจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็มิรู้สึกเสียใจกับเซียวหลินเทียนหลิงเยวี่ยเป็นลูกของเซียวหลินเทียนจริง ๆ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 912

    ที่เซียวหลินเทียนเดินดุ่มออกไปมิใช่เพราะเขาสงสัยว่าหลิงอวี๋ใช้อุบายเขาแค่มิสามารถเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ได้ในขณะนี้“ลูกชอบหลิงอวี๋ ลูกไม่มีวันหย่าร้างกับนาง!”ในวัง เมื่อเผชิญหน้ากับพลังแข็งแกร่งขององค์จักรพรรดิ เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยเรื่องนี้ออกไปโดยมิรู้ตัว เขาอยากจะถือเอาเรื่องนี้มารักษาหลิงอวี๋ไว้จริง ๆแต่หลังจากเอ่ยคำเหล่านี้ออกไปแล้วเซียวหลินเทียนก็รู้สึกแปลก ๆ ในใจอยู่ครู่หนึ่งเขาชอบหลิงอวี๋จริง ๆ หรือ?ไม่… มันมิใช่เยี่ยงนั้น!เขาแค่มิอยากให้หลิงอวี๋ถูกไล่ออกจากตำหนักอ๋องอี้เช่นนี้!หากสูญเสียตัวตนพระชายาอ๋องอี้ไป ฮองเฮาเว่ยกับพระชายาเว่ยก็จะยิ่งจัดการกับหลิงอวี๋ร้ายแรงมากขึ้น!เขาแค่มิอยากให้หลิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บอีก!นี่เป็นเพียงแผนรับมือชั่วคราว หลิงอวี๋คงจะเข้าใจ!หลิงอวี๋ถามว่าต่อไปทั้งสองควรจะอยู่ด้วยกันหรือไม่?จู่ ๆ หัวใจของเซียวหลินเทียนก็เต้นรัวเร็ว เขานึกถึงการเผชิญหน้าต่อปากต่อคำกับหลิงอวี๋อย่างประหลาด...อยู่ด้วยกัน?เช่นนั้นเขาก็ต้องนอนกับหลิงอวี๋ แล้วเขาจะควบคุมตัวเองมิให้แตะต้องนางได้หรือ?เซียวหลินเทียนจิตใจว้าวุ่นมาก มิรู้ว่าควรจะสุขหรือกังวลดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 913

    “วิญญาณสิงร่างใหม่?”ท่านจินต้าเอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง จะเป็นไปได้เยี่ยงไร? ใต้หล้าผืนนี้จะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนเห็นว่าท่านจินต้าตกใจจนหน้าถอดสีก็ยิ้มพลางเอ่ย“ท่านจะกลัวอะไรเล่า? ต่อให้หลิงอวี๋จะเป็นผีแต่ก็เป็นผีใจดีหนา!”ท่านจินต้าสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าพลางเอ่ย “พระชายาเป็นคนใจดีจริง ๆ นางช่วยพวกเรามามากโดยมิคำนึงถึงความขุ่นเคืองในครั้งก่อนเลย อีกทั้งยังรักษาขาของท่านด้วย ความมีน้ำใจของนางที่มีต่อพวกเรามิต้องพูดทุกคนก็รู้สึกได้!”“อืม! ข้าอยากจะให้สิ่งเหล่านี้แน่ชัดก่อน มิใช่เพื่อจะหาทางจัดการกับนาง แต่แค่อยากจะรู้จักนางให้มากขึ้น!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงทุ้ม “ข้ามิอยากแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกไปโดยที่มิแน่ชัด กับจ้าวเจินเจินข้าก็มองพลาดไปแล้ว...”“ข้าหวังเพียงว่า คนที่จะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิตจะเป็นคนที่ข้าสามารถฝากชีวิตได้ เป็นคนที่มิว่าจะแก่เฒ่า เจ็บป่วยหรือตายไปก็มิทอดทิ้งกัน!”ท่านจินต้าเข้าใจแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “อยู่ด้วยกันก็แบ่งห้องสองห้องได้พ่ะย่ะค่ะ ถัดจากห้องนอนของท่านอ๋องคือห้องตำรา พรุ่งนี้กระหม่อม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 914

    วันรุ่งขึ้นเรือนริมวารีมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่เช้าตรู่เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนมาเชิญหลิงอวี๋เป็นพิเศษ เพื่อให้นางไปดูว่ามีอะไรในเรือนริมวารีที่ต้องปรับเปลี่ยนอีกบ้างหลิงอวี๋จนใจ จึงต้องเข้าไปดูสิ่งที่หลิงอวี๋มิคาดคิดก็คือเซียวหลินเทียนให้คนเปลี่ยนหน้าต่างทั้งหมดเป็นหน้าต่างกระจกแทนนอกจากนี้ยังมีห้องสุขากับห้องอาบน้ำแยกออกมาอยู่ด้านหลังห้องนอนด้วยนี่เป็นการเลียนแบบการออกแบบของเรือนบุหงาทั้งสิ้น ช่างฝีมือที่ใช้คือพวกหลี่ต้าหนิวเหมือนครั้งที่แล้ว“พระชายา ท่านอ๋องตรัสว่าต้องการให้ท่านเข้ามาอยู่อย่างสบาย หากมีสิ่งใดที่ท่านมิพอใจก็สามารถเปลี่ยนได้!” จ้าวซวนเอ่ยด้วยรอยยิ้มหลิงอวี๋กวาดสายตามองไปแล้วเอ่ยกับจ้าวซวน “ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะหนังสือในห้องของข้าพวกเจ้าสามารถไปลอกเลียนแบบมาได้ หากทำเช่นนั้น ต่อไปเสื้อผ้าของท่านอ๋องจะดูแลได้ง่ายขึ้น!”ทางเซียวหลินเทียนไม่มีนางรับใช้ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และการเดินทางของเขาทั้งหมดได้รับการดูแลจากองครักษ์จ้าวซวนได้ยินก็เอ่ยทันที “ลู่หนานบอกข้าเกี่ยวกับตู้เสื้อผ้าแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าก็อยากจะช่วยเปลี่ยนให้ท่านอ๋อง แต่หาได้มีเวลาไม่ เช่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 915

    ตกกลางคืนทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สัมภาระของหลิงอวี๋นั้นแม่นมลี่กับคนอื่น ๆ ก็ย้ายมาให้แล้วแม่นมลี่ซื้อเครื่องนอนกับกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดนี้ด้วยเงินของนางเองนางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “พระชายา แม้ว่าท่านจะแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้มาหลายปีแล้ว แต่คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ท่านได้อาศัยอยู่ในเรือนหลักอย่างเป็นทางการเลย!”“ถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสินสอดที่แม่นมมอบให้ท่านเถิด! ในเมื่อมิสามารถหย่าร้างกันได้ ก็ใช้ชีวิตที่ดีอยู่กับท่านอ๋องเสียเถิดเจ้าค่ะ!”“แม่นมแก่แล้ว มิรู้จะอยู่กับท่านได้อีกกี่ปี หากท่านมีครอบครัวที่ดี แม่นมจะได้จากไปอย่างสบายใจ!”ดวงตาของหลิงอวี๋เริ่มรื้นน้ำตาหลังจากที่แม่นมลี่บอก นางจึงกอดแม่นมลี่ไว้แม่เฒ่าผู้นี้อยู่กับนางมาตลอด แม้ว่าจะเป็นตอนที่นางตกต่ำที่สุดก็มิเคยทิ้งนางไปไหนในใจของหลิงอวี๋ นางถือว่าแม่นมลี่เป็นแม่ของตนไปแล้ว!“แม่นม มิต้องกังวล ข้าจะต้องมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน! ส่วนเจ้า ก็จะต้องมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแน่นอน... เจ้ายังต้องดูเยวี่ยเยวี่ยแต่งงานและมีเหลนชายให้เจ้านะ!”แม่นมลี่ยิ้มมิหุบ นางมีหรือจะกล้าคิดไปไกลถึงเพียงนั้น!ได้เห็นเยวี่ยเยวี่ยเติบโตขึ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status