แชร์

บทที่ 847

ผู้เขียน: กานเฟย
เมื่อเห็นหลิงอวี๋ได้รับตำราการแพทย์ แล้วจู่ ๆ ทักษะการแพทย์ของนางก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด เปิดโรงงานผลิตยาทำเงินได้มากมาย

พระชายาเส้าก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมาเช่นกัน

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตอนนี้เซียวหลินเทียนยืนขึ้นได้แล้ว เขาก็จะกลายเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อองค์ชายคังบุตรชายของตน!

ส่วนเหตุผลหลักที่พระชายาเส้าตั้งใจจะเอาหนังสือการแพทย์มาให้ได้ ก็เพราะยอดฝีมือลึกลับที่อยู่เบื้องหลังท่านพ่อของนาง!

ก่อนหน้านี้ท่านพ่อของพระชายาเส้าป่วยหนักมาก ผมขาวไปหมดทั้งหัว และแก่ชราลงไปมาก

ตระกูลเส้าได้เริ่มเตรียมจัดงานศพให้กับท่านเส้าแล้ว!

แต่ยอดฝีมือลึกลับผู้นี้มิรู้ว่าปรากฏตัวมาจากที่ใด มาอ้างว่าเขาสามารถฟื้นฟูท่านเส้าให้กลับมาแข็งแรงได้!

เห็นได้ชัดว่าท่านพ่อของพระชายาเส้าเชื่อในยอดฝีมือลึกลับผู้นี้มาก เขาไล่คนในครอบครัวออกไปจนหมด เหลืออยู่เพียงชายลึกลับชื่อเก๋อเทียนซือผู้นี้เท่านั้น

ชายลึกลับผู้นี้ดูอายุเพิ่งสามสิบกว่าปี จมูกโด่ง ดวงตาลึก คิ้วบาก หากมองใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีแผลเป็นอยู่

ตอนนั้นพระชายาเส้ารู้สึกคุ้นหน้าชายผู้นี้อยู่ราง ๆ

นางจำได้ราง ๆ ว่า ตอนที่ตนยังเป็นเด็กสาว นางเคยเห็นชายคิ้ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 848

    ท่านเส้ายิ้มขมขื่นพลางส่ายหัว “เหตุใดข้าจะไม่โน้มน้าวให้เขาช่วยอี้เอ๋อร์เล่า แต่เจ้าคงมิรู้ว่าเก๋อเทียนซือได้ตั้งเงื่อนไขไว้หนึ่งข้อ!”“เก๋อเทียนซือบอกว่า หากช่วยเขาตามหาตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นได้ เขาก็จะช่วยอี้เอ๋อร์ มิเช่นนั้น เขาก็ยังต้องเดินทางทั่วหล้าเพื่อตามหาตำราเล่มนี้!”ตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่น?พระชายาเส้าตามหาตำราเล่มนี้มาหลายปีแล้ว หากนางจะหาเจอก็คงจะเจอมานานแล้วพระชายาเส้ามองท่านพ่ออย่างสงสัย “ท่านพ่อ เหตุใดตำราเล่มนี้จึงสำคัญมากถึงเพียงนั้น? หรือว่ายังมีอะไรที่ข้ามิรู้อีก?”พระชายาเส้าจำได้ว่า เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเก๋อเทียนซือก็ให้ท่านพ่อสืบหาที่อยู่ของตำราเล่มนี้เช่นกัน!เพียงแต่พระชายาเส้าตามหามาหลายปีก็มิได้ผลใด ๆ จึงยอมแพ้ไปแล้ว...คิดมิถึงเลยว่า ยี่สิบกว่าปีต่อมา เก๋อเทียนซือก็ยังคงตามหาตำราเล่มนี้อยู่!หรือว่าตำราเล่มนี้มิเพียงแต่บันทึกทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมไว้ แต่ยังมีเคล็ดลับวรยุทธที่แปลกประหลาดของเก๋อเทียนซืออยู่ด้วยพระชายาเส้าเห็นความสามารถของเก๋อเทียนซือด้วยตาของตนเองแล้ว นางจะมิหวั่นใจได้เยี่ยงไร!หากในนั้นมีเคล็ดลับวรยุทธอยู่ แล้วหากนำมาใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 849

    “พระชายาอ๋องอี้ ดื่มชาเช่นนี้ช่างน่าเบื่อเสียจริง เรามาหาอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า!”จู่ ๆ เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็เอ่ยปาก แล้วพูดอย่างยั่วยุ“ข้าได้ยินมาว่า พระชายาอ๋องอี้มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง เก่งทั้งด้านดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพ ข้ามิได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย เช่นนั้น เรามาแข่งขี่ม้าแข่งยิงธนูกันดีหรือไม่?”นางโบกมือ แล้วนางกำนัลของนางก็ยกกล่องหนึ่งขึ้นมาเซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ข้างในนี้มีหยกเถียนหวงคุณภาพสูงชิ้นหนึ่ง มูลค่ามหาศาล หากพระชายาอ๋องอี้เอาชนะข้าได้ทั้งการขี่ม้าและการยิงธนู ข้าจะมอบหยกเถียนหวงชิ้นนี้ให้กับเจ้า!”นางรับใช้เปิดกล่องอย่างโอ้อวด ให้ทุกคนเห็นหยกเถียนหวงไทเฮาเหลียงมองแล้วก็ตกใจเล็กน้อย หยกชิ้นนี้เป็นหยกเนื้อดีที่สุดที่นางเคยเห็นมาในชีวิตเลย!ฮองเฮาเว่ยเห็นแล้วก็เบิกตาโตนางมิใช่คนที่มิเคยเห็นของดี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นหยกเถียนหวงเนื้อดีเช่นนี้สีเหลืองของหยกเถียนหวงเป็นสีเหลืองดั่งทอง สิ่งที่หายากที่สุดก็คือ ไม่มีสิ่งเจือปนเลย มีทั้งความใสและอ่อนนุ่มราวกับไขมันหยกเถียนหวงคุณภาพเช่นนี้หายากมาก เป็นสมบัติล้ำค่าในหมู่หยก มีอยู่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 850

    “องค์หญิงตานรั่ว ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องของหม่อมฉันไม่มีความสุข? ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องของหม่อมฉันโปรดท่าน?”หลิงอวี๋จึงเอ่ย “เมื่อวานบนถนน ของแทนใจที่ท่านมอบให้ท่านอ๋องของหม่อมฉัน พระองค์ได้รับไว้หรือไม่เพคะ? หม่อมฉันมิรู้ว่าท่านไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด จึงได้กล้าพูดเรื่องเช่นนี้ออกมา!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างมั่นใจ “ท่านอ๋องอี้จะต้องหลงรักข้าเป็นแน่! พระชายาอ๋องอี้ หากเจ้ามิกล้ายอมรับคำท้าก็ยอมถอยไปเถิด พูดเช่นนี้ไม่มีประโยชน์หรอก!”หลิงอวี๋รู้สึกรังเกียจการข่มคนอื่นของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว จึงยิ้มอย่างเย็นชา “องค์หญิงตานรั่วตรัสว่ามิสนใจเรื่องดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพ หม่อมฉันก็ไม่มีความสนใจในการยิงธนูและการขี่ม้าเช่นกันเพคะ!”“องค์หญิงตานรั่วเอาสิ่งที่ตนถนัดมาท้าทายผู้อื่น ท่านคิดว่ามันยุติธรรมหรือ?”เซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ข้าคิดว่ายุติธรรมมาก! ในฉีตะวันออก ทุกคนเติบโตมากับการขี่ม้า ต่างเรียนรู้การยิงธนูและการขี่ม้ากันมาตั้งแต่เด็กแล้ว!”“พระชายาอ๋องอี้ ทักษะการขี่ม้าและการยิงธนูของเจ้าเทียบมิได้แม้แต่กับเด็กอายุสามขวบของเราใช่หรือไม่?”หลิง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 851

    หลิงอวี๋กับเถาจื่อรีบไปที่สถานที่ที่ท่านหญิงจ่างหนิงพาหลิงซวนออกไปเมื่อครู่ ทั้งสองมองหารอบ ๆ แต่มิเห็นใครเลยบังเอิญมีนางกำนัลคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี หลิงอวี๋จึงคว้าตัวนางไว้แล้วเอ่ยถาม “ข้าคือพระชายาอ๋องอี้ ขอถามหน่อยว่าเจ้าเห็นหรือไม่ว่าท่านหญิงจ่างหนิงไปทางใด?”“เรียนพระชายา ไปทางนั้นเจ้าค่ะ!”นางกำนัลตอบด้วยท่าทีเคารพ พลางชี้ทางทิศทางให้หลิงอวี๋หลังจากที่หลิงอวี๋กับเถาจื่อขอบคุณนางกำนัลแล้วก็รีบไปทางนั้นกระทั่งไปถึงตรงทางแยก หลิงอวี๋ก็ชี้ไปอีกทางแล้วเอ่ย “เจ้าไปทางนั้น หากเห็นท่านหญิงจ่างหนิง อย่าไปทำให้นางตกใจ ให้รีบกลับมาเรียกข้าก่อน!”“เจ้าค่ะ!” เถาจื่อวิ่งไปทางนั้นทันทีหลิงอวี๋วิ่งตามไปอีกทางของทางแยกนั้นแต่หลังจากวิ่งไปสักพักก็ยังมิเจอใคร หลิงอวี๋กำลังสงสัยว่า นางอาจจะมาผิดทางหรือไม่ ก็เห็นตำหนักแห่งหนึ่งอยู่ตรงหน้านางตำหนักนี้อยู่ห่างไกลมาก ทางเดินด้านนอกตำหนักก็เต็มไปด้วยวัชพืช และมีดอกไม้ป่าบางส่วนกำลังบานสะพรั่งอยู่หลิงอวี๋สงสัย นี่คงจะเป็นตำหนักร้างแน่ ๆ!จ่างหนิงจะพาหลิงซวนมาที่นี่หรือไม่?ก็เป็นไปได้เช่นกัน!นิสัยหยิ่งผยองวางอำนาจของจ่างหนิง ต้องเลือกส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 852

    “ข้าสามารถทำให้ใบหน้าของเจ้าเสียโฉมได้ทั้งหมดเลยนะ! หากเจ้าทำให้ข้าโกรธ… ข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วย!”หัวหน้าหยิบมีดผ่าตัดแล้วค่อย ๆ ขยับมันไปมาบนใบหน้าของหลิงอวี๋!หากเป็นคนธรรมดา เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามเช่นนี้ คงจะหวาดกลัวจนสติกระเจิงไปแล้วหลิงอวี๋จึงแสดงสีหน้าหวาดกลัวเพื่อสร้างความสับสนให้ทั้งสามคน หัวหน้าขู่รวมถึงหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ “บอกข้ามาว่าตำราการแพทย์อยู่ที่ใด แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป!”หลิงอวี๋แสร้งเอ่ยอย่างเป็นกังวล “ข้ามิรู้จริง ๆ ว่าซือคงชวิ่นคือใคร แล้วก็มิเคยเห็นตำราการแพทย์ของเขาด้วย! พวกเจ้าอย่าทำร้ายข้าเลย… ข้าคือพระชายาอ๋องอี้ หากพวกเจ้าอยากได้เงินข้าก็จะให้พวกเจ้า!”“อยากจะไปซื้อตำราการแพทย์อะไรพวกเจ้าก็ไปซื้อได้!”หัวหน้าใจร้อนขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิได้พูดความจริง จึงตะคอก “กล้ามาหลอกข้าเยี่ยงนั้นรึ? ข้าว่าเจ้านี่มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตานะ!”“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความแข็งแกร่งของข้า!”หัวหน้าโบกมือ แล้วหญิงสองคนที่อยู่ข้างหลังก็เดินไปหยิบถังน้ำขนาดใหญ่ออกมาหลิงอวี๋มองไปอย่างประหลาดใจ แล้วก็เห็นร่างดำ ๆ ยืนอยู่ในเงามืดอย่างเลือนรางนั่นใครกัน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 853

    แล้วเงามืดก็เดินออกไปเมื่อหัวหน้าเห็นก็ยืนขึ้น ขยิบตาให้ผู้หญิงอีกสองคน แล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “ดูนางไว้ ข้าไปประเดี๋ยวก็กลับมา!”หลังจากที่หัวหน้าพูดจบก็รีบตามเงามืดออกไปหลิงอวี๋มีกำลังใจขึ้นมา นางรู้ดีว่าแม้ว่านางจะเปิดเผยที่อยู่ของตำราการแพทย์ออกไป คนเหล่านี้ก็ไม่มีทางปล่อยตนไปหรอก!ยิ่งไปกว่านั้น เงามืดลึกลับนั้นก็ทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอันตรายมาก นางมิรู้ว่าพวกเขาออกไปข้างนอกจะทำอะไรนางรู้แค่ว่าหากตนไม่รีบออกจากสถานการณ์ในตอนนี้โดยเร็วที่สุด นางจะตายอยู่ที่นี่!เมื่อเห็นสถานการณ์เร่งด่วน หลิงอวี๋สนใจอะไรมิได้มากนัก เมื่อเห็นว่าหัวหน้าเพิ่งจะเดินออกไปนางคว้าที่วางแขนของเก้าอี้ที่ตนผูกติดอยู่ไว้อย่างเงียบ ๆเมื่อครู่นางแอบดูแล้ว ที่วางแขนมันมีการแตกหักอย่างรุนแรงอยู่แม้ว่าการเอามาใช้เป็นอาวุธจะดูงุ่มง่าม แต่เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!“พวกเจ้ารับปากว่าจะปล่อยข้าไปหากบอกที่อยู่ของตำราการแพทย์! พวกเจ้าอยากจะผิดคำพูดหรือ?”หลิงอวี๋พยายามลุกขึ้นหญิงในชุดดำเห็นว่าเก้าอี้หัก เมื่อหลิงอวี๋ขยับ เชือกที่มัดตัวนางก็หลุดออกแล้วนางจึงเดินเข้ามา พลางตะคอกด้วยความโกรธ “หยุดอยู่ตรงน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 854

    หลิงอวี๋วิ่งเข้าไปก็เห็นเด็กในชุดสีชมพูนอนจมกองเลือดอยู่ใบหน้าครึ่งหนึ่งของนางหันหน้ามาทางหลิงอวี๋พอดี หลิงอวี๋จำได้ว่านางคือท่านหญิงจ่างหนิงหัวหน้าของหญิงชุดดำคนนั้น กำลังถือกริชไล่ตามหลิงซวนอยู่ส่วนหลิงซวนก็อุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งไปตรงหน้าต่างที่หลิงอวี๋ปีนออกไปเมื่อครู่นี้“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”เด็กชายกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก และพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของหลิงซวนอย่างบ้าคลั่ง“ปล่อยพวกเขาไป!”หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ตะโกนอย่างกังวล“ปล่อยพวกเขาไป แล้วข้าจะบอกที่ซ่อนที่แท้จริงของตำราการแพทย์กับเจ้า!”“ว่ากระไรนะ? เจ้ากล้าโกหกข้าหรือ!” หัวหน้าตะคอกด้วยความโกรธ“อยากให้ข้าปล่อยพวกนางไปหรือ? ฝันไปเถอะ! เจ้าฆ่าเหล่าเอ้อร์กับเหล่าซานไปแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้า!”นางตะคอกแล้วพุ่งไปหาหลิงอวี๋อย่างดุร้าย หลิงอวี๋จึงหันหลังวิ่งหนีไป“หลิงซวน เจ้าพาเขาหนีไปเร็วเข้า! รีบกลับไป…”หลิงอวี๋เตือนแล้ววิ่งไปที่ป่าไผ่นางอยากจะล่อหัวหน้าออกไป แล้วให้โอกาสเด็กกับหลิงซวนหนีเอาตัวรอด!เมื่อหัวหน้าเห็นก็ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ยกมือขึ้นปาลูกดอกออกไปเข้าที่น่องของหลิงอวี๋หลิงอว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 855

    ณ ศาลาร้อยบุปผางานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้วเซียวหลินเทียนนั่งกับองค์ชายสามรุ่ย องค์ชายห้าเย่ เขาเงยหน้าขึ้นมองฝั่งตรงข้าม แต่กลับมิเห็นหลิงอวี๋เซียวหลินเทียนเห็นว่าไทเฮากับคนอื่น ๆ อยู่กันหมด แต่หลิงอวี๋หายตัวไปเพียงคนเดียว ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋อยู่กับไทเฮามิใช่หรือ? เหตุใดจึงหายไปแล้ว?ในตอนแรกเซียวหลินเทียนไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าหลิงอวี๋อาจจะไปห้องน้ำแต่เมื่อเห็นว่าอาหารยกมาจนครบแล้ว เหลือแค่รอจักรพรรดิอู่อันมาประกาศเริ่มงานเลี้ยง แต่หลิงอวี๋ยังคงไม่มาหรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เซียวหลินเทียนรู้สึกมิสบายใจ จึงแสร้งว่าจะไปห้องน้ำแล้วลุกออกไปเมื่อมาถึงหน้าประตูก็พบกับขันทีน้อยเซี่ย เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยเบา ๆ “ขันทีน้อยเซี่ย เจ้าช่วยนำข้อความของข้าไปบอกหลิงซวนให้เร่งพระชายาอ๋องอี้ไปที่งานเลี้ยงทีได้หรือไม่?”“ไม่มีปัญหาพ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะไปบอกให้เลย!”ขณะที่ขันทีน้อยเซี่ยกำลังจะไป ขันทีเซี่ยก็มาพร้อมกับองค์จักรพรรดิและท่านอ๋องเฉิงแล้ว“เสด็จพ่อ!” เซียวหลินเทียนเอ่ยทักทายด้วยความเคารพ แล้วก้าวไปด้านข้าง อยากจะรอให้องค์จักรพรรดิกับท่านอ๋องเฉิงเข้าไปก่อนแล้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1906

    จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1905

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1904

    “หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1903

    ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status