เมื่อเห็นหลิงอวี๋ได้รับตำราการแพทย์ แล้วจู่ ๆ ทักษะการแพทย์ของนางก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด เปิดโรงงานผลิตยาทำเงินได้มากมายพระชายาเส้าก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมาเช่นกันที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตอนนี้เซียวหลินเทียนยืนขึ้นได้แล้ว เขาก็จะกลายเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อองค์ชายคังบุตรชายของตน!ส่วนเหตุผลหลักที่พระชายาเส้าตั้งใจจะเอาหนังสือการแพทย์มาให้ได้ ก็เพราะยอดฝีมือลึกลับที่อยู่เบื้องหลังท่านพ่อของนาง!ก่อนหน้านี้ท่านพ่อของพระชายาเส้าป่วยหนักมาก ผมขาวไปหมดทั้งหัว และแก่ชราลงไปมากตระกูลเส้าได้เริ่มเตรียมจัดงานศพให้กับท่านเส้าแล้ว!แต่ยอดฝีมือลึกลับผู้นี้มิรู้ว่าปรากฏตัวมาจากที่ใด มาอ้างว่าเขาสามารถฟื้นฟูท่านเส้าให้กลับมาแข็งแรงได้!เห็นได้ชัดว่าท่านพ่อของพระชายาเส้าเชื่อในยอดฝีมือลึกลับผู้นี้มาก เขาไล่คนในครอบครัวออกไปจนหมด เหลืออยู่เพียงชายลึกลับชื่อเก๋อเทียนซือผู้นี้เท่านั้นชายลึกลับผู้นี้ดูอายุเพิ่งสามสิบกว่าปี จมูกโด่ง ดวงตาลึก คิ้วบาก หากมองใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีแผลเป็นอยู่ตอนนั้นพระชายาเส้ารู้สึกคุ้นหน้าชายผู้นี้อยู่ราง ๆนางจำได้ราง ๆ ว่า ตอนที่ตนยังเป็นเด็กสาว นางเคยเห็นชายคิ้ว
ท่านเส้ายิ้มขมขื่นพลางส่ายหัว “เหตุใดข้าจะไม่โน้มน้าวให้เขาช่วยอี้เอ๋อร์เล่า แต่เจ้าคงมิรู้ว่าเก๋อเทียนซือได้ตั้งเงื่อนไขไว้หนึ่งข้อ!”“เก๋อเทียนซือบอกว่า หากช่วยเขาตามหาตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นได้ เขาก็จะช่วยอี้เอ๋อร์ มิเช่นนั้น เขาก็ยังต้องเดินทางทั่วหล้าเพื่อตามหาตำราเล่มนี้!”ตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่น?พระชายาเส้าตามหาตำราเล่มนี้มาหลายปีแล้ว หากนางจะหาเจอก็คงจะเจอมานานแล้วพระชายาเส้ามองท่านพ่ออย่างสงสัย “ท่านพ่อ เหตุใดตำราเล่มนี้จึงสำคัญมากถึงเพียงนั้น? หรือว่ายังมีอะไรที่ข้ามิรู้อีก?”พระชายาเส้าจำได้ว่า เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเก๋อเทียนซือก็ให้ท่านพ่อสืบหาที่อยู่ของตำราเล่มนี้เช่นกัน!เพียงแต่พระชายาเส้าตามหามาหลายปีก็มิได้ผลใด ๆ จึงยอมแพ้ไปแล้ว...คิดมิถึงเลยว่า ยี่สิบกว่าปีต่อมา เก๋อเทียนซือก็ยังคงตามหาตำราเล่มนี้อยู่!หรือว่าตำราเล่มนี้มิเพียงแต่บันทึกทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมไว้ แต่ยังมีเคล็ดลับวรยุทธที่แปลกประหลาดของเก๋อเทียนซืออยู่ด้วยพระชายาเส้าเห็นความสามารถของเก๋อเทียนซือด้วยตาของตนเองแล้ว นางจะมิหวั่นใจได้เยี่ยงไร!หากในนั้นมีเคล็ดลับวรยุทธอยู่ แล้วหากนำมาใ
“พระชายาอ๋องอี้ ดื่มชาเช่นนี้ช่างน่าเบื่อเสียจริง เรามาหาอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า!”จู่ ๆ เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็เอ่ยปาก แล้วพูดอย่างยั่วยุ“ข้าได้ยินมาว่า พระชายาอ๋องอี้มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง เก่งทั้งด้านดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพ ข้ามิได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย เช่นนั้น เรามาแข่งขี่ม้าแข่งยิงธนูกันดีหรือไม่?”นางโบกมือ แล้วนางกำนัลของนางก็ยกกล่องหนึ่งขึ้นมาเซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ข้างในนี้มีหยกเถียนหวงคุณภาพสูงชิ้นหนึ่ง มูลค่ามหาศาล หากพระชายาอ๋องอี้เอาชนะข้าได้ทั้งการขี่ม้าและการยิงธนู ข้าจะมอบหยกเถียนหวงชิ้นนี้ให้กับเจ้า!”นางรับใช้เปิดกล่องอย่างโอ้อวด ให้ทุกคนเห็นหยกเถียนหวงไทเฮาเหลียงมองแล้วก็ตกใจเล็กน้อย หยกชิ้นนี้เป็นหยกเนื้อดีที่สุดที่นางเคยเห็นมาในชีวิตเลย!ฮองเฮาเว่ยเห็นแล้วก็เบิกตาโตนางมิใช่คนที่มิเคยเห็นของดี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นหยกเถียนหวงเนื้อดีเช่นนี้สีเหลืองของหยกเถียนหวงเป็นสีเหลืองดั่งทอง สิ่งที่หายากที่สุดก็คือ ไม่มีสิ่งเจือปนเลย มีทั้งความใสและอ่อนนุ่มราวกับไขมันหยกเถียนหวงคุณภาพเช่นนี้หายากมาก เป็นสมบัติล้ำค่าในหมู่หยก มีอยู่
“องค์หญิงตานรั่ว ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องของหม่อมฉันไม่มีความสุข? ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องของหม่อมฉันโปรดท่าน?”หลิงอวี๋จึงเอ่ย “เมื่อวานบนถนน ของแทนใจที่ท่านมอบให้ท่านอ๋องของหม่อมฉัน พระองค์ได้รับไว้หรือไม่เพคะ? หม่อมฉันมิรู้ว่าท่านไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด จึงได้กล้าพูดเรื่องเช่นนี้ออกมา!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างมั่นใจ “ท่านอ๋องอี้จะต้องหลงรักข้าเป็นแน่! พระชายาอ๋องอี้ หากเจ้ามิกล้ายอมรับคำท้าก็ยอมถอยไปเถิด พูดเช่นนี้ไม่มีประโยชน์หรอก!”หลิงอวี๋รู้สึกรังเกียจการข่มคนอื่นของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว จึงยิ้มอย่างเย็นชา “องค์หญิงตานรั่วตรัสว่ามิสนใจเรื่องดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพ หม่อมฉันก็ไม่มีความสนใจในการยิงธนูและการขี่ม้าเช่นกันเพคะ!”“องค์หญิงตานรั่วเอาสิ่งที่ตนถนัดมาท้าทายผู้อื่น ท่านคิดว่ามันยุติธรรมหรือ?”เซี่ยโฮ่วตานรั่วเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ข้าคิดว่ายุติธรรมมาก! ในฉีตะวันออก ทุกคนเติบโตมากับการขี่ม้า ต่างเรียนรู้การยิงธนูและการขี่ม้ากันมาตั้งแต่เด็กแล้ว!”“พระชายาอ๋องอี้ ทักษะการขี่ม้าและการยิงธนูของเจ้าเทียบมิได้แม้แต่กับเด็กอายุสามขวบของเราใช่หรือไม่?”หลิง
หลิงอวี๋กับเถาจื่อรีบไปที่สถานที่ที่ท่านหญิงจ่างหนิงพาหลิงซวนออกไปเมื่อครู่ ทั้งสองมองหารอบ ๆ แต่มิเห็นใครเลยบังเอิญมีนางกำนัลคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี หลิงอวี๋จึงคว้าตัวนางไว้แล้วเอ่ยถาม “ข้าคือพระชายาอ๋องอี้ ขอถามหน่อยว่าเจ้าเห็นหรือไม่ว่าท่านหญิงจ่างหนิงไปทางใด?”“เรียนพระชายา ไปทางนั้นเจ้าค่ะ!”นางกำนัลตอบด้วยท่าทีเคารพ พลางชี้ทางทิศทางให้หลิงอวี๋หลังจากที่หลิงอวี๋กับเถาจื่อขอบคุณนางกำนัลแล้วก็รีบไปทางนั้นกระทั่งไปถึงตรงทางแยก หลิงอวี๋ก็ชี้ไปอีกทางแล้วเอ่ย “เจ้าไปทางนั้น หากเห็นท่านหญิงจ่างหนิง อย่าไปทำให้นางตกใจ ให้รีบกลับมาเรียกข้าก่อน!”“เจ้าค่ะ!” เถาจื่อวิ่งไปทางนั้นทันทีหลิงอวี๋วิ่งตามไปอีกทางของทางแยกนั้นแต่หลังจากวิ่งไปสักพักก็ยังมิเจอใคร หลิงอวี๋กำลังสงสัยว่า นางอาจจะมาผิดทางหรือไม่ ก็เห็นตำหนักแห่งหนึ่งอยู่ตรงหน้านางตำหนักนี้อยู่ห่างไกลมาก ทางเดินด้านนอกตำหนักก็เต็มไปด้วยวัชพืช และมีดอกไม้ป่าบางส่วนกำลังบานสะพรั่งอยู่หลิงอวี๋สงสัย นี่คงจะเป็นตำหนักร้างแน่ ๆ!จ่างหนิงจะพาหลิงซวนมาที่นี่หรือไม่?ก็เป็นไปได้เช่นกัน!นิสัยหยิ่งผยองวางอำนาจของจ่างหนิง ต้องเลือกส
“ข้าสามารถทำให้ใบหน้าของเจ้าเสียโฉมได้ทั้งหมดเลยนะ! หากเจ้าทำให้ข้าโกรธ… ข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วย!”หัวหน้าหยิบมีดผ่าตัดแล้วค่อย ๆ ขยับมันไปมาบนใบหน้าของหลิงอวี๋!หากเป็นคนธรรมดา เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามเช่นนี้ คงจะหวาดกลัวจนสติกระเจิงไปแล้วหลิงอวี๋จึงแสดงสีหน้าหวาดกลัวเพื่อสร้างความสับสนให้ทั้งสามคน หัวหน้าขู่รวมถึงหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ “บอกข้ามาว่าตำราการแพทย์อยู่ที่ใด แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป!”หลิงอวี๋แสร้งเอ่ยอย่างเป็นกังวล “ข้ามิรู้จริง ๆ ว่าซือคงชวิ่นคือใคร แล้วก็มิเคยเห็นตำราการแพทย์ของเขาด้วย! พวกเจ้าอย่าทำร้ายข้าเลย… ข้าคือพระชายาอ๋องอี้ หากพวกเจ้าอยากได้เงินข้าก็จะให้พวกเจ้า!”“อยากจะไปซื้อตำราการแพทย์อะไรพวกเจ้าก็ไปซื้อได้!”หัวหน้าใจร้อนขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิได้พูดความจริง จึงตะคอก “กล้ามาหลอกข้าเยี่ยงนั้นรึ? ข้าว่าเจ้านี่มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตานะ!”“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความแข็งแกร่งของข้า!”หัวหน้าโบกมือ แล้วหญิงสองคนที่อยู่ข้างหลังก็เดินไปหยิบถังน้ำขนาดใหญ่ออกมาหลิงอวี๋มองไปอย่างประหลาดใจ แล้วก็เห็นร่างดำ ๆ ยืนอยู่ในเงามืดอย่างเลือนรางนั่นใครกัน
แล้วเงามืดก็เดินออกไปเมื่อหัวหน้าเห็นก็ยืนขึ้น ขยิบตาให้ผู้หญิงอีกสองคน แล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “ดูนางไว้ ข้าไปประเดี๋ยวก็กลับมา!”หลังจากที่หัวหน้าพูดจบก็รีบตามเงามืดออกไปหลิงอวี๋มีกำลังใจขึ้นมา นางรู้ดีว่าแม้ว่านางจะเปิดเผยที่อยู่ของตำราการแพทย์ออกไป คนเหล่านี้ก็ไม่มีทางปล่อยตนไปหรอก!ยิ่งไปกว่านั้น เงามืดลึกลับนั้นก็ทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอันตรายมาก นางมิรู้ว่าพวกเขาออกไปข้างนอกจะทำอะไรนางรู้แค่ว่าหากตนไม่รีบออกจากสถานการณ์ในตอนนี้โดยเร็วที่สุด นางจะตายอยู่ที่นี่!เมื่อเห็นสถานการณ์เร่งด่วน หลิงอวี๋สนใจอะไรมิได้มากนัก เมื่อเห็นว่าหัวหน้าเพิ่งจะเดินออกไปนางคว้าที่วางแขนของเก้าอี้ที่ตนผูกติดอยู่ไว้อย่างเงียบ ๆเมื่อครู่นางแอบดูแล้ว ที่วางแขนมันมีการแตกหักอย่างรุนแรงอยู่แม้ว่าการเอามาใช้เป็นอาวุธจะดูงุ่มง่าม แต่เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!“พวกเจ้ารับปากว่าจะปล่อยข้าไปหากบอกที่อยู่ของตำราการแพทย์! พวกเจ้าอยากจะผิดคำพูดหรือ?”หลิงอวี๋พยายามลุกขึ้นหญิงในชุดดำเห็นว่าเก้าอี้หัก เมื่อหลิงอวี๋ขยับ เชือกที่มัดตัวนางก็หลุดออกแล้วนางจึงเดินเข้ามา พลางตะคอกด้วยความโกรธ “หยุดอยู่ตรงน
หลิงอวี๋วิ่งเข้าไปก็เห็นเด็กในชุดสีชมพูนอนจมกองเลือดอยู่ใบหน้าครึ่งหนึ่งของนางหันหน้ามาทางหลิงอวี๋พอดี หลิงอวี๋จำได้ว่านางคือท่านหญิงจ่างหนิงหัวหน้าของหญิงชุดดำคนนั้น กำลังถือกริชไล่ตามหลิงซวนอยู่ส่วนหลิงซวนก็อุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งไปตรงหน้าต่างที่หลิงอวี๋ปีนออกไปเมื่อครู่นี้“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”เด็กชายกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก และพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของหลิงซวนอย่างบ้าคลั่ง“ปล่อยพวกเขาไป!”หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ตะโกนอย่างกังวล“ปล่อยพวกเขาไป แล้วข้าจะบอกที่ซ่อนที่แท้จริงของตำราการแพทย์กับเจ้า!”“ว่ากระไรนะ? เจ้ากล้าโกหกข้าหรือ!” หัวหน้าตะคอกด้วยความโกรธ“อยากให้ข้าปล่อยพวกนางไปหรือ? ฝันไปเถอะ! เจ้าฆ่าเหล่าเอ้อร์กับเหล่าซานไปแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้า!”นางตะคอกแล้วพุ่งไปหาหลิงอวี๋อย่างดุร้าย หลิงอวี๋จึงหันหลังวิ่งหนีไป“หลิงซวน เจ้าพาเขาหนีไปเร็วเข้า! รีบกลับไป…”หลิงอวี๋เตือนแล้ววิ่งไปที่ป่าไผ่นางอยากจะล่อหัวหน้าออกไป แล้วให้โอกาสเด็กกับหลิงซวนหนีเอาตัวรอด!เมื่อหัวหน้าเห็นก็ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ยกมือขึ้นปาลูกดอกออกไปเข้าที่น่องของหลิงอวี๋หลิงอว