องครักษ์คนหนึ่งวิ่งไปข้างหน้า แล้วฉินซานขึ้นหลังกลับไปที่แนวป้องกัน“ช่วยด้วย… ช่วย...”รถม้าถูกม้าทำให้พลิกคว่ำ เซียวทงที่อยู่อีกด้านหนึ่งจึงถูกทับอยู่ใต้รถม้า นางเห็นลู่หนานช่วยฉินซานแล้วไปช่วยคนอื่นก็ร้องไห้แล้วเรียกออกไปลู่หนานลังเลครู่หนึ่ง เดิมทีนางมิอยากช่วยองค์หญิงหกผู้เอาแต่ใจเลย แต่เพราะเซียวทงเป็นน้องสาวของท่านอ๋องอี้หากมิช่วยเซียวทงก็ไม่ดี!ลู่หนานจึงทำได้เพียงรีบไปช่วยนางแต่ผู้คุ้มกันที่ซ่อนตัวอยู่หลังรถม้าเห็นว่าสูญเสียที่กำบังไปแล้ว กลัวจะถูกฆ่าจึงกระโดดออกมาจากด้านหลังรถม้าเมื่อพวกผู้คุ้มกันเห็นลู่หนานอยู่ตรงหน้าตนก็ฟันลู่หนานโดยมิสนใจทันทีเซียวทงยังมิทันได้ยืนนิ่ง ก็เห็นพวกผู้คุ้มกันพุ่งเข้ามาหาอย่างดุร้ายนางกังวลมาก กลัวว่าตนจะถูกฆ่าโดยมิได้ตั้งใจ จึงผลักออกไปลู่หนานอย่างแรงลู่หนานคิดไม่ถึงว่านางจะทำเช่นนี้ เขาถูกนางผลักถอยหลังไปหลายก้าวโดยมิได้ตั้งตัว แล้วก็บังเอิญไปโดนปลายมีดของผู้คุ้มกันคนหนึ่งเข้าพอดีลู่หนานรู้สึกเจ็บแปลบที่หลังของตน ขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับไปเหวี่ยงดาบ มีดของผู้คุ้มกันอีกคนก็มาที่ไหล่เขาอีกครั้ง“ลู่หนาน…”หลิงอวี๋เห็นภาพน
องครักษ์เหล่านั้นรู้สึกคับข้องใจ หากมิใช่เพราะฝ่ายที่มีน้อยจะต้องแพ้ให้ฝ่ายที่มีมากทั้งยังต้องปกป้องพระชายาอ๋องอี้ด้วย พวกเขาก็คงจะรีบออกไปบุกด้วยแล้วหลังจากได้ยินคำสั่งของพระชายาอ๋องอี้ และเห็นกำลังเสริมมา พวกเขาก็ทิ้งธนูกับลูกธนูแล้วชักดาบออกมา พร้อมทั้งรีบวิ่งออกไปพลางตะโกนไปด้วยท่านจินต้าตั้งถิ่นฐานให้คนบนภูเขาแล้ว กำลังลงมาช่วยพวกหลิงอวี๋ก็เห็นภาพนี้เข้าจู่ ๆ ท่านจินต้าก็รู้สึกโชคดี ยังดีที่ในที่สุดพวกเขาก็ได้กำลังเสริม...“ท่านจินต้า ท่านมาพอดี! ทางนี้ข้าขอส่งต่อให้ท่านจัดการแล้ว ข้าต้องรีบช่วยลู่หนาน!”ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นท่านจินต้ามาก็รีบออกคำสั่ง แล้วสั่งให้คนแบกลู่หนานไปทางด้านหลังหลิงอวี๋หันกลับมากับเห็นฉินซานพิงอยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ฉินซานยังรอการรักษาจากนางอยู่!แต่ในเวลานี้ ชีวิตของลู่หนานตกอยู่ในอันตราย นางทำได้เพียงช่วยลู่หนานก่อนเท่านั้นฉินซานยังคงมีสติอยู่ พอเห็นหลิงอวี๋ยืนอยู่ตรงหน้าตนก็เอ่ยออกมา “ไปช่วยลู่หนานเถิด เขาบาดเจ็บสาหัสกว่าข้า! ข้ายังไหว!”หลิงอวี๋เห็นว่าแขนที่ขาดของเขายังมีเลือดออกอยู่ จึงรีบลุกขึ้นไปหยิบขวดยาออกมายัดใส่มือของเข
เพราะว่าไม่มีขาตั้ง หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อรักษาบาดแผลของลู่หนานอาการบาดเจ็บที่หลังของลู่หนานถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย มันทะลุเข้าไปในหลังของลู่หนานไปถึงหัวใจของเขาบางส่วนด้วยขณะที่หลิงอวี๋ตรวจอยู่ นางก็รู้สึกกังวล อธิษฐานว่าอย่าให้แทงไปถึงเส้นเลือดใหญ่ มิฉะนั้นแม้ว่าตนจะเป็นเทพเจ้าก็ไม่มีทางช่วยลู่หนานกลับมาได้นางใช้เข็มเงินไปอุดชีพจรของลู่หนานก่อน จากนั้นก็ตรวจอาการบาดเจ็บของลู่หนานอย่างระมัดระวังเวลานี้ หลิงอวี๋นึกถึงภาพที่ตนเพิ่งเดินทางข้ามเวลามา!ในเวลานั้น ตนถูกเซียวหลินเทียนเข้าใจผิด และถูกพี่น้องตระกูลเหลียงวางแผนใส่ลู่หนานเป็นคนที่ช่วยตนไว้!แม้ว่าบางครั้งเขาจะหุนหันพลันแล่น ถูกคนอื่นยั่วยุได้ง่ายแต่เขาเป็นคนจิตใจดีและยังเด็กมากด้วย เขาไม่ควรต้องมาตายเช่นนี้!“อาจารย์ ลู่หนานยังรอดได้หรือไม่เจ้าคะ?”หลิงซวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อนางเห็นเลือดไหลออกมามากมายถึงเพียงนั้น ก็นึกถถึงสภาพที่ตนได้รับบาดเจ็บในตอนแรกตอนนั้น ลู่หนานเป็นคนให้เลือดตน!แม้ว่าอาจารย์จะช่วยตนไว้ แต่ในใจของหลิงซวน ลู่หนานเองก็เป็นที่ช่วยให้ตนรอดเช่นกัน!เลือดในร่างกาย
แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเกิ่งเสี่ยวหาวกับปี้ไห่เฟิง แต่พวกของชุยหรงก็สูญเสียกำลังคนในตอนรบไปจำนวนไม่น้อยเลยชุยหรงรู้ว่าสิ่งที่ท่านจินต้าบอกนั้นเป็นความจริง จึงต้องยอมแพ้พร้อมกับความแค้นรอให้เรื่องราวทางนี้คลี่คลายลงก่อนเถิด เขาจะต้องเป็นคนนำหัวของหลิวฮุยกลับมา เพื่อล้างแค้นให้ฉินซานให้จงได้!ทางด้านหลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือลู่หนานส่วนทางด้านเซียวหลินเทียนจับตัวแม่ทัพเซี่ยได้แล้วแม่ทัพเซี่ยเห็นว่าคนของตนส่วนใหญ่ยอมจำนน สถานการณ์มันจบลงแล้ว แต่เขาก็ยังคงมีความหวังอันน้อยนิดอยู่ขอเพียงรองผู้บัญชาการอู๋พาคนไปยึดเว่ยโจวได้ทันเวลา คนของเซียวหลินเทียนก็มิสามารถสู้กับกองทัพชายแดนได้แล้ว และพวกเขาก็จะพลิกความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะได้ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีเวลามาซักถามแม่ทัพเซี่ย หลังจากที่ให้คนจับเขามัดไว้แล้ว ก็เรียกรวมพลของแม่ทัพเซี่ยทันทีรองผู้บัญชาการคนหนึ่งของแม่ทัพเซี่ยตายไปแล้ว ส่วนรองผู้บัญชาการอีกคนนั้นเซียวหลินเทียนมิกล้าใช้ จึงตะโกนออกไป “พวกนายทหารที่อยู่ต่ำกว่ารองผู้บัญชาการจงออกมาข้างหน้า ข้ามีอะไรจะพูดสักหน่อย!”นายทหารในกลุ่มของแม่ทัพเซี่ยที่ยังรอดช
“แม่ทัพโต้ว เจ้านำคนกลุ่มหนึ่งรีบไปที่เว่ยโจว แล้วไปรักษาการณ์ที่เว่ยโจวร่วมกับแม่ทัพเผย!”“แม่ทัพเผิง เจ้าพากลุ่มของเจ้าไปสนับสนุนแม่ทัพกู่!”“แม่ทัพข่ง ทางด้านคลังพืชผลยังมีกำลังพลของพวกเจ้าอยู่ เจ้ากับแม่ทัพจ้าวไปปราบพวกเขาเสีย!”“ข้ามิรู้ว่าพวกเจ้ารู้เห็นเกี่ยวกับความผิดของแม่ทัพเซี่ยหรือไม่ ตอนนี้ข้ามิอยากไล่บี้ในเรื่องเหล่านั้น ถือเสียว่านี่เป็นโอกาสที่พวกเจ้าจะได้ไถ่โทษและทำความดีแทนแล้วกัน!”“ชะตากรรมของพวกเจ้าทั้งสามคนอยู่ในกำมือของพวกเจ้าเอง หลังจากจบเรื่องข้าจะให้รางวัลตอบแทนตามผลงาน!”คำพูดของเซียวหลินเทียนทำให้ทั้งสามคนเลือดพลุ่งพล่านทันที ทั้งสามคนเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น “ท่านอ๋องทรงอย่าได้กังวล พวกกระหม่อมจะทำภารกิจที่ท่านอ๋องมอบหมายให้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมองไปทางทหารคนอื่น ๆ พลางเอ่ยเสียงดัง “พวกเจ้าต้องหวงแหนโอกาสในการชดใช้ความผิดนี้ แล้วร่วมมือกับแม่ทัพทั้งสามเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ!”ทหารเหล่านั้นแอบตื่นตระหนก กังวลว่าจะเข้าไปพัวพันกับการสมคบคิดกับแคว้นศัตรูของแม่ทัพเซี่ยด้วย ครั้นได้ยินว่าท่านอ๋องอี้ให้โอกาสพวกเขาไถ่โทษและทำความดี พวกเขาก็เอ่ยอย่างหน
คนที่ส่งไปส่งจดหมายก่อนหน้านี้คงจะต้องตายจากการสกัดกั้นของโจวโยวแล้วแน่นอนหนี้แค้นของพวกเขา มีเพียงการที่ท่านอ๋องอี้ชนะการต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้นจึงจะสามารถหักล้างได้!หลี่ว์จงเจ๋อเดินลึกเข้าไปตามถนนภูเขาเรื่อย ๆ ด้วยความที่มืดแล้วทำให้มองทางไม่ชัดจึงกลิ้งตกจากบนเขาลงไปและบาดเจ็บที่เท้า แต่เขาก็มิกล้าหยุดพักจากนั้นหลี่ว์จงเจ๋อก็ตัดก้านไม้เล็ก ๆ มาพยุงตัวเองให้เดินหน้าต่อไปไม่รู้ว่าเดินไปกี่ชั่วยามแล้ว หลี่ว์จงเจ๋อก็มองเห็นค่ายทหารชายแดนอยู่ไกล ๆ ตะเกียงน้ำมันที่แขวนอยู่นั้นเปรียบเหมือนแสงนำทางช่วยเพิ่มความมั่นใจของหลี่ว์จงเจ๋ออย่างมากถึงแล้ว อดทนอีกนิดก็ถึงแล้ว!ร่างกายของหลี่ว์จงเจ๋อได้รับบาดเจ็บ เสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งตอนที่กลิ้งตกลงไป หากมีกระจก เขาก็คงจะมองเห็นได้ว่าตนมิต่างจากขอทานเลยหลังจากออกจากป่ามาได้ เดินไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงค่ายทหารแล้วแต่หลี่ว์จงเจ๋อไม่คาดคิดเลยว่า จู่ ๆ ทหารสิบกว่านายจะโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมกับดาบที่จ่ออยู่บนคอของหลี่ว์จงเจ๋อ...เมื่อหลี่ว์จงเจ๋อเห็นดังนั้น ใจของเขาก็จมดิ่งลงชัยชนะอยู่แค่เอื้อม แต่เขากลับกำลังจะตายในรุ่งสาง...เขา
“หมอบ!”เสียงตะโกนดังมาจากไกล ๆ หลี่ว์จงเจ๋อจึงดึงทหารให้นอนลงที่พื้นโดยสัญชาตญาณลูกธนูพุ่งผ่านเหนือหัวของพวกเขาไปเกือบจะเวลาเดียวกันเสียงกีบม้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว หลี่ว์จงเจ๋อก็ได้ยินเสียงกระตุ้นอีกหลายครั้ง เขาจึงรีบหันไปมอง แล้วก็เห็นลูกธนูเข้าที่หน้าอกของทหารที่กำลังเล็งมาใส่เขาเต็ม ๆเขามองไปด้านข้างอีกครั้ง แล้วก็เห็นแม่ทัพขี่ม้าดำนำมาพร้อมกับทหารอีกสองสามคน“นายทหารหลิน หยุด มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!” แม่ทัพม้าดำตะโกนเสียงเข้มหลี่ว์จงเจ๋อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงมองไป ภายใต้แสงจันทร์นั้น มีใบหน้าอันเข้มขรึมของแม่ทัพม้าดำ พร้อมด้วยคิ้วหนา ๆ กับท่าทางยุติธรรม...นั่นท่านลุงของตนเองที่มิได้เจอกันมาหลายปีแล้วใช่หรือไม่… หยวนเต๋อหรือ?“ท่านลุง...”หลี่ว์จงเจ๋อชะงักทันที พูดมิออกว่าเป็นความตื่นเต้นหรือเป็นเพราะที่รอดชีวิตมาได้...เขารู้เพียงแค่ว่าเขาส่งข่าวถึงแล้วนายทหารหลินยังคงคิดจะต่อต้านอีก แต่เมื่อหยวนเต๋อได้ยินเสียงของหลี่ว์จงเจ๋อ เขาก็โกรธมากเขารู้มาจากแม่ทัพกู่นานแล้วว่าหลานชายของเขาติดตามท่านอ๋องอี้มาที่เว่ยโจวเขายังคิดเลยว่าจะหาโอกาสไปพบหลี่ว์จงเจ๋อ แต่ก็ถูกง
แม่ทัพกู่รู้ทักษะของหลิงเสี่ยงดีเขาสอนมาเองกับมือ แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรู แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะหายตัวอย่างไร้ร่องรอยเช่นนั้น!ดังนั้น แม่ทัพกู่จึงแอบให้พวกพ้องสืบสวนการหายตัวไปของหลิงเสี่ยงการสืบสวนนี้เผยความลับที่ซ่อนอยู่ของรองผู้บัญชาการอู๋ แม่ทัพเซี่ยและข้าหลวงหยางออกมาก่อนหน้านี้แม่ทัพกู่ก็สงสัยอยู่ว่าหลิงเสี่ยงจะถูกแม่ทัพเซี่ยจับตัวไป และอาจจะถูกขังอยู่ที่คุกในเว่ยโจวแม่ทัพกู่กำลังหาโอกาสเข้าไปในเว่ยโจวเพื่อที่จะตามหา แต่ผลก็คือโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่ว และทหารจำนวนไม่น้อยในค่ายทหารก็ติดโรคระบาดเช่นกันเรื่องการช่วยเหลือหลิงเสี่ยงจึงต้องระงับไว้ก่อนชั่วคราวแต่เหตุผลที่แม่ทัพกู่ลงมือกับรองผู้บัญชาการอู๋อย่างรวดเร็วเช่นนี้ก็เพราะว่าหลิงเสี่ยงเช่นกันแม้ว่าแม่ทัพกู่จะมิสามารถไปช่วยหลิงเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็มีสายลับของตนเองในเมืองเว่ยโจวเช่นกันเมื่อหลิงเสี่ยงหลบหนีจากแดนประหารมาได้ แล้วข้าหลวงเว่ยโจวส่งเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากไปตามจับกุมหลิงเสี่ยงนั้น การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ทำให้สายลับได้รู้ทางสายลับจึงส่งข่าวมาทันทีแม่ทัพกู่รักษาการณ์ก