เพราะว่าไม่มีขาตั้ง หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อรักษาบาดแผลของลู่หนานอาการบาดเจ็บที่หลังของลู่หนานถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย มันทะลุเข้าไปในหลังของลู่หนานไปถึงหัวใจของเขาบางส่วนด้วยขณะที่หลิงอวี๋ตรวจอยู่ นางก็รู้สึกกังวล อธิษฐานว่าอย่าให้แทงไปถึงเส้นเลือดใหญ่ มิฉะนั้นแม้ว่าตนจะเป็นเทพเจ้าก็ไม่มีทางช่วยลู่หนานกลับมาได้นางใช้เข็มเงินไปอุดชีพจรของลู่หนานก่อน จากนั้นก็ตรวจอาการบาดเจ็บของลู่หนานอย่างระมัดระวังเวลานี้ หลิงอวี๋นึกถึงภาพที่ตนเพิ่งเดินทางข้ามเวลามา!ในเวลานั้น ตนถูกเซียวหลินเทียนเข้าใจผิด และถูกพี่น้องตระกูลเหลียงวางแผนใส่ลู่หนานเป็นคนที่ช่วยตนไว้!แม้ว่าบางครั้งเขาจะหุนหันพลันแล่น ถูกคนอื่นยั่วยุได้ง่ายแต่เขาเป็นคนจิตใจดีและยังเด็กมากด้วย เขาไม่ควรต้องมาตายเช่นนี้!“อาจารย์ ลู่หนานยังรอดได้หรือไม่เจ้าคะ?”หลิงซวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อนางเห็นเลือดไหลออกมามากมายถึงเพียงนั้น ก็นึกถถึงสภาพที่ตนได้รับบาดเจ็บในตอนแรกตอนนั้น ลู่หนานเป็นคนให้เลือดตน!แม้ว่าอาจารย์จะช่วยตนไว้ แต่ในใจของหลิงซวน ลู่หนานเองก็เป็นที่ช่วยให้ตนรอดเช่นกัน!เลือดในร่างกาย
แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเกิ่งเสี่ยวหาวกับปี้ไห่เฟิง แต่พวกของชุยหรงก็สูญเสียกำลังคนในตอนรบไปจำนวนไม่น้อยเลยชุยหรงรู้ว่าสิ่งที่ท่านจินต้าบอกนั้นเป็นความจริง จึงต้องยอมแพ้พร้อมกับความแค้นรอให้เรื่องราวทางนี้คลี่คลายลงก่อนเถิด เขาจะต้องเป็นคนนำหัวของหลิวฮุยกลับมา เพื่อล้างแค้นให้ฉินซานให้จงได้!ทางด้านหลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือลู่หนานส่วนทางด้านเซียวหลินเทียนจับตัวแม่ทัพเซี่ยได้แล้วแม่ทัพเซี่ยเห็นว่าคนของตนส่วนใหญ่ยอมจำนน สถานการณ์มันจบลงแล้ว แต่เขาก็ยังคงมีความหวังอันน้อยนิดอยู่ขอเพียงรองผู้บัญชาการอู๋พาคนไปยึดเว่ยโจวได้ทันเวลา คนของเซียวหลินเทียนก็มิสามารถสู้กับกองทัพชายแดนได้แล้ว และพวกเขาก็จะพลิกความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะได้ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีเวลามาซักถามแม่ทัพเซี่ย หลังจากที่ให้คนจับเขามัดไว้แล้ว ก็เรียกรวมพลของแม่ทัพเซี่ยทันทีรองผู้บัญชาการคนหนึ่งของแม่ทัพเซี่ยตายไปแล้ว ส่วนรองผู้บัญชาการอีกคนนั้นเซียวหลินเทียนมิกล้าใช้ จึงตะโกนออกไป “พวกนายทหารที่อยู่ต่ำกว่ารองผู้บัญชาการจงออกมาข้างหน้า ข้ามีอะไรจะพูดสักหน่อย!”นายทหารในกลุ่มของแม่ทัพเซี่ยที่ยังรอดช
“แม่ทัพโต้ว เจ้านำคนกลุ่มหนึ่งรีบไปที่เว่ยโจว แล้วไปรักษาการณ์ที่เว่ยโจวร่วมกับแม่ทัพเผย!”“แม่ทัพเผิง เจ้าพากลุ่มของเจ้าไปสนับสนุนแม่ทัพกู่!”“แม่ทัพข่ง ทางด้านคลังพืชผลยังมีกำลังพลของพวกเจ้าอยู่ เจ้ากับแม่ทัพจ้าวไปปราบพวกเขาเสีย!”“ข้ามิรู้ว่าพวกเจ้ารู้เห็นเกี่ยวกับความผิดของแม่ทัพเซี่ยหรือไม่ ตอนนี้ข้ามิอยากไล่บี้ในเรื่องเหล่านั้น ถือเสียว่านี่เป็นโอกาสที่พวกเจ้าจะได้ไถ่โทษและทำความดีแทนแล้วกัน!”“ชะตากรรมของพวกเจ้าทั้งสามคนอยู่ในกำมือของพวกเจ้าเอง หลังจากจบเรื่องข้าจะให้รางวัลตอบแทนตามผลงาน!”คำพูดของเซียวหลินเทียนทำให้ทั้งสามคนเลือดพลุ่งพล่านทันที ทั้งสามคนเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น “ท่านอ๋องทรงอย่าได้กังวล พวกกระหม่อมจะทำภารกิจที่ท่านอ๋องมอบหมายให้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมองไปทางทหารคนอื่น ๆ พลางเอ่ยเสียงดัง “พวกเจ้าต้องหวงแหนโอกาสในการชดใช้ความผิดนี้ แล้วร่วมมือกับแม่ทัพทั้งสามเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ!”ทหารเหล่านั้นแอบตื่นตระหนก กังวลว่าจะเข้าไปพัวพันกับการสมคบคิดกับแคว้นศัตรูของแม่ทัพเซี่ยด้วย ครั้นได้ยินว่าท่านอ๋องอี้ให้โอกาสพวกเขาไถ่โทษและทำความดี พวกเขาก็เอ่ยอย่างหน
คนที่ส่งไปส่งจดหมายก่อนหน้านี้คงจะต้องตายจากการสกัดกั้นของโจวโยวแล้วแน่นอนหนี้แค้นของพวกเขา มีเพียงการที่ท่านอ๋องอี้ชนะการต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้นจึงจะสามารถหักล้างได้!หลี่ว์จงเจ๋อเดินลึกเข้าไปตามถนนภูเขาเรื่อย ๆ ด้วยความที่มืดแล้วทำให้มองทางไม่ชัดจึงกลิ้งตกจากบนเขาลงไปและบาดเจ็บที่เท้า แต่เขาก็มิกล้าหยุดพักจากนั้นหลี่ว์จงเจ๋อก็ตัดก้านไม้เล็ก ๆ มาพยุงตัวเองให้เดินหน้าต่อไปไม่รู้ว่าเดินไปกี่ชั่วยามแล้ว หลี่ว์จงเจ๋อก็มองเห็นค่ายทหารชายแดนอยู่ไกล ๆ ตะเกียงน้ำมันที่แขวนอยู่นั้นเปรียบเหมือนแสงนำทางช่วยเพิ่มความมั่นใจของหลี่ว์จงเจ๋ออย่างมากถึงแล้ว อดทนอีกนิดก็ถึงแล้ว!ร่างกายของหลี่ว์จงเจ๋อได้รับบาดเจ็บ เสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งตอนที่กลิ้งตกลงไป หากมีกระจก เขาก็คงจะมองเห็นได้ว่าตนมิต่างจากขอทานเลยหลังจากออกจากป่ามาได้ เดินไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงค่ายทหารแล้วแต่หลี่ว์จงเจ๋อไม่คาดคิดเลยว่า จู่ ๆ ทหารสิบกว่านายจะโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมกับดาบที่จ่ออยู่บนคอของหลี่ว์จงเจ๋อ...เมื่อหลี่ว์จงเจ๋อเห็นดังนั้น ใจของเขาก็จมดิ่งลงชัยชนะอยู่แค่เอื้อม แต่เขากลับกำลังจะตายในรุ่งสาง...เขา
“หมอบ!”เสียงตะโกนดังมาจากไกล ๆ หลี่ว์จงเจ๋อจึงดึงทหารให้นอนลงที่พื้นโดยสัญชาตญาณลูกธนูพุ่งผ่านเหนือหัวของพวกเขาไปเกือบจะเวลาเดียวกันเสียงกีบม้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว หลี่ว์จงเจ๋อก็ได้ยินเสียงกระตุ้นอีกหลายครั้ง เขาจึงรีบหันไปมอง แล้วก็เห็นลูกธนูเข้าที่หน้าอกของทหารที่กำลังเล็งมาใส่เขาเต็ม ๆเขามองไปด้านข้างอีกครั้ง แล้วก็เห็นแม่ทัพขี่ม้าดำนำมาพร้อมกับทหารอีกสองสามคน“นายทหารหลิน หยุด มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!” แม่ทัพม้าดำตะโกนเสียงเข้มหลี่ว์จงเจ๋อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงมองไป ภายใต้แสงจันทร์นั้น มีใบหน้าอันเข้มขรึมของแม่ทัพม้าดำ พร้อมด้วยคิ้วหนา ๆ กับท่าทางยุติธรรม...นั่นท่านลุงของตนเองที่มิได้เจอกันมาหลายปีแล้วใช่หรือไม่… หยวนเต๋อหรือ?“ท่านลุง...”หลี่ว์จงเจ๋อชะงักทันที พูดมิออกว่าเป็นความตื่นเต้นหรือเป็นเพราะที่รอดชีวิตมาได้...เขารู้เพียงแค่ว่าเขาส่งข่าวถึงแล้วนายทหารหลินยังคงคิดจะต่อต้านอีก แต่เมื่อหยวนเต๋อได้ยินเสียงของหลี่ว์จงเจ๋อ เขาก็โกรธมากเขารู้มาจากแม่ทัพกู่นานแล้วว่าหลานชายของเขาติดตามท่านอ๋องอี้มาที่เว่ยโจวเขายังคิดเลยว่าจะหาโอกาสไปพบหลี่ว์จงเจ๋อ แต่ก็ถูกง
แม่ทัพกู่รู้ทักษะของหลิงเสี่ยงดีเขาสอนมาเองกับมือ แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรู แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะหายตัวอย่างไร้ร่องรอยเช่นนั้น!ดังนั้น แม่ทัพกู่จึงแอบให้พวกพ้องสืบสวนการหายตัวไปของหลิงเสี่ยงการสืบสวนนี้เผยความลับที่ซ่อนอยู่ของรองผู้บัญชาการอู๋ แม่ทัพเซี่ยและข้าหลวงหยางออกมาก่อนหน้านี้แม่ทัพกู่ก็สงสัยอยู่ว่าหลิงเสี่ยงจะถูกแม่ทัพเซี่ยจับตัวไป และอาจจะถูกขังอยู่ที่คุกในเว่ยโจวแม่ทัพกู่กำลังหาโอกาสเข้าไปในเว่ยโจวเพื่อที่จะตามหา แต่ผลก็คือโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่ว และทหารจำนวนไม่น้อยในค่ายทหารก็ติดโรคระบาดเช่นกันเรื่องการช่วยเหลือหลิงเสี่ยงจึงต้องระงับไว้ก่อนชั่วคราวแต่เหตุผลที่แม่ทัพกู่ลงมือกับรองผู้บัญชาการอู๋อย่างรวดเร็วเช่นนี้ก็เพราะว่าหลิงเสี่ยงเช่นกันแม้ว่าแม่ทัพกู่จะมิสามารถไปช่วยหลิงเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็มีสายลับของตนเองในเมืองเว่ยโจวเช่นกันเมื่อหลิงเสี่ยงหลบหนีจากแดนประหารมาได้ แล้วข้าหลวงเว่ยโจวส่งเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากไปตามจับกุมหลิงเสี่ยงนั้น การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ทำให้สายลับได้รู้ทางสายลับจึงส่งข่าวมาทันทีแม่ทัพกู่รักษาการณ์ก
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนขององค์ชายเว่ย แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็แค่ถวายเงินให้กับองค์ชายเว่ยเท่านั้นองค์ชายเว่ยมิรู้เลยว่าพวกเขาขายอาหาร เครื่องยาสมุนไพร และอาวุธให้กับฉีตะวันออกในนามขององค์ชายเว่ย!หากองค์ชายเว่ยรู้เรื่องที่พวกเขาสมคบคิดกับแคว้นศัตรูเข้า จะต้องพยายามตีตัวออกหากจากพวกเขาเป็นแน่!แล้วเขาจะพูดช่วยพวกเขาได้อย่างไร!รองผู้บัญชาการอู๋นึกถึงครอบครัวของตน พวกเขามิรู้ว่าเงินที่ตนเอากลับไปให้มีที่มาเช่นนี้!หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสมคบคิดกับแคว้นศัตรู ทั้งครอบครัวของเขาก็จะต้องถูกตัดหัว!รองผู้บัญชาการอู๋หลับตาแล้วคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังกึกก้องลูก ๆ ของเขา พ่อแม่ของเขาต่างก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย...หากรองผู้บัญชาการอู๋ถูกพากลับไปเมืองหลวง เขาจะสู้หน้ากับครอบครัวของตนได้เยี่ยงไร!รองผู้บัญชาการอู่ยิ่งคิดก็ยิ่งสิ้นหวังในช่วงหลายปีมานี้ตระกูลอู๋มิเพียงแต่ซื้อบ้านหลังใหญ่ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังซื้อพื้นที่เพาะปลูกนับหมื่นหน่วยในบ้านเกิดของพวกเขาด้วย สิ่งเหล่านี้แค่สืบหาก็จะพบได้อย่างชัดเจนเลย!แต่เมื่อเงินถึงระดับที่มั่นคงแล้วก็จะกลายเป็นชุดตัวเลขที่ไม่มีความหมาย...ห
เมื่อท่านจินต้าเห็นเขา ก็ก้าวไปแล้วเอ่ย “พระชายากำลังช่วยลู่หนานอยู่พ่ะย่ะค่ะ ลู่หนานถูกแทงหลายแผล… พระชายาทำการผ่าตัดเขามาเกือบสองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”"พระชายาบอกว่าอาการของลู่หนานมิสู้ดีนัก นางรับประกันมิได้ว่าจะช่วยลู่หนานได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ!”หัวใจของเซียวหลินเทียนจมดิ่งลงทันที ลู่หนานติดตามตนมาหลายปี ในใจของเขา พวกลู่หนานกับจ้าวซวนสนิทสนมกับตนเหมือนเป็นพี่น้อง“แม่ทัพฉินถูกหลิงฮุยตัดแขนไปครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้ามิอยากจะปกป้ององค์หญิงหก จึงบอกเรื่องทุกอย่างที่เซียวทงทำกับฉินซานและลู่หนานให้เซียวหลินเทียนฟังเซียวหลินเทียนฟังแล้วจิตใจก็เย็นชาขึ้นมาฉินซานไปช่วยพาตัวเซียวทงออกมาตามคำสั่งของตน เขามิคาดคิดเลยว่าเซียวทงจะกล้าหักหลังฉินซาน!หลังจากฟังเรื่องจากท่านจินต้าแล้ว เซียวหลินเทียนก็โกรธมากจนอยากจะทุบตีเซียวทงให้ตายหากรู้อย่างนี้ ตอนแรกเขาจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเสด็จพ่อเด็ดขาด และจะยืนกรานปฏิเสธมิให้เซียวทงติดตามตนออกมา“นางอยู่ที่ใด?”เซียวหลินเทียนตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว“พักผ่อนอยู่ตรงนั้นพ่ะย่ะค่ะ!”อาการบาดเจ็บของเซียวทงนั้นเล็กน้อยมาก ที่ร้ายแรงที่สุดคือแ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต