แชร์

บทที่ 681

ผู้เขียน: กานเฟย
พวกเขายุ่งอยู่กับการเด็ดผัก แล้วเอาถุงใหญ่ไปหาที่ที่มีน้ำมาใส่ล้างแล้วเอากลับมา

ทางด้านเซียวทงกำลังทำน้ำแกงให้ทุกคนอยู่ พอหลิงอวี๋กับเถาจื่อเดินมาพร้อมกับผักป่าในอ้อมแขน นางกำนัลคนหนึ่งเห็นเข้าจึงตะโกนเสียงดัง “พระชายาอ๋องอี้ มาแล้วหรือเจ้าคะ?”

หลิงอวี๋เอียงหัวเล็กน้อย รู้สึกค่อนข้างแปลกใจ เซียวทงก็อยู่ไม่ไกล นางกำนัลผู้นี้กลัวว่าเซียวทงจะไม่ได้ยินเลยตะโกนดังถึงเพียงนี้เลยหรือ?

ทันทีที่เซียวทงได้ยินเสียงนี้ ก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลิงอวี๋เห็นนางซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว

หลิงอวี๋จึงระวังตัวทันที

“พี่สะใภ้สี่ ท่าน… ท่านมาทำอะไรที่นี่?” เซียวทงเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก

“ข้าเก็บผักป่ามา อยากจะเพิ่มลงในน้ำแกงเพื่อเป็นการเพิ่มอาหารให้ทุกคน!” หลิงอวี๋เอ่ย

“อ๋อ พี่สะใภ้สี่ทำเถิด! ข้าจะไปพักผ่อนแล้ว!”

เซียวทงยิ้มแล้วจะเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน เจ้ายุ่งมานาน คงจะเหนื่อยแล้ว อาหารของข้าจะสุกในอีกไม่ช้า จะให้เจ้าก่อนชามหนึ่ง!”

หลิงอวี๋คว้าตัวเซียวทงไว้

เซียวทงผละออกจากหลิงอวี๋ทันที “ข้าไม่หิว พวกท่านกินก่อนเลย ข้าจะไปอาบน้ำแล้วค่อยกิน!”

หลิงอวี๋คว้าตัวนางไว้อีกครั้ง พลางตะโ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 682

    เซียวหลินเทียนหลับตาลง เขารู้สึกละอายใจกับตนเองที่เมื่อครู่คิดว่าเซียวทงเปลี่ยนไปแล้ว!คุณหนูใหญ่ที่มีนิสัยเกเรเอาแต่ใจเยี่ยงนี้ เขาคิดไปได้เยี่ยงไรว่านางลำบากแล้วจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ไปได้!“หลิงอวี๋ใส่ร้ายหม่อมฉัน! พี่สี่ ได้ยินหม่อมฉันหรือไม่!”เซียวทงเห็นพวกฉินซานมองตนด้วยสายตาไม่เชื่อ จึงตะโกนอย่างกังวล“จะเป็นการใส่ร้ายหรือไม่ ลองดูก็รู้แล้ว! ใครก็ได้ ตักน้ำแกงมาสองชาม!”เซียวหลินเทียนออกคำสั่ง จากนั้นองครักษ์คนหนึ่งก็ก้าวไปตักน้ำแกงสองชามออกมา“เซียวทง กินสิ… กินแล้วข้าจะเชื่อเจ้า!” เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา“หม่อมฉันมิกินหรอก! หลิงอวี๋ใส่ยาระบายลงไปในนี้ หม่อมฉันเห็นมากับตา ท่านพี่อย่าให้หม่อมฉันดื่มเลย!”เซียวทงมีหรือจะกล้ากิน จึงโยนความผิดไปให้หลิงอวี๋“ท่านอ๋อง กระหม่อมก็เห็นเช่นกัน พระชายาใส่ยาลงในน้ำแกงพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่อู่เวยเห็นเข้าก็รีบเอ่ยช่วยเซียวทง“ห่อยายังคงอยู่กับองค์หญิงหกอยู่เลยเพคะ!” หลิงอวี๋เตือนอย่างเย็นชาเซียวหลินเทียนหันไปหาเซียวทง “เจ้าจะเอามันออกมาเองหรือจะให้ข้าสั่งให้องครักษ์ค้นตัวเจ้า?”“พี่สี่ หม่อมฉันบอกแล้วว่ามิใช่หม่อมฉัน! เหตุใดเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 683

    องค์หญิงของราชวงศ์คนหนึ่งที่ก่อนเกิดเหตุใหญ่ในแคว้น สิ่งที่คิดมิใช่ว่าจะช่วยเหลือราษฎรเยี่ยงไร แต่กลับวางแผนกำจัดคนของตนด้วยความปรารถนาอันเห็นแก่ตัว!แต่เซียวยังคงโต้แย้ง เมื่อเห็นว่าพบผงยามากมายถึงเพียงนี้ การจะโยนความผิดไปให้หลิงอวี๋คงเป็นไปมิได้แล้ว!เซียวทงกลอกตาพลางตะโกนออกมา “ฉินรั่วซือ เหตุใดเจ้าถึงร้ายกาจถึงเพียงนี้! ข้าพาเจ้าออกมาด้วยจะได้มีประสบการณ์ แต่เจ้ากลับเอายาที่ร้ายกาจพวกนี้มา!”“เจ้าคิดจะทำร้ายผู้ใดกัน?”ฉินรั่วซือตกใจจนคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง พลางตะโกนอย่างกังวล“องค์หญิงหก ท่านจะตรัสส่งเดชมิได้นะเพคะ! ยาเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าเป็นขององค์หญิง… หม่อมฉันมิรู้เลยว่ามียามากมายถึงเพียงนี้ซ่อนอยู่ในรถม้า!”“ท่านพี่ ท่านเชื่อข้านะ ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้แน่!”ฉินรั่วซือมองไปทางฉินซานอย่างขอร้องตอนนี้นางกลัวจริง ๆ อันตรายเหล่านี้ หากโทษมาตกอยู่ที่นาง เช่นนั้นนางคงถูกตัดหัวแน่!“ท่านพี่ ข้าถูกองค์หญิงหกบีบบังคับให้มา! ข้ามาโดยที่มิได้เก็บกระทั่งอาภรณ์และกระเป๋าเดินทางด้วยซ้ำ… ยาพวกนั้นไม่ใช่ของข้าจริง ๆ!”ฉินซานเหลือบมองฉินรั่วซืออย่างเงียบ ๆ เขารู้จักน้องสาวของต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 684

    ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ เซียวทงรู้สึกเขินอายที่จะเอื้อมมือไปเกา!อดทนไว้ อดทนอีกหน่อยแล้วมันจะผ่านพ้นไป… ตราบใดที่นางสามารถอดทนได้นานกว่าฉินรั่วซือ นางก็พ้นจากอันตรายแล้ว!แต่ยิ่งอดทนก็ยิ่งทรมาน!เซียวทงอดมิได้ที่จะตะโกนออกไป “หลิงอวี๋ เอายาแก้พิษมาให้ข้า… หากพวกเจ้ามิให้ข้า ข้าจะบอกเสด็จพ่อว่าพวกเจ้าจงใจทำให้ข้าลำบากเพื่อขับไล่ข้ากลับป…”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนต่างก็มองนางอย่างเย็นชา ไม่สะทกสะท้านใด ๆเซียวทงโวยวายอยู่เป็นเวลานาน จนทนความเจ็บปวดมิได้ก็พุ่งเข้าไปเตะฉินรั่วซืออย่างบ้าคลั่ง“นางสารเลว รีบสารภาพเร็วเข้า! หากเจ้าทำให้ข้าตายไปแล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อันใด?”ฉินซานก้าวไปขวางตรงหน้าของฉินรั่วซือด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ยิ่งทำให้เซียวทงโกรธขึ้นอีกไฉนทุกคนจึงมองตนด้วยสายตารังเกียจเล่า!“หลิงอวี๋ พี่สี่ ข้าจะบอกพวกท่าน ครั้งสุดท้ายที่ให้ข้าใส่ร้ายเจ้าว่าขโมยของในงานเลี้ยงชมบุปผานั่นเป็นความคิดของฉินรั่วซือ...”เซียวทงจ้องฉินรั่วซืออย่างทั้งกังวลทั้งเกลียดชัง จากนั้นก็บอกทุกอย่างออกไป“ฉินรั่วซือเป็นคนช่วยเสิ่นจวนกระจายข่าว และนางก็เป็นคนรายงานข่าวให้จ้าวซิงด้วย… มิเช่นนั้นข้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 685

    หากเซียวทงมิสารภาพ ฉินรั่วซือก็มิรู้ว่าตนจะอดทนต่อไปได้หรือไม่!“เซียวทง ลงชื่อเสีย แล้วข้าจะให้ยาแก้พิษแก่เจ้า!”ทันทีที่เซียวหลินเทียนโบกมือ ท่านจินต้าก็ส่งคำสารภาพเป็นลายลักษณ์อักษรให้เซียวหลินเทียนนี่เป็นความเคยชินของเขาที่ปลูกฝังหลังจากติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี คำพูดไม่มีน้ำหนัก มีเพียงหลักฐานเท่านั้นที่ทำให้เซียวทงหยุดปฏิเสธได้เซียวทงรู้สึกคันจนทรมาน แต่เมื่อพิจารณาว่าตนก็มิได้ทำผิดพลาดใหญ่โตอะไร เซียวหลินเทียนคงมิกล้าจัดการตนหรอก!หลังจากนี้นางสามารถใช้เรื่องที่เซียวหลินเทียนทรมานนางบีบเอาคำสารภาพมาช่วยให้หลุดพ้นได้เซียวทงลงนามอย่างสบายใจ แล้วขอยาแก้พิษจากเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนขยิบตาให้ลู่หนาน ลู่หนานจึงจงใจเอายาแก้พิษและน้ำแกงยาระบายที่ทหารองครักษ์ตักออกมาเมื่อครู่ พร้อมเพิ่มยาระบายให้กับองค์หญิงหกเซียวทงแค่อยากจะกำจัดความทรมานจากผงคันจึงมิสนใจ พลันรับยาแก้พิษมาแล้วดื่มน้ำแกงจนหมดเกลี้ยงสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่องค์หญิงหก ดูเหมือนว่านอกจากหลิงอวี๋กับหลี่ว์จงเจ๋อแล้ว จะไม่มีสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของลู่หนานเลยหลี่ว์จงเจ๋อตะลึง ทั้งยังสงสัยว่าลู่ห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 686

    กองทัพขนาดใหญ่ออกเดินทางกันแล้ว แต่ยังมิทันที่จะลงจากภูเขา เม็ดฝนก็เริ่มตกลงมาแล้วบนภูเขาไม่มีที่กำบังฝน องครักษ์ที่เซียวหลินเทียนส่งไปสำรวจเส้นทางก่อนหน้านี้กลับมารายงานว่ามีวิหารที่ทรุดโทรมอยู่ข้างหน้าไปสิบลี้ที่เป็นที่หลบฝนชั่วคราวให้ได้ ทุกคนจึงเร่งความเร็วไปที่นั่นกันเซียวทงมิได้กินอะไรเลยทั้งวัน ดังนั้นน้ำแกงจึงเข้าสู่กระเพาะอย่างรวดเร็วนางเพียงรู้สึกว่าท้องของนางบิดและปวดขึ้นมา แล้วความอยากขับถ่ายก็เข้ามาหานางอย่างแรงเวลานี้เซียวทงยังมิได้สติว่าตนได้ดื่มน้ำแกงนั้นไป ยังคิดอยู่เลยว่ามันเป็นการตอบสนองทางสรีรวิทยาที่ไม่ได้ขับถ่ายในตอนเช้านางคิดว่าข้างนอกฝนตกอยู่ จึงอดทนรอจนถึงวิหารทรุดโทรมก่อนแล้วค่อยขับถ่ายไหนเลยจะคิดว่าทนไปได้มิเท่าไหร่ ท้องก็คำรามขึ้นมาอีก ความอยากขับถ่ายอันแรงกล้าก็พุ่งไปที่ทวารหนักอย่างรวดเร็ว"จอด ข้าอยากขับถ่าย!"เซียวทงตะโกนอย่างกังวลแต่องครักษ์ข้างนอกต่างเร่งรีบที่จะออกเดินทาง ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเช่นกัน ร่างกายของพวกเขาเปียกชุ่ม ใครจะยอมหยุดกันเล่า!ประกอบกับที่มีคำสั่งจากท่านอ๋องอี้ด้วย หากเขามิอนุญาตก็ไม่มีใครกล้าหยุดรถทั้งน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 687

    เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “แม่ทัพฉิน ข้ามิใช่คนไร้เหตุผล ข้าให้โอกาสนางได้ แต่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น! ในเมื่อฉินรั่วซือเป็นน้องสาวของเจ้า ก็ให้เจ้ารับผิดชอบแล้วกัน!”“อ้อ งานเบ็ดเตล็ดอาจมิเหมาะกับนาง… เจ้าไปดูทางพระชายาว่ามีสิ่งใดที่เหมาะกับนางหรือไม่!”“ ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซานมีความสุขมาก เขาคุกเข่าลงขอบคุณเซียวหลินเทียน เขารู้ว่าที่เซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นหนทางให้ฉินรั่วซือมีชีวิตรอดภารกิจหลักของพวกเขาในการออกเดินทางมาครั้งนี้คือการกำจัดโรคระบาด ทางด้านหลิงอวี๋ยังต้องการกำลังคนอยู่ ขอเพียงเขาขอให้หลิงอวี๋ให้โอกาสฉินรั่วซือได้ช่วย น้องสาวของเขาก็จะมีโอกาสสร้างความดีความชอบฉินซานออกมาตามหาหลิงอวี๋ จากนั้นก็อธิบายเจตนาของตนออกไป หลิงอวี๋จึงเอ่ย“นี่มิใช่งานยากอะไร ให้นางมาช่วยข้าเถิด! ข้าต้องการกำลังคนอยู่พอดี!”ฉินซานหน้าแดงทันที ไม่คิดเลยว่าฉินรั่วซือทำเรื่องเช่นนั้นไปแล้ว หลิงอวี๋ก็ยังเต็มใจที่จะให้โอกาสนางอีกก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าจะขอร้องหลิงอวี๋ทุกวิถีทาง ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋จะตอบตกลงโดยที่มิต้องให้ตนขอร้องด้วยซ้ำ“พระชายาอ๋องอี้ ข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 688

    ฉินรั่วซือลุกขึ้นยืน ยังคงมิสบายใจเล็กน้อย หลิงอวี๋จะปล่อยนางไปเช่นนี้หรือ?เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนไม่จริงเล่า?“รั่วซือ ไฉนจึงยืนตะลึงอยู่เล่า? รีบไปช่วยแม่นมหลี่อบอาภรณ์เร็วเข้า! ข้าต้องทำงานแล้ว”ฉินซานเหลือบมองฉินรั่วซือ แล้วรีบเดินไปฉินรั่วซือรีบรับอาภรณ์ที่แม่นมหลี่ส่งให้แล้วเอาไปผิงไฟนางแอบเหลือบมองหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่าไม่มีร่องรอยความรังเกียจบนใบหน้าของหลิงอวี๋ จึงค่อย ๆ รู้สึกโล่งใจอีกด้านหนึ่ง ด้านในรถม้าของเซียวทงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น นางเพิ่งจะรู้สึกว่าท้องของนางรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย จึงสั่งให้นางกำนัลเก็บข้าวของอีกคันหนึ่งให้ตนเองพักผ่อนรถม้าคันนี้มีกลิ่นเหม็นมากจนนางไม่อยากอยู่ที่นี่!แต่ฝนตกหนักมาก บนรถม้าก็เต็มไปด้วยสิ่งของ เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บมันออกไปได้อีกสักพักเลยซิ่งเอ๋อร์กระซิบ “องค์หญิงเพคะ เข้าไปหลบฝนก่อนเถิดเพคะ! เมื่อฝนซาลงบ่าวจะเก็บของให้ทันที!”เซียวทงตบหน้านางอย่างแรงพลางตะคอก“ตอนนี้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าจะข้าให้ลงจากรถได้เยี่ยงไรเล่า? จะให้ข้าลงไปให้ทุกคนเห็นเรื่องน่าขำของข้ารึ?”“รีบไปเก็บข้าวของเสีย หากยังชักช้าอีก ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตาย!”ซิ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 689

    หลิงอวี๋ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว นางทำน้ำขิงและเอาอาหารแห้งกับต้นหมาซือเสียนมาทำโจ๊กให้ทุกคน กระทั่งถึงเวลาที่นางทำงานเสร็จก็ดึกแล้วนางพาเถาจื่อ หลิงซวนและฉินรั่วซือไปแอบในรถม้าของเซียวหลินเทียนเพื่อนอนหลับทุกคนวิ่งวุ่นกันสองวันแล้ว พอนอนลงได้ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปเลยฉินซานจัดองครักษ์เฝ้ายามในเวลากลางคืน เขาอยู่ในกะแรกและพาองครักษ์ไปตรวจรอบ ๆเมื่อหันกลับไป ก็เห็นนางกำนัลขององค์หญิงหกยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่เลย ฉินซานเหลือบมองอย่างรังเกียจ แล้วก็เห็นว่าองครักษ์ที่อู่เวยพามาต่างกำลังเอนกายหลับกันอยู่ใต้ชายคาฉินซานส่ายหัวแล้วนำคนของเขาลาดตระเวนให้กว้างขึ้นฉินซานเพิ่งจะไป กลุ่มคนชุดดำสวมหน้ากากก็ย่องเข้ามาจากด้านหลังวิหารทรุดโทรมภายใต้ฝนที่ตกอย่างหนักนางกำนัลคนหนึ่งขององค์หญิงหกทนกลิ่นในรถม้าไม่ได้ จึงแอบไปอาเจียนอยู่หลังกำแพง กระทั่งนางออกมา ก็เผชิญหน้ากับคนชุดดำเหล่านี้เข้าแต่ยังไม่ทันที่นางจะกรีดร้องออกมา นางเห็นมีดแวววาวแวบผ่านมา แล้วหัวของนางก็ขาดออกไปทันที...หัวหน้าของกลุ่มคนชุดดำเตะหัวนางกำนัลเข้าไปในพงหญ้า จากนั้นก็กวาดสายตาแล้วทำสัญญาณมือ ส่วนคนที่เขาพามาก็แบ่งออกเป

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1941

    หยางหงหนิงยิ่งโวยวายก็ยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ และดึงดูดสายตาของคุณหนูคุณชายที่ยังอยู่รอบ ๆ มิได้แยกตัวออกไปให้พากันหันมามอง"ข้าบอกว่าเจ้าต่ำต้อย แต่เจ้าก็ยังบอกว่ามิต่ำต้อย! ทุกคนมาดูอันดับหนึ่งของหอปรุงโอสถผู้นี้เถิด นางคือคนต่ำต้อยไร้ยางอาย!”“นางล่อลวงเย่หรงไปดื่มสุรา และมิรู้ว่านางใช้กลอุบายอะไร จึงทำให้เย่หรงสนับสนุนนาง!”“สิงอวี๋ ข้าขอบอกไว้เลยว่า คนต่ำต้อยเช่นเจ้า ตระกูลเย่ไม่มีทางให้เจ้าเข้าไปเป็นอันขาด และถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้เจ้าเข้าไป เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น!”เมื่อคุณหนูเหล่านั้นรวมถึงบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าได้ยินเช่นนั้น ก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา“ข้าก็บอกแล้วว่านางแต่งตัวธรรมดาเช่นนั้น แล้วจะมีเงินไปศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงได้อย่างไร ที่แท้นางก็อาศัยการหลอกลวงเงินของบุรุษ!”“แต่นางก็มิได้งามอะไรนักนี่ แล้วเย่หรงจะชอบนางได้หรือ?”“เจ้ามิรู้หรอก บุรุษบางคนมิได้สนใจที่หน้าตา แต่สนใจที่รูปร่าง บางทีเย่หรงอาจจะสบายใจกับการปรนนิบัติของสตรีผู้นี้ก็เป็นได้!”คำพูดนี้เหมียวหยางเป็นคนพูด เขาพูดไปพลางยิ้มอย่างหยาบคาย ทั้งยังขยิบตาอย่างคลุมเครือให้กับพวกคุณชายที่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1940

    จงเจิ้งเฟยส่ายหัว “ข้าเองก็มิได้รู้แน่ชัดนัก ข้าแค่ฟังมาจากคนอื่นเท่านั้น เพราะพวกนางบอกกันว่าฉินตะวันตกเป็นคนละดินแดนกับพวกเรา!”“ข้าได้ยินมาเพียงว่า ทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้ว่ากันว่า ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อท้องใหญ่ราวกับกลอง และไม่มียาใดที่สามารถรักษาได้ แต่หลิงอวี๋เป็นคนผ่าท้องของนางแล้วนำถุงน้ำที่อยู่ในท้องของนางออกมา เช่นนี้จึงรักษาโรคประหลาดของนางหายขาดได้!”“ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อได้เดินทางติดตามข้าหลวงเก๋อมาที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปมิได้ผิดปกติใด ๆ นี่คือข้อเท็จจริง!”เหลยเหวินฟังแล้วก็รู้สึกสับสน “ดูเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋ก็มินับว่าเป็นคนเลว แต่เหตุใดนางจึงสังหารเฉียวเค่อเล่า!”หลิงอวี๋ฟังอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ แล้วนางก็ยิ่งอยากรู้อดีตของตนมากขึ้นไปอีกตนเป็นคนแบบใดกันแน่?เหตุใดจึงมีศัตรูมากถึงเพียงนี้?ดูท่าทางจะต้องไปถามผู้รอบรู้เสียหน่อยแล้ว บางทีการรู้เรื่องในอดีตของตน อาจจะทำให้นางฟื้นความทรงจำที่หายไปได้เร็วขึ้นก็ได้ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ ก็เห็นหยางหงหนิงพาสหายอีกสองคนเดินเข้ามา“เฟยเฟย พวกเจ้าค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1939

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเย่หรง ก็อดมิได้ที่จะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยดูภายนอกเย่หรงกำลังบอกว่าตนเป็นคนขี้ขลาด แต่แท้จริงแล้วหลิงอวี๋กลับฟังออกว่าเย่หรงกำลังทำลายความเชื่อมั่นของฮูหยินเฉียวอยู่เขาใช้คำพูดของฮูหยินเฉียวมาเตือนผู้ที่คิดจะให้เบาะแสเพื่อเงิน ให้หยุดอยู่ที่ตรงนี้ลองคิดดูเถิด ฮูหยินเฉียวบอกว่าหลิงอวี๋เป็นคนโหดเหี้ยมไร้ความปรานี และหลิงอวี๋ก็สามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ หากใครจะเปิดโปงหลิงอวี๋ เช่นนั้นหลิงอวี๋จะทนเก็บความโกรธเอาไว้มิแก้แค้นได้หรือ?เป็นดังที่คาด คำพูดนี้ของเย่หรงทำให้คนจำนวนหนึ่งมิกล้าทำต่อไปแล้ววรยุทธ์ของเย่หรงมิได้อ่อนแอ เขาเองยังบอกว่ามิสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ และสู้หลิงอวี๋มิได้ด้วยเช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นตนเอง ตนจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้หรือ?คนที่โหดเหี้ยมไร้ความปรานีเช่นหลิงอวี๋นี้ อย่าได้ไปยั่วยุนางจะเป็นการดีกว่าแม้ว่าเงินห้าล้านจะน่าดึงดูดใจ ทว่าหากชีวิตหาไม่แล้ว ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!มุมปากของเซียวหลินเทียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน เขาก็ฟังออกถึงความหมายของเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status