แชร์

บทที่ 665

ผู้เขียน: กานเฟย
ก่อนที่จักรพรรดิจะได้ตรัสอะไร เซียวหลินเทียนก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“เสด็จพ่อ ลูกขอพระราชทานอนุญาตโปรดส่งลูกไปหยุดยั้งโรคระบาดและปกป้องชายแดนด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“แม้ร่างกายของลูกจะไม่แข็งแรงนัก ขอเพียงเสด็จพ่อมิรังเกียจ ลูกก็ยินดีที่จะแบ่งเบาความกังวลเสด็จพ่อในทันทีพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวหลินเทียนเข้าใจแล้วว่าคนเหล่านี้คาดหวังให้เขาตาย

ยิ่งไปกว่านั้น เซียวหลินเทียนก็ไม่สบายใจหากหลิงอวี๋ถูกสั่งให้ไปคนเดียว!

แทนที่จะถูกบังคับให้ไปสู้ออกตัวขอรับสั่งด้วยตัวเองเพื่อให้ได้ชื่อเสียงที่ดีจะดีกว่า

เดิมเซียวหลินเทียนมิใช่คนที่ชอบพูดอะไรที่สวยหรู อันเจ๋อเคยพูดกับเขาหลายครั้งเพราะเรื่องนี้

“เจ้าแค่ก้มหน้าตอบรับทำสิ่งต่าง ๆ แต่ทุกครั้งที่ทำอะไรไปเจ้าก็มักจะโดนขโมยความดีความชอบไปหมด!”

“อาเทียน พวกเรารู้ว่าเจ้าเป็นคนซื่อตรง แต่บางครั้งเจ้าก็ทำตัวอวดดีบ้างก็ได้! เวลาที่เจ้าทำสิ่งดี ๆ ก็ควรจะให้ผู้อื่นรู้เสียบ้าง! อย่างน้อยเสด็จพ่อของเจ้าก็ควรรู้เรื่องนี้!”

เดิมเซียวหลินเทียนเคยมิเห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ช่วงนี้เขาเห็นจ้าวเจินเจินและองค์ชายคังประสบปัญหาร้ายแรงหลายครั้ง แต่กลับขอละเว้นโทษได้ด้วยเพราะความ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 666

    “ได้สิ!”หลิงอวี๋พยักหน้าและเห็นว่าเซียวหลินเทียนยังมีเรื่องต้องจัดการ เขาจึงพาหลิงซวนกลับไปก่อนระหว่างทาง หลิงอวี๋หันรถม้าไปยังภัตตาคารจี๋เสียง และไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวครั้งนี้ไม่รู้ว่าวัตถุดิบทางยาในสถาบันแพทย์หลวงจะเพียงพอหรือไม่ หลิงอวี๋เขียนใบเทียบยาและขอให้เกิ่งเสี่ยวหาวรวบรวมยาให้นางตามใบเทียบยาเกิ่งเสี่ยวหาวได้รับเงินที่เขาถูกโกงกลับมาและรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เมื่อได้ยินหลิงอวี๋ขอให้ช่วยเรื่องยา เขาก็ตบหน้าอกตนเองแล้วพูดว่า“ท่านพี่ หาได้ต้องกังวลไม่ ข้าจะไปหาซื้อตัวยาเหล่านี้มาให้ท่านโดยเร็วที่สุด! การเดินทางของท่านในครั้งนี้นับว่าอันตรายมาก เช่นนั้นโปรดรักษาตัวด้วย!”“ข้าจะพึงระวังไว้!”หลิงอวี๋มอบหมายทิศทางการผลิตของโรงงานยาให้กับเกิ่งเสี่ยวหาว และกล่าวว่า“ตระกูลจ้าวถูกฉ้อโกงเงินเป็นจำนวนมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดเจ้า แต่เจ้าต้องระวังมิให้พวกเขาแก้แค้นเจ้าทีหลังได้!”“เสี่ยวห่าว เจ้ายังมิได้ตกแต่งหอริมธาราเลยหรือ?”เกิ่งเสี่ยวหาวพูดด้วยความโกรธ “จ้าวเฉียงฮี๋วเสแสร้งได้ค่อนข้างดี แต่ข้ามิชอบคนแบบเขาเลยจริง ๆ!”หลิงอวี๋ใจสั่นและพูดว่า “เรากำลังจะไปชายแด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 667

    วันนี้เนื่องจากตำหนักอ๋องอี้ไม่จำเป็นต้องทำอาหารเย็น เหล่าคนรับใช้ได้แต่คิดว่านี่เป็นความฝัน ในตอนที่พวกเขาเข้าไปในรถม้าที่เซียวหลินเทียนเตรียมไว้!ในชีวิตนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นเจ้านายคนใดเชิญคนรับใช้ไปร้านอาหารเพื่อทานอาหารเย็นมาก่อน!อีกทั้งภัตตาคารจี๋เสียงสุดหรูเป็นที่ที่พวกเขามิอาจฝันถึง!“การแต่งกายเช่นนี้ของพวกเรา จะไม่ทำให้พระชายาต้องอับอายแน่หรือ?!”นางรับใช้พูดอย่างไม่สบายใจหมิ่นกูกำลังนั่งอยู่ในรถม้ากับนาง เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงมองดูเสื้อผ้าของนางแล้วยิ้ม“ไม่มีอะไรให้ต้องอับอาย! เจ้าลืมคำพูดของพระชายาไปแล้วหรือ นางบอกว่าตราบใดที่เสื้อผ้าสะอาด ก็ไม่สำคัญว่าจะสูงต่ำเพียงใด!”“เจ้ามิเห็นหรือว่าพระชายายามอยู่ในตำหนักสมถะเพียงใด? บางครั้งนางก็สวมผ้าหยาบเหมือนเรา นางว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ทนทานต่อสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี!”คนรับใช้ได้ยินเช่นนี้ก็โล่งใจเมื่อทุกคนมาถึงหอริมธาราและเห็นการตกแต่งที่หรูหราของร้านอาหาร พวกเขาก็มิกล้าที่จะเข้าไป“มัวยืนทำอะไรอยู่? เข้ามาเร็วเข้า! อาหารมาแล้ว ปล่อยให้เย็นจะชืดหมด!”หลิงอวี๋และหลิงซวนมาถึงก่อนเวลาและยืนอยู่ที่ประตูเพื่อทักทายแขก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 668

    เผยอวี้เงี่ยหูฟังต่อไป พยายามคาดการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะได้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของหลิงอวี๋ให้เซียวหลินเทียนได้เห็น“เหตุใดพระชายาจึงดุเจ้า?”คนบนโต๊ะถามอย่างสงสัยนางรับใช้ตัวน้อยพูดอย่างเมินเฉย “คราวที่แล้วข้ามิสบายแล้วมิได้ไปหาหมอ ข้าเกือบเป็นลมอยู่ในสวน... พระชายาจึงตีข้า ทั้งยังดุด่าข้าด้วย!”“นางบอกว่า เส้นผมและผิวหนังของร่างกายเป็นสมบัติของพ่อแม่ เมื่อเจ็บไข้ก็ควรไปหาหมอให้ทันเวลา หากยังชักช้า มีแต่จะทำให้อาการทรุดหนัก!”“นางดุที่ข้ามิดูแลตัวเอง นางว่าผู้ใดจะเสียใจที่สุดหากข้าทำร้ายตัวเองเช่นนั้น”นางรับใช้ตัวน้อยหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ข้าถูกนางดุจนร้องไห้... เดิมที่มีเพียงพ่อแม่ของข้าที่จะสนใจว่าข้าจะเป็นหรือตาย!”“ถึงแม้พระชายาจะดุด่าข้าอย่างรุนแรง แต่ข้ารู้ว่านางทำเพื่อตัวข้าเอง!”“ต่อมา พระชายาก็บอกให้ข้ากลับไปพัก อีกทั้งยังมอบใบเทียบยาให้แก่ข้าด้วย นางขอให้พี่หญิงสุ่ยหลิงจัดเตรียมยาและมอบให้ข้าอีก! นอกจากนี้ยังมิหักเบี้ยหวัดของข้าอีกด้วย!”“พระชายากล่าวว่า ตราบใดที่ทุกคนในตำหนักป่วยก็สามารถลาป่วยได้ และจะไม่มีการหักเงินรายเดือนเว้นแต่จะแกล้งป่วยเท่านั้น!”คน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 669

    เซียวหลินเทียนเป็นคนฉลาด และเขาก็เดาความตั้งใจของหลิงอวี๋ได้ในความคิดต่อมา เขาคิดอยู่พักหนึ่งว่าเกิ่งเสี่ยวหาวเป็นคนดีในระหว่างเหตุการณ์ภัยพิบัตินี้ เกิ่งเสี่ยวหาวยังได้ส่งเกวียนข้าวและยารักษาโรคไปหลายเกวียนคนชอบธรรมเช่นนี้ดีกว่าพวกฝักใฝ่ผลประโยชน์อย่างตระกูลจ้าวมาก เขาจะปล่อยให้เกิ่งเสี่ยวหาวทนทุกข์ทรมานได้อย่างไร!“เสี่ยวหาว เจ้าต้องใช้เงินในการตกแต่งที่นี่มากน้อยเพียงใด? ข้าจะให้เจ้ายืม!”เซียวหลินเทียนแสดงจุดยืนของเขาทันที “หากเจ้ากลัวว่าจะไม่มีเงินจ่าย ข้าจะเป็นผู้ถือหุ้นในภัตตาคารของเจ้าเอง!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ อันเจ๋อก็พูดว่า “หากเป็นเช่นนั้นก็นับข้าเข้าไปด้วยสิ! ข้าจะเป็นหุ้นส่วน! มาดูเถอะว่าภัตตาคารที่ข้ากับอ๋องอี้เป็นหุ้นส่วน ผู้ใดมันจะกล้าสร้างปัญหาให้เจ้าอีก?!”เผยอวี้เข้าใจในสิ่งที่เซียวหลินเทียนหมายความทันทีที่เขาได้ยินและพูดอย่างรวดเร็วว่า“เช่นนั้นข้าก็จะซื้อหุ้นด้วย! เกิ่งเสี่ยวหาว หุ้นของข้ามิต้องการเงินปันผล ต่อไปนี้เมื่อครอบครัวของข้ามากินข้าว เจ้าเพียงมิให้พวกเขาต้องจ่ายก็พอ!”“สุภาพบุรุษทั้งสาม… ขอบพระคุณมากขอรับ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เกิ่งเสี่ยวหาวก็ดีใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 670

    เมื่อหลิงอวี๋บอกลาอดีตเสนาบดีและมาที่ลานจวนของป้าสะใภ้ใหญ่เพื่อบอกลา นางเห็นป้าสะใภ้ใหญ่กำลังเก็บข้าวของของตนกล่องเล็กใหญ่กองทั่วทั้งเรือนหลิงอวี๋ถามด้วยความแปลกใจ “ท่านป้า ท่านทำอันใดอยู่หรือ?”หลิงหว่านได้ยินเรื่องนี้ในจวน นางจึงออกมากระซิบ “ท่านพี่หลิงหลิง ท่านปู่อนุญาตให้เราย้ายออกแล้ว!”“ในตอนที่ข้าพาเสี่ยวเยี่ยนจื่อกลับมา หวางซือ แม่เลี้ยงของท่านเอาแต่ด่าทอข้า นางบอกว่าข้าไร้ยางอาย ทั้งยังดุด่าท่านแม่ข้าว่าตามใจข้าจนเสียคน!”“เมื่อเรื่องถึงหูท่านปู่ ท่านปู่จึงขอให้ท่านแม่พาข้าออกไป! ทั้งยังให้เงินแม่ข้าด้วย!”“มิต้องห่วงนะเจ้าคะ เรามิได้ย้ายไปไหนไกล เพียงแค่ย้ายไปที่ถนนด้านหลังจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนเท่านั้น! เราสามารถกลับมาดูแลท่านปู่ได้ตลอดเวลา!”“เดิมทีท่านปู่ของข้าซื้อบ้านให้ท่านพี่ แต่เขาบอกว่าท่านพี่ยังมิต้องใช้ที่นั่น เช่นนั้นจึงให้เราไปอยู่ที่นั่นก่อน! แล้วจึงจะซื้อหลังใหม่ให้ท่านในภายหลัง!”หลิงอวี๋พยักหน้า เห็นว่าควรย้ายออกไปจะดีกว่า เพื่อที่ป้าสะใภ้ใหญ่ของนางและหลิงหว่านจะได้ไม่ถูกหวางซือโขกสับราวกับคนรับใช้หากเป็นขุนนางใต้เท้าก็ว่าไป แต่เสี่ยวเยี่ยนจื่อนั้นไร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 671

    องค์หญิงหกเซียวทงมิได้ถือว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่อันตราย!จุดประสงค์ของนางนั้นง่ายมาก มีเพียงสองประการเท่านั้นประการแรก ใช้การเดินทางนี้เพื่อบ่มเพาะความรู้สึกกับฉินซานประการที่สอง เพิ่มปัญหาให้กับหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเซียวทงถูกท่านอ๋องเฉิงเฆี่ยนตีไปแล้วห้าครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงถึงชีวิต แต่เจ็บปวดมากจนนางต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสองวันกว่าจะลุกจากเตียงได้นางไม่เคยถูกทุบตีแบบนี้เลยทั้งชีวิต สิ่งที่ทำให้นางยิ่งโกรธก็คือการถูกทุบตีเยี่ยงนี้… มันขายหน้าไปถึงบ้านท่านยายด้วย!หากแค้นนี้มิได้ล้างแค้น เซียวทงจะกล้ำกลืนฝืนทนได้เยี่ยงไร!ดังนั้น เมื่อรู้ว่าฉินชานจะพาเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ไปที่ชายแดน เซียวทงจึงรู้สึกประทับใจนางไม่สามารถฆ่าหลิงอวี๋ในเมืองหลวงได้ ก็ตามไปก่อกวน ทำให้หลิงอวี๋รักษาผู้ป่วยดี ๆ ไม่ได้ แล้วทำงานที่เสด็จพ่อมอบหมายให้ไม่สำเร็จถึงเวลานั้น ตนเองไม่ต้องลงมือเอง เสด็จพ่อก็จะต้องฆ่านางเป็นแน่!เซียวทงคิดแล้วไปอ้อนขอเสด็จพ่อให้ตนเองตามเซียวหลินเทียนไป หลังจากพูดจาหว่านล้อมอยู่เป็นเวลานานในที่สุดก็ได้รับความยินยอมจากเสด็จพ่อแล้วเซียวทงพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 672

    หลี่ว์จงเจ๋อเดินทางด้วยครั้งนี้ในฐานะผู้ช่วยของฉินซาน!ตำแหน่งนี้หลี่ว์จงเจ๋อไปทำการขอให้หลี่ว์เซียงช่วยให้ตนได้มาแรกเริ่มหลี่ว์เซียงไม่เห็นด้วย จึงเอ่ยตรง ๆ “ข้ามีบุตรชายเพียงคนเดียว ตอนนี้ชายแดนอันตรายมาก หากเจ้าไป ก็อาจจะไม่มีชีวิตกลับมาได้อีก!”“หากเจ้ามีภัยร้ายใด ๆ จะให้ข้าไปอธิบายให้ท่านแม่กับท่านยายของเจ้าฟังเยี่ยงไรเล่า?”หลี่ว์จงเจ๋อเอ่ยอย่างจริงใจ “ท่านพ่อ ข้าเดินตามเส้นทางของขุนนางฝ่ายบู๊ ตอนแรกท่านพ่อกับท่านยายต่างก็เห็นด้วยกันหมด! ในเมื่อเป็นขุนนางฝ่ายบู๊แล้ว เช่นนั้นก็จะต้องมีกระทบกระทั่งในสนามรบอย่างหลีกเลี่ยงมิได้อยู่แล้วสิขอรับ!”“ท่านพ่อ ท่านดูเถิดว่า ในราชสำนักยามนี้ขาดแคลนขุนนางฝ่ายบู๊ โรคระบาดครั้งนี้องค์จักรพรรดิยังต้องให้ท่านอ๋องอี้ที่ขาทั้งสองข้างไม่คล่องตัวออกไปรับผิดชอบหน้าที่นี้เลย!”“ลูกมิกล้าเอ่ยว่าราชสำนักอยู่มิได้หากไม่มีลูก แต่หากทุกคนคิดถึงแต่ความปลอดภัยของตนเอง แล้วใครจะปกป้องบ้านเมืองของเราเล่าขอรับ!”“บอกตามตรง การเดินทางในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสของข้าด้วย… หลังจากเสร็จภารกิจกลับมาข้าก็จะเลื่อนตำแหน่งขึ้นอีกได้… ท่านพ่อ ท่านคงมิอยากให้ลูกเป็นแม่ท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 673

    เซียวทงมิเห็นด้วยกับคำสั่งการนั้น เร่งความเร็วเต็มที่ไปแล้วรถม้าจะนั่งได้สบายหรือ?นางเอ่ยกับเซินไห่อย่างเกียจคร้าน “ไปบอกแม่ทัพฉิน เหตุใดต้องรีบร้อนถึงเพียงนั้น ให้คนไปแจ้งพี่สี่ของข้าก่อนสิ พี่สี่ของข้าจะรอเราอยู่ที่จุดพักอย่างแน่นอน!”เซินไห่ก้มหน้าลงพลางเอ่ยตรง ๆ “แม่ทัพฉินบอกว่า เวลามันล่าช้าไปแล้วเราจำเป็นต้องตามกลุ่มของท่านอ๋องอี้ไปให้ทันในช่วงเวลาอาหารกลางวันพ่ะย่ะค่ะ!”“แม่ทัพฉินบอกว่า หากองค์หญิงรู้สึกว่าทนความยากลำบากมิไหว ก็สามารถส่งองค์หญิงกลับได้ในตอนที่ยังมิได้ออกจากเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวทงได้ยินก็ขมวดคิ้ว หลังจากครุ่นคิดแล้วจึงเอ่ย “ผู้ใดบอกว่าข้าทนความยากลำบากมิได้? จะเร่งความเร็วเต็มที่ก็ทำเลยสิ!”เซินไห่ยิ้มอย่างเย็นชา พลางตะโกนเสียงดัง “เดินหน้าเต็มความเร็ว!”พวกเขาเคลื่อนขบวนไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่ เซียวทงถูกแรงกระแทกของรถม้าทำให้เซไปเซมาทันที ฉินรั่วซือกับนางกำนัลทั้งสองรีบจับนางเอาไว้ จากนั้นพวกนางก็เกาะกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อไม่ให้ถูกกระแทกจนบวมช้ำหลังจากที่ต้องนั่งรถม้าโคลงเคลงกระแทกไปมาเป็นเวลาหลายชั่วยาม ในที่สุดพวกเขาก็ตามทันกลุ่มของเซียวหลิ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1802

    ทางด้านเถ้าแก่เจียง ท่านป้าวบอกว่าจะช่วยหลิงอวี๋ตามหาน้องสาว จึงจะให้หลิงอวี๋อยู่ที่นี่สักสองสามวัน เขาเห็นว่าหลิงอวี๋ก็ดูท่าทางเห็นด้วยเช่นกัน จึงมิได้ใส่ใจ ให้หลิงอวี๋อยู่ที่นี่ส่วนตนก็พาเสี่ยวซานเอ๋อร์กลับในตอนที่ยังมิรู้ถึงบทบาทของหลิงอวี๋ที่มีต่อหวงฝู่หลินอย่างแน่ชัดนี้ ท่านป้าวจึงจัดให้หลิงอวี๋ไปอยู่ที่เรือนทางสวนด้านหลังที่อยู่ห่างออกไป แต่แม้ว่าจะห่างไกลก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มิได้เพิกเฉยหลิงอวี๋ไปท่านป้าวมิได้เอ่ยถึงเรื่องที่จะช่วยหลิงอวี๋ตามหาน้องสาว หลิงอวี๋ก็มิอยากจะพูดเช่นกัน นางรู้สึกว่าตนตกอยู่ในเงื้อมมือของหวงฝู่หลินเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วหากตามหาน้องสาวเจอ ก็จะเป็นการเพิ่มคนที่หวงฝู่หลินจะนำมาข่มขู่ตนมากขึ้นอีกคนหลังจากนี้เมื่อตนสามารถหลุดพ้นออกมาได้ ก็ค่อยไปตามหาน้องสาวแล้วกันหลิงซินเห็นว่าหลิงอวี๋จัดการเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้ท่านป้าวที่เป็นดั่งหอคอยเหล็กผู้นั้นเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนางไปได้แล้ว ความหวาดกลัวในใจก็ลดลงไปมากนางรู้สึกว่า ความสามารถของคุณหนูผู้นี้มีมากกว่าเถ้าแก่เจียงอีก การติดตามนางดูน่าจะไม่มีอันตรายใด ๆกระทั่งเถ้าแก่เจียงกลับไปแล้ว หล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1801

    หน้ากากผิวหนังมนุษย์นั้นเมื่อตรวจสอบก็เปิดเผยออกมาทันที เมื่อแม่นมหน้าเหมือนม้าผู้นั้นฉีกหน้ากากออกจากใบหน้าของหลิงอวี๋ ก็เผยให้เห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลจากมีด“เหอะ ๆ รีบไปบอกนายใหญ่เสียว่า ข้าเจอคนที่เขาตามหาแล้ว!”แม่นมหน้าเหมือนม้าส่งหน้ากากผิวหนังมนุษย์ให้แม่นมอีกคนอย่างพึงพอใจ จากนั้นแม่นมผู้นั้นก็รีบวิ่งออกไปแจ้งข่าวหลิงซินถูกแม่นมคนหนึ่งกดอยู่ที่พื้นจนมิสามารถเคลื่อนไหวได้ และนางก็มองคุณหนูที่ตนเพิ่งจะรู้จักมิถึงสองวันดีกลายเป็นอีกคนไปอย่างตกตะลึงหลังจากที่หลิงอวี๋ถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว ทางด้านแม่นมหน้าเหมือนม้าก็มิได้ทำให้นางต้องลำบากอีก จึงให้พวกแม่นมปล่อยหลิงอวี๋พวกนางเพียงแค่ต้องเฝ้าหลิงอวี๋เอาไว้ มิให้นางหนีไปได้ก็พอแล้วเมื่อหลิงอวี๋ถูกพยุงขึ้นมา หัวใจที่ว้าวุ่นของนางก็ค่อย ๆ สงบลงหวงฝู่หลินไม่มีทางให้ตนตายไปก่อนที่เขาจะได้ตำรับยาห้ามเลือดไปหรอก!บางทีตนอาจจะยังสามารถพึ่งพายันต์ช่วยชีวิตนี้ทำให้หวงฝู่หลินปล่อยตนไปได้อยู่เรื่องการขโมยนั้นมีคำสารภาพของหัวหน้าเสิ่นอยู่ ก็น่าจะสามารถอธิบายให้ชัดเจนได้หลิงอวี๋ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความมั่นใจ จึงนั่งลงไป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1800

    เผยอวี้ก็เคยเห็นคนที่ผ่านอุปสรรคมามายมากเช่นกัน หางตาของเขาเห็นพวกป้าวเฉิงมองตนกับหลิงอวี๋อย่างแปลกประหลาดก็มิกล้าพูดอะไรอีกเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมรับ เผยอวี้ก็เอ่ยออกไป “เจ้าชื่อเจียงเสี่ยวยาหรือ เช่นนั้นข้าก็คงจำคนผิดแล้ว แผ่นหลังของเจ้ากับของสหายข้าดูค่อนข้างคล้ายกัน เมื่อครู่ข้าคิดว่าเจ้าคือนาง!”“ขอโทษด้วย ข้าบุ่มบ่ามไปหน่อย!”เผยอวี้ประสานมือควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นของตนเอาไว้ แล้วเดินออกไปใบหน้าสามารถปลอมแปลงกันได้ แต่เสียงของหลิงอวี๋กับแผ่นหลังของนางทำให้เผยอวี้มั่นใจว่าคนตรงหน้าก็คือหลิงอวี๋มิรู้ว่าฮองเฮาไปตกอยู่ในมือของป้าวเฉิงได้อย่างไร?คนที่เขาพามาด้วยตอนนี้มีมิมากนัก แม้ว่าจะพยายามพาตัวฮองเฮาไป ก็คงจะหนีมิพ้นมือของป้าวเฉิงตอนนี้เขามิอาจแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ รอกลับไปก่อนแล้วค่อยหาคนมาช่วยหลิงอวี๋ดีกว่าอีกทั้งยังต้องคิดวิธีส่งจดหมายไปให้เซียวหลินเทียนให้เขารีบกลับมาอีกหลิงอวี๋เห็นว่าเผยอวี้มิได้ซักถามอะไรอีก ก็แอบถอนหายใจโล่งอก แล้วหันหลังตามพวกเถ้าแก่เจียงไปแต่หลิงอวี๋กับเผยอวี้ไม่มีทางคาดคิดเลยว่า เหตุการณ์เล็ก ๆ นี้กลับอยู่ในสายตาของป้าวเฉิงป้าวเฉิงมิใช่ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1799

    เถ้าแก่ป้าวรู้จักเผยอวี้ก็เพราะเรื่องที่เซียวหลินเทียนซื้อทาสหญิงเกวียนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว ลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้มิได้พบบ่อย ๆ ดังนั้นเถ้าแก่ป้าวจึงไปสืบมาเล็กน้อยและได้รู้ที่มาของเซียวหลินเทียนอย่างชัดเจนแม้ว่าเถ้าแก่ป้าวจะมิได้ทำงานให้เซียนหลินเทียน แต่ว่าถิ่นที่เขาอยู่นั้นเป็นของเยวี่ยใต้และมู่หรงเหยียนซงกษัตริย์ของเยวี่ยใต้ก็สนิทกับเซียวหลินเทียนราวกับพี่น้องกัน หากมิถึงขั้นจำเป็นจริง ๆ เถ้าแก่ป้าวก็มิอยากจะเป็นศัตรูกับราชสำนัก ดังนั้นจึงมีความเกรงใจต่อพวกของเซียวหลินเทียนอยู่พอเป็นพิธี“แม่ทัพเผย ท่านมาได้อย่างไร? หรือว่าท่านเองก็สนใจคนที่ถูกสังหารนี้?”ป้าวเฉิงหัวเราะเหอะ ๆ“ผู้ว่าการอำเภอหยางของพวกเจ้าได้ยินว่ามีคนถูกสังหารจึงมาดู ส่วนข้าก็มิได้มีธุระอะไรจึงตามมาดูเรื่องสนุก!”คนที่อยู่ข้าง ๆ เผยอวี้ก็คือผู้ว่าการอำเถอในแถบนี้ แม้ว่าจะมีป้าวเฉิงอยู่และตำแหน่งของเขานั้นก็แทบจะไม่มีความหมาย แต่สิ่งที่เขาควรจะแสดงตัวก็ต้องแสดงตัวเสียหน่อย“ท่านป้าว ท่านรู้จักคนผู้นี้หรือ?”ผู้ว่าการอำเภอหยางเอ่ยถาม“มิรู้จัก ก็แค่ลูกน้องของข้ามาพบว่ามีคนถูกสังหาร ข้าเองก็มาดูเรื่องสนุกเช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1798

    หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดนี้ ใจก็กระตุกไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปลูบหน้าของตนโดยมิรู้ตัวคนที่ป้าวเฉิงช่วยตระกูลหวงฝู่ตามหาก็คือตน!แล้วคนที่เขาบอกว่าถูกสังหารไปแล้วนั่นคือใครกัน?หรือว่าจะเป็นหัวหน้าเสิ่นกับเสี่ยวเจียง?หลิงอวี๋เหงื่อตก หากเป็นพวกเขาสองคนที่ถูกสังหารไปจริง ๆ แล้วคนที่สังหารพวกเขาคือใคร?หากมือสังหารพบว่าหัวหน้าเสิ่นมิได้สังหารตน จะกำลังตามหาตนอยู่หรือไม่?เถ้าแก่เจียงที่อยู่ด้านหน้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของป้าวเฉิงกับตระกูลหวงฝู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยออกไป “คนตายไปแล้วก็ส่งศพไปให้เจ้าวังก็จบแล้ว เหตุใดพี่ใหญ่ป้าวต้องไปตรวจสอบด้วยตนเองเล่า!”“เจ้ามิเข้าใจ คนที่เจ้าวังต้องการคือสตรีผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นมีความสำคัญต่อเจ้าวังมาก เจ้าวังบอกมาว่าขอเพียงข้าตามหานางพบและยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะให้สมบัติก้อนโตกับข้า!”ป้าวเฉิงเอ่ยอย่างเป็นทุกข์ “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ คนที่ถูกสังหารจะเป็นสตรีผู้นั้น เช่นนั้นก็มิสามารถไปอธิบายกับเจ้าวังได้แล้ว!”“จริงสิ บอกเรื่องของเจ้ามาก่อนเถิด เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”เถ้าแก่เจียงจึงหันไปเรียก “น้องหญิง มานี่!”

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1797

    มิต้องให้เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อพวกของใช้ประจำวัน เพราะเมื่อฮูหยินเจียงรู้ว่าเถ้าแก่เจียงให้ผู้มีพระคุณมาอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ของตระกูล นางก็รีบให้แม่นมข้างกายเอาผ้าห่มและเหล่าของใช้ประจำวันบางส่วนไปให้ด้วยตนเอง หลิงอวี๋เลือกให้ห้องทางทิศตะวันออกเป็นห้องนอน หลิงซินเองก็มีห้องนอนของตนเช่นกันหลิงอวี๋อยู่คนเดียว หลิงซินแค่ต้องรับใช้งานก็พอแล้วหลิงซินรู้สึกขอบคุณหลิงอวี๋ จึงเช็ดหน้าต่างห้องนอนทั้งสองห้องอย่างขยันขันแข็งจนสะอาดดึกมากแล้วนางก็ยังคงทำงานยุ่งอยู่“หลิงซิน ไปพักผ่อนเถิด แล้วก็นำยาไปทาหน้าเจ้าเสีย!”หลิงอวี๋นำยาทาบาดแผลที่เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อมาส่งให้หลิงซินพลางเอ่ย “เจ้าทาหน้าแล้วพักผ่อน วันพรุ่งยังต้องไปพบนายใหญ่ป้าวกับข้าอีก!”“หลิงซิน ข้าเพิ่งมาที่นี่ มิได้เข้าใจและคุ้นเคยกับคนที่นี่นัก หากมีอะไรที่ข้าทำมิถูกต้องเจ้าก็อย่าลืมเตือนข้าด้วย!”“เจ้าค่ะคุณหนู!”หลิงซินรับยาทาบาดแผลมาอย่างขอบคุณ เดิมทีอยากจะรับใช้จนหลิงอวี๋หลับก่อนค่อยไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋ไล่ออกมาเสียก่อน“ข้ามิได้อ่อนแอบอบบางถึงเพียงนั้น เจ้ามิต้องมารับใช้ข้า ประเดี๋ยวเจ้าค่อย ๆ คุ้นเคย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1796

    ทันทีที่เถ้าแก่เจียงได้ยินก็มิสนใจแล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “คุณหนูเจียงคงจะมากับครอบครัวใช่หรือไม่? แล้ววางแผนว่าจะอยู่ที่นี่กี่วันหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ย “ข้ามากับน้องสาวข้า แต่ผลก็คือแยกจากกันไปแล้ว! ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะตามหาน้องสาวข้าเจอ!”วันนี้เสี่ยวซานเอ๋อร์พบกับหลิงอวี๋ได้เงินมาหลายสิบตำลึง หากทำงานต่อไปก็จะมีตำแหน่งแล้ว เขาจึงรีบช่วย“พี่ใหญ่เจียง เดิมทีคุณหนูเจียงคิดว่าจะขายกำไลหยกแล้วไปหานายใหญ่ป้าวให้ช่วยตามหาน้องสาว ท่านกับนายใหญ่ป้าวมีมิตรไมตรีต่อกัน ท่านช่วยคุณหนูเจียงพูดหน่อยเถิด!”“เรื่องนี้จะไปยากอะไร วันพรุ่งข้าจะพาเจ้าไปพบกับพี่ใหญ่ป้าว!”เถ้าแก่เจียงเอ่ยขึ้นมาอีก “ข้ายังมีเรือนว่างอยู่ หากคุณหนูมิรังเกียจก็อย่าไปพักที่โรงเตี๊ยมเลย ย้ายมาอยู่ในเรือนข้าเถิด!”เดิมทีหลิงอวี๋คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดว่ามิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะหาเสี่ยวอวี้พบ ตนก็มีเงินอยู่มิมาก จะให้พักโรงเตี๊ยมตลอดก็คงมิใช่เรื่องนางจึงเอ่ย “เรือนนั้นของเถ้าแก่เจียงให้ข้าเช่าอยู่ชั่วคราวเถิด ข้าจะจ่ายค่าเช่า!”เถ้าแก่เจียงหน้านิ่งไป แล้วเอ่ยอย่างมิพอใจ “คุณหนูเจียงพูดอะไรกัน เจ้าช่วยลู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1795

    ทั้งสามคนเข้าไปนั่ง จากนั้นเถ้าแก่เจียงก็พูดออกมาตามตรง “มิทราบว่าผู้มีพระคุณมาหาเจียงโหม่วด้วยเรื่องใดหรือ? ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหย่งเอ๋อร์ไว้ มิว่าจะเป็นเรื่องอะไรเจียงโหม่วก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!”หลิงอวี๋นำกำไลหยกออกมา แล้วยิ้มจาง ๆ “ข้าขาดเงินค่าเดินทาง จึงมาขายเครื่องประดับ เถ้าแก่เจียงลองดูว่าจะได้เงินสักเท่าไร หากเหมาะสมข้าก็จะขายให้เถ้าแก่เจียง!”เถ้าแก่เจียงรับกำไลหยกมาดู กำไลหยกนี้คุณภาพพอได้ ตามปกติแล้วเขาให้ราคาหนึ่งพันตำลึงก็ถือว่าสูงมากแล้ว!แต่นี่เป็นกำไลหยกของผู้มีพระคุณ เถ้าแก่เจียงหรือจะกล้ากดราคา“สามพันตำลึง!”เถ้าแก่เจียงตอบออกไปหลิงอวี๋ตะลึง หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้ได้ราคาเพียงสองพันตำลึงเถ้าแก่เจียงให้ตนสามพัน เห็นได้ชัดว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจหลิงอวี๋หรือจะเอาเปรียบเล็ก ๆ เช่นนี้ เมื่อครู่ที่ช่วยเหลือเจียงหย่งก็มิได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรใด ๆ เป็นการช่วยเหลือง่าย ๆ เท่านั้น“สองพัน เถ้าแก่เจียงเอาเงินมาเถิด! กำไลหยกนี้เป็นของท่านแล้ว!”เสี่ยวซานเอ๋อร์อยู่ด้านข้างก็ขยิบตาให้หลิงอวี๋มิหยุด คุณหนูใหญ่ผู้นี้โง่หรือไม่ มีแต่คนต่อรองราคาให้มากขึ้น มีที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1794

    เถ้าแก่เจียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็กำลังคิดจะด่า หลิงอวี๋ก็อุ้มเจียงหย่งมาและหันหลังให้ตนแล้วสองมือของนางกอดรัดอยู่ตรงช่วงท้องของเจียงหย่ง มือหนึ่งกำหมัดแล้ววางด้านหัวแม่มือของกำปั้นนั้นอยู่ที่ตรงอกและตรงท้องของเจียงหย่งส่วนมืออีกข้างของหลิงอวี๋ก็จับมือที่กำหมัดไว้แล้วรีบกระทุ้งที่ช่วงท้องของเจียงหย่งอย่างแรงการกระทำนี้ทำเอาเถ้าแก่เจียงโกรธจนกำหมัดไปทุบที่หัวของหลิงอวี๋“ให้ตายสิ นี่เป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายกันแน่ วางลูกชายข้าลงเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หลิงอวี๋อุ้มเจียงหย่งหลบมา พลางตะคอกใส่เถ้าแก่เจียง “ข้ากำลังช่วยลูกท่านอยู่ ท่านมิเห็นหรือว่าเขากำลังจะตายแล้ว?”“ท่านอย่ามารบกวนข้า หากข้ารักษาเขาตาย ข้าจะชดใช้เขาด้วยชีวิต!”แม้ว่าฮูหยินเจียงจะดูมิเข้าใจวิธีการช่วยเหลือของหลิงอวี๋ แต่ลูกชายใกล้จะตายแล้วจริง ๆ ขอเพียงมีความหวังเพียงเล็กน้อยนางก็จะไม่มีทางยอมแพ้นางดึงเถ้าแก่เจียงไว้หลิงอวี๋ก็ใช้วิธีเดิมกระทุ้งเข้าที่ช่วงท้องของเจียงหย่งต่อไปหลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้ง เจียงหย่งก็ไอแค่ก ๆ แล้วถั่วลิสงเม็ดหนึ่งที่มีเลือดติดอยู่ก็หลุดออกมาจากปากเขาและกระเด็นลงส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status