“ชาขององค์หญิงหกดีที่สุดจริง ๆ คงน่าเสียดายแย่หากเหล่าองค์ชายมิได้ลิ้มลอง!”จ้าวเจินเจินก็กล่าวยิ้มน้อย ๆ องค์ชายคังตอบอย่างรู้กัน “เช่นนั้นก็ต้องลิ้มลองสักหน่อย! ขอเชิญท่านอ๋องผิงหนาน พระชายาผิงหนานและพวกรัฐทายาทอันมาด้วยกันเถิด! มีสิ่งดี ๆ ก็ต้องแบ่งปันทุกคน!”เซียวทงพลันให้นางกำนัลไปเชิญคน และในไม่ช้า คนกลุ่มใหญ่ก็ติดตามนางกำนัลมาแล้วเดิมทีหลิงหว่านกับอันซินไม่อยากมา นางกำนัลเจาะจงบอกว่าองค์หญิงหกมีเรื่องอยากคุยกับพวกนาง พวกนางจึงจำใจต้องตามมา“ที่เรือนด้านหลังข้าให้คนเตรียมของว่างน้ำชาสุดประณีตไว้แล้ว มันช่างเข้ากับชาดียิ่งนัก ต้องทำให้พวกเจ้าดื่มจนสบายอารมณ์แน่นอน!”เซียวทงตั้งใจให้นางกำนัลเชิญฉินซานมาเช่นกัน นางกล่าวยิ้ม ๆ ต่อฉินซาน“ที่งานชมบุปผาในวันนี้ของตัวข้าจัดขึ้นได้สำเร็จโดยไร้การจลาจล เป็นเพราะความแข็งขันของแม่ทัพฉินมิเสื่อมคลาย!”“แม่ทัพฉิน ประเดี๋ยวข้าขอรินชาให้ท่านเพื่อแสดงความขอบคุณด้วยตัวข้าเอง!”ฉินซานตอบอย่างใจเย็น “นี่คือหน้าที่ของกระหม่อม กระหม่อมมิควรได้รับคำขอบคุณเช่นนี้จากองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!”กลุ่มคนคุยเฮฮากันพลางเดินเข้าสวนดอกไม้เล็ก ๆ เมื่อมาถึงห
“สวรรค์! พระชายาอ๋องอี้ผู้สง่า คิดมิถึงเลยว่าจะกระทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ในตอนกลางวันแสก ๆ!”ไม่รู้ว่าเป็นเสียงผู้ใดร้องทักหลิงหว่านที่ตามหลังอย่างใกล้ชิดเมื่อได้ยินก็ตกใจไปทันที!นางหมายฝ่ากลุ่มคมเบียดเข้าไปดู แต่รู้สึกกระวนกระวายใจนักที่กลับถูกคนมากมายขวางข้างหน้าไว้!เมื่อเซียวทงเห็นหลิงอวี๋ผมเผ้าสยายและอยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนใจ จึงอดยกยิ้มย่ามใจมิได้หลิงอวี๋ที่ถูกจับได้ว่ากำลังล่วงประเวณี วันนี้เจ้าจะยังเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้อีกหรือ?“หลิงอวี๋… นางหญิงสำส่อน! เจ้ากระทำเช่นนี้ละอายใจต่อเสด็จพี่สี่หรือไม่?”เซียวทงเรียกขึ้นอย่างปวดใจ “ขนาดอยู่ในงานชมบุปผาของข้า เจ้ายังบังอาจทำสิ่งเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์ที่นี่! เจ้า… เจ้าทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้าโดยแท้!”“ท่านปู่เฉิง ท่านต้องตัดสินเพื่อเสด็จพี่สี่เพคะ! วันนี้ต้องสังหารนางชั่วหลิงอวี๋ ไม่อาจให้นางมีชีวิตอยู่ทำราชวงศ์ขายหน้าได้เพคะ!”พระสนมหรงก็กระโจมเข้ามาอย่างเดือดดาล “หลิงอวี๋ นางหญิงสำส่อน… เจ้ากล้าดีอย่างไรมาทำเรื่องโสมมเช่นนี้!”“ท่านอ๋องเฉิง นี่มันช่างคาหนังคาเขายิ่งนัก วันนี้ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับเทียนเอ๋อร์นะเพคะ สังหารห
องค์ชายคังยิ้มกล่าวย่ามใจ “น้องสี่ ทุกคนตาสว่างแล้ว! หลิงอวี๋กระทำสิ่งเลวทรามเช่นนี้นั้นมิคู่ควรกับมงกุฎดอกโบตั๋นเสียเลย!”“การเดิมพันในวันนี้เป็นเจ้าแพ้! ม้ากีบขาวของข้ามิขอส่งให้เจ้า… เจ้าอย่าลืมส่งดาบสามมังกรให้ข้าด้วยแล้วกัน!”ขณะที่เซียวทงกับคนอื่น ๆ กำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์หลิงอวี๋ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเหยียดหยามแผ่มาข้างหลังของทุกคน“อ้าว… หากเดิมพันก็ต้องยอมรับพ่ายสิ ขนาดเด็กยังรู้ความเลย!”“ทำไม องค์ชายคังแพ้ไม่เป็นรึ เลยหาคนมาใส่ไคล้ตัวข้า?”หลิงอวี๋?เมื่อได้ยินเสียงนี้กะทันหัน คนจำนวนมากพลันตกใจราวเห็นผี!เสียง… เสียงนี้ทำไมถึงดังมาจากข้างหลังพวกเขาเล่า?หลิงอวี๋กำลังฟุบกับพื้นแกล้งหมูตายหน้าด้าน ๆ อยู่มิใช่รึ?เซียวหลินเทียนหันหน้ามาคนแรกและหลังจากพบว่าเป็นหลิงอวี๋ มุมริมฝีปากของเขาจึงเผยรอยยิ้มขึ้นทันทีเป็นไปตามคาด!หลิงอวี๋มิใช่สตรีโง่เขลาอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป!นางในยามนี้ ไม่เพียงฉลาดปราดเปรื่อง แต่ยังงดงามมีสง่า นางจะเล่นชู้ได้อย่างไร!ที่เขานิ่งเงียบ เป็นเพราะอยากให้โอกาสคนพวกนี้แสดงละครเท่านั้น!ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็สงสัยว่าอาจมีเล่ห์อยู่เบื้องห
คราวนี้เซียวทงถูกตีจนมึน หลังจากที่ตั้งสติได้ นางก็จ้องหลิงอวี๋อย่างคับแค้นใจพลางตะโกน“หลิงอวี๋ เจ้าตีข้าด้วยเหตุใด? หากวันนี้เจ้ามิให้ข้าตีคืน ข้าจะฆ่าเจ้า!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “ท่านยังมีหน้ามาถามหม่อมฉันอีกหรือ? หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้ของท่าน! ท่านเอ่ยวาจาให้ร้ายข้าว่าลักลอบเป็นชู้โดยไม่มีหลักฐาน หม่อมฉันยังตีท่านมิได้อีกหรือ!?”“เซียวทง ท่านบอกหม่อมฉันมาว่าสิ่งใดคือการที่บอกว่า เห็น ๆ อยู่ว่าคนข้างในคือหม่อมฉัน?”“เหตุใดท่านจึงมั่นใจนักว่าคนที่อยู่ข้างในน่าจะเป็นหม่อมฉัน?”“หรือว่า... ที่นางกำนัลเชิญหม่อมฉันมาดื่มชากับท่านนี่เป็นแผนของท่านใช่หรือไม่! ที่เสิ่นจวนทำน้ำชาหกเปียกชุดของหม่อมฉันก็เป็นแผนของท่าน! ที่จัดแจงให้หม่อมฉันไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่เรือนด้านหลังก็เป็นแผนของท่าน! ภาพที่คนสองคนข้างในแอบทำอะไรกันนั่นอีก ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนของท่านใช่หรือไม่!?”“บอกมา! เรื่องในวันนี้เป็นแผนการที่ท่านจัดวางขึ้นมาเอง หรือว่าสมคบคิดกับคนอื่นแล้วทำด้วยกัน?!”หลิงอวี๋ก้าวไปข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกลิ่นอายสังหารร้ายแรง ทำให้เซียวทงถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวนี่เป็นครั้งแร
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ท่านอ๋องเฉิงก็มององค์หญิงหกกับองค์ชายคัง แล้วใบหน้าก็มืดมนลงหากเมื่อครู่เขายังมิเข้าใจ เช่นนั้นบัดนี้ท่านอ๋องเฉิงก็เข้าใจความจริงของเรื่องนี้จากคำพูดของหลิงอวี๋แล้ว!ทุกเรื่องที่องค์หญิงหกทำในวันนี้ล้วนนำความอับอายมาสู่ราชวงศ์ทั้งสิ้น!ก่อนหน้านี้ที่มุ่งเป้าไปที่หลิงอวี๋ในระหว่างการแข่งขันความสามารถ เขายังเห็นว่ามันเป็นแค่ความแค้นกับแผนการของพวกสตรีเท่านั้น!แต่เรื่องของการลอบเป็นชู้มันเป็นอันตรายต่อเกียรติของราชวงศ์ยิ่ง!องค์หญิงผู้สง่างาม! ใช้เรื่องเช่นนี้วางแผนจัดการกับคนอื่นได้เยี่ยงไร!และองค์ชายคังผู้นี้ แม้มิใช่ผู้บงการแต่ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นจะต้องกราบทูลเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิอู่อันเสียหน่อยแล้ว!ฉินซานมององค์หญิงหกอย่างเย็นชา บอกว่าอยากจะรินชาเพื่อขอบคุณตน ที่แท้ก็เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!จุดประสงค์ขององค์หญิงหกคือการพาพวกเขาไปเห็นกับตาว่าหลิงอวี๋ลอบเป็นชู้ และทำลายชื่อเสียงของหลิงอวี๋กระทั่งจะประหารหลิงอวี๋!องค์ชายคังพูดมิออก แต่เมื่อคิดได้ว่าเซียวหลินเทียนไม่มีหลักฐาน เขาก็สงบลง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา“น้องสี่ ไม่มีหลักฐานก็อย
คำพูดประนีประนอมของจ้าวเจินเจินเปลี่ยนท่าทีของทุกคนในทันที มีคนกระซิบกระซาบกัน“ใช่! ที่จริงเรื่องนี้จะมาโทษที่เราเข้าใจผิดก็มิได้ ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องอี้ชื่อเสียงแย่มาก นี่มิใช่เรื่องที่นางได้ที่หนึ่งในวันนี้แล้วจะชะล้างมันออกไปได้!”“ใช่ เรื่องนี้โทษคนอื่นคงมิได้กระมัง? เพราะว่าพวกคุณชายทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พอนึกย้อนถึงชื่อเสียงก่อนหน้านี้ของพระชายาอ๋องอี้ดู การที่ทุกคนเข้าใจผิดมันก็เรื่องที่ปกตินัก…”เซียวทงเห็นว่าทิศทางของลมหันมาทางตนอย่างรวดเร็ว ความเย่อหยิ่งก็เพิ่มขึ้นทันที นางมองหลิงอวี๋อย่างดุร้ายพลางเอ่ย“ใช่! พี่สะใภ้สี่ เจ้ามิดูเล่าว่าชื่อเสียงของเจ้าแย่เพียงใด!”“ที่ข้าเข้าใจเจ้าผิดก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่หรือไร? เมื่อครู่ข้ามิได้รู้สึกผิดหวังเลย! ข้าแค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น จึงแสดงท่าทีเกินจริงไป!”“แต่เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตบข้าเล่า!? ข้าโตมาถึงเพียงนี้เสด็จพ่อยังมิเคยตีข้าเลยนะ! เจ้าเป็นแค่พระชายาต่ำต้อย เจ้าเก่งกาจมากกว่าเสด็จพ่อของข้าเช่นนั้นรึ!”แม้ว่าคำพูดขององค์หญิงหกอาจฟังดูฝืน ๆ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันไม่แทงใจ!อันซินกับหลิงหว่านมองหน้ากันแล้วต่างก็เห็นควา
เจิงจื่ออวี้กับจูเหวินแอบบ่นอย่างข่มขื่น พวกนางติดตามองค์หญิงหกมาช่วยจับเรื่องชู้ มีหรือจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋มิได้อยู่ในนั้น!แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เจิงจื่ออวี้ก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ พวกเราได้ยินคุณชายผู้นั้นบอกว่าเป็นพระชายาอ๋องอี้ ก็คิดว่าเป็นพระชายา… มิคิดเลยว่าจะเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด! ข้าขออภัยพระชายา!”จูเหวินเองก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อขอโทษ และพูดในสิ่งที่เหมือนกันฉินรั่วซือเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี กลัวว่าหลิงอวี๋จะตำหนิตนไปด้วย จึงถอยกลับไปอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างเงียบ ๆก่อนหน้านี้นางเคยเสียเปรียบมาก่อน วันนี้ระมัดระวังมาก จะไม่พูดเหลวไหลอีกแล้ว!หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “เยี่ยมจริง ๆ! พวกท่านเป็นคุณชายคุณหนูแห่งฉินตะวันตก เป็นบุตรขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก!”“ได้ยินเขาบอก พวกท่านก็เชื่ออะไรง่าย ๆ หรือ? หากข้าทำเรื่องผิดจริง ๆ ข้าก็ขอรับโทษจากองค์จักรพรรดิกับไทเฮาเอง! เหตุใดถึงจะให้พวกท่านที่ไม่แม้แต่จะมองแต่กลับกล้ามาใส่ร้ายว่าข้านอกใจ!”หลิงอวี๋หันไปหาท่านอ๋องเฉิง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านอ๋องเฉิงเพคะ หม่อมฉันสงสัยว่าเจิงจื่ออวี้ จ
“ลู่หนาน ตบปากซะ!”“ใส่ร้ายพระชายา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของราชวงศ์ ทุกคนตบปากยี่สิบครั้ง! คนเลวนั่นกล้าเริ่มที่ใส่ร้ายพระชายา ตบปากสี่สิบครั้ง!”ลู่หนานทนไม่ไหวมานานแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างแข็งขันเริ่มแรกเขาจับตัวเจิงจื่ออวี้ พลางตบปากนางด้วยเสียงดังฟังชัดลู่หนานลงมืออย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ไม่นานก็เสร็จสิ้นไปเมื่อมาตบปากจูเหวิน ฮูหยินจูถึงได้เรียกสติกลับมาได้ นางคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังลั่นพลางเอ่ยขอร้อง“ท่านอ๋องอี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหม่อมฉันสอนบุตรีไม่ดีเอง ขอร้องให้ท่านอ๋องอี้โปรดไว้ชีวิตเหวินเหวินของเราด้วยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “ใต้เท้าจูเป็นเจ้ากรมฝ่ายพิธีการ แต่สอนบุตรีตนเองได้ไม่ดี เช่นนั้นก็ให้ข้าช่วยสอนให้เขาเถิด!”“ใต้เท้าจูควรจะขอบคุณข้า เมื่อจูเหวินได้รับการสั่งสอนเช่นนี้ในวันนี้ ในภายภาคหน้านางจะควบคุมปากของตนได้ดี มิสร้างปัญหาใหญ่ให้กับใต้เท้าจูอีกต่อไป!”ทันทีที่ลู่หนานได้ยินสิ่งนี้ก็จับจูเหวินพลางเริ่มตบปากนางหลังจากตบปากไปยี่สิบครั้ง ใบหน้าของจูเหวินกับเจิงจื่ออวี้ก็บวมขึ้นมา พลางทรุดลงกับพื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลอา