Share

บทที่ 589

Author: กานเฟย
เจิงจื่ออวี้กับจูเหวินแอบบ่นอย่างข่มขื่น พวกนางติดตามองค์หญิงหกมาช่วยจับเรื่องชู้ มีหรือจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋มิได้อยู่ในนั้น!

แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้

เจิงจื่ออวี้ก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ พวกเราได้ยินคุณชายผู้นั้นบอกว่าเป็นพระชายาอ๋องอี้ ก็คิดว่าเป็นพระชายา… มิคิดเลยว่าจะเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด! ข้าขออภัยพระชายา!”

จูเหวินเองก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อขอโทษ และพูดในสิ่งที่เหมือนกัน

ฉินรั่วซือเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี กลัวว่าหลิงอวี๋จะตำหนิตนไปด้วย จึงถอยกลับไปอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างเงียบ ๆ

ก่อนหน้านี้นางเคยเสียเปรียบมาก่อน วันนี้ระมัดระวังมาก จะไม่พูดเหลวไหลอีกแล้ว!

หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “เยี่ยมจริง ๆ! พวกท่านเป็นคุณชายคุณหนูแห่งฉินตะวันตก เป็นบุตรขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก!”

“ได้ยินเขาบอก พวกท่านก็เชื่ออะไรง่าย ๆ หรือ? หากข้าทำเรื่องผิดจริง ๆ ข้าก็ขอรับโทษจากองค์จักรพรรดิกับไทเฮาเอง! เหตุใดถึงจะให้พวกท่านที่ไม่แม้แต่จะมองแต่กลับกล้ามาใส่ร้ายว่าข้านอกใจ!”

หลิงอวี๋หันไปหาท่านอ๋องเฉิง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านอ๋องเฉิงเพคะ หม่อมฉันสงสัยว่าเจิงจื่ออวี้ จ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 590

    “ลู่หนาน ตบปากซะ!”“ใส่ร้ายพระชายา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของราชวงศ์ ทุกคนตบปากยี่สิบครั้ง! คนเลวนั่นกล้าเริ่มที่ใส่ร้ายพระชายา ตบปากสี่สิบครั้ง!”ลู่หนานทนไม่ไหวมานานแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างแข็งขันเริ่มแรกเขาจับตัวเจิงจื่ออวี้ พลางตบปากนางด้วยเสียงดังฟังชัดลู่หนานลงมืออย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ไม่นานก็เสร็จสิ้นไปเมื่อมาตบปากจูเหวิน ฮูหยินจูถึงได้เรียกสติกลับมาได้ นางคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังลั่นพลางเอ่ยขอร้อง“ท่านอ๋องอี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหม่อมฉันสอนบุตรีไม่ดีเอง ขอร้องให้ท่านอ๋องอี้โปรดไว้ชีวิตเหวินเหวินของเราด้วยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “ใต้เท้าจูเป็นเจ้ากรมฝ่ายพิธีการ แต่สอนบุตรีตนเองได้ไม่ดี เช่นนั้นก็ให้ข้าช่วยสอนให้เขาเถิด!”“ใต้เท้าจูควรจะขอบคุณข้า เมื่อจูเหวินได้รับการสั่งสอนเช่นนี้ในวันนี้ ในภายภาคหน้านางจะควบคุมปากของตนได้ดี มิสร้างปัญหาใหญ่ให้กับใต้เท้าจูอีกต่อไป!”ทันทีที่ลู่หนานได้ยินสิ่งนี้ก็จับจูเหวินพลางเริ่มตบปากนางหลังจากตบปากไปยี่สิบครั้ง ใบหน้าของจูเหวินกับเจิงจื่ออวี้ก็บวมขึ้นมา พลางทรุดลงกับพื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลอา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 591

    แม้ว่านางสารเลวหลิงอวี๋จะหลบหนีจากแผนการได้ แต่พวกนางก็ยังเตรียมแผนสำรองไว้รอนางอยู่!เรื่องที่ตนเองโดนตบสามครั้งนี่จดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวนางจะกลับมาจัดการคิดบัญชีทั้งหมดในภายหลัง!เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เซียวทงก็กรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้น“เสด็จพี่สี่ ความจริงของเรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดเลยนะ เหตุใดเสด็จพี่ถึงรีบร้อนลงโทษพวกนาง!”“บอกว่าองค์ชายสองเป็นคนใจร้อน แล้วเสด็จพี่มิเป็นคนใจร้อนหรือ?”“เหตุใดมิถามว่าบุรุษผู้นี้ว่าเป็นใครเล่า? หากมิเกี่ยวข้องอันใดกับหลิงอวี๋ เหตุใดเขาจึงเอ่ยคำมิน่าฟังเช่นนั้นได้!?”ทันทีที่เซียวทงเตือน คุณชายตระกูลจ้าวก็ตะโกนขึ้นมาด้วยเจตนาไม่ดี“ใช่ ไม่มีมูลฝอยหมาก็ไม่ขี้หรอก! หากนิสัยพระชายาอ๋องอี้ไม่มีปัญหาอะไร เหตุใดข่าวโคมลอยเช่นนี้ถึงแพร่กระจายออกไปได้เล่า?”“คนสองคนที่อยู่ในห้องนี้คือใครกัน? ท่านอ๋องอี้ยังมิทันจะตรวจสอบให้แน่ชัดก็รีบร้อนลงโทษเสียแล้ว มิเป็นการทำโดยพลการเกินไปหน่อยหรอกหรือ?”เซียวหลินเทียนเหลือบมองผู้พูดและจำจดเขาไว้ ประเดี๋ยวค่อยมาคิดบัญชีกับเขาทีหลัง!ขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังจะพูด ทันใดนั้น คาดว่าสตรีบนพื้นจะตื่นแล้ว นางขยับตัว แล้วครึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 592

    ในที่สุดเสิ่นจวนก็ตื่นเต็มตา นางพยายามดิ้นรนกับกรีดร้อง “จ้าวซิง เจ้ามันสารเลว เจ้าทำกระไรกับข้า?”“อ๊าย… ไปให้พ้น… ท่านพี่ นี่มิใช่เยี่ยงนั้นนะ ข้ากับเขามิได้มีอะไร… เขาเป็นชู้ของพี่สะใภ้...”เสิ่นจวนบีบจ้าวซิงอย่างแรง หลังจากนั้นจ้าวซิงก็ตั้งสติได้ว่าเขาเข้าใจผิดคนเขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ แล้วก็เห็นหลิงอวี๋ยืนอยู่ตรงข้ามอย่างสวย ๆ“เสี่ยวอวี๋… นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ ข้ามีนัดกับเจ้า… แล้วเหตุใดกลายเป็นนางได้?”จ้าวซิงรีบวิ่งจะไปคว้ามือของหลิงอวี๋ แต่เถาจื่อเตะเข่าเขาอย่างแรง จนจ้าวซิงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังลั่น“เสี่ยวอวี๋… เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายกับข้าถึงเพียงนี้เล่า?”จ้าวซิงเอ่ยอย่างเสียใจ “เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าคนที่นัดกับข้าเมื่อครู่คือเจ้า เหตุใดถึงกลายเป็นนางไปได้?”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร พระสนมหรงก็ตะโกนขึ้นมาก่อน “หลิงอวี๋ ได้ยินหรือไม่? ชู้ของเจ้ายอมรับแล้วว่าเจ้าคือคนที่ใส่ร้ายจวนเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายถึงเพียงนี้!”“จวนเอ๋อร์คงจะไปรู้เรื่องมีชู้ของเจ้าแน่ เจ้าจึงวางแผนใส่ร้ายนางเช่นนี้!”หลิงอวี๋หมดคำพูด จนถึงเวลานี้พระสนมหรงยังมิยอมกลับตัวอีกหรือ?นางมองจ้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 593

    ท่านอ๋องเฉิงมีหรือจะมองเจตนาเล็ก ๆ ของจ้าวเจินเจินไม่ออก?เขาเหลือบมองจ้าวเจินเจินอย่างเย็นชา ดูเหมือนว่าวันนี้องค์ชายคังกับภรรยาจะอยากพิสูจน์เรื่องชู้ของหลิงอวี๋แล้วฆ่าหลิงอวี๋ไปเสีย!ท่านอ๋องเฉิงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีทางให้พวกเขาทำได้สำเร็จ!ท่านอ๋องเฉิงยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าเป็นผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายในของราชสำนัก มีสิทธิ์ที่จะปกป้องชื่อเสียงของราชวงศ์”“จ้าวซิง เจ้าน่าจะรู้นะ… การใส่ร้ายสมาชิกราชวงศ์ โทษเบาคือการโบยห้าสิบที ส่วนโทษหนักอาจถึงขั้นประหารชีวิตได้ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความผิด!”จ้าวซิงกลัวมาก ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเลยหรือ!แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าแผนของจ้าวเจินเจินนั้นสมบูรณ์แบบมาก ไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน!จ้าวซิงจึงมีความกล้ามากขึ้น พลางตะโกน“กระหม่อมมีหลักฐาน… ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมกับเสี่ยวอวี้รักกันด้วยใจจริง… กระหม่อมมีเสื้อชั้นในที่นางมอบให้มายืนยัน!”จ้าวซิงพูดพลางหยิบเสื้อชั้นในสีชมพูออกมา ส่วนบนมีลายเส้นบาง ๆ และมีเป็ดแมนดารินที่หันหน้าชนกันคู่หนึ่งปักอยู่ตรงกลางเสื้อชั้นในนี้ทำให้สตรีบางคนถึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่เห็นนั่นเป็นเสื้อผ้าส่วนตัวของผู้หญิง เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 594

    หลิงอวี๋โกรธมาก มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกของจ้าวซิงยังกล้าใส่ร้ายตนอย่างไม่ละอายอีก!คำพูดเช่นนี้หากไร้ผู้ใดหนุนหลังอยู่ พูดไปใครจะเชื่อเล่า?แต่จ้าวซิงรู้ได้เยี่ยงไรว่าตนเองไปที่ไร่?หรือฟังจากที่เสิ่นจวนบอก?หลิงอวี๋มองเสิ่นจวน มิน่าเล่าหลายวันมานี้เสิ่นจวนถึงได้อยู่ในตำหนักอ๋องอี้อย่างสงบเสงี่ยม ที่แท้ก็ตั้งอกตั้งใจหาหลักฐานมาโค่นล้มตนเองนี่เอง!บางคนไม่รู้เรื่องภายใน จึงโวยวายใส่ทางหลิงอวี๋“เขามีพยานกับหลักฐานมายืนยันแล้ว พระชายาอ๋องอี้ยังยืนกรานมิยอมรับ ช่างไร้ยางอายเสียจริง!”“นั่นน่ะสิ บางทีอาจจเป็นเพราะท่านอ๋องอี้บาดเจ็บที่ขามิสามารถทำให้นางพอใจได้ จึงไปมีความสัมพันธ์ลับหลังท่านอ๋องอี้!”ท่านอ๋องเฉิงเห็นว่าคนเหล่านี้ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่น่าฟัง จึงตะคอกออกมาด้วยความโกรธ“หุบปากเสีย! พวกเจ้าเป็นผู้ตัดสินหรือว่าข้าเป็นผู้ตัดสินกันแน่? หากสอดขึ้นมาอีก ก็อย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”หลายคนที่พูดเมื่อครู่นี้เห็นถึงความโกรธของท่านอ๋องเฉิงก็เงียบไปองค์ชายคังหาได้สนใจความโกรธของท่านอ๋องเฉิงไม่ จึงยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านปู่เฉิง นี่ยังจำเป็นต้องสอบสวนอีกหรือ? จ้าวซิงมีทั้งพยานและหลักฐาน สิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 595

    องค์ชายคังถูกหลิงอวี๋บีบจนทำอะไรไม่ถูก จึงหัวเราะเจ้าเล่ห์“พระชายาอ๋องอี้ นี่มิใช่ว่ากำลังแสดงความคิดเห็นเรื่องคดีหรือ? ข้าแค่พูดไปตามเนื้อผ้าเท่านั้น มิได้กล่าวโทษว่าเจ้ามีชู้นี่!”“หากเจ้ามีหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเจ้าก็เอาออกมาสิ! หากไม่มีก็ยอมรับผิดแต่โดยดีเถอะ!”หลิงอวี๋มององค์ชายคังอย่างดูถูก องค์ชายคังเจ้าเล่ห์กว่าองค์หญิงหกมากนัก!นี่เป็นการเตรียมรับมือหาทางหนีทีไล่ให้ตนแล้ว!หึ วันนี้หนีได้ แต่พรุ่งนี้ก็หนีไม่พ้นหรอก!องค์ชายคังผู้นี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเสียเปรียบในเรื่องกวนอิ่งครั้งที่แล้วเบาเกินไปสินะ ถึงไม่จำจดบทเรียนเอาไว้!เช่นนั้นก็รอตนมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกก็แล้วกัน!หลิงอวี๋ชี้องค์หญิงหกแล้วตะโกน “ท่านอ๋องเฉิงเพคะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นหลิงอวี๋จะฟ้ององค์หญิงหกที่ทะเลาะกันเองในครอบครัว!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็ชี้ไปที่พวกจ้าวซิงพลางเอ่ยอย่างเย็นชา “และหลิงอวี๋จะฟ้องพวกคนสกุลจ้าวที่ใส่ร้ายหม่อมฉัน! และใส่ร้ายสมาชิกของราชวงศ์ด้วย!”“สุดท้ายจะฟ้องพวกคนชั่วเหล่านี้ที่ช่วยจ้าวซิงใส่ร้ายหม่อมฉัน!”เซียวทงได้ยินก็หัวเราะอย่างร้าย ๆ “เจ้าจะฟ้องข้าว่าทะเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 596

    เมื่อเซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ ลู่หนานก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เขาชักดาบออกมายืนอยู่ข้างหน้าเซียวหลินเทียนเผยอวี้ยิ้มอย่างเกียจคร้าน “ผู้ใดกล้าแตะต้องสหายของข้า นั่นคือศัตรูของข้าเผยอวี้เช่นกัน!”เขากอดดาบของตนอยู่ในอ้อมแขน ท่าทางขี้เกียจกับรูปร่างสูงของเขายืนอยู่ข้าง ๆ เซียวหลินเทียน ท่าทางชัดเจนอันเจ๋อเห็นเข้าก็วิ่งไปข้างหน้าทันที แล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “จะสู้โดยไม่มีข้าได้เยี่ยงไรเล่า!”“องค์ชายคัง เราคุยกันด้วยเหตุผล! จ้าวซิงผู้นี้มีตัวตนเยี่ยงไร? เขาทำให้พระชายาอ๋องอี้อับอายเช่นนี้ เหตุใดพระชายาอ๋องอี้จะให้คนทุบตีเขามิได้?”“หรือว่าหากคนอื่นพูดเช่นนี้กับพระชายาคัง? องค์ชายคังจะทนได้หรือ?”สีหน้าองค์ชายคังดูแย่มาก แต่คำพูดของอันเจ๋อทำให้เขาไม่สามารถโต้แย้งได้เลย!ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องมีเรื่องบาดหมางกับพี่น้องเช่นเซียวหลินเทียนเพราะทาสต่ำต้อยผู้หนึ่งหรือ?หากพี่น้องแตกคอทะเลาะกันเอง โทษหนักก็คือจะถูกจองจำไปตลอดชีวิตเชียวนะ!องค์ชายสามรุ่ยมองอย่างเงียบ ๆ อยู่ด้านข้างแม้ว่าเขาจะมองสถานการณ์นี้ออก แต่การที่พี่สองกับน้องสี่ทะเลาะกันอย่างน่าอายนั้นกลับเป็นโอกาสของตนดังนั้นเขาจึงไม่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 597

    เสิ่นจวนรีบอธิบาย “ข้า ข้ากังวลว่าจะมีคนที่คิดมิดีบุกเข้าไป ดังนั้น ดังนั้น...”เสียงของนางเบาลงเรื่อย ๆ เพราะแม้นางเองก็รู้ว่าเหตุผลนี้ไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวธารกำนัล และอาจทำให้คนสงสัยในตัวนางด้วย!“เช่นนั้นเจ้าก็ช่างใส่ใจเสียจริง!”หลิงอวี๋ยิ้มเหน็บแนม พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิงซวนนำอาภรณ์มาให้ข้า ประตูมิได้ลงกลอน!”“หากเจ้าจัดการให้นางรับใช้ลงกลอน เช่นนั้นเจ้าก็ต้องไปถามนางรับใช้ของเจ้าว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น!”เสิ่นจวนรู้อยู่แล้วว่าตนเองผิดพลาด ไหนเลยจะกล้าจับจ้องเรื่องลงกลอนแล้วตำหนิหลิงอวี๋ต่อ!หลิงซวนก้าวไปพลางเอ่ย “ท่านอ๋องเฉิงเพคะ หม่อมฉันสาบานได้ว่า ตอนที่หม่อมฉันนำอาภรณ์ไปให้อาจารย์ ประตูมิได้ลงกลอนเพคะ!”“อาจารย์ของหม่อมฉันคิดว่านัดแนะกับท่านอ๋องอี้ไว้แล้วจะกลับไป จึงออกไปหาท่านอ๋องอี้ แล้วก็ได้พบกับพระชายาเย่!”พระชายาเย่กับองค์ชายเย่ที่กำลังดูความสนุกสนานอยู่ด้านหลังตามหลิงอวี๋เข้ามาพวกเขาทั้งสองพยักหน้าพลางเอ่ย “พวกเราเป็นพยานได้ว่าพี่สะใภ้สี่กับหลิงซวนอยู่กับพวกเราตลอด!”องค์ชายเย่มีนิสัยไม่สนใจสิ่งใด และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระช

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1794

    เถ้าแก่เจียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็กำลังคิดจะด่า หลิงอวี๋ก็อุ้มเจียงหย่งมาและหันหลังให้ตนแล้วสองมือของนางกอดรัดอยู่ตรงช่วงท้องของเจียงหย่ง มือหนึ่งกำหมัดแล้ววางด้านหัวแม่มือของกำปั้นนั้นอยู่ที่ตรงอกและตรงท้องของเจียงหย่งส่วนมืออีกข้างของหลิงอวี๋ก็จับมือที่กำหมัดไว้แล้วรีบกระทุ้งที่ช่วงท้องของเจียงหย่งอย่างแรงการกระทำนี้ทำเอาเถ้าแก่เจียงโกรธจนกำหมัดไปทุบที่หัวของหลิงอวี๋“ให้ตายสิ นี่เป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายกันแน่ วางลูกชายข้าลงเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หลิงอวี๋อุ้มเจียงหย่งหลบมา พลางตะคอกใส่เถ้าแก่เจียง “ข้ากำลังช่วยลูกท่านอยู่ ท่านมิเห็นหรือว่าเขากำลังจะตายแล้ว?”“ท่านอย่ามารบกวนข้า หากข้ารักษาเขาตาย ข้าจะชดใช้เขาด้วยชีวิต!”แม้ว่าฮูหยินเจียงจะดูมิเข้าใจวิธีการช่วยเหลือของหลิงอวี๋ แต่ลูกชายใกล้จะตายแล้วจริง ๆ ขอเพียงมีความหวังเพียงเล็กน้อยนางก็จะไม่มีทางยอมแพ้นางดึงเถ้าแก่เจียงไว้หลิงอวี๋ก็ใช้วิธีเดิมกระทุ้งเข้าที่ช่วงท้องของเจียงหย่งต่อไปหลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้ง เจียงหย่งก็ไอแค่ก ๆ แล้วถั่วลิสงเม็ดหนึ่งที่มีเลือดติดอยู่ก็หลุดออกมาจากปากเขาและกระเด็นลงส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1793

    เสี่ยวซานเอ๋อร์จึงพาหลิงอวี๋ไปขายกำไลหยก​ ระหว่างทางเสี่ยวซานเอ๋อร์ก็ยังเล่าเรื่องอื่น ๆ ในเมื่อนี้ให้หลิงอวี๋ฟังอีกหลิงอวี๋เอ่ยถามไปอย่างอ้อม ๆ “เสี่ยวซานเอ๋อร์ ข้ามากับน้องสาว แต่น้องสาวข้าหายตัวไปแล้ว ได้ยินว่าป้าวเฉิงเจ้าถิ่นที่นี่เก่งเรื่องตามหาคน หากข้าไปขอให้เขาช่วย จะต้องใช้เงินเท่าใดหรือ?”เสี่ยวซานเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “คุณหนูใหญ่ แม้ว่านายใหญ่ป้าวจะเก่งเรื่องตามหาคน แต่ก็มิใช่ว่าจะช่วยใครง่าย ๆ! หากจะไปขอร้องเขาแล้วมีเงินมิถึงหลักพันเขาก็มิสนใจหรอก!”“สองพันพอหรือไม่?”หลิงอวี๋นึกถึงที่หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้สามารถขายได้สองพันตำลึงจึงเอ่ยถาม“แล้วแต่คน!”เสี่ยวซานเอ๋อร์คิดว่าหลิงอวี๋ใจกว้างกับตนมากจึงเอ่ยขึ้นมา “ข้ารู้จักกับผู้ดูแลหมู่บ้านตระกูลป้าว ข้าจะไปคุยกับเขาดู เขาน่าจะช่วยได้!”“เช่นนั้นขอร้องเจ้าด้วย! รอให้ขายกำไลหยก จากนั้นเจ้าก็ค่อยพาข้าไปหาเขา ข้าจะมิให้เจ้าขาดทุนอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋ใจชื้นขึ้นมา เงินทองเป็นของนอกกาย ขอเพียงตามหาเสี่ยวอวี้เจอ และพวกนางได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องความจนก็มิกลัวหรอกกระทั่งมาถึงที่บ้านเถ้าแก่เจียงที่รับซื้อกำไลหยก ทั้งสองยังม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1792

    “ไปหาสมบัติที่ภูเขาหิมะหรือ? อยากตายนักหรือไรกัน! ภูเขาหิมะนั่นกินคนมิเหลือแม้กระดูก!”แขกคนหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ย“คนเหล่านี้แตกต่างไป พวกเขาแต่ละคนมีวรยุทธ์แก่กล้า อีกทั้งยังพาคนเข้าไปตั้งมากมาย มิน่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วกระมัง!”“พวกเราเองก็ตามไปหากำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างดีหรือไม่!”แขกอีกคนหนึ่งยิ้มออกมาแล้วเอ่ย “เจ้าน่ะหรือ อย่าไปเลย ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่กำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย จะกลับกลายเป็นว่าเอาชีวิตไปทิ้งอยู่ข้างในนั้นน่ะสิ!”“เสี่ยวซานเอ๋อร์ หากเจ้าอยากจะร่ำรวยจริง ๆ พี่ชี้ช่องทางให้ดีหรือไม่?”หลิงอวี๋เหลือบมองเสี่ยวซานเอ๋อร์ผู้นั้น เขาเป็นวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบ ดูผอมและอ่อนแอมาก การแต่งกายก็ดูเรียบง่ายธรรมดาเครื่องหน้างดงาม ทว่าดวงตาค่อนข้างแปลก ดูเหมือนมองคนแล้วมิสามารถมองให้ชัดเจนได้สงสัยจะตาเหล่กระมัง!เสี่ยวซานเอ๋อร์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “พี่หาน ช่องทางอะไรหรือ? รีบบอกมาเร็วเข้า หากข้าร่ำรวยแล้วจะไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน!”“ไปเป็นผู้ค้ามนุษย์อย่างหม่าเฉียงอย่างไรเล่า! เจ้ามิเห็นหรือว่าทาสหญิงหนึ่งเกวียนของเขาขายไปได้สี่แสนหกหมื่น? การค้าขายนี้ง่ายดายกว่าที่เจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1791

    หัวหน้าเสิ่นถูกปู้ติงจ้องมองอยู่ด้วยสายตาดุร้ายก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องเขียนหนังสือยอมรับผิด เขาขอแค่เพียงหลบหนีไปได้ อย่างก็อื่นค่อยว่ากันทีหลัง“หัวหน้าเสิ่น หากจะตามหาคนคนหนึ่งควรเริ่มจากที่ใด?”สุดท้ายหลิงอวี๋ก็ถามหัวหน้าเสิ่นไปหนึ่งคำถามหัวหน้าเสิ่นยิ้มขมขื่น “หากแม่นางจะตามหาคน ป้าวเฉิงคนที่ข้าพูดถึงเมื่อครู่คือคนที่มีความสามารถเก่งกาจยิ่งนัก เขามีลูกน้องมากมาย อีกทั้งคนในหมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ นี้ก็เชื่อฟังเขาด้วย”“หากเจ้าจะตามหาคน ขอเพียงมีเงินมากพอ เขาก็จะช่วยตามหาคนให้ได้เร็วที่สุด!”หลิงอวี๋อยากจะตามหาเสี่ยวอวี้น้องสาวของตน เมื่อได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมาแต่ตนไม่มีเงินติดตัวสักแดง จะไปพูดให้ป้าวเฉิงตามหาคนให้ตนได้อย่างไรกัน!“หัวหน้าเสิ่น เอาของมีค่าที่ท่านน้าหลินให้มาให้ข้าสักชิ้นเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปตามตรง “ข้าไม่มีเงินติดตัวสักแดง เจ้าก็ถือว่าทำบุญแล้วกัน!”ต่อให้หลิงอวี๋จะต้องการของมีค่าทั้งหมดของหัวหน้าเสิ่น หัวหน้าเสิ่นก็มิกล้าบอกว่าไม่ นับประสาอะไรกับหนึ่งชิ้นเล่า!หัวหน้าเสิ่นรีบเปิดห่อของตนแล้วหันหลังให้หลิงอวี๋หยิบกำไลหยกออกมาหนึ่งชิ้น!“แม่นาง กำไลหยก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1790

    “อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1789

    หลิงอวี๋กุมใบหน้าตนเองอย่างสิ้นหวัง นางมิเชื่อว่าปู้ติงจะทิ้งตนไปจะต้องเป็นเพราะที่นี่อยู่ไกลจากวังเทพมากเกินไปอย่างแน่นอน ปู้ติงจึงมิได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของตนในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดที่จะพยายามกลับไปบนเตียงก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านล่าง“นั่นคือหมาป่าหรือ? ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!”“เจ้าตาฝาดแล้ว ที่นี่จะมีหมาป่ามาจากที่ใดกัน!”“แต่ข้าเห็นหมาป่าที่เป็นสีขาวราวกับหิมะทั้งตัววิ่งไปจากบนหลังคาจริง ๆ นะ...”หมาป่าตัวสีขาวราวหิมะ?หลิงอวี๋กำลังจะวางมือก็เห็นว่ามีสายฟ้าสีขาวพุ่งเข้ามาจากหน้าต่างอย่างรวดเร็วหลิงอวี๋ยังมิทันได้เห็นชัด สายฟ้านั้นก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของนาง แล้วตัวที่เป็นขนปุกปุยก็ทำให้ทั้งตัวของนางอบอุ่นขึ้นมาหลิงอวี๋ก้มหน้าลงก็เห็นดวงตาสีเขียวของหมาป่าน้อยที่มีขนตาสีขาวข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งปู้ติง!ปู้ติงจริง ๆ ด้วย!มิเจอกันหลายวัน ปู้ติงโตขึ้นอีกแล้วและดูแข็งแรงขึ้นด้วย!หลิงอวี๋กอดปู้ติงอย่างดีใจแล้วก็จุ๊บมันไปแล้วหัวใจที่จมลงสู่ก้นบึ้งก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นทันที“ปู้ติง ข้าถูกคนวางแผนทำร้าย ตัวข้าไม่มีแรงเลย เจ้าหายาแก้พิษให้ข้าหน่อยได้ห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1788

    เด็กหนุ่มผอมบางเช่นนี้น่าจะมิใช่คู่ต่อสู้ของตน!หลิงอวี๋หลับตาลงอีกครั้งพลางครุ่นคิดท่านน้าหลิน เสวี่ยเหมยและอี้เหวินให้หัวหน้าเสิ่นที่เป็นผู้ส่งเสบียงพาตนลงจากเขามา จะต้องเป็นเพราะตนได้รับการยกย่องจากหวงฝู่หมิงจูจึงไปดึงดูดความอิจฉาริษยาของพวกนางเป็นแน่นางมิเชื่อว่าท่านน้าหลินเพียงแค่ต้องการให้ตนออกจากวังเทพอย่างเดียวเท่านั้นเมื่อคิดเชื่อมโยงถึงเรื่องเครื่องประดับเหล่านั้นที่หัวหน้าเสิ่นพูดถึง ทั้งยังมีเรื่องที่อี้เหวินอาศัยว่าจะให้ตนดูแลจัดการงานภายในของวังเทพแล้วพาตนไปดูโกดัง อีกทั้งยังบอกตนเรื่องที่หวงฝู่หมิงจูมีจี้หยกราตรีน้ำเงินอีกหลิงอวี๋จึงได้กล้าคาดเดาอะไรเช่นนี้ท่านน้าหลินจะต้องติดสินบนหัวหน้าเสิ่นให้พาตนลงมาจากภูเขา จากนั้นก็ใส่ร้ายว่าตนขโมยเครื่องประดับแล้วหนีไปอย่างแน่นอนขอเพียงมีหนึ่งในเครื่องประดับหนึ่งชิ้นตกหล่นหายไป หวงฝู่หลินก็จะยิ่งเชื่อว่าตนเป็นคนขโมยจากนั้นหัวหน้าเสิ่นก็จะสังหารตนหัวหน้าเสิ่นออกไปแล้ว เสี่ยวเจียงผู้นี้ก็มิใช่คู่ต่อสู่ของตน หากมิหนีเวลานี้แล้วยังจะรออะไรอีกเล่า!หลิงอวี๋คิดแล้วขยับมือเท้าอย่างเงียบ ๆมือเท้ามิได้ถูกมัดไว้ แต่ขยับเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1787

    “ท่านสี่ เราทำอาหารกันค่อนข้างมาก จึงนำมาให้ท่านสักหน่อย!”เก๋อเฟิ่งฉิงเห็นพวกฉินซานเรียกเซียวหลินเทียนว่าท่านสี่จึงเรียกเซียวหลินเทียนเช่นนั้นตามเซียวหลินเทียนมิแม้แต่จะมองถาดของนางแล้วยกอาหารแห้งในมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยเรียบ ๆ “ขอบคุณมาก แต่ข้ากินอิ่มแล้ว!”เขายัดอาหารแห้งที่เหลือใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยเก๋อเฟิ่งฉิงเองก็มิได้ท้อ นางวางถาดไว้ตรงหน้าเขาแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “กินอิ่มแล้วก็กินน้ำแกงผักสักหน่อยก็ได้! จะแบ่งให้ลูกน้องของท่านก็ได้!”หลังจากพูดจบ เก๋อเฟิ่งฉิงก็หันหลังเดินไปคนที่มีตาก็ล้วนมองออกว่าเก๋อเฟิ่งฉิงกำลังเอาใจเซียวหลินเทียนอยู่สตรีพรหมจรรย์นางหนึ่งเอาใจบุรุษคนหนึ่งเช่นนี้ จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้เล่า!“ขันทีโม่ ท่านกินเถิด!”เซียวหลินเทียนดันถาดไปให้ขันทีโม่ขันทีโม่มองอาหารตรงหน้า มีเนื้อมีผัก ดูคุณค่าทางอาหารสมบูรณ์มาก เขาจึงยิ้มแล้วเอ่ย“คุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อคงยังมิยอมถอดใจจากท่านเลยนะ! ท่านสี่ เช่นนั้น ยินดีรับไว้ดีหรือไม่?”ขันทีโม่ก็เหมือนกับคนจำนวนมากที่คิดว่าการที่เซียวหลินเทียนจะมีสนมมากมายนั้นเป็นเรื่องปกติแม้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อผู้นี้จะแสร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1786

    กลุ่มของเก๋อเฟิ่งฉิงกับเซียวหลินเทียนเข้าไปในเขาด้วยกันแล้วก็เห็นคนของตระกูลเฉียว แต่ทุกคนก็ต่างคนต่างไปการปะทะกันในเวลานี้มิใช่เรื่องที่ฉลาด เพราะว่าการลงมือในถิ่นของหวงฝู่หลินนั้นอาจจะทำให้หวงฝู่หลินโกรธได้แม้ว่าตระกูลหวงฝู่จะอยู่อย่างสันโดษมาหลายชั่วอายุคน แต่ในฐานะของผู้สืบทอดของตระกูลหวงฝู่หลินก็มีความเป็นไปได้ที่พลังจะสูงกว่าพวกเขาทั้งหลายสำหรับหวงฝู่หลิน ผู้นำของทั้งสองตระกูลต่างก็เสนอจุดประสงค์ที่จะดึงมาให้เป็นพวกเดียวกัน ดังนั้นหากมิถึงคราวจำใจจริง ๆ เก๋อเฟิ่งฉิงกับเฉียวไป๋ไม่มีทางทำเรื่องที่จะทำให้หวงฝู่หลินขุ่นเคืองแน่เมื่อเข้าไปในภูเขาหิมะ เริ่มแรกยังมีเส้นทาง แต่เดินไปได้สิบกว่าลี้ก็ไม่มีเส้นทางแล้วทั่วทุกที่ล้วนเป็นสีขาวโพลน แม้ว่าหานเหมยจะเคยมาที่ภูเขาหิมะ แต่เมื่อเห็นสีขาวโพลนนี้นางก็หลงทางเช่นกัน มิรู้ว่าภูเขาแห่งนั้นคือภูเขาที่มีวังเทพอยู่“มิต้องรีบร้อน ค่อย ๆ หาไป ขอเพียงฮูหยินอยู่ที่วังเทพ พวกเราจะต้องตามหานางพบแน่นอน!”ต่อหน้าเก๋อเฟิ่งฉิง เซียวหลินเทียนจึงเรียกหลิงอวี๋ว่าฮูหยินหานเหมยอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ก่อนหน้านี้นางบอกอย่างมั่นใจว่าตนรู้เส้น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status