“โปรดวางใจ ตัวข้าจะส่งคนไปมอบให้เจ้า!”จ้าวเจินเจินจ้องหลิงอวี๋เขม็ง และไม่คิดปิดบังความแค้นในแววตาของตนแล้วเช่นกันนางโน้มเข้าใกล้หลิงอวี๋พลางกล่าวเหี้ยม “เจ้าฉวยโอกาสเอาเปรียบชนะข้าได้ นั่นไม่นับว่ามีความสามารถหรอกนะ เจ้าเอาหอริมธาราไปได้อย่างไร วันหน้าเจ้าก็ต้องคืนมันให้ข้าอย่างนั้น!”นี่คือการหักหน้าตนอย่างโจ่งแจ้งงั้นหรือ?หลิงอวี๋ไม่หวั่นการยั่วยุของจ้าวเจินเจินพลางหัวเราะหยันเสียงต่ำ“พระชายาคังนี่วัวลืมตีนจริง ๆ! ทั้งนางกำนัลสาดหมึกและพู่กันหัก หรือว่านั่นมิใช่เล่ห์เหลี่ยมของพวกเจ้ากัน?”“หากเจ้ามิฉวยโอกาสเอาเปรียบด้วยภาพวาดที่ถูกทอดทิ้งแบบนั้น มันความหมายว่าอะไร? นั่นมิใช่ว่าอยากให้เซียวหลินเทียนกับอันเจ๋อสงสารเจ้าและลงคะแนนให้เจ้าหรอกหรือ?”“องค์ชายคังล้วนเห็นซึ้งแต่พระองค์ยังตั้งใจลงคะแนนให้เจ้า นั่นช่างใจกว้างยิ่งนัก!”“หากครั้งนี้เจ้าชนะ องค์ชายคังคงเผยรอยยิ้มแห่งความใจกว้างได้! แต่ตอนนี้เจ้าพ่ายแล้ว…ข้าอยากรู้นัก องค์ชายคังจักคิดบัญชีย้อนหลังกับเจ้าหรือไม่!”หลิงอวี๋เดาเจตนาของจ้าวเจินเจินได้ทันทีตั้งแต่เห็นภาพวาดของนางนางอุตส่าห์ออมมือไม่เปิดโปงจ้าวเจินเจิน ทว
“มันก็แค่ประลองการละเล่นเอง เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนเยี่ยงนี้!”“เจ้ารู้แจ้งว่ากระโปรงนั่นน่าอับอาย ไยเจ้าต้องทำร้ายลูกข้าเช่นนี้!”ฮูหยินลั่วตะโกนเสียงสูงบ้างต่ำบ้างเซียวทงขมวดคิ้วพลางช่วยพูดสนับสนุนเช่นกัน “ช่างเถิด ให้นางดื่มสุราลงทัณฑ์ก็พอ!”จ้าวเจินเจินโกรธแค้นหลิงอวี๋ที่แย่งมงกุฎดอกโบตั๋นของตนไปได้ กอปรกับวาจาพวกนั้นของหลิงอวี๋ในเมื่อครู่ นางไม่อยากปล่อยหลิงอวี๋ไปง่าย ๆ แบบนี้ จึงช่วยพูดเช่นกัน“ใช่! น้องสะใภ้สี่ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยไปเสีย แค่การละเล่นเท่านั้น เหตุใดต้องสร้างความลำบากใจเพียงนั้น!”“หากเจ้าบังคับลั่วอวี้จูสวมกระโปรงแบบนั้นอยู่ นั่นมิใช่คือเจตนาทำร้ายผู้อื่นหรอกหรือ? ไยเจ้าถึงโหดร้ายถึงเพียงนี้!”“น่าขันสิ้นดี!” หลิงอวี๋จ้องฮูหยินลั่วกับจ้าวเจินเจินเขม็ง พลันด่าเสียงเฉียบขาดทันที“ไฉนเป็นตัวข้าโหดร้ายเล่า? กระโปรงตัวนี้มิใช่เป็นองค์หญิงหกเตรียมไว้หรือไร? แล้วกฎนี้ก็ไม่ใช่พวกเจ้าตั้งเองหรอกหรือ?”“ไฉนคราวนี้ถึงรู้แล้วว่ากระโปรงตัวนี้มันน่าอับอาย? ก่อนหน้านี้พระชายาผิงหนานก็ตรัสว่ากระโปรงนี้มิเหมาะเป็นบทลงโทษ พวกเจ้ามีผู้ใดว่ากระไรสักคนด้วยหรือ?”“ฮูหยินจู ท
เมื่อนึกถึงก่อนการประลอง องค์หญิงหกกับแม่ลูกลั่วอวี้จูและคนอื่น ๆ ได้ตั้งกฎลงโทษอย่างบีบบังคับ นั่นมิใช่เพราะคิดว่าหลิงอวี๋ไร้วิชาความรู้ และต้องพ่ายในที่สุดหรอกหรือ?หากหลิงอวี๋ได้ที่สุดท้าย องค์หญิงหกกับพวกลั่วอวี้จูจักต้องบีบคั้นให้หลิงอวี๋สวมกระโปรงตัวนั้นเต้นรำแน่นอน!เซียวหลินเทียนเชิดริมฝีปากยิ้มเยาะหยัน พลางกล่าวเสียงเฉียบขาด“กล้าเดิมพันก็ต้องยอมรับผล! ใครก็ได้ ทำให้นางผลัดเป็นกระโปรงตัวนั้นแล้วเต้นรำให้ทุกคนชมซะ!”ลั่วอวี้จูทรุดตัวนั่งกับพื้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พลางมองทางองค์หญิงหกกับจ้าวเจินเจินอย่างวิงวอน“องค์หญิงหกเพคะ พระชายาคัง พวกท่านช่วยหม่อมฉันด้วย…”แต่จ้าวเจินเจินถูกหลิงอวี๋ด่าจนหน้าแดงจรดหูไปแล้ว และมีคนข้างล่างเวทีไม่น้อยกำลังคอยจับผิดนางอยู่ ทั้งต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่นางกับหลิงอวี๋คือคนในราชวงศ์เหมือนกัน ตอนตั้งกฎไม่รักษาความยุติธรรม ตอนนี้กลับพูดว่าหลิงอวี๋โหดร้ายไม่ยกโทษให้ลั่วอวี้จูจ้าวเจินเจินไม่จำต้องฟังคำวิจารณ์ข้างล่างกับหูก็เดาได้ว่าผู้คนกำลังว่าตนเลือกปฏิบัติและจอมปลอม!ไฉนนางจะกล้าขอความเมตตาเพื่อลั่วอวี้จูอีกได้เล่า!องค์หญิงหกก็
ฮูหยินลั่วกลัวจนรีบดึงลั่วอวี้จูไว้ลั่วอวี้จูกล่าวทั้งร่ำไห้ว่า “มิใช่ท่านพ่อบงการนะเพคะ! เป็นตัวหม่อมฉันทำกระไรเลอะเลือนเอง! ท่านอ๋องอี้ หม่อมฉันขอขมาท่าน ได้โปรดปล่อยหม่อมฉันไปเถิดเพคะ!”ฮูหยินลั่วก็กล่าวเช่นกัน “ท่านอ๋องอี้เพคะ เป็นหม่อมฉันสอนลูกมิถูกวิธี ไม่เกี่ยวกับสามีหม่อมฉันเลยเพคะ ท่านนั้นสุภาพใจดีพึงมีพระทัยกว้าง ได้โปรดยกโทษให้พวกเราเถิดเพคะ!”ฮูหยินลั่วพลางดึงลั่วอวี้จูมาโขกหัวคำนับให้เซียวหลินเทียนด้วยกันลั่วอวี้จูสำนึกผิดเต็มทรวง เหตุใดนางต้องพูดมากปากเสียด้วย!เซียวหลินเทียนมองทั้งสองคนที่โขกหัวจนเลือดออกอย่างเฉยเมย พลางยิ้มหยันกล่าวคำ“พวกเจ้าขอโทษผิดคนหรือไม่? พวกเจ้าล่วงเกินพระชายาของข้า คนที่จำเป็นต้องขอโทษก็คือนาง!”“วันนี้ อาอวี๋ของข้าไม่ยกโทษให้พวกเจ้า พวกเจ้าก็โขกหัวคำนับตรงหน้าข้าให้ตายไปเสีย เพราะข้าก็ไม่ยกโทษให้พวกเจ้าเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพูดอย่างไร้ความปรานี “อาอวี๋ สิทธิ์การลงโทษเป็นของเจ้า! แม้เจ้าหมายฆ่าพวกนาง ข้าก็จะสนับสนุนเจ้าเช่นกัน!”ทุกคนตะลึงตาค้าง นี่ท่านอ๋องอี้กำลังหนุนหลังพระชายาอ๋องอี้งั้นหรือ?ช่างเป็นน้ำเสียงเด็ดขาดยิ่งนัก!หลิ
ขณะหลิงหว่านมองฮูหยินลั่วรีบพาลั่วอวี้จูจากไปก็พลันกล่าวต่อหลิงอวี๋เสียงต่ำ“ท่านพี่ ฮูหยินลั่วผู้นี้มิใช่คนประเภทที่กลับเนื้อกลับตัว ท่านมิเห็นหรือว่านางจ้องท่านอย่างโหดเหี้ยมก่อนจากไป? ท่านระวังนางมาล้างแค้นท่านทีหลังนะเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ส่ายศีรษะพลางกล่าวเสียงแผ่ว “ข้ารู้ว่านางคือคนสันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก!”“ข้าเพียงยืนในจุดยืนของมารดา จึงให้โอกาสนางสักครั้ง!”เพราะหลิงอวี๋จำแม่นมลี่ในตอนแรกได้ว่าเคยโขกหัวคำนับเพื่อขอให้ไป่สือช่วยหลิงเยวี่ยนจนเลือดอาบเต็มหน้าแม้ฮูหยินลั่วพูดจาทิ่มแทง แต่กลับดูเป็นความรักของแม่ที่มีลั่วอวี้จูจากใจจริงหากฮูหยินลั่วเข้าใจโอกาสอันล้ำค่านี้ก็คงจะพิจารณาตัวเองให้ดี ชี้แนะลั่วอวี้จูอย่างดี นั่นคือเรื่องอันดีนัก!หากยังกล้ามายั่วยุตนอีก หลิงอวี๋จะไม่คุยดี ๆ ด้วยขนาดนี้แล้ว!เซียวทงกับจ้าวเจินเจินจ้องหลิงอวี๋เหี้ยม คนดีใจกว้างล้วนเป็นหลิงอวี๋กระทำ เมื่อเทียบกับพวกนางแล้วทั้งคู่ดูโหดร้ายอย่างยิ่ง!แล้วจะให้กลืนความแค้นนี้ลงไปได้อย่างไร!จ้าวเจินเจินมองทางหลิงอวี๋พลางยกยิ้มชั่วร้าย มันยังมีอุบายสุดท้ายอยู่เถอะ!หลิงอวี๋ หากเจ้าออกจากงานชมบุปผาใน
หลิงอวี๋กล่าวต่อเซียวหลินเทียนอย่างจนปัญญาว่า “เช่นนั้นหม่อมฉันขอไปดื่มชาก่อนค่อยกลับเพคะ!”เซียวหลินเทียนพยักศีรษะพลางมองหลิงอวี๋เดินจากไปพระสนมหรงนั่งในศาลาที่สวนดอกไม้ โดยมีเสิ่นจวนค่อยรับใช้อยู่ข้าง ๆ องค์หญิงหกก็อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน“หลิงอวี๋ขอเข้าเฝ้าพระสนมหรงเพคะ!”หลิงอวี๋โค้งคารวะพระสนมหรงปรายมองนางอย่างไม่ร้อนไม่หนาวพลางพยักหน้าเล็กน้อย “นั่งเถอะ!”หลิงอวี๋พลันนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ“พี่สะใภ้ ดื่มชาเจ้าค่ะ!”เสิ่นจวนถือถ้วยชามารินชาให้หลิงอวี๋ และรินให้องค์หญิงหกกับพระสนมหรงด้วยเช่นกัน“นี่คือชาเม็ดแตงแห่งลู่อัน(1)ที่องค์จักรพรรดิทรงมอบแก่องค์หญิงหกในคราก่อนหรือเพคะ? ช่างหอมนัก!”พระสนมหรงยกชามาดมแล้วพลันร้องทักอย่างแปลกใจ“ว่ากันว่าองค์จักรพรรดิมีเพียงสองขวดโหล และยังมอบให้องค์หญิงขวดโหลหนึ่ง! องค์หญิงหกเพคะ องค์จักรพรรดิช่างโปรดปรานท่านโดยแท้!”เซียวทงกล่าวภูมิใจและเหิมใจว่า “นั่นแน่นอน! หลังตัวข้ารับมาก็ตัดใจดื่มมิได้เสียที วันนี้นำมาเพราะอยากต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ!”พระสนมหรงพูดยิ้ม ๆ อย่างเอาใจ “หากเป็นเช่นนั้นข้าต้องดื่มเพิ่มสักสองถ้วยแล้ว ชาเม็ดแตงแห่งลู
“พี่สะใภ้ นี่คือชาดีที่หาดื่มได้ยากนัก!”เสิ่นจวนกล่าวอย่างมีไมตรี “เมื่อครู่เจ้าคงร่วมการประลองเหนื่อยแล้วเป็นแน่ ดื่มเพิ่มอีกสองถ้วยพลางชื่นชมบุปผาสนุกให้เต็มที่สักหน่อยเถอะ!”หลิงอวี๋คลี่ยิ้มน้อย ๆ ชายมองเสิ่นจวน และถือถ้วยชากล่าวว่า “เจ้าอย่ามัวแต่รินชาให้เรา เจ้าก็นั่งลงดื่มด้วยเถิด!”“เจ้าพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้มานานนัก และช่วยดูแลสามีข้าอย่างยากลำบาก ถ้วยนี้แด่เจ้า!”หลิงอวี๋รินชาหนึ่งถ้วยให้เสิ่นจวน เสิ่นจวนตะลึงไปชั่วขณะ พลางมองทางองค์หญิงหกอย่างลำบากใจอยู่บ้างเซียวทงปรายมองนางเย็นชา เสิ่นจวนไร้ทางเลือกทำได้เพียงยกชามาดื่มหลิงอวี๋เชิดยิ้มหยันโดยยากจะสังเกตพบ และนั่งลงที่เดิมเสิ่นจวนรู้สึกกระสับกระส่าย ลุกขึ้นพรวดพลางกล่าวว่า “พี่สะใภ้เจ้าคะ ข้าขอเติมน้ำให้ท่าน!”“มิต้องแล้ว…!”มือของเสิ่นจวนสั่นเทาในขณะที่หลิงอวี๋กำลังบ่ายเบี่ยง กาน้ำชาจึงเอนเอียงจนทำให้ชาหกใส่กระโปรงหลิงอวี๋กะทันหันหลิงอวี๋โดนลวกจนเกือบสะดุ้งเมื่อเสิ่นจวนเห็นเหตุการณ์จึงวางกาน้ำชาลงใกล้ ๆ อย่างตะลีตะลาน“พี่สะใภ้ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ… ท่านมีแผลน้ำลวกหรือไม่เจ้าคะ?”เสิ่นจวนล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเช
มุมปากหลิงอวี๋เชิดยิ้มหยัน แม้องค์หญิงหกจะเสียของล้ำค่าไปสามชิ้นก็ยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียน!ยังบังอาจยั่วยุตนอีก!นี่คงจะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วจริง ๆ!ยังมีเสิ่นจวนอีกคน ช่วงที่นางพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้ ตอนแรกก็คึกคักกระโดดโลดเต้น แต่ต่อมาก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวหลิงอวี๋ไม่เคยเชื่อว่าเสิ่นจวนจะกลับเนื้อกลับตัวจริง ๆ และนางคอยเสิ่นจวนเคลื่อนไหวมาตลอดแต่คิดไม่ถึงเลยว่าวิธีเคลื่อนไหวของเสิ่นจวนจะช่วยคนเลวทำชั่วเยี่ยงนี้!ตำแหน่งพระชายาอ๋องอี้มันหอมหวานขนาดนั้นเชียวหรือ?เพิ่งจบกับชิวเหวินซวง เสิ่นจวนก็มาอีกคน!หลิงอวี๋บ่ายหน้าไปพลางคลี่ยิ้มเย็นชา และพบกับตั่งเตียงอันเรียบง่ายอยู่ในห้อง!องค์หญิงหกกับเสิ่นจวนหมายจับตนกับชายสักคนให้อยู่บนเตียงด้วยกันหรือ?เรื่องนี้จ้าวเจินเจินกับพระสนมหรงก็รู้เบื้องลึกสินะ!ดี… ดีมาก!บัญชีนี้นางจะจำไว้ หากมีโอกาสจะชำระพวกนางไปทีละคนแน่!หลิงอวี๋พบว่าประตูถูกลงกลอนจึงไปตรวจสอบหน้าต่าง หน้าต่างก็ถูกปิดไว้จากข้างนอกอย่างแน่นหนา ผลักไม่ออกโดยสิ้นเชิง“เถาจื่อ…!”หลิงอวี๋เริ่มร้อนใจ ตอนเถาจื่อไปเอาน้ำ หากองค์หญิงหกกับเสิ่นจวนทำร้ายตน ตัวนางเองสามารถรับมือ