แชร์

บทที่ 55

ผู้แต่ง: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หลิงอวี๋ตัวน้อยในความทรงจำยืนอยู่ที่ประตู เห็นว่าหลิงเสียงเซิงผลักหลานฮุ่ยจวนล้มลงกับพื้น นางไอออกมาหลายครั้ง แล้วกระอักเลือดสีดำออกมาจำนวนมาก

หลิงเสียงเซิงพบหลิงอวี๋ตัวน้อยที่หน้าประตู ก็ก่นด่า “เจ้าผู้หญิงบ้า เจ้าทำให้ลูกตกใจ!”

เขาอุ้มหลิงอวี๋ตัวน้อยขึ้นแล้วเดินออกไป

ผ่านไปไม่กี่วัน หลานฮุ่ยจวนก็ตาย

วันนั้นหลิงอวี๋ตัวน้อยตกใจมากจนป่วยหนัก ไปร่วมพิธีศพอย่างมึนงง ความทรงจำที่มีต่อหลานฮุ่ยจวนเลือนรางมาก

หลิงอวี๋ยืนมองอยู่ในมุมของคนที่มองเข้าไป ก็เห็นอะไรแปลก ๆ เยอะมาก

หลานฮุ่ยจวนตายไปยังไม่ทันครบปี หลิงเสียงเซิงก็ทนไม่ไหวไปพาอนุภรรยาตระกูลหวังมาอยู่ด้วย!

แล้วนางก็กระอักเลือดสีดำออกมา!

นี่มันคล้ายกับอาการที่ได้รับพิษมาก!

หรือว่าในปีนั้นหลายฮุ่ยจวนจะตายอย่างแปลกประหลาดจริง ๆ ?

นางไม่ได้ตายแบบปกติ แต่ถูกคนวางยาพิษหรือ?

คำพูดนั้นที่หลานฮุ่ยจวนพูด ‘พวกเจ้าทำร้ายข้า...’

บางทีนี่อาจจะไม่ได้หมายถึงทำร้ายความรู้สึกของหลานฮุ่ยจวน!

แต่มันหมายถึงทำร้ายชีวิตของนาง?

หากอยากจะหาสาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนในแน่ชัด ยังต้องหาโอกาสไปหาที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอีก ตอนนี้หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงแค่ป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 56

    หลิงอวี๋เห็นนางรับใช้ร่างใหญ่หน้ากลมผู้นี้มีผิวขาวผ่อง แม้จะด่าตน แต่ประโยคสุดท้ายกลับมีท่าทีพูดที่ดีเพื่อตนเสียอย่างนั้นนางกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกเขาร้องของความช่วยเหลือ… เทือกเขารกร้างห่างไกลนี้มิมีผู้ใดมาช่วยพวกเจ้าได้หรอก!”“ฮูหยินใหญ่ของพวกเจ้าเป็นโรคหอบหืด! พลังหยิน(1)ในเขาลึกหนักเกินไป ทำให้หอบหืดกำเริบขึ้นง่าย!”หลิงอวี๋ล้วงยาพ่นหอบหืดในมือออกมา กล่าวว่า “นี่คือโอสถสรรพคุณพิเศษของข้า ให้นางสูดหายใจเข้าสักหน่อยแล้วนางจะพ้นอันตราย!”แม่นมเว่ยมองขวดประหลาดบนมือหลิงอวี๋ด้วยสีหน้าระมัดระวัง มิเชื่อคำพูดนางอย่างเด่นชัด“แบบนี้...”หลิงอวี๋เปิดฝาพ่นใส่จมูกของตัวเองสองสามทีแล้วกล่าว“แม่นมเจ้าดูสิ ไม่มีสิ่งใดมิเหมาะ! ฮูหยินใหญ่ของพวกเจ้ายังเป็นโรคกลัวด้วย หากหายใจไม่ออกมาจะม่องเท่งเอานะ!”“แม้พวกเจ้าจะไปเรียกคนแล้ว แต่ถ้าฮูหยินใหญ่ยังมิได้รับการรักษาตัวอยู่อีก คาดว่าจะรอไม่ทันคนมาน่ะสิ! เจ้าดูนี่ สีหน้าฮูหยินใหญ่ม่วงหมดแล้ว!”แม่นมเว่ยก้มศีรษะต่ำลงมอง เห็นฮูหยินใหญ่ของตัวเองสีหน้าม่วงจริง เพียงหายใจออกแต่ไม่หายใจเข้าแล้ว!นางรีบจับมือฮูหยินใหญ่ทันควัน ก่อนจะตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 57

    หลิงอวี๋เห็นฮูหยินใหญ่กำลังมองตนอย่างกอดความหวังไว้เช่นกัน นางจึงยิ้มสักพักกล่าวว่า“ขออภัยฮูหยินใหญ่ โรคเจ็บป่วยนี้จะกำเริบขึ้นบ่อยครั้ง ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้!”ดวงตาของฮูหยินใหญ่หมองลง หลิงอวี๋ค่อนข้างอดกลั้นไม่ไหว ในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่ง นางจนปัญญาทนสายตาที่สิ้นหวังของผู้ป่วยเป็นที่สุดนางรีบกล่าวปลอบโยนว่า “แต่ข้าสามารถสอนหลายวิธีป้องกันการกำเริบต่อท่านได้! ท่านทำตามสิ่งที่ข้าบอกและดูแลรักษาให้ดีก็จะไม่กำเริบง่าย ถึงขั้นไม่กำเริบในอนาคตอีกด้วย!”อ่า มีดีขนาดนี้เชียวหรือ?แม่นมเว่ยกล่าวทันทีว่า “ฮูหยิน พวกเราจะไปทำตามวิธีที่ท่านสอนแน่นอน ท่านช่วยบอกว่าควรใส่ใจกับสิ่งใด! ไป่ซุ่ย เจ้าก็ตั้งใจช่วยฮูหยินใหญ่จำด้วย!”หลิงอวี๋ตอบว่า “ข้อแรกคือใส่ใจการบริโภค กินแค่ของอ่อนและกินผักผลไม้ให้มากเช่น ไชเท้าและบวบเป็นต้น พวกมันมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหายใจลำบาก ขับเสมหะและล้างปอด เป็นประโยชน์ต่อคนเป็นโรคหอบหืดอย่างยิ่ง”หลิงอวี๋บอกไป่ซุ่ยเกี่ยวกับอาหารที่ควรเลี่ยงและกินได้ ครั้นดูท่าทีของไป่ซุ่ยที่จดจำลำบาก นางก็กล่าวขึ้นว่า“สักครู่ข้าจะไปยืมพู่กันกับกระดาษเขียนให้เจ้าแล้วกัน!”ไป่ซุ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 58

    หลิงอวี๋และทั้งสี่คนถูกไป่ซุ่ยพาไปลานจวนเล็ก ๆ ลานหนึ่งที่อยู่ข้างกัน ลานจวนนี้สะอาดเรียบง่ายเป็นสถานที่พักผ่อนรวมตัวตระกูลที่เป็นสตรีครั้นรอให้ไป่ซุ่ยออกไป แม่นมลี่ให้หลิงซินไป ก่อนจะดึงหลิงอวี๋มาข้าง ๆ เอ่ยเสียงแผ่ว“คุณหนู ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดบ่าวถึงสนับสนุนให้อยู่ต่อ?”หลิงอวี๋เดาว่าแม่นมลี่คงไม่เสนอให้ตนอยู่ต่อหากไม่มีสาเหตุจึงเอ่ยถามเสียงเบา“เป็นเพราะฮูหยินใหญ่เหลียงผู้นั้นมีฐานะที่พิเศษรึ?”แม่นมลี่มองนางอย่าจนปัญญา กล่าวเสียงแผ่วว่า “คุณหนู ท่านลืมไปแล้วรึ เมื่อท่านยังเด็กเคยพบนาง...นางแซ่เหลียง… ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันคือฮ่องเต้อู่อันและหมู่เฟย(1)ของฮ่องเต้ก็แซ่เหลียงเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกตะลึงชั่วขณะ เอ่ยถามว่า “หรือว่านางคือไทเฮา?”หลิงอวี๋รู้เพียงว่าฮูหยินใหญ่ผู้นี้มีฐานะสูงศักดิ์ สง่าเกรียงไกร ยังคิดว่าเป็นคุณท่านหญิงจากสกุลร่ำรวยมากอำนาจจากบางแซ่ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็นไทเฮาในพระราชวัง!“นั่นน่ะสิ! คุณหนู… เมื่อครู่บ่าวเป็นห่วงท่านแล้ว! หากท่านรักษาไทเฮาไม่หาย พวกเราต้องตายกันหมดเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่ประสานมือ ก่อนจะท่องนะโม อมิตาภพุทธะ แล้วเอ่ยว่า “ยังดีที่คุณหนูช่วยชีว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 59

    ด้วยตำรับอาหารบำรุงสุขภาพที่ทำตามคำแนะนำของหลิงอวี๋ กอปรกับโอสถพ่นหอบหืดที่หลิงอวี๋ให้ ไทเฮาเหลียงหลับเสถียรภาพตลอดคืนไทเฮาก็รู้สึกร่างกายผ่อนคลายจากที่ไม่เป็นมาก่อน นางก็คลี่ยิ้มพึงพอใจ“ทั้งหมดนี้ต้องยกคุณงามความดีให้ชายาอ๋องอี้! อายเจียรู้สึกว่าถ้าดูแลอย่างนี้ต่อไป อายเจียจะมีชีวิตถึงร้อยปีจริง ๆ ”“เป็นเช่นนั้นแน่นอนเพคะ! ไทเฮามีวาสนาดี… ออกตำหนักก็บังเอิญพบกับผู้สูงศักดิ์แล้ว!”“บ่าวจะไปคอยปรนนิบัติไทเฮาเสวยพระกระยาหารเช้า! ชายาอ๋องอี้บอกว่าหลังเสวยเสร็จก็พักผ่อนครึ่งชั่วยาม นางจะรอท่านอยู่ลานครึ่งทางขึ้นเขาวัดเพื่อชี้แนะวิธีรำไทเก๊กท่าน!”“ดีเลย… แม่นมเว่ย เจ้าควรศึกษาทีหลังด้วย! พวกเราจะได้อายุยืนยาว… เจ้าจะได้อยู่เคียงข้างอายเจียหลาย ๆ ปี” ไทเฮาเหลียงรู้สึกยินดีสุดซึ้งแม่นมเว่ยพยักหน้าส่งยิ้มตอบ “ไทเฮาทรงโปรดปรานรักใคร่ บ่าวจะหมั่นเพียรศึกษาตามอย่างแน่นอน บ่าวจะอยู่คอยปรนนิบัติไทเฮาพันปีพันพันปีเลยเพคะ! ”“ปากเจ้าทาน้ำผึ้งหรือ? เลือกวาจาน่าฟังเสมอเลย… อะไรพันปีกัน อายเจียไม่คาดหวัง มีชีวิตร้อยปีก็พอใจแล้ว!”ไทเฮาเหลียงเสวยพระกระยาหารเช้าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง และแม่นมเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 60

    “คุณหนู ทำเช่นไรดีเจ้าคะ?”“งานเฉลิมฉลองของไทเฮาเชิญท่านไป เราก็ต้องเตรียมของขวัญถวายไทเฮา ยังต้องซื้อชุดเสื้อผ้าให้ท่านสวมไปงานด้วย!”ระหว่างทางกลับ แม่นมลี่นึกถึงเงินห้าสิบตำลึงที่หลิวอวี๋ให้ตนก็เกิดความกลุ้มใจของขวัญถวายไทเฮามิอาจกระจอกงอกง่อยได้ เสื้อผ้าที่คุณหนูสวมเข้าวังก็มิอาจะกระจอกงอกง่อยได้เช่นกัน!นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ผลาญเงินยิ่ง แต่เหลือเวลาแค่สิบกว่าวันก็ถึงวันงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพแล้ว จะไปหาเงินได้จากไหนเล่า!หลิงอวี๋กล่าวคัดค้านว่า “แม่นม พระนางแค่พูดตามพิธีรีตองเท่านั้น ไยเจ้าคิดเป็นจริงเป็นจัง!”“อ่า ตามพิธีรีตอง? เป็นไปมิได้! คำพูดดั่งทองวาจาดั่งหยกของไทเฮา จะตรัสความเท็จได้เยี่ยงไร?” แม่นมลี่ผงะสักพัก“เมื่อก่อนในวังจัดงานเฉลิมฉลองอะไรก็ไม่เคยเชิญข้า! ไทเฮาจะทรงละเว้นได้เยี่ยงไร!”หลิงอวี๋ยิ้มอ่อนจาง “ข้าช่วยคนเป็นหน้าที่ ไม่อยากได้อะไรจากพระนาง! แม่นมก็อย่าพะวงไป… หากต้องพะวงจริง ๆ ก็คอยจนกว่าจะได้เห็นบัตรเชิญค่อยว่ากันเถอะ!”ครั้นแม่นมลี่ได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของนางก็หวนนึกถึงทัศนคติของราชวงศ์ที่มีต่อหลิงอวี๋กับหลิงเยว่ก็เลยไม่กอดความหวังแล้วเช่นกัน!ทั้งส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 61

    เสิ่นจวนเห็นเจิงจื่ออวี้เสียหน้าก็พลันช่วยพูดทันควัน “อย่าว่าแต่เรื่องดูแคลนอันใดเจ้า ตัวข้าสามารถดูแคลนเจ้าได้ประเดี๋ยวนี้เลย!”“หากเจ้าไม่มีเงินกินข้าวจริง ๆ มาเป็นนางรับใช้ให้ข้าสักวัน แล้วข้าจะช่วยค่าอาหารของวันนี้แก่เจ้าเป็นเช่นไร?”สตรีที่กำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างอาฆาตคือฉินรั่วซือ น้องสาวของฉินซานนางทนไม่ไหวเลยกล่าวเสียงเย็นชา“เสิ่นจวน นางเลือกภัตตาคารจี๋เสียงแล้วกลับยังต้องการให้เจ้าออกเงินช่วยอีกรึ!”“นางยังติดหนี้เกิ่งเอ้อเหยอยู่เลย ถ้านางจะเข้าไปยืมอีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร! ลำบากขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก!”คุณหนูคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แม้การพรรณนานี้จะหยาบ แต่เหมาะกับหลิงอวี๋ยิ่ง!เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจหลิงอวี๋กลับเต้นผิดจังหวะ คาดมิถึงว่านี้คือภัตตาคารที่เกิ่งเอ้อเหยเปิดกิจการ?นางกำลังใคร่ครวญว่า จะไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลของเซียวหลินเทียนกลับมาอย่างไรดีและคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่ตัวเองติดค้าง!นี่คือการหลับในแล้ววิ่งชนหมอนจริงๆ(1)ชัด ๆ!ในบรรดาร้านยาสมุนไพรพวกนั้นไม่มีความรู้สรรพคุณยาเสียเลย แต่เกิ่งเอ้อเหยเป็นคนในยุทธภพเช่นนี้ต้องรู้เป็นแน่!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 62

    หลิงอวี๋มองนางอย่างเฉยเมย “เสียงผู้ใดดังก็เป็นผู้นั้นไร้การศึกษาไงเล่า ขนาดเด็กยังเข้าใจ เจ้ากลับมิเข้าใจรึ?”“ถ้าไม่เข้าใจก็กลับไปให้แม่เจ้าสั่งสอนภาคบังคับเจ้าใหม่อีกแปดปีซะสิ!”เสิ่นจวนบันดาลโทสะจนตัวสั่นเทิ้ม หลิงอวี๋คนต่ำช้าผู้นี้กลายเป็นคนฉลาดพูดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?เมื่อก่อนพอถูกตนกล่าวไม่กี่ประโยคก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธตลอดแท้ ๆ !นี่เพิ่งไม่พบกันไปไม่กี่วัน ผู้ที่ถูกทำให้โกรธจนต้องกระทืบเท้ากลับเป็นตนเสียอย่างนั้น!มีคุณหนูผู้หนึ่งในกลุ่มนั้นมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบว่า คนที่มากินข้าวที่นี่ทั้งหมดล้วนต่างมองมา และแล้วใบหน้านางก็แดงฉับพลันนางดึงเสิ่นจวนเข้ามากระซิบเตือนข้าง ๆ ว่า “เรามาดูเรื่องบันเทิงของนาง! มิใช่ให้ผู้อื่นมาดูเรื่องบันเทิงเรา!”“ทนรออีกสักเดี๋ยว คอยดูนางไม่มีเงินจ่ายอีกสักหน่อย นั่นคงทำให้นางต้องอับอายเป็นแน่!”คำพูดนี้เอ่ยเพื่อปลอบขวัญเสิ่นจวน ครั้นนางเห็นอันเจ๋ออยู่ที่นี่ ก็พลันนิ่งเงียบไปนางปรารถนาออกเรือนกับเซียวหลินเทียน และอันเจ๋อก็เป็นสหายที่ดีที่สุดของเขา นางเลยจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเอาไว้!อาหารเพิ่งยกมา หลิงอวี๋ก็พลันเห็นลู่หนานพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 63

    แต่ว่าเวลานี้นางกำลังขาดแคลนเงินมิใช่รึ?นางไม่รังเกียจทองคำ เงิน หรืออัญมณีสามัญ ๆ หรอกนะ เอาสิ่งพวกนั้นมาอาบนางเลยเถอะ!งานเฉลิมฉลองพระราชสมภพอะไรกันเปล่าประโยชน์ที่สุด!เพราะคุณหนูชอบสิ่งของที่จับต้องได้จริง!แม่นมลี่ใจเต้นผิดจังหวะ เคลื่อนตัวเข้าใกล้หลิงอวี๋กล่าวเสียงแผ่ว“แรกเริ่มสิ่งที่ไทเฮาตรัสเป็นความจริง! คุณหนู บ่าวบอกแล้ว ท่านจะได้รับเทียบเชิญจากไทเฮาในครานี้แน่นอน!”“ถูกต้อง ลือกันว่าไทเฮามิโปรดเสียงดัง ฉะนั้นงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพครานี้ไม่ได้เชิญคนเยอะมากมัก!”“เริ่มส่งเทียบเชิญในวังเมื่อเช้านี้ เล่ากันว่าไม่เกินร้อยคน… และตัวข้าได้รับเทียบเชิญแล้ว! พวกเจ้าได้หรือยัง?”ชายาผิงหยางกวาดสายตามองทุกคนอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเต็มประดา แถมยังเจาะจงมองไปทางหลิงอวี๋เป็นพิเศษ“เพียงร้อยคนเองหรือเพคะ? งั้นเทียบเชิญนี้ช่างเลอค่าเสียจริง! ห่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ท่านพ่อหม่อมฉันได้รับหนึ่งใบแล้วสามารถพาคนไปด้วยได้คนหนึ่ง ท่านแม่เลยบอกให้หม่อมฉันไป!” เสิ่นจวนก็กล่าวกระหยิ่มยิ้มย่องเช่นเดียวกันเจิงจื่ออวี้เองก็เร่งเอ่ยว่า “ท่านพ่อหม่อมฉันก็ได้รับแล้วหนึ่งใบ สามารถพาคนคนหนึ่ง

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1558

    หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1557

    งานเลี้ยงท้องถนนจบลงแล้วใต้เท้าเถี่ยลงโทษพวกคนที่ด่าที่ชาวบ้านจับออกมาต่อหน้าทุกคน และใส่โซ่ตรวนให้เดินไปตามถนน ทุกคนถูกตัดสินให้ใช้แรงงานห้าปีเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่นนางซุนเองก็ถูกระบุชื่อด้วย นางจึงก้าวมาข้างหน้าอย่างเศร้าใจแล้วคุกเข่าลงเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตนถูกหนานฮุ่ยข่มขู่ออกมาสุดท้ายนางซุนก็ร้องไห้พลางเอ่ย “คำพูดเหล่านั้นที่ข้าพูดที่ราชสำนักล้วนเป็นการใส่ร้ายฮองเฮา ฮองเฮามิเคยแย่งชิงทรัพย์สินของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ข้าพูดโกหกเอง!”“ข้าทำผิด มิกล้าขอให้ฮองเฮาประทานอภัย ขอเพียงให้ฮองเฮาอนุญาตให้ข้าได้รอให้สามีฟื้นขึ้นมาและได้พูดกับเขามิกี่คำ แล้วข้าจะยอมตายชดใช้ความผิด!”ใต้เท้าเถี่ยประกาศออกไปอย่างเที่ยงตรง “นางซุนใส่ร้ายฮองเฮา มีความผิดโทษฐานทำลายชื่อเสียงของฮองเฮา ดังนั้นจึงต้องลงโทษไปตามความผิด!”“เห็นแก่ที่ถูกคนบีบบังคับ มีเหตุผลยอมรับได้ ได้รับการละเว้นจากโทษประหาร ให้ใส่โซ่ตรวนเดินไปตามถนนและรับโทษใช้แรงงานห้าปี!”บัณฑิตเหล่านั้นต่างก็ชื่นชมกับคำตัดสินของใต้เท้าเถี่ย เดิมทีทุกคนคิดว่าครานี้นางซุนจะต้องตายแน่นอนแล้วนางใส่ร้ายฮองเฮาผู้เป็นที่เคารพ แม้ว่าจะถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1556

    หลิงหว่านมาถึงหลังจากที่หลิงอวี๋เข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว ระหว่างทางนางได้ยินพวกหลู่ชิ่งพูดเรื่องที่นางซุนทำต่อหลิงอวี๋หลิงหว่านมิรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับท่านแม่อย่างไร ดังนั้นแม้ว่าจะอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว นางก็มิได้เข้าไปพบหน้านางซุนนางซุนเป็นมารดาของตน นางเป็นห่วงเรื่องความเป็นความตายของตนกับหลิงเสียงกังจึงถูกคนบีบให้ทำเรื่องที่เลอะเทอะเหล่านี้แต่หลิงอวี๋เป็นลูกพี่ลูกน้องของตน ปกติแล้วก็ปฏิบัติต่อครอบครัวของตนอย่างดี!หลิงหว่านยอมตายแต่มิคิดจะทำร้ายหลิงอวี๋จะหน้ามือหรือหลังมือก็เนื้อเช่นกันตัดตรงไหนก็เจ็บปวด หลิงหว่านมิอาจพูดได้ว่าท่านแม่ผิด แต่ก็มิอาจยอมรับได้เช่นกันว่าท่านแม่ถูก!“ฮองเฮา หลิงเสียงกังมิเป็นไรใช่หรือไม่?”ท่านอดีตเสนาบดีเองก็เข้ามาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเช่นกันแม้ว่าท่านอดีตเสนาบดีจะเป็นห่วงความเป็นความตายของลูกชายตน แต่เขาเป็นห่วงชื่อเสียงของหลิงอวี๋ยิ่งกว่า ครอบครัวของตนต่างหากที่ทำผิดต่อหลิงอวี๋เขามิสามารถให้หลิงเสียงกังทำให้หลิงอวี๋เดือดร้อนได้อีก“ท่านปู่ ข้าลงมือเอง ท่านยังมิวางใจหรือ?”หลิงอวี๋เห็นความเป็นห่วงในแววตาของท่านอดีตเสนาบดีก็ยิ้มอย่างมั่นใจพลาง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1555

    เหล่าราษฎรและบัณฑิตเปลี่ยนจากความโกรธที่มีต่อหลิงอวี๋เมื่อครู่กลายเป็นความเป็นห่วงแล้วเนื่องจากสิ่งนี้เป็นการผ่าตัดที่มิเคยได้ยินได้เห็นมาก่อน แม้ว่าหลิงอวี๋จะมีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยมก็มิสามารถรับประกันได้ว่าจะมิเกิดความผิดพลาดฮองเฮาที่นึกถึงราษฎรเช่นนี้ มิควรถูกคนหักล้างความดีความชอบไปเพราะการทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว!สายตาของทุกคนล้วนมองไปทางทางห้องผ่าตัดที่กั้นผ้าม่านไว้อย่างเป็นห่วง เสียงความวุ่นวายในสถานที่แห่งนี้ก็ค่อย ๆ เงียบไปคนที่เป็นห่วงหลิงอวี๋ต่างก็กังวลกับหลิงอวี๋ ส่วนคนที่ด่าถูกปรามไว้นานแล้วจึงไม่มีโอกาสได้แสดงออกยามนี้เมื่อเห็นว่ามีโอกาสแล้วจึงแย่งกันตะโกนขึ้นมา“ฮองเฮา ท่านทำการรักษาจนหลิงเสียงกังตายแล้วใช่หรือไม่ รักษาเขาตายแล้วท่านก็ออกมาบอกทุกคนเถิด! มีคนมากมายที่รอฟังผลอยู่!”“ท่านอดีตเสนาบดี ท่านมิควรเชื่อฮองเฮา ใต้หล้านี้มีที่ไหนที่เปิดกะโหลกแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้อีก ท่านถูกนางหลอกแล้ว ท่านทำให้ลูกชายตายด้วยน้ำมือของท่านเองแล้ว!”“ฝ่าบาท พระองค์จะทรงให้พวกเรารออย่างมิสิ้นสุดเช่นนี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ รีบรับสั่งให้หลิงอวี๋ออกมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”นางซุนทำอะไรมิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1554

    ผู้นำคนหนึ่งและชาวบ้านของหลายหมู่บ้านพากันคุกเข่าลงอย่างล้นหลาม“ฝ่าบาททรงนึกถึงราษฎรและนำพาความร่ำรวยมาสู่พวกเราเช่นนี้ พวกเราจะให้ความร่วมมือกับฝ่าบาท จะเลี้ยงวัวนมอย่างดี ทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไปพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาทโปรดวางประทัย กระหม่อมเสี่ยวเฮยจะเลี้ยงวัวนมให้ขาวสะอาดและแข็งแรง ในทุกวันจะรีดนมวัวให้ได้มาก ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”ชาวบ้านแต่ละคนแย่งกันแสดงออกถึงความภักดีและความมุ่งมั่นต่อเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยิ้มให้ชาวบ้านเหล่านั้นอย่างเมตตาพลางเอ่ย “ผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้ล้วนเป็นฮองเฮาที่คิดขึ้นมา พวกเรามิอาจทำให้เจตนาของฮองเฮาต้องผิดหวังได้! พวกเราต้องพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์วัวนมให้ดี ทำให้แคว้นฉินตะวันตกร่ำรวยและราษฎรแข็งแกร่ง!”“อีกอย่างผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้มิเพียงแต่ทำให้อิ่มท้องแต่ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย คนชรากินเข้าไปกระดูกก็จะดี เด็ก ๆ กินแล้วก็แข็งแรงและเติบโตขึ้น...”“ฉินตะวันตกของเราต้องเลี้ยงวัวนมให้มาก ให้ราษฎรของฉินตะวันตกสามารถดื่มนมได้วันละถ้วย เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะสร้างฉินตะวันตกที่แข็งแกร่งได้!”คำพูดขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1553

    เซียวหลินเทียนอยู่บนแท่นสูงเห็นผลิตภัณฑ์นมเหล่านั้นถูกทุกคนลิ้มลองไปอย่างเอร็ดอร่อย มุมปากของเขาก็ปรากฏความเยาะเย้ยต่อหมู่บ้านที่ค้านการเลี้ยงวัวนมเหล่านั้น เรื่องนี้ทำให้เขานึกถึงตอนแรก หลิงอวี๋กับเกิ่งเสี่ยวหาวสร้างโรงงานยาที่หมู่บ้านตระกูลเฉินจนทำให้ชาวบ้านท้องถิ่งนั้นร่ำรวยกันขึ้นมา!แต่องค์หญิงหกต้องการจะแย่งโรงงานยาของหลิงอวี๋ จึงซื้อโรงงานยาด้วยราคาที่สูง เกิ่งเสี่ยวหาวโกรธมากก็เลยย้ายโรงงานยาไปที่หมู่บ้านอื่น!หลิงอวี๋กับตนพยายามคิดทุกทางเพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยง และคิดที่จะช่วยให้ชาวบ้านท้องถิ่นให้ร่ำรวยขึ้น ในเมื่อพวกเขามิเห็นค่าก็มองหมู่บ้านอื่นร่ำรวยด้วยความอิจฉาตาร้อนไปเสียเถิด!กฎหมายมิได้รับผิดชอบต่อทุกคน เมื่อเทียบกับการลงโทษชาวบ้านเหล่านี้ เซียวหลินเทียนคิดว่าการลงโทษที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้พวกเขาได้มองการสูญเสียความร่ำรวยนั้นไป...ฉินซานกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเดินตามงานเลี้ยงและแจกใบประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้น ประกาศว่าผลิตภัณฑ์นมจะนำพาผลกำไรทางเศรษฐกิจมาให้เทียบกับการโฆษณาปากเปล่าแล้ว การมีผลิตภัณฑ์นมจำนวนมากวางอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ ทุกคนทั้งได้ลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1552

    การผ่าตัดเปิดกะโหลก นี่เป็นครั้งแรกในรอบพันปีของเมืองหลวง!หลิงเสียงกังเลือดท่วม สถานการณ์เร่งด่วนร้ายแรงถึงชีวิตทำให้เหล่าบัณฑิตและราษฎรเหล่านั้นวางความโกรธที่มีต่อหลิงอวี๋ลงชั่วคราวแม้จะมีข้อสงสัยในใจ แต่ท่านอดีตเสนาบดีเป็นบิดาของหลิงเสียงกัง ตามกฎหมายแล้วมีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้หลิงอวี๋รักษาหรือไม่ และพวกเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านนางซุนในฐานะภรรยามิได้มีสิทธิ์ตัดสินใจ การคัดค้านของนางจึงถูกเมินไปหลิงอวี๋พาพวกหลิงหว่านเข้าไปปฐมพยาบาลหลิงเสียงกังข้างในเซียวหลินเทียนมองนางซุนอย่างเย็นชาราวกับมองคนตายนางซุนผู้นี้ใส่ร้ายหลิงอวี๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจะมีความยากบำลาก ก็มิคู่ควรที่จะได้รับการอภัยนางซุนเห็นหลิงเสียงกังถูกล้อมไว้ ส่วนนางนั้นเดียวดายไร้ผู้ใดสนใจ เมื่อเห็นเผยอวี้นั่งอยู่ด้านข้างและมีองครักษ์คนหนึ่งกำลังจัดการบาดแผลให้เขาอยู่นางซุนก็เข้าไปอย่างรู้สึกผิด พลางเอ่ยถามอย่างเศร้าใจ “แม่ทัพเผย หว่านเอ๋อร์ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิรู้ว่าควรจะเกลียดหรือโกรธนางซุนดี จึงเอ่ยเรียบ ๆ “นางก็ถูกช่วยออกมาแล้ว อีกประเดี๋ยวก็มาถึง!”นางซุนได้ยินดังนั้นก็โล่งใจแล้วรีบเอ่ย “คนที่ข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1551

    “ฉึก… ฉึก...”เสียงลูกธนูคมกริบทั้งสองที่แทงทะลุร่าง ทำให้ราษฎรและบัณฑิตที่พุ่งไปข้างหน้าเมื่อเห็นทหารสองคนถูกยิงเข้าที่อกก็ชะงักอยู่กับที่ทันทียังมิทันที่พวกเขาจะได้ตอบสนองก็ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียนเอ่ยขึ้นมา “ทหารของข้าไม่มีทางสังหารคนบริสุทธิ์มิเลือกหน้า คนเลวสองคนนี้คิดจะสังหารพวกเจ้า กระตุ้นให้เกิดความวุ่นวาย มีเจตนาแอบแฝง เป็นความผิดร้ายแรงมิอาจให้อภัยได้!”“ข้าสังหารพวกเขาเป็นการเตือน! ผู้ใดที่กล้ามิฟังคำสั่งและลงมืออีกก็จะมีจุดจบดังเช่นพวกเขา!”ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้นตกตะลึงไปกับฉากนี้ คนที่มีเหตุผลเมื่อคิดแล้วก็เหงื่อออกทั่วร่างหากมิใช่เพราะมือธนูที่ซ่อนตัวอยู่บนที่สูงสังหารมือสังหารที่ก่อเรื่องสองคนนั้น พวกเขาก็จะถูกปลุกปั่น เมื่อเห็นทหารของจักรพรรดิสังหารราษฎร พวกเขาจะพุ่งเข้าไปทุบตีต่อสู้กับเหล่าทหารหรือไม่!ถึงเวลานั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?มิว่าจะเป็นราษฎรหรือทหารที่ตายก็ล้านทำให้จัตุรัสเกิดสถานการณ์นองเลือดที่ไหลดั่งสายน้ำ...เมื่อนึกถึงภาพนองเลือดนั้น ทุกคนก็กลัวจนตัวสั่น!และในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เผยอวี้ก็ขี่ม้าพร้อมแบกหลิงเสียงกังมาออกมาตามทางที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1550

    เหล่าบัณฑิตและขุนนางที่เดิมทีคล้อยตามท่านอดีตเสนาบดีกับผู้ป่วยแต่ละคนจนเลือกเชื่อหลิงอวี๋แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็หวั่นไหวทันทีเมื่อเห็นนางซุนที่คำนับหัวโขกพื้นจนเลือดไหลคุกเข่าขอร้องหลิงอวี๋อยู่ที่พื้น ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นให้หัวใจแห่งความชอบธรรมของพวกเขาปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งแล้ว“หลิงอวี๋เผด็จการรังแกผู้คนเช่นนี้ จะคู่ควรกับการนั่งเพลิดเพลินอยู่ในตำแหน่งฮองเฮาบนแท่นสูงนั้นได้อย่างไร!”“หลิงอวี๋ ลงมาเสีย เจ้าควรจะฆ่าตัวตายเป็นการขอโทษ!”“ประหารมือสังหารที่บีบให้คนตายผู้นี้เสีย!”เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวดังก้องขึ้นมาในจัตุรัส บัณฑิตเหล่านั้นพยักหน้า และทุกคนก็พุ่งไปที่แท่นสูงกองทัพหลวงก้าวออกมากั้นเอาไว้ แต่พวกเขามิสามารถสังหารราษฎรได้ และมิสามารถลงมือกับพวกเขาได้ด้วย จึงถูกบีบจนต้องถอยร่นไปเซียวหลินเทียนเด้งตัวลุกขึ้นมา สีหน้าของเขามืดครึ้ม วันนี้แม้จะต้องสังหารคนที่ก่อเรื่องเหล่านี้ให้หมดและขึ้นชื่อเรื่องเผด็จการเป็นชนักติดหลัง เขาก็จะมิยอมพูดได้มิชัดเจนแล้วอย่างไร เขาก็จะใช้สถานการณ์ที่นองเลือดยิ่งกว่ามาทำให้นางซุนและคนที่ด่าหลิงอวี๋ต้องหุบปากตลอดไป!หลิงอวี๋เองก็ลุกขึ้

DMCA.com Protection Status