หลิงหว่านพูดถูก ในฐานะเจ้าภาพ องค์หญิงหกจะเอาอาภรณ์ของแขกมาทำให้พวกเขาอับอายได้เยี่ยงไร?เจียงอวี้เองก็พูดถูกเช่นกัน ผู้ใดจะแต่งตัวได้ดีกว่าองค์หญิงหกกันเล่า?หลิงอวี๋มองเพื่อนสนิททั้งสามของหลิงหว่านด้วยความโล่งใจ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับองค์หญิงหก พวกนางมิได้เลือกปกป้องตัวเอง แต่กลับพูดช่วยหลิงหว่านโดยมิเกรงกลัวอำนาจขององค์หญิงหกเลยเพื่อนสนิทที่ดีเช่นนี้สิถึงจะเป็นเพื่อนแท้!แต่หลิงเยี่ยนและหวางซือที่เป็นคนในครอบครัวเดียวกันของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน กลับมิกล้าแม้แต่จะทำอะไรเลย!หลิงเยี่ยนกับหวางซือยืนกระอักกระอ่วนอยู่ตรงที่เดิม พวกนางเป็นคนในครอบครัวของหลิงหว่าน ย่อมมิสามารถช่วยคนนอกเหยียบย่ำหลิงหว่านได้!หลิงหว่านถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย มิได้ส่งผลดีต่อจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนของพวกนางเลยแม้แต่น้อย หลิงเยี่ยนก็ทนแบกรับชื่อเสียงของการมีพี่สาวเป็นขโมยมิได้ดังนั้นแม้ว่าหลิงเยี่ยนจะอยากซ้ำเติมมากแค่ไหน แต่ก็รู้ว่าหากความผิดของหลิงหว่านได้รับการพิสูจน์แล้ว หลิงเยี่ยนเองจะมิได้รับผลดีอะไรเลยแต่พวกนางก็มิสามารถช่วยพูดให้หลิงหว่านได้ เช่นนั้นจะเป็นการทำให้องค์หญิงหกกับพระสนมหรงขุ่นเคืองหลัง
เสิ่นจวนอยู่ข้างกายพระสนมหรงพลางยิ้มอย่างมีความสุขวันนี้นางได้เรียนรู้บทเรียนที่นางถูกไทเฮาตำหนิเมื่อครั้งที่แล้ว นางจึงไม่พูดอะไรมาก แค่อยากหาโอกาสที่เหมาะสมเหยียบย่ำหลิงอวี๋กับหลิงหว่านอย่างโหดเหี้ยมสักหน่อยหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของลั่วอวี้จูก็โกรธมากหลิงหว่านเป็นสตรีที่ยังมิได้แต่งงาน องค์หญิงหกยังกล้าให้ทหารของฉินซานมาค้นตัวของนางอีกหรือ?หากสิ่งนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของหลิงหว่านก็จะเสียหาย!หลิงอวี๋มองลั่วอวี้จูด้วยสายตาเย็นชานางเสียใจ เมื่อครู่นางน่าจะให้เถาจื่อเอาจี้หยกไปไว้ที่ตัวลั่วอวี้จูเสีย!ในเมื่อลั่วอวี้จูอยากทำลายหลิงหว่านมากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นนางก็ควรได้ลิ้มรสความรู้สึกของการถูกทำลายเสียบ้าง!“จะค้นตัว? ได้… เริ่มจากคุณหนูลั่วเลยแล้วกัน!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ช่วงเวลาที่คุณหนูลั่วอยู่กับองค์หญิงหกยาวนานที่สุด นางเป็นคนที่มีความเป็นไปได้ที่จะขโมยจี้หยกขององค์หญิงหกมากที่สุด!”“ขอเพียงคุณหนูลั่วตกลงให้ค้นตัวก่อน พวกเราก็จะให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน!”ฮูหยินลั่วตะโกนด้วยความโกรธ “พระชายาอ๋องอี้ เหตุใดพระชายาถึงใจร้ายถึงเพียงนี
เมื่อเห็นพระชายาผิงหนานช่วยพูดแทนหลิงหว่าน พระสนมหรงก็เอ่ยเสียงทุ้ม “คำพูดของพระชายาผิงหนานผิดไปสักหน่อยกระมัง!”“ข้ารู้สึกว่าองค์หญิงหกทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว องค์หญิงหกให้โอกาสหลิงหว่านแล้ว แต่นางมิยอมคืนจี้หยกมาให้เอง! เช่นนั้นก็ควรรับผลที่ตามมาด้วยตนเอง!”ในใจจ้าวเจินเจินมิชอบการวางกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ขององค์หญิงหกเลย นางรู้สึกว่าการจะจัดการกับหลิงอวี๋กับหลิงหว่าน การวางกลอุบายนี้มิอันตรายมากนักจ้าวเจินเจินมิอยากมีส่วนร่วมในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นพระชายาเย่กับพระชายาผิงหนานช่วยพูดแทนหลิงอวี๋ ก็รู้สึกมิสบายใจเท่าไหร่นางครุ่นคิด แล้วยิ้มมองสถานการณ์ไป“น้องสี่ วันนี้องค์หญิงหกเชิญให้ทุกคนมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่นางจัดขึ้น มันควรมีความสุขกันสิ! เราอย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องนี้เลย รีบจัดการให้เสร็จแล้วทุกคนก็มาเพลิดเพลินกับบุปผากันต่อเถิด!”“หลิงหว่าน หากเจ้าเอาจี้หยกไปก็คืนมาเถิด! ถือว่าเห็นแก่น้องสี่ ยอมรับความผิดพลาดของเจ้าอย่างจริงใจ องค์หญิงหกมิเอาความเจ้าหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา จ้าวเจินเจินกำลังช่วยเซียวทงหรือ?นางนึกได้ถึงเรื่องที่จ้าวเจินเจินใช้การตายของ
นางกำนัลสองคนวิ่งไปหาหลิงหว่านด้วยท่าทีน่ากลัว“หยุดเดี๋ยวนี้!”หลิงอวี๋ตะโกนเสียงดัง และยืนขวางอยู่ตรงหน้าหลิงหว่านด้วยดวงตาเฉียบคม“เซียวทง ท่านแน่ใจหรือว่าจี้หยกถูกหลิงหว่านขโมยไป?”เซียวทงตะโกนอย่างไม่อดทน “พี่สะใภ้สี่ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากปกป้องหลิงหว่าน ถึงได้พูดช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่า! หากเป็นจี้หยกอันอื่นข้ามิว่าเลย แต่นั่นเป็นจี้หยกที่เสด็จพ่อมอบให้ข้า ดังนั้นข้าต้องค้นตัวนาง!”หลิงอวี๋มองเซียวทงอย่างเย็นชา พลางเอ่ยถามเสียงแข็ง “เซียวทง ท่านรู้หรือไม่ว่าการค้นตัวเช่นนี้จะทำลายชีวิตของหลิงหว่าน?”เซียวทงมองหลิงหว่านอย่างร้ายกาจ “หลิงหว่านกล้าขโมยเช่นนี้ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา! นางทำลายชีวิตของนางเอง!”หลิงอวี๋ยกมุมปากขึ้นเยาะเย้ย เหตุใดนางจึงหวังให้องค์หญิงผู้เอาแต่ใจมีความเห็นอกเห็นใจต่อสามัญชนกัน?เซียวทงมิได้มองว่าหลิงหว่านเป็นมนุษย์เลยเช่นเดียวกับจ้าวเจินเจิน นางมองว่าผู้ที่มีสถานะต่ำกว่าพวกนางอย่างเช่นหลิงหว่านกับหลิงซินเป็นเครื่องมือ!เครื่องมือที่ใช้และเหยียบย่ำได้!“เซียวทง หม่อมฉันแค่อยากรู้ว่าหากไม่พบจี้หยกของท่านจากการค้นตัวหลิงหว่าน แล้วท่านจักทำเยี่ยงไร?”
ตัวตนเช่นอันซินนี่แหละถึงจะมีความมั่นใจที่จะพูดกับองค์หญิงหกเช่นนี้ได้ แม้ว่าคุณหนูคนอื่นจะรู้สึกว่าองค์หญิงหกก้าวร้าว แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าตำหนิอะไรองค์หญิงหกพระชายาเย่ตั้งครรภ์ได้แปดเดือนกว่าแล้ว น้ำหนักตัวมาก เมื่อถูกแสงแดดจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นางใกล้จะคลอดแล้ว คิดว่าหลังคลอดก็จะต้องอยู่ในเรือน จึงอยากถือโอกาสก่อนจะคลอดออกมาเคลื่อนไหวร่างกายสักหน่อยครั้นเห็นองค์หญิงหกก้าวร้าวเช่นนี้ พระชายาเย่ก็มิพอใจยิ่ง พลางเอ่ยอย่างฉุนเฉียว“องค์หญิงหก พี่สะใภ้สี่ก็ให้ยอมแล้ว ท่านเองก็พอได้แล้ว! อย่าให้คนอื่นคิดว่าราชวงศ์เรารังแกผู้อื่นเลย! เสด็จพ่อรู้เข้าจักมิสบายพระทัเสียเปล่า ๆ!”เซียวทงเกลียดพระชายาเย่ในทันที พี่สะใภ้ห้าผู้นี้เข้าข้างหลิงอวี๋หรือ?ได้ นางจะจำความแค้นนี้ไว้!พระชายาเย่ย้ายออกจากตำหนัก จึงทำให้เซียวทงค่อนข้างกลัวเมื่อเห็นฮูหยินหลายคนที่อยู่ตรงนั้นดูท่าทางมิเห็นด้วย เซียวทงจึงไม่ยืนกรานต่อ...หากตนเองยืนกรานที่จะค้นตัวหลิงหว่านต่อหน้าคนจำนวนมากจริง ๆ แล้วทำให้ราษฎรโกรธเคืองมันจะไม่คุ้มค่า!เซียวทงโบกมือ พลางเอ่ยอย่างรำคาญ “ได้ ๆ รีบพาเข้าไปค้นตัวเสีย!”นางกำน
งานเลี้ยงชมบุปผาเช่นนี้เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว ท่านอ๋องเฉิงมิเคยเข้าร่วมเลยแต่วันนี้องค์หญิงหกลากมาที่นี่ เซียวทงบอกว่าวันนี้นางจะเลือกราชบุตรเขยในงานชมบุปผา กลัวว่าตนเองยังเด็กยังมิรู้จักคนดีนัก จึงตั้งใจเชิญท่านอ๋องเฉิงมาช่วยตรวจสอบในช่วงนี้ไทเฮากับองค์จักรพรรดิอู่อันอันต่างก็กังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของเซียวทง ครั้นทั้งสองได้ยินเรื่องนี้ ก็ขอให้ท่านอ๋องเฉิงมาช่วยตรวจสอบให้ด้วยท่านอ๋องเฉิงยากที่จะปฏิเสธคำเชิญได้จึงมาร่วมสนุกด้วยมีหรือที่หลิงอวี๋จะปล่อยให้องค์หญิงหกทำร้ายหลิงหว่านต่อ เมื่อเห็นท่านอ๋องเฉิงเอ่ยถามก็ก้าวไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังในที่สุดหลิงอวี๋ก็เอ่ย “องค์หญิงหกค้นตัวก็ค้นแล้ว พอค้นมิเจอก็ยังมิยอมเลิกรา ท่านอ๋องเฉิงโปรดทวงถามความยุติธรรมให้น้องสาวของหม่อมฉันด้วยเพคะ!”เซียวทงตะโกนด้วยความโกรธ “หากมิทำชั่วก็มิเห็นต้องกลัวสิ่งใด นางกำนัลค้นแล้วมิพบ แล้วค้นอีกรอบมิได้รึ?”เซียวหลินเทียนมองเซียวทงอย่างเย็นชา เขารู้ถึงความแค้นระหว่างเซียวทงกับหลิงอวี๋ดีเพียงแต่เขามิคาดคิดว่าน้องสาวของตนผู้นี้ จะแสดงอำนาจขององค์หญิงต่อหน้าครอบครัวขุนนางจำนวนมากเช่นนี้“น้องหก หาก
ท่านอ๋องเฉิงเป็นผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายในของราชสำนัก มีกลอุบายใดบ้างเล่าที่เขามิเคยเห็น หลังจากที่คิดเชื่อมโยงในเรื่องนี้แล้ว ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ เซียวทงเป็นถึงองค์หญิงหก แต่ใช้วิธีการใส่ร้ายที่มิเป็นประโยชน์ต่อผู้ใดเลยแต่พอเห็นเซียวทงที่หน้าซีดแล้ว ท่านอ๋องเฉิงก็ไม่อยากให้เซียวทงเสียหน้าเซียวทงอับอาย และเป็นเรื่องที่ทั้งราชวงศ์อับอายด้วย!ท่านอ๋องเฉิงยิ้มบาง ๆ“เมื่อครู่องค์หญิงหกอาจทำจี้หยกหล่นหายจึงร้อนใจมากเกินไป มิได้ดูให้ชัดว่าเป็นจี้หยกของตนหรือไม่… ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว เซียวทง เอาจี้หยกของเจ้ากลับไปสิ!”“ต่อไปก็อย่าไปทำตกที่ไหนอีก!”ทันทีที่เซียวทงได้ยินท่านอ๋องเฉิงช่วยนางโกหก ก็ยิ้มทันทีพลางเอ่ย “เพคะ หม่อมฉันร้อนใจมากก็เลยมองมิชัด!”นางหยิบจี้หยกจากในมือของท่านอ๋องเฉิงแล้วรีบเก็บไปหากจี้หยกนี้แตกไปจริง ๆ นางจะต้องถูกเสด็จพ่อดุเป็นแน่องค์ชายสามรุ่ยเซียวหลินเฉียนมองหลิงอวี๋อย่างประหลาดใจ ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยพระชายาอ๋องอี้ผู้นี้ ดูมิค่อยเหมือนกับที่ร่ำลือกันเลย!น่าสนใจ!หลิงอวี๋เข้าใจเจตนาของท่านอ๋องเฉิงที่จะปกป้อ
“เซียวทง ในเมื่อเจ้าสัญญาแล้ว เช่นนั้นก็ยกน้ำชาขอโทษไปเถอะ!”“เจ้าเชิญแขกมามากถึงเพียงนี้ การปล่อยให้พวกเขารอนั้นเสียมารมาทมากนะ!”ท่านอ๋องเฉิงตัดสินใจแล้วโบกมือให้นางกำนัลไปเอาน้ำชามาเซียวทงกัดฟัน ยังคงมิเต็มใจเท่าไหร่เมื่อฉินรั่วซือเห็นสิ่งนี้ก็ก้าวไปกระซิบข้างหูของนางสองสามประโยคสีหน้าของเซียวทงดีขึ้นเล็กน้อย แล้วมองหลิงอวี๋ได้ ข้าจักให้เจ้าได้ใจไปก่อน แล้วข้าขอจัดการเจ้าในภายหลัง!กระทั่งนางกำนัลเอาน้ำชามา เซียวทงก็รินชาอย่างดีแล้วมอบให้หลิงหว่านอย่างเย็นชา“คุณหนูหลิง ข้าขอโทษ ข้าเข้าใจเจ้าผิด! ข้าขอโทษเจ้าด้วยนะ!”หลิงหว่านตื่นเต้นมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา!เดิมทีนางคิดว่าเรื่องความอับอายที่ได้รับในวันนี้คงจะพลิกกลับมาดีมิได้แล้ว เพราะว่าคนที่ทำให้นางอับอายคือองค์หญิงหกผู้เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิกับไทเฮา!คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี๋จะช่วยตนเองแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!ไม่เพียงเท่านั้น แต่หลิงอวี๋ยังบีบให้องค์หญิงหกยกน้ำชาขอโทษตนด้วย!อยากถามว่าผู้ใดในเมืองหลวงที่สามารถทำให้องค์หญิงผู้เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิมายกน้ำชาขอโทษได้ นอกเสียจากพี่สาวของตนผู้นี้!นอ