สีหน้าของท่านผู้เฒ่าเย่ซีดเผือด เขาเข้าใจพี่ชายของตนดี หากมิใช่เรื่องที่สำคัญร้ายแรง เขาจะมิพูดจาให้ตื่นตระหนกตามที่เย่ซงเฉิงพูด แม้ว่าตนจะส่งลูกหลานของตระกูลเย่ไปแล้ว พวกเขาก็มิอาจรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้!“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ไขเลยเชียวหรือ?”ท่านผู้เฒ่าเย่ถามอย่างร้อนรน “ฝูไห่มิตาย หลงอี้ก็อาจจะยังมิตาย หากพวกเราร่วมมือกับตระกูลอื่น ๆ จะต้องสามารถสังหารฝูไห่ได้แน่!”ท่านผู้เฒ่าเย่พูดไปก็เริ่มมิมั่นใจ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของหลงอี้ก็ปรากฏออกมาแล้ว เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!เย่ซงเฉิงยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “สองวันมานี้ ข้าและเจ้าสำนักศึกษาจินได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสของตระกูลต่าง ๆ หลายตระกูล พวกเขาก็เหมือนกับท่าน มิเชื่อคำพูดของเรา!”“แดนเทพสงบสุขมาหลายร้อยปี คนที่มองการณ์ใกล้เหล่านี้ต่างก็คิดว่าเราสองคนกำลังพูดจาให้ตื่นตระหนก!”“มหาเทพหลงก็มิไว้วางพระทัยข้าเหมือนเมื่อก่อน คอยแต่ถามข้าว่ามียาอายุวัฒนะที่ทำให้เป็นอมตะหรือไม่ พระองค์เองก็อยากจะมีชีวิตอยู่หลายร้อยปีเหมือนหลงอี้!”เย่ซงเฉิงส่ายหน้าอย่างนึกผิดหวัง “มีเพียงรอให้อันตรายมาถึงเสียก่อนเท่านั้น พวกเขาจึง
พี่น้องตระกูลเย่เปิดอกคุยกัน การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาทำให้ท่านผู้เฒ่าเย่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างไรเสียก็มิอาจหลีกหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ เช่นนั้นเชื่อฟังพี่ใหญ่เถิด สนับสนุนหลิงอวี๋อย่างเต็มที่!หลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้เลย วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางไปยังภูเขาหมางหลิ่งพร้อมกับฉินซานและคนอื่น ๆเซียวหลินเทียนได้โอกาสที่จะร่วมเดินทางไปกับหลิงอวี๋ จึงมาแต่เช้าตรู่ครั้งนี้ไม่มีจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและคนอื่น ๆ มาขัดขวาง พวกเขาจึงเดินทางมาถึงหน้าผานั้นในวันเดียวกันหลิงอวี๋กำลังจะให้เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ช่วยตัดเถาวัลย์มาถักเป็นบันไดเชือกปีนลงไป เซียวหลินเทียนก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “จะทำเรื่องยุ่งยากไปไย ดูข้า!”เซียวหลินเทียนลูบหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ มิถึงสิบวินาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาจากใต้หน้าผาหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ผ่านไปเพียงมินานเสือปีกกาฬก็เติบโตขึ้นมาก ปีกทั้งสองข้างแข็งแรง เมื่อกางออกก็ยาวถึงสองเมตรกว่า“นี่เป็นเพราะโอสถสร้างรากฐานปราณที่เจ้าให้!”เซียวหลินเทียนยื่นขวดโอสถเสริมพลังวิญญาณให้หลิงอวี๋ “เจ้าป้อนมันเองเถอะ ต้องการสมุนไพรอะไรก็บอกมัน ให้มันไปเก็บให้!”นางเคยให
หลิงอวี๋ยังมิเชื่อว่าเสือปีกกาฬจะฟังคำพูดของตน จึงลองลูบหัวใหญ่ ๆ ของมันแล้วอธิบายรายละเอียดของสมุนไพรที่ต้องการเสือปีกกาฬร้องสองครั้งเป็นสัญญาณว่าเข้าใจ จากนั้นก็กระโจนลงจากหน้าผาไปเพียงมิกี่นาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาอีกครั้ง ในปากคาบเถาวัลย์มาวางไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมาย ทั้งหมดนั้นมีเถาวัลย์เชียนจีที่หลิงอวี๋ต้องการอยู่ด้วยยังมิทันที่หลิงอวี๋จะชมเชยมัน เสือปีกกาฬก็กระโดดลงไปอีกครั้งครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าเดิม เมื่อกลับขึ้นมาในปากคาบสมุนไพรมาวางกองไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมายอีกครั้งหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ในจำนวนนี้มีสมุนไพรล้ำค่าอยู่มากมาย ทั้งยังมีโสมเก้าคดอีกสองต้นครั้งก่อนโสมเก้าคดของหลิงอวี๋ยังขายมิออก ครั้งนี้ได้มาอีกสองต้น นางจึงกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในทันทีการเลี้ยงเสือปีกกาฬตัวนี้ เหมือนกับการเลี้ยงต้นไม้เงินต้นไม้ทอง!“ขอบคุณ ขอบคุณนะ!”หลิงอวี๋ลูบหัวใหญ่ ๆ ของเสือปีกกาฬอย่างมีความสุข “ครั้งหน้าข้าจะปรุงยาที่ระดับสูงกว่านี้ให้เจ้า ทำให้เจ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถบินได้อย่างแท้จริง!”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหลิงอวี๋ มันจึงใช้ศีรษะใหญ่มาคลอเคลี
หลิงอวี๋ถูกเซียวหลินเทียนกอดไว้แน่น นางพยายามดิ้นรนแต่ก็มิอาจหลุดพ้นเขากดร่างของนางแนบแน่นบนแผงอก ปลายจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา อ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยหยดน้ำตาพลันไหลรินออกมาโดยมิทราบสาเหตุ หลิงอวี๋นึกถึงความรู้สึกสิ้นหวังเมื่อครั้งถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะจนมิอาจขัดขืนได้ น้ำตาจึงรินไหลอาบแก้มเซียวหลินเทียนบอกว่านั่นคือลูกของเขากับนาง?เมื่อครู่สีหน้าเศร้าโศกและเจ็บปวดของเซียวหลินเทียน หลิงอวี๋มองเห็นได้อย่างชัดเจน นางเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนในยามนี้เป็นของจริง มิได้เสแสร้งหลอกลวงตน!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอาจจะโกหกได้ เซียวหลินเทียนก็อาจจะแสดงละครได้ แต่หลิงอวี๋มิเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนเป็นการแสดง!“อาอวี๋ ข้าจะแก้แค้นให้ลูกของเรา!”“เมื่อกลับไป ข้าจะต้องหาวิธีจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้ได้ หากเจ้าอยากจะสับนางเป็นหมื่นชิ้น มิต้องให้เจ้าลงมือ ข้าจะทำเอง!”เซียวหลินเทียนแค่นเสียงลอดไรฟัน“ความแค้นของข้า ข้าจะแก้แค้นเอง!”หลิงอวี๋ผลักเซียวหลินเทียนออกอย่างแรง นางหันหลังไปเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ตอนอยู่ที่สำนักศึกษาชิงหลง ข้าได้วางยาพิษนางไปแล้
ในเรื่องการจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนมีเป้าหมายเดียวกันหลิงอวี๋มิได้ปิดบังเซียวหลินเทียน นางกล่าวเสียงเคร่งขรึม “การทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผยธาตุแท้ออกมาเป็นเรื่องง่าย รอให้กลับไปก่อน ข้าจะวางยาพิษชนิดใหม่ให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย! หากชี้นำอย่างเหมาะสม ฮูหยินเฉียวจะต้องเริ่มสงสัยในตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแน่!”ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกาย พลันเอ่ยขึ้นว่า “หากต้องการให้ข้าทำสิ่งใดเจ้าก็บอกมาได้เลย เพื่อแก้แค้นให้ลูกของเรา ก็ขอให้ข้าได้ออกแรงบ้าง!”“เมื่อต้องการให้ท่านร่วมมือ ข้าจะให้หานเหมยแจ้งให้ท่านทราบ!”หลิงอวี๋นึกถึงเก๋อฮุ่ยหนิง นางถึงกับลงมือสังหารตนเพียงเพราะต้องการแต่งงานกับเฉียวไป๋ ครั้งนี้ก็จะจัดการกับเก๋อฮุ่ยหนิงไปด้วย ตนจะได้ไปฉินตะวันตกอย่างหมดห่วง“อาอวี๋ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เกือบลืมบอกเจ้าเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนนึกถึงป้าวซวนขึ้นมาได้ทันที จึงกล่าวว่า “ครั้งก่อนที่ภูเขาหมางหลิ่ง ตอนที่ข้าจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ นางเคยบอกข้าว่า ป้าวซวนและเจ้าสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง นางหลอกป้าวซวนให้มาเมืองหลวงแดนเทพเพื่อตามหาเจ้า!”“ช่วงนี้ข้าคอยจับตาดูเรื่องของป้าวซวนไว้
เซียวหลินเทียนมิได้รู้สึกเสียดายเลย อย่าว่าแต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เลย ของล้ำค่าที่สุดที่ตนมี เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋ทั้งหมดเมื่อเห็นหลิงอวี๋ยังคงมิรับ เซียวหลินเทียนก็ยัดใส่มือของนางแล้วชักกริชออกมา เขาจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วกรีดลงบนนิ้วชี้ของนางเลือดหยดลงบนแหวน แหวนก็เปล่งแสงสีม่วงอ่อน ๆ“หยดลงไปอีก หลังจากนี้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะเป็นของเจ้า!”เซียวหลินเทียนจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วนำเลือดไปทาบนแหวนเซียวหลินเทียนกล่าว “หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ เจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ลูบแหวน มินานเสือปีกกาฬก็จะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้า!”เซียวหลินเทียนกังวลว่า หากตนมิได้อยู่เคียงข้างหลิงอวี๋แล้วนางจะเจออันตราย อย่างน้อยมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเรียกเสือปีกกาฬได้ เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋มองคิ้วและดวงตาของเซียวหลินเทียนที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม หากยามนี้เซียวหลินเทียนยังหมายปองหยกหล้าสุขาวดีของตน นั่นก็หมายความว่าหยกหล้าสุขาวดีจะต้องล้ำค่ากว่าหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยเท่ามิเช่นนั้น นางก็คิดมิออกจริง ๆ ว่า เหตุใดเซียว
หลิงอวี๋เดินวนรอบ ๆ สองรอบก็ยังมิเห็นเบาะแสใด ๆ นางก็นึกถึงแหวนพระสุเมรุของตนขึ้นมา หรือว่าหัวมังกรแต่ละหัวจะเป็นมิติย่อยที่สามารถเก็บสิ่งของเหล่านี้ได้มิจำกัด?“น้ำปูนใส!”หลิงอวี๋คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หัวมังกรที่เพิ่งพ่นน้ำออกมาก็พ่นน้ำสีขาวออกมาจำนวนหนึ่ง เป็นน้ำปูนใสจริง ๆ“ใส่สมุนไพร!”หลิงอวี๋ร้องเรียกผนังด้านในของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดออกเผยให้เห็นช่องว่าง แต่ไม่มีสมุนไพรอยู่ในนั้นหลิงอวี๋หัวเราะเยาะตนเอง นางคิดอะไรอยู่กัน คิดว่าข้างในหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์สามารถผลิตสมุนไพรเองได้อย่างนั้นหรือไร?นางสำรวจการใช้งานของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ในที่สุดก็พบว่าตนมิสามารถสำรวจได้ทั้งหมด จึงลองหลอมโอสถเสริมพลังวิญญาณหนึ่งหม้อเตาหลอมโอสถทั่วไปจะใช้เวลาเจ็ดถึงแปดชั่วยามในการหลอมโอสถหนึ่งหม้อ แต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามก็หลอมเสร็จแล้วหลิงอวี๋นำโอสถออกมาดูแล้วก็ต้องตกตะลึงกับคุณภาพและจำนวนที่ได้ได้โอสถถึงแปดส่วน และทั้งหมดเป็นโอสถระดับยอดเยี่ยมนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ใช้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ หากหลอมอ
นานถึงเพียงนี้แล้วยังไม่มีข่าวคราวเลย ทว่าจู่ ๆ ก็มีข่าวความคืบหน้า มีเพียงความเป็นไปได้เดียวคืออาการของหวงฝู่หมิงจูกำเริบตระกูลจงเจิ้งลักพาตัวหวงฝู่หมิงจูไป จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการข่มขู่ให้หวงฝู่หลินส่งมอบวังเทพ หากหวงฝู่หมิงจูตายไปก็จะทำให้หวงฝู่หลินยิ่งโกรธแค้นเท่านั้น“หวงฝู่หมิงจูอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”หลิงอวี๋ถาม“ยังมิรู้แน่ชัด เฮยอิงส่งข่าวมาเก้าวัน บอกเพียงให้พวกเรารีบกลับไปที่คฤหาสน์อู่ หวงฝู่หลินขอความช่วยเหลือ ต้องรอให้กลับไปถึงจะรู้สถานการณ์ที่แน่ชัด!”เซียวหลินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อกลับไปถึง เจ้ากับหานเหมยกลับจวนไปรอก่อน พวกเราจะไปช่วยคน!”“ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย! สภาพร่างกายของหวงฝู่หมิงจูนั้นพิเศษอยู่บ้าง หากข้าอยู่ด้วยอาจจะช่วยชีวิตนางได้ทันการณ์!”หลิงอวี๋กล่าวอย่างรีบร้อน“มิได้!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “เราสองคนจะเสี่ยงอันตรายพร้อมกันมิได้ เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยเสือซ่อนมังกร ตระกูลจงเจิ้งก็ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ หากเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น เจ้ากับหานเหมยอยู่ข้างนอกก็ยังสามารถช่วยพวกเราได้!”“หากพวกเราทั้งหมดตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรู ก็จะไม่
หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างยินดี แท้จริงแล้วนางก็มิได้อยู่ตัวคนเดียว มีพี่ชายอย่างสิงจั๋ว มิว่าจะเผชิญกับความยากลำบากใด ๆ นางก็มิกลัว“พี่ใหญ่ ประเดี๋ยวข้าจะไปที่บ้านตระกูลเย่สักหน่อย! ต้ายาจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน ท่านรีบพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรง พวกเราจะได้ออกเดินทางกัน!”หลิงอวี๋หาเถาวัลย์เชียนจีเจอแล้ว จะต้องรีบสกัดออกมาแล้วนำไปให้แม่ทัพเฉิงนางกลับไปที่ห้องนอนของตนแล้วรีบเข้าไปในมิติเพื่อสกัดเถาวัลย์เชียนจี เมื่อทำเสร็จแล้วหลิงอวี๋ก็รีบไปที่บ้านตระกูลเย่ยามเฝ้าประตูเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวว่า “คุณหนูสิง คุณชายหรงออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว เขาบอกว่าหากท่านมา ให้ท่านเข้าไปรอเขาที่ห้องปรุงโอสถของอาจารย์ท่าน แล้วเขาจะรีบกลับมาก่อนเวลาอาหารกลางวันขอรับ!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เย่หรงได้รับบาดเจ็บแต่กลับมิยอมอยู่บ้านพักผ่อนให้ดี วิ่งโร่ไปที่ใดอีกเล่า?หลิงอวี๋ไม่มีทางเลือก จำต้องไปรอที่ห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานก่อนเย่ซื่อฝานกำลังปรุงโอสถอยู่ เมื่อเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวทักทาย “เสี่ยวชี ขอบอกข่าวดีให้เจ้าทราบ อัตราความสำเร็จในการปรุงโอสถสมานแผลของข้าก้าวหน้าถึงแปดส่วนแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคำชี้แนะจากเจ้า!”
หลิงอวี๋ถูกคำพูดของเถาจื่อทำให้หัวเราะออกมาได้ แต่นางก็นึกถึงความคลุมเครือระหว่างเก๋อเฟิ่งฉิงและเซียวหลินเทียน และอดมิได้ที่จะกล่าวออกมา“ฝ่าบาทของพวกเจ้าก็มิเห็นจะลำบากอะไร คุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมิใช่หรือที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำ?”หานเหมยเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างมีความหมาย พลางยิ้มอย่างซุกซน “ฮองเฮา ท่านกำลังหึงหวงหรือเพคะ?”ใบหน้าของหลิงอวี๋แดงก่ำในทันที เก็บซ่อนรอยยิ้มแล้วทำหน้าบึ้งตึงกล่าวว่า “ใครหึงเขากัน ข้าพูดความจริงต่างหาก!”เถาจื่อและหานเหมยมองหน้ากัน จากนั้นทั้งสองก็ขยิบตาให้กันเถาจื่อรู้ว่าเพราะหลิงอวี๋ความจำเสื่อม ซ้ำยังถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยุยง ยามนี้จึงยังมีปมในใจติดค้างต่อเซียวหลินเทียน และมิอยากให้หลิงอวี๋เข้าใจเซียวหลินเทียนผิดอีก จึงกล่าวว่า“ฮองเฮา เก๋อเฟิ่งฉิงชอบฝ่าบาทก็จริง แต่บ่าวกล้ารับประกันกับท่านได้เลยว่าฝ่าบาทมิได้มีพระทัยเป็นอื่นต่อนาง!”เถาจื่อเล่าให้หลิงอวี๋ฟังเรื่องที่พวกเขาขึ้นไปบนภูเขาหิมะเพื่อตามหาหลิงอวี๋ แต่กลับถูกหัวหน้าตระกูลเฉียววางแผน เซียวหลินเทียนตกลงไปในหุบเหวน้ำแข็ง และเก๋อเฟิ่งฉิงก็เสี่ยงชีวิตช่วยเซียวหลินเทียนไว้“เพื่อรักษาชื่อเสียงของเก่อ
นานถึงเพียงนี้แล้วยังไม่มีข่าวคราวเลย ทว่าจู่ ๆ ก็มีข่าวความคืบหน้า มีเพียงความเป็นไปได้เดียวคืออาการของหวงฝู่หมิงจูกำเริบตระกูลจงเจิ้งลักพาตัวหวงฝู่หมิงจูไป จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการข่มขู่ให้หวงฝู่หลินส่งมอบวังเทพ หากหวงฝู่หมิงจูตายไปก็จะทำให้หวงฝู่หลินยิ่งโกรธแค้นเท่านั้น“หวงฝู่หมิงจูอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”หลิงอวี๋ถาม“ยังมิรู้แน่ชัด เฮยอิงส่งข่าวมาเก้าวัน บอกเพียงให้พวกเรารีบกลับไปที่คฤหาสน์อู่ หวงฝู่หลินขอความช่วยเหลือ ต้องรอให้กลับไปถึงจะรู้สถานการณ์ที่แน่ชัด!”เซียวหลินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อกลับไปถึง เจ้ากับหานเหมยกลับจวนไปรอก่อน พวกเราจะไปช่วยคน!”“ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย! สภาพร่างกายของหวงฝู่หมิงจูนั้นพิเศษอยู่บ้าง หากข้าอยู่ด้วยอาจจะช่วยชีวิตนางได้ทันการณ์!”หลิงอวี๋กล่าวอย่างรีบร้อน“มิได้!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “เราสองคนจะเสี่ยงอันตรายพร้อมกันมิได้ เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยเสือซ่อนมังกร ตระกูลจงเจิ้งก็ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ หากเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น เจ้ากับหานเหมยอยู่ข้างนอกก็ยังสามารถช่วยพวกเราได้!”“หากพวกเราทั้งหมดตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรู ก็จะไม่
หลิงอวี๋เดินวนรอบ ๆ สองรอบก็ยังมิเห็นเบาะแสใด ๆ นางก็นึกถึงแหวนพระสุเมรุของตนขึ้นมา หรือว่าหัวมังกรแต่ละหัวจะเป็นมิติย่อยที่สามารถเก็บสิ่งของเหล่านี้ได้มิจำกัด?“น้ำปูนใส!”หลิงอวี๋คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หัวมังกรที่เพิ่งพ่นน้ำออกมาก็พ่นน้ำสีขาวออกมาจำนวนหนึ่ง เป็นน้ำปูนใสจริง ๆ“ใส่สมุนไพร!”หลิงอวี๋ร้องเรียกผนังด้านในของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดออกเผยให้เห็นช่องว่าง แต่ไม่มีสมุนไพรอยู่ในนั้นหลิงอวี๋หัวเราะเยาะตนเอง นางคิดอะไรอยู่กัน คิดว่าข้างในหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์สามารถผลิตสมุนไพรเองได้อย่างนั้นหรือไร?นางสำรวจการใช้งานของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ในที่สุดก็พบว่าตนมิสามารถสำรวจได้ทั้งหมด จึงลองหลอมโอสถเสริมพลังวิญญาณหนึ่งหม้อเตาหลอมโอสถทั่วไปจะใช้เวลาเจ็ดถึงแปดชั่วยามในการหลอมโอสถหนึ่งหม้อ แต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามก็หลอมเสร็จแล้วหลิงอวี๋นำโอสถออกมาดูแล้วก็ต้องตกตะลึงกับคุณภาพและจำนวนที่ได้ได้โอสถถึงแปดส่วน และทั้งหมดเป็นโอสถระดับยอดเยี่ยมนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ใช้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ หากหลอมอ
เซียวหลินเทียนมิได้รู้สึกเสียดายเลย อย่าว่าแต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เลย ของล้ำค่าที่สุดที่ตนมี เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋ทั้งหมดเมื่อเห็นหลิงอวี๋ยังคงมิรับ เซียวหลินเทียนก็ยัดใส่มือของนางแล้วชักกริชออกมา เขาจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วกรีดลงบนนิ้วชี้ของนางเลือดหยดลงบนแหวน แหวนก็เปล่งแสงสีม่วงอ่อน ๆ“หยดลงไปอีก หลังจากนี้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะเป็นของเจ้า!”เซียวหลินเทียนจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วนำเลือดไปทาบนแหวนเซียวหลินเทียนกล่าว “หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ เจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ลูบแหวน มินานเสือปีกกาฬก็จะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้า!”เซียวหลินเทียนกังวลว่า หากตนมิได้อยู่เคียงข้างหลิงอวี๋แล้วนางจะเจออันตราย อย่างน้อยมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเรียกเสือปีกกาฬได้ เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋มองคิ้วและดวงตาของเซียวหลินเทียนที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม หากยามนี้เซียวหลินเทียนยังหมายปองหยกหล้าสุขาวดีของตน นั่นก็หมายความว่าหยกหล้าสุขาวดีจะต้องล้ำค่ากว่าหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยเท่ามิเช่นนั้น นางก็คิดมิออกจริง ๆ ว่า เหตุใดเซียว
ในเรื่องการจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนมีเป้าหมายเดียวกันหลิงอวี๋มิได้ปิดบังเซียวหลินเทียน นางกล่าวเสียงเคร่งขรึม “การทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผยธาตุแท้ออกมาเป็นเรื่องง่าย รอให้กลับไปก่อน ข้าจะวางยาพิษชนิดใหม่ให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย! หากชี้นำอย่างเหมาะสม ฮูหยินเฉียวจะต้องเริ่มสงสัยในตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแน่!”ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกาย พลันเอ่ยขึ้นว่า “หากต้องการให้ข้าทำสิ่งใดเจ้าก็บอกมาได้เลย เพื่อแก้แค้นให้ลูกของเรา ก็ขอให้ข้าได้ออกแรงบ้าง!”“เมื่อต้องการให้ท่านร่วมมือ ข้าจะให้หานเหมยแจ้งให้ท่านทราบ!”หลิงอวี๋นึกถึงเก๋อฮุ่ยหนิง นางถึงกับลงมือสังหารตนเพียงเพราะต้องการแต่งงานกับเฉียวไป๋ ครั้งนี้ก็จะจัดการกับเก๋อฮุ่ยหนิงไปด้วย ตนจะได้ไปฉินตะวันตกอย่างหมดห่วง“อาอวี๋ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เกือบลืมบอกเจ้าเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนนึกถึงป้าวซวนขึ้นมาได้ทันที จึงกล่าวว่า “ครั้งก่อนที่ภูเขาหมางหลิ่ง ตอนที่ข้าจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ นางเคยบอกข้าว่า ป้าวซวนและเจ้าสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง นางหลอกป้าวซวนให้มาเมืองหลวงแดนเทพเพื่อตามหาเจ้า!”“ช่วงนี้ข้าคอยจับตาดูเรื่องของป้าวซวนไว้
หลิงอวี๋ถูกเซียวหลินเทียนกอดไว้แน่น นางพยายามดิ้นรนแต่ก็มิอาจหลุดพ้นเขากดร่างของนางแนบแน่นบนแผงอก ปลายจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา อ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยหยดน้ำตาพลันไหลรินออกมาโดยมิทราบสาเหตุ หลิงอวี๋นึกถึงความรู้สึกสิ้นหวังเมื่อครั้งถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะจนมิอาจขัดขืนได้ น้ำตาจึงรินไหลอาบแก้มเซียวหลินเทียนบอกว่านั่นคือลูกของเขากับนาง?เมื่อครู่สีหน้าเศร้าโศกและเจ็บปวดของเซียวหลินเทียน หลิงอวี๋มองเห็นได้อย่างชัดเจน นางเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนในยามนี้เป็นของจริง มิได้เสแสร้งหลอกลวงตน!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอาจจะโกหกได้ เซียวหลินเทียนก็อาจจะแสดงละครได้ แต่หลิงอวี๋มิเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนเป็นการแสดง!“อาอวี๋ ข้าจะแก้แค้นให้ลูกของเรา!”“เมื่อกลับไป ข้าจะต้องหาวิธีจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้ได้ หากเจ้าอยากจะสับนางเป็นหมื่นชิ้น มิต้องให้เจ้าลงมือ ข้าจะทำเอง!”เซียวหลินเทียนแค่นเสียงลอดไรฟัน“ความแค้นของข้า ข้าจะแก้แค้นเอง!”หลิงอวี๋ผลักเซียวหลินเทียนออกอย่างแรง นางหันหลังไปเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ตอนอยู่ที่สำนักศึกษาชิงหลง ข้าได้วางยาพิษนางไปแล้
หลิงอวี๋ยังมิเชื่อว่าเสือปีกกาฬจะฟังคำพูดของตน จึงลองลูบหัวใหญ่ ๆ ของมันแล้วอธิบายรายละเอียดของสมุนไพรที่ต้องการเสือปีกกาฬร้องสองครั้งเป็นสัญญาณว่าเข้าใจ จากนั้นก็กระโจนลงจากหน้าผาไปเพียงมิกี่นาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาอีกครั้ง ในปากคาบเถาวัลย์มาวางไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมาย ทั้งหมดนั้นมีเถาวัลย์เชียนจีที่หลิงอวี๋ต้องการอยู่ด้วยยังมิทันที่หลิงอวี๋จะชมเชยมัน เสือปีกกาฬก็กระโดดลงไปอีกครั้งครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าเดิม เมื่อกลับขึ้นมาในปากคาบสมุนไพรมาวางกองไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมายอีกครั้งหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ในจำนวนนี้มีสมุนไพรล้ำค่าอยู่มากมาย ทั้งยังมีโสมเก้าคดอีกสองต้นครั้งก่อนโสมเก้าคดของหลิงอวี๋ยังขายมิออก ครั้งนี้ได้มาอีกสองต้น นางจึงกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในทันทีการเลี้ยงเสือปีกกาฬตัวนี้ เหมือนกับการเลี้ยงต้นไม้เงินต้นไม้ทอง!“ขอบคุณ ขอบคุณนะ!”หลิงอวี๋ลูบหัวใหญ่ ๆ ของเสือปีกกาฬอย่างมีความสุข “ครั้งหน้าข้าจะปรุงยาที่ระดับสูงกว่านี้ให้เจ้า ทำให้เจ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถบินได้อย่างแท้จริง!”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหลิงอวี๋ มันจึงใช้ศีรษะใหญ่มาคลอเคลี
พี่น้องตระกูลเย่เปิดอกคุยกัน การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาทำให้ท่านผู้เฒ่าเย่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างไรเสียก็มิอาจหลีกหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ เช่นนั้นเชื่อฟังพี่ใหญ่เถิด สนับสนุนหลิงอวี๋อย่างเต็มที่!หลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้เลย วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางไปยังภูเขาหมางหลิ่งพร้อมกับฉินซานและคนอื่น ๆเซียวหลินเทียนได้โอกาสที่จะร่วมเดินทางไปกับหลิงอวี๋ จึงมาแต่เช้าตรู่ครั้งนี้ไม่มีจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและคนอื่น ๆ มาขัดขวาง พวกเขาจึงเดินทางมาถึงหน้าผานั้นในวันเดียวกันหลิงอวี๋กำลังจะให้เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ช่วยตัดเถาวัลย์มาถักเป็นบันไดเชือกปีนลงไป เซียวหลินเทียนก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “จะทำเรื่องยุ่งยากไปไย ดูข้า!”เซียวหลินเทียนลูบหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ มิถึงสิบวินาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาจากใต้หน้าผาหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ผ่านไปเพียงมินานเสือปีกกาฬก็เติบโตขึ้นมาก ปีกทั้งสองข้างแข็งแรง เมื่อกางออกก็ยาวถึงสองเมตรกว่า“นี่เป็นเพราะโอสถสร้างรากฐานปราณที่เจ้าให้!”เซียวหลินเทียนยื่นขวดโอสถเสริมพลังวิญญาณให้หลิงอวี๋ “เจ้าป้อนมันเองเถอะ ต้องการสมุนไพรอะไรก็บอกมัน ให้มันไปเก็บให้!”นางเคยให