แชร์

บทที่ 1811

ผู้เขียน: กานเฟย
ในเวลานี้ท่านอาเฉียวหรือจะมีอารมณ์ไปคิดว่าผู้ติดตามเหล่านั้นจะคิดเห็นอย่างไร

ใช่แล้ว เฉียวไป๋เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของเขาเอง

เป็นบุตรที่เกิดจากเขากับชิงเหวินผู้เป็นอนุภรรยาของนายใหญ่เฉียว!

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นตอนสมัยที่ท่านอาเฉียวเป็นวัยรุ่น ก่อนหน้านี้เขาก็มิรู้เช่นกันว่าชิงเหวินจะตั้งครรภ์บุตรชายของตน

แต่เมื่อเฉียวไป๋ออกมาในครั้งนี้ ชิงเหวินกังวลว่าเฉียวไป๋จะมีอันตราย นางจึงแอบนัดพบกับท่านอาเฉียว เพื่อบอกให้เขาดูแลเฉียวไป๋ให้ดี ๆ

ชิงเหวินเอ่ยออกไปตามตรง “ท่านเฉียวสาม หากเฉียวเค่อมิกลับมาอีกต่อไปแล้ว พี่ใหญ่ของท่านก็จะปลูกฝังเลี้ยงดูเฉียวไป๋เป็นอย่างดี และในภายภาคหน้าเฉียวไป๋ก็จะเป็นผู้นำตระกูลเฉียว!”

“ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้บอกท่าน นั่นเป็นเพราะข้ามิอยากทำลายอนาคตของเฉียวไป๋! แต่ในตอนนี้ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการเป็นพ่อแล้ว!”

เมื่อท่านอาเฉียวได้ยินเรื่องนี้ก็ทั้งรู้สึกตกใจและมีความสุข

ที่ตกใจก็คือ ชิงเหวินสามารถให้กำเนิดบุตรชายคนนี้ได้อย่างราบรื่นภายใต้จมูกของนายใหญ่เฉียวโดยมิถูกจับได้ มิฉะนั้นหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา ทั้งเขาและชิงเหวินหรือแม้กระทั่งเฉียวไป๋ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1812

    หลิงอวี๋ถูกขังอยู่ที่เรือนด้านหลังของคฤหาสน์ตระกูลป้าว และป้าวเฉิงก็ส่งแม่นมที่มีประสบการณ์สองคนมาคอยเฝ้าหลิงอวี๋เอาไว้ หนึ่งในนั้นก็คือแม่นมที่หน้าเหมือนม้านั่นเองแม่นมหน้าเหมือนม้าผู้นี้สกุลเฝิง นางดูเป็นคนที่มีความสามารถมาก แต่ในขณะเดียวกันนางก็เป็นคนที่พูดมากด้วยเมื่อนางเห็นว่าหลิงอวี๋สงบเสงี่ยมดี และมิได้คิดที่จะหลบหนีไป ท่าทีที่นางมีต่อหลิงอวี๋จึงดีขึ้นมากวันนี้เมื่อนางตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าเอวของนางมิสามารถยืดตรงได้ นางเจ็บปวดเสียจนเหงื่อแตกไปหมด เมื่อจัดการนำอาหารเช้าไปส่งให้หลิงอวี๋กับหลิงซินแล้ว นางก็ไปนั่งอยู่ด้านข้างพลางนวดเอวของตนไปด้วย“แม่นมเฝิงปวดเอวหรือ?”หลิงอวี๋เห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามออกไปนอกจากเรื่องที่ฉีกหน้ากากของตนออกไปแล้ว แม่นมเฝิงก็มิถือว่าเป็นคนใจร้ายนักหรอก หลิงอวี๋รู้สึกว่าหากตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนาง ตนกับหลิงซินก็จะสะดวกสบายขึ้นมาก“ใช่ เอวข้าเป็นอะไรก็มิรู้ ตื่นขึ้นมาก็ยืดตัวตรงมิได้ เดินเหินทำอะไรหน่อยก็เจ็บมาก ๆ!”แม่นมเฝิงเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าขมขื่น“ข้าพอจะรู้ทักษะการแพทย์อยู่บ้าง ข้าจะตรวจเจ้าเอง!”หลิงอวี๋เดินเข้ามา จากนั้นก็ถกเสื้อคลุม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1813

    คนรับใช้ที่ได้รับคำสั่งให้ไปนำยามา ได้พบกับป้าวเฉิงและลูกชายทั้งสองของเขาระหว่างทาง เมื่อป้าวเฉิงได้ยินว่าหลิงอวี๋ต้องการยาหมาฝู่ส่าน เขาก็ระวังตัวขึ้นมาในทันทีจากนั้นเขาก็รีบพาลูกชายทั้งสองคนวิ่งมาป้าวเฉิงมองไปทางหลิงอวี๋ด้วยสายตาเฉียบคม และยังมิทันที่เขาจะได้เอ่ยปาก หลิงอวี๋ก็ชิงบอกเขาถึงเรื่องที่ว่าจะแก้ไขให้ท่านผู้เฒ่าป้าวอย่างไรขึ้นมาเสียก่อนและสุดท้ายหลิงอวี๋ก็เอ่ยออกมา “ความเจ็บปวดนี้มิใช่ความเจ็บปวดในแบบที่คนธรรมดาจะทนได้ ดังนั้น ข้าจึงแนะนำให้ท่านผู้เฒ่าป้าวกินยาหมาฝู่ส่านเสียก่อน!”“เมื่อครู่ข้ายังเสนอไปอีกว่า ให้ท่านผู้เฒ่าป้าวหาผู้ช่วยที่มีความสามารถสักสองคน เพื่อมาช่วยข้าแก้ไขในกระบวนการนี้ ในเมื่อท่านมาแล้ว เช่นนั้นก็มิต้องหาใครแล้ว!”ป้าวเฉิงเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่งในคำพูดของหลิงอวี๋ แต่เมื่อนึกถึงตอนที่โรคนี้กำเริบ พ่อของเขาเจ็บปวดมากจริง ๆ ในเมื่อหลิงอวี๋รักษาอยู่ภายใต้การดูแลของตนเช่นนี้แล้ว ก็คงจะมิสามารถวางกลอุบายใด ๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงกระทั่งนำหมาฝู่ส่านมา หลิงอวี๋ก็มิได้ดำเนินการใด ๆ นางให้ป้าวฮุยลูกชายคนเล็กของป้าวเฉิงให้ยาท่านผู้เฒ่าป้าวกินตามปริ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1814

    คราวนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้ตามตระกูลเฉียวเข้าไปที่ภูเขาหิมะด้วย นางเคยประสบกับความน่ากลัวของภูเขาหิมะแห่งนั้นมาครั้งหนึ่งแล้ว และนางก็มิอยากจะหาเรื่องใส่ตัวอีกยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตระกูลเฉียวตามหาหลิงอวี๋เจอก็จะต้องพาตัวกลับไป นางก็อ้างว่าตนบาดเจ็บยังมิหาย จึงจะรอพวกเขาลงจากภูเขาอยู่ในเมืองนี้อีกทั้งที่เมืองเล็กแห่งนี้ก็มิได้มีสถานที่ใดที่น่าสนุกด้วย ในตอนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยรู้ว่าเผยอวี้ประจำการอยู่ที่เมืองนี้ นางจึงเล็งเป้าไปที่ตระกูลป้าวตระกูลป้าวมีอำนาจแข็งแกร่ง และสามารถเป็นที่พักพิงชั่วคราวของตนได้ดังนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำความรู้จักกับป้าวซวน ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่สามของป้าวเฉิงบุตรสาวคนโตของป้าวเฉิงสองคนแต่งงานไปแล้ว และในปีนี้ ป้าวซวนผู้นี้ก็อายุสิบเจ็ดปี ว่ากันตามเหตุผลแล้วด้วยอำนาจของตระกูลป้าวผู้ที่จะมาสู่ขอก็น่าจะมีจำนวนมากจนสามารถเข้าแถวได้แล้วแต่เรื่องการแต่งงานของป้าวซวนกลับยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศมาโดยตลอดซึ่งสาเหตุก็คือ ป้าวซวนมีปานแดงขนาดใหญ่ที่แก้มซ้ายของนาง ซึ่งทำให้คนที่ได้เห็นต่างก็รู้สึกหวาดกลัวแต่ป้าวเฉิงกลับปฏิบัติต่อบุตรสาวของเขาผ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1815

    กระทั่งพวกนางมาถึงเรือนเล็กที่หลิงอวี๋ถูกคุมขังอยู่ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็มองเห็นแต่ไกลแล้วว่าที่หน้าประตูมีคนรับใช้อยู่กันหลายคน พวกนางกำลังต่อแถวรอให้หมอชั้นเซียนตรวจรักษาให้อยู่“ซวนซวน พวกเราอย่าเพิ่งเข้าไปเลย รอดูอยู่ข้างนอกก่อนดีกว่าว่านางเป็นหมอชั้นเซียนจริงหรือไม่!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยดึงป้าวซวนเอาไว้ แล้วเสนอออกไปเช่นนั้นป้าวซวนคิดว่าสมเหตุสมผลดี ดังนั้นนางจึงยืนดูอยู่ที่หน้าประตูกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองข้ามหัวของฝูงชนเข้าไปแล้วก็เห็นว่าข้างในนั้นมีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่ง และสตรีคนหนึ่งก็กำลังนั่งตรวจชีพจรของผู้ป่วยอยู่ที่โต๊ะตัวนั้นรอยแผลเป็นที่แน่นขนัดอยู่บนใบหน้าด้านข้างนั้นทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีความสุขขึ้นมาทันทีหลิงอวี๋!ฮ่า ๆ ตระกูลเฉียว ตระกูลเก๋อและเซียวหลินเทียนต่างก็วิ่งวุ่นไปจนถึงที่วังเทพเพื่อตามหาหลิงอวี๋ แต่ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋กลับมาอยู่ที่นี่นี่คือของกำนัลที่ดีที่สุดที่สวรรค์ประทานให้ตนเลยทีเดียว!หากไม่มีตระกูลเฉียวและตระกูลเก๋อมาแย่งชิงหลิงอวี๋กับนาง นางก็จะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกจากตัวหลิงอวี๋ได้อย่างราบรื่นในหัวของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกำลังครุ่นคิดอย่างร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1816

    หลิงอวี๋มิรู้ตัวว่ามีอันตรายกำลังใกล้เข้ามา นางเอาแต่จ้องมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย และเมื่อเห็นว่านางเข้ามาใกล้ตน ก็ถอยหลังไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็เอ่ยถามออกไป“คุณหนูจ้าว ท่านบอกข้ามาตามตรงเถิดว่าพวกเราไปถึงที่ภูเขาหิมะนั้นได้อย่างไร?”หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่หวงฝู่หลินพูดกับตนว่า ตันเถียนของตนถูกคนผนึกเอาไว้หรือว่าคนผู้นั้นจะเป็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย?ช่วงสองสามวันมานี้หลิงอวี๋เป็นกังวลว่า เด็กในท้องจะเจริญเติบโตได้อย่างราบรื่นหรือไม่ และจะเกิดมาพิการหรือไม่หากพิสูจน์แล้วว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำร้ายลูกของตน นางจะต้องสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอย่างแน่นอน!“ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ? พวกเราเจอพวกค้ามนุษย์ แล้วพวกเขาก็พาเราไปที่ภูเขาหิมะ!”เมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นว่าหลิงอวี๋กำลังระแวงตนอยู่ นางก็รู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย หรือว่าหลิงอวี๋จะจำบางเรื่องขึ้นมาได้แล้ว?ตอนนั้นพลังที่ตันเถียนของนางกำลังจะสลายไป นางจึงมิแน่ใจว่าผนึกที่ตนทำไว้กับหลิงอวี๋นั้นตรงทุกตำแหน่งหรือไม่“เจ้าโกหก ภูเขาหิมะมีการป้องกันหนาแน่นนัก อีกทั้งยังมีค่ายกลที่สามารถกักขังผู้คนไว้ได้เป็นจำนวนมาก พวกค้ามนุษย์ไม่มีทางที่จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1817

    แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่ความเคลื่อนไหวที่คฤหาสน์ตระกูลป้าวนั้นก็ทำให้เผยอวี้ที่จับตาดูตระกูลป้าวอยู่ตลอดรู้ข่าวในทันทีเมื่อเขาได้ยินว่าหลิงอวี๋หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หัวใจของเขาก็เต้นรัว และมิสนใจอะไรแล้ว เขาเรียกตัวผู้ว่าการอำเภอหยางมาทันที แล้วนำกลุ่มคนมุ่งไปที่คฤหาสน์ตระกูลป้าวในขณะที่ป้าวเฉิงกำลังรู้สึกเป็นกังวลเรื่องที่หลิงอวี๋กับบุตรีสุดที่รักของตนหายตัวไป เมื่อได้ยินว่าเผยอวี้นำกำลังทหารมาถึงหน้าประตู เขาก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวขึ้นกว่าเดิม จากนั้นเขาก็ถือกระบี่หมายจะพุ่งออกไปสังหารเผยอวี้ในทันใดแต่ป้าวฮุยบุตรชายของป้าวเฉิงกลับรีบมาขวางทางพ่อของเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยเตือนออกไป “ท่านพ่อ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”“จุดประสงค์ที่แม่ทัพเผยกับคนของทางการมาที่นี่ก็เพราะหลิงอวี๋ แต่น้องสามก็หายตัวไปเช่นกัน หากคิดจะไปสู้กับพวกเขาจนตัวตายในเวลานี้มันมิคุ้มหรอกขอรับ!”“จากที่ลูกมอง ลูกคิดว่าสู้บอกความจริงกับพวกเขาไปเลยดีกว่า เราก็จะได้อาศัยกำลังความช่วยเหลือของพวกเขาในการตามหาน้องสามด้วย!”ป้าวเฉิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโกรธ ๆ “พวกเขาจะต้องมาช่วยหลิงอวี๋ออกไปเป็นแน่ พวกเขาแค่แสร้งทำเป็นมาตาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1818

    ป้าวฮุยจึงอธิบายออกไป “แม่นมเฝิงบอกว่า น้องสามของข้าไปหาหลิงอวี๋ให้ตรวจรักษา นอกจากนางแล้ว ก็ยังมีคุณหนูสกุลจ้าวอีกคนด้วย!”“คุณหนูจ้าวเข้าไปตรวจก่อน จากนั้นเมื่อน้องสามคุยกับแม่นมเฝิงเสร็จแล้วนางก็ตามไปแล้วเห็นแสงในห้องดูแปลกประหลาดจึงเข้าไปตรวจดู ผลก็คือนางหายตัวไปในวงแหวนหลากสีนั้นด้วย!”“สกุลจ้าว?”“นางชื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใช่หรือไม่?”เผยอวี้เอ่ยถามออกไปด้วยความกังวล“ดูเหมือนว่าจะชื่อนี้นะ!”ป้าวฮุยจำได้ราง ๆ ว่าป้าวซวนเรียกคุณหนูจ้าวเช่นนี้เผยอวี้รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกแล้ว!วงแหวนหลากสีนั้นจะต้องเกิดจากลูกแก้ววิญญาณอีกแน่ ๆ แต่หานเหมยบอกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสูญเสียพลังไปแล้วมิใช่หรือ?เหตุใดนางยังเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณได้อยู่?“จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้คือใครหรือ?”ป้าวฮุยเห็นว่าสีหน้าของเผยอวี้ที่เปลี่ยนแปลงไปมา จึงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามออกไปหลังจากที่เขาบอกตนมามากมายถึงเพียงนั้นแล้ว หากตนมิบอกข้อมูลให้เขาฟังสักหน่อยก็คงจะมิถูกต้อง ดังนั้นเผยอวี้จึงอธิบายเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับหลิงอวี๋ไปอย่างง่าย ๆสุดท้ายเผยอวี้ก็ยิ้มขมขื่นออกมา “สิ่งท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1819

    ตอนนั้นหวงฝู่หลินยังมิรู้ว่าหวงฝู่หมิงจูไปแล้ว ตอนที่เขาได้ยินนางกำนัลของตำหนักรุ่ยจูบอกว่าหวงฝู่หมิงจูมิได้กินข้าวเย็นและหาตัวมิพบ เขาก็ยังอยู่ว่านางคงโกรธแล้วไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในตอนแรกหวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ และให้พวกนางกำนัลตามหาเจ้าวังน้อยให้ทั่ว แต่จนถึงเวลาเข้านอนแล้วก็ยังคงหาตัวพบเลยหวงฝู่หลินจึงให้ความสนใจในทันที เพราะแม้ว่าหวงฝู่หมิงจูจะเอาแต่ใจ แต่ก็มิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อนเขารีบไปที่ตำหนักรุ่ยจูทันที และทำการซักถามนางกำนัลที่รับใช้หวงฝู่หมิงจูเหล่านั้น จึงได้รู้ว่าเสวี่ยเหมยก็หายตัวไปด้วยกัน“ท่านเจ้าวังเพคะ พี่หญิงเสวี่ยเหมยรับใช้เจ้าวังน้อยมาโดยตลอด หลังจากที่อาอวี๋ไปแล้ว นางก็ยิ่งตัวติดกับเจ้าวังน้อยมิห่างไปไหน บ่าวได้ยินนางกับเจ้าวังน้อยก่นด่าอาอวี๋ด้วยกันเพคะ ทั้งยังบอกอีกด้วยว่าหากมีโอกาสลงจากภูเขาไป นางจะช่วยเจ้าวังน้อยระบายโทสะ!”ลิ่งหูหลินก็ตามหวงฝู่หลินมาเช่นกัน เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ท่านพี่หลิน หรือว่าทาสชั้นต่ำเสวี่ยเหมยนั่นยุยงให้หมิงจูออกไปตามแก้แค้นอาอวี๋?”“แล้วจะทำอย่างไรกันดี? ตั้งแต่เกิดมาหมิงจูก็มิเคยออกไปจากวังเท

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1886

    “ฮูหยินเว่ย ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรมี แต่ข้าก็ยิ่งรู้เช่นกันว่าการระวังผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรขาด!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ได้ยินเรื่องของฮูหยินเว่ยกับแม่ทัพเว่ยมาบ้าง ข้ากังวลว่าเว่ยเผิงและท่านจะใจดีมากเกินไป จนมิรู้ว่าจิตใจคนนั้นอันตราย หากไปที่จวนแม่ทัพแล้วพวกท่านอาจจะถูกวางแผนทำร้าย ข้าจึงสอนให้เว่ยเผิงรู้เรื่องยาพิษไว้ล่วงหน้า เป็นการป้องกันไว้!”ฮูหยินเว่ยหน้าซีดเผือด นางมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนภายนอกเอ่ยถึงพวกเราว่าอย่างไรบ้าง?”หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินเว่ยมิรู้จริง ๆ ว่าแม่ทัพเว่ยแต่งงานใหม่แล้ว หรือว่านางแกล้งทำเป็นมิรู้แต่สิ่งนี้คือเนื้อร้าย หากมิตัดเรื่องการหลอกตัวเองและผู้อื่นออกไป ก็รังแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่หลิงอวี๋จึงบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้รอบรู้เล่าให้ตนฟังออกไปอย่างมิลังเลฮูหยินเว่ยตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางดูแย่ยิ่ง นางก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ไหลลงมาบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ“ข้าคาดเดาไว้แล้ว… ข้าเดาไว้แล้วว่าเขาคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว!”“แต่ข้า… ข้าคิดว่าถึงเขาจะไร้คว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1885

    เว่ยเผิงเป็นคนฉลาดมาก เขาวางหมากไปพลางคุยกับหลิงอวี๋ไปด้วยคงจะไม่มีใครคุยเป็นเพื่อนเขาจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว ภายใต้ท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้น เว่ยเผิงเผยให้เห็นความไร้เดียงสาของเด็กออกมาด้วย แล้วเขาก็เผลอเล่าเรื่องครอบครัวของตนให้หลิงอวี๋ฟังโดยมิตั้งใจหลิงอวี๋จึงได้รู้ว่า เมื่อตอนที่เว่ยเผิงอายุเพียงสองขวบ แม่ทัพเว่ยก็ทิ้งพวกเขาแม่ลูกไปรับการเลื่อนตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพแล้วหลังจากที่แม่ทัพเว่ยไปแล้ว ก็มิรู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ข้าหลวงในท้องถิ่นได้ขับไล่ฮูหยินเว่ยและลูกชายของนางออกจากจวนแม่ทัพ โดยที่อ้างว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ฮูหยินเว่ยจึงใช้สินสอดซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ และหาเงินเลี้ยงดูเว่ยเผิงมาด้วยตนเองหลายปีมานี้ แม่ทัพเว่ยทำราวกับว่าฮูหยินเว่ยตายไปแล้ว เขามิเคยส่งจดหมายกลับมา และมิได้ให้ค่าสนับสนุนเลี้ยงดูด้วยบิดาของฮูหยินเว่ยตายไปนานแล้ว มารดาของนางก็ตายไปเมื่อสองปีก่อน และพวกเขาก็ทิ้งเสิ่นผิงผิงน้องสาวที่อายุน้อยกว่านางมิกี่ปีไว้ให้ฮูหยินเว่ยดูแลหลายปีมานี้เสิ่นผิงผิงอาศัยอยู่กับฮูหยินเว่ยและลูกชาย แม้ว่านางจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กสาวผู้นี้ก็อาศั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1884

    หลิงอวี๋ชื่นชมในความเด็ดขาดของฮูหยินเว่ยมาก คนที่มีความเด็ดขาดเช่นนี้ จะคิดสั้นปลิดชีพตนเพียงเพราะตาบอดได้อย่างไร หรือว่าลูกหาบผู้นั้นตีความหมายผิด แล้วจึงเข้าใจฮูหยินเว่ยผิดไป?เรือเทียบท่าได้ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทาง หลิงอวี๋จึงรีบเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่จำเป็นแล้วให้เฉี่ยวอวี้ส่งคนไปซื้อมาเฉี่ยวอวี้จัดให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้อยู่ที่ท้ายเรือตามคำสั่งของฮูหยินเว่ย เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่ามีห้องเหลืออยู่สองห้อง นางจึงรีบบอกว่าตนกลัวว่าเวลานอนแล้วจะเสียงดัง จึงขอแยกห้องนอนกันเฉี่ยวอวี้คิดว่าห้องนั้นว่างอยู่แล้ว นางจึงยอมกระทั่งเฉี่ยวอวี้ออกไป ผู้รอบรู้ก็ขยับไปตรงหน้าหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “น้องอวี๋ เจ้าแน่ใจจริง ๆ หรือว่าสามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้ เจ้าอย่าได้โกหกเชียว มิเช่นนั้นพวกเราได้ถูกโยนลงแม่น้ำไปเป็นอาหารปลากลางทางแน่!”“จริงสิ!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจเขา “ท่านวางใจเถิด ข้าไม่มีวรยุทธ์ แต่ข้ามีทักษะการแพทย์!”“อ้าว เหตุใดเจ้ามิรีบบอกเล่า หากเจ้าบอกข้าเร็วกว่านี้ ข้าคงพาเจ้าไปรักษาดวงตาของผู้ดูแลหลัวแล้ว หากเจ้ารักษาเขาได้ พวกเราต้องได้รับรางวัลก้อนใหญ่เป็นแน่!”ผู้ดูแลหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1883

    ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นก็เกิดความเห็นอกเห็นใจฮูหยินเว่ยขึ้นมา มีลูกที่โตถึงเพียงนี้ หากมิใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับ เหตุใดนางต้องยอมส่งลูกชายไปเล่า!“หมออวี๋ ข้ารู้สึกเป็นเกียรตินัก!”ฮูหยินเว่ยยังมองเห็นอยู่ เพียงแต่ภาพตรงหน้าพร่ามัวมาก นางจะเห็นเป็นร่างคนเพียงราง ๆ เท่านั้นเว่ยเผิงลูกชายของนางประคองนางให้หยุด นางก็รู้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือหมอที่มารักษาโรคตาให้ตน นางจึงทักทายออกไปอย่างสุภาพเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเฉี่ยวอวี้เดินตามมาเช่นกัน จึงเอ่ยออกไป “นำอ่างน้ำมาให้ข้าล้างมือก่อน!”แม้ว่าฮูหยินเว่ยจะมองเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มิชัดเจน แต่เมื่อได้ยินเสียงอ่อนเยาว์ สดใสและไพเราะเช่นนั้น นางก็รู้สึกมีความหวังเล็กน้อยกับหมอที่อ่อนเยาว์ผู้นี้เฉี่ยวอวี้รีบให้นางรับใช้ไปนำอ่างน้ำมาอย่างรวดเร็ว แล้วหลิงอวี๋ก็ให้นางรับใช้ย้ายเก้าอี้หนึ่งตัวมาให้ฮูหยินเว่ยนั่งลงหลิงอวี๋ทำการตรวจดวงตาให้ฮูหยินเว่ยก่อน และพบว่าแก้วตาของฮูหยินเว่ยบวมเล็กน้อย บางส่วนมีความขุ่น บางส่วนมีความใส ซึ่งเป็นอาการระยะแรกของต้อกระจกหลิงอวี๋จึงจับชีพจรของฮูหยินเว่ยอีกครั้ง แล้วสุดท้ายก็เข้าใจ“ฮูหยินเว่ย โรคตาของท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1882

    ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดเช่นนี้ ในหัวก็ปรากฏวิธีการรักษาเกี่ยวกับโรคตาหลากหลายวิธีขึ้นมานางมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันที จึงก้าวไปเรียกเขา “พี่ชาย ข้ามีทักษะการแพทย์อยู่บ้าง มิทราบว่าโรคตาของฮูหยินเว่ยที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหรือ บางทีข้าอาจจะช่วยรักษาโรคนี้ให้นางได้!”ลูกหาบผู้นั้นมองหลิงอวี๋ และเห็นว่านางสวมอาภรณ์ธรรมดา ๆ เขาจึงส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “หากเจ้ามีทักษะการแพทย์เพียงเล็กน้อยก็ช่างเถิด โรคตาของฮูหยินเว่ยนั้นมิได้รักษาง่ายถึงเพียงนั้น นางหาหมอมาหลายคนแต่ก็ล้วนจนปัญญาที่จะรักษาทั้งสิ้น เจ้าอย่าไปให้เสียเวลาเลย!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างดื้อรั้น “หากมิลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าทำมิได้! พี่ชาย เจ้าพาข้าไปเถิด หากข้ารักษาฮูหยินเว่ยได้ เจ้าเองก็จะได้รางวัลเช่นกัน!”ลูกหาบนึกถึงเงินสิบตำลึงที่ฮูหยินเว่ยมอบให้ตน แล้วก็คิดว่าคนจิตใจดีถึงเพียงนั้นมิควรตาบอดไปเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วเอ่ยออกไป “ได้ ข้าจะพาเจ้าไป!”ผู้รอบรู้รีบตามไปอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของพวกลูกหาบเช่นกันหากน้องชายที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ผู้นี้สามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้จริง ๆ เช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1881

    หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นขึ้นมา ผู้รอบรู้ผู้นี้เป็นคนมีความสามารถในการสืบข่าว บางทีตลอดการเดินทางร่วมกันนี้อาจจะช่วยดูแลกันและกันได้“พี่ชาย ท่านก็จะไปเมืองหลวงแดนเทพเช่นกันหรือ!”หลิงอวี๋เป็นฝ่ายก้าวเข้าไปทักทายเขาก่อน “เมื่อคืนข้าได้ยินท่านเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยม ข้าชื่นชมในการเรียนรู้ของพี่ชายยิ่งนัก!”หลิงอวี๋มิกล้าใช้ชื่อเจียงอวี๋อีกต่อไปแล้ว เฉียวไป๋รู้จักชื่อนี้ และนางต้องป้องกันเบาะแสต่าง ๆ ที่จะเปิดเผยตัวตนเอาไว้ก่อนเมื่อคืนผู้รอบรู้ดื่มหนักมาก จนมิรู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ในโรงเตี๊ยม เมื่อเห็นว่าคุณชายผู้นี้รู้จักตน ก็คิดว่าเขารู้จักตนที่โรงเตี๊ยมจริง ๆ จึงยิ้มและพยักหน้าให้ผู้รอบรู้อายุราว ๆ ยี่สิบปี หน้าตาหล่อเหลา แต่สวมอาภรณ์ค่อนข้างเรียบง่าย เห็นได้ว่าเขาขัดสนเงิน“เรือใหญ่ที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรือที่ตระกูลร่ำรวยเช่าเอาไว้ มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารไปด้วย!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างท้อแท้ “เรือขนส่งสินค้าก็มีการป้องกันเข้มงวดมาก หากไม่มีคนคุ้นเคยที่แนะนำให้ก็มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารเช่นกัน!”หลิงอวี๋หามานานแล้วก็เป็นอย่างที่ผู้รอบรู้พูดจริ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1880

    หลิงอวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดหากตนสังหารเฉียวเค่อไปจริง ๆ เช่นนั้นตนก็คือศัตรูของตระกูลเฉียวส่วนเฉียวไป๋นั้น ตนจับพลัดจับผลูช่วยเหลือเอาไว้ และตอนนั้นตนก็แปลงโฉมไปแล้ว ดังนั้นเฉียวไป๋จึงมิรู้ว่าตนก็คือหลิงอวี๋!หากเขารู้ เฉียวไป๋จะปล่อยตนไปหรือ?ตนไปสร้างเรื่องกับตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้ จนทำให้เกิดเงินรางวัลจำนวนมหาศาล และคนจากทุกเส้นทางต่างก็กำลังตามหาตนเพื่อเงินรางวัลเช่นนั้นการไปเมืองหลวงแดนเทพครั้งนี้จะต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว!หลิงอวี๋คิดฟุ้งซ่านอยู่นานเท่าใดก็มิรู้ กระทั่งนางเรียกสติกลับคืนมา นางก็พบว่าคนในโถงรับแขกออกไปกันจำนวนมากแล้วส่วนผู้รอบรู้ผู้นั้นยังคงดื่มสุราอยู่ผู้เดียว ดูท่าทางเศร้าหมองยิ่งนักหลิงอวี๋ครุ่นคิด แล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขา“พี่ชาย ข้ากำลังวางแผนไปตามหาญาติที่เมืองหลวงแดนเทพ เห็นว่าท่านรู้เรื่องเมืองหลวงแดนเทพอยู่มาก ข้าขอถามอะไรท่านสักหน่อยได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ให้เสี่ยวเอ้อร์นำสุราดีและอาหารเนื้อ ๆ มาให้อีกสองสามอย่าง ผู้รอบรู้ดื่มจนมึนเล็กน้อยแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่ามีสุราและอาหารดี ๆ มาอีก เขาก็เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “เจ้าอยากรู้เร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1879

    หลิงอวี๋กลับมาถึงที่โรงเตี๊ยมก็เห็นว่าวันนี้โรงเตี๊ยมคลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนทุกประเภทล้วนอยู่ที่นี่หลิงอวี๋สั่งอาหารสองสามอย่างกับเสี่ยวเอ้อร์ และให้เขานำอาหารไปส่งที่ห้องของตน และขณะที่นางกำลังจะกลับห้อง ในตอนที่เดินผ่านโถงรับแขกนั้น นางก็ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย… หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่มิได้รีบหันกลับไป คราวที่แล้วเป็นเพราะนางได้ยินชื่อนี้แล้วหันกลับไป นางจึงถูกแม่ทัพผู้นั้นเผยเพ่งเล็ง ทั้งยังทำให้ป้าวเฉิงเกิดความสงสัยอีกด้วยหลิงอวี๋ หรือว่านี่คือชื่อจริงของตน?ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ก็สงสัยอยู่ และในใจของนางก็คิดว่าตนคือหลิงอวี๋ไปแล้วเช่นกันดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อนี้ นางจึงเดินไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดจากนั้นก็ได้ยินว่ามีคนเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลก้อนโตเป็นการนำจับสตรีชื่อหลิงอวี๋ รางวัลนั้นเป็นเงินจำนวนห้าล้าน! หากสามารถจับหลิงอวี๋ได้ พวกเราก็จะมีเงินกันเป็นกอบเป็นกำแล้ว!”ที่แท้ก็มิได้เรียกตน แค่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาในการสนทนาก็เท่านั้นหลิงอวี๋ใจเต้นรัว แล้วหันกลับไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ “หากอาหารของข้าเสร็จแล้วก็ยกมาที่นี่แล้วกัน ข้าจะกินที่โถงรับแขก!”“ขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status