Share

บทที่ 1753

Author: กานเฟย
last update Last Updated: 2025-01-06 16:00:00
ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!

หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทน

หวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนาง

สิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟัง

หลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม

“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”

หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"

หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”

“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”

เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟัง

หวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

    Last Updated : 2025-01-06
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

    Last Updated : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

    Last Updated : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

    Last Updated : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

    Last Updated : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

    Last Updated : 2023-04-28
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

    Last Updated : 2023-04-28
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

    Last Updated : 2023-04-28

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

DMCA.com Protection Status