แชร์

บทที่ 1752

ผู้เขียน: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-06 16:00:00
วันรุ่งขึ้น

เมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้ว

มิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไร

แต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้

ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้

เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’

“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”

หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนาง

หากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้

เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

DMCA.com Protection Status