Share

บทที่ 1710

Author: กานเฟย
ตอนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกหลิงอวี๋ยิงได้รับบาดเจ็บและตกลงมาจากกิ่งไม้ นางนอนอยู่บนพื้นหญ้า รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณกำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว

รู้ว่าหากตกอยู่ในมือหลิงอวี๋ นางต้องหนีมิรอดเป็นแน่

ในยามคับขันระหว่างความเป็นความตาย นางหยิบลูกแก้ววิญญาณที่เฉียวเค่อให้มา มิสนใจคำเตือนของเฉียวเค่อที่ว่าห้ามใช้โดยพลการ เพื่อเอาชีวิตรอด เพราะนางยอมเสี่ยง

หลิงอวี๋เดินเข้ามาพอดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงพาหลิงอวี๋ไปด้วย

ใครจะไปคิดว่าลูกแก้ววิญญาณจะพาพวกนางทั้งสามมาที่ยอดเขาหิมะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้น เห็นเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ถึงกับเกือบจะสติแตก

นี่มันที่ไหนกัน?

นางมิรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เช่นนั้นจะหาทางกลับไปอย่างไร?

แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยฮึดขึ้นมาใหม่คือการที่นางเห็นหลิงอวี๋และหานเหมยที่นอนอยู่ข้าง ๆ

นางมิได้อยู่คนเดียว!

ศัตรูของนางก็มาด้วย!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิสนใจที่จะยินดี ค่อย ๆ คลานไปหาหลิงอวี๋ แล้วหยิบเข็มเงินออกมาปิดกั้นจิตสำนึกของหลิงอวี๋ และยังแทงเข็มเงินที่บริเวณจุดตันเถียนของหลิงอวี๋อีกหลายเข็ม เพื่อให้แน่ใจว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถใช้พลังได้

แต่แค่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1711

    หลิงอวี๋เห็นท่าทีของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ่อนลง อีกทั้งความตั้งใจเดิมก็เป็นความหวังดี จึงปล่อยไม้เท้าแล้วเอ่ยเสียงเรียบ“ขอเพียงเจ้ามิทำร้ายพวกเรา จะอะไรก็คุยง่ายทั้งนั้น ไปเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกเผยอวี้ยิงที่น่องจนบาดเจ็บ ทั้งยังถูกธนูยิงเข้าที่ท้องน้อยอีกด้วย จึงเดินมิเร็วนักหลิงอวี๋จึงให้หานเหมยประคองนาง ส่วนตนก็สำรวจเส้นทางอยู่ข้างหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดว่าภูเขาหิมะแห่งนี้ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา หลิงอวี๋หนีไปมิพ้น จึงมิกังวลเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็วตามที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกไว้ตอนที่ทั้งสามคนอยู่ที่ฉินตะวันตกเป็นวสันตฤดู จึงมิได้สวมเสื้อผ้ามากนัก ไหนเลยจะคิดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาพวกนางมาที่ภูเขาหิมะ พวกนางต่างก็หนาวจนตัวสั่นกันไปหมดหลิงอวี๋รู้สึกเพียงว่าร่างกายของตนเริ่มจะแข็ง และในที่สุดก่อนฟ้ามืดก็พบร่องเขาแห่งหนึ่งที่พอจะให้ทั้งสามคนเข้าไปซ่อนตัวได้ร่องเขาเป็นช่องตรงกลางของก้อนหินหลายก้อน ข้างหน้าไม่มีที่กำบัง ทั้งสามคนจึงเกาะกลุ่มเข้าด้วยกันแล้วพิงกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นลมหนาวพัดอย่างรุนแรงอยู่ข้างนอก ทั้งสามคนมิได้เอาของกินใด ๆ มา เดินกันมานานก็หิวโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1712

    เมื่อนึกถึงเฉียวเค่อ จู่ ๆ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเป้าหมายของเฉียวเค่อในการมาที่ฉินตะวันตกครานี้คือการจับตัวหลิงอวี๋ ตราบใดที่หลิงอวี๋อยู่ในมือของตน เฉียวเค่อจะต้องหาวิธีตามหาพวกนางอย่างแน่นอนเมื่อถึงตอนนั้นก็จะสามารถหนีไปจากสถานที่แย่ ๆ นี้ได้แน่!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย มิรู้ว่าเผลอหลับไปเมื่อใดหลิงอวี๋และหานเหมยกอดกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและค่อย ๆ หลับไปเช่นกันแต่เมื่อถึงกลางดึก ทั้งสามคนต่างก็ถูกความหนาวเย็นปลุกให้ตื่นขึ้นมาอุณหภูมิในภูเขาหิมะลดลงเร็วเกินไป และหิมะที่ลมหนาวพัดมาก็ตกลงมาบนตัวของทั้งสามคน ทำให้ทั้งสามหนาวเหน็บจนร่างจะแข็งจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิสนใจความแค้นของนางกับพวกหลิงอวี๋ เบียดเสียดเข้าไประหว่างทั้งสองนั้นแล้วพยายามให้ทั้งสองคนทำให้ตนอบอุ่นยาวนานกว่าจะถึงรุ่งสาง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าตนหิวมากจนกินหมูทั้งตัวได้เลย“มิได้ พวกเราจะเดินทางเช่นนี้มิได้ ต้องหาอาหารให้อิ่มท้องแล้วค่อยลงจากภูเขา!”“มิเช่นนั้นพวกเราคงไม่มีแรงเดินลงภูเขาแน่!”อุณหภูมิร่างกายที่ลดลงทำให้พลังงานของทั้งสามคนหมดไป จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็ไม่มีแรงแล้ว แต่ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1713

    วัง?บนภูเขาหิมะจะมีวังได้อย่างไร?หลิงอวี๋มองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนเมื่อครู่บนภูเขายังคงมีหมอกอยู่ จึงมองเห็นฝั่งตรงข้ามมิชัดเจนแต่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นส่องแสงเหล่ากลุ่มหมอกก็สลายหายไป วังแห่งนั้นจึงปรากฏขึ้นมาหลังคาสูงและกำแพงที่ดูสง่างามนั้นสีขาวราวกับหิมะที่อยู่รอบ ๆ สะท้อนแสงอาทิตย์และส่องแสงระยิบระยับออกมา!มันคือวังจริง ๆ วังน้ำแข็ง!หลิงอวี๋รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เมื่อเห็นวังก็หมายความว่ามีคนอยู่ เช่นนั้นพวกนางก็ไม่มีทางหิวและแข็งตายอยู่บนภูเขาหิมะนี้แล้วหลิงอวี๋รีบสังเกตเส้นทางไปสู่วังน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ขอเพียงลงจากภูเขาหิมะนี้ แล้วหาเส้นทางภูเขาฝั่งตรงข้ามก็สามารถเข้าถึงวังน้ำแข็งได้แล้วหลิงอวี๋จดจำทิศทางของวังน้ำแข็งแล้วย้อนกลับไปตามทางที่มานางยังคงคิดถึงกระต่ายตัวนั้นอยู่นึกได้ว่าจะไปวังน้ำแข็งจะต้องใช้กำลัง หากมิได้กินอะไรสักหน่อย ก็คงเป็นเรื่องยากที่พวกนางจะไปถึงวังน้ำแข็งแห่งนั้น!หลิงอวี๋มีความหวังขึ้นมาแล้ว นางจึงมองหาร่องรอยของกระต่ายอย่างใจเย็น มิช้าหลิงอวี๋ก็พบมูลสัตว์เมื่อตามทิศทางของมูลไป ในที่สุดหลิงอวี๋ก็พบกระต่ายหิมะสองสามตัวกำลังกินอาหารอยู่ใน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1714

    หากหานเหมยเชื่อฟังและอยู่ต่อก็ช่างไป มิฉะนั้นนางจะฆ่าหานเหมยเสีย...หากหาอะไรกินมิได้เลยจริง ๆ หานเหมยก็พอที่จะให้ตนอดทนจนเฉียวเค่อมาตามหาได้!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยหิวมากจนหมดเรี่ยวแรง จนทนมิไหวแล้วจริง ๆ เนื้อมนุษย์นางก็กินได้ขณะที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกมีดเล็งไปที่คอหานเหมย ก็ได้ยินเสียงของหลิงอวี๋จากข้างนอก “เสี่ยวอวี้ เจ้าออกมาดูสิ พี่ตีกระต่ายมาให้เจ้าตัวหนึ่งนะ!”หานเหมยหลุดพ้นจากการควบคุมของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอย่างมีความสุขแล้วมุดออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยออกแรงมากเกินไปจึงล้มลงไปกับพื้น นางรีบซ่อนกริชไว้ก่อนที่จะเดินออกมาหลิงอวี๋มิได้ทิ้งพวกนาง!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพูดมิออกว่าในใจรู้สึกอย่างไร ทั้งมีความสุขและมีความสับสนเล็กน้อยหากเปลี่ยนเป็นตนคงจะใช้โอกาสนี้หลบหนีไปตามลำพังอย่างแน่นอนภูเขาหิมะที่เหน็บหนาวและยาวไปสุดลูกหูลูกตานี้เมื่อไรจึงจะออกไปได้ หนีไปคนเดียวจะมิสะดวกกว่าหรือ?“พี่หญิง เป็นกระต่ายจริง ๆ ด้วย พี่หญิงสุดยอดมาก!”หานเหมยรับกระต่ายที่หลิงอวี๋ส่งมาแล้วกรีดร้องอย่างตื่นเต้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองไปที่กระต่าย แล้วคิดถึงสิ่งที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ หากหลิงอวี๋สามารถหาของกินมาได้ ต่อไปต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1715

    #ฟืนที่หานเหมยหามาชื้นเล็กน้อยเพราะแช่อยู่ใต้หิมะ ไฟจึงมิแรงมาก กระต่ายหิมะจึงยังมิสุกดีหลิงอวี๋จะรีบลงจากภูเขาจึงมิสนใจ แบ่งเนื้อกระต่ายให้ทั้งสองคนกิน แล้วเร่งให้พวกนางลงจากภูเขาในตอนแรกทั้งสองมิสนใจจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้วประคองกันหาทางลงจากภูเขาภูเขาหิมะไม่มีถนน อีกทั้งหิมะก็ตกหนักมาก จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้ระวังจึงลื่นล้มไปนางจ้องมองสองคนข้างหน้าด้วยความโกรธและเกลียดชัง แล้วสุดท้ายก็กังวลว่าทั้งสองคนจะทอดทิ้งตน จึงร้องไห้ออกมาอย่างอ่อนแรง“อวี้หนู เสี่ยวอวี้ พวกเจ้ามิสนใจข้าเลยหรือ? หรือว่าเป็นจริงดังคำพูดที่ว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติทุกคนต่างก็แยกจากกัน?”“นึกถึงตอนแรกที่เราเป็นพี่น้องกัน กินอยู่มาด้วยกัน ข้ามีของดี ๆ ก็ล้วนแบ่งปันให้พวกเจ้า แต่ตอนนี้ พวกเจ้าพี่น้องมีความรักอันลึกซึ้งต่อกัน จึงมิต้องการภาระเช่นข้าแล้ว!”หลิงอวี๋ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เมื่อหันกลับมาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยร้องไห้อยู่บนหิมะ จึงเดินกลับมาช่วยประคองนางลุกขึ้น“มิต้องสนใจข้าแล้ว พวกเจ้าไปกันเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับจุดอ่อนของหลิงอวี๋ได้แล้ว จึงร้องออกมา “ขาของข้าบาดเจ็บ เดินเร็วมิได้ มิอยากเป็นตัวถ่ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1716

    หลิงอวี๋ยังฝันด้วยว่า ตนถูกมัดติดกับเสาและถูกเฆี่ยนตี บุรุษในชุดจักรพรรดิสีเหลืองสดใสผู้นั้นนั่งอยู่ในรถเข็นแล้วมองนางอย่างไร้ความปรานี“เฆี่ยนตีไป หากตีจนตายแล้วก็เอาไปโยนไว้ที่สุสานไร้ระเบียบ!”เด็กที่อ่อนแอคนหนึ่งโผเข้ามากอดนางไว้ แล้วตะโกนอย่างเศร้าสร้อย “อย่าตีท่านแม่ของข้านะ!”ภาพแปลกประหลาดเหล่านั้นแวบขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ทีละอย่าง บุรุษที่อยู่ในความฝันของนาง ประเดี๋ยวก็เป็นคนดี ประเดี๋ยวก็เป็นคนเลว!หลิงอวี๋ขมวดคิ้วอย่างขมขื่น ถูกภาพเหล่านี้ทรมานจนปวดหัวแทบระเบิดแล้วนางก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาหานเหมยและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ มิได้พบความผิดปกติของนางเลยแม้แต่น้อยหลิงอวี๋รู้สึกเพียงราวกับว่าทั้งร่างกายถูกบดขยี้ ความฝันนี้ทำให้นางเหนื่อยกว่าการปีนภูเขาเสียอีกนางนอนลงอย่างหมดแรง ภาพเหล่านั้นเป็นจินตนาการของตนหรือเคยเกิดขึ้นจริงกันแน่?บุรุษในฝันคือผู้ใดกัน?เด็กผู้นั้นคือผู้ใด?หลิงอวี๋เอาแต่คิดถึงปัญหาเหล่านี้ทั้ง ๆ ที่ลืมตาอยู่ แต่เมื่อคิดมากเกินไปก็ปวดหัวมาก นางจึงยอมแพ้หรือเรื่องเหล่านี้จะค่อย ๆ นึกขึ้นได้ทีหลังความหวังในตอนนี้ของนางคือการขึ้นไปที่วังน้ำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1717

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นความดื้อดึงของหลิงอวี๋ จึงเอ่ยอย่างจนใจ “อวี้หนู ค่ายกลนี้มิอาจมองข้ามได้จริง ๆ ข้ามิได้โกหกเจ้า มีคนมากมายที่มิเข้าใจค่ายกลนี้แล้วบุกเข้าไปในค่ายกล ก็จะถูกขังอยู่ในค่ายกลนี้จนตาย!”“พวกเราขึ้นไปมิได้ ก็ยังสามารถลงไปลองเสี่ยงโชคดูได้ บางทีเราอาจจะยังมิได้เดินเข้าไปในค่ายกล และยังสามารถเดินออกไปได้!”หลิงอวี๋คิดแล้วเอ่ย “ท่านบอกข้าเรื่องค่ายกลนี้อีกสักหน่อยสิ บางทีข้าอาจจะคิดหาวิธีได้!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยรู้สึกกลัดกลุ้ม นางยังมิสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ แล้วหลิงอวี๋จะทำลายมันได้อย่างไร!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองลงไปด้านล่างภูเขา จากนั้นมองวังน้ำแข็งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม สุดท้ายก็ประนีประนอม บางทีหลิงอวี๋อาจจะโชคดี สามารถทำลายมันได้!นางอธิบายหลักการของค่ายกลให้หลิงอวี๋ฟังคร่าว ๆ หลิงอวี๋ก็ซักถามนางมากมายนักจ้าวหรุ่ยหรุ่ยค่อนข้างจะรำคาญแล้ว หลังจากตอบด้วยเสียงหยาบจึงเอ่ย “ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าหากคิดจะทำลายค่ายกลมันมิง่ายเช่นนั้น ฟังข้าแล้วลงไปจากภูเขาก่อนเถิด!”“มิลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามิได้!”หลิงอวี๋เอ่ย “เช่นนั้นก็ให้เสี่ยวอวี้กับเจ้าลงไปดูด้านล่าง แล้วข้าศึกษาวิธีทำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1718

    เมื่อหลิงอวี๋พูดเช่นนี้ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็เริ่มสนใจเช่นกัน นางรู้สึกว่าสติปัญญาของตนเหนือกว่าหลิงอวี๋ ไม่มีทางที่จะแพ้หลิงอวี๋ได้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพยายามอย่างหนักที่จะนึกย้อนถึงเส้นทางและภูมิแคว้นที่ตนผ่านมาแต่คิดอยู่นาน ก็ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นน่าจะเติบโตในที่ดั้งเดิมนี้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรแปลกเลย!หลิงอวี๋เองก็พยายามนึกย้อนดู แต่ก็มิพบอะไรผิดปกติฟ้ามืดแล้ว มองมิเห็นแผนที่ที่วาดขึ้นแล้ว อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนจึงมารวมตัวกันเพื่อให้ความอบอุ่น“หิวจัง!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคุณหนูไปแล้ว นางเกิดมาก็ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมาโดยตลอด จะเคยทุกข์ทรมานเช่นนี้ได้อย่างไร!นางมองหลิงอวี๋ หลิงอวี๋มิได้สูญเสียพลังวิญญาณ แค่ถูกตนผนึกไว้เท่านั้น หากทำลายผนึกของนาง นางก็น่าจะมีมิติเหมือน ๆ กับแหวนพระสุเมรุข้างในนั้นน่าจะมีอาหาร!แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิกล้าเสี่ยงเช่นนั้น หากปลดผนึกของหลิงอวี๋ตนก็จะยิ่งมิสามารถควบคุมหลิงอวี๋ได้หากนางพบว่าจิตสำนึกของนางถูกตนผนึกไว้ เช่นนั้นนางจะต้องสังหารตนแล้วหนีไปอย่างแน่นอน!หากจะตายก็ตายด้วยกันสิ!หากสามารถให้คู่ต่อสู้ผู้นี้ตายไปพร

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2010

    เมื่อหลิงอวี๋เห็นหยางหงหนิงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วก็นึกถึงคำขู่ที่หยางหงหนิงบอกว่าจะทำให้เย่หรงแต่งงานกับนางให้ได้ภายในหนึ่งเดือนหรือว่าหยางหงหนิงทำมิได้ ในตอนนี้จึงคิดจะมาทำให้ตนลำบาก?“สิงอวี๋ เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าจริง ๆ หรือ?”เป็นดังที่คาด ทันทีที่เอ่ยปากหยางหงหนิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างก้าวร้าว “เจ้าก็รู้อยู่ว่าข้าชอบเย่หรง เจ้ายังกล้าชวนเขาไปที่ภูเขาหมางหลิ่งด้วยกันอีก เจ้ายังจะเถียงว่าเจ้ามิชอบเขาอีกหรือ!”“ข้าขอเตือนเจ้า อยู่ให้ห่างจากเย่หรง มิฉะนั้นข้าจะมิเกรงใจเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หมดคำพูดไปทันที ตนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพื่อศึกษาเล่าเรียน มิใช่มาแย่งชิงบุรุษกับผู้ใด!ในหัวของหยางหงหนิงนั้นนอกจากเรื่องระหว่างบุรุษกับสตรีแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นเลยหรือ?“คุณหนูหยาง ข้าได้แสดงทัศนคติของจ้าไปอย่างชัดเจนแล้ว เย่หรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะชอบใครก็เป็นอิสระของเขา!”“ข้ามิได้ตั้งใจจะแย่งเขากับเจ้า เจ้าก็อย่ามายุ่งกับข้าเช่นกัน!”หลิงอวี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยบอกไปแล้วว่า เจ้าอย่าได้ผลักเขาให้ไกลออกไปเรื่อย ๆ แล้วเจ้าดูพฤติกรรมของเจ้าในตอนนี้สิ แพ้แล้วก็มิรักษาคำพูด แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2009

    “ฮูหยินเฉียว นอกจากนี้แล้ว พวกเราต้องตามหาป้าวซวนให้เจอโดยเร็วที่สุดด้วย!”นี่คือสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนึกขึ้นได้ตอนที่ถูกเซียวหลินเทียนซักถาม แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นการรับมือกับเซียวหลินเทียน แต่หลังจากนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าคำโกหกที่ตนพูดไปนั้นสามารถนำมาใช้ได้เช่นกันหลิงอวี๋เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและศีลธรรม นางกับป้าวซวนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน หากจับตัวป้าวซวนไว้ จะต้องล่อให้หลิงอวี๋มาติดกับได้อย่างแน่นอนเป็นดังที่นางบอกกับเซียวหลินเทียนไว้ว่า ป้าวซวนมิได้ฉลาดเท่าหลิงอวี๋ นางไม่มีทางหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้อย่างแน่นอน“ฮูหยินเฉียว ข้าเคยบอกเซียวหลินเทียนไว้ว่า หลิงอวี๋จะไปช่วยป้าวซวน เซียวหลินเทียนจะต้องมิอยากให้หลิงอวี๋ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ขอเพียงพวกเราปล่อยข่าวออกไปว่าป้าวซวนอยู่ในมือพวกเรา เซียวหลินเทียนจะต้องชิงมาช่วยป้าวซวนก่อนหลิงอวี๋เป็นแน่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้ มิว่าใครจะมาช่วย พวกเราก็จะสามารถหนึ่งในนั้นได้แล้ว!”กลยุทธ์ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับการชื่นชมจากฮูหยินเฉียว ฮูหยินเฉียวจึงให้คนออกไปแพร่ข่าวลือในทันทีในขณะเดียวกันก็วางกับดักไว้อย่างรัดกุม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2008

    หลิงอวี๋คิดตามความคิดนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้เถาจื่อขอให้ตนช่วย และบอกไว้ว่าหากตัวตนของเซียวหลินเทียนถูกเปิดเผยออกไป ชีวิตของคนนับร้อยในคฤหาสน์อู่อาจตกอยู่ในอันตรายนั่นก็คือปัจจัยที่เซียวหลินเทียนกังวลเซียวหลินเทียนมิได้เปิดเผยตัวตนของตน ก็แค่มิอยากเปิดโปงตนให้ผู้อื่นรู้เขาต้องการเก็บหยกหล้าสุขาวดีไว้ผู้เดียว!นี่ก็หมายความว่า ในตอนที่เซียวหลินเทียนยังคลี่คลายวิกฤตมิได้นั้น นางจะปลอดภัยอยู่ก่อนชั่วคราวหลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนนึกได้กับผู้รอบรู้ แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา “พวกเรายังมีเวลา กระทั่งงานประมูลตอนปลายเดือนจัดขึ้น แล้วจะได้รับเงินจากการประมูลโสมเก้าคด จากนั้นพวกเราก็จะหาวิธีออกไปจากเมืองหลวงแดนเทพกัน!”“ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีทางทำให้พวกเราลำบากแน่ หากเขากล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น พวกเราก็จะกระจายข่าวเรื่องเสือปีกกาฬออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของตระกูลเหล่านั้น!”หลิงอวี๋นึกถึงคำพูดของเย่หรงเมื่อครู่ ในเมื่อนางกับเย่หรงมีโชคชะตาของเมื่อชาติที่แล้ว เช่นนั้นก่อนจากไปนางจะต้องช่วยให้เขาช่วยมารดาของเขาออกมาให้ได้“พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าสืบอีกสักหน่อยเถิดว่า ในเกวียนทาสหญิงที่เซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2007

    “เย่หรง!”หลิงอวี๋เรียกงึมงำ และกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องภาพที่ตนเห็นกับเย่หรงเพื่อยืนยันสักหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่ดังมาแย่แล้ว!หรือว่ามีคนแอบฟัง?หลิงอวี๋ตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นทันที เย่หรงเองก็ชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน“น้องหญิง ข้ากลับมาแล้ว!”เสียงของผู้รอบรู้ดังขึ้นมา เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นผู้รอบรู้จึงได้ถอนหายใจโล่งอก แล้วเก็บแผนที่ไปอย่างรวดเร็ว“พี่ชายข้ามิรู้ว่าท่านกำลังวางแผนเรื่องพวกนี้ อย่าได้หลุดปากไปนะ ข้ามิอยากลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย!”เย่หรงพยักหน้าแล้วซ่อนแผนที่ไว้ในมิติ“น้องหญิง…”ผู้รอบรู้พุ่งเข้ามา เมื่อเขาเห็นเย่หรงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกวาดสายตามองทั้งสองคนอย่างสงสัย“เสี่ยวชี ข้ามีธุระอื่นอีก ข้าไปก่อนนะ ไว้วันหลังข้าค่อยมาพาเจ้าไปงานประมูล!”เย่หรงรีบบอกกับหลิงอวี๋แล้วเดินจากไป“เขามาทำอะไร?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามออกมา“มาหารือกับข้าเรื่องขายเครื่องยาสมุนไพร!”หลิงอวี๋ตอบออกไปแล้วเปลี่ยนหัวข้อ "ท่านสืบได้ข่าวอะไรมาหรือไม่?”ผู้รอบรู้เห็นว่ามีชาอยู่บนโต๊ะ จึงดื่มไปรวดเดียว ก่อนจะเอ่ยออก “น้องหญิง พวกเราต้องออกจากเมืองหลวงแดนเทพโดยเร็ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2006

    “เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2005

    เย่หรงแสดงสีหน้าสับสนออกมา “ภรรยาของแม่ทัพเฉิงมีเนื้องอกในสมอง สองปีมานี้นางกินยาไปมิน้อยแต่ก็มิดีขึ้น!”“ได้ยินว่าอาการป่วยของฮูหยินเฉิงแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่คนรอบตัวนางก็จำมิได้แล้ว...”“ใต้หล้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคนี้ได้!”“แม่ทัพเฉิงกับภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก หากข้าสามารถหาคนผู้นี้ แล้วช่วยภรรยาของแม่ทัพเฉิงให้หายจากโรคนี้ได้ แม่ทัพเฉิงก็จะเป็นสายลับที่ดีที่สุด!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เย่หรง “สรุปแล้วเป็นผู้ใดกันที่สามารถรักษาโรคเช่นนี้ได้? เหตุใดท่านทำราวกับเป็นนักเล่าเรื่อง เอาแต่ทำให้รอฟังอยู่นั่น!”เย่หรงมองหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เจ้ารู้จักสตรีคนหนึ่งที่ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลค่าหัวหรือไม่?”“หลิงอวี๋! นางคือคนเดียวในใต้หล้าที่สามารถรักษาโรคของฮูหยินเฉิงได้!”หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที ที่แท้คนที่เย่หรงพูดถึงก็คือตน!“หลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม นางผ่าท้องมารดาของข้าหลวงเก๋อรักษาโรคประหลาดท้องโตของนางจนหายได้!”“มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้นที่จะสามารถทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองของฮูหยินเฉิงได้!”เย่หรงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ย “แต่ขนาดต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2004

    หลิงอวี๋มองไปทางเย่หรงอย่างสงสัย “สระเก้ามังกรมีรายละเอียดอะไรหรือ?”เย่หรงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา “เจ้าลองคิดดู หากเป็นเพียงการคุมขังนักโทษจำนวนหนึ่ง จำเป็นต้องส่งแม่ทัพเฉิงที่สำคัญเช่นนี้ไปด้วยหรือ?”“ราชวงศ์มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็เพื่อจะปิดบังความลับเอาไว้!”“ในสระมังกรที่ภูเขาด้านหลังมีสัตว์เทพอยู่… และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นมังกรฟ้าที่เป็นพาหนะของหลงอี้ในตอนนั้น!”“ข้าไปสืบจากคนมามากมาย แต่คนที่รู้เรื่องราวภายในมีอยู่น้อยนัก นี่คือสิ่งที่ข้าอนุมานได้จากเบาะแสบางส่วน!”เย่หรงยิ่งพูดก็ยิ่งสนุก “ข้าถึงขนาดสงสัยว่าแผ่นดินไหวเมื่อสองร้อยปีก่อนมิใช่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากมังกรฟ้าต่างหาก!”“ก่อนหน้านี้สระเก้ามังกรก็มีเครื่องยาสมุนไพรอยู่มากเช่นกัน และราชวงศ์ก็มิได้ห้ามให้ผู้บำเพ็ญตนไปเก็บสมุนไพร แต่นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้น ราชวงศ์ก็มิอนุญาตให้ใครไปเก็บสมุนไพรที่ภูเขาด้านหลังของสระเก้ามังกรมาเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้ว!”“ข้าไปถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขามา ผู้สูงอายุคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขาบอกว่า เมื่อนานมาแล้วจะได้ยินเสียงร้องประหลาดอยู่เป็นบางครั้ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2003

    ขณะที่เย่ซื่อฝานกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้ววิ่งไปหาที่โต๊ะตำรา จากนั้นก็หยิบจดหมายเชิญส่งให้หลิงอวี๋“วันนี้อย่าเพิ่งไปที่หอธุวดารา ช่วงปลายเดือนนี้พวกเขาจะจัดงานประมูลพิเศษขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะมีคนรวยมากหลายไปเข้าร่วมงานประมูลนี้!”“หอธุวดาราส่งจดหมายเชิญมาให้ข้าสองสามฉบับ ถึงเวลานั้นพวกเราไปด้วยกัน จะได้ช่วยเจ้าขายให้ได้ราคาดี”“เจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋รับจดหมายเชิญมาแล้วขอลากลับก่อนเมื่อนางมาถึงที่ประตูก็พบกับเย่หรงที่กลับมาพอดีเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเขาปลอดภัยดี จึงเอ่ยออกไป “ข้ากังวลว่าท่านจะมิได้กลับมาอย่างปลอดภัย ท่านมิเป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เย่หรงยิ้มอย่างเก้อเขิน “ตอนนั้นเสือไล่ตามพวกเราจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง กระทั่งเสือหายไป ข้าก็กลับไปหาพวกเจ้า แต่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ข้าจึงได้ออกไปก่อน!”“เฮ้อ หากข้ามิออกไปก่อนก็คงดี จะได้เห็นเสือปีกกาฬ!”เย่หรงมิได้บอกหลิงอวี๋ว่า เขาได้ยินจ้าวหรุ่ยหรุ่ยรวบรวมกำลังคนเพื่อจับตัวเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ เขาต้องการให้หลิงอวี๋ช่วยอยู่พอดี จึงตามหาหลิงอวี๋ไปทั่ว“เจ้าพบสมบัติอะไร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2002

    หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่างสุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status