แชร์

บทที่ 1716

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋ยังฝันด้วยว่า ตนถูกมัดติดกับเสาและถูกเฆี่ยนตี บุรุษในชุดจักรพรรดิสีเหลืองสดใสผู้นั้นนั่งอยู่ในรถเข็นแล้วมองนางอย่างไร้ความปรานี

“เฆี่ยนตีไป หากตีจนตายแล้วก็เอาไปโยนไว้ที่สุสานไร้ระเบียบ!”

เด็กที่อ่อนแอคนหนึ่งโผเข้ามากอดนางไว้ แล้วตะโกนอย่างเศร้าสร้อย “อย่าตีท่านแม่ของข้านะ!”

ภาพแปลกประหลาดเหล่านั้นแวบขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ทีละอย่าง บุรุษที่อยู่ในความฝันของนาง ประเดี๋ยวก็เป็นคนดี ประเดี๋ยวก็เป็นคนเลว!

หลิงอวี๋ขมวดคิ้วอย่างขมขื่น ถูกภาพเหล่านี้ทรมานจนปวดหัวแทบระเบิด

แล้วนางก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

หานเหมยและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ มิได้พบความผิดปกติของนางเลยแม้แต่น้อย

หลิงอวี๋รู้สึกเพียงราวกับว่าทั้งร่างกายถูกบดขยี้ ความฝันนี้ทำให้นางเหนื่อยกว่าการปีนภูเขาเสียอีก

นางนอนลงอย่างหมดแรง ภาพเหล่านั้นเป็นจินตนาการของตนหรือเคยเกิดขึ้นจริงกันแน่?

บุรุษในฝันคือผู้ใดกัน?

เด็กผู้นั้นคือผู้ใด?

หลิงอวี๋เอาแต่คิดถึงปัญหาเหล่านี้ทั้ง ๆ ที่ลืมตาอยู่ แต่เมื่อคิดมากเกินไปก็ปวดหัวมาก นางจึงยอมแพ้

หรือเรื่องเหล่านี้จะค่อย ๆ นึกขึ้นได้ทีหลัง

ความหวังในตอนนี้ของนางคือการขึ้นไปที่วังน้ำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1717

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นความดื้อดึงของหลิงอวี๋ จึงเอ่ยอย่างจนใจ “อวี้หนู ค่ายกลนี้มิอาจมองข้ามได้จริง ๆ ข้ามิได้โกหกเจ้า มีคนมากมายที่มิเข้าใจค่ายกลนี้แล้วบุกเข้าไปในค่ายกล ก็จะถูกขังอยู่ในค่ายกลนี้จนตาย!”“พวกเราขึ้นไปมิได้ ก็ยังสามารถลงไปลองเสี่ยงโชคดูได้ บางทีเราอาจจะยังมิได้เดินเข้าไปในค่ายกล และยังสามารถเดินออกไปได้!”หลิงอวี๋คิดแล้วเอ่ย “ท่านบอกข้าเรื่องค่ายกลนี้อีกสักหน่อยสิ บางทีข้าอาจจะคิดหาวิธีได้!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยรู้สึกกลัดกลุ้ม นางยังมิสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ แล้วหลิงอวี๋จะทำลายมันได้อย่างไร!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองลงไปด้านล่างภูเขา จากนั้นมองวังน้ำแข็งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม สุดท้ายก็ประนีประนอม บางทีหลิงอวี๋อาจจะโชคดี สามารถทำลายมันได้!นางอธิบายหลักการของค่ายกลให้หลิงอวี๋ฟังคร่าว ๆ หลิงอวี๋ก็ซักถามนางมากมายนักจ้าวหรุ่ยหรุ่ยค่อนข้างจะรำคาญแล้ว หลังจากตอบด้วยเสียงหยาบจึงเอ่ย “ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าหากคิดจะทำลายค่ายกลมันมิง่ายเช่นนั้น ฟังข้าแล้วลงไปจากภูเขาก่อนเถิด!”“มิลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามิได้!”หลิงอวี๋เอ่ย “เช่นนั้นก็ให้เสี่ยวอวี้กับเจ้าลงไปดูด้านล่าง แล้วข้าศึกษาวิธีทำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1718

    เมื่อหลิงอวี๋พูดเช่นนี้ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็เริ่มสนใจเช่นกัน นางรู้สึกว่าสติปัญญาของตนเหนือกว่าหลิงอวี๋ ไม่มีทางที่จะแพ้หลิงอวี๋ได้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพยายามอย่างหนักที่จะนึกย้อนถึงเส้นทางและภูมิแคว้นที่ตนผ่านมาแต่คิดอยู่นาน ก็ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นน่าจะเติบโตในที่ดั้งเดิมนี้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรแปลกเลย!หลิงอวี๋เองก็พยายามนึกย้อนดู แต่ก็มิพบอะไรผิดปกติฟ้ามืดแล้ว มองมิเห็นแผนที่ที่วาดขึ้นแล้ว อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนจึงมารวมตัวกันเพื่อให้ความอบอุ่น“หิวจัง!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคุณหนูไปแล้ว นางเกิดมาก็ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมาโดยตลอด จะเคยทุกข์ทรมานเช่นนี้ได้อย่างไร!นางมองหลิงอวี๋ หลิงอวี๋มิได้สูญเสียพลังวิญญาณ แค่ถูกตนผนึกไว้เท่านั้น หากทำลายผนึกของนาง นางก็น่าจะมีมิติเหมือน ๆ กับแหวนพระสุเมรุข้างในนั้นน่าจะมีอาหาร!แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิกล้าเสี่ยงเช่นนั้น หากปลดผนึกของหลิงอวี๋ตนก็จะยิ่งมิสามารถควบคุมหลิงอวี๋ได้หากนางพบว่าจิตสำนึกของนางถูกตนผนึกไว้ เช่นนั้นนางจะต้องสังหารตนแล้วหนีไปอย่างแน่นอน!หากจะตายก็ตายด้วยกันสิ!หากสามารถให้คู่ต่อสู้ผู้นี้ตายไปพร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1719

    “พี่หญิง!”หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเสี่ยวอวี้กำลังเรียกตน แต่ร่างกายของนางมิสามารถควบคุมได้ นางลอยไปแล้วก็ร่วงลงความเร็วที่ร่วงลงมานั้นเร็วมากจนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกว่าหัวถูกกดทับจนเสียงดังอื้ออึงไปหมด มิสามารถทนต่อแรงที่ร่วงลงมาอย่างรวดเร็วได้ นางจึงสลบไปหลิงอวี๋หลับอยู่ในความมืด มิรู้ว่าหมดสติไปนานแค่ไหน แล้วก็ได้ยินคนพูดกันแว่ว ๆ“เจ้าวังน้อย คนผู้นี้น่าเกลียดมาก ท่านช่วยเหลือนางเพราะเหตุใดกันเพคะ? แค่โยนออกไปเป็นอาหารเสือดาวหิมะก็พอแล้ว!”เสียงเด็กเอ่ยขึ้นมา “วังเทพไม่มีใบหน้าสดใหม่มานานมากแล้ว เห็นหน้าพวกเจ้าอยู่ทุกวันข้าก็เบื่อแล้ว เก็บนางไว้คลายความเบื่อเถิด!”“เจ้าวังน้อย คนผู้นี้น่าเกลียดถึงเพียงนี้ จะคลายความเบื่อได้อย่างไรเพคะ!”นางกำนัลเอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามิเข้าใจ นางทำได้หลายอย่างเลย! เจ้ารอไปก่อนเถิด นางจะนำเรื่องน่าประหลาดใจมาให้เจ้าแน่!”หลิงอวี๋กะพริบตา เสียงของเจ้าวังน้อยฟังดูน่ารักมาก แต่น้ำเสียงของนางกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้ายหลิงอวี๋พยายามลืมตา แต่กลับถูกแสงเจิดจ้าตรงหน้าทิ่มแทงจึงหลับตาไปอีกครั้งเพียงมองแวบเดียวเมื่อครู่ นางก็พบว่าตนอยู่ในวัง!นางค่อย ๆ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1720

    ด้านนอกเป็นสวนรกรุงรัง หลิงอวี๋ยังมิทันจะได้เห็นสถานการณ์รอบตัวอย่างชัดเจน เสวี่ยหลานก็หยิบแส้ขึ้นมาแล้วฟาดใส่หัวและใบหน้าของนางแส้ฟาดใส่หน้าหลิงอวี๋ ใบหน้าของหลิงอวี๋เจ็บปวดมาก ๆ นางโกรธมาก อยากจะไปแย่งแส้ แต่เสวี่ยหลานเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงไปนางเฆี่ยนตีไปนางอีกครั้งแล้วตำหนิด้วยความโกรธ “นางสารเลว เจ้ายังกล้าจะแย่งแส้อีก วันนี้ข้าจะสอนกฎเกณฑ์ให้เจ้าอย่างดี!”“ในวังเทพนี้ นอกจากเจ้าวังแล้ว เจ้าวังน้อยเป็นใหญ่ที่สุด เจ้าวังน้อยพูดสิ่งใดเจ้าก็ต้องเชื่อฟัง มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ!”เพียะ ทันใดนั้นแส้ก็ฟาดไปที่ขาของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ก็เซล้มลงไปกับพื้นยังมิทันที่นางจะลุกขึ้นมาได้ เสวี่ยหลานก็เฆี่ยนตีที่ตัวนางอีกครั้ง“ต่อหน้าเจ้าวังน้อยมิอนุญาตให้เจ้าแทนตัวว่าข้า เจ้าต้องแทนตัวว่าบ่าว!”“ต่อไปเจ้าวังน้อยจะเป็นเจ้านายของเจ้า เจ้าเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่เจ้าวังน้อยเลี้ยงดูเท่านั้น หากเจ้าวังน้อยให้เจ้าคลานเหมือนสุนัข เจ้าก็ทำได้เพียงต้องเชื่อฟังเท่านั้น!”หลิงอวี๋ยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธขึ้นเรื่อย ๆ นางเป็นมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นทาสที่ต่ำต้อย ก็มิอาจเอาตนไปเทียบกับสุนัขได้!นางเห็นเสวี่ยหลานเหวี่ยงแส้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1721

    หลิงอวี๋ได้ยินเช่นนี้ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ การแบ่งชนชั้นในวังเทพแห่งนี้แปลกประหลาดนัก อำนาจของนางรับใช้มิกี่คนสามารถเทียบกับเจ้าวังน้อยได้“เรือนชูอวิ๋นนี้เป็นสถานที่อาศัยของทาสระดับต่ำ หากเจ้ามีความสามารถทำให้เจ้าวังน้อยมีความสุขได้ ต่อไปก็จะได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ในเรือนระดับสูง!”เสวี่ยหลานพาหลิงอวี๋ไปที่เรือนที่อยู่ห่างไกล แม้ว่าจะห่างไกล แต่ก็งดงามมากเช่นกัน นางกำนัลทั่ว ๆ ไปก็แต่งตัวงดงามมาก“เจ้ามีนามว่าอะไร?”เสวี่ยหลานเอ่ยถามสัญชาตญาณของหลิงอวี๋มิชอบชื่ออวี้หนูที่จ้าวหรุ่ยหรุยตั้งให้ตน นางนึกขึ้นได้ว่าในความฝันมีคนเรียกตนว่าอาอวี๋ จึงเอ่ยออกไป “อาอวี๋!”“อาอวี๋ จำคำของข้าไว้ อย่าเอ่ยวาจาเหลวไหลในวังเทพ และอย่าคิดที่จะหลบหนี หากถูกจับได้ จุดจบของเจ้านั้นตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่!”“เมื่อเทียบกับแส้ในวันนี้ เจ้าจะพบว่านรกบนหล้ามนุษย์ก็เป็นเช่นนี้!”เสวี่ยหลานเอ่ยอย่างเย็นชา “เข้าไปล้างตัวพักผ่อนเสีย วันนี้เจ้าวังน้อยเหนื่อยแล้ว วันพรุ่งจึงจะตามหาเจ้า!”เสวี่ยหลานเรียกนางกำนัลที่ทำงานทั่วไปมา “ปี้เอ๋อร์ พานางไปที่ห้องของนาง!”นางกำนัลที่อยู่ใกล้ ๆ มาทักทาย หลิงอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1722

    “กินเถิด ขนมอบนี้อร่อยมาก! ขอบใจนะปี้เอ๋อร์!”หลิงอวี๋เคี้ยวขนมอบที่แห้งแล้ว แม้ว่าจะกลืนลำบาก แต่นางก็ยังทำท่าทางดูอร่อยมากอยู่ปี้เอ๋อร์ถูกหลิงอวี๋ยัดขนมเข้าปาก ก็จนใจต้องกัดไปคำหนึ่งแล้วหยิบออกมา จากนั้นก็ค่อย ๆ กินอย่างทะนุถนอมดวงตาของนางไร้เดียงสานัก เผยให้เห็นความสบายใจในการเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยหลิงอวี๋เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้า เด็กผู้นี้ดูแต่งตัวงดงาม แต่ขนมชิ้นหนึ่งที่คุณภาพมิเท่าเดิมทำให้นางกินอย่างมีความสุขเช่นนี้ ในวันปกติคงจะถูกนางกำนัลคนอื่นหรือเจ้าวังน้อยรังแกอยู่มิน้อยเลยกระมัง!“ปี้เอ๋อร์ ปกติเจ้ามิค่อยมีอาหารกินเพียงพอหรือ?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสบาย ๆ“พี่อาอวี๋ เรากินข้าวทั้งสามมื้อก็ได้ แต่ในทุกวันมีเรื่องที่ต้องทำมากเกินไป ของพวกนั้นอยู่มิได้จนถึงตอนเย็นหรอก!”ปี้เอ๋อร์กระซิบ “ตอนที่เจ้าวังอยู่ยังได้กินมากหน่อย แต่ในช่วงมิกี่เดือนที่ผ่านมาเจ้าวังมิได้อยู่ในวังเทพ ท่านอาหลินบอกว่าเสบียงมิเพียงพอ ให้เราประหยัดกันหน่อย! ดังนั้นพวกเราจึงกินมิอิ่ม!”“เจ้าวังไปไหนหรือ?”ดวงตาของหลิงอวี๋เป็นประกาย ปี้เอ๋อร์มิได้ระวังตน บางทีตนอาจจะสืบสถานการณ์เฉพาะของวังเทพจากปากข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1723

    แต่ยามนี้หานเหมยกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่หลิงอวี๋เป็นห่วงมิได้อยู่ในค่ายกลแล้วตอนหลิงอวี๋ตกลงไป หานเหมยอยากจะดึงนางไว้ แต่นางถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับไว้ก่อน​ จึงมิสามารถหลุดพ้นไปได้พลังนั้นโจมตีเข้ามา​ หานเหมยกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ถูกพลังนั้นพัดพากลิ้งตกเนินเขาไปทั้งสองล้มลงจิตสับสนวุ่นวาย จากนั้นก็กลิ้งไปยังมิทันถึงครึ่งทางก็สลบไปแล้วกระทั่งหานเหมยฟื้นขึ้นมา ก็นอนอยู่ในรถม้าคันหนึ่ง นางยังมิทันลืมตาก็ได้ยินจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคุยอยู่กับบุรุษผู้หนึ่ง“ศิษย์พี่ พวกเราขึ้นไปวังเทพมิได้หรือ? หลิงอวี๋จะต้องถูกคนในวังเทพจับตัวไปแล้วเป็นแน่ ที่ตัวนางมีหยกหล้าสุขาวดีอยู่ เจ้ามิอยากได้มันหรือ?”เฉียวเค่อยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หรุ่ยหรุ่ย เจ้ามิรู้ว่านั่นคือวังของผู้ใด ค่ายกลนั้นเรามิอาจทำลายได้ แม้ว่าจะทำลายได้ ก็มิอาจแย่งหลิงอวี๋กลับมาจากน้ำมือของคนในวังเทพได้!”หลิงอวี๋คือใคร?หานเหมยรู้สึกเพียงว่าชื่อนี้คุ้นเคยมาก!“นั่นคือวังของใคร? เหตุใดข้ามิเคยได้ยินมาก่อน!” จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยถามอย่างสงสัย“นั่นคือวังเทพของตระกูลหวงฝู่!”เฉียวเค่อเอ่ยอย่างอดทน “หวงฝู่หลินบรรพบุรุษของตระกูลหวงฝู่ หลงอี้จากตระกู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1724

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แทบรอมิไหวที่จะทำสิ่งนั้นกับเฉียวเค่อในรถม้าแต่นางมิกล้า ตอนนี้ตนไม่มีการบำเพ็ญตนใด ๆ มิสามารถควบคุมเฉียวเค่อได้เลยหากเรื่องเป็นไปจนถึงครึ่งทางแล้วเฉียวเค่อรู้ตัว เช่นนั้นเขาจะต้องสังหารตนแน่!หานเหมยได้ยินเสียงเย้าแหย่ของทั้งสองคนก็อายจนหน้าแดง หายใจลำบากโดยมิรู้ตัวเฉียวเค่อได้ยินก่อน จึงผลักจ้าวหรุ่ยหรุ่ยออก แล้วขยิบตาให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ได้สติทันที มองหานเหมยแล้วกลอกตาพลางเอ่ย “ศิษย์พี่ คืนนี้เราหาที่พักผ่อนกันเถิด ข้าต้องอาบน้ำ!”เฉียวเค่อเข้าใจทันที จึงเอ่ย “ด้านล่างวังเทพมีชนเผ่าหนึ่ง เราไปพักค้างคืนที่นั่นสักคืนได้!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีความคิดชั่วร้ายอยู่ในใจ ไหนเลยจะอยากไปสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านและให้คนมากมายเห็นตนอยู่กับเฉียวเค่อ!“มิต้องหรอก เจ้าบอกว่าเซียวหลินเทียนกับตระกูลเย่กำลังไล่ตามเจ้าอยู่มิใช่หรือ? ข้ามิอยากให้เจ้าตกอยู่ในอันตราย ซ่อนตัวไว้ก่อนเถิด!”“ให้คนรับใช้ของท่านไปซื้ออาหารมา แล้วเรานอนในป่ากัน!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพูดแล้วขยิบตาให้เฉียวเค่อเฉียวเค่อถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้หลงใหลจนมิเป็นตัวเอง เพื่อจะทำให้สา

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1857

    สองวันต่อมา ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และนอกจากสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่เล็กน้อยกับร่างกายที่ยังคงอ่อนแออยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วนางก็สามารถเดินไปเดินมาในห้องได้แล้วข้าหลวงเก๋อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋มากขึ้นไปอีก และให้ฮูหยินเก๋อจัดเตรียมเรือนให้สองพี่น้องตระกูลเจียงอาศัยอยู่โดยเฉพาะเลยข้าหลวงเก๋อเคยถามหลิงอวี๋แล้วว่า ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อแล้วพวกเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพกันได้เมื่อใดหลิงอวี๋ให้คำตอบมาว่า คงจะครึ่งเดือน เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มให้คนเตรียมตัวเรื่องการเดินทางทางด้านฮูหยินเก๋อ นางก็วางแผนไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานให้เก๋อฮุยซินกับคุณชายจ้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก่อนหน้านี้ตระกูลจ้าวก็กังวลว่า หากฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อตาย เก๋อฮุ่ยซินก็จะต้องไว้ทุกข์ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมจัดงานแต่งงานไว้ล่วงหน้าแล้วของกำนัลในงานแต่งงานทั้งหมดก็เตรียมเสร็จแล้ว และตระกูลเก๋อก็ตกลงกันได้ทันที ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานไว้ในอีกสิบวันต่อมาแต่เก๋อฮุ่ยซินกลับมิได้ยินดีแล้ว มิรู้ว่านางไปได้ยินมาจากใครว่าเก๋อฮุ่ยหนิงช่วยชีวิตค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1856

    หลิงอวี๋กำลังอยู่ดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ และคิดเรื่องที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพ แล้วนางก็เห็นนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“หมอเจียง น้องสาวของท่านกับคุณชายเฉียวเผชิญหน้ากับมือสังหาร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณหนูสามให้เชิญท่านไปดูเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบให้แม่นมหลี่คอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ แล้วนางก็รีบตามนางรับใช้ไปยังเรือนที่เก๋อฮุ่ยหนิงอาศัยอยู่ที่แขนของป้าวซวนเปื้อนไปด้วยเลือด และถูกพันแผลเอาไว้ลวก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ ดวงตาของนางก็แดงก่ำแล้วน้ำตาไหลออกมาทันทีก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหลบหนี จนมิรู้จักกลัวอันตรายใด ๆแต่ยามนี้เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ผู้เป็นดั่งพี่สาวของตน ป้าวซวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“น้องหญิง เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประคองป้าวซวนแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างกระวนกระวาย ป้าวซวนส่ายหัวพลางสะอื้นเอ่ย “ข้ามิเป็นไร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า เจ้าไปดูอาการเขาก่อนเถิด!”เก๋อฮุ่ยหนิงก็ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง แล้วตะโกนออกมา “หมอเจียง เจ้ารีบมาดูคุณชายเฉียวเร็วเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุด มิรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1855

    เฉียวไป๋ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นโต๊ะภายในห้องที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ลอยขึ้นไป แล้วโจมตีใส่มือสังหารตามแรงลมจากฝ่ามือของเฉียวไป๋...ทว่ามือสังหารที่ข้าหลวงเก๋อส่งมาล้วนมีวรยุทธ์แก่กล้าทั้งสิ้น มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวไป๋เลยมือสังหารคนหนึ่งฟันโต๊ะที่ปลิวมาหาตน แล้วพุ่งไปหาเฉียวไป๋อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า...”ป้าวซวนตะโกนขึ้นมา นางหวังให้แขกคนอื่นในโรงเตี๊ยมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่แขกที่ขี้ขลาดกลัวปัญหาเหล่านั้นหนีกันไปตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่ามีมือสังหารแทงที่ต้นขาของเฉียวไป๋อีกครั้ง ป้าวซวนก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตอนที่หลิงอวี๋เตรียมยาแก้พิษให้ตนเมื่อคืน นางได้ให้ผงยาหนึ่งห่อไว้กับตนด้วยหลิงอวี๋บอกว่าเป็นของดีที่ให้นางใช้หลบหนีเมื่อพบเจอพวกคนเลวป้าวซวนจึงมิคิดอะไรแล้ว นางหยิบมันออกมาแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นโปรยผงยาให้ลอยไปทางพวกมือสังหาร“มีพิษ!”มือสังหารที่พุ่งมาข้างหน้าชะงักไปทันที แล้วก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว ป้าวซวนจึงรีบคว้าเฉียวไป๋แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วมือส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status