แชร์

บทที่ 165

ผู้เขียน: กานเฟย
ชายาผิงหยางผูกคอตาย ฉินรั่วซือก็มิได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องรองเจ้ากรมวังแล้วเช่นกัน

ช่วงไม่กี่วันนี้นางจิตใจวุ่นวายอยู่เรือน หวั่นเหตุการณ์ที่ตนก่อในงานฉลองวังหลวงจะแกลบูรพาเรื่องเผย(1)

วันนี้ขณะนางกำลังวุ่นใจไม่เป็นสุข นางรับใช้ข้างกายของนาง เสี่ยวหลาน วิ่งร้อนรนเข้ามา

“เสี่ยวหลาน พี่จางเฮ่อกลับจวนรึยัง?”

สีหน้าเสี่ยวหลานขาวซีด โดยปิดประตูเสร็จถึงกล่าวคำ “คุณหนู ในที่สุดใต้เท้าจางก็กลับจวนวันนี้แล้วเจ้าค่ะ! เขาบอกว่าขันทีเซี่ยกำลังสอบสวนเรื่องที่นั่งและการตกแตกของกำนัลช่วงสองวันนี้เจ้าค่ะ!”

“อา...”

ฉินรั่วซือก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น ประหวั่นจนสีหน้าซีด สอบสวนจริงหรือ? แล้วนางจะยังปกปิดมันได้อยู่รึ?

“ทำอย่างไรดี? ว่าแต่ พี่จางเฮ่อพูดถึงข้าหรือไม่?”

ฉินรั่วซือครุ่งคิดถึงตรงนี้ พลางลุกขึ้นเร็วรี่คว้ามือเสี่ยวหลาน

เสี่ยวหลานเสียงสั่นเครือ “ใต้เท้าจางพูดว่าขันทีเซี่ยสืบสวนตามประสงค์ของไทเฮา พระชายาอ๋องอี้เป็นแขกที่ไทเฮาเชิญ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าไม่จัดที่นั่งให้นาง แถมยังทำของกำนัลที่นางถวายแตกด้วยเจ้าค่ะ!”

“ไทเฮาทรงพิโรธมาก! ใต้เท้าจางบอกว่า ครั้นขันทีเซี่ยสืบสวนเขาเขาก็ตอบแบบขอไป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Orawon Pot
ได้ดังใจอ่านแบบไม่ขาดตอน เยี่ยม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 166

    ฉินรั่วซือใจร้ายขึ้นมาทันที พลางเอ่ย “องค์หญิงหก องค์หญิงก็รู้ว่าก่อนที่ท่านพี่หม่อมฉันจะไปสนามรบนั้นก็ไปเรียนวรยุทธกับท่านอดีตเสนาบดีอยู่ตลอด เขามักจะไปที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอยู่บ่อยครั้ง!”“ไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งเข้า หลิงอวี๋คนชั้นต่ำนั่นก็ชอบท่านพี่ของหม่อมฉัน แล้วก็เกาะแกะท่านพี่หม่อมฉันมาตลอด อยากจะแต่งงานกับท่านพี่หม่อมฉัน!”เซียวทงเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ เป็นครั้งแรกที่นางได้ฟังเรื่องนี้หลิงอวี๋ วันนั้นที่งานฉลองวันพระราชสมภพไทเฮาก็พยายามทำตัวเด่น เซียวทงจดจำนางได้ดีเลย“ท่านพี่รำคาญที่ถูกนางเกาะแกเหลือทนเพคะ จึงไปเข้าร่วมกองทัพเพื่อที่จะสลัดนางออกให้ได้!”“แต่คนชั้นต่ำเยี่ยงหลิงอวี๋นั้น แต่งงานแล้วก็ยังมิวาย! พอรู้ว่าท่านพี่กลับมา ก็คิดวิธีจะเข้าใกล้ท่านพี่เพคะ!”ตอนที่ฉินรั่วซือมาก็คิดเอาไว้อย่างดีแล้ว เพื่อที่จะให้ฉินซานได้แต่งงานกับองค์หญิงหก นางจะพูดเรื่องที่ฉินซานยังเฝ้าคิดถึงหลิงอวี๋ไม่ได้เป็นอันขาดดังนั้น จึงทำได้เพียงแก้เป็นหลิงอวี๋เฝ้าคิดถึงฉินซานแทน“องค์หญิงก็รู้ว่าท่านพี่หม่อมฉันเป็นคนซื่อตรง ไม่มีทางไปมีอะไรกับคนชั้นต่ำเยี่ยงหลิงอวี๋ได้หรอกเพคะ!”“แต่ท่าน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 167

    เมื่อฉินรั่วซือเอ่ยถึงอนาคตของฉินซาน ความลังเลของเซียวทงก็หายไปในทันทีนางหลงรักฉินซานจากใจจริง จะไม่ช่วยเขาได้เยี่ยงไร จะปล่อยให้เรื่องของฉินรั่วซือกระทบต่ออนาคตของฉินซานได้หรือ!นางเอ่ยขึ้นมาทันที "เอาเถิด ข้าจะช่วยเจ้าเอง! ข้าจะไปเข้าเฝ้าไทเฮาแล้วรับผิดในเรื่องนี้!"“องค์หญิงหก… เรื่องนี้จะไม่ทำให้องค์หญิงลำบากจริง ๆ หรือเพคะ?”เมื่อฉินรั่วซือเห็นว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็แสดงความเป็นห่วงจอมปลอมทันทีเซียวทงเม้มริมฝีปาก ไม่อยากให้ฉินรั่วซือดูถูกตนเอง นางจึงเอ่ย“เรื่องเล็กน้อยเอง มีอะไรลำบากกันเล่า? ไทเฮาเป็นท่านย่าของข้า พระนางจะลงโทษข้าเหตุเพราะคนนอกได้รึ?”"ลุกขึ้นเถิด!" เซียวทงช่วยพยุงฉินรั่วซือให้ลุกขึ้นนางเกิดมาในราชวงศ์ แม้ว่าจะอ่อนประสบการณ์ แต่ก็ยังคงมีอุบายเฉกเช่นหญิงในวังอยู่ก่อนหน้านี้เซียวทงบอกเป็นนัยอยู่หลายครั้งแล้วเรื่องที่ตนเองชอบฉินซาน แต่ฉินรั่วซือไม่เคยมีท่าทีใด ๆ เลยวันนี้นางช่วยฉินรั่วซือแล้ว ฉินรั่วซือไม่มีทางที่จะเมินเฉยได้อีกต่อไปแล้ว!เซียวทงยิ้มพลางเอ่ย "อีกประเดี๋ยวประตูวังก็จะปิดแล้ว คืนนี้เจ้าไม่ต้องออกจากวัง! อยู่คุยกับข้าในวังแล้วกัน!"“ข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 168

    หลิงอวี๋ออกจากตำหนักอ๋องอี้ แล้วตรงไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวนางนำยาทาหลายหลอดมาให้เปียวจื่อ ถือเป็นของขวัญขอบคุณเหล่าพี่น้องของเปียวจื่อที่ช่วยกันช่วยชีวิตหลิงเยวี่ยเอาไว้ทันทีที่เห็นเปียวจื่อก็มีความสุขมาก ๆ เมื่อขอบคุณหลิงอวี๋แล้วก็รีบไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวทันทีหลิงอวี๋เองก็ไม่เกรงใจเกิ่งเสี่ยวหาว บอกไปตรง ๆ ว่าให้เกิ่งเสี่ยวหาวช่วยหาผู้ชายที่มีวรยุทธให้สักสองคนเกิ่งเสี่ยวหาวรับปากมันที ทั้งยังเอ่ยอย่างกระตือรือร้นด้วย“ท่านพี่ เช่นนั้นข้าให้นางรับใช้ที่รู้วรยุทธที่ข้าซื้อมาให้สองคนด้วยดีกว่า! เพื่อเลี่ยงไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก!”“เรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอันใด ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถิด!”หลิงอวี๋คิดว่านางจะออกจากตำหนักอ๋องอี้ได้ทุกเมื่อ จึงเอ่ย“เจ้าช่วยข้าเสาะหาบ้านก่อนก็ได้ รอให้ข้ากับเซียวหลินเทียนแยกทางกัน ตอนที่ข้าย้ายข้าวของออกจะได้มีที่อยู่!”เกิ่งเสี่ยวหาวได้ยินเรื่องที่สองสามีภรรยาตำหนักอ๋องอี้ไม่ลงรอยกันมานานแล้ว เขาเองก็รู้สึกเช่นกันว่าเซียวหลินเทียนไม่คู่ควรกับหลิงอวี๋ จึงพยักหน้ารับปากช่วยทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับแผนการผลิตยาทา หลิงอวี๋คิดเรื่องที่จะซ่อมแซมเรือนบุ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 169

    ในเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ในความสงบ ขณะที่ยังไม่ได้รู้แน่ถึงเจตนาของจ้าวซวน หลิงอวี๋ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องตำราไปก่อนห้องตำรามีขนาดใหญ่มาก มีตู้หนังสือเรียงเป็นแถวชิดกับกำแพง และมีโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่อยู่ที่ริมหน้าต่างข้าง ๆ โต๊ะหนังสือเป็นอ่างเซรามิกโบราณที่บรรจุภาพวาดไว้ห้องตำราเก็บกวาดสะอาดสะอ้าน มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีเพียงบนโต๊ะหนังสือที่มีหนังสือวางกองเต็มไปหมด“พระชายา ดูเถิดขอรับ ท่านอ๋องให้ข้าตรวจสอบสมุดบัญชีของพ่อบ้านฟั่น! แต่ข้าเป็นคนค่อนข้างจะสะเพร่า ไม่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ขอรับ!”จ้าวซวนถือสมุดบัญชีหลายเล่มเข้ามา พลางเอ่ยด้วยสีหน้าขมขื่น“นี่คือสมุดบัญชีในช่วงสองสามปีมานี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ของเรือนชั้นในเท่านั้น แต่มีความสำคัญยิ่ง ไม่สามารถขอให้คนนอกมาช่วยตรวจสอบได้ขอรับ!”“พระชายา โปรดช่วยดูหน่อยเถิดขอรับ ข้าจะจัดการกับสมุดบัญชีเหล่านี้เยี่ยงไรดีหรือขอรับ?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นเรื่องเล็กเช่นนี้ ก็คลายความระมัดระวังที่มีต่อจ้าวซวนลง แล้วรับมาดูทันทีที่เห็นก็อธิบายได้คำเดียวเลยว่า… เละเทะ!นางเรียนแพทย์ แต่หลักการบัญชีง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 170

    วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋เปลี่ยนชุดตามความเหมาะสม แล้วออกไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกายที่เตรียมไปให้ไทเฮาครั้งนี้เซียวหลินเทียนไม่ได้ออกไปคนเดียวเหมือนกับงานเลี้ยงในวังครั้งที่แล้ว เขากับลู่หนานมารออยู่ที่หน้าประตูตำหนักหลิงอวี๋พาหลิงซินออกมา โค้งคำนับให้เขาแล้วขึ้นรถไป“ประเดี๋ยวเข้าวังไปแล้ว เจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักเหยียนฝูนะ ข้าจะไปหาท่านพ่อ จะไปรับเจ้าที่ตำหนักเหยียนฝูช้าสักหน่อย!” เซียวหลินเทียนเอ่ย“เพคพ!” หลิงอวี๋พยักหน้าครั้งที่แล้วเข้าวังไปมีปัญหาเข้ามาไม่ขาดสาย ใจจริงหลิงอวี๋ไม่ชอบเข้าไปในวังเลย ดังนั้นจึงทำตามแผนการของเซียวหลินเทียน!กระทั่งเข้าไปในวัง ไป่ซุ่ยจากตำหนักไทเฮาก็รออยู่ที่ประตูแล้ว แล้วพาหลิงอวี๋และบ่าวไปเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเป็นไป่ซุ่ย ก็ยัดขวดเล็ก ๆ ไปให้นางอย่างเงียบ ๆ พลางกระซิบ“คราวที่แล้วข้าเห็นเจ้าเป็นสิว ยาทานี้เอาไว้ทาเมื่อเป็นสิวนะ ไม่มีทางทิ้งรอยสิวไว้ให้เห็นแน่นอน!”“ขอบคุณพระชายาเจ้าค่ะ!” ไป่ซุ่ยรับขวดเล็ก ๆ นั้นมาอย่างมีความสุข“พระชายา ไทเฮาเชิญพระชายามาวันนี้ เพราะว่าเมื่องานฉลองครั้งก่อนได้ละเลยพระชายาไป จึงจะชดเชยให้เจ้าค่ะ!”ไป่ซุ่ยเอ่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 171

    ที่ด้านหน้าตำหนักเหยียนฝู มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับริมทะเลสาบสวนดอกไม้ได้รับการดูแลอย่างดี ดอกไม้ที่งามสะพรั่งเต็มสวนทำให้ทั้งสวนดูมีชีวิตชีวาหลิงอวี๋สูดอากาศบริสุทธิ์ มองดอกไม้ที่เห็นแล้วชื่นตาชื่นใจเหล่านี้ ยืนรอเซียวหลินเทียนอยู่กับหลิงซินที่ริมทางของสวนดอกไม้ไป่ซุ่ยไปส่งพวกนาง แต่พวกนางยังไม่ออกไปจึงทำได้เพียงอยู่กับพวกนางไปด้วย และพูดคุยถึงวิธีการดูแลผิวพรรณกับหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าใด จู่ ๆ ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากที่ไกล ๆ เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นการยากที่พวกนางจะไม่สนใจเสียงนั้น“นังสารเลว ท่านหญิงให้เจ้าเก็บดอกไม้เพราะว่าท่านเห็นความสำคัญของเจ้า! เจ้ายังกล้าตำหนิท่านหญิงอีกหรือ!”“ทำให้ท่านหญิงน้อยตกใจ เจ้ามีกี่ชีวิตก็ไม่พอหรอกนะ! เหตุใดยังไม่รีบไปเก็บดอกไม้ให้ท่านหญิงอีกเล่า!”จากนั้นเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมา "ข้าอยากได้ดอกที่ใหญ่ที่สุดตรงกิ่งนั้น! ข้าอยากจะเอาไปถวายท่านย่าทวดไทเฮา!"“ท่านหญิง มันสูงเกินไปเพคะ! บ่าวปีนขึ้นไปมิได้เพคะ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองอย่างสงสัยด้านหน้าไม่ไกลนัก มีคนหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่ใต้ต้นด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 172

    "ลุกขึ้น!"หลิงอวี๋พุ่งเข้าไป เอื้อมมือไปดึงชุ่ยเอ๋อร์ขึ้นมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงตอนนั้นเองกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ถึงได้สังเกตเห็นว่าหลิงอวี๋มา“พระชายาอ๋องอี้ หมายความว่าเยี่ยงไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นสีหน้าของเซี่ยเฉียวก็เปลี่ยนไป นางขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม“ข้าก็อยากถามเจ้าอยู่เช่นกัน! เซี่ยเฉียว นางกำนัลผู้นี้ไปกระทำให้พวกเจ้าขุ่นเคืองด้วยเหตุอัรใด? นางเป็นห่วงพี่น้องของตนเจึงบอกให้ระวัง มันไม่ถูกหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ "เจ้าง้างมือออกไปตบนาง! หรือว่าฮองเฮาสอนเจ้าเช่นนี้หรือ?"หน้าของชุ่ยเอ๋อร์บวมขึ้นแล้ว เซี่ยเฉียวตบนางแรงมากเซี่ยเฉียวเหลือบมองชุ่ยเอ๋อร์อย่างดูถูก พลางเอ่ยอย่างเย็นชา "นางทำผิด ก็สมควรถูกตบ!"“พระชายาอ๋องอี้ ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักอ๋องอี้ ข้าขอแนะนำว่าพระชายาอย่าเข้ามายุ่งเลยจะดีกว่า!”ท่านหญิงจ่างหนิงมองหลิงอวี๋อย่างสงสัย แล้วดึงอาภรณ์ของเซี่ยเฉียวพลางเอ่ยถาม "พี่เซี่ยเฉียว ผู้หญิงจอมยุ่งผู้นี้คือผู้ใดกัน?"“นางหรือเจ้าคะ… นางก็คือพระชายาของลุงสี่ของท่านหญิงเจ้าค่ะ!”เซี่ยเฉียวก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของจ่างหนิงหลังจากฟังเสร็จท่านหญิงจ่างหนิงก็จ้องหลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 173

    “หญิงสารเลว! เจ้ากล้ามายุ่งเรื่องของข้า!”จ่างหนิงรู้สึกหงุดหงิดทันที นางฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นที่รักของพระชายาเว่ยเพราะว่านางเหมือนฮองเฮาเว่ยทุกประการ นางจึงได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฮองเฮาเว่ยอยู่ในวัง พวกนางกำนัล ขันทีและแม่นมที่ไม่กล้าทำให้ฮองเฮาเว่ยขุ่นเคืองเหล่านั้น ใครเห็นนาง ต่างก็ปฏิบัติต่อนางอย่างเคารพกันหมดไม่ใช่หรือ?สถานะของจ่างหนิง อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่องค์หญิง แต่ก็ชนะเหนือกว่าองค์หญิงแล้ว!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของตน ศักดิ์ศรีของนางถูกท้าทาย นางจึงโกรธขึ้นมา“พวกเจ้าลากนางออกไป ดึงนางลงแล้วทุบตีนางให้แรง ๆ ซะ!”ในเรือนพระชายาเว่ยลงโทษบ่าวที่ทำผิดเช่นนี้ ตอนนี้จ่างหนิงก็กำลังทำตามแบบเดียวกัน!นางไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวตนของพระชายาอ๋องอี้คืออะไร มีหรือที่นางอยากจะทุบตีก็ทำได้ทุกเมื่อ!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้ว่านางกำนัลในวังไม่กล้าลงมือทำอะไรกับหลิงอวี๋ แต่เขาก็ยังตกใจกับภาพนี้อยู่ดีขาทั้งสองของเขาพิการ หรือว่าพระชายาของเขาเองจะถูกทำให้อับอายเช่นนี้ในวังอย่างนั้นหรือ?เขาจำได้ว่าตอนนั้น หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต องค์ชาย

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1889

    ทุกคนต่างก็พูดคุยกันไป มีทุกเรื่องที่พูดคุยกัน หลิงอวี๋ฟังอยู่สักพักหนึ่งก็เห็นว่าไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นางจึงออกไปพร้อมกับผู้รอบรู้ทั้งสองหาอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะพบโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ยังมีผู้เข้าพักมิเต็ม แล้วหลิงอวี๋ก็เปิดห้องพักสองห้องผู้รอบรู้เข้าใจนิสัยของหลิงอวี๋ที่มิชอบความวุ่นวายดีอยู่แล้ว จึงมิได้ใส่ใจอะไรในช่วงนี้ผู้รอบรู้ได้ประโยชน์จากหลิงอวี๋ จึงสามารถมาเมืองหลวงแดนเทพได้โดยมิต้องกังวลเรื่องอาหารและอาภรณ์เขาจึงจะตอบแทนโดยการเชิญหลิงอวี๋ออกไปกินข้าวหลิงอวี๋รู้สึกกังวลใจ ทางหนึ่งคิดว่าการแก้แค้นนั้นหมดหวัง และอีกทางหนึ่งคือมิรู้ว่าเมืองหลวงแดนเทพใหญ่ถึงเพียงนี้ควรจะตามหาน้องสาวอย่างไรสำหรับผนึกบนร่างกายของตน หลิงอวี๋เองก็เคยพยายามที่จะเอาเข็มเงินที่ผนึกอยู่ใกล้กับตันเถียนของตนออกแต่ขณะที่นางใช้กริชผ่าบริเวณที่เข็มเงินและพยายามดึงมันออก มันกลับเจ็บปวดจนรู้สึกว่าเลือดในร่างกายพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง แล้วตอนนั้นก็สลบไปนำเข็มเงินออกมามิได้อีกทั้งยังต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้!สิ่งนี้ทำให้หลิงอวี๋เชื่อในเรื่องที่หวงฝู่หลินเคยบอก หากมิเข้าใจว่าจะดึงออกได้อย่างไร อาจจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1888

    หลิงอวี๋เห็นรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้าของฮูหยินเว่ยเช่นนั้น สุดท้ายนางจึงรับมาฮูหยินเว่ยสามารถดูแลลูกด้วยตัวคนเดียวมาหลายปีเช่นนี้ นางคงจะมีความสามารถพอสมควร หลิงอวี๋จะไปเมืองหลวงแดนเทพก็ต้องใช้เงิน ดังนั้นนางจึงรับมาใช้กรณีฉุกเฉินก่อน หากในภายหน้าฮูหยินเว่ยต้องการความช่วยเหลือ นางค่อยมอบให้เป็นการตอบแทนบุญคุณของฮูหยินเว่ย!หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ขึ้นฝั่งไป แล้วแทรกตัวผ่านฝูงชนที่เบียดเข้ามาเพื่อมารับญาติและสหายของพวกเขาหลังจากที่เบียดเสียดกันออกมาอย่างยากลำบาก ก็มิสามารถเช่ารถม้าได้ เนื่องจากรถม้าเหล่านี้ถูกจองไปหมดแล้ว“น้องอวี๋ เราไปพักที่โรงเตี๊ยมชั่วคราวสักคืนเถิด แล้ววันพรุ่งค่อยเข้าไปที่เมืองหลวงแดนเทพกัน!”ตรงข้ามท่าเรือมีหมู่บ้านขนาดใหญ่มากอยู่ ซึ่งล้วนสร้างเป็นโรงเตี๊ยมไปแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการเข้าพักของเหล่าพ่อค้าที่เดินทางกันทั่วทุกสารทิศหลิงอวี๋เห็นว่าอีกประเดี๋ยวฟ้าก็จะมืดแล้ว อีกทั้งเช่ารถม้ามิได้ด้วย ดังนั้นจึงทำได้เพียงทำตามที่ผู้รอบรู้บอกเท่านั้นกระทั่งเดินมาถึงหมู่บ้าน หลิงอวี๋ก็เห็นว่ากำแพงด้านนอกนั้นติดประกาศไว้เต็มไปหมด มีทั้งประกาศเสนอรางวัล ประกาศคนร้ายแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1887

    “หมออวี๋ ดวงตาของข้ามิเป็นอะไรมากแล้ว ทักษะการแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยมจริง ๆ! แต่เจ้ารับปากกับข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่?”ฮูหยินเว่ยเอ่ยเรื่องนี้กับหลิงอวี๋ตามลำพัง“เรื่องอันใดหรือ?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นฮูหยินเว่ยมีท่าทางจริงจัง จึงเอ่ยถามออกมา“เรื่องนี้อาจจะทำลายชื่อเสียงของเจ้า!”ฮูหยินเว่ยเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ข้าคิดว่าเมื่อไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว ก่อนที่เจ้าจะลงจากเรือ ให้เจ้าประกาศออกมาว่าเจ้าจนปัญญากับโรคตาของข้า และมิอาจรักษาตาของข้าให้หายดีได้!”“หมออวี๋ มิใช่ว่าข้ามิรู้จักบุญคุณแล้วมิอยากยอมรับเรื่องที่เจ้ารักษาตาของข้าจนหายได้!”“ทว่า ข้ามิอยากให้คนสารเลวผู้นั้นระมัดระวังต่อข้า คนตาบอดคนหนึ่งมิเป็นภัยคุกคามกับเขา บางทีเขาอาจจะลดความระมัดระวังที่มีต่อข้าลงก็ได้!”หลิงอวี๋เข้าใจแล้ว ฮูหยินเว่ยวางแผนที่จะใช่ตัวตนที่อ่อนแอเข้าหาแม่ทัพเว่ยตัวตนเช่นนี้ยังช่วยให้ฮูหยินเว่ยได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนทั่วไปอีกด้วย แล้วฮูหยินเว่ยก็ดำเนินการแก้แค้นแม่ทัพเว่ยไปทีละขั้นหลิงอวี๋มิใช่คนที่แสวงหาชื่อเสียงและเกียรติยศอยู่แล้ว หากความเงียบสามารถช่วยฮูหยินเว่ยได้ ก็ถือเสียว่าเป็นข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1886

    “ฮูหยินเว่ย ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรมี แต่ข้าก็ยิ่งรู้เช่นกันว่าการระวังผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรขาด!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ได้ยินเรื่องของฮูหยินเว่ยกับแม่ทัพเว่ยมาบ้าง ข้ากังวลว่าเว่ยเผิงและท่านจะใจดีมากเกินไป จนมิรู้ว่าจิตใจคนนั้นอันตราย หากไปที่จวนแม่ทัพแล้วพวกท่านอาจจะถูกวางแผนทำร้าย ข้าจึงสอนให้เว่ยเผิงรู้เรื่องยาพิษไว้ล่วงหน้า เป็นการป้องกันไว้!”ฮูหยินเว่ยหน้าซีดเผือด นางมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนภายนอกเอ่ยถึงพวกเราว่าอย่างไรบ้าง?”หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินเว่ยมิรู้จริง ๆ ว่าแม่ทัพเว่ยแต่งงานใหม่แล้ว หรือว่านางแกล้งทำเป็นมิรู้แต่สิ่งนี้คือเนื้อร้าย หากมิตัดเรื่องการหลอกตัวเองและผู้อื่นออกไป ก็รังแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่หลิงอวี๋จึงบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้รอบรู้เล่าให้ตนฟังออกไปอย่างมิลังเลฮูหยินเว่ยตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางดูแย่ยิ่ง นางก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ไหลลงมาบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ“ข้าคาดเดาไว้แล้ว… ข้าเดาไว้แล้วว่าเขาคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว!”“แต่ข้า… ข้าคิดว่าถึงเขาจะไร้คว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status