Share

บทที่ 1590

Author: กานเฟย
หากทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ยังมิถึงขั้นสูงสุด เช่นนั้นคราวนี้ก็พอจะมั่นใจว่าจะทำให้หลิงอวี๋มิสามารถพลิกกลับมาได้อีก

ตัวแปรก็คือทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋!

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิรู้ว่าหลิงอวี๋ร่ำเรียนมาจากที่ใด พวกขั้นตอนวิธีการรักษาของหลิงอวี๋ แม้แต่ในแดนปีศาจก็มิเคยได้ยิน

แม้ว่าจะมิสามารถมั่นใจได้มาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็จะต้องเดิมพันดูสักครั้ง

นางมีความมั่นใจเก้าในสิบที่เชื่อว่าหลิงอวี๋จะตรวจมิพบ คนธรรมดาเช่นนี้แม้ว่าจะฉลาดมากแค่ไหน แต่จะสามารถเทียบตนได้หรือ?

วิชาพิษของนางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแม้แต่อาจารย์ก็ยังชื่นชม!

ขณะที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ภายในห้องโถงที่ตั้งศพ

ว่านฉีซานเห็นว่าเซียวหลินเทียนไล่องค์ชายคังที่เอาก่อเรื่องออกไปแล้ว ก็รีบเอ่ย “เมื่อครู่กระหม่อมยังพูดมิจบ ดูภายนอกไทฮองไทเฮาเหมือนจะถูกวางยาพิษ แต่กระหม่อมกลับมิพบร่องรอยของยาพิษจากผิวและในปากของไทฮองไทเฮาเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

“หากจะตรวจสอบว่าหนูถูกพิษจากการกัดกินร่างของไทฮองไทเฮาจริงหรือไม่ ก็ยังต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีก!”

“ขอฝ่าบาททรงโปรดให้ส่งคนไปหาหนูมาให้กระหม่อมสักสองสามตัว กระหม่อมจะเก็บเลือดบางส่วนของไทฮองไท
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1591

    เซียวหลินเทียนวางไทฮองไทเฮาลงบนผ้าห่มข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง เขาเห็นใบหน้าที่ขาดวิ่นของไทฮองไทเฮาก็แสบจมูกและคุกเข่าลง“เสด็จย่า ขอท่านวางพระทัย กระหม่อมไม่มีทางให้ท่านสิ้นพระชนม์ไปอย่างมิยุติธรรมเช่นนี้แน่!”“หากหาพบว่าผู้ใดที่ทำร้ายท่าน กระหม่อมจะประหารมันเก้าชั่วโคตร!”หลิงอวี๋ได้ยินว่าเสียงของเซียวหลินเทียนผิดปกติจึงเดินเข้าไปประคองเขา “รอให้รู้สาเหตุการตายของไทฮองไทเฮาอย่างแน่ชัดก่อน แล้วหม่อมฉันจะช่วยแก้ไขใบหน้าของพระนาง ให้พระนางได้จากไปอย่างสง่างามเพคะ!”“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนจับมือของหลิงอวี๋ไว้แน่น รู้สึกว่าความโกรธที่พลุ่งพล่านในใจเขาถูกคำพูดของนางระงับไว้มิน้อยทั้งสองเดินกลับไป ว่านฉีซานกับใต้เท้าเถี่ยก็กำลังตรวจสอบใต้โลงศพอยู่แต่หลังจากย้ายผ้าห่มและผ้าไหมที่อยู่ด้านล่างออกก็มิพบว่ามีรูใด ๆหลิงอวี๋สังเกตเห็นว่า ที่ผ้าไหมเหล่านั้นก็ถูกพวกหนูกัดอย่างบ้าคลั่งเช่นกันหนูกินผ้าไหมด้วยหรือ?หลิงอวี๋รู้สึกว่ามันเหลือเชื่อ นางจึงหยิบผ้าไหมสองชิ้นแล้วโยนเข้าไปตรวจสอบในมิติในตอนที่ไม่มีใครสนใจบนผ้าไหมที่หยิบมามีกลิ่นจาง ๆ ทั้งยังมีเลือดอยู่ด้วย หลิงอวี๋จึงทำการวิเคราะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1592

    เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงและเหล่าขุนนางต่างกำลังมองว่านฉีซานจัดการกับพวกหนูกระทั่งป้อนเสร็จ หนูก็ถูกใส่เข้าไปในกรง และพวกเขาก็คอยเฝ้าดูปฏิกิริยาของหนูทางด้านหลิงอวี๋ได้ผลการทดลองจากในมิติแล้วการวิเคราะห์เลือดบนผ้าไหมเห็นได้ชัดว่ามิใช่เลือดคน แต่เป็นเลือดหนูซึ่งมีสารพิษที่มิรู้จักอยู่เลือดเหล่านั้นมิใช่ของไทฮองไทเฮา ตอนนี้หลิงอวี๋สนใจว่าหนูที่กินเลือดไทฮองไทเฮาไปจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนางฝืนอาการคลื่นไส้แล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อคอยสังเกตอยู่กับเซียวหลินเทียนช่วงเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป หนูที่กินเลือดของหนูตายก็เริ่มมีปฏิกิริยา แขนขาของพวกมันกระตุกและล้มลงทีละตัว เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้วก็ตายแต่หนูที่กินเลือดของไทฮองไทเฮากลับไม่มีปฏิกิริยาใด กระโดดไปมาอยู่ในกรงทุกคนรอไปอีกช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป หนูพวกนั้นก็ยังคงกระโดดไปมาว่านฉีซานจึงเอ่ย “ฝ่าบาท หนูกินเลือดของไทฮองไทเฮาไปแล้วยังมิตายพ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าไทฮองไทเฮามิได้ถูกวางยาพิษ!”องค์ชายคังถูกเซียวหลินเทียนไล่ออกไปแล้ว ผู้ตรวจการพันผู้ซื่อสัตย์ภักดีของเขาจึงเสี่ยงทำให้เซียวหลินเทียนขุ่นเคือง แล้วเอ่ยอย่างกล้าห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1593

    ว่านฉีซานจึงได้ตรวจสอบตรงกลางฝาโลง เสียงเคาะที่สะท้อนกลับต่างกันทำให้ทุกคนได้ยินถึงความผิดปกติเซียวหลินเทียนจึงให้จ้าวซวนเรียกพวกองครักษ์เข้ามา แล้วทุกคนก็ร่วมกันออกแรงพลิกฝาโลง ว่านฉีซานก็เคาะตรงจุดที่เคาะเมื่อครู่แล้วก็พบรูเล็ก ๆ รูหนึ่ง เมื่อออกแรงเคาะ ไม้ที่ปิดรูเล็ก ๆ อยู่ก็หลุดออกมารูนั้นมิใหญ่มิเล็ก ขนาดพอเหมาะกับการใส่หนูลงไปแต่รูนั้นเล็กเกินไป และมีรูปร่างเป็นกรวย สีของไม้ก็เหมือนกับรอบ ๆ อย่างสิ้นเชิง หากมิสังเกตก็ไม่มีใครพบว่าโลงศพที่หนาและหนักนี้มีรูหนึ่งเพิ่มขึ้นมา“เหตุใดจึงมีคนใจร้ายเช่นนี้ ไทฮองไทเฮาสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ยังมิปล่อยแม้แต่พระศพของพระนางไป!”ท่านอ๋องเฉิงตะคอกออกมาด้วยความโกรธ“ฮองเฮา แม้ว่าจะพิสูจน์แล้วว่ามีคนใส่หนูเข้าไปทำลายศพของไทฮองไทเฮา! แต่นี่ก็มิสามารถอธิบายได้ว่าไทฮองไทเฮามิได้ถูกวางยาพิษนะพ่ะย่ะค่ะ!”ผู้ตรวจการพันยังคงพยายามต่ออย่างมิยอมแพ้หลิงอวี๋จึงยิ้มเยาะใส่เขา “ข้าพิสูจน์ให้เห็นก่อนว่ามีคนจงใจใส่หนูเข้าไป ต่อไปก็จะบอกสาเหตุการตายของหนู!”หลิงอวี๋เดินไปที่กองผ้าไหมที่ดึงออกมาจากโลงศพ หยิบผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ยผ้าไหม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1594

    จุดแดงเล็กเช่นนี้อาจเกิดจากยุงกัดก็ได้ หากมิใช่ว่าหลิงอวี๋สังเกตอย่างละเอียดมาก ๆ ก็ไม่มีทางพบหลิงอวี๋ลูบอย่างเงียบ ๆ ผิวหนังใกล้กับจุดแดงเล็กนั้นแข็งไปแล้วนี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?หรือที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเข้าวังวันนั้นก็ใช้วิธีที่มิให้รู้ตัวทิ้งจุดแดงนี้ไว้ที่บนตัวของไทฮองไทเฮาแล้ว?หลิงอวี๋อยากใช้มีดผ่าตัดผ่าจุดแดงนี้เพื่อดูเนื้อเยื่อผิวหนังรอบ ๆ แต่มีผู้คนจับจ้องอยู่นางจึงมิสามารถลงมือได้คราก่อนที่จักรพรรดิอู่อันหัวใจวายจากไป หลิงอวี๋ก็มิสามารถผ่าศพเพื่อตรวจสาเหตุการตายของเขาให้แน่ชัดได้หรือครานี้ก็จะถูกสถานการณ์จำกัดไว้อีกแล้ว?หลิงอวี๋มิยอมแพ้ นางกวาดสายตามองไปตรงผิวหนังเทียมที่ยังใช้มิหมด หลิงอวี๋จึงรีบหยิบมีดขึ้นมาแล้วส่งสายตาไปให้หลิงซวนหลิงซวนกับหลิงอวี๋รู้ใจกันเป็นอย่างมากจึงรีบเข้าไปประคองไทฮองไทเฮาให้หลิงอวี๋เปลี่ยนผ้าห่มศพหลิงอวี๋อาศัยตอนที่พวกแม่นมมองมิเห็นข้างหลังใช้มีดตัดที่จุดแดงบนตัวไทฮองไทเฮานั้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ติดผิวหนังเทียมลงไปจากนั้นหลิงอวี๋ก็อาศัยตอนที่จัดผ้าห่อศพให้ไทฮองไทเฮาโยนผิวหนังที่ตัดออกมาเข้าไปในมิติความเร็วนี้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1595

    “เชิญท่านอ๋องเฉิงไต่สวนคดีต่อ!”เซียวหลินเทียนมิได้ให้ไท่เฟยเส้าลุกขึ้น ไท่เฟยเส้าจึงทำได้เพียงคุกเข่าอยู่เช่นนั้นท่านอ๋องเฉิงเองก็ทำเป็นมิเห็นแล้วเอ่ยต่อ “ที่ข้าบอกว่าไทฮองไทเฮามิได้ถูกพิษนั้นมีหลักฐาน ว่านฉีซาน หยิบหนูขึ้นมา!”ว่านฉีซานจึงยกพวกหนูที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมาท่านอ๋องเฉิงอธิบายให้เหล่าขุนนางฟังว่าได้ป้อนเลือดของไทฮองไทเฮาให้หนูเหล่านี้แล้วเมื่อเห็นพวกหนูยังมีชีวิตอยู่ดี แม้แต่ผู้ตรวจการพันเองก็หาคำพูดมาค้านมิได้ส่วนองค์ชายคังก็พะวงกับคำขู่ของเซียวหลินเทียนเมื่อครู่ มิกล้าค้านออกไปท่านอ๋องเฉิงให้ว่านฉีซานเอาผ้าไหมที่หนูกัดกินไปขึ้นมา รวมทั้งหนูกลุ่มหลังที่ได้ทำการป้อนน้ำแช่ผ้าไหมให้กินแล้วตายเพราะพิษด้วย“ความจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า ไทฮองไทเฮาสิ้นพระชนม์จากพระอาการพระทัยวายเฉียบพลัน และพระศพของพระนางถูกทำลาย ทั้งนี้เพราะมีคนจงใจเปลี่ยนเป็นผ้าไหมที่แช่น้ำหอมพิษกันหนูนี้ไว้ ทั้งยังเจาะฝาโลงใส่หนูเข้าไปด้วย!”ท่านอ๋องเฉิงพูดถึงตรงนี้ สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ไท่เฟยเส้าที่คุกเข่าอยู่“ข้าได้สอบสวนรองหัวหน้าที่จัดการเรื่องพระราชพิธีพระศพแล้ว ตามที่บอกมาก็คือเป็นผ้าไหมห่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1596

    องครักษ์พาตัวพวกแม่นมเข้ามา แม่นมเหล่านี้ก็เป็นแม่นมที่รับผิดชอบในการห่อศพให้ไทฮองไทเฮาเช่นกันหลิงอวี๋มองด้วยสายตาเย็นชา ก่อนหน้านี้ใต้เท้าเถี่ยได้ทำการสอบสวนพวกนางแล้ว แต่พวกแม่นมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามิได้ปล่อยหนูเข้าไปในโลงตอนนั้นยังมิพบว่าผ้าไหมมีปัญหา หลังจากที่พบแล้ว หลิงอวี๋มิสามารถเชื่อได้ว่าแม่นมเหล่านี้มิรู้เรื่อง!“พวกเจ้านำผ้าไหมไปให้พร้อมกับเถิงเซียง เห็นว่านางเปลี่ยนผ้าไหมหรือไม่?”ท่านอ๋องเฉิงเอ่ยเรื่องการลงโทษด้วยการถูกงูนับหมื่นกัดกินมาพูดอีกรอบ พลางเอ่ยอย่างไร้ความปรานี “ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง หากมิพูดความจริงแล้วข้าตรวจสอบออกมาได้ พวกเจ้าจะได้รับการทรมานโดยการถูกงูนับหมื่นกัดกินจนตายไปด้วยกันกับเถิงเซียง!”พวกแม่นมมองหน้ากัน แม้ว่าการถูกงูนับหมื่นกัดกันจะน่ากลัวมาก ๆ แต่ก็ยังยืนกรานเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “ท่านอ๋องเฉิง พวกเรามิเห็นเถิงเซียงเปลี่ยนผ้าไหมจริง ๆ เพคะ!”“ผ้าไหมเหล่านี้จะต้องเป็นคนของกรมวังที่เปลี่ยนแน่นอน!”“มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา!”ท่านอ๋องเฉิงเห็นคนเหล่านี้ดื้อรั้นเช่นนี้ก็ตะคอกอย่างทนมิไหว “ผ้าไหมเท่านั้น เถิงเซียงเพียงผู้เดียวไม่ม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1597

    ส่วนหนูกลุ่มหลังที่ว่านฉีซานปล่อยเข้ามา ทันทีที่ได้รับอิสระก็รีบพุ่งตรงไปที่เถิงเซียงกับพวกแม่นมทันทีดูเหมือนว่าบนร่างกายของเถิงเซียงกับเหล่าแม่นมจะมีจุดที่พวกมันสนใจ หนูพวกนั้นกระโดดไปบนตัวของเถิงเซียงกับพวกแม่นมทันทีพวกนางมีหรือจะเคยเจอเรื่องเช่นนี้จึงตกใจจนกรีดร้องออกมาทันทีในความตกใจและผลักกันไปมา เถิงเซียงกับแม่นมสองคนก็ล้มลงไปที่พื้นแต่หนูมิได้สนใจ พวกมันกัดกินที่เสื้อผ้า ใบหน้าและผิวหนังของพวกนางอย่างบ้าคลั่ง...เถิงเซียงกับแม่นมเหล่านั้นล้วนถูกหนูกัดจนกรีดร้องออกภาพนี้มิเพียงแต่ทำให้เหล่าขุนนางตกตะลึง แม้แต่ไท่เฟยเส้ากับเหล่าสตรีทั้งหลายก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ต่างก็ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวศพของไทฮองไทเฮาก็ถูกกัดกินเช่นนี้!เซียวหลินเทียนโกรธมาก พยายามที่จะระงับความโกรธของตนไว้ เขากลัวว่าจะควบคุมตนเองมิอยู่แล้วผลักไท่เฟยเส้าเข้าไปในกรงให้นางได้สัมผัสความเจ็บปวดของการถูกหนูกัดกินดู“ช่วยด้วย!”เถิงเซียงกับพวกแม่นมรีบมิไหวต่างก็ร้องออกมาองค์ชายคังขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าจะทนมองพวกเถิงเซียงถูกทรมานเช่นนี้มิค่อยไหวนักผู้ตรวจการพันเองก็ทนมิไหวจึงเอ่ยถาม “ท่านอ๋องเฉิง นี่ท่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1598

    องค์ชายคังเห็นว่าเซียวหลินเทียนมุ่งเป้าไปที่ไท่เฟยเส้าเช่นนี้ก็ทนมิได้ จึงก้าวเข้าไปพลางเอ่ย “ฝ่าบาท ผู้ใดก็มิอาจหลีกเลี่ยงมิให้ข้างกายมีคนมิดี การที่ไท่เฟยเส้ามิรู้เรื่องเหล่านี้ที่เถิงเซียงทำอยู่เบื้องหลังของพระนางก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เช่นนี้ก็หมายความว่าคนในตำหนักไท่เฟยเส้าล้วนน่าสงสัยมิใช่หรือ!”เซียวหลินเทียนมองเขา กำลังรอให้เขาเอ่ยปากอยู่เลย!“องค์ชายคัง ข้ายังพูดมิจบ! เมื่อครู่ท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบความจริงเรื่องการตายของหนูแล้ว! แต่ยังมีคนที่ทำลายฝาโลงแล้วใส่หนูเข้าไปที่เป็นคนร้ายเช่นกัน!”“และคนที่จัดการเรื่องการเฝ้าศพเมื่อคืนก็คือคนที่ไท่เฟยเส้าส่งมา ละเลยเถิงเซียงไปคนหนึ่งเรียกว่าละเลย แต่ต่อมาก็มีการกระทำผิดทำลายฝาโลงอยู่ใต้จมูกอีก นี่ยังใช้คำว่าละเลยมาอธิบายได้อีกหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกอย่างโมโห “ไทฮองไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการพระทัยวายเฉียบพลันอยู่ชัด ๆ ก็ยังมีคนต้องการให้ขุนนางเข้าใจผิดว่าพระนางถูกวางยาพิษ อีกทั้งยังประสงค์ที่จะระบุมาที่ข้ากับฮองเฮาอีก หากนี่มิใช่เจตนาร้ายแล้วจะเป็นสิ่งใดเล่า?”“ตอนนี้ท่านอ๋องเฉิงได้ตรวจสอบสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของไทฮองไทเฮาแน่ช

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1946

    บัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าและหอโอสถซ่างกู่ รวมถึงคนที่มาเฝ้าดูจำนวนมากนั้นต่างก็เข้าใจพื้นฐานของเครื่องยาสมุนไพร หลิงอวี๋จึงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา“คุณหนูหยางของพวกเราน่าจะชอบยาระบายและยาที่ทำให้เกิดอาการคันเป็นพิเศษนะ นางจึงใส่ยาเหล่านี้ลงไปในยาพิษของนางด้วย!”หา!เมื่อเหลยเหวินและคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็ตกตะลึงกันไปคุณหนูบางคนถอยหลังไปสองสามก้าวโดยมิรู้ตัว นี่ก็หมายความว่าหากพิษที่หลิงอวี๋ออกฤทธิ์ มันจะต้องไหลพรวดออกมาแน่ ๆเย่หรงมองหยางหงหนิงอย่างรังเกียจ และกำหมัดแน่นเสี่ยวชีพูดถูกจริง ๆ นิสัยในการปรุงยาพิษของหยางหงหนิงนั้นมิสามารถเปิดเผยต่อหน้าทุกคนได้จริง ๆฉินซานยืนอยู่ข้างเย่หรง เมื่อครู่เย่หรงเพิ่งจะเล่าเรื่องของเขากับหยางหงหนิงให้ฟังอยู่คร่าว ๆเมื่อฉินซานได้ยินหลิงอวี๋บอกว่า หยางหงหนิงใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในยาพิษ เขาก็มองไปทางเย่หรงด้วยสีหน้าเห็นใจ จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเหตุใดเจ้าจึงมิชอบนาง!”“สตรีประเภทนี้ หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้าก็มิชอบเช่นกัน!”“นี่คือการแข่งขัน มิใช่การต่อสู้เอาเป็นเอาตายกันจริง ๆ เหตุใดต้องทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้ด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1945

    หลิงอวี๋มองปราดเดียวก็อ่านความคิดของหยางหงหนิงออกแล้ว นางจึงยิ้มมุมปาก “วิธีการเล่นเช่นนี้ก็สดใหม่ดี เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอกเถิด!”ทั้งสองจึงแลกเปลี่ยนยาพิษกันหยางหงหนิงหยิบผงยาใส่ปากอย่างมิใส่ใจ แล้วชิมส่วนผสมที่อยู่ในนั้น จากนั้นก็มองไปทางหลิงอวี๋และยิ้มอย่างดูถูก“ยาพิษง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าก็กล้านำมาใช้ในการแข่งขันหรือ สิงอวี๋ เจ้ารอไสหัวไปจากเมืองหลวงแดนเทพได้เลย!”หลิงอวี๋ก็ยิ้มบาง ๆ “พูดประโยคนี้ในตอนนี้มันยังเร็วเกินไป อีกสักครึ่งชั่วยามค่อยพูดเถิด!”“การเอาชนะเจ้า ข้ามิใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยามหรอก แค่สิบห้านาทีก็พอแล้ว!”หยางหงหนิงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งทุกคนต่างมองผงยาพิษในมือของทั้งสองคน และอยากรู้ว่าทั้งสองคนปรุงยาพิษชนิดใดเอาไว้“เข้าไปเลือกเครื่องยาสมุนไพร!”หยางหงหนิงรีบชิงเข้าไปก่อน เมื่อเห็นขวดยาก็นำมาใส่ลงในตะกร้าทันทีหลิงอวี๋มองดูก็รู้ทันทีว่าผงยาที่นางใส่นั้นคือเครื่องยาสมุนไพรของยาแก้พิษที่นางทำไว้หยางหงหนิงต้องการจะแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรที่หลิงอวี๋ต้องนำไปปรุงยาแก้พิษ เพื่อทำให้หลิงอวี๋มิสามารถปรุงยาแก้พิษได้หลิงอวี๋ส่ายหัวอย่างหมดคำพูด แล้วหิ้วตะก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1944

    คำถามนี้ของหลิงอวี๋ทำเอาจงเจิ้งเฟยพูดมิออกไปทันทีทั้งสองเส้นทางล้วนเป็นทางตันทั้งสิ้น!หลิงอวี๋ใช้คำเปรียบเทียบนี้เพื่อบอกจงเจิ้งเฟยว่า มิว่านางจะยั่วยุหยางหงหนิงหรือไม่ หยางหงหนิงก็มิยอมปล่อยนางไปอยู่ดีในเมื่อล้วนเป็นทางตันทั้งหมด แล้วไฉนมิหยิบไม้ขึ้นมาสู้สักครั้งเล่า?หากวิชาพิษของหลิงอวี๋สามารถเอาชนะหยางหงหนิงได้ เช่นนั้นจะทำให้หยางหงหนิงรวมถึงเหมียวหยางที่คอยรังแกหลิงอวี๋อยู่เสมอนั้นรู้สึกหวาดกลัวได้!จะเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งกว่าตนอย่างไรก็ล้วนต้องก้มหัวให้!หากทักษะด้อยกว่าผู้อื่น เช่นนั้นตายไปก็ยังดีกว่าตายเพราะถูกข่มเหงรังแก เป็นการตายอย่างกล้าหาญ!จงเจิ้งเฟยเข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกแล้วและนางก็มองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชมความเด็ดเดี่ยวและความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หญิงนั้นดูเป็นบุรุษยิ่งกว่าบุรุษเสียอีก!จงเจิ้งเฟยรู้สึกว่า นี่ต่างหากคือจุดเด่นภายใต้รูปลักษณ์ธรรมดาของศิษย์พี่หญิง นางเป็นสตรีก็ยังเคารพหลิงอวี๋ เช่นนั้นขอเพียงมิใช่บุรุษที่หยาบคายเช่นเหมียวหยาง จะมีใครบ้างที่มิชอบสตรีเช่นหลิงอวี๋?“หงหนิงออกมาแล้ว! สิงอวี๋ ถึงตาเจ้าแล้ว หาก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1943

    “ได้ ตกลงตามนี้!”หลิงอวี๋จ้องหยางหงหนิงอย่างกดดัน “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ ถึงเวลานั้นหากแพ้ เจ้าก็อย่าได้พูดอะไรที่มิเหมาะสมออกมา!”หยางหงหนิงเอ่ยอย่างแน่วแน่ “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ! หลงอิง พวกเราขอยืมห้องปรุงโอสถของเจ้าสักหน่อยนะ!"หลงอิงเป็นเจ้าภาพในวันนี้ นางมิชอบมาก ๆ ที่มีคนมาสร้างปัญหาขึ้นในงานเลี้ยงชมบุปผาของตน ทำให้รายการที่ตนเตรียมไว้มิได้นำออกมาแต่หยางหงหนิงพูดไปแล้ว ดังนั้นต่อให้นางมิชอบก็มิอาจปฏิเสธได้“เสี่ยวอวี๋ มิต้องพนันแล้วได้หรือไม่ เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของหงหนิงหรอก! เจ้ายอมแพ้ แล้วขอโทษหงหนิงเสียเถิด!”หลงอิงดูท่าทางเป็นห่วงหลิงอวี๋“คุณหนูหลง ข้ามิสามารถขอโทษคนที่ใส่ร้ายข้าในเรื่องที่ข้ามิได้ทำได้หรอก!”หลิงอวี๋รู้ว่าฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวอยู่ด้วย และตามหลักแล้วตนมิควรทำตัวโดดเด่นให้เป็นจุดสนใจแต่นางอดกลั้นความโกรธไว้มากแล้ว นางต้องระบายออกมาเหมียวหยางอาศัยอำนาจมาทำลายบ้านของตน และตอนนี้หยางหงหนิงก็อาศัยอำนาจกล้ามาใส่ร้ายตนโดยไม่มีหลักฐานอีก หากวันนี้ตนทนเงียบมิพูดอะไร เช่นนั้นต่อไปก็จะมีข่าวลือที่ยิ่งกว่านี้แพร่กระจายออกไปแม้ว่าหลิงอวี๋จะอยากเก็บตัวอยู่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1941

    หยางหงหนิงยิ่งโวยวายก็ยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ และดึงดูดสายตาของคุณหนูคุณชายที่ยังอยู่รอบ ๆ มิได้แยกตัวออกไปให้พากันหันมามอง"ข้าบอกว่าเจ้าต่ำต้อย แต่เจ้าก็ยังบอกว่ามิต่ำต้อย! ทุกคนมาดูอันดับหนึ่งของหอปรุงโอสถผู้นี้เถิด นางคือคนต่ำต้อยไร้ยางอาย!”“นางล่อลวงเย่หรงไปดื่มสุรา และมิรู้ว่านางใช้กลอุบายอะไร จึงทำให้เย่หรงสนับสนุนนาง!”“สิงอวี๋ ข้าขอบอกไว้เลยว่า คนต่ำต้อยเช่นเจ้า ตระกูลเย่ไม่มีทางให้เจ้าเข้าไปเป็นอันขาด และถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้เจ้าเข้าไป เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น!”เมื่อคุณหนูเหล่านั้นรวมถึงบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าได้ยินเช่นนั้น ก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา“ข้าก็บอกแล้วว่านางแต่งตัวธรรมดาเช่นนั้น แล้วจะมีเงินไปศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงได้อย่างไร ที่แท้นางก็อาศัยการหลอกลวงเงินของบุรุษ!”“แต่นางก็มิได้งามอะไรนักนี่ แล้วเย่หรงจะชอบนางได้หรือ?”“เจ้ามิรู้หรอก บุรุษบางคนมิได้สนใจที่หน้าตา แต่สนใจที่รูปร่าง บางทีเย่หรงอาจจะสบายใจกับการปรนนิบัติของสตรีผู้นี้ก็เป็นได้!”คำพูดนี้เหมียวหยางเป็นคนพูด เขาพูดไปพลางยิ้มอย่างหยาบคาย ทั้งยังขยิบตาอย่างคลุมเครือให้กับพวกคุณชายที่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1940

    จงเจิ้งเฟยส่ายหัว “ข้าเองก็มิได้รู้แน่ชัดนัก ข้าแค่ฟังมาจากคนอื่นเท่านั้น เพราะพวกนางบอกกันว่าฉินตะวันตกเป็นคนละดินแดนกับพวกเรา!”“ข้าได้ยินมาเพียงว่า ทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้ว่ากันว่า ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อท้องใหญ่ราวกับกลอง และไม่มียาใดที่สามารถรักษาได้ แต่หลิงอวี๋เป็นคนผ่าท้องของนางแล้วนำถุงน้ำที่อยู่ในท้องของนางออกมา เช่นนี้จึงรักษาโรคประหลาดของนางหายขาดได้!”“ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อได้เดินทางติดตามข้าหลวงเก๋อมาที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปมิได้ผิดปกติใด ๆ นี่คือข้อเท็จจริง!”เหลยเหวินฟังแล้วก็รู้สึกสับสน “ดูเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋ก็มินับว่าเป็นคนเลว แต่เหตุใดนางจึงสังหารเฉียวเค่อเล่า!”หลิงอวี๋ฟังอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ แล้วนางก็ยิ่งอยากรู้อดีตของตนมากขึ้นไปอีกตนเป็นคนแบบใดกันแน่?เหตุใดจึงมีศัตรูมากถึงเพียงนี้?ดูท่าทางจะต้องไปถามผู้รอบรู้เสียหน่อยแล้ว บางทีการรู้เรื่องในอดีตของตน อาจจะทำให้นางฟื้นความทรงจำที่หายไปได้เร็วขึ้นก็ได้ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ ก็เห็นหยางหงหนิงพาสหายอีกสองคนเดินเข้ามา“เฟยเฟย พวกเจ้าค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1939

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเย่หรง ก็อดมิได้ที่จะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยดูภายนอกเย่หรงกำลังบอกว่าตนเป็นคนขี้ขลาด แต่แท้จริงแล้วหลิงอวี๋กลับฟังออกว่าเย่หรงกำลังทำลายความเชื่อมั่นของฮูหยินเฉียวอยู่เขาใช้คำพูดของฮูหยินเฉียวมาเตือนผู้ที่คิดจะให้เบาะแสเพื่อเงิน ให้หยุดอยู่ที่ตรงนี้ลองคิดดูเถิด ฮูหยินเฉียวบอกว่าหลิงอวี๋เป็นคนโหดเหี้ยมไร้ความปรานี และหลิงอวี๋ก็สามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ หากใครจะเปิดโปงหลิงอวี๋ เช่นนั้นหลิงอวี๋จะทนเก็บความโกรธเอาไว้มิแก้แค้นได้หรือ?เป็นดังที่คาด คำพูดนี้ของเย่หรงทำให้คนจำนวนหนึ่งมิกล้าทำต่อไปแล้ววรยุทธ์ของเย่หรงมิได้อ่อนแอ เขาเองยังบอกว่ามิสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ และสู้หลิงอวี๋มิได้ด้วยเช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นตนเอง ตนจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้หรือ?คนที่โหดเหี้ยมไร้ความปรานีเช่นหลิงอวี๋นี้ อย่าได้ไปยั่วยุนางจะเป็นการดีกว่าแม้ว่าเงินห้าล้านจะน่าดึงดูดใจ ทว่าหากชีวิตหาไม่แล้ว ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!มุมปากของเซียวหลินเทียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน เขาก็ฟังออกถึงความหมายของเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status