Share

บทที่ 1498

Author: กานเฟย
เซียวหลินเทียนคิดเช่นนี้ก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป

“เหตุใดมิดีดแล้ว ทักษะฉินของเจ้ายอดเยี่ยมมาก ตามหลักแล้วมิน่าจะผิดพลาด...”

สวีเนี่ยนจือได้ยินเสียงก็แอบดีใจ ในที่สุดนางก็ก้าวไปขั้นหนึ่งแล้ว!

องค์จักรพรรดิมิได้เห็นตนแล้วหันหลังหนีไป ทั้งยังก้าวเข้ามาพูดคุย นั่นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าองค์จักรพรรดิมิได้รังเกียจตน

แต่สวีเนี่ยนจือกลับมิได้งุนงงไปเพราะเหตุนี้ นางจึงแสร้งหันไปอย่างตกใจ เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจึงเรียกออกมาอย่างตกใจ “ฝ่าบาท...”

“ฝ่าบาทขอประทานอภัยเพคะ เนี่ยนจือรบกวนฝ่าบาทหรือไม่เพคะ!”

สวีเนี่ยนจือรีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่าทำความเคารพ

“มิต้องพิธีรีตอง ข้ารบกวนเจ้าหรือไม่?”

เซียวหลินเทียนประคองนางเล็กน้อย อาศัยโคมมังกรสีเข้มที่แขวนอยู่ในศาลา เซียวหลินเทียนจึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่าบนใบหน้างดงามของสตรีเต็มไปด้วยรอยน้ำตา

เขาตะลึงไปเล็กน้อย นี่คือสาเหตุที่กุ้ยเหรินสวีดีดฉินผิดอยู่ตลอดสินะ?

เมื่อนึกถึงเสียงฉินที่ทั้งน่าสงสารและซาบซึ้ง ทั้งยังมีความมิพอใจ เซียวหลินเทียนขึงเอ่ยถามออกไป “เจ้ากำลังนึกถึงใครหรือ?”

“กราบทูลฝ่าบาท เนี่ยนจือพ่อแม่สิ้นแล้วทั้งคู่ เมื่อครู่แค่นึกถึงพวกท่านเพคะ..
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
แม่หม่อม กะน้องเกม่อน
เหี้ยล้วนๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1499

    เซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว หลิงอวี๋มิยอมบอกความลับของนางกับตนตอนนี้ สวีเนี่ยนจือก็มิยอมบอกอดีตของนางกับตน?“ฝ่าบาท ทุกคนล้วนมีเรื่องเสียใจของตนเพคะ!”สวีเนี่ยนจือสังเกตสีหน้าท่าทางแล้วเอ่ยทันที “เนี่ยนจือเข้าวังมาหลังจากที่ท่านพ่อท่านแม่จากไปทั้งคู่ ทุกครั้งที่เอ่ยถึงอดีตจึงเจ็บปวดจนมิอยากอยู่แล้วเพคะ!”“เนี่ยนจือแค่มิอยากพูดออกมาแล้วทำให้ฝ่าบาทเศร้าใจไปด้วย! หากฝ่าบาทอยากให้เนี่ยนจือพูด เนี่ยนจือก็จะพูดเพคะ!”“มิต้องแล้ว!”ความโกรธของเซียวหลินเทียนเบาบางลงไปมาก สตรีจำนวนมากเข้าวังมาล้วนถูกขาย หรือไม่ก็ไร้ที่พึ่งเช่นสวีเนี่ยนจือสวีเนี่ยนจือมิอยากเอ่ยถึงอดีตมิใช่ว่าตั้งใจอยากปิดบัง แต่มิอยากเอ่ยเรื่องเสียใจที่บิดามารดาเสียชีวิตทั้งคู่!สิ่งนี้ต่างจากการที่หลิงอวี๋ปิดบังต่อตน!“ดื่มสุรา!”เซียวหลินเทียนรินให้สวีเนี่ยนจืออีกจอกสวีเนี่ยนจือรับมาพลางเอ่ยอย่างอาย ๆ “ฝ่าบาท เนี่ยนจือดื่มมิเก่ง ดื่มจอกนี้แล้วมิสามารถดื่มต่อได้อีก! ฝ่าบาทเพคะ ดื่มมากทำร้ายร่างกาย ท่านเองก็ควรพอแล้วเพคะ!”เซียวหลินเทียนมองสวีเนี่ยนจือใช้แขนเสื้อปิดหน้าแล้วดื่มไปครึ่งหนึ่งจากนั้นก็วางจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1500

    “จะเกิดผลอะไรขึ้น?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “ข้าเรียกฮองเฮาของตนมาดูแลรินสุรา เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว หรือว่าหลิงอวี๋นางยังกล้ามิเชื่อฟัง?”ท่านจินต้ายิ้มขมขื่น “ฝ่าบาท… ฮองเฮาของท่านผู้นี้… ท่านเรียกกุ้ยเหรินสวีมาดื่มสุราแล้ว ยังจะเรียกฮองเฮามาอีก ท่านคิดจะทำอะไรกัน?”“ให้ฮองเฮาเห็นว่าท่านมิได้ขาดสตรีหรือ? หรือว่าจะให้ฮองเฮารับใช้พวกท่านดื่มสุรา?”ท่านจินต้านึกถึงว่าหากตนมามิทันแล้วพระราชโองการของเซียวหลินเทียนไปถึงพระตำหนักคุนหนิง เช่นนั้นความสัมพันธ์ของเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ก็คงไม่มีอีกต่อไป!“ฮองเฮาเป็นสตรีที่หยิ่งในศักดิ์ศรี พระนางจะคิดว่าท่านใช้กุ้ยเหรินสวีมาทำให้พระนางอับอาย! ฝ่าบาท ท่านทรงคิดให้ดี ๆ เถิดพ่ะย่ะค่ะโดยนิสัยของฮองเฮาแล้ว ท่านทำเรื่องเช่นนี้แล้วพระนางจะให้อภัยท่านหรือ?”เซียวหลินเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโกรธเคือง “ข้ามิต้องการให้นางอภัย เป็นนางที่ทำผิดต่อข้า ข้ามิได้ทำเรื่องที่ผิดต่อนาง!”“โธ่ ฝ่าบาท!”ท่านจินต้าปวดหัวแล้ว สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันแล้วเหตุใดนิสัยราวกับเด็กกันหมด!“ฝ่าบาท กระหม่อมขอถามท่าน ท่านอยากจะแต่งตั้งฮองเฮาใหม่หรื

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1501

    “เช่นนั้นยาที่ฮองเฮาสกัดออกมานั้นให้ท่าน?”ท่านจินต้าเอ่ยถามอีกครั้งเซียวหลินเทียนนึกถึงยาห้าเม็ดที่หลิงอวี๋สกัดออกมา นางให้ตนทั้งหมด จากนั้นก็พยักหน้าท่านจินต้าจึงเอ่ยยิ้ม ๆ “ฮองเฮาทรงมีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม แต่ไหนแต่ไรมาเมื่อท่านหรือพวกเราร้องขอสิ่งใดพระนางก็ให้ตามคำขอเสมอ! ยาที่พระนางสกัดออกมาก็มอบให้ท่านโดยมิปิดบังแม้แต่น้อย!”“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า ใต้หล้านี้หากคิดจะหาผู้ใดที่จิตใจตั้งมั่นต่อท่านดังเช่นฮองเฮา ก็หามีไม่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่เหตุใดท่านยังทรงกังวลที่พระนางปิดบังท่านเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”“มิว่าทักษะการแพทย์หรือยาของพระนางจะมาได้อย่างไร ขอเพียงท่านเชื่อว่าพระนางมิได้มีเจตนาร้ายต่อท่านก็พอแล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนได้ฟังเช่นนี้ก็ค่อนข้างละอาย “ท่านจินต้า ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยามิควรจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือ? ข้ามีเรื่องใดก็ล้วนบอกนางทั้งหมด เหตุใดนางมิสามารถเปิดเผยตรงไปตรงมากับข้าได้!”“เพราะว่าฮองเฮามิได้มีความรู้สึกปลอดภัยกับท่านพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าเอ่ยอย่างตรงประเด็น “ฝ่าบาท ในตอนแรกท่านเป็นอ๋องอี้ก็สามารถจะทุบตีเข่นฆ่านางได้แล้ว!”“ตอนนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1502

    เซียวหลินเทียนคุยเรื่องที่แต่ละแคว้นจะมาประชุมกับท่านจินต้าอยู่นาน จนลืมสวีเนี่ยนจือไปเสียสิ้นสวีเนี่ยนจือผู้น่าสงสารยังคงรออยู่ที่ห้องอาหารอย่างขมขื่น นางคิดว่าหากเซียวหลินเทียนกลับมาดื่มอีกสักสองสามจอกก็จะทำสำเร็จแล้วไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะไปแล้วมิกลับมาอีก สุดท้ายลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว จึงให้องครักษ์มาบอกให้นางกลับไปก่อนอย่างเงียบ ๆสวีเนี่ยนจือโกรธอยู่สักพักหนึ่งก็สงบลง วันนี้มิถือว่านางล้มเหลว นางได้ทิ้งความประทับใจไว้ให้เซียวหลินเทียนแล้วต่อไปค่อยหาโอกาสแล้วกัน!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะอยากปิดบังเรื่องที่ดื่มเหล้ากับสวีเนี่ยนจือ แต่ทางห้องอาหารก็ยังมีคนนำข่าวไปบอกหลิงซวนอยู่ดีคนของห้องอาหารบอกหลิงซวนกระทั่งเรื่องที่เซียวหลินเทียนให้ขันทีน้อยเซี่ยไปเรียกหลิงอวี๋มารินเหล้าหลิงซวนได้ยินเรื่องนี้ก็โกรธมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนมิคู่ควรกับการที่หลิงอวี๋ดีต่อเขา นี่ทะเลาะกับเจ้านายตนเพียงมิกี่วันก็ไปหาคนอื่นแล้ว!แม้ว่าจะมิได้ไปจนถึงขั้นสุดท้าย แต่สำหรับหลิงซวน นี่ก็นับว่าเป็นการทรยศหลิงอวี๋แล้วอีกทั้งสิ่งที่เกินไปก็คือเซียวหลินเทียนยังกล้าเรีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1503

    คำพูดนี้ของหลิงอวี๋มีความถากถางอยู่ แต่น้ำเสียงกลับมิได้แสดงออกมาชัดเจนแม้แต่น้อยกล้าให้ขันทีน้อยเซี่ยมาเรียกตนไปรินเหล้า นางมิแสดงออกกับเซียวหลินเทียนก็เกรงใจมากแล้วเพราะตนยังมิได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างดี หลิงอวี๋จึงมิอยากฉีกหน้าเซียวหลินเทียนตอนนี้เซียวหลินเทียนลืมเรื่องที่เมื่อคืนให้ขันทีน้อยเซี่ยถ่ายทอดพระราชโองการไปแล้ว และแม้ว่าจะจำได้ เขาก็คิดว่าขันทีน้อยเซี่ยมิได้มาถ่ายทอดก็มิได้สร้างความอับอายให้หลิงอวี๋“อาอวี๋ เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย ข้า… ข้ามาขอโทษ!”เซียวหลินเทียนเอ่ยพลางยิ้มขมขื่น “ข้าขอโทษ วันนั้นข้ามิควรทะเลาะกับเจ้า เรื่องที่เจ้าปิดบังข้าทั้งหมดนั้นข้ามิโทษเจ้า เป็นข้าเองที่ทำดีมิพอ! ทำให้เจ้ายังมิสามารถเชื่อข้าได้ทั้งหมด!”“ต่อไปข้าจะมิเอ่ยถามเรื่องนี้แล้ว รอให้วันไหนที่เจ้ารู้สึกว่าข้าทำดีมากพอให้เจ้าเชื่อได้แล้ว เจ้าสามารถเลือกได้ว่าจะบอกหรือมิบอกข้า!”หากคำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนมาบอกกับหลิงอวี๋ตั้งแต่ก่อนเมื่อวาน หลิงอวี๋อาจจะซาบซึ้งแต่เมื่อเกิดเรื่องที่เซียวหลินเทียนดื่มเหล้ากับสวีเนี่ยนจือแล้วยังคิดจะสั่งให้ตนไปดูพวกเขาอี๋อ๋อกันอีก หลิงอวี๋จึงมิรู้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1504

    “ได้!”หลิงอวี๋มิได้อยากพบเซียวหลินเทียนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วยหลิงซวนกำลังจะออกไป จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็เอ่ยขึ้นมา “ประเดี๋ยวก่อน!”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่เมื่อวานกุ้ยเหรินทั้งสองแย่งชิงกันปรากฏตัวต่อหน้าเซียวหลินเทียนอู๋จื่อผิงออกมาตอนกลางวันแล้วก็ตกน้ำ และตอนเย็นสวีเนี่ยนจือก็ไปเอาอกเอาใจเซียวหลินเทียนสวีเนี่ยนจือผู้นี้เมื่อก่อนตอนที่อยู่ตำหนักอ๋องอี้มิได้มีความปรารถนาใดมิใช่หรือ?ตอนนี้ทนมิไหวแล้วหรือ? หรือว่ามีคนสั่งการ?“เมื่อวานกุ้ยเหรินสวีเรียกร้องความสนใจองค์จักรพรรดิอย่างไร?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างอยากรู้หลิงซวนสืบมาอย่างชัดเจนแล้วจึงเล่าเรื่องที่สวีเนี่ยนจือดีดฉินที่ศาลาตรงสระน้ำดึงดูดความสนใจของเซียวหลินเทียนออกไปหลิงอวี๋ฟังแล้วก็กระตุกมุมปากเยาะเย้ย ดูท่าทางสวีเนี่ยนจือผู้นี้จะมีชั้นเชิงกว่าอู๋จื่อผิง!วิธีการถอยหลังเพื่อก้าวหน้านี้ใช้ได้ผลกับบุรุษเช่นเซียวหลินเทียนยิ่งกว่าการเข้าหาตรง ๆ หลิงอวี๋มองทะลุไปถึงธาตุแท้ แต่มิได้คิดว่าเรื่องราวจะง่ายดายเช่นนี้“หลิงซวน คนรับใช้ที่อู๋จื่อผิงกับสวีเนี่ยนจือพาเข้าวังมาด้วยครานี้มีใครบ้าง?”หลิงซวนม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1505

    “ฝ่าบาท ฮองเฮาตรัสว่าพระนางประชวร ยามเย็นพระองค์มิจำเป็นต้องเสด็จไปที่พระตำหนักคุนหนิงแล้ว ให้เรียกกุ้ยเหรินทั้งสองมาปรนนิบัติพ่ะย่ะค่ะ!”ขันทีน้อยเซี่ยรอให้เซียวหลินเทียนจัดการงานราชการเสร็จแล้วจึงรายงานเซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกผิดปกติรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเขาก็เรียกสติกลับมาได้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อตนยังมิได้คลายไป มิฉะนั้นนางไม่มีทางพูดออกมาว่าให้ตนเรียกกุ้ยเหรินทั้งสองมาปรนนิบัติเมื่อคิดลึกซึ้งลงไปอีกหน่อย ตอนนี้หลิงอวี๋ควบคุมดูแลวังหลัง เช่นนั้นเรื่องที่ตนดื่มเหล้ากับกุ้ยเหรินสวีที่ห้องอาหารเมื่อคืน หลิงอวี๋ก็น่าจะรู้แล้วเช่นกันเซียวหลินเทียนรู้สึกผิดขึ้นมา เรื่องนี้เขามิได้พูดกับหลิงอวี๋แต่หลิงอวี๋จะต้องมีความคิดแล้วแน่นอน!“ไปพระตำหนักคุนหนิง!”เซียวหลินเทียนลุกขึ้นอย่างรีบร้อนกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาที่ห้องแล้วเดินออกไปเดินไปได้ครึ่งทาง เซียวหลินเทียนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา จากนั้นจึงรีบกลับไปที่ห้องทรงพระอักษรแล้วก้มหน้าก้มตาเขียนพระราชโองการขันทีน้อยเซี่ยแปลกใจ องค์จักรพรรดิจะทำสิ่งใดกัน เหตุใดจึงเขียนพระราชโองการซ้ำ ๆ!กระทั่งมาถึง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1506

    หลิงอวี๋เปิดดูม้วนหนึ่งอย่างสงสัย ทันทีที่เห็นก็ตะลึงไปนี่คือหนังสือรับรอง!หนังสือรับรองคือใบรับรองที่จักรพรรดิในสมัยต่าง ๆ มอบให้ขุนนางผู้มีความชอบในสมัยต่าง ๆ ให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หรือเป็นการละเว้นโทษ มิว่าจะทำผิดในเรื่องใดก็สามารถใช้หนังสือนี้รับอภัยโทษได้เซียวหลินเทียนเขียนมอบให้ตนมากมายถึงเพียงนี้ นี่สามารถแลกได้ตั้งกี่ชีวิต!“อาอวี๋ เมื่อมีสิ่งนี้ก็สามารถรับรองจิตใจของข้าที่มีต่อเจ้าได้แล้วกระมัง!”เซียวหลินเทียนคิดอยู่นานก็คิดมิออกว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋สบายใจ เมื่อครู่คิดเรื่องหนังสือรับรองออกจึงได้กลับไปเขียน“ข้ารู้ว่าต่อให้พูดดีแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! เจ้าดูการกระทำของข้าต่อจากนี้เถิด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซื่อตรง “ข้ารับรองว่าต่อไปข้าจะมิไปดื่มเหล้ากับกุ้ยเหรินสวีอีกแล้ว ข้าไม่มีทางเอาพวกนางมาทำให้เจ้าโกรธอีก!”“อาอวี๋ ข้า… ข้าค่อนข้างซื่อบื้อในเรื่องของความรู้สึก ข้าชอบเป็นสหายกับคนฉลาด นั่นก็เพราะว่าสื่อสารกันง่าย!”“แต่เรื่องจิตใจของสตรีนั้นข้าไร้ประสบการณ์นัก… เจ้าอย่าได้รังเกียจที่ข้าโง่เขลาเลย หากเจ้าเตือนข้ามากหน่อย ข้าก็จะเข้าใจได้!”หน้าของหลิ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1865

    ครั้งนี้แม้หวงฝู่หลินอยากจะฝืนก็ฝืนมิอยู่ เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากปากของเขา“หวงฝู่หลิน สวรรค์มีเส้นทางให้เจ้าไปแต่เจ้ามิไป นรกไม่มีประตูแต่เจ้าก็ยังจะบุกเข้ามา!”“ข้ากำลังคิดจะไปยึดวังเทพของเจ้าด้วยตัวข้าเองอยู่แล้วเชียว แต่เจ้าก็มาหาถึงที่ พอดีเสียจริง ข้าก็มิต้องลำบากไปที่นั่น เอาชีวิตเข้ามาเสีย!”มหาปราชญ์เหาะลงมา และยกมือขึ้นโจมตีไปที่หน้าอกของหวงฝู่หลินทางด้านเซียวหลินเทียนก็กำลังต่อสู้กับพวกมือสังหารอยู่ เมื่อเห็นภาพนี้ก็มิอาจแยกตัวออกไปได้ จึงมิสามารถช่วยเหลือได้ทันเวลาส่วนปี้ซงที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้วก็ถูกพวกมือสังหารขวางทางอยู่เช่นกันเสือดาวหิมะและหวงฝู่หลินสื่อสารกันด้วยพลังจิต เมื่อมันรู้สึกได้ว่าเจ้านายกำลังเดือดร้อน มันก็คำรามออกมา จากนั้นก็บินเข้าไป และพุ่งเข้าใส่มหาปราชญ์ทันทีเสือดำที่ตามมาติด ๆ ก็ใช้โอกาสนี้กระโจนเข้าใส่หลังของเสือดาวหิมะ แล้วกัดเนื้อของเสือดาวหิมะเข้าไปคำใหญ่เสือดาวหิมะมิสนใจความเจ็บปวดแล้วกระโจมเข้าไป มหาปราชญ์จึงมิทันได้จัดการกับหวงฝู่หลิน แล้วต้องหันไปจัดการกับเสือดาวหิมะแทนแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เสือดาวหิมะกระชากเสื้อคลุมของมหาปราชญ์ออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1864

    เซียวหลินเทียน ปี้ซงและเผยอวี้กำลังต่อสู้อยู่กับพวกบุรุษชุดดำ ก็พลันรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวมีลมพัดอย่างแรง และใบไม้เหล่านั้นก็พัดมาทางหัวพวกเขาสนามแม่เหล็กที่มีพลังมหาศาลนั้นสั่นสะเทือนไปจนทั่วบริเวณเซียวหลินเทียนรีบมองไปทันที แล้วก็เห็นว่าพลังลมแห่งการปะทะกันของหวงฝู่หลินกับฝูหยางกลางอากาศนั้น เป็นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินเกี่ยวพันกันไปมา แยกมิออกว่าใครเป็นใครเมื่อครู่ฝูหยางเรียกชื่อของหวงฝู่หลินออกมา เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้บุรุษชุดขาวที่ดูราวกับเซียนผู้นี้ก็คือ เจ้าวังหวงฝู่แห่งวังเทพบนภูเขาหิมะนี่เองก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยถูกเขาขังอยู่ที่วังเทพเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาที่จะตำหนิหวงฝู่หลินแล้ว การโจมตีรุนแรงของพวกบุรุษชุดดำทำให้เขามิสามารถรับมือได้เซียวหลินเทียนยังต้องดูแลเผยอวี้ที่มีพลังมิสูงด้วย เขาจึงเหลือบมองไปแล้วพยายามจัดการกับพวกมือสังหารอย่างเต็มที่นับตั้งแต่ที่เซียวหลินเทียนได้กระบี่คุนอู๋มา และได้เรียนรู้วิชากระบี่จากลวดลายบนกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว วรยุทธ์ของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเขายกกระบี่ขึ้นมาพร้อมใช้วิชากระบี่คุนอู๋ เขาได้เปร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1863

    เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นว่า เด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซียวเยวี่ยผู้นั้นร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจในชั่วขณะนี้เซียวหลินเทียนก็คิดถึงเซียวเยวี่ยมาก เขาออกมานานมากจนแทบจะจำมิได้แล้วว่าเซียวเยวี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเขาเห็นเด็กผู้นั้น เซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที“ท่าน พวกเราเข้าไปช่วยเขาเถิด!”เซียวหลินเทียนพูดยังมิทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา “ใคร?”จากนั้นก็มีบุรุษชุดดำหลายคนวิ่งกรูกันออกมา พร้อมกับเล็งดาบมาที่เซียวหลินเทียนกับหวงฝู่หลิน“พวกเจ้าเป็นใคร?”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำตะโกนออกมาด้วยความโกรธหวงฝู่หลินจึงยิ้มเยาะ “พวกเจ้าหรือที่ทำลายตำหนักปีกเงินของสหายข้า? ใครเป็นคนวางเพลิง?”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำคนนั้นตะลึงไปทันที จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับรู้สึกว่า คำถามของหวงฝู่หลินนั้นแปลกมากความตายจะมาเยือนอยู่แล้ว ยังจะเป็นห่วงอีกว่าใครเป็นคนวางเพลิง คนผู้นี้สมองมีปัญหาหรือไร!“อย่าไปคุยกับเขาให้มากความ สังหารไปเสีย!”ฝูหยางที่อยู่ข้างในตะคอกออกมาอย่างรำคาญ “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ เจ้าจะนำออกมาให้หรือไม่ หนึ่ง… สอง…”พวกบุร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status