คำพูดนี้ของหลิงอวี๋ทำให้เซียวหลินเทียนตะลึง จากนั้นก็หัวเราะออกมา“เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะอยู่ที่พระตำหนักคุนหนิง!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เซียวหลินเทียน เมื่อเห็นว่าหลิงซวนไล่นางกำนัลที่มารับใช้ในห้องออกไปจนหมดแล้วจึงเอ่ยอย่างเย็นชา“เซียวหลินเทียน ที่หม่อมฉันพูดกับท่านในเรื่องเหล่านี้มิใช่เพราะอยากจะแย่งชิงความโปรดปราน แต่เพราะจะให้ท่านมิต้องหลบหลีกในเรื่องนี้!”“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเคยบอกกับท่านแล้วว่า หม่อมฉันกับป้าสะใภ้ใหญ่และสตรีเหล่านี้มิเหมือนกัน สามีที่หม่อมฉันต้องการคือคนที่รักหม่อมฉันได้หมดทั้งใจ!”“ชีวิตนี้หม่อมฉันมิสามารถใช้สามีร่วมกับสตรีอื่นได้ มิว่าท่านจะเป็นอ๋องอี้หรือองค์จักรพรรดิ หม่อมฉันจะไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของหม่อมฉัน!”หลิงอวี๋สบตากับเซียวหลินเทียนโดยตรง “และหม่อมฉันก็มิอยากให้ท่านต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อหม่อมฉันด้วย!”“หม่อมฉันรับปากท่านได้ว่าจะมิจากไปในตอนที่ตำแหน่งของท่านยังมิมั่นคง ในภายภาคหน้า เมื่อท่านมิต้องการหม่อมฉันแล้ว ก็ปล่อยให้หม่อมฉันจากไป แล้วเราจะเป็นสหายและคนรู้ใจที่ดีต่อกันไปตลอดชีวิต!”นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่เซียวหลินเทียนขึ้นเป็นจักรพรรดิ ที่ได้พู
เซียวหลินเทียนเองก็มิกล้าบังคับหลิงอวี๋ จึงเอ่ยออกไป“เจ้าบอกวันมะรืนก็วันมะรืน! จริงสิ วันพรุ่งตามกรมวังมาช่วยเจ้าปรับปรุงพระตำหนักคุนหนิงเสียหน่อยเถิด ข้าคิดถึงห้องน้ำของเราที่ตำหนักอ๋องอี้ เจ้าให้พวกเขาทำห้องน้ำด้วย!”“อีกอย่าง ข้าเองก็อยากให้ในพระตำหนักคุนหนิงมีพวกเครื่องใช้และพืชพรรณที่เจ้าตกแต่งด้วย ที่นี่ช่างหนาวเหน็บ ไม่มีความรู้สึกของบ้านเลย!”เซียวหลินเทียนพูดในจุดที่มิพอใจต่อพระตำหนักคุนหนิงออกมาจำนวนมาก หลิงอวี๋ก็จดจำไว้อย่างเงียบ ๆในขณะเดียวกันหลิงอวี๋ก็ใจเต้นขึ้นมา เช่นนี้ในใจเซียวหลินเทียนก็โหยหาความอบอุ่นของบ้านเช่นกันเขาอยู่ที่ราชสำนักเป็นองค์จักรพรรดิ เมื่อเสร็จกิจราชสำนักแล้วก็เป็นเพียงบุรุษธรรมดาผู้หนึ่ง เขาเองก็มีความต้องและข้อเรียกร้องของตนเช่นกันจักรพรรดิก็เป็นคนเช่นกัน!หลิงอวี๋นึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมของตนกับเซียวหลินเทียนตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา ตั้งแต่เริ่มแรกที่เขาเป็นบุรุษที่วางอำนาจไร้มารยาทแล้วค่อย ๆ ถูกตนเปลี่ยนแปลงไปทีละขั้น บางที ขอเพียงตนใช้ใจกับความสัมพันธ์ที่มีกับเขา เซียวหลินเทียนก็อาจจะเปลี่ยนเป็นสามีที่คู่ควรกับความเชื่อมั่นได้เช่นกันกระม
ส่วนที่แม่ทัพฟางยอมให้ฟางเหยาเหยาแต่งงานเป็นชายารองขององค์ชายคังก็มิได้ทำให้หลิงอวี๋รู้สึกประหลาดใจออกไปครานี้ชัดเจนว่า แม่ทัพฟางคือคนของจ้าวฮุย แค่ทำอะไรอย่างคลุมเครือมากเท่านั้นหลิงอวี๋นึกถึงเรื่องจลาจล แล้วจึงเอ่ยถาม “คดีใต้เท้าจางสอบสวนชัดเจนหรือไม่เพคะ?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซียวหลินเทียนก็เดือดขึ้นมาสองวันมานี้กรมพระคลังและกรมวังเร่งสอบสวนบัญชีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเส้นทางแม่น้ำของใต้เท้าจางก่อนหน้านี้ บัญชีหลายปีตรวจสอบแล้วพบว่าราชสำนักจัดสรรงบไปยี่สิบกว่าล้านบัญชีของใต้เท้าจางล้วนใช้เงินยี่สิบกว่าล้านนั้นไปกับการซ่อมแซมเส้นทางแม่น้ำ แต่นับตั้งแต่เรื่องที่มีคนตายไปสองร้อยกว่าคนเซียวหลินเทียนก็รู้แล้วว่าบัญชีนี้ของใต้เท้าจางเป็นบัญชีปลอมแค่เงินอุดหนุนของสองร้อยกว่าชีวิตนี้ไม่มีในบัญชีเลยแม้แต่น้อยเช่นนั้นบัญชีอื่นมิบอกก็รู้ว่าจะต้องมีการตกแต่งบัญชีแล้วถูกพวกเขาทุจริตไปแน่นอนเรื่องนี้เมื่อตรวจสอบแล้วมีการเกี่ยวโยงไปเป็นวงกว้าง ใต้เท้าจางเงียบตลอด และมิปริปากพูดเรื่องทรัพย์สินที่ค้นออกมาจากบ้านของตนด้วยส่วนขุนนางทุจริตที่อยู่เบื้องล่างทนรับการทรมานมิไหวจึงสารภาพ แ
หลิงอวี๋ได้เห็นความสามารถของเก๋อเทียนซือแล้ว องค์ชายรุ่ยไปที่โม่เหอนอกจากจะไปตามหาแดนปีศาจก็ไม่มีทางจะมีเหตุผลอื่นอีกหลิงอวี๋กังวลว่า องค์ชายรุ่ยจะมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่ และแอบหว่านเมล็ดอำนาจของตน“ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลอะไร ครานี้ข้าอาศัยเรื่องงานแต่งงานขององค์ชายคัง ให้องค์ชายรุ่ยแต่งงานเช่นกัน เพราะว่าจะใช้ครอบครัวผูกมัดเขาไว้”เซียวหลินเทียนเอ่ยเรียบ ๆ “แม้ว่าข้าจะมิได้มีความรู้สึกฉันพี่น้องกับพวกเขาเท่าไร แต่เพราะว่าเป็นพี่น้องกัน ข้าจึงมิอยากให้ผลสุดท้ายแล้วต้องเข่นฆ่ากันเอง”องค์ชายรุ่ยมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยได้ แต่ขอเพียงมิทำลายความเป็นพี่น้อง เซียวหลินเทียนก็สามารถทนความรุ่งโรจน์ของเขาไปได้ทั้งชีวิตหลิงอวี๋ยังคงมิกล้าประมาทองค์ชายรุ่ย จึงเอ่ยเตือน “ครานี้เก๋อเทียนซือเสียเปรียบหม่อมฉัน เขาจะต้องหาผู้ช่วยมาจัดการพวกเราอย่างแน่นอน!”“พวกเรามิเพียงแต่ต้องป้องกันเก๋อเทียนซือ ยังต้องป้องกันองค์ชายรุ่ยเผื่อพบอะไรด้วย! เซียวหลินเทียน ท่านจะประมาทมิได้โดยเด็ดขาดเพคะ!”วันนั้นที่เจดีย์วัดไคหยวน หลิงอวี๋ต่อสู้กับเก๋อเทียนซือ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อเจดีย์วัดไคหยวน หลังจากนั้น
การประทานสมรสหลายคนเช่นนี้ทำให้ฮูหยินฉินแม่ของฉินซานก็ตื่นเต้นมาก ๆ ไปด้วย นางจึงจงใจคุยกับฉินซานในคืนหนึ่งฉินซานถูกแม่โน้มน้าวมิยอมหยุด ในที่สุดก็ตกลงแต่งงาน ฮูหยินฉินได้รับการยินยอมจากลูกชายก็ไปหาแม่สื่อหลายคนมาหาคนจับคู่ให้กับฉินซานมาตรฐานของนางลดลงแล้ว ขอเพียงสตรีที่มีภูมิหลังครอบครัวดีและมีความประพฤติดีมาเป็นภรรยาของฉินซานหานอวี้ได้รับรู้ข่าวนี้ก็ร้อนใจแทนพี่สาว จึงไปหาหลิงอวี๋เพื่อพูดเรื่องนี้แทนพี่สาวหลิงอวี๋ทำใจปล่อยให้หานเหมยไปมิได้ แต่เพื่อการแต่งงานของหานเหมย แม้ว่านางจะทำใจมิได้ก็ทำได้เพียงยอม นางจึงเรียกหานเหมยมาซักถามถึงความคิดที่จะแต่งงานกับฉินซานเสียก่อนไหนเลยจะรู้ว่าหานเหมยจะเอ่ย “ฮองเฮา หานเหมยมิอยากแต่งงานกับเจ้ากรมฉินเพคะ!”“เหตุใดเล่า? ฉินซานมิดีหรือ?”หลิงอวี๋สับสนหานเหมยส่ายหน้า “เรื่องคุณสมบัติของเจ้ากรมฉินนั้นมิอาจพูดได้ ตอนนี้หานเหมยเองก็รู้สึกว่าคู่ควรต่อเจ้ากรมฉิน แต่ฮูหยินฉินมิเหมาะที่จะเป็นแม่สามีของหานเหมยเพคะ!”ตอนนี้หานเหมยเป็นผู้ช่วยของหลิงซวนกับเถาจื่อ และมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า เป็นขุนนางระดับแปด หลุดพ้นจากการเป็นทาสแล้วขอเพียงนางทำง
เมื่อประทานสมรสแล้ว งานอภิเษกสมรสขององค์ชายคังและองค์ชายรุ่ยจึงได้เตรียมการและกำหนดวันไว้อย่างรวดเร็วมิรู้ว่าองค์ชายคังคิดจะใช้โอกาสนี้รวบรวมกำลังพลใหม่ หรือว่าตั้งใจจะให้ความสำคัญกับพระชายาคังคนใหม่กันแน่ สินสอดทองหมั้นจึงอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษจนเกือบจะเป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตำหนักองค์ชายคังแล้ววันส่งมอบสินสอดมีหาบถึงหนึ่งร้อยยี่สิบหาบ และใช้เวลาหาบไปหลายชั่วยาม ขบวนที่ยิ่งใหญ่ดึงดูดความสนใจของราษฎรในเมืองหลวงจนการสัญจรติดขัดอยู่ครึ่งวันเลยทีเดียวความร่ำรวยขององค์ชายคังมากพอที่จะทำให้ผู้คนอิจฉา และจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้ได้รับสินสอดทองหมั้นก็ยิ่งเป็นสตรีที่จุดรวมความอิจฉาหลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้ เพิ่งจะรู้ตอนไปกินอาหารเย็นแล้วได้ยินพวกนางกำนัลซุบซิบเรื่องนี้กันนางกำนัลเหล่านั้นมิรู้ว่าหลิงอวี๋มาแล้วจึงรวมตัวกันซุบซิบนินทา“ได้ยินว่าคุณหนูรองจ้าวผู้นี้งดงามยิ่งกว่าพี่สาวอีก เป็นคนที่งดงามจนพระจันทร์ต้องหลบ ดอกไม้ละอาย และปลาตกใจจนลืมว่ายน้ำไปจริง ๆ!”“องค์ชายคังโชคดีจึงได้แต่งงานกับนาง!”นางกำนัลอีกคนก็หัวเราะพลางเอ่ย “เกิดมางดงามก็เป็นข้อได้เปรียบ! แต่ก็ต้องดูที่ฝ่ายบุรุษด้วยว่า
เซียวหลินเทียนมากินอาหารด้วย หลิงอวี๋ก็โกรธเขาอย่างประหลาดเพราะเรื่องนี้ เอาแต่ถามคำตอบคำกับเซียวหลินเทียนต่างจากก่อนหน้านี้ ทั้งยังก้มหน้าก้มตากินในส่วนของตนด้วยใบหน้าเย็นชา“อาอวี๋ วันนี้เป็นอะไรไปหรือ? มิสบายหรือไม่?”เซียวหลินเทียนทำตัวมิถูก แต่ก็ยังเอ่ยถามอย่างเอาใจ“เปล่าเพคะ!”หลิงอวี๋เอ่ยเท่านี้แล้วกินต่อ“เช่นนั้นผู้ใดทำให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ? หรือว่าไท่เฟยเส้า?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหากไท่เฟยเส้ากล้ามาทำให้หลิงอวี๋ลำบากใจอีก เซียวหลินเทียนตัดสินใจว่าจะมิไว้หน้าองค์ชายคังอีกแล้ว จะบังคับให้ส่งไท่เฟยเส้าไปที่ศาลบูรพกษัตริย์“เปล่าเพคะ!”หลิงอวี๋กลายเป็นคนถามคำตอบคำ ตอบมาเพียงคำเดียวมิพูดไปมากกว่านั้นเซียวหลินเทียนประหลาดใจกับสิ่งนี้ มิได้มีผู้ใดทำให้นางขุ่นเคือง และนางก็มิได้ป่วย เช่นนั้นเหตุใดวันนี้หลิงอวี๋จึงเปลี่ยนไปอย่างน่าแปลกเช่นนี้เล่า!เขากวาดสายตามองไปที่หลิงซวนกับเถาจื่อที่รับใช้อยู่ด้านข้าง หลิงซวนกับเถาจื่อก็แสร้งมิเห็นและเบือนหน้าหนีพวกนางเป็นนางรับใช้ของหลิงอวี๋ เจ้านายก็คือหลิงอวี๋ พวกนางจะมิเปิดเผยเรื่องของเจ้านายตนเซียวหลินเทียน
ความมิสบายใจของหลิงอวี๋มาเร็วก็ไปเร็วมินานนางก็คิดได้เองแล้วว่าตนมิใช่เจ้าของร่าง เหตุใดต้องกังวลเรื่องสินสอดที่ได้รับแทนเจ้าของร่างด้วยเล่า!นางกับเซียวหลินเทียนจะเดินไปด้วยกันได้หรือไม่ก็ยังมิรู้ กังวลเรื่องของนอกกายเหล่านั้นไปจะมีประโยชน์อันใด!หลิงอวี๋กินอาหารเสร็จก็ไปหาเซียวเยวี่ยเซี่ยเหวยถูกรับเข้ามาในวังแล้วและอยู่คนละตำหนักกับเซียวเยวี่ยแรกเริ่มหลิงอวี๋ก็อยากให้เซี่ยเหวยรู้สถานะของตนให้ชัดเจน ดังนั้นตอนที่เซียวเยวี่ยเสนอให้เซี่ยเหวยกับเขาอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาทด้วยกันจึงถูกหลิงอวี๋ปฏิเสธไปนางมิสามารถให้ใจของเซี่ยเหวยเติบโตมากขึ้นได้ กฎที่ควรจะดูแลก็ควรดูแลไว้ทางด้านเซียวเยวี่ยได้เรียนความรู้ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบแล้ว เซียวหลินเทียนยังได้เชิญอาจารย์ด้านวรยุทธ์มาให้เขาด้วย เด็กน้อยมิได้รู้สึกว่าการเรียนเหล่านี้น่าเบื่อและเรียนอย่างสนุกสนานหลิงอวี๋เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเป็นไปด้วยดีจึงกลับพระตำหนักคุนหนิง ให้หลิงซวนกับเถาจื่อเฝ้าหน้าประตูไว้แล้วหลิงอวี๋ก็เข้าไปในมิติเพื่อกลั่นโอสถเซียนที่จะทำให้เซียวหลินเทียนได้พัฒนาการฝึกฝนพลังวิญญาณตอนนี้นางฝึกฝนในดินแดนห้า
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ