“ไม่… ข้าไม่มีทางยอมแพ้เช่นนี้!”องค์ชายเว่ยตะโกนขึ้นมา แล้วตะคอกใส่องค์หญิงใหญ่อย่างสิ้นหวังทั้งโมโห “องค์หญิงใหญ่ ท่านรู้หรือไม่ว่าผลที่เปลี่ยนเป็นความพ่ายแพ้คืออะไร?”“คือพวกเราล้วนต้องตายด้วยดาบของเสด็จพ่อ!”“หากเราร่วมแรงร่วมใจกันชิงบัลลังก์นี้ ชัยชนะจะต้องเป็นของพวกเรา...”ยังมิทันที่องค์ชายเว่ยจะพูดจบ ดาบของขันทีโม่ก็เหวี่ยงมาทางเขาแล้ว องค์ชายเว่ยจึงตกใจคว้าเอาองครักษ์ผู้หนึ่งมาบังตนเอาไว้องครักษ์ผู้นั้นถูกดาบของขันทีโม่บั่นออกเป็นสองท่อนทันที เลือดสดร้อน ๆ สาดไปที่หัวและใบหน้าขององค์ชายเว่ยเต็ม ๆองค์ชายเว่ยมององครักษ์ที่ตัวขาดออกเป็นสองท่อนต่อหน้าต่อตาด้วยดวงตาที่เบิกโพลง!สถานการณ์ที่นองเลือดและน่าสะพรึงกลัวนี้ทำให้องค์ชายเว่ยตกใจจนเกือบจะปัสสาวะราด มือเท้าของเขาล่าถอยไปข้างหลังทันที และคว้าเอาตัวองครักษ์มาบังหน้าตนไว้มิหยุดองครักษ์กองทัพหลวงที่เหลือองค์ชายเว่ยล้วนตกตะลึงกับความเห็นแก่ตัวที่ไร้ยางอายขององค์ชายเว่ย แล้วก็ต่างพากันหลบไปอยู่ไกล ๆยังมิทันจะทำสำเร็จองค์ชายเว่ยก็ไร้ความปรานีเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นต่อไปจะรองรับพวกเขาได้หรือ?องครักษ์บางส่วนใจหนาวเหน็บขึ้น
เซียวหลินเทียนหันกลับไปมองก็เห็นว่าไทเฮากับหลิงอวี๋พาทหารพุ่งไปถึงตรงหน้าจักรพรรดิอู่อันแล้ว เขาจึงวางใจแล้วถือกระบี่ไล่ตามไปองค์ชายและองค์หญิงจากฉีตะวันออกสองคนนี้ยุยงให้เกิดการกบฏในฉินตะวันตก คราวนี้จะมิให้พวกเขาชดใช้ได้เยี่ยงไร!องค์ชายหนิงกับเซี่ยโฮ่วตานรั่วมิได้เงียบสงบเช่นก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ที่องค์ชายหนิงเห็นเซียวหลินเทียนในวังก็มีลางสังหรณ์มิดีแล้วแต่เขาก็ยังคงโชคดีอยู่บ้างเมื่อนึกถึงว่า องค์ชายเว่ยกับองค์หญิงใหญ่มีเส้นสายยอดฝีมืออยู่มิน้อย อีกทั้งยังมีความร่วมมือกันของค่ายกองทหารเสือกับหอเหยี่ยวราตรีอีก ต่อให้เซียวหลินเทียนอยู่ก็ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเยอะมากที่จะยึดวังไว้ไหนเลยจะคิดว่าองค์ชายเว่ยกับองค์หญิงใหญ่จะมิสามารถทำให้สำเร็จได้ กอปรกับที่มีปรมาจารย์เช่นขันทีโม่อีก การชิงบัลลังก์คราวนี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องพ่ายแพ้ไปเขาทำได้เพียงเลือกเดินในเส้นทางสุดท้าย รีบออกจากวังหลวงในทันที แล้วรีบพาคนของตนออกไปจากเมืองหลวง หนีกลับฉีตะวันออกไปเสียแต่หนีไปได้มิไกลเท่าใด ก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของเซียวหลินเทียนมาจากด้านหลัง“องค์ชายหนิง การหนีหัวซุกหัวซุนดูมิคล้ายรูปแบบของเจ้
“หลิงอวี๋ รีบมาช่วยเจียงอวี้เร็วเข้า นางจะตายอยู่แล้ว!”หลิงอวี๋เห็นว่าสถานการณ์จะได้รับชัยชนะแน่นอนแล้ว เพิ่งจะโล่งใจไปได้ก็เห็นอันเจ๋ออุ้มสตรีผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งเจียงอวี้?หลิงอวี๋เห็นว่าเนื้อตัวของอันเจ๋อเต็มไปด้วยเลือด และเขาก็วิ่งกะโผลกกะเผลกเข้ามา นางจึงรีบเข้าไปช่วยทันทีทั้งสองพาเจียงอวี้ไปที่ด้านหลัง หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่า สัญญาณชีพของเจียงอวี้อ่อนแรง นางจึงมิสนใจอาการบาดเจ็บของตนแล้วรีบไปช่วยเจียงอวี้ทันที“หลิงอวี๋ องค์จักรพรรดิทรงได้รับบาดเจ็บ รีบไปช่วยองค์จักรพรรดิเร็ว!พระชายาเส้าตะโกนเสียงดังอยู่ด้านนอกอันเจ๋อได้ยินดังนั้นก็ทั้งร้อนใจทั้งโกรธ กังวลว่าหลิงอวี๋จะสนใจแต่องค์จักรพรรดิมิสนใจความเป็นความตายของเจียงอวี้ จึงเอ่ยกับหลิงอวี๋“หลิงอวี๋ เจ้าช่วยเจียงอวี้ก่อนเถิด ถือว่าข้าขอร้อง เจียงอวี้ถูกเฮ่อหรงทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ก็เพื่อจะช่วยข้า!”“ทางด้านองค์จักรพรรดิ ข้าจะไปหาคนช่วยพระองค์เอง!”หลิงอวี๋เห็นความร้อนใจของอันเจ๋อจึงพยักหน้าอาการของเจียงอวี้หากยังมิช่วยเหลือก็ใกล้จะตายแล้ว ทางด้านองค์จักรพรรดินั่นยังรอได้อีกสักหน่อยอันเจ๋อเห็นหลิงอวี๋พยักห
“เสด็จพ่อ ลูกผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดเมตตาด้วย!”องค์ชายเว่ยถูกองค์ชายคังต่อยจนจมูกและหน้าตาบวมช้ำ เมื่อเห็นจักรพรรดิอู่อันก็คุกเข่าลงพร้อมร้องไห้โฮออกมาเวลานี้จักรพรรดิอู่อันมิได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อเขาแล้ว ใบหน้าที่ร้องไห้อย่างขมขื่นขององค์ชายเว่ยนั้นทำให้เขาเพียงแต่รังเกียจอยู่ลึก ๆ เท่านั้นจักรพรรดิอู่อันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “หนวกหู ปิดปากเขาไว้เสีย!”องค์ชายคังมิรีรอ รีบฉีกอาภรณ์ขององค์ชายเว่ยมาทำเป็นก้อนกลม ๆ แล้วยัดใส่ปากองค์ชายเว่ยทันทีอื้อ อื้อ อื้อ...องค์ชายเว่ยถูกอุดปากไว้แต่ก็ยังอยากจะส่งเสียงออกมา เวลานี้เขาไม่มีใจที่จะกบฏแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีแต่ความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งเท่านั้นเสด็จพ่อรังเกียจตนเช่นนี้ หรือว่าครานี้จะสังหารตนแล้วจริง ๆ?เสด็จแม่!องค์ชายเว่ยหันมองไปรอบ ๆ คนที่จะสามารถช่วยตนได้ก็มีเพียงเสด็จแม่เท่านั้นแล้วแต่ฮองเฮาเว่ยมิอยู่!ในขณะที่องค์ชายเว่ยกำลังร้อนใจอยู่นั้นท่านอ๋องเฉิงก็พาตัวฮองเฮาเว่ยที่ใส่ชุดคลุมฮองเฮาสีเหลืองสดใสเข้ามาหลังจากที่ฮองเฮาเว่ยถูกคนสนิทขององค์ชายเว่ยช่วยออกมาจากตำหนักเย็นแล้ว นางก็ตรงดิ่งไ
หลิงอวี๋ช่วยรักษาเจียงอวี้แล้ว นางพ้นขีดอันตรายแล้วนางฟื้นขึ้นมาเห็นว่าหลิงอวี๋อยู่ตรงหน้าของตนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง นี่ตนยังมิตายหรือ?“อันเจ๋อพยายามแบกเจ้ามาหาข้าให้ช่วย!”หลิงอวี๋ยิ้มให้นาง แล้วในใจของนางก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา เพียงแต่คงมิดีที่จะพูดกับเจียงอวี้อย่างชัดเจนนางจึงแค่ยิ้มพลางเอ่ย “เจียงอวี้ โอกาสที่เจ้าจะได้ออกจากวังมาถึงแล้วนะ...ประเดี๋ยวข้าจะบอกว่าเจ้าบาดเจ็บสาหัส จำเป็นจะต้องพักรักษาตัวอย่างดี ให้ครอบครัวของเจ้ามารับเจ้าออกจากวังไปรักษาตัวแล้วกัน!”มุมปากของเจียงอวี้แย้มยิ้มขึ้นมา นางยิ้มพลางเอ่ย “ขอบคุณ พี่หญิงหลิงหลิง!”แม้แต่ในความฝันนางก็อยากจะออกไปจากวังแล้วกลับไปอยู่กับครอบครัว แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต แต่หากสามารถออกไปได้นางก็จะมิโกรธมิเสียใจกับเรื่องที่ตนเสี่ยงมาก่อนหน้านี้เลย!หลิงอวี๋พยักหน้า “ข้าจะออกไปช่วยรักษาบาดแผลให้คนเจ็บก่อน!”แล้วนางก็เดินออกไป เมื่ออันเจ๋อเห็นเข้าก็รีบวิ่งเข้ามา “เจียงอวี้มิเป็นไรใช่หรือไม่?”“เจ้าเข้าไปดูก็รู้แล้วมิใช่หรือ!”หลิงอวี๋ขยิบตาให้อันเจ๋อ “บนใต้หล้าใบนี้มีสตรีงามอยู่มากมาย แต่คนที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเจ้า
“เจ้ามิอยากเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิดังเช่นพวกพระชายาเส้าหรือ?”อันเจ๋อเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง มิรู้ว่าเพราะเหตุใด ใจของเขาถึงได้เต้นรัวเมื่อเอ่ยถามออกไปกลัวว่าเจียงอวี้จะทำให้ตนผิดหวัง!“ข้าอยากกลับบ้าน ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่… ต่อให้ข้ามั่งคั่งรุ่งเรืองเพียงใด แต่มิสามารถเจอพวกท่านได้บ่อย ๆ จะมีประโยชน์อันใดเล่า!”เจียงอวี้บ่นพึมพำอย่างมึน ๆ งง ๆ“ท่านแม่… ข้าอยากกินเกี๊ยวที่ท่านห่อ ใส่เนื้อเยอะ ๆ เลยนะเจ้าคะ...”น้ำตาไหลรินลงมาที่หางตาของเจียงอวี้ นางฝันว่าได้กินเกี๊ยวที่ฮูหยินเจียงห่อให้แล้วน้ำตานี้ทำให้อันเจ๋อมั่นคงกลับสู่ที่เดิม เขามิได้มองผิดไป เจียงอวี้มิใช่คนหยิ่งยโส!เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาที่หางตาของเจียงอวี้เบา ๆ“ยายโง่ อีกมินานข้าจะทำให้เจ้าได้กินเกี๊ยวที่ท่านแม่ของเจ้าห่อให้นะ!”กระทั่งอันเจ๋อเดินออกมา กองทัพหลวงนำโดยรองราชองครักษ์ก็ได้เริ่มจัดการเก็บกวาดศพแล้วองค์หญิงใหญ่ เฮ่อหรง องค์ชายเว่ยและฮองเฮาเว่ยถูกท่านอ๋องเฉิงพาตัวไปที่ราชสำนักฝ่ายในชุดฮองเฮาของฮองเฮาเว่ยถูกถอดออกไปแล้ว นางมองต้นไม้ดอกไม้ในวังด้วยสีหน้าเซื่องซึม พร้อมกับตำหนักที่คุ้นเคยที่
หลายวันต่อมา ท้องฟ้าในเมืองหลวงล้วนปกคลุมไปด้วยเมฆอึมครึมขุนนางน้อยใหญ่ล้วนถูกแจ้งว่ามิต้องมาที่ราชสำนัก ตามท้องถนนในทุก ๆ วันจะมีทหารของกองทัพหลวงกับราชสำนักฝ่ายในไปจับกุมผู้คนและรื้อค้นบ้านเรือนขุนนางน้อยใหญ่หลายสิบคนที่กลุ่มขององค์ชายเว่ยเกี่ยวโยงด้วยต่างถูกจำคุกทั้งหมดแล้วรวมถึงสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาก็ถูกโยงไปอีกหลายร้อยคนเลยทีเดียวการที่คนเหล่านี้ประสบเรื่องเหล่านี้บางคนก็สงสาร บางคนก็รู้สึกยินดีบนความทุกข์นี้เมื่อถอดถอนราชการเสนาบดีไปจำนวนหนึ่งแล้วก็หมายความว่ามีตำแหน่งราชการที่ว่างเป็นจำนวนมากที่สามารถบรรจุเพิ่มได้หลาย ๆ คนก็กำลังชั่งน้ำหนักดูแล้วว่าควรจะอยู่กับผู้ใดตอนนี้มีเพียงเซียวหลินเทียนกับองค์ชายคังที่มีน้ำหนักพอ ๆ กัน เมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีฝีมือพอ ๆ กันแล้วก็ยากจะตัดสินผู้ชนะบางคนก็คิดว่า ฮองเฮาเว่ยทำความผิดร้ายแรงเช่นนี้ ชั่วชีวิตนี้ก็คงไม่มีความน่าจะเป็นที่จะพลิกฟื้นกลับมาได้อีกแล้ว ในวังจึงมีพระชายาเส้าที่ยิ่งใหญ่เพียงผู้เดียว องค์ชายคังมีมารดาคอยสนับสนุนเช่นนี้ ก็นำเซียวหลินเทียนไปแล้ว!บางคนก็คิดว่าเซียวหลินเทียนมีทั้งความกล้าหาญและมีกลยุทธ์ ท
ไม่ว่าองค์หญิงใหญ่จะตีโพยตีพายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดสนใจคุกที่ราชสำนักฝ่ายในนั้นมืดมาก ตะเกียงน้ำมันที่มืดสลัวนั้นกะพริบไปมา แล้วบรรยากาศที่รกร้างนั้นก็กระจายออกไปจนทั่วองค์หญิงใหญ่ด่าจนเหนื่อยแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้น ปิดหน้าร้องไห้อย่างขมขื่นมิรู้ว่ากำลังเสียใจ หรือว่ารู้สึกน้อยใจอยู่เฮ่อหรงนั่งอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ สายตาก็จับจ้องไปที่เหล้าพิษ แววตาของเขาสั่นไหว มิรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ผ่านไปสักพัก ก็เห็นว่าตะเกียงน้ำมันที่มืดสลัวนั้นกะพริบเล็กน้อยแล้วน้ำมันที่อยู่ในถ้วยก็หมดไป ทำให้ในคุกตกอยู่ในความมืดมิด“รังแกกันเกินไปแล้ว! แม้ข้าเป็นหงส์ที่ร่วงหล่นลงมาแต่ก็สูงส่งกว่าพวกเจ้า ใครก็ได้ มาจุดตะเกียงให้ข้าใหม่ที!”องค์หญิงใหญ่ด่าขึ้นมาอย่างโมโหแต่องค์หญิงใหญ่ตะโกนอยู่นานก็ไม่มีผู้ใดตอบรับสุดท้ายเฮ่อหรงก็ส่งเสียงออกมา เขาขยับเข้ามาแล้วยื่นมือไปโอบองค์หญิงใหญ่ไว้แล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวล“ท่านแม่ มิต้องเรียกแล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นนักโทษ พวกคนต่ำต้อยหัวสูงเหล่านั้นไม่มีทางสนใจพวกเราหรอก!”“รอให้พวกเราคิดหาวิธีหนีออกไปได้ก่อนแล้วค่อยสังหารพวกเขาทั้งหมด!”องค์หญิงใหญ่ร้องไห้อยู่ใน