“เจ้าดูสิ่งนี้อีกที เจ้าจะบอกกับจวนขุนนางเยี่ยงไรว่า เหตุใดรายการสินสอดของหลิงเยี่ยนจึงมาปรากฎอยู่ในสินสอดของท่านแม่ข้าได้?”หลิงอวี๋เอารายการสินสอดของหลิงเยี่ยนที่ค้นหามาโยนไปที่ตัวหวางซือด้วยปัญหาที่เข้ามาติด ๆ กันนี้ทำให้หวางซือรับมือมิไหว มีหรือที่นางจะมิรู้ว่าตนเองยักยอกสินสอดของหลานฮุ่ยจวนไปเท่าใด สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในสินสอดทั้งหมด หากนำไปให้จวนขุนนางเทียบดูก็มิอาจปฏิเสธได้เลย“หลิงอวี๋ เจ้าเนรคุณ ต่อให้ข้าจะนำสินสอดของแม่เจ้าไปสมทบให้หลิงเยี่ยนแล้วจะอย่างไรเล่า?”“หลังจากที่แม่เจ้าตาย ตระกูลหลิงของเราก็เลี้ยงดูพวกเจ้าสองพี่น้องจนเติบโตมา ที่ข้านำสินสอดของแม่เจ้ามาก็แค่นำมาชดเชยความเสียหายของตระกูลหลิงเท่านั้นเอง!”“เหลวไหล!”ท่านอดีตเสนาบดีอดมิได้ที่จะโพล่งขึ้นมา เขาโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว“ตอนนั้นที่ท่านอัครเสนาบดีหลานจากไป ก็ได้ให้เงินก้อนโตไว้ให้ฮูหยินของข้าแล้วบอกว่าเป็นค่าเลี้ยงดูหลิงอวี๋กับหลิงเสี่ยง เงินเหล่านี้มากพอที่จะเลี้ยงทุกคนในตระกูลหลิงด้วยซ้ำ ไหนเลยต้องเอาสินสอดของหลานฮุ่ยจวนไปเลี้ยงดูสองพี่น้องอีก!”“หวางซือ เจ้าช่างทำให้ตระกูลหลิงเสียหน้าจริง ๆ ช่างน
หวางซือร้องไห้ต่อไปมิไหวแล้ว นางมองหลิงอวี๋อย่างงุนงง นางรู้ได้อย่างไรว่าในห้องนอนของตนมีรูลับอยู่?อีกอย่าง หลักฐานที่อยู่ในมือแม่นมเหมาก็ถูกคนที่ต้องการจะข่มขู่ตนเอาไปแล้ว หลิงอวี๋ยังมีอยู่ได้เยี่ยงไร?นางจึงตะโกนขึ้นมา “ไม่ เป็นไปมิได้! เจ้าจะมีหลักฐานที่แม่นมเหมาให้ได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ เจ้าช่างชั่วร้ายจริง ๆ เจ้าจงใจสร้างหลักฐานเท็จเพื่อใส่ร้ายข้า!”หลิงอวี๋ก้มมองหวางซือแล้วมุมปากก็กระตุกขึ้นอย่างเยาะเย้ย “คนเจ้าเล่ห์ย่อมมีแผนรับมือหลายทาง แม่นมเหมาอยู่กับเจ้ามาทั้งชีวิต ทำเรื่องเลว ๆ ให้เจ้ามาตั้งมากมาย นางเตรียมการป้องกันเจ้าวางแผนชั่วร้ายสังหารนางไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว! แต่คิดมิถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วก็ยังต้องมาพบกับการสังหารของเจ้าอยู่ดี!”“นางรู้ว่าชีวิตของตนเองจะมิยืนยาว และรู้ว่าเจ้ารู้ความสัมพันธ์ของนางกับหลิงผิง ดังนั้นของที่นางทิ้งไว้ให้หลิงผิงก็แค่เพื่อให้เจ้าสับสนเท่านั้น!”ตอนนั้นหลิงผิงสารภาพว่า แม่นมเหมาเป็นยายของตน ก่อนตายแม่นมเหมาได้ทิ้งหลักฐานไว้ให้หลิงผิงเพียงแต่ตอนนั้นหลิงผิงอยากจะหนีไปจึงโกหกหลิงอวี๋ว่านางซ่อนหลักฐานเอาไว้ที่อื่น ให้หลิงอวี๋เอาเงินมาให้นางก้
“สารเลว นี่เจ้าจะทำลายตระกูลหลิงของเราให้ตายกันหมดเลยรึ?”หลิงเสียงเซิงโกรธจนโพล่งด่าออกมา “ข้าจะหย่ากับคนสารเลวเช่นเจ้า! เจ้ามิคู่ควรที่จะเป็นแม่ของเฟิงเอ๋อร์ เยี่ยนเอ๋อร์เลย!”หวางซือร้องออกมาแบบจะเป็นจะตาย “หลิงอวี๋ เจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าถูกข่มขู่ที่ไหนกัน เงินเหล่านั้น...เงินเหล่านั้นเป็นค่าใช้จ่ายปกติของจวนเสนาบดีอยู่แล้ว! จริงอยู่ มีส่วนใหญ่เป็นค่านสินสอดให้หลิงเยี่ยนไปแล้ว!” “หากเจ้ามีความสามารถก็ไปเอากลับมาจากตำหนักองค์ชายเว่ยสิ! ถึงอย่างไรเจ้าก็อย่าได้คิดที่จะเอาความคิดฐานสมคบคิดกับแคว้นศัตรูมากดหัวข้าเลย!”หลิงอวี๋ยิ้มดูถูก “คนที่ต้องการเงินจากเจ้าทุกครั้งคือคนของตำหนักองค์ชายเว่ยมิใช่รึะ?”“เงินของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนที่ยักยอกไปหลังจากที่หลิงผิงตายแล้ว ข้ารู้เรื่องนี้ ข้าหาคนคอยจับตามองเจ้าอยู่!”“เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า นั่นคือคนของตำหนักองค์ชายเว่ย? ข้าบอกเจ้าได้เลยว่านั่นคือสายลับของฉีตะวันออก… ซึ่งก็คืออิงเหนียงอนุชายาขององค์ชายเว่ยในตอนนี้!”“เงินเหล่านั้นที่เจ้าส่งให้นางมันผ่านมือนางไปใช้เลี้ยงดูสายลับของฉีตะวันออก! หวางซือ ข้ามิได้เปิดโปงเจ้า แต่ข้าอยากจับ
หวางซือก็เคยมีความคิดที่จะฆ่าเช่นกัน อยากจะฆ่าอิงเหนียงปิดปากไปเสียแต่อิงเหนียงผู้นี้เก่งกาจเกินกว่าที่นางคาดคิดไว้มาก คนที่นางส่งไปมิใช่คู่ต่อสู้ของอิงเหนียงเลย ทั้งยังถูกอิงเหนียงจัดการทั้งหมดอีกด้วยตอนนี้เมื่อได้ยินหลิงอวี๋พูดตัวตนที่แท้จริงของอิงเหนียงออกมา หวางซือก็รู้ว่าตนพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่าแล้วนางคุกเข่าลงกับพื้น จนปัญญาไปในทันทีนางรู้ว่าการที่หลิงอวี๋เลือกที่จะเปิดเผยตนกับในครอบครัวก็เพราะมิอยากให้เรื่องนี้ใหญ่โตและส่งผลกระทบถึงชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนผู้ที่หลิงอวี๋ต้องการปกป้องก็คือชื่อเสียงของท่านอดีตเสนาบดี และครอบครัวหลิงหว่านแต่หวางซือเองก็มีผู้ที่ต้องการปกป้องเช่นกัน ลูก ๆ ของนางและตระกูลหวางล้วนเป็นความอ่อนแอของนาง! พอกันที! พอแล้ว! พอได้แล้ว!ก็เหมือนกับที่หลิงเสียงเซิงบอก ตนตายเพียงผู้เดียวสามารถปกป้องพวกเขาทั้งหมดได้ มันก็คุ้มค่าแล้วหวางซือก้มหน้าพลางเอ่ยเสียงต่ำ “ข้ายอมรับ ข้ายักยอกเงินของท่านอดีตเสนาบดีเอง แล้วข้าก็ให้แม่นมเหมาวางยาพิษหลานฮุ่ยจวนด้วย… ข้ายอมรับทั้งหมด ทั้งหมดนั้นข้าทำเอง!”หลิงเสียงเซิงทอดถอนใจพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “อาอวี๋ ข้
“การตายของแม่ข้าเกี่ยวข้องกับตำราการแพทย์ซือคงชวิ่นหรือไม่?”“เจ้าสั่งให้หลิงหลานไปขโมยของที่เรือนบุหงาของข้า เป้าหมายก็คือตำราเล่มนี้กระมัง?”หลิงอวี๋ยิงคำถามออกไปติด ๆ กัน นางจ้องตาของหวางซือเขม็ง เมื่อเห็นความมิมั่นคงในแววตาของนางก็รู้เลยว่าตนเองเดามิผิด!“คนที่สั่งเจ้าให้วางยาพิษท่านแม่ของข้าคือคนที่อยู่ในวัง… พระชายาเส้าใช่หรือไม่?”อย่าว่าแต่หวางซือเลย แม้แต่เซียวหลินเทียนที่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปด้วย หลิงอวี๋คิดเชื่อมโยงไปจนถึงตัวของพระชายาเส้าได้เยี่ยงไร?“พระชายาเส้าสงสัยว่า ท่านแม่ของข้าได้รับตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นมา แต่เมื่อถามท่านแม่ข้าแล้วนางมิได้ยอมรับ!”“นางจึงมิพอใจให้เจ้าวางยาท่านแม่ของข้า และยาพิษชนิดนี้หมอโดยทั่วไปมิสามารถแก้พิษได้ด้วยซ้ำ!”หลิงอวี๋นึกถึงยาแก้พิษสามเม็ดนั้นของหลานฮุ่ยจวนที่อยู่ในมิติแล้วก็เอ่ยอย่างโกรธ ๆ “หากแม่ข้ามีตำราของซือคงชวิ่น นางจะต้องแก้พิษให้ตนเองได้!”“แต่นางไม่มี ดังนั้นจึงถูกพิษทำลายร่างกายอย่างช้า ๆ จนตาย!”หลิงอวี๋พูดถึงตรงนี้ก็เห็นว่าท่านอดีตเสนาบดีมองมาที่ตนอย่างประหลาดใจนางรู้ดีถึงความสับสนของท่านอดีตเสนาบดีท่านอดีตเ
หวางซือยังพูดมิทันจบก็สิ้นลมหายใจไปเสียแล้วที่มุมปากของนางยังมีรอยยิ้มเยาะเย้ยอยู่เลย หลิงอวี๋มองแล้วก็ขมวดคิ้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะมิได้หวังที่จะพึ่งคำสารภาพของหวางซือมาโค่นล้มพระชายาเส้า แต่อย่างน้อยก็สามารถเพิ่มหมากในการต่อสู้กับพระชายาเส้าไปได้อีกหนึ่งไหนเลยจะคิดว่าหวางซือจะหวาดหวั่นพระชายาเส้าเช่นนี้ป้าสะใภ้ใหญ่สะดุ้งตกใจกับการตายของหวางซือ นางมองอยู่นิ่งมิรู้ว่าควรจะเห็นใจหวางซือหรือว่าควรจะโกรธเกลียดที่นางทำเรื่องเลวร้ายกับหลานฮุ่ยจวนหลิงเสียงเซิงกลัวเพียงว่า ความชั่วร้ายของหวางซือจะดึงตนเข้าไปเกี่ยวด้วย และไปทำให้ท่านอ๋องอี้กับหลิงอวี๋เกลียดตนเองเขารีบเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “อาอวี๋ หวางซือกลัวความผิดฆ่าตัวตายไปแล้ว นางเองก็รับโทษที่ควรจะได้รับแล้ว! เจ้าอย่าได้โกรธเกลียดนางอีกเลย!”“พ่อขอโทษเจ้ากับแม่ของเจ้าที่แม้แต่หวางซือทำเรื่องที่เลวร้ายเหล่านี้ก็ยังมิรู้… วันข้างหน้าพ่อจะย้ายหลุมศพของแม่เจ้าเข้าไปที่หลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลหลิง...”“มิต้อง! ท่านแม่ของข้าจากไปอย่างสงบไปนานแล้ว ข้าเชื่อว่านางก็คงมิอยากให้ฝังนางไว้ในหลุมศพบรรพบุรุษตระกูลหลิงหรอก!”หลิงอวี๋พูดตัด
หลิงอวี๋เห็นว่าป้าสะใภ้ใหญ่รับปากแล้วก็โล่งอกเช่นกันคนที่ทำผิดต่อตนคือหลิงเสียงเซิงกับหวางซือ นางแก้แค้นก็มิสามารถนิ่งดูดายมิสนใจจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนได้มีป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยดูแลท่านอดีตเสนาบดี นางก็วางใจหลิงอวี๋เอ่ยกับหลิงเสียงเซิงตรง ๆ “ท่านพ่อ ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ถือโอกาสตอนที่ท่านยังมิไป พาคนไปเอาสินสอดของหลิงเยี่ยนคืนจากตำหนักองค์ชายเว่ยเถิด!”“ท่านอ๋อง ท่านจัดองครักษ์ไปกับท่านพ่อสักกลุ่มหนึ่งเถิด! หม่อมฉันมิอาจปล่อยสินสอดของท่านแม่หม่อมฉันให้องค์ชายเว่ยเปล่า ๆ ได้เพคะ!”หลิงเสียงเซิงยอมรับว่า ตนเป็นลูกสาวต่อหน้าองค์จักรพรรดิแล้ว หลิงอวี๋ก็มิอยากจะทำให้เสียคำพูด การเรียกท่านพ่อนี้ก็นับว่าเป็นการปรองดองกันแล้วกระมัง!ขอเพียงต่อไปหลิงเสียงเซิงมิทำสิ่งใดเกินเหตุ หลิงอวี๋เองก็เห็นแก่หน้าของท่านอดีตเสนาบดี มิอยากจะขัดแย้งกับหลิงเสียงเซิงอีก“เอ่อ...”หลิงเสียงเซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อาอวี๋ ในเมื่อเจ้าส่งคนไปมาคอยจับตาดูหวางซือ เหตุใดเจ้าจึงทนมองนางเอาเงินของท่านปู่เจ้าไปให้สายลับได้เล่า! นั่นมันหลายแสนเชียวนะ!”หลิงอวี๋อ่านความคิดของหลิงเสียงเซิงออก นี่เขาทำ
นางรับใช้คำนับหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างตื่นเต้น “บ่าวจะเอาคำพูดของคุณหนูใหญ่ไปแจ้งแม่นางกู่เจ้าค่ะ บ่าวขอบพระคุณคุณหนูใหญ่แทนแม่นางกู่ด้วยนะเจ้าคะ!”นางรับใช้ผู้นี้เป็นคนที่กู่ซุ่ยพาเข้ามา นางภักดีต่อกู่ซุ่ยมาก น้ำเสียงตื่นเต้นนี้ก็มาจากใจจริงเช่นกัน...เจ้านายอยู่ที่นี่ พวกนางก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายไปกับนางได้ด้วยเช่นกันเซียวหลินเทียนเห็นนางรับใช้ออกไปอย่างมีความสุขก็หันไปทางหลิงอวี๋พลางยิ้มอย่างปลื้มใจ แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้เซียวหลินเทียนเอ่ยปลอบโยน “แก้แค้นให้ท่านแม่ของเจ้าแล้ว เจ้าเองก็หมดปัญหาทางใจไปได้อีกอย่างแล้ว!”“ทางด้านพระชายาเส้า… เราค่อยเป็นค่อยไปกันเถิด! สักวันหนึ่งจะต้องทำให้นางชดใช้!”“เพคะ!”หลิงอวี๋พยักหน้า ครั้นนึกถึงอิงเหนียงจึงเอ่ย “เรื่องอิงเหนียงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดนะเพคะ องค์ชายเว่ยเสียผลประโยชน์ไป ยากมากที่จะสร้างตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง หากอิงเหนียงเห็นว่าเขาไม่มีผลประโยชน์ที่คู่ควรแล้ว มิรู้ว่าจะจงใจสร้างเรื่องอะไรอีกหรือไม่!”“ยิ่งไปกว่านั้น หากการตายของหวางซือแพร่ออกไป อิงเหนียงจะต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม พวกเรามิสามารถปล่อยโอกาสให้นางสร้างเรื่องได
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก