หวางซือก็เคยมีความคิดที่จะฆ่าเช่นกัน อยากจะฆ่าอิงเหนียงปิดปากไปเสียแต่อิงเหนียงผู้นี้เก่งกาจเกินกว่าที่นางคาดคิดไว้มาก คนที่นางส่งไปมิใช่คู่ต่อสู้ของอิงเหนียงเลย ทั้งยังถูกอิงเหนียงจัดการทั้งหมดอีกด้วยตอนนี้เมื่อได้ยินหลิงอวี๋พูดตัวตนที่แท้จริงของอิงเหนียงออกมา หวางซือก็รู้ว่าตนพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่าแล้วนางคุกเข่าลงกับพื้น จนปัญญาไปในทันทีนางรู้ว่าการที่หลิงอวี๋เลือกที่จะเปิดเผยตนกับในครอบครัวก็เพราะมิอยากให้เรื่องนี้ใหญ่โตและส่งผลกระทบถึงชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนผู้ที่หลิงอวี๋ต้องการปกป้องก็คือชื่อเสียงของท่านอดีตเสนาบดี และครอบครัวหลิงหว่านแต่หวางซือเองก็มีผู้ที่ต้องการปกป้องเช่นกัน ลูก ๆ ของนางและตระกูลหวางล้วนเป็นความอ่อนแอของนาง! พอกันที! พอแล้ว! พอได้แล้ว!ก็เหมือนกับที่หลิงเสียงเซิงบอก ตนตายเพียงผู้เดียวสามารถปกป้องพวกเขาทั้งหมดได้ มันก็คุ้มค่าแล้วหวางซือก้มหน้าพลางเอ่ยเสียงต่ำ “ข้ายอมรับ ข้ายักยอกเงินของท่านอดีตเสนาบดีเอง แล้วข้าก็ให้แม่นมเหมาวางยาพิษหลานฮุ่ยจวนด้วย… ข้ายอมรับทั้งหมด ทั้งหมดนั้นข้าทำเอง!”หลิงเสียงเซิงทอดถอนใจพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “อาอวี๋ ข้
“การตายของแม่ข้าเกี่ยวข้องกับตำราการแพทย์ซือคงชวิ่นหรือไม่?”“เจ้าสั่งให้หลิงหลานไปขโมยของที่เรือนบุหงาของข้า เป้าหมายก็คือตำราเล่มนี้กระมัง?”หลิงอวี๋ยิงคำถามออกไปติด ๆ กัน นางจ้องตาของหวางซือเขม็ง เมื่อเห็นความมิมั่นคงในแววตาของนางก็รู้เลยว่าตนเองเดามิผิด!“คนที่สั่งเจ้าให้วางยาพิษท่านแม่ของข้าคือคนที่อยู่ในวัง… พระชายาเส้าใช่หรือไม่?”อย่าว่าแต่หวางซือเลย แม้แต่เซียวหลินเทียนที่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปด้วย หลิงอวี๋คิดเชื่อมโยงไปจนถึงตัวของพระชายาเส้าได้เยี่ยงไร?“พระชายาเส้าสงสัยว่า ท่านแม่ของข้าได้รับตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นมา แต่เมื่อถามท่านแม่ข้าแล้วนางมิได้ยอมรับ!”“นางจึงมิพอใจให้เจ้าวางยาท่านแม่ของข้า และยาพิษชนิดนี้หมอโดยทั่วไปมิสามารถแก้พิษได้ด้วยซ้ำ!”หลิงอวี๋นึกถึงยาแก้พิษสามเม็ดนั้นของหลานฮุ่ยจวนที่อยู่ในมิติแล้วก็เอ่ยอย่างโกรธ ๆ “หากแม่ข้ามีตำราของซือคงชวิ่น นางจะต้องแก้พิษให้ตนเองได้!”“แต่นางไม่มี ดังนั้นจึงถูกพิษทำลายร่างกายอย่างช้า ๆ จนตาย!”หลิงอวี๋พูดถึงตรงนี้ก็เห็นว่าท่านอดีตเสนาบดีมองมาที่ตนอย่างประหลาดใจนางรู้ดีถึงความสับสนของท่านอดีตเสนาบดีท่านอดีตเ
หวางซือยังพูดมิทันจบก็สิ้นลมหายใจไปเสียแล้วที่มุมปากของนางยังมีรอยยิ้มเยาะเย้ยอยู่เลย หลิงอวี๋มองแล้วก็ขมวดคิ้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะมิได้หวังที่จะพึ่งคำสารภาพของหวางซือมาโค่นล้มพระชายาเส้า แต่อย่างน้อยก็สามารถเพิ่มหมากในการต่อสู้กับพระชายาเส้าไปได้อีกหนึ่งไหนเลยจะคิดว่าหวางซือจะหวาดหวั่นพระชายาเส้าเช่นนี้ป้าสะใภ้ใหญ่สะดุ้งตกใจกับการตายของหวางซือ นางมองอยู่นิ่งมิรู้ว่าควรจะเห็นใจหวางซือหรือว่าควรจะโกรธเกลียดที่นางทำเรื่องเลวร้ายกับหลานฮุ่ยจวนหลิงเสียงเซิงกลัวเพียงว่า ความชั่วร้ายของหวางซือจะดึงตนเข้าไปเกี่ยวด้วย และไปทำให้ท่านอ๋องอี้กับหลิงอวี๋เกลียดตนเองเขารีบเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “อาอวี๋ หวางซือกลัวความผิดฆ่าตัวตายไปแล้ว นางเองก็รับโทษที่ควรจะได้รับแล้ว! เจ้าอย่าได้โกรธเกลียดนางอีกเลย!”“พ่อขอโทษเจ้ากับแม่ของเจ้าที่แม้แต่หวางซือทำเรื่องที่เลวร้ายเหล่านี้ก็ยังมิรู้… วันข้างหน้าพ่อจะย้ายหลุมศพของแม่เจ้าเข้าไปที่หลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลหลิง...”“มิต้อง! ท่านแม่ของข้าจากไปอย่างสงบไปนานแล้ว ข้าเชื่อว่านางก็คงมิอยากให้ฝังนางไว้ในหลุมศพบรรพบุรุษตระกูลหลิงหรอก!”หลิงอวี๋พูดตัด
หลิงอวี๋เห็นว่าป้าสะใภ้ใหญ่รับปากแล้วก็โล่งอกเช่นกันคนที่ทำผิดต่อตนคือหลิงเสียงเซิงกับหวางซือ นางแก้แค้นก็มิสามารถนิ่งดูดายมิสนใจจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนได้มีป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยดูแลท่านอดีตเสนาบดี นางก็วางใจหลิงอวี๋เอ่ยกับหลิงเสียงเซิงตรง ๆ “ท่านพ่อ ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ถือโอกาสตอนที่ท่านยังมิไป พาคนไปเอาสินสอดของหลิงเยี่ยนคืนจากตำหนักองค์ชายเว่ยเถิด!”“ท่านอ๋อง ท่านจัดองครักษ์ไปกับท่านพ่อสักกลุ่มหนึ่งเถิด! หม่อมฉันมิอาจปล่อยสินสอดของท่านแม่หม่อมฉันให้องค์ชายเว่ยเปล่า ๆ ได้เพคะ!”หลิงเสียงเซิงยอมรับว่า ตนเป็นลูกสาวต่อหน้าองค์จักรพรรดิแล้ว หลิงอวี๋ก็มิอยากจะทำให้เสียคำพูด การเรียกท่านพ่อนี้ก็นับว่าเป็นการปรองดองกันแล้วกระมัง!ขอเพียงต่อไปหลิงเสียงเซิงมิทำสิ่งใดเกินเหตุ หลิงอวี๋เองก็เห็นแก่หน้าของท่านอดีตเสนาบดี มิอยากจะขัดแย้งกับหลิงเสียงเซิงอีก“เอ่อ...”หลิงเสียงเซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อาอวี๋ ในเมื่อเจ้าส่งคนไปมาคอยจับตาดูหวางซือ เหตุใดเจ้าจึงทนมองนางเอาเงินของท่านปู่เจ้าไปให้สายลับได้เล่า! นั่นมันหลายแสนเชียวนะ!”หลิงอวี๋อ่านความคิดของหลิงเสียงเซิงออก นี่เขาทำ
นางรับใช้คำนับหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างตื่นเต้น “บ่าวจะเอาคำพูดของคุณหนูใหญ่ไปแจ้งแม่นางกู่เจ้าค่ะ บ่าวขอบพระคุณคุณหนูใหญ่แทนแม่นางกู่ด้วยนะเจ้าคะ!”นางรับใช้ผู้นี้เป็นคนที่กู่ซุ่ยพาเข้ามา นางภักดีต่อกู่ซุ่ยมาก น้ำเสียงตื่นเต้นนี้ก็มาจากใจจริงเช่นกัน...เจ้านายอยู่ที่นี่ พวกนางก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายไปกับนางได้ด้วยเช่นกันเซียวหลินเทียนเห็นนางรับใช้ออกไปอย่างมีความสุขก็หันไปทางหลิงอวี๋พลางยิ้มอย่างปลื้มใจ แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้เซียวหลินเทียนเอ่ยปลอบโยน “แก้แค้นให้ท่านแม่ของเจ้าแล้ว เจ้าเองก็หมดปัญหาทางใจไปได้อีกอย่างแล้ว!”“ทางด้านพระชายาเส้า… เราค่อยเป็นค่อยไปกันเถิด! สักวันหนึ่งจะต้องทำให้นางชดใช้!”“เพคะ!”หลิงอวี๋พยักหน้า ครั้นนึกถึงอิงเหนียงจึงเอ่ย “เรื่องอิงเหนียงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดนะเพคะ องค์ชายเว่ยเสียผลประโยชน์ไป ยากมากที่จะสร้างตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง หากอิงเหนียงเห็นว่าเขาไม่มีผลประโยชน์ที่คู่ควรแล้ว มิรู้ว่าจะจงใจสร้างเรื่องอะไรอีกหรือไม่!”“ยิ่งไปกว่านั้น หากการตายของหวางซือแพร่ออกไป อิงเหนียงจะต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม พวกเรามิสามารถปล่อยโอกาสให้นางสร้างเรื่องได
นี่เป็นการเสียสละแบบใดกัน มีบ้านก็กลับมิได้ มีบิดามารดาก็มิสามารถรู้จักกันได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมานานแรมปีเซียวหลินเทียนเองก็มีองครักษ์เงา แต่มิได้โหดเช่นนี้ เขามิสามารถเข้าใจได้ว่าหงเลี่ยงคิดเช่นไรถึงได้เลือกเส้นทางนี้“ลองคิดถึงอายุขององค์หญิงใหญ่กับหงเลี่ยงดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ขันทีเซี่ยเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิเข้าใจจึงแนะให้อีกอย่างหวังดีอายุเท่ากัน!เซียวหลินเทียนราวกับตื่นรู้ขึ้นมาทันที องค์หญิงใหญ่กับหงเลี่ยงอายุพอ ๆ กัน หรือว่าจะมีความสนิทสนมกันในระหว่างพวกเขาสองคน?องค์หญิงใหญ่เสียสามีไปตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่าจนกระทั่งก่อนตายหงเลี่ยงก็มิได้แต่งงาน!ที่แท้นี่ก็คือความลับที่องค์หญิงใหญ่สามารถยื่นมือเข้าไปในค่ายกองทหารเสือได้อย่างราบรื่นนี่เองก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนมิเคยคิดออกเลย ค่ายกองทหารเสืออยู่ในการควบคุมของเสด็จพ่อ แม้ว่าตอนนั้นราชองครักษ์ของค่ายกองทหารเสือจะเป็นเฮ่อจิ้นผู้นำตระกูลเฮ่อแต่เฮ่อจิ้นก็เกษียณไปตั้งหลายปีแล้ว องค์หญิงใหญ่จะควบคุมค่ายกองทหารเสือได้อย่างไรอีก?ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง!เซียวหลินเทียนตกใจมาก หงเลี่ยงต้องชอบองค์หญิงใหญ่มากแค่ไห
เซียวหลินเทียนนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในห้องทรงพระอักษรของจักรพรรดิอู่อันหนึ่งชั่วยามกว่า ๆ แล้วจึงออกไปนอกจากขันทีเซี่ยแล้วก็ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าทั้งสองคุยสิ่งใดกันในห้องทรงพระอักษรพระชายาเส้าอยู่ที่ตำหนักของตนแล้วได้รับข่าวจากสายลับ นางกระตุกยิ้มมุมปาก นี่หมายความว่าจักรพรรดิอู่อันเลือกที่จะใช้เซียวหลินเทียนแล้วสินะวันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายในพิธีอภิเษกสมรสจวนอ๋องหรง แม้ว่าพระชายาเส้ามิได้ไป แต่ข่าวที่นางควรรู้ นางก็มิได้ขาดหายไปเลยได้ยินว่า แม้ว่าจะตรวจค้นเจอทางใต้ดินกับเงินที่จวนอ๋องหรง จักรพรรดิอู่อันก็มิได้จัดการอย่างไรกับอ๋องหรงนอกจากการถอดตำแหน่งของเฮ่อหรง ในใจของพระชายาเส้าก็มิพอใจเท่าไรนักแต่ข่าวที่เฮ่อจู้กับพระชายาคังถูกประหารนั้นทำให้พระชายาเส้ามีความสุขขึ้นมาอำนาจของตระกูลเฮ่อและตระกูลเว่ยค่อย ๆ ถูกลดทอนลงตามลำดับ เช่นนั้นตำแหน่งของตนเองก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นเพียงแต่สิ่งที่ทำให้พระชายาเส้ากังวลก็คือ นี่แสดงให้เห็นว่า นับวันอ๋องอี้จะอยู่ในสายตาของจักรพรรดิอู่อันมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนองค์ชายคังก็จะถูกลืมเลือนออกไปจากสมองของจักรพรรดิอู่อันเมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับค่ายกองทหารเสือ ก็
เรื่องที่ฉินรั่วซือจะเป็นชายารองของเซียวหลินเทียนนั้นฮองเฮาเว่ยเป็นผู้ตรัส เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าฉินรั่วซือเป็นคนของฮองเฮาเว่ย!พระชายาเส้าคงจะโง่ถ้าไปช่วยฮองเฮาเว่ยทำให้หลิงอวี๋ขุ่นเคืองแต่เซียวทงเองก็มิใช่คนโง่ เห็น ๆ กันอยู่ว่า นางรู้ว่าตนกับฮองเฮาเว่ยมิถูกกัน เหตุใดยังมาให้ตนทำเรื่องนี้อีกเล่า?เป้าหมายที่แท้จริงของเซียวทงคืออะไรกันแน่?พระชายาเส้าที่หลักแหลมมาโดยตลอด แต่ยามนี้กลับค่อนข้างมิเข้าใจเจตนาของเซียวทง“พระชายา ท่านแปลกใจใช่หรือไม่ว่าเหตุใดหม่อมฉันถึงมาจุ้นจ้านเรื่องนี้?”ดูเหมือนว่า เซียวทงจะมองความสงสัยของพระชายาเส้าออก จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “พระชายา หม่อมฉันรู้ว่าท่านกับพี่สะใภ้รองต่างมิชอบหลิงอวี๋ การทำเช่นนี้ก็คือการสร้างปัญหาให้หลิงอวี๋เพคะ!”“ก่อนหน้านี้ รั่วซือกับหม่อมฉันมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่พวกเราคืนดีกันแล้ว! หม่อมฉันรับประกันได้เลย ขอเพียงท่านช่วยให้รั่วซือได้สมปรารถนา ต่อไปรั่วซือจะเชื่อฟังท่านแน่นอน!”“หากท่านให้นางไปทางตะวันออก นางจะไม่มีทางไปทางตะวันตก! และนางยังสามารถขัดขวางท่านอ๋องอี้มิให้แย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทกับองค์ชายคังได้อีกด้วยเพคะ!”