หลิงอวี๋เห็นว่าป้าสะใภ้ใหญ่รับปากแล้วก็โล่งอกเช่นกันคนที่ทำผิดต่อตนคือหลิงเสียงเซิงกับหวางซือ นางแก้แค้นก็มิสามารถนิ่งดูดายมิสนใจจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนได้มีป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยดูแลท่านอดีตเสนาบดี นางก็วางใจหลิงอวี๋เอ่ยกับหลิงเสียงเซิงตรง ๆ “ท่านพ่อ ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ถือโอกาสตอนที่ท่านยังมิไป พาคนไปเอาสินสอดของหลิงเยี่ยนคืนจากตำหนักองค์ชายเว่ยเถิด!”“ท่านอ๋อง ท่านจัดองครักษ์ไปกับท่านพ่อสักกลุ่มหนึ่งเถิด! หม่อมฉันมิอาจปล่อยสินสอดของท่านแม่หม่อมฉันให้องค์ชายเว่ยเปล่า ๆ ได้เพคะ!”หลิงเสียงเซิงยอมรับว่า ตนเป็นลูกสาวต่อหน้าองค์จักรพรรดิแล้ว หลิงอวี๋ก็มิอยากจะทำให้เสียคำพูด การเรียกท่านพ่อนี้ก็นับว่าเป็นการปรองดองกันแล้วกระมัง!ขอเพียงต่อไปหลิงเสียงเซิงมิทำสิ่งใดเกินเหตุ หลิงอวี๋เองก็เห็นแก่หน้าของท่านอดีตเสนาบดี มิอยากจะขัดแย้งกับหลิงเสียงเซิงอีก“เอ่อ...”หลิงเสียงเซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อาอวี๋ ในเมื่อเจ้าส่งคนไปมาคอยจับตาดูหวางซือ เหตุใดเจ้าจึงทนมองนางเอาเงินของท่านปู่เจ้าไปให้สายลับได้เล่า! นั่นมันหลายแสนเชียวนะ!”หลิงอวี๋อ่านความคิดของหลิงเสียงเซิงออก นี่เขาทำ
นางรับใช้คำนับหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างตื่นเต้น “บ่าวจะเอาคำพูดของคุณหนูใหญ่ไปแจ้งแม่นางกู่เจ้าค่ะ บ่าวขอบพระคุณคุณหนูใหญ่แทนแม่นางกู่ด้วยนะเจ้าคะ!”นางรับใช้ผู้นี้เป็นคนที่กู่ซุ่ยพาเข้ามา นางภักดีต่อกู่ซุ่ยมาก น้ำเสียงตื่นเต้นนี้ก็มาจากใจจริงเช่นกัน...เจ้านายอยู่ที่นี่ พวกนางก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายไปกับนางได้ด้วยเช่นกันเซียวหลินเทียนเห็นนางรับใช้ออกไปอย่างมีความสุขก็หันไปทางหลิงอวี๋พลางยิ้มอย่างปลื้มใจ แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้เซียวหลินเทียนเอ่ยปลอบโยน “แก้แค้นให้ท่านแม่ของเจ้าแล้ว เจ้าเองก็หมดปัญหาทางใจไปได้อีกอย่างแล้ว!”“ทางด้านพระชายาเส้า… เราค่อยเป็นค่อยไปกันเถิด! สักวันหนึ่งจะต้องทำให้นางชดใช้!”“เพคะ!”หลิงอวี๋พยักหน้า ครั้นนึกถึงอิงเหนียงจึงเอ่ย “เรื่องอิงเหนียงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดนะเพคะ องค์ชายเว่ยเสียผลประโยชน์ไป ยากมากที่จะสร้างตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง หากอิงเหนียงเห็นว่าเขาไม่มีผลประโยชน์ที่คู่ควรแล้ว มิรู้ว่าจะจงใจสร้างเรื่องอะไรอีกหรือไม่!”“ยิ่งไปกว่านั้น หากการตายของหวางซือแพร่ออกไป อิงเหนียงจะต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม พวกเรามิสามารถปล่อยโอกาสให้นางสร้างเรื่องได
นี่เป็นการเสียสละแบบใดกัน มีบ้านก็กลับมิได้ มีบิดามารดาก็มิสามารถรู้จักกันได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมานานแรมปีเซียวหลินเทียนเองก็มีองครักษ์เงา แต่มิได้โหดเช่นนี้ เขามิสามารถเข้าใจได้ว่าหงเลี่ยงคิดเช่นไรถึงได้เลือกเส้นทางนี้“ลองคิดถึงอายุขององค์หญิงใหญ่กับหงเลี่ยงดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ขันทีเซี่ยเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิเข้าใจจึงแนะให้อีกอย่างหวังดีอายุเท่ากัน!เซียวหลินเทียนราวกับตื่นรู้ขึ้นมาทันที องค์หญิงใหญ่กับหงเลี่ยงอายุพอ ๆ กัน หรือว่าจะมีความสนิทสนมกันในระหว่างพวกเขาสองคน?องค์หญิงใหญ่เสียสามีไปตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่าจนกระทั่งก่อนตายหงเลี่ยงก็มิได้แต่งงาน!ที่แท้นี่ก็คือความลับที่องค์หญิงใหญ่สามารถยื่นมือเข้าไปในค่ายกองทหารเสือได้อย่างราบรื่นนี่เองก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนมิเคยคิดออกเลย ค่ายกองทหารเสืออยู่ในการควบคุมของเสด็จพ่อ แม้ว่าตอนนั้นราชองครักษ์ของค่ายกองทหารเสือจะเป็นเฮ่อจิ้นผู้นำตระกูลเฮ่อแต่เฮ่อจิ้นก็เกษียณไปตั้งหลายปีแล้ว องค์หญิงใหญ่จะควบคุมค่ายกองทหารเสือได้อย่างไรอีก?ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง!เซียวหลินเทียนตกใจมาก หงเลี่ยงต้องชอบองค์หญิงใหญ่มากแค่ไห
เซียวหลินเทียนนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในห้องทรงพระอักษรของจักรพรรดิอู่อันหนึ่งชั่วยามกว่า ๆ แล้วจึงออกไปนอกจากขันทีเซี่ยแล้วก็ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าทั้งสองคุยสิ่งใดกันในห้องทรงพระอักษรพระชายาเส้าอยู่ที่ตำหนักของตนแล้วได้รับข่าวจากสายลับ นางกระตุกยิ้มมุมปาก นี่หมายความว่าจักรพรรดิอู่อันเลือกที่จะใช้เซียวหลินเทียนแล้วสินะวันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายในพิธีอภิเษกสมรสจวนอ๋องหรง แม้ว่าพระชายาเส้ามิได้ไป แต่ข่าวที่นางควรรู้ นางก็มิได้ขาดหายไปเลยได้ยินว่า แม้ว่าจะตรวจค้นเจอทางใต้ดินกับเงินที่จวนอ๋องหรง จักรพรรดิอู่อันก็มิได้จัดการอย่างไรกับอ๋องหรงนอกจากการถอดตำแหน่งของเฮ่อหรง ในใจของพระชายาเส้าก็มิพอใจเท่าไรนักแต่ข่าวที่เฮ่อจู้กับพระชายาคังถูกประหารนั้นทำให้พระชายาเส้ามีความสุขขึ้นมาอำนาจของตระกูลเฮ่อและตระกูลเว่ยค่อย ๆ ถูกลดทอนลงตามลำดับ เช่นนั้นตำแหน่งของตนเองก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นเพียงแต่สิ่งที่ทำให้พระชายาเส้ากังวลก็คือ นี่แสดงให้เห็นว่า นับวันอ๋องอี้จะอยู่ในสายตาของจักรพรรดิอู่อันมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนองค์ชายคังก็จะถูกลืมเลือนออกไปจากสมองของจักรพรรดิอู่อันเมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับค่ายกองทหารเสือ ก็
เรื่องที่ฉินรั่วซือจะเป็นชายารองของเซียวหลินเทียนนั้นฮองเฮาเว่ยเป็นผู้ตรัส เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าฉินรั่วซือเป็นคนของฮองเฮาเว่ย!พระชายาเส้าคงจะโง่ถ้าไปช่วยฮองเฮาเว่ยทำให้หลิงอวี๋ขุ่นเคืองแต่เซียวทงเองก็มิใช่คนโง่ เห็น ๆ กันอยู่ว่า นางรู้ว่าตนกับฮองเฮาเว่ยมิถูกกัน เหตุใดยังมาให้ตนทำเรื่องนี้อีกเล่า?เป้าหมายที่แท้จริงของเซียวทงคืออะไรกันแน่?พระชายาเส้าที่หลักแหลมมาโดยตลอด แต่ยามนี้กลับค่อนข้างมิเข้าใจเจตนาของเซียวทง“พระชายา ท่านแปลกใจใช่หรือไม่ว่าเหตุใดหม่อมฉันถึงมาจุ้นจ้านเรื่องนี้?”ดูเหมือนว่า เซียวทงจะมองความสงสัยของพระชายาเส้าออก จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “พระชายา หม่อมฉันรู้ว่าท่านกับพี่สะใภ้รองต่างมิชอบหลิงอวี๋ การทำเช่นนี้ก็คือการสร้างปัญหาให้หลิงอวี๋เพคะ!”“ก่อนหน้านี้ รั่วซือกับหม่อมฉันมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่พวกเราคืนดีกันแล้ว! หม่อมฉันรับประกันได้เลย ขอเพียงท่านช่วยให้รั่วซือได้สมปรารถนา ต่อไปรั่วซือจะเชื่อฟังท่านแน่นอน!”“หากท่านให้นางไปทางตะวันออก นางจะไม่มีทางไปทางตะวันตก! และนางยังสามารถขัดขวางท่านอ๋องอี้มิให้แย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทกับองค์ชายคังได้อีกด้วยเพคะ!”
พระชายาเส้ามองออกว่าเซียวทงพูดความจริง อีกทั้งคำขอของนางก็มิได้มากมายเกินไป องค์หญิงแห่งแคว้นผู้สง่างามจะลงไปแต่งงานกับเผยอวี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปมิได้!ดูท่าทางครั้งนี้เซียวทงจะพกเอาความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยมมาอ่อนข้อให้เลยสิ่งที่ทำให้พระชายาเส้าสนใจยังมีอีกคือ เผยอวี้เป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถของเซียวหลินเทียนหากตนช่วยให้งานแต่งงานของเซียวทงกับเผยอวี้สำเร็จ ต่อไปแม้ว่าเซียวทงจะมิสามารถโน้มน้าวให้เผยอวี้ช่วยองค์ชายคังได้ ทว่าหากเผยอวี้มีพฤติกรรมที่แปลกไปเซียวทงก็สามารถรายงานตนได้จะคำนวณอย่างไรนี่ก็เป็นการซื้อขายที่ได้กำไรมิขาดทุนเลยแต่พระชายาเส้าเองก็มิกล้ารับปากเซียวทงไปง่าย ๆ เช่นนั้นตระกูลเว่ยยังมิได้ล่มสลายไปหมดแล้วเสียหน่อยมิใช่รึ!ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เว่ยเฉิงนั่นเอาแต่คอยจับตามองตน หากตนมีพฤติกรรมอะไรแปลก ๆ ใครจะรู้ว่าเขาจะสร้างเรื่องอะไรให้ตนนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้อย่างมิมั่นคงหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น เซียวหลินเทียนเพิ่งจะถูกจักรพรรดิอู่อันเรียกใช้อีกครั้ง หากฉินรั่วซือทำเรื่องนี้มิดีจนเดือดร้อนมาถึงตน เช่นนั้นก็จะเป็นการได้มิคุ้มเสีย“เซียวทง แม่ทัพเผยหมั้นกับหลิงหว่านไปแล้ว หา
ทันทีที่เซียวหลินเทียนได้ยิน ความคิดที่ละมุนละไมของเขาก็สลายหายวับไปเขาเงยหน้าไปเห็นว่า หลิงอวี๋ยังมิตื่นก็กระซิบเสียงเบาทันที “ข้าจะออกไปประเดี๋ยวนี้!”เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นมาสวมอาภรณ์ และเดินออกไปทันที“ไปดูหน่อย!”เซียวหลินเทียนคิดว่า วันนี้หงเลี่ยงราชองครักษ์ของค่ายกองทหารเสือจะถูกจับ อีกทั้งเฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยจะถูกประหารอีก องค์ชายเว่ยจะทำอะไรแปลก ๆ หรือไม่?หรืออิงเหนียงเห็นว่า องค์ชายเว่ยมิได้มีผลประโยชน์ที่คุ้มค่าแล้วจึงคิดจะหนีไป?เขาพบร่องรอยของอิงเหนียงอย่างยากลำบาก ทั้งยังคิดจะใช้อิงเหนียงมาจับตัวสายลับที่ซ่อนตัวอยู่เหล่านั้นด้วย แล้วจะปล่อยให้อิงเหนียงหนีไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไรเล่า!กลุ่มคนมุ่งหน้าไปที่ชานเมือง ไปที่วัดประจำตระกูลของตระกูลฉินวัดประจำตระกูลของตระกูลฉินสร้างอยู่กลางภูเขา หากจะไปที่นั่นจะต้องผ่านเส้นทางเขาไปก่อนพวกของเซียวหลินเทียนเร่งควบม้าไป เห็นว่าผ่านเส้นทางเขาไปก็จะถึงแล้ว แล้วก็เห็นว่ามีเปลวไฟลอยขึ้นมาบนฟ้าจากที่ไกล ๆ แสงไฟลุกโชนนั้นเห็นได้ชัดมากท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด“เกิดเรื่องแล้ว!”ใจของเซียวหลินเทียนบีบแน่น แล้วฟาดแส้ไปเร่งความเร็วข
“พี่ลู่ มียาแก้พิษหรือไม่?”นางรับใช้เอ่ยถามลู่หนานอย่างรีบร้อน มิรู้ว่าจงใจที่จะปิดบังสายตาของลู่หนานหรือไม่“หลู่ชิ่ง เจ้าเอายาแก้พิษมาหรือไม่?”ลู่หนานหันกลับไปตะโกน เขาออกมาอย่างรีบร้อนมิได้เอายาแก้พิษมาด้วย“เหมือนข้าจะเอามานะ ข้าหาก่อน!”หลู่ชิ่งรีบเอาห่อยาของตนออกมาแล้วพลิกหายาแก้พิษที่หลิงอวี๋เตรียมไว้ให้เขาเห็นว่าเซียวหลินเทียนสีหน้าดำคล้ำแล้ว จึงตกใจมือสั่น พลิกหาจนมือพันกันไปหมดเมื่อหายาเจออย่างยากลำบากแล้วก็รีบส่งให้ลู่หนานลู่หนานจ้องเขาเขม็งแล้วรีบคุกเข่าลงไปยัดยาเข้าปากเซียวหลินเทียนฉินรั่วซือยังคงดูดพิษให้เซียวหลินเทียนอยู่จนกระทั่งเลือดของเซียวหลินเทียนกลายเป็นสีแดงแล้วจึงหยุด“ข้าดูดพิษของท่านอ๋องออกมาหมดแล้ว แล้วก็ให้ยาแก้พิษแล้วด้วย น่าจะมิอันตรายแล้ว!”ฉินรั่วซือเอ่ยถาม “พวกเจ้าใครมีน้ำมาบ้าง ข้าจะล้างปาก...”ทว่าฉินรั่วซือยังพูดมิทันจบก็ล้มลงไปบนร่างของเซียวหลินเทียนแล้ว“คุณหนู...”นางรับใช้ตะโกนเรียก นางพยุงฉินรั่วซือไว้พลางเอ่ย “พี่ลู่ ยังมียาแก้พิษอีกหรือไม่? คุณหนูของข้าจะต้องดูดพิษให้ท่านอ๋องจนพิษซึมเข้าร่างของนางแน่ ๆ!”หลู่ชิ่งเห็นสถานการ
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก