“บอกมา หลิงเอ๋อร์เล่า?”เฮ่อเฉียงพูดประโยคนี้ลอดไรฟันออกมาหานอวี้จึงคุกเข่าลง “พ่อ… พ่อบ้านเฮ่อ… หลิงเอ๋อร์ยังมิกลับมาเจ้าค่ะ มิรู้ว่านางยังอยู่ที่ทางห้องครัวหรือไม่ นาง… นางค่อนข้างมึนงง จำเส้นทางมิค่อยได้เจ้าค่ะ!”แม่นางลั่วได้ยินจึงเอ่ย “บางทีอาจจะหลงทางแล้วกลับไปที่ครัวจริง ๆ ก็ได้เจ้าค่ะ! พ่อบ้านเฮ่อ บ่าวจะไปหาเองเจ้าค่ะ!”เฮ่อเฉียงขยิบตาแล้วองครักษ์ผู้หนึ่งก็เดินออกไปแต่เขาเดินไปมิทันถึงประตูเรือนก็เห็นนางรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาแล้ว “แม่นางลั่ว ทางห้องครัวมีองครักษ์ผู้หนึ่งมิระวังลืมดับไฟ ไฟก็เลยลุกไหม้ของแห้งบางส่วนแล้วเจ้าค่ะ...”“ว่ากระไรนะ? เหตุใดเขาจึงมิระวังเช่นนั้น!”แม่นางลั่วได้ยินว่าไฟลุกไหม้ก็ร้อนใจลากนางรับใช้รีบวิ่งไปทันทีนางรับใช้ผู้นั้นจึงเอ่ยอย่างกังวล “แม่นางลั่ว โชคดีที่หลิงเอ๋อร์อยู่ด้วย นางกับข้าจึงช่วยกันดับไฟแล้ว นางกำลังเก็บของอยู่ ให้ข้ามาบอกเจ้าว่านางมารวมตัวด้วยมิได้แล้ว!”“เวลานี้ยังจะรวมตัวอะไรอีก พ่อบ้านเฮ่อ คนของข้าอยู่ครบ ข้าต้องรีบกลับไปดูว่าของเสียหายไปเท่าใด! เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องไปถึงงานอภิเษกสมรสด้วยเจ้าค่ะ!”แม่นางลั่
ส่วนพี่เฉินผู้นี้ หลิงอวี๋วิ่งกลับมาที่ครัวแล้วเห็นว่าเขาขโมยของกิน ตอนนั้นหลิงอวี๋มิได้ตะโกนออกมาแต่หลิงอวี๋อาศัยที่เขากำลังจะไปพร้อมถือตะเกียงน้ำมันนั้นหลบอยู่ในความมืดแล้วจงใจแทงเข็มเงินแทงเข้าที่ขาของเขาตอนที่เขาเดินผ่านห้องของแห้ง พี่เฉินจึงล้มลง ตะเกียงน้ำมันก็ตกลงไปบนหญ้าแห้งด้านข้างแล้วติดไฟขึ้นมาทันทีกระทั่งไฟลุกขึ้นมาเยอะแล้ว หลิงอวี๋ถึงได้รีบตะโกนเรียกนางรับใช้ให้มาช่วยกันดับไฟนางรับใช้ได้ยินหลิงอวี๋บอกว่าหลงทางแล้วนอนกับนาง นางเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วจึงนอนเร็วจนสะลึมสะลืออยู่เมื่อหลิงอวี๋พูดเช่นนี้นางก็คิดว่าตนหลับลึกไปแล้วหลิงอวี๋เพิ่งเข้ามาทีหลังก็เลยมิได้สงสัยหลิงอวี๋จึงรอดพ้นไปได้เช่นนี้หลังจากยุ่งมานาน แม่นางลั่วเองก็มิได้ลงโทษ เห็นว่าดึกมากแล้วจึงด่าไปเล็กน้อยแล้วให้พวกหลิงอวี๋ไปนอนก่อนพวกคนในครัวเพิ่งได้พักไปมิกี่ชั่วยามก็ถูกแม่นางลั่วเรียกมาทำงานแล้วหลิงอวี๋ถือโอกาสแนะนำหานอวี้ให้แม่นางลั่วรู้จัก แม่นางลั่วจึงมิรีรอและไปพาตัวมาเลยเมื่อหานอวี้เห็นหลิงอวี๋ ใจที่กังวลมาทั้งคืนก็กลับเข้าที่แล้ว“พระชายา ท่านเจอของที่ตามหาหรือไม่เจ้าคะ?” หานอวี้ทำง
มือสังหารเหล่านี้ถูกท่านอ๋องเฉิงส่งตัวไปขังที่ฝ่ายในราชสำนักแล้ว ท่านอ๋องเฉิงยังให้กลุ่มแม่ทัพกว่าร้อยคนที่ประจำการอยู่เมืองหลวงมาประจำการที่ฝ่ายในราชสำนักเป็นการชั่วคราวด้วย เพื่อป้องกันมิให้มือสังหารเหล่านี้ถูกช่วยออกไป มิรู้ว่าท่านอ๋องเฉิงไปพูดอย่างไรกับจักรพรรดิอู่อัน จักรพรรดิอู่อันจึงได้อนุญาตเซียวหลินเทียนอ่านข้อความที่หลิงอวี๋ส่งมาเสร็จแล้วก็เงียบไปสักพัก จากนั้นก็เรียกเผยอวี้ ฉินซาน หลี่ว์จงเจ๋อและอันเจ๋อมา จากนั้นทั้งห้าคนก็วางแผนร่วมกันช่วงก่อนหน้านี้ฉินซานมิได้มาที่ตำหนักอ๋องอี้เลยเนื่องจากเรื่องของฉินรั่วซือ จึงรักษาระยะห่างกับเซียวหลินเทียนไปเขารู้สึกละอายที่จะเจอเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ฉินรั่วซือน้องสาวตนเป็นบ้าไปแล้ว ถึงกับเผยแพร่ข่าวเท็จเรื่องโสมโลหิตออกไปทั่วเพื่อตำแหน่งชายารองของท่านอ๋องอี้ และยุยงให้องค์ชายทั้งสองมิลงรอยกันที่ภัตตาคารจี๋เสียง เรื่องน่าอายที่ฉินรั่วซือทำไว้ไปถึงหูของฉินซาน ฉินซานจึงกลับไปดุด่าฉินรั่วซืออย่างรุนแรงฮูหยินฉินได้ยินแล้วก็ทั้งผิดหวังทั้งปวดใจ นางมิได้ตักเตือนฉินรั่วซือ เพียงแต่เอ่ยเรียบ ๆ “รั่วซือ เจ้าไปอยู่ที่วัดประจำตระกู
งานอภิเษกสมรสของอ๋องหรงพระโอรสในองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่จึงกลับไปเตรียมตัวที่จวนอ๋องหรงก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยจวนอ๋องหรงเริ่มประดับประดาไฟต่าง ๆ และตกแต่งโถงจัดงานแล้วหลิงอวี๋มิได้ไปสำรวจที่ทางลับอีก แล้วอยู่ช่วยแม่นางหลิงจัดการที่ครัวกับหานอวี้องค์หญิงใหญ่ก็มาตรวจสอบเรื่องอาหารด้วยตนเอง แต่ก็มิได้สงสัยหลิงอวี๋เลยแม้แต่น้อยหลิงอวี๋กับหานอวี้ต่างรอวันรุ่งขึ้นและจะอาศัยช่วงพิธีอภิเษกสมรสที่กำลังชุลมุนออกไปจากจวนอ๋องหรงหลิงอวี๋ยังต้องเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสอีก ก่อนหน้านี้นางให้เรือนหยกอำไพเตรียมชุดสำหรับเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสให้ตนและส่งไปที่ตำหนักอ๋องอี้แล้ววันรุ่งขึ้นฟ้ายังมิทันสว่าง ทุกคนในครัวต่างก็ยุ่งง่วนกันแล้วหลิงอวี๋รอให้กลุ่มที่ไปรับเจ้าสาวออกเดินทางแล้วปะปนเข้าไปในกลุ่มนางรับใช้ที่ไปรับเจ้าสาวออกจากจวนอ๋องหรงไปหานอวี้ยังอยู่ที่นี่ นางยังต้องไปคุ้มกันหลิงเยี่ยนมิให้ถูกฆ่าปิดปากก่อนหลิงอวี๋เดินทางกับกลุ่มคนไปตามถนน แล้วก็เห็นกลุ่มคนจำนวนมากมาดูกันอยู่ที่มุมถนน นางจึงจงใจเดินรั้งท้ายแล้วแฝงเข้าไปในฝูงชนและเข้าไปในร้านค้าร้านหนึ่งร้านค้านี้เป็นร้านของครอบครัวเกิ่งเส
งานแต่งงานของฉินตะวันตกจะเป็นการรับตัวเจ้าสาวในตอนเช้า และคู่บ่าวสาวจะเข้าหอกันก่อนพลบค่ำ การรับเจ้าสาวเข้าหอจะเป็นพิธีแต่งงานส่วนที่คึกคักที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีรายละเอียดซับซ้อนที่สุดหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนกลับมาถึงตำหนักอ๋องอี้ก็เปลี่ยนชุดแล้วไปรอพิธีรับเจ้าสาวที่จวนอ๋องหรงตลอดทางไปจวนอ๋องหรงล้วนถูกปิดมิให้ผู้คนทั่วไปสัญจร และมีองครักษ์ยืนอยู่ทุก ๆ สองถึงสามเมตร เพื่อช่วยรักษาความเรียบร้อยให้จวนอ๋องหรงนี่ก็เป็นการเปิดทางให้จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาที่จะเดินทางมาด้วยเช่นกันรถม้าของเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋มาถึงที่มุมถนนก็ห้ามเข้าไปด้านในแล้ว ทั้งสองจึงลงจากรถม้าแล้วเดินไป ด้านหลังก็มีพวกองครักษ์เช่นลู่หนานและพวกนางรับใช้เช่นหานเหมยตามมาด้วยวันนี้อ๋องหรงเป็นเจ้าภาพ องค์หญิงใหญ่เป็นผู้อาวุโส พ่อบ้านไม่มีสิทธิ์มากพอให้ออกมารับแขก ผู้ที่เป็นตัวแทนของเฮ่อหรงออกมารับแขกก็คือ เฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยและองค์ชายเว่ยที่ได้รับการยกโทษให้กลับมาเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสองค์ชายเว่ยใส่ชุดคลุมองค์ชายสีม่วงทั้งตัว พร้อมยืนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้ม คนที่มิรู้ก็ดูมิออกเลยแม้แต่น้อยว่า องค์ชายเว
ตามมาด้วยขุนนางผู้ใหญ่ที่ได้รับเชิญซึ่งทยอยกันมา จ้าวเจินเจินกับองค์ชายคังก็มาแล้ว จากนั้นองค์ชายอิงก็มาชมพิธีพร้อมกับเหล่าองครักษ์ องค์ชายหนิงก็มาด้วยเช่นกันต่อจากนั้น จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็มาถึงภายใต้การคุ้มกันของกองทัพหลวง ทั้งสองลงจากรถม้าพระที่นั่งที่หน้าประตูจวนอ๋องหรงเวลานี้ เฮ่อหรงก็พากลุ่มที่ไปรับตัวเจ้าสาวมาถึงมุมถนนแล้วเช่นกันองครักษ์โห่ร้องเสียงดัง “เตรียมรับตัวเจ้าสาว...”องค์หญิงใหญ่อยู่ข้างในได้ยินดังนั้น ก็รีบสั่งคนย้ายเตาไฟไปรอรับคู่บ่าวสาวเข้าเรือนจักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็ยืนยิ้มอยู่ข้างบนรอดูเฮ่อหรงรับตัวเจ้าสาวมาไทเฮาตารื้นไปด้วยความตื่นเต้น ตนยังได้คืนดีกับพระธิดาในตอนที่มีชีวิตอยู่ ได้เห็นพระโอรสคนเดียวของนางแต่งงานมีลูก ชีวิตนี้มิเสียใจอะไรแล้วหลิงอวี๋ลากเซียวหลินเทียนไปด้านข้าง เขากุมมือของนางไว้ ทั้งสองคนมีความคิดเช่นเดียวกันนั่นคือ จะเข้าประตูนี้ไปมิได้สตรีผู้บริสุทธิ์เช่นมู่หรงชิ่ง จะแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกัน!ทั้งสองรออยู่อย่างอดทน วันนี้เซียวหลินเทียนให้ท่านอ๋องเฉิงไปบอกกับมู่หรงเหยียนซงตอนที่ส่งของกำนัลให้แล้ว พวกเขาแค่ร
“มิพอใจ?”มู่หรงเหยียนซงขมวดคิ้วอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็หัวเราะแล้วมองไปทางจักรพรรดิอู่อัน แล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ประสานมือให้จักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยเสียงแข็ง“ฝ่าบาท กระหม่อมมายังฉินตะวันตกตามคำสั่งของเสด็จพ่อ มาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นให้ดี! กระหม่อมมิได้มิพอใจการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ แต่กระหม่อมทนให้องค์หญิงชิ่งแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้มิได้!”“กระหม่อมต้องการกราบทูลฟ้องร้องตระกูลเฮ่อ พระชายาเว่ย และเฮ่อหรงที่วางแผนใส่ร้ายกระหม่อมเพื่อต้องการบีบให้กระหม่อมยอมรับการแต่งงาน...”ทันทีที่คำพูดเช่นออกมา มิเพียงแต่ขุนนางผู้ใหญ่ที่ดูอยู่เท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ราษฎรที่มาดูความครึกครื้นเองก็ตกตะลึงไปเช่นกันการแต่งงานนี้ถูกบังคับหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันใจเต้นรัว ความเสียใจของมู่หรงเหยียนซงนี้เขามิได้เตรียมพร้อมเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น นี่มิใช่เรื่องภายในของตนเอง นี่คือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น!“องค์ชายจิ้น เมื่อคืนเจ้าดื่มมากเกินไปหรือไม่ ยังมิสร่างเมามาพูดจาเหลวไหลอะไรกัน!”เฮ่อหรงเห็นสถานการณ์มิดี จึงแสร้งพูดไปพลางเปิดม่านเกี้ยวไปด้วย คิ
มู่หรงเหยียนซงอดกลั้นความโกรธไว้นานแล้ว เมื่อเจอจักรพรรดิอู่อันซักถามเช่นนี้ก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หนังสือมีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมคิดว่าอธิบายจากปากจะดีกว่า!”มู่หรงเหยียนซงเล่าออกมาว่าตนเองถูกเฮ่อหรงเชิญไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่ออย่างไร แล้วถูกเฮ่อหรงใส่ยาลงในเหล้า เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าหลิงเยี่ยนนอนอยู่ข้าง ๆ ตนเมื่อเล่าไปถึงตรงนี้ หลิงเสียงเซิงก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ “องค์ชายจิ้น ท่านอย่าได้พูดจาเหลวไหล เยี่ยนเอ๋อร์ของกระหม่อมถูกส่งไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ย จะไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่อได้เยี่ยงไร!”หวางซือก็หน้าซีดไปเช่นกัน หลิงเยี่ยนถูกองค์ชายเว่ยรับเข้าตำหนักองค์ชายเว่ย เดิมทีหลังจากสามวันจะต้องกลับบ้านนางยังเตรียมงานเลี้ยงอย่างตื่นเต้นด้วยซ้ำ ไหนเลยจะคิดว่าพระชายาเว่ยจะส่งคนมาบอกว่า หลิงเยี่ยนแพ้ท้องออกไปไหนมิได้ จึงยกเลิกการกลับบ้านหวางซือก็มิได้คิดอะไรมาก นางรู้สึกว่า องค์ชายเว่ยให้ความสำคัญกับลูกในท้องของหลิงเยี่ยนจึงได้มารับหลิงเยี่ยนเข้าตำหนักไป และจะต้องดูแลหลิงเยี่ยนเป็นอย่างดีแน่นอนมู่หรงเหยียนซงมิสนใจคนต่ำต้อยเช่นหลิงเสียงเซิง พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อันด้วยเหตุผล “กระห