งานอภิเษกสมรสของอ๋องหรงพระโอรสในองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่จึงกลับไปเตรียมตัวที่จวนอ๋องหรงก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยจวนอ๋องหรงเริ่มประดับประดาไฟต่าง ๆ และตกแต่งโถงจัดงานแล้วหลิงอวี๋มิได้ไปสำรวจที่ทางลับอีก แล้วอยู่ช่วยแม่นางหลิงจัดการที่ครัวกับหานอวี้องค์หญิงใหญ่ก็มาตรวจสอบเรื่องอาหารด้วยตนเอง แต่ก็มิได้สงสัยหลิงอวี๋เลยแม้แต่น้อยหลิงอวี๋กับหานอวี้ต่างรอวันรุ่งขึ้นและจะอาศัยช่วงพิธีอภิเษกสมรสที่กำลังชุลมุนออกไปจากจวนอ๋องหรงหลิงอวี๋ยังต้องเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสอีก ก่อนหน้านี้นางให้เรือนหยกอำไพเตรียมชุดสำหรับเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสให้ตนและส่งไปที่ตำหนักอ๋องอี้แล้ววันรุ่งขึ้นฟ้ายังมิทันสว่าง ทุกคนในครัวต่างก็ยุ่งง่วนกันแล้วหลิงอวี๋รอให้กลุ่มที่ไปรับเจ้าสาวออกเดินทางแล้วปะปนเข้าไปในกลุ่มนางรับใช้ที่ไปรับเจ้าสาวออกจากจวนอ๋องหรงไปหานอวี้ยังอยู่ที่นี่ นางยังต้องไปคุ้มกันหลิงเยี่ยนมิให้ถูกฆ่าปิดปากก่อนหลิงอวี๋เดินทางกับกลุ่มคนไปตามถนน แล้วก็เห็นกลุ่มคนจำนวนมากมาดูกันอยู่ที่มุมถนน นางจึงจงใจเดินรั้งท้ายแล้วแฝงเข้าไปในฝูงชนและเข้าไปในร้านค้าร้านหนึ่งร้านค้านี้เป็นร้านของครอบครัวเกิ่งเส
งานแต่งงานของฉินตะวันตกจะเป็นการรับตัวเจ้าสาวในตอนเช้า และคู่บ่าวสาวจะเข้าหอกันก่อนพลบค่ำ การรับเจ้าสาวเข้าหอจะเป็นพิธีแต่งงานส่วนที่คึกคักที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีรายละเอียดซับซ้อนที่สุดหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนกลับมาถึงตำหนักอ๋องอี้ก็เปลี่ยนชุดแล้วไปรอพิธีรับเจ้าสาวที่จวนอ๋องหรงตลอดทางไปจวนอ๋องหรงล้วนถูกปิดมิให้ผู้คนทั่วไปสัญจร และมีองครักษ์ยืนอยู่ทุก ๆ สองถึงสามเมตร เพื่อช่วยรักษาความเรียบร้อยให้จวนอ๋องหรงนี่ก็เป็นการเปิดทางให้จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาที่จะเดินทางมาด้วยเช่นกันรถม้าของเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋มาถึงที่มุมถนนก็ห้ามเข้าไปด้านในแล้ว ทั้งสองจึงลงจากรถม้าแล้วเดินไป ด้านหลังก็มีพวกองครักษ์เช่นลู่หนานและพวกนางรับใช้เช่นหานเหมยตามมาด้วยวันนี้อ๋องหรงเป็นเจ้าภาพ องค์หญิงใหญ่เป็นผู้อาวุโส พ่อบ้านไม่มีสิทธิ์มากพอให้ออกมารับแขก ผู้ที่เป็นตัวแทนของเฮ่อหรงออกมารับแขกก็คือ เฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยและองค์ชายเว่ยที่ได้รับการยกโทษให้กลับมาเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสองค์ชายเว่ยใส่ชุดคลุมองค์ชายสีม่วงทั้งตัว พร้อมยืนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้ม คนที่มิรู้ก็ดูมิออกเลยแม้แต่น้อยว่า องค์ชายเว
ตามมาด้วยขุนนางผู้ใหญ่ที่ได้รับเชิญซึ่งทยอยกันมา จ้าวเจินเจินกับองค์ชายคังก็มาแล้ว จากนั้นองค์ชายอิงก็มาชมพิธีพร้อมกับเหล่าองครักษ์ องค์ชายหนิงก็มาด้วยเช่นกันต่อจากนั้น จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็มาถึงภายใต้การคุ้มกันของกองทัพหลวง ทั้งสองลงจากรถม้าพระที่นั่งที่หน้าประตูจวนอ๋องหรงเวลานี้ เฮ่อหรงก็พากลุ่มที่ไปรับตัวเจ้าสาวมาถึงมุมถนนแล้วเช่นกันองครักษ์โห่ร้องเสียงดัง “เตรียมรับตัวเจ้าสาว...”องค์หญิงใหญ่อยู่ข้างในได้ยินดังนั้น ก็รีบสั่งคนย้ายเตาไฟไปรอรับคู่บ่าวสาวเข้าเรือนจักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็ยืนยิ้มอยู่ข้างบนรอดูเฮ่อหรงรับตัวเจ้าสาวมาไทเฮาตารื้นไปด้วยความตื่นเต้น ตนยังได้คืนดีกับพระธิดาในตอนที่มีชีวิตอยู่ ได้เห็นพระโอรสคนเดียวของนางแต่งงานมีลูก ชีวิตนี้มิเสียใจอะไรแล้วหลิงอวี๋ลากเซียวหลินเทียนไปด้านข้าง เขากุมมือของนางไว้ ทั้งสองคนมีความคิดเช่นเดียวกันนั่นคือ จะเข้าประตูนี้ไปมิได้สตรีผู้บริสุทธิ์เช่นมู่หรงชิ่ง จะแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกัน!ทั้งสองรออยู่อย่างอดทน วันนี้เซียวหลินเทียนให้ท่านอ๋องเฉิงไปบอกกับมู่หรงเหยียนซงตอนที่ส่งของกำนัลให้แล้ว พวกเขาแค่ร
“มิพอใจ?”มู่หรงเหยียนซงขมวดคิ้วอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็หัวเราะแล้วมองไปทางจักรพรรดิอู่อัน แล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ประสานมือให้จักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยเสียงแข็ง“ฝ่าบาท กระหม่อมมายังฉินตะวันตกตามคำสั่งของเสด็จพ่อ มาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นให้ดี! กระหม่อมมิได้มิพอใจการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ แต่กระหม่อมทนให้องค์หญิงชิ่งแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้มิได้!”“กระหม่อมต้องการกราบทูลฟ้องร้องตระกูลเฮ่อ พระชายาเว่ย และเฮ่อหรงที่วางแผนใส่ร้ายกระหม่อมเพื่อต้องการบีบให้กระหม่อมยอมรับการแต่งงาน...”ทันทีที่คำพูดเช่นออกมา มิเพียงแต่ขุนนางผู้ใหญ่ที่ดูอยู่เท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ราษฎรที่มาดูความครึกครื้นเองก็ตกตะลึงไปเช่นกันการแต่งงานนี้ถูกบังคับหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันใจเต้นรัว ความเสียใจของมู่หรงเหยียนซงนี้เขามิได้เตรียมพร้อมเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น นี่มิใช่เรื่องภายในของตนเอง นี่คือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น!“องค์ชายจิ้น เมื่อคืนเจ้าดื่มมากเกินไปหรือไม่ ยังมิสร่างเมามาพูดจาเหลวไหลอะไรกัน!”เฮ่อหรงเห็นสถานการณ์มิดี จึงแสร้งพูดไปพลางเปิดม่านเกี้ยวไปด้วย คิ
มู่หรงเหยียนซงอดกลั้นความโกรธไว้นานแล้ว เมื่อเจอจักรพรรดิอู่อันซักถามเช่นนี้ก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หนังสือมีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมคิดว่าอธิบายจากปากจะดีกว่า!”มู่หรงเหยียนซงเล่าออกมาว่าตนเองถูกเฮ่อหรงเชิญไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่ออย่างไร แล้วถูกเฮ่อหรงใส่ยาลงในเหล้า เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าหลิงเยี่ยนนอนอยู่ข้าง ๆ ตนเมื่อเล่าไปถึงตรงนี้ หลิงเสียงเซิงก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ “องค์ชายจิ้น ท่านอย่าได้พูดจาเหลวไหล เยี่ยนเอ๋อร์ของกระหม่อมถูกส่งไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ย จะไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่อได้เยี่ยงไร!”หวางซือก็หน้าซีดไปเช่นกัน หลิงเยี่ยนถูกองค์ชายเว่ยรับเข้าตำหนักองค์ชายเว่ย เดิมทีหลังจากสามวันจะต้องกลับบ้านนางยังเตรียมงานเลี้ยงอย่างตื่นเต้นด้วยซ้ำ ไหนเลยจะคิดว่าพระชายาเว่ยจะส่งคนมาบอกว่า หลิงเยี่ยนแพ้ท้องออกไปไหนมิได้ จึงยกเลิกการกลับบ้านหวางซือก็มิได้คิดอะไรมาก นางรู้สึกว่า องค์ชายเว่ยให้ความสำคัญกับลูกในท้องของหลิงเยี่ยนจึงได้มารับหลิงเยี่ยนเข้าตำหนักไป และจะต้องดูแลหลิงเยี่ยนเป็นอย่างดีแน่นอนมู่หรงเหยียนซงมิสนใจคนต่ำต้อยเช่นหลิงเสียงเซิง พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อันด้วยเหตุผล “กระห
ทันทีที่หลิงอวี๋พูดสิ่งนี้ออกไป ทุกคนก็ตะลึงไปทันทีเฮ่อหรงกับองค์หญิงใหญ่ต่างก็ตะคอกเสียงแข็ง “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าอย่ามาใส่ร้ายผู้อื่น!”องค์หญิงใหญ่จึงยิ่งตะโกนใส่จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาด้วยความโกรธ “ฝ่าบาท ไทเฮา พวกท่านดู… พวกท่านดูเถิด...”“นี่หากคนนอกใส่ร้ายเราก็ช่างเถิด ตอนนี้แม้แต่หลานสะใภ้ก็มาสาดโคลนใส่พวกเราด้วย นี่คือมิชอบที่พวกเรากลับมาแย่งความโปรดปรานของพวกเขาหรือ?”“ไทเฮา หากมิจัดงานแต่งงานนี้แล้ว หม่อมฉันจะพาหรงเอ๋อร์กลับอารามจิ้งซือแล้วก็ได้เพคะ!”พูดแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็บีบน้ำตาออกมาไทเฮาโอบกอดองค์หญิงใหญ่ไว้แล้วมองไปทางหลิงอวี๋อย่างมิพอใจนัก แต่คำที่พูดออกมาก็ยังมิเป็นการเข้าข้างผู้ใด“อาอวี๋ จะพูดสิ่งใดออกมาลอย ๆ มิได้ เจ้ามีหลักฐานจริงหรือไม่?”คำพูดของไทเฮาทำให้หลิงอวี๋ค่อนข้างปลื้มใจ อย่างน้องนางก็มิได้ลืมว่าตนดีต่อนาง“กราบทูลไทเฮา หลิงอวี๋มิได้พูดลอย ๆ เพคะ ขอเพียงให้คนเข้าไปตรวจค้น จะต้องพบหลิงเยี่ยนแน่นอนเพคะ!”“อย่ามาก่อเรื่อง วันนี้เป็นงานอภิเษกสมรสของท่านอ๋องหรง จะให้เข้าไปตรวจค้นสุ่มสี่สุ่มห้าได้เยี่ยงไรกัน?”เว่ยเฉิงอดมิได้ที่จะลุกออกมา “พระชายาอ
จักรพรรดิอู่อันเห็นท่าทางน้อยใจขององค์หญิงใหญ่ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจเขามองหลิงอวี๋อย่างมิพอใจพลางเอ่ยเสียงเรียบ “หลิงอวี๋ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าการใส่ความจะต้องถูกเฆี่ยนสามสิบครั้ง?”นี่คือการเตือนให้หลิวอวี๋เก็บคำพูดของตนกลับไปหลิงอวี๋รู้อยู่แก่ใจดีจึงเอ่ยเรียบ ๆ “เสด็จพ่อเพคะ หลิงอวี๋เชื่อว่าเสด็จพ่อจะทรงจัดการอย่างเป็นธรรมและให้ความเสมอภาคแก่ทั้งสองฝ่ายเพคะ!”นี่คือคำพูดต่อต้านจักรพรรดิอู่อันแม้แต่คนที่ซื่อตรงที่สุดก็โกรธได้เช่นกัน หลิงอวี๋เห็นมือสังหารขององค์ชายเว่ยลอบสังหารเซียวหลินเทียนหลายครั้งแล้ว ทว่าทุกครั้งจักรพรรดิอู่อันก็ลงโทษองค์ชายเว่ยมิได้เจ็บปวดเลยครั้งนี้ก็มาขู่ตนว่าจะเฆี่ยนสามสิบครั้งเพื่อองค์หญิงใหญ่อีก!เช่นนั้นก็ได้ หลิงอวี๋รับการเฆี่ยนได้ แต่เรื่องที่องค์ชายเว่ยกับอ๋องหรงทำผิดก็ต้องได้รับเช่นกันองค์ชายคังตะโกนเรียกองครักษ์มากลุ่มหนึ่งอย่างรอมิไหว กำลังคิดจะพุ่งเข้าไปในจวนอ๋องหรง ก็เห็นว่ามีเสียงตะคอกโกรธเคืองดังมาจากด้านในเสียก่อน“เซียวหลินเยี่ยน ท่านอธิบายกับกระหม่อมมา หลานสาวกระหม่อมถูกส่งตัวเข้าไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ยในฐานะชายารอง แต่เหตุใดกลับถูกขังอ
มิเพียงแต่ทุกคน จักรพรรดิอู่อันเองพอคิดดูก็เข้าใจความหมายที่องค์ชายอิงมิได้พูดออกมาเขามองไปทางเฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยอย่างน่ากลัว ยังมิทันที่องค์ชายอิงจะได้พูดออกมา จักรพรรดิอู่อันก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ย“ท่านอดีตเสนาบดีจับตัวหลิงเยี่ยนเข้าไปเพื่อใส่ร้ายอ๋องหรง?”“แม้ว่าข้าจะแก่แล้ว แต่ความทรงจำยังดีอยู่ พระชายาเว่ย เมื่อครู่เจ้าบอกมิใช่หรือว่า หลิงเยี่ยนไปบำรุงครรภ์ที่ตำหนักสวนท้อ?”“ตำหนักสวนท้อเป็นตำหนักพักร้อนขององค์ชายเว่ยอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายร้อยลี้กระมัง ท่านอดีตเสนาบดีเดินทางไกลไปถึงตำหนักสวนท้อเพื่อพาตัวหลิงเยี่ยนกลับมา แล้วพาตัวหลิงเยี่ยนกับนางรับใช้สองคนนี้เข้าไปในจวนอ๋องหรงด้วยกำลังของคนคนเดียวน่ะรึ!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ คนจวนอ๋องหรงล้วนหูหนวกตาบอด ปล่อยให้พวกท่านอดีตเสนาบดีเข้าออกได้อย่างอิสระรึ?”คำพูดเหล่านี้คือสิ่งที่องค์ชายอิงคิด แต่มีหรือที่จักรพรรดิอู่อันจะปล่อยให้เขาพูดก่อน หากเป็นเช่นนั้นจะมิเห็นได้ชัดหรือว่าจักรพรรดิเช่นตนนั่นโง่เขลาดังที่องค์ชายอิงพูด?คำพูดของจักรพรรดิอูอันทำให้เฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยพูดมิออกเลยองค์หญิงใหญ่กับองค์ชายเว่ยเห็นว่า สถานกา
เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมากแต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคนแต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใดที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตายหลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลาหลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันทีไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “
“ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน!”“อาอวี๋ เจ้าอยู่กินอาหารกับไท่เฟยเส้าและไทฮองไทเฮาเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนจึงบอกกับหลิงอวี๋และไทฮองไทเฮาแล้วกำลังจะไป“ฝ่าบาท หรุ่ยหรุ่ยรบกวนการเสวยของพวกท่านหรือเพคะ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยด้วยใบหน้าที่อึดอัดเจือความรู้สึกผิด “หรุ่ยหรุ่ยแค่อยากจะมาคารวะไทฮองไทเฮาเพคะ หากมิสะดวก เช่นนั้นหรุ่ยหรุ่ยขอทูลลา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ระดับความเสแสร้งของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิได้ด้อยไปว่าจ้าวเจินเจินเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนกำลังหลีกเลี่ยง แม้ว่าคนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างก็มิควรเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับหยิบยกมาพูดแสร้งทำเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา!“พี่สะใภ้รอง องค์จักรพรรดิมีธุระจริง ๆ เมื่อครู่ก็บอกไว้แล้ว ให้เขาไปเถิด พวกเราบรรดาสตรีกินด้วยกันก็พอแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยพลางเอ่ย “ฝ่าบาท กลางคืนหม่อมฉันจะเตรียมพระกระยาหารมื้อดึกไว้ให้ ท่านจัดการเรื่องบ้านเมืองเสร็จแล้วก็มาเสวยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนสับสนไปในทันที เข
ไท่เฟยเส้ามิได้พอใจกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้เป็นสะใภ้มากนัก ก่อนหน้านี้นางหวังให้ตระกูลจ้าวให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานเข้ามาและสามารถช่วยให้องค์ชายคังประสบความสำเร็จได้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ครั้งแรกก็พ่ายแพ้แล้ว สิ่งนี้ทำให้ไท่เฟยเส้าผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะมาไหว้ตน ไท่เฟยเส้าก็เรียกเข้ามาตำหนิภายนอกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฟังอย่างนอบน้อม แต่ในใจอยากจะจัดการนางดังเช่นที่ทำกับองค์ชายคัง“สิ่งที่หมู่เฟยสอนก็คือ คราวนี้หรุ่ยหรุ่ยไม่มีประสบการณ์ เตรียมการมิมากพอ ครั้งต่อไปจะมิให้หลิงอวี๋รอดไปได้แล้วเพคะ!”คำพูดอ่อนโยนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ความโกรธของไท่เฟยเส้าเบาบางลงไปมาก อย่างน้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็สามารถบีบให้หลิงอวี๋อยู่ในสถานการณ์อับจนได้ เมื่อเทียบกับจ้าวเจินเจินแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยดีมากแล้วไท่เฟยเส้าได้ต่อว่าไปแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงมา แล้วก็เอ่ยด้วยความเกลียด “ตอนนี้ในวังอยู่ในการควบคุมของหลิงอวี๋กับยายเฒ่านั่น หมู่เฟยจะทำอะไรก็มิได้สะดวกนัก”“หมู่เฟยอยากให้ยายแก่นั่นตายไปเร็ว ๆ เช่นนี้แล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็จะไม่มียายเฒ่าคอยหนุนหลัง ก็จะจัดการได้ง่
สำหรับคำถามของหลิงอวี๋ ฮูหยินผู้เฒ่าเผยกับใต้เท้าเผยได้หารือกันในบ้านแล้วฮูหยินผู้เฒ่าเผยเองก็รู้ว่า หากเอาเรื่องที่หลิงหว่านต้องไว้ทุกข์แม่สามปีมาถอนหมั้นนั้นฟังมิขึ้น แต่นางกับตระกูลเผยล้วนมิชอบหลิงหว่าน จึงยอมที่จะถูกด่าลับหลังและยืนกรานที่จะถอนหมั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยมิกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงทำได้เพียงเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ฮองเฮา การแต่งงานเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดีของสองตระกูล มิใช่การผูกความโกรธแค้น...”“ถือเสียว่าตระกูลเผยขอโทษคุณหนูหลิง ขอร้องให้ฮองเฮาทรงเห็นใจ ตกลงกับคำร้องที่จะถอนพระราชโองการด้วยเถิดเพคะ สินสอดก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นการชดใช้ให้คุณหนูหลิงเถิด!”หลิงหว่านได้ยินก็โกรธมาก จึงเอ่ยเรียบ ๆ “หม่อมฉันมิต้องการการชดใช้! ฮองเฮา ท่านตกลงเถิดเพคะ! หม่อมฉันหลิงหว่าน แม้ว่าชีวิตนี้จะมิได้แต่งงานก็ไม่มีทางร้องขอแต่งงานเข้าตระกูลเผย!”หลิงอวี๋ทอดถอนใจอยู่ในใจ แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเผยอวี้คือคนที่หลิงหว่านสามารถไว้วางใจไปได้ตลอดชีวิต แต่ตระกูลเผยทั้งหลายต่อต้านหลิงหว่านเช่นนี้ หากหลิงหว่านแต่งงานเข้าไปก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขการแต่งงานมิใช่การแต่งกับคนคนเดียว โดยเฉพา
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้