แชร์

บทที่ 1158

ผู้เขียน: กานเฟย
เมื่อเห็นใบหน้าท้อแท้ของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมาพลางเอ่ย “เจ้ามิต้องท้อใจไปหรอก เจ้ามิได้มองคนผิด ซุนเจ๋อผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่พึ่งพาได้!”

ทันทีที่เผยอวี้หลิงอวี๋บอกว่าเขาพึ่งพาได้ทั้งที่จับได้คาหนังคาเขาเช่นนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที

“พี่หลิงหลิง ท่านอย่ามาเยาะเย้ยข้าเลย หากเขาพึ่งพาได้แล้วจะทำร้ายพวกเราเช่นนี้หรือ?”

หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าหมายถึงซุนเจ๋อที่เป็นเนื้อแท้ของเขา มิใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้!”

“นี่ก็คือซุนเจ๋อชัด ๆ นี่ ข้าจะจำคนผิดได้หรือ?”

เผยอวี้คิดว่าหลิงอวี๋เมาเรือจนเบลอสับสนไปหมดแล้วหรือไม่

หลิงอวี๋มิพูดจาไร้สาระใด ๆ กับเขาแล้วเดินตรงไปที่ซุนเจ๋อที่ถูกเผยอวี้โยนลงไปที่พื้น

นางคุกเข่าลงแล้วสำรวจใบหน้าของซุนเจ๋อ จากนั้นก็จับที่ผมตรงข้างหูของซุนเจ๋อและใช้เล็บสะกิดเบา ๆ

จากนั้นผิวหนังก็ถูกเล็บของหลิงอวี๋สะกิดออกมาเบา ๆ

แล้วหลิงอวี๋ก็ดึงออกอย่างระมัดระวัง และถอดหน้ากากใบหน้ามนุษย์ที่บางราวกับปีกจักจั่นออกมาจากใบหน้าของซุนเจ๋อ

ใบหน้าของซุนเจ๋อเผยออกมาทั้งหมดแล้วเป็นใบหน้าที่เผยอวี้มิเคยเห็นมาก่อน

เผยอวี้ตกใจจนตาค้าง แล้วทีนี้ถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดหลิงอวี๋ถึงบอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1159

    แต่จักรพรรดิอู่อันมิพูด ท่านอดีตเสนาบดีกลับทนมิไหว เขารู้เรื่องที่พ่ายแพ้การแข่งขันปีนป่าย และเขาเชื่อว่ารอกที่หลิงอวี๋ออกแบบไม่มีทางมีปัญหาแน่ท่านอดีตเสนาบดีนำทัพมาตลอดชีวิต จะมีแผนสกปรกใดบ้างที่เขามิเคยเจอเรื่องนี้ต้องเป็นคนกันเองแน่นอนที่ทำเรื่องสกปรก!แม้ว่าเขาจะมิสามารถช่วยหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจับตัวคนทำได้ในขณะนี้ แต่เขาก็สามารถแอบบอกจักรพรรดิอู่อันเป็นนัย ๆ ได้อยู่!ท่านอดีตเสนาบดีอาศัยช่วงเวลาที่มีแค่เพียงตน จักรพรรดิอู่อันและท่านอ๋องเฉิงที่มองเห็นสถานการณ์ต่อสู้นี้ เขากลอกตาแล้วจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา “เอ๊ะ เหตุใดเรือจึงได้ช้าลง น้ำเข้าหรือไม่?”เขามิได้ระบุชื่อตรง ๆ ออกไป จักรพรรดิอู่อันจึงคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีพูดถึงเรือขององค์ชายหนิง จึงเอ่ยคล้อยตามไป “เจ้ามิเห็นหรือว่าตัวเรือแตก น้ำก็เข้าสิ!”องค์ชายเว่ยไม่มีกล้องส่องทางไกลจึงมองมิเห็นการต่อสู้ เขาคิดว่าจู้เต๋อทำลายสำเร็จแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาทันที“เสด็จพ่อ ลูกก็บอกแล้วว่าองค์ชายสี่ทำมิได้ เขาล้มเหลวและแพ้ติดกันสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ยังทำผิดพลาดเช่นนี้อีก ทำให้เสด็จพ่อต้องพ่ายแพ้และเสียเมืองทั้งสองเมืองไป!”“ครั้งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1160

    พวกของจักรพรรดิอู่อันยืนอยู่ด้านหน้า ส่วนบรรดาสตรีมิสามารถเข้าไปใกล้ได้จึงทำได้เพียงยืนอยู่ด้านหลังวันนี้อันซินก็มากับเหล่าคุณหนูหลายคนเพื่อให้กำลังใจกลุ่มของฉินตะวันตกเช่นกัน นางกับหลิงหว่านยืนอยู่ด้วยกันเมื่อได้ยินขุนนางเหล่านั้นต่างกำลังด่าหลิงอวี๋อยู่ อันซินก็สีหน้าเปลี่ยนไป นางเห็นหลิงหว่านหน้าซีดก็ยื่นมือไปจับมือของหลิงหว่านไว้ทั้งสองคนต่างรู้สึกหนักอึ้งหากกลุ่มของเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋จะต้องถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลส่วนอันเจ๋อกับเผยอวี้ที่เป็นรองแม่ทัพของเซียวหลินเทียน แม้ว่าจะมิถูกตัดหัวแต่ตำแหน่งการงานของพวกเขาก็ต้องจบลงเช่นกันตอนนี้พวกนางมิได้กังวลเรื่องอันเจ๋อกับเผยอวี้ ได้แต่ครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรอดพ้นจากการถูกลงโทษอย่างไรดีจ้าวเจินเจินเองก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน และนางก็ควบคุมตนเองที่อยากจะหัวเราะออกมามิได้จริง ๆแต่นางก็มิกล้าหัวเราะยินดีบนความทุกข์ของผู้อื่นออกมาต่อหน้าทุกคนเช่นนั้นหรอก จึงทำได้เพียงเอาผ้ามาปิดไว้ครึ่งหน้าแล้วหัวเราะอย่างเงียบ ๆ‘หลิงอวี๋ จะสู้กับข้าเยี่ยงนั้นหรือ? ตอนนี้รู้ถึงความแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1161

    ปี๊ด… ปี๊ด ๆ …คนเป่าแตรเป่าดังเป็นระดับ ๆเสียงแตรประกาศข่าวดีนั้นเป็นการส่งข่าวให้ขุนนางทุกคนได้เข้าใจนี่เป็นชัยชนะของฉินตะวันตกจริง ๆ!พวกคนที่เหยียดหยามเซียวหลินเทียนและยั่วยุให้องค์จักรพรรดิประหารเขากับหลิงอวี๋เมื่อครู่ต่างก็หน้าซีดกันไปหมดพวกเขากลัวจะไปดึงความสนใจองค์จักรพรรดิจึงทยอยหลังหลังกันไปหลิงหว่านกับอันซินได้ยินข่าวนี้ก็ชะงักกันไป จากนั้นทั้งสองคนก็กอดกันน้ำตาคลอสุดยอด! ฉินตะวันตกชนะแล้ว!พวกของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนชนะแล้ว!จ้าวเจินเจินหน้าซีดไปทันที!เป็นไปได้เยี่ยงไร?เห็น ๆ อยู่ว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนหาหนอนบ่อนไส้ขององค์ชายเว่ยมิพบ อีกทั้งนางก็จัดคนที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดไปสร้างความเสียหายเพื่อเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่งด้วย!แผนสร้างความเสียหายถึงสองชั้น ว่ากันตามเหตุผลแล้วไม่มีทางที่จะล้มเหลวได้เลย!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะยังชนะได้!พระชายาเว่ยจิตใจว่างเปล่า สมองก็ว่างเปล่าเช่นกันหลิงอวี๋… นางสารเลวผู้นี้ นางเป็นคนโปรดของเทพพระเจ้าหรือไร?เหตุใดนางจึงรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ต้องตายไปอย่างโชคดีครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้?ที่แห่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1162

    ในตอนเย็นภายในวังประดับประดาไปด้วยโคมไฟงดงาม เหล่านางกำนัลต่างเดินขวักไขว่ยกอาหารมาให้ทุกคนในงานเลี้ยงงานเลี้ยงฉลองจัดขึ้นที่ศาลาในสวนบนแท่นจะเป็นโต๊ะของจักรพรรดิอู่อันและข้างล่างด้านหนึ่งเป็นที่นั่งของทูตจากทั้งสามแคว้น ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นที่นั่งของเหล่าขุนนางระดับสูงส่วนที่นั่งของเซียวหลินเทียนจะอยู่ถัดลงมาที่แรกจากจักรพรรดิอู่อันองค์ชายคังกับองค์ชายเว่ยถัดไปหลังจากเซียวหลินเทียน เมื่อทั้งสองเห็นว่าที่นั่งเป็นเช่นนี้ก็อยากจะสะบัดแขนเสื้อออกไปเลยแต่ในเมื่อจักรพรรดิอู่อันมีความสุขเช่นนี้ มีหรือพวกเขาจะกล้าหนีหน้าไปบริเวณรอบนอกจะเป็นเหล่าสตรีที่มีตราตั้งขั้นสามขึ้นไปจักรพรรดิอู่อันอารมณ์ดีมากจึงตั้งใจให้พระชายาเส้าเชิญพวกนางมาด้วยงานเลี้ยงฉลองเป็นการจัดขึ้นชั่วคราว แต่แม้ว่าเวลาจะกระชั้นชิด พระชายาเส้าก็จัดการได้เรียบร้อยดี เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการจัดการเหนือกว่าฮองเฮาเว่ยส่วนฮองเฮาเว่ยนั้น องค์จักรพรรดิอู่อันอนุญาตให้ออกมาเข้าร่วมได้เพราะเป็นงานเลี้ยงฉลองและแม้ว่าที่นั่งของนางจะอยู่ร่วมกันกับพระชายาเส้า แต่ที่นั่งเช่นนี้กลับทำให้ฮองเฮาเว่ยรู้สึกอับอายนางเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1163

    คำพูดของเซียวหลินเทียนเป็นการคืนความดีความชอบให้กับจักรพรรดิอู่อัน และคืนผลประโยชน์ให้ฉินตะวันตก ทั้งยังตบหน้าองค์ชายหนิงอีกด้วยองค์ชายหนิงก็มิได้โกรธ เขายิ้มแล้วก็นั่งลง“ขอแสดงความยินดีกับองค์จักรพรรดิที่ได้เมืองสองเมืองมา นับจากนี้จะเป็นดังที่ท่านอ๋องอี้ได้ตรัสไว้ ฉินตะวันตกของเราจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยและแข็งแกร่ง”ในฐานะอัครเสนาบดี จ้าวฮุยจึงเป็นผู้นำในการยกแก้วเหล้าขึ้นมาแสดงความยินดีกับจักรพรรดิอู่อันจากนั้นขุนนางทุกคนก็ยกจอกเหล้าแสดงความยินดีตามเช่นกันจักรพรรดิอู่อันยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจที่ได้รับการแสดงความยินดีจากทุกคนเพียงแต่มีขุนนางผู้หนึ่งที่มิรู้ว่าเสียสติหรือว่าตั้งใจ หลังจากที่ดื่มเหล้าแล้วก็ยังเอ่ยเสริมขึ้นมาอีก“วันนี้ทุกคนต่างเฉลิมฉลองกัน ฮองเฮาและขุนนางทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่ แล้วเหตุใดจึงขาดไทเฮาไปได้เล่าพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินว่าไทเฮาหมดสติไปยังมิฟื้นเลย พระชายาอ๋องอี้มีทักษะการแพทย์ที่เก่งกาจถึงเพียงนั้นก็ยังมิสามารถรักษาไทเฮาให้หายดีได้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“พระชายาอ๋องอี้ เช่นนี้ท่านทำมิถูกต้องแล้ว! การที่ไทเฮามิสบายเป็นเรื่องใหญ่ ท่านควรจะช่วย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1164

    ทันทีที่หลิงอวี๋พูดสิ่งนี้ออกไป คนที่ได้ยินต่างก็งุนงงกันไปทันทีสตรีผู้นี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ?ต่อให้โอหังแค่ไหน ต่อให้กำเริบเสิบสานเท่าใด ก็มิควรปะทะกับฮองเฮาเว่ยและองค์ชายเว่ยในเวลาเดียวกันสิ!ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นตอนที่ทูตจากอีกสามแคว้นอยู่ที่นี่อีกด้วย!พระชายาเว่ยเหลืออดแล้ว นางจึงลุกขึ้นพลางตวาดอย่างโกรธแค้น “หลิงอวี๋ เจ้าอย่าให้มันมากเกินไป นี่มันโอกาสใดกัน? เจ้าจะมาทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้ได้หรือ?”“เจ้าใส่ร้ายข้า ข้าจะทำเรื่องเช่นการลงมือกับพี่น้องและทำร้ายอ๋องอี้ดังที่เจ้าว่าได้ที่ใดกัน?”องค์ชายเว่ยเองก็โกรธจนตัวสั่นเช่นกัน เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดขึ้นมาหมดแล้ว เขาชี้หน้าด่าหลิงอวี๋โดยมิสนใจภาพลักษณ์ใด ๆ ทั้งนั้น“สารเลว หากยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีกข้าจะฉีกปากของเจ้าเสีย!”“ฝ่าบาท หลิงอวี๋ทำเกินไปแล้วจริง ๆ นางกล้าใส่ร้ายฮองเฮา นี่เป็นการมิให้ความเคารพผู้ที่อยู่สูงกว่า! วันนี้ต้องลงโทษนางอย่างหนักนะพ่ะย่ะค่ะ!”เว่ยเฉิงพี่ชายของฮองเฮาเว่ยซึ่งเป็นผู้ตรวจการแห่งสำนักผู้ตรวจการก็ก้าวออกมาอย่างแค้นเคืองเพราะรู้สึกมิเป็นธรรมเช่นกัน พลางเอ่ยเสียงสูง “ฝ่าบาท ผู้ใดบ้างที่มิรู้ว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1165

    เสียงหัวเราะของคนเหล่านี้ทำให้องค์ชายเว่ยพาลโกรธ เขาพูดสู้หลิงอวี๋มิได้ จึงหันไปทางจักรพรรดิอู่อันพลางตะโกนอย่างน้อยใจ“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อดูเถิดว่าสตรีผู้นี้มีคารมคมคาย พูดจาคล่องแคล่ว องค์ชายสี่จัดการนางมิได้ เสด็จพ่อก็ควรอบรมนางพ่ะย่ะค่ะ!”“นี่เป็นงานเลี้ยงฉลองมิใช่หรือ? เหตุใดสตรีผู้นี้จึงก่อกวนอยู่ที่นี่เล่า!”แม้ว่าจักรพรรดิอู่อันจะตลกขบขันกับคำพูดของหลิงอวี๋ แต่ก็มิได้มีความสุขที่หลิงอวี๋ก่อกวน จึงทำใบหน้าเรียบเฉย และกำลังคิดจะอบรมหลิงอวี๋แต่หลิงอวี๋แย่งเอ่ยไปเสียก่อน “เสด็จพ่อเพคะ หลิงอวี๋หาได้ตั้งใจก่อกวนไม่เพคะ!”“หลิงอวี๋แค่อยากถือโอกาสที่ทูตจากทั้งสามแคว้นอยู่พร้อมหน้า ให้พวกเขาได้เห็นว่า ที่เราแพ้ไปสองรายการแข่งขันนั้น มิใช่เพราะความสามารถมิเท่าผู้อื่น!”“ทว่า หากมิใช่เพราะองค์ชายเว่ยเข้ามาขัดขา เรามีความมาสามารถที่จะเอาชนะได้อย่างแน่นอน! หลิงอวี๋เองก็อยากให้ทูตทั้งสามแคว้นรู้ด้วยเช่นกันว่าเสด็จพ่อมีความปราดเปรื่อง เมื่อจะให้รางวัลหรือลงโทษก็มีความยุติธรรม!”สิ่งที่หลิงอวี๋จะทำในวันนี้ก็คือ ประกาศให้ใต้หล้านี้ได้รับรู้การกระทำผิดขององค์ชายเว่ยกับฮองเฮาเว่ยครั้งที่แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1166

    “ก็ได้ ๆ ๆ… วันนี้ข้าจะดูว่าคนพูดจาคล่องแคล่วเช่นเจ้าจะพูดหลักฐานอะไรออกมา!”องค์ชายเว่ยเห็นว่าองค์จักรพรรดิได้พูดออกไปแล้วก็มิโต้เถียง จึงมองไปทางจักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยไปตามตรง “เสด็จพ่อ ลูกขอเพียงข้อเดียวเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หากยืนยันแล้วว่าหลิงอวี๋ใจร้าย ก็ขอให้เสด็จพ่อยอมให้ลูกประหารหลิงอวี๋ด้วยเถิด!”ช่างมิสูงส่งเลยจริง ๆ!มุมปากขององค์ชายคังกระตุกขึ้นอย่างเหยียดหยาม องค์ชายเว่ยผู้นี้ออกงานมิได้เลย ต่อให้เขาจะอยากให้หลิงอวี๋ตาย ก็อย่าได้รีบร้อนเช่นนี้ต่อหน้าทุกคนสิ!เป็นถึงองค์ชายจะไปประหารน้องสะใภ้ องค์ชายเว่ยมิกลัวคนเขาหัวเราะเอาเลยหรือ!คืนนี้จ้าวเจินเจินก็มาด้วยเช่นกัน นางถูกองค์ชายคังตบจนหน้าบวม ทาแป้งไปมากแค่ไหนก็มิสามารถปกปิดได้มิดเดิมทีนางมิอยากมาเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองให้ใครหัวเราะเยาะหรอก!แต่องค์ชายคังมิอนุญาตแล้วบังคับให้นางมา นางจึงทำได้เพียงใส่ผ้าคลุมหน้าปกปิดเอาไว้ แล้วบอกกับสตรีข้าง ๆ ที่สงสัยใคร่รู้ว่าตนเป็นสิวจึงอายที่จะพบใครที่จ้าวเจินเจินมิอยากมายังมีสาเหตุหลักอยู่อีกหนึ่งข้อนั่นก็คือ นางมิอยากเห็นความโดดเด่นของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน สิ่งนี้จะยิ่งทำให้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1873

    “เหยี่ยวผู้กล้าควรกางปีกบินให้สูง และลอยตัวให้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!”เซียวหลินเทียนพูดสิ่งที่เหวินเหรินจิ้นบอกตนออกไปอย่างใจเย็นนี่คือคำพูดที่เหวินเหรินจิ้นพูดกับสือหรงตอนที่ให้เขาออกมาจริง ๆ ตอนนั้นนอกจากเขากับเหวินเหรินจิ้นก็ไม่มีใครอยู่อีกเมื่อสือหรงเห็นว่าคำตอบของเซียวหลินเทียนถูกต้อง ใบหน้าของเขาก็กลับซีดลงทันที ราวกับว่าเขาถูกโจมตีอย่างหนัก“ท่านเจ้าตำหนัก… ท่านเจ้าตำหนักสิ้นแล้วหรือ?”หากมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวหลินเทียนจะมีป้ายผู้นำของตำหนักปีกเงินได้อย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเหวินเหรินจิ้นพูดอะไรกับเขา!“อืม ร่างของเขาจะถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินของตำหนักปีกเงินเป็นการชั่วคราว แล้วในภายหน้าเมื่อข้าสามารถฟื้นคืนตำหนักปีกเงินมาได้ ก็ค่อยนำไปฝังให้ดี ๆ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ“พรึ่บ…”สือหรงคุกเข่าลง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมมิได้เดิมทีเขาคิดว่าจะหลบไปสักประมาณปีครึ่ง แล้วเจ้าตำหนักก็คงจะเรียกพวกเขากลับไป เมื่อถึงเวลานั้นตำหนักปีกเงินก็จะรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า การลาจากของเจ้าตำหนักในครั้งนี้จะเป็นการจากลากันไปตลอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1872

    กระทั่งลงมาจากภูเขาแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้เหยี่ยวดำจิ่วเทียนไปส่งจดหมายให้กับฉินซาน แล้วตนกับเผยอวี้ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านตงหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักปีกเงินหลายสิบลี้ เพื่อตามหาสือหรงลูกศิษย์คนสำคัญของเหวินเหรินจิ้น อีกทั้งยังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายของตำหนักปีกเงินด้วยเซียวหลินเทียนไม่มีทางจะไปตามหาคนในรายชื่อของเหวินเหรินจิ้นทีละคนได้ หากเขาคิดที่จะรวบรวมลูกศิษย์ทั้งหมดของตำหนักปีกเงินที่เหวินเหรินจิ้นสั่งให้ออกจากตำหนักโดยเร็ว สือหรงผู้นี้ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญเหวินเหรินจิ้นเคยบอกไว้ว่า หากตามหาสือหรงพบ พวกเขาก็จะสามารถตามลูกศิษย์ทั้งหมดกลับมาได้ เพราะว่าสือหรงมีช่องทางติดต่อของพวกเขาทุกคนแต่กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้มาถึงหมู่บ้านตงหยวน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตงหยวนถูกสังหารหมู่ และทางการก็กำลังนำคนมาเคลื่อนย้ายศพแต่ละศพออกไปเซียวหลินเทียนและเผยอวี้สวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์แล้ว เผยอวี้จึงแสร้งทำเป็นเข้าไปตามหาญาติเพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อถามไปจึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหมู่บ้านตงหยวนถูกโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นทรัพย์ ตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1871

    หวงฝู่หลินก็เหมือนกับเซียวหลินเทียน ในตอนนี้มีคนที่จะต้องเร่งตามหาให้พบ ดังนั้นแม้ว่าจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องร่วมมือกันจึงจะต่อต้านศัตรูได้หวงฝู่หลินมองตำหนักปีกเงินที่ค่อนข้างหดหู่นี้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน วันนี้เจ้าเปิดเผยเรื่องที่เจ้ามีกระบี่คุนอู๋อยู่ในมือไปแล้ว มหาปราชญ์ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”“พวกเราต้องรีบรวบรวมกลุ่มที่สามารถต่อสู้กับมหาปราชญ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่มหาปราชญ์จะรวมกำลังคนมาจัดการกับเจ้า!”“เจ้าลงจากภูเขาไปรวบรวมบรรดาลูกศิษย์ของตำหนักปีกเงินมา ส่วนข้าจะช่วยหาคนมาสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่เอง!”“หากเจ้าหาลูกสาวของข้าพบก่อน ก็ให้ส่งข้อความมาหาข้า! และหากข้าพบหลิงอวี๋ ข้าก็จะแจ้งเจ้าทันทีเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยมิต้องคิด “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราก็แยกกันเป็นสองกลุ่มไปดำเนินการ!”“เผยอวี้ เราลงจากภูเขากันก่อนเถอะ!”หวงฝู่หลินมองเผยอวี้แล้วเอ่ยออกมา “ประเดี๋ยวก่อน…”เขาหยิบยาหนึ่งขวดออกมาจากแหวนพระสุเมรุของตน แล้วโยนไปที่เผยอวี้ “พลังของเจ้าต่ำเกินไป หากเจ้าติดตามเขาก็จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1869

    ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนมีความเศร้าอยู่จาง ๆ เขายืนอยู่บนบันได ซากปรักหักพังด้านหลังเหล่านั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นก็ทำให้เห็นความหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแต่แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมาบนตัวของเซียวหลินเทียนนั้น ทำให้เขาดูเหมือนมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาก็ยังเป็นคนเดิม แต่กลับดูราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้มิอาจมองเขาตรง ๆ ได้!ทันใดนั้นหวงฝู่หลินก็รู้สึกถึงความรู้สึกกดดันที่มิเคยมีมาก่อนจู่ ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ในภายภาคหน้าพลังของเซียวหลินเทียนจะประสบความสำเร็จ จะต้องอยู่เหนือไปกว่าของตนมาก และอยู่เหนือกว่าบรรดายอดฝีมือในแดนเทพอย่างแน่นอน!เหนือกว่าแม้กระทั่งหลงอี้ด้วย...เซียวหลินเทียนมองไปไกล ๆ แล้วนึกฉากเมื่อครู่เหวินเหรินจิ้นพาเขาเข้าไป และมิเพียงแต่มอบรายชื่อบรรดาศิษย์ของตำหนักปีกเงินให้ตนเท่านั้น แต่ยังมอบเงินทั้งหมดที่ตำหนักปีกเงินเก็บไว้หลายปีให้ตนด้วยนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปราชญ์ต้องการอย่างหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยสุดท้ายเหวินเหรินจิ้นก็ยังพยายามถ่ายพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1868

    หวงฝู่หลินมองเหวินเหรินจิ้นด้วยความสงสาร จากนั้นก็ประคองเขานั่งขึ้นมา แล้วเอ่ยไปอย่างเรียบ ๆ “เจ้าคงมิอยากจากไปโดยที่มิได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้แน่!”“ต่อให้ยานั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็มิล้ำค่าเท่ากับเจ้า...พูดมาเถิด ยังมีความปรารถนาใดอีกที่เจ้ายังมิสมหวัง ขอเพียงข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”หวงฝู่หลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงป้อนโอสถช่วยชีวิตอันล้ำค่าที่ตนสกัดอย่างพิถีพิถันให้กับเหวินเหรินจิ้น เขามิอยากให้สหายผู้นี้ตายตามิหลับเหวินเหรินจิ้นมองหลานชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้าง ๆ แล้วหวงฝู่หลินก็เข้าใจทันที “ข้าจะให้คนดูแลเขาเอง!”เหวินเหรินจิ้นจึงฝืนยิ้มออกมา “ให้เขาเติบโตอย่างเรียบง่าย ลืมตระกูลนี้ไปเสีย และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบไปให้หมด!”“ได้!”หวงฝู่หลินมิได้พูดอะไรมาก แต่เหวินเหรินจิ้นรู้ว่า เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“ข้าขอฝากตำหนักปีกเงินไว้กับเจ้า...ข้าได้คำนวณชะตาไว้แล้วว่าจะมีภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าจึงแสร้งป่วยแล้วให้ลูกศิษย์ของตำหนักทั้งหมดกระจายกันออกไป...”“แต่ข้ามิวางใจ ข้ากังวลว่า หากมหาปราชญ์หาหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์มิเจอ แล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1867

    เผยอวี้เห็นว่าหวงฝู่หลินหน้าซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงมิรีรอแล้วคุกเข่าลงไป จากนั้นก็ยัดลำไส้ของเสือดาวหิมะกลับตามคำชี้แนะของหวงฝู่หลินแล้วหวงฝู่หลินก็นำเครื่องยาสมุนไพรและเข็มกับด้ายออกมาจากแหวนพระสุเมรุ จากนั้นเขาก็ส่งเข็มกับด้ายให้เผยอวี้ “ช่วยเย็บแผลให้มันที!”เผยอวี้ตะลึงไปทันที เขาจับมีดจับกระบี่ได้ แต่เขาใช้เข็มกับด้ายมิเป็น!เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่ตนพิชิตกระบี่คุนอู๋ ก็เคยบาดมือมาก่อน แต่เมื่อฝ่ามือของเขาจับที่กระบี่คุนอู๋ ก็รักษาตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะใช้กระบี่คุนอู๋รักษาเสือดาวหิมะหรือไม่!เขาเข้าใจหลักการที่ว่า ทรัพย์สมบัติมิควรเปิดเผยออกมา หากว่าในวันนี้มิใช่สถานการณ์วิกฤต เขาก็ไม่มีทางนำกระบี่คุนอู๋ออกมาแน่แต่ตอนนี้มหาปราชญ์รู้แล้วว่า กระบี่คุนอู๋อยู่ในมือของตน มันจะต้องนำความยุ่งยากมาหาตนมิจบสิ้น เช่นเดียวกับหยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋อย่างแน่นอน!หากเปิดเผยเรื่องที่กระบี่คุนอู๋สามารถรักษาบาดแผลได้ไปอีก เช่นนั้นจะมิยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นหรือ?แต่เมื่อเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status