หลังจากที่เซียวหลินเทียนกับราชองครักษ์ผางจัดเตรียมเรื่องไทเฮาในวังเรียบร้อยแล้วก็กลับไปที่ค่ายทหารชั่วคราวที่คฤหาสน์ตระกูลกวนหลิงอวี๋ก็กลับมาแล้วเช่นกัน กำลังประกอบลูกรอกบันไดใหม่อีกครั้งกับพวกช่างฝีมือ การประกอบอยู่ในช่วงท้ายแล้วนี่เป็นการประกอบใหม่เพื่อตรวจสอบดูจุดที่ปัญหาเซียวหลินเทียนเดินเข้ามาดูก็ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม “พบความผิดปกติหรือไม่?”หลิงอวี๋ลูบใบหน้าอย่างแรงแล้วยิ้มขมขื่นพลางตอบ “ไม่เพคะ!”“เซียวหลินเทียน บางทีอาจจะเป็นความผิดพลาดที่การออกแบบของหม่อมฉันจริง ๆ ก็ได้ที่มิได้พิจารณาถึงสภาพการณ์ที่แท้จริง ทำให้วางแผนผิดพลาดไป… นี่เป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมดเลยเพคะ ท่านลงโทษหม่อมฉันเถิด!”“ครั้งที่แล้วที่ท่านกับอันเจ๋อทำผิดพลาดไปก็จดบันทึกเอาไว้ว่าโบยแบบทหารสิบไม้! วันพรุ่งหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง หม่อมฉันก็จะรับการโบยสิบไม้เช่นกันเพคะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดออกมาเช่นนี้ อันเจ๋อกับเผยอวี้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็โวยขึ้นมา “มิได้ เรื่องนี้จะไปโทษท่านได้เยี่ยงไร! ท่านก็มิได้คิดว่าจะเป็นเช่นนั้นนี่!”เผยอวี้ก็เอ่ยอย่างรีบร้อน “ท่านคิดค้นล้อเกวียนออกมาเพื่อพวกเราก็เป็นความสำเร็จ
“ช่างฝีมือที่มีอยู่สิบกว่าคนนี้ ตอนการต่อสู้ทางน้ำพรุ่งนี้ยังต้องการให้พวกเขาเป็นกำลังให้พวกเราอยู่ พวกเราจะจับตัวพวกเขาสิบกว่าคนไปทรมานเพื่อบีบเอาคำสารภาพมิได้!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “ช่างฝีมือสิบกว่าคนนี้ส่วนใหญ่แล้วล้วนดีทั้งนั้น มิจำเป็นต้องจับตัวพวกเขาทั้งหมดเพื่อจะหาหนอนบ่อนไส้คนเดียวหรอก ทำเช่นนี้จะเป็นการทำลายความเชื่อใจของพวกเขาเสียเปล่า ๆ”“ข้าจะบอกชื่อพวกเจ้าไปหนึ่งชื่อแล้วคอยสังเกตเขาไว้ให้มาก ๆ ก็พอแล้ว!”“ผู้ใดหรือ?” อันเจ๋อกับเผยอวี้เอ่ยถามอย่างร้อนใจ“จู้เต๋อ! ตอนที่ข้ากำลังตรวจสอบรอกที่มีปัญหา เขาเอาแต่จ้องข้าเขม็งอยู่ตลอดราวกับว่ากลัวข้าจะพบสิ่งผิดปกติ!” “ตอนนั้นข้าแสร้งเดินออกไปเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเขาก็ถอนหายใจโล่งอก”ความสามารถในการรับรู้ของหลิงอวี๋แข็งแกร่งมาก การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของจู้เต๋อในเวลานั้นก็ถูกนางพบเข้าแล้วหลังจากนั้นนางจึงถือโอกาสในตอนที่จู้เต๋อมิทันได้สังเกตเดินไปตรวจสอบเพลาในส่วนนั้น ผลก็เป็นอย่างที่ตนคิดไว้จริง ๆอันเจ๋อกับเผยอวี้ต่างก็ตกตะลึง แม้แต่เซียวหลินเทียนก็ขมวดคิ้วอย่างงุนงงเช่นกันจะเป็นจู้เต๋อไปได้เยี่
เซียวหลินเทียนเอ่ยทันที “เผยอวี้ ไปตรวจสอบคนที่เข้าร่วมการแข่งขันวันพรุ่งอีกที แม้แต่รายละเอียดของช่างฝีมือและคนในครอบครัวของพวกเราก็ด้วย...”“หากข้าถูกพวกเขาวางแผนร้ายใส่อีก มิต้องให้เสด็จพ่อลงโทษข้า ข้าก็ไม่มีหน้าจะไปเจอใครแล้ว!”“พ่ะย่ะค่ะ...”เผยอวี้กับอันเจ๋อก็รู้สึกละอายเหมือนกับเซียวหลินเทียนเช่นกัน ยังดีที่นี่เป็นการแข่งขัน แพ้แล้วยังสามารถกลับมาแก้ตัวได้หากอยู่ในสนามรบ พวกเขาก็คงจะถูกกวาดล้างไปทั้งกองทัพแล้ว...ทั้งสามคนยุ่งกันอยู่ทั้งคืน จนฟ้าเกือบจะสว่างแล้วเซียวหลินเทียนถึงได้ให้เผยอวี้กับอันเจ๋อไปพักผ่อนเซียวหลินเทียนยังคงรอฟังข่าวอยู่ เขาดูภาพวาดเรือรบพลางครุ่นคิดว่ายังมีสิ่งใดที่ตนละเลยไปอีกหรือไม่กระทั่งฟ้าสว่างแล้ว ผู้ที่มาชมการแข่งขันก็หลั่งไหลกันเข้ามามิหยุดวันนี้เป็นเวลาสุดท้ายในการสู้แล้ว ผู้ที่เข้ามาชมจึงมากกว่าวันก่อน ๆ เป็นเท่าตัวหลิงอวี๋ยังคงอยู่ที่ค่าย แล้วเถาจื่อก็มารายงาน “พระชายาเจ้าคะ ท่านอดีตเสนาบดีกับคุณหนูหลิงหว่านก็มาแล้วเจ้าค่ะ ส่วนพระชายาคังกับพระชายาเว่ยก็มาแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ!”ท่านอดีตเสนาบดีกับหลิงหว่านมาชมนั้นเป็นเจตนาที่ดี พวกเราร
ในฐานะที่เคยเป็นคนรักกัน จ้าวเจินเจินรู้สึกว่าตนเข้าใจเซียวหลินเทียนมากกว่าสตรีใดรู้เขารู้เรา หากมิใช้สิ่งที่รู้เหล่านี้ไปจัดการกับเซียวหลินเทียน แล้วจะสามารถชะล้างความอับอายที่หลิงอวี๋นำมาให้ตนได้เยี่ยงไร!ความเป็นหญิงงามมีความสามารถของนางถูกหลิงอวี๋แย่งความโดดเด่นไปแล้ว เมื่อตอนที่แจกโจ๊กก็ชื่อเสียงเสียหายอีก!คนอื่นสามารถลืมมันไป แต่จ้าวเจินเจินจดจำไว้อย่างฝังลึกแล้ว!‘หลิงอวี๋ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เจ้าได้อยู่บนใต้หล้านี้’‘เจ้าจงเพลิดเพลินกับเวลามิกี่ชั่วยามที่เหลืออยู่นี้เถอะ!’‘รอถึงตอนก่อนที่เจ้าจะตาย ข้าจะทำให้เจ้าได้เข้าใจอย่างแน่นอน!’‘ให้เจ้าได้รู้ว่า ข้าจ้าวเจินเจินคือคนที่เจ้ามิสามารถมีเรื่องด้วยได้!’“น้องสะใภ้สี่ อย่าได้โต้เถียงกับพี่สะใภ้ใหญ่เลย นางเองก็ร้อนใจเช่นกัน ฮองเฮาถูกกักบริเวณอยู่ ไม่มีใครคอยหนุนหลังนาง จึงมาพูดเหน็บแนมดูถูกเจ้าเช่นนี้!”จ้าวเจินเจินแสร้งทำเป็นดึงหลิงอวี๋มาอยู่ข้าง ๆ อย่างใจดีพลางกระซิบ “ได้ยินว่าเจ้ากับท่านอ๋องอี้รับคำมั่นสัญญาทางทหารหรือ ข้าเป็นห่วงพวกเจ้ายิ่งนัก!”“โธ่ เหตุใดไทเฮายังมิฟื้น หากพระนางฟื้นแล้วก็จะสามารถตัดสินให้พ
“ขอบคุณท่านปู่ที่ให้กำลังใจเจ้าค่ะ ข้าจะทำให้มันสมบูรณ์แน่นอน! ท่านปู่ รอกก็เหมือนกับล้อเกวียน ใช้งานได้ดีแล้วก็ใช้ทำได้หลายอย่างเลยเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋พูดเจื้อยแจ้วบอกการใช้รอกให้ท่านอดีตเสนาบดีฟัง ท่านอดีตเสนาบดีก็ฟังอย่างให้ความร่วมมือเช่นกันเขามองไปที่สนามแข่งขันอยู่เป็นระยะ เมื่อได้ยินหลิงอวี๋พูดอย่างตื่นเต้น จู่ ๆ สายตาของท่านอดีตเสนาบดีก็มิสบายใจขึ้นมาเจ้าเด็กโง่ผู้นี้ นางคิดจะใช้วิธีนี้มาทำให้ตนมิต้องกังวลมากอย่างนั้นหรือ?แต่นางมิรู้หรือว่า หากนางถูกตัดหัวในที่สาธารณะจริง ๆ คำพูดที่นางพูดเหล่านี้จะทำให้ตนนึกถึงแล้วเศร้าใจ?เด็กที่ฉลาดและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นถึงเพียงนี้ จักรพรรดิอู่อันและคนเหล่านั้นจะทนรับพวกเขาไว้มิได้ได้เยี่ยงไร?ในขณะที่หลิงอวี๋พูดเวลาก็ล่วงเลยไปการแข่งขันการขว้างเป็นไปตามที่เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋คาดการณ์ไว้ คือกลุ่มขององค์ชายอิงได้รับชัยชนะไปเซียวหลินเทียนได้มีการเตรียมใจเอาไว้แล้วจึงมิได้ผิดหวังมากนักแต่ผู้คนที่มาชมกลับมิได้คิดเช่นนั้น เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องอี้พ่ายแพ้อีกแล้วก็มีคนจำนวนมากตะโกนขึ้นมาทันที“ท่านอ๋องอี้ พวกท่านเป็นกลุ่มกระจอกหรือ?
กลิ่นอายสังหารเช่นนี้ หากเป็นคนทั่วไปคงรับมิไหวเป็นแน่!แต่ชายผู้นี้กลับมิกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนพลางส่งนิ้วก้อยมาให้อย่างดูถูกด้วย“พวกท่านมันขี้ขลาด เป็นพวกมอดแมลงที่กินเมล็ดข้าว ปกติแล้วก็เอาแต่โอ้อวดว่ามีพละกำลัง แต่ยามต่อสู้นั้นหนีเร็วที่สุด...”ชายผู้นั้นพูดมิทันจบ คาดว่าเป็นเพราะการกระทำของเขาไปปลุกปั่นเข้าแล้ว คนในฝูงชนจึงโยนไข่เน่าเข้ามาอีกแล้ว“จะไปเสียน้ำลายพูดกับพวกเขาเพื่อสิ่งใด ขยะพวกนี้ควรจะกินไข่เน่าไปเสีย!”จากนั้นก็เกิดเสียงโยนเข้ามาติด ๆ กันไปหมด มิรู้ว่าคนเหล่านี้ไปเอาไข่เน่ามาจากที่ใดมากถึงเพียงนี้ พวกเขาโยนใส่พวกเซียวหลินเทียนราวกับสายฝนที่ตกลงมาเลยเซียวหลินเทียนกัดฟันกรอด ดึงอันเจ๋อไปข้างหลังแล้วชักกระบี่อ่อนที่เอวออกมา“ท่านอ๋องอี้โกรธจนจะฆ่าคนแล้ว...”“ขยะไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะศัตรูได้ แต่สามารถฆ่าคนของตนได้...”“ตุบ… วันนี้ต่อให้ต้องตายด้วยกระบี่ของเขาก็ต้องทำให้เขาเหม็นไปเป็นหมื่น ๆ ปีให้ได้...”หลิงอวี๋เห็นภาพนี้จากที่ไกล ๆ ก็ตกใจลุกขึ้นยืนแล้วก็รู้สึกจุกที่ลำคอทันทีเซียวหลินเทียนจะฆ่าพวกคนที่ทำให้อับอายเหล่านี้ด้วยความโกร
หลิงอวี๋เห็นภาพนี้บนอัฒจันทร์ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเซียวหลินเทียนมิได้โกรธแล้วหุนหันพลันแล่นแบบเมื่อก่อนแล้ว!เขาพลิกวิกฤตที่มองมิเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก!วิชากระบี่ที่ยอดเยี่ยมนี้ ทั้งสยบผู้ที่มีเจตนาร้ายได้ และยังปกป้องพวกอันเจ๋อมิให้โดนดูถูกได้ด้วยใต้หล้านี้จะมีกี่คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้เล่า!การกระทำเช่นนี้ทำให้จักรพรรดิอู่อันพยักหน้าอย่างพึงพอใจเช่นกันเดิมทีองค์ชายเว่ยคิดว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธคนฆ่าคน จึงพยายามจะใส่ไฟเขา ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะใช้วิธีนี้แก้ปัญหาจ้าวฮุยมองแผ่นหลังของเซียวหลินเทียนด้วยแววตาเป็นประกาย แล้วเขาก็ตัดสินได้อีกครั้งว่าตนเลือกผิดไปแล้วตอนแรกน่าจะเลือกเซียวหลินเทียนเป็นลูกเขยไปเสีย!องค์ชายคังกัดริมฝีปากล่างแน่น เรื่องปาไข่เน่านี่เป็นความคิดของจ้าวเจินเจินที่อยากจะป้องกันไว้สองชั้น‘หากเซียวหลินเทียนถูกไข่เน่าโยนใส่จนเต็มตัว จากนิสัยของเขาแล้วจะต้องโกรธแล้วฆ่าราษฎรเพื่อระบายความโกรธแน่นอนเพคะ!’‘เช่นนี้หากเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้แล้วสูญเสียเมืองไปก็จะถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลซึ่งเป็นโทษที่ร้ายแรง!’‘ทว่าหากว่าเขาชนะ ก็จะมีความผิดฐานฆ่าราษฎร
เสียงขององค์ชายอิงดังกังวานราวระฆัง องค์ชายหนิงที่อยู่ไกลออกไปก็ยังได้ยินเลยเขาหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยด้วยความดังเท่า ๆ กัน “อ๋องอี้ องค์ชายอิงพูดถูก หากไม่มีเจ้า พวกเราก็คงจะเหงาแย่!”“เช่นนั้น การแข่งขันครั้งนี้ อ๋องอี้อย่าได้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ขึ้นอีกเป็นอันขาด! ข้ายอมเสียเมืองสองเมืองไป แต่มิอยากให้ใต้หล้านี้ต้องสูญเสียผู้นำทัพที่มีความสามารถเยี่ยงเจ้าไปหรอกนะ!”“เราต่างก็ชื่นชมกันและกัน ยุคนี้ควรจะเป็นของพวกเรา มีเพียงคนหนุ่มเยี่ยงพวกเราเท่านั้นจึงจะสามารถนำพาราษฎรของตนไปสู่เส้นทางแห่งความเจริญรุ่งเรืองได้!”คำพูดนี้ขององค์ชายหนิง เมื่อองค์ชายอิงฟังก็มิได้รู้สึกอะไร เหมือนเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจทั้งหมดแต่องค์ชายหนิงกับองค์ชายอิงล้วนเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นของตนแล้ว แตกต่างกับพวกเขาและฉินตะวันตก จักรพรรดิอู่อันกำลังอยู่ในวัยรุ่งโรจน์เลย!คำพูดของคนหนุ่มเช่นนี้มิได้เป็นการบอกเป็นนัย ๆ หรือว่าจักรพรรดิอู่อันควรจะสละราชสมบัติได้แล้ว?จักรพรรดิอู่อันประวิงเวลามิแต่งตั้งองค์รัชทายาทก็เพราะว่า เมื่อแต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้วจะมาแทรกแซงบัลลังก์ของตนหากคำพูดนี้ไปเข้