แชร์

บทที่ 1151

ผู้เขียน: กานเฟย
กลิ่นอายสังหารเช่นนี้ หากเป็นคนทั่วไปคงรับมิไหวเป็นแน่!

แต่ชายผู้นี้กลับมิกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนพลางส่งนิ้วก้อยมาให้อย่างดูถูกด้วย

“พวกท่านมันขี้ขลาด เป็นพวกมอดแมลงที่กินเมล็ดข้าว ปกติแล้วก็เอาแต่โอ้อวดว่ามีพละกำลัง แต่ยามต่อสู้นั้นหนีเร็วที่สุด...”

ชายผู้นั้นพูดมิทันจบ คาดว่าเป็นเพราะการกระทำของเขาไปปลุกปั่นเข้าแล้ว คนในฝูงชนจึงโยนไข่เน่าเข้ามาอีกแล้ว

“จะไปเสียน้ำลายพูดกับพวกเขาเพื่อสิ่งใด ขยะพวกนี้ควรจะกินไข่เน่าไปเสีย!”

จากนั้นก็เกิดเสียงโยนเข้ามาติด ๆ กันไปหมด มิรู้ว่าคนเหล่านี้ไปเอาไข่เน่ามาจากที่ใดมากถึงเพียงนี้ พวกเขาโยนใส่พวกเซียวหลินเทียนราวกับสายฝนที่ตกลงมาเลย

เซียวหลินเทียนกัดฟันกรอด ดึงอันเจ๋อไปข้างหลังแล้วชักกระบี่อ่อนที่เอวออกมา

“ท่านอ๋องอี้โกรธจนจะฆ่าคนแล้ว...”

“ขยะไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะศัตรูได้ แต่สามารถฆ่าคนของตนได้...”

“ตุบ… วันนี้ต่อให้ต้องตายด้วยกระบี่ของเขาก็ต้องทำให้เขาเหม็นไปเป็นหมื่น ๆ ปีให้ได้...”

หลิงอวี๋เห็นภาพนี้จากที่ไกล ๆ ก็ตกใจลุกขึ้นยืนแล้วก็รู้สึกจุกที่ลำคอทันที

เซียวหลินเทียนจะฆ่าพวกคนที่ทำให้อับอายเหล่านี้ด้วยความโกร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1152

    หลิงอวี๋เห็นภาพนี้บนอัฒจันทร์ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเซียวหลินเทียนมิได้โกรธแล้วหุนหันพลันแล่นแบบเมื่อก่อนแล้ว!เขาพลิกวิกฤตที่มองมิเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก!วิชากระบี่ที่ยอดเยี่ยมนี้ ทั้งสยบผู้ที่มีเจตนาร้ายได้ และยังปกป้องพวกอันเจ๋อมิให้โดนดูถูกได้ด้วยใต้หล้านี้จะมีกี่คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้เล่า!การกระทำเช่นนี้ทำให้จักรพรรดิอู่อันพยักหน้าอย่างพึงพอใจเช่นกันเดิมทีองค์ชายเว่ยคิดว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธคนฆ่าคน จึงพยายามจะใส่ไฟเขา ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะใช้วิธีนี้แก้ปัญหาจ้าวฮุยมองแผ่นหลังของเซียวหลินเทียนด้วยแววตาเป็นประกาย แล้วเขาก็ตัดสินได้อีกครั้งว่าตนเลือกผิดไปแล้วตอนแรกน่าจะเลือกเซียวหลินเทียนเป็นลูกเขยไปเสีย!องค์ชายคังกัดริมฝีปากล่างแน่น เรื่องปาไข่เน่านี่เป็นความคิดของจ้าวเจินเจินที่อยากจะป้องกันไว้สองชั้น‘หากเซียวหลินเทียนถูกไข่เน่าโยนใส่จนเต็มตัว จากนิสัยของเขาแล้วจะต้องโกรธแล้วฆ่าราษฎรเพื่อระบายความโกรธแน่นอนเพคะ!’‘เช่นนี้หากเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้แล้วสูญเสียเมืองไปก็จะถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลซึ่งเป็นโทษที่ร้ายแรง!’‘ทว่าหากว่าเขาชนะ ก็จะมีความผิดฐานฆ่าราษฎร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1153

    เสียงขององค์ชายอิงดังกังวานราวระฆัง องค์ชายหนิงที่อยู่ไกลออกไปก็ยังได้ยินเลยเขาหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยด้วยความดังเท่า ๆ กัน “อ๋องอี้ องค์ชายอิงพูดถูก หากไม่มีเจ้า พวกเราก็คงจะเหงาแย่!”“เช่นนั้น การแข่งขันครั้งนี้ อ๋องอี้อย่าได้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ขึ้นอีกเป็นอันขาด! ข้ายอมเสียเมืองสองเมืองไป แต่มิอยากให้ใต้หล้านี้ต้องสูญเสียผู้นำทัพที่มีความสามารถเยี่ยงเจ้าไปหรอกนะ!”“เราต่างก็ชื่นชมกันและกัน ยุคนี้ควรจะเป็นของพวกเรา มีเพียงคนหนุ่มเยี่ยงพวกเราเท่านั้นจึงจะสามารถนำพาราษฎรของตนไปสู่เส้นทางแห่งความเจริญรุ่งเรืองได้!”คำพูดนี้ขององค์ชายหนิง เมื่อองค์ชายอิงฟังก็มิได้รู้สึกอะไร เหมือนเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจทั้งหมดแต่องค์ชายหนิงกับองค์ชายอิงล้วนเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นของตนแล้ว แตกต่างกับพวกเขาและฉินตะวันตก จักรพรรดิอู่อันกำลังอยู่ในวัยรุ่งโรจน์เลย!คำพูดของคนหนุ่มเช่นนี้มิได้เป็นการบอกเป็นนัย ๆ หรือว่าจักรพรรดิอู่อันควรจะสละราชสมบัติได้แล้ว?จักรพรรดิอู่อันประวิงเวลามิแต่งตั้งองค์รัชทายาทก็เพราะว่า เมื่อแต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้วจะมาแทรกแซงบัลลังก์ของตนหากคำพูดนี้ไปเข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1154

    “เดินหน้า!”เซียวหลินเทียนโบกธงส่งสัญญาณให้ผู้ถือหางเสือเรืออย่างเด็ดขาดลูกเรือทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันพายเรืออย่างเต็มกำลังเพื่อให้เรือมุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ“ถึงท่านอ๋องอี้จะอยากชนะแต่จะบุกไปเช่นนี้มิได้นะ! นี่เพิ่งจะแล่นออกมาได้มิไกลเท่าไร หากเรือเสียหายขึ้นมาคาดว่าจะต้องรั่วแล้วจมลงกลางทางเป็นแน่!”ขุนนางผู้หนึ่งเห็นเช่นนั้นก็อดมิได้ที่จะส่ายหน้าหลี่ว์เซียงมองเขาอย่างเย็นชา ท่านอ๋องอี้มิใช่คนโง่ เขาจะมิเข้าใจเหตุผลข้อนี้ได้เยี่ยงไรกัน?ที่เขาทำเช่นนี้จะต้องมีเจตนาเป็นแน่จักรพรรดิอู่อันกำลังดูอยู่อย่างเป็นกังวล เมื่อถูกขุนนางผู้นี้เอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาเช่นนี้จึงตะคอกออกไปอย่างมิพอใจ “ดูการแข่งขันไปเงียบ ๆ มิต้องพูดมาก! อ๋องอี้มิใช่คนโง่เสียหน่อย หากเจ้ารู้จักเขาก็จะเข้าใจ!”“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางผู้นั้นถูกจักรพรรดิอู่อันตำหนิไปเช่นนี้ก็หน้าแดงหูแดงขึ้นมาทันที จากนั้นก็โค้งตัวรับผิดแล้วถอยไปข้างหลังจ้าวฮุยยิ้มออกมาจาง ๆ มองไปข้างหน้าก็เห็นเซียวหลินเทียนที่บีบให้เรือรบขององค์ชายอิงหันหางเสือเรือหลบการชนของเซียวหลินเทียนด้วยท่าทางห้าวหาญจ้าวฮุยเห็นแล้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1155

    เรือรบทั้งสี่ลำแล่นออกห่างจากฝั่งไปเรื่อย ๆ คนที่อยู่บนภูเขาก็มองเห็นได้ดีขึ้นด้วย แต่ก็เห็นแค่เรือเท่านั้น มิสามารถเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ชัดเจนจักรพรรดิอู่อันเป็นกังวลมาก และในขณะที่กำลังร้อนใจอยู่ก็ได้เสียงของท่านอดีตเสนาบดีดังมาจากด้านหลัง “ฝ่าบาท กระหม่อมมีของกำนัลมาถวายฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เป็นสิ่งที่อาอวี๋ขอให้กระหม่อมนำมามอบให้พ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาททรงดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ นี่คือของล้ำค่าคล้ายกับแว่นตากระจ่างที่อาอวี๋ถวายให้ไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้จะทำให้ฝ่าบาททรงเห็นเรือเหล่านั้นได้ชัดเจนขึ้น!”“น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? รีบส่งมาให้ข้าเร็วเข้า!”จักรพรรดิอู่อันได้ยินท่านอดีตเสนาบดีมารบกวนตน เดิมทีก็อยากจะด่าไป ครั้นได้ยินว่าของกำนัลนี้จะทำให้ตนเห็นเรือเหล่านั้นชัดขึ้น ความโกรธของเขาก็พลันสลายหายไป“นี่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท...”ท่านอดีตเสนาบดียื่นท่อไม้ที่มีความยาวเท่าแขนดูแปลกประหลาดให้พร้อมกับรอยยิ้มขันทีกำลังจะไปรับก็ได้ยินองค์ชายเว่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างมิเกรงใจเสียก่อน “ท่านอดีตเสนาบดี ขาบาดเจ็บก็พักผ่อนอยู่เรือนดี ๆ ไปเถิด มามอบของกำนัลให้เสด็จพ่อถึงที่นี่เวลานี้ หรือกลัวว่าหลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1156

    “เหล่าหลิง กลเม็ดของเซียวหลินเทียนยอดเยี่ยมมาก! เขาทำลูกเรือขององค์ชายหนิงตกน้ำไปสองคนแล้ว!”จักรพรรดิอู่อันดูอย่างตื่นเต้นแล้วพูดคุยถึงภาพที่เห็นกับท่านอดีตเสนาบดีเวลานี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีกล้องส่องทางไกล จึงมีเพียงพวกเขาสองคนที่พูดคุยกันได้“ใช่ วรยุทธของเซียวหลินเทียนไร้ที่ติอยู่แล้ว แค่ประสบการณ์การต่อสู้ยังมิเพียงพอ!”ขณะที่ท่านอดีตเสนาบดีกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เห็นอะไรบางอย่างจึงตะโกนขึ้นมา “เหตุใดเซียวหลินเทียนมิฉลาดถึงเพียงนั้น หากจะกวาดล้างให้หมด กลเม็ดนี้ควรจะเข้าทางข้างหลังสิ เช่นนั้นจึงจะจัดการได้อีกสองคน!”“เจ้าต่างหากที่โง่เขลา เจ้ามิเห็นหรือว่าข้างหน้ามีทหารนายหนึ่งเกี่ยวที่กราบเรืออยู่? หากถูกจับไปที่กราบเรือ ลูกเรือขององค์ชายสี่ก็จะถูกจัดการ! แล้วก็จะถูกพวกเขาโจมตีเอาได้!”จักรพรรดิอู่อันตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “องค์ชายสี่กลับมาป้องกันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว… เอ๊ะ สู้สิ… จัดการพวกเขาให้ตกน้ำกันไปให้หมดเลย!”ขุนนางโดยรอบมองหน้ากันไปมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยแล้วว่าจักรพรรดิอู่อันกับท่านอดีตเสนาบดีเล่นละครกันอยู่ท่านอ๋องเฉิงได้ยินเช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1157

    บนเรือรบของเซียวหลินเทียนในเวลานี้ข้างนอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ส่วนในท้องเรือ จู้เต๋อเห็นว่าไม่มีใครสังเกตตนอยู่จึงเดินลงไปด้านล่างของเรืออย่างเงียบ ๆเขาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นตน ก็ไปเอาสิ่วเหล็กและค้อนออกมาจากมุมหนึ่งแล้วเล็งไปที่กระดานด้านล่างก่อนจะตอกลงไปขอเพียงตอกให้แผ่นกระดานด้านล่างแตกสองสามแผ่น น้ำก็จะรั่วเข้ามาเป็นจำนวนมาก แล้วอีกไม่นานเรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะมีน้ำรั่วเข้ามาถ่วงความเร็วเอาไว้ และภายในเวลามิถึงหนึ่งก้านธูป เรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะจมลงแต่ในขณะที่จู้เต๋อยกค้อนเหล็กขึ้นมา จู่ ๆ ก็มีหินก้อนหนึ่งลอยมาในความมืดแล้วกระแทกเข้าที่สะบักของเขาจู้เต๋อเจ็บจึงทำให้ค้อนเหล็กที่ถือไว้มิมั่นคงหล่นลงไปที่เท้าของเขา“ซี้ด...”จู้เต๋อเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา เขารีบหันกลับไปมองแล้วก็เห็นชายแปลกหน้าอายุประมาณสามสิบเดินออกมาจากที่มืด พลางมองมาที่เขาอย่างเย็นชาชายผู้นั้นรูปร่างผอมเพรียว ผิวพรรณขาวผ่องจนแทบจะใส และดวงตาคู่นั้นก็โบ๋ลึกถูกจับได้แล้ว!จู้เต๋อตกใจเล็กน้อย เขามองไปรอบ ๆ โดยมิรู้ตัวและเห็นว่านอกจากชายผู้นี้แล้วก็ไม่มีคนอื่นอีกดวงตาข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1158

    เมื่อเห็นใบหน้าท้อแท้ของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมาพลางเอ่ย “เจ้ามิต้องท้อใจไปหรอก เจ้ามิได้มองคนผิด ซุนเจ๋อผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่พึ่งพาได้!”ทันทีที่เผยอวี้หลิงอวี๋บอกว่าเขาพึ่งพาได้ทั้งที่จับได้คาหนังคาเขาเช่นนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “พี่หลิงหลิง ท่านอย่ามาเยาะเย้ยข้าเลย หากเขาพึ่งพาได้แล้วจะทำร้ายพวกเราเช่นนี้หรือ?”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าหมายถึงซุนเจ๋อที่เป็นเนื้อแท้ของเขา มิใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้!”“นี่ก็คือซุนเจ๋อชัด ๆ นี่ ข้าจะจำคนผิดได้หรือ?”เผยอวี้คิดว่าหลิงอวี๋เมาเรือจนเบลอสับสนไปหมดแล้วหรือไม่หลิงอวี๋มิพูดจาไร้สาระใด ๆ กับเขาแล้วเดินตรงไปที่ซุนเจ๋อที่ถูกเผยอวี้โยนลงไปที่พื้นนางคุกเข่าลงแล้วสำรวจใบหน้าของซุนเจ๋อ จากนั้นก็จับที่ผมตรงข้างหูของซุนเจ๋อและใช้เล็บสะกิดเบา ๆจากนั้นผิวหนังก็ถูกเล็บของหลิงอวี๋สะกิดออกมาเบา ๆแล้วหลิงอวี๋ก็ดึงออกอย่างระมัดระวัง และถอดหน้ากากใบหน้ามนุษย์ที่บางราวกับปีกจักจั่นออกมาจากใบหน้าของซุนเจ๋อใบหน้าของซุนเจ๋อเผยออกมาทั้งหมดแล้วเป็นใบหน้าที่เผยอวี้มิเคยเห็นมาก่อนเผยอวี้ตกใจจนตาค้าง แล้วทีนี้ถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดหลิงอวี๋ถึงบอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1159

    แต่จักรพรรดิอู่อันมิพูด ท่านอดีตเสนาบดีกลับทนมิไหว เขารู้เรื่องที่พ่ายแพ้การแข่งขันปีนป่าย และเขาเชื่อว่ารอกที่หลิงอวี๋ออกแบบไม่มีทางมีปัญหาแน่ท่านอดีตเสนาบดีนำทัพมาตลอดชีวิต จะมีแผนสกปรกใดบ้างที่เขามิเคยเจอเรื่องนี้ต้องเป็นคนกันเองแน่นอนที่ทำเรื่องสกปรก!แม้ว่าเขาจะมิสามารถช่วยหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจับตัวคนทำได้ในขณะนี้ แต่เขาก็สามารถแอบบอกจักรพรรดิอู่อันเป็นนัย ๆ ได้อยู่!ท่านอดีตเสนาบดีอาศัยช่วงเวลาที่มีแค่เพียงตน จักรพรรดิอู่อันและท่านอ๋องเฉิงที่มองเห็นสถานการณ์ต่อสู้นี้ เขากลอกตาแล้วจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา “เอ๊ะ เหตุใดเรือจึงได้ช้าลง น้ำเข้าหรือไม่?”เขามิได้ระบุชื่อตรง ๆ ออกไป จักรพรรดิอู่อันจึงคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีพูดถึงเรือขององค์ชายหนิง จึงเอ่ยคล้อยตามไป “เจ้ามิเห็นหรือว่าตัวเรือแตก น้ำก็เข้าสิ!”องค์ชายเว่ยไม่มีกล้องส่องทางไกลจึงมองมิเห็นการต่อสู้ เขาคิดว่าจู้เต๋อทำลายสำเร็จแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาทันที“เสด็จพ่อ ลูกก็บอกแล้วว่าองค์ชายสี่ทำมิได้ เขาล้มเหลวและแพ้ติดกันสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ยังทำผิดพลาดเช่นนี้อีก ทำให้เสด็จพ่อต้องพ่ายแพ้และเสียเมืองทั้งสองเมืองไป!”“ครั้งนี้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1873

    “เหยี่ยวผู้กล้าควรกางปีกบินให้สูง และลอยตัวให้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!”เซียวหลินเทียนพูดสิ่งที่เหวินเหรินจิ้นบอกตนออกไปอย่างใจเย็นนี่คือคำพูดที่เหวินเหรินจิ้นพูดกับสือหรงตอนที่ให้เขาออกมาจริง ๆ ตอนนั้นนอกจากเขากับเหวินเหรินจิ้นก็ไม่มีใครอยู่อีกเมื่อสือหรงเห็นว่าคำตอบของเซียวหลินเทียนถูกต้อง ใบหน้าของเขาก็กลับซีดลงทันที ราวกับว่าเขาถูกโจมตีอย่างหนัก“ท่านเจ้าตำหนัก… ท่านเจ้าตำหนักสิ้นแล้วหรือ?”หากมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวหลินเทียนจะมีป้ายผู้นำของตำหนักปีกเงินได้อย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเหวินเหรินจิ้นพูดอะไรกับเขา!“อืม ร่างของเขาจะถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินของตำหนักปีกเงินเป็นการชั่วคราว แล้วในภายหน้าเมื่อข้าสามารถฟื้นคืนตำหนักปีกเงินมาได้ ก็ค่อยนำไปฝังให้ดี ๆ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ“พรึ่บ…”สือหรงคุกเข่าลง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมมิได้เดิมทีเขาคิดว่าจะหลบไปสักประมาณปีครึ่ง แล้วเจ้าตำหนักก็คงจะเรียกพวกเขากลับไป เมื่อถึงเวลานั้นตำหนักปีกเงินก็จะรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า การลาจากของเจ้าตำหนักในครั้งนี้จะเป็นการจากลากันไปตลอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1872

    กระทั่งลงมาจากภูเขาแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้เหยี่ยวดำจิ่วเทียนไปส่งจดหมายให้กับฉินซาน แล้วตนกับเผยอวี้ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านตงหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักปีกเงินหลายสิบลี้ เพื่อตามหาสือหรงลูกศิษย์คนสำคัญของเหวินเหรินจิ้น อีกทั้งยังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายของตำหนักปีกเงินด้วยเซียวหลินเทียนไม่มีทางจะไปตามหาคนในรายชื่อของเหวินเหรินจิ้นทีละคนได้ หากเขาคิดที่จะรวบรวมลูกศิษย์ทั้งหมดของตำหนักปีกเงินที่เหวินเหรินจิ้นสั่งให้ออกจากตำหนักโดยเร็ว สือหรงผู้นี้ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญเหวินเหรินจิ้นเคยบอกไว้ว่า หากตามหาสือหรงพบ พวกเขาก็จะสามารถตามลูกศิษย์ทั้งหมดกลับมาได้ เพราะว่าสือหรงมีช่องทางติดต่อของพวกเขาทุกคนแต่กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้มาถึงหมู่บ้านตงหยวน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตงหยวนถูกสังหารหมู่ และทางการก็กำลังนำคนมาเคลื่อนย้ายศพแต่ละศพออกไปเซียวหลินเทียนและเผยอวี้สวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์แล้ว เผยอวี้จึงแสร้งทำเป็นเข้าไปตามหาญาติเพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อถามไปจึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหมู่บ้านตงหยวนถูกโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นทรัพย์ ตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1871

    หวงฝู่หลินก็เหมือนกับเซียวหลินเทียน ในตอนนี้มีคนที่จะต้องเร่งตามหาให้พบ ดังนั้นแม้ว่าจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องร่วมมือกันจึงจะต่อต้านศัตรูได้หวงฝู่หลินมองตำหนักปีกเงินที่ค่อนข้างหดหู่นี้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน วันนี้เจ้าเปิดเผยเรื่องที่เจ้ามีกระบี่คุนอู๋อยู่ในมือไปแล้ว มหาปราชญ์ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”“พวกเราต้องรีบรวบรวมกลุ่มที่สามารถต่อสู้กับมหาปราชญ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่มหาปราชญ์จะรวมกำลังคนมาจัดการกับเจ้า!”“เจ้าลงจากภูเขาไปรวบรวมบรรดาลูกศิษย์ของตำหนักปีกเงินมา ส่วนข้าจะช่วยหาคนมาสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่เอง!”“หากเจ้าหาลูกสาวของข้าพบก่อน ก็ให้ส่งข้อความมาหาข้า! และหากข้าพบหลิงอวี๋ ข้าก็จะแจ้งเจ้าทันทีเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยมิต้องคิด “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราก็แยกกันเป็นสองกลุ่มไปดำเนินการ!”“เผยอวี้ เราลงจากภูเขากันก่อนเถอะ!”หวงฝู่หลินมองเผยอวี้แล้วเอ่ยออกมา “ประเดี๋ยวก่อน…”เขาหยิบยาหนึ่งขวดออกมาจากแหวนพระสุเมรุของตน แล้วโยนไปที่เผยอวี้ “พลังของเจ้าต่ำเกินไป หากเจ้าติดตามเขาก็จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1869

    ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนมีความเศร้าอยู่จาง ๆ เขายืนอยู่บนบันได ซากปรักหักพังด้านหลังเหล่านั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นก็ทำให้เห็นความหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแต่แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมาบนตัวของเซียวหลินเทียนนั้น ทำให้เขาดูเหมือนมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาก็ยังเป็นคนเดิม แต่กลับดูราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้มิอาจมองเขาตรง ๆ ได้!ทันใดนั้นหวงฝู่หลินก็รู้สึกถึงความรู้สึกกดดันที่มิเคยมีมาก่อนจู่ ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ในภายภาคหน้าพลังของเซียวหลินเทียนจะประสบความสำเร็จ จะต้องอยู่เหนือไปกว่าของตนมาก และอยู่เหนือกว่าบรรดายอดฝีมือในแดนเทพอย่างแน่นอน!เหนือกว่าแม้กระทั่งหลงอี้ด้วย...เซียวหลินเทียนมองไปไกล ๆ แล้วนึกฉากเมื่อครู่เหวินเหรินจิ้นพาเขาเข้าไป และมิเพียงแต่มอบรายชื่อบรรดาศิษย์ของตำหนักปีกเงินให้ตนเท่านั้น แต่ยังมอบเงินทั้งหมดที่ตำหนักปีกเงินเก็บไว้หลายปีให้ตนด้วยนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปราชญ์ต้องการอย่างหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยสุดท้ายเหวินเหรินจิ้นก็ยังพยายามถ่ายพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1868

    หวงฝู่หลินมองเหวินเหรินจิ้นด้วยความสงสาร จากนั้นก็ประคองเขานั่งขึ้นมา แล้วเอ่ยไปอย่างเรียบ ๆ “เจ้าคงมิอยากจากไปโดยที่มิได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้แน่!”“ต่อให้ยานั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็มิล้ำค่าเท่ากับเจ้า...พูดมาเถิด ยังมีความปรารถนาใดอีกที่เจ้ายังมิสมหวัง ขอเพียงข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”หวงฝู่หลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงป้อนโอสถช่วยชีวิตอันล้ำค่าที่ตนสกัดอย่างพิถีพิถันให้กับเหวินเหรินจิ้น เขามิอยากให้สหายผู้นี้ตายตามิหลับเหวินเหรินจิ้นมองหลานชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้าง ๆ แล้วหวงฝู่หลินก็เข้าใจทันที “ข้าจะให้คนดูแลเขาเอง!”เหวินเหรินจิ้นจึงฝืนยิ้มออกมา “ให้เขาเติบโตอย่างเรียบง่าย ลืมตระกูลนี้ไปเสีย และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบไปให้หมด!”“ได้!”หวงฝู่หลินมิได้พูดอะไรมาก แต่เหวินเหรินจิ้นรู้ว่า เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“ข้าขอฝากตำหนักปีกเงินไว้กับเจ้า...ข้าได้คำนวณชะตาไว้แล้วว่าจะมีภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าจึงแสร้งป่วยแล้วให้ลูกศิษย์ของตำหนักทั้งหมดกระจายกันออกไป...”“แต่ข้ามิวางใจ ข้ากังวลว่า หากมหาปราชญ์หาหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์มิเจอ แล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1867

    เผยอวี้เห็นว่าหวงฝู่หลินหน้าซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงมิรีรอแล้วคุกเข่าลงไป จากนั้นก็ยัดลำไส้ของเสือดาวหิมะกลับตามคำชี้แนะของหวงฝู่หลินแล้วหวงฝู่หลินก็นำเครื่องยาสมุนไพรและเข็มกับด้ายออกมาจากแหวนพระสุเมรุ จากนั้นเขาก็ส่งเข็มกับด้ายให้เผยอวี้ “ช่วยเย็บแผลให้มันที!”เผยอวี้ตะลึงไปทันที เขาจับมีดจับกระบี่ได้ แต่เขาใช้เข็มกับด้ายมิเป็น!เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่ตนพิชิตกระบี่คุนอู๋ ก็เคยบาดมือมาก่อน แต่เมื่อฝ่ามือของเขาจับที่กระบี่คุนอู๋ ก็รักษาตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะใช้กระบี่คุนอู๋รักษาเสือดาวหิมะหรือไม่!เขาเข้าใจหลักการที่ว่า ทรัพย์สมบัติมิควรเปิดเผยออกมา หากว่าในวันนี้มิใช่สถานการณ์วิกฤต เขาก็ไม่มีทางนำกระบี่คุนอู๋ออกมาแน่แต่ตอนนี้มหาปราชญ์รู้แล้วว่า กระบี่คุนอู๋อยู่ในมือของตน มันจะต้องนำความยุ่งยากมาหาตนมิจบสิ้น เช่นเดียวกับหยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋อย่างแน่นอน!หากเปิดเผยเรื่องที่กระบี่คุนอู๋สามารถรักษาบาดแผลได้ไปอีก เช่นนั้นจะมิยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นหรือ?แต่เมื่อเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status