“เดินหน้า!”เซียวหลินเทียนโบกธงส่งสัญญาณให้ผู้ถือหางเสือเรืออย่างเด็ดขาดลูกเรือทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันพายเรืออย่างเต็มกำลังเพื่อให้เรือมุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ“ถึงท่านอ๋องอี้จะอยากชนะแต่จะบุกไปเช่นนี้มิได้นะ! นี่เพิ่งจะแล่นออกมาได้มิไกลเท่าไร หากเรือเสียหายขึ้นมาคาดว่าจะต้องรั่วแล้วจมลงกลางทางเป็นแน่!”ขุนนางผู้หนึ่งเห็นเช่นนั้นก็อดมิได้ที่จะส่ายหน้าหลี่ว์เซียงมองเขาอย่างเย็นชา ท่านอ๋องอี้มิใช่คนโง่ เขาจะมิเข้าใจเหตุผลข้อนี้ได้เยี่ยงไรกัน?ที่เขาทำเช่นนี้จะต้องมีเจตนาเป็นแน่จักรพรรดิอู่อันกำลังดูอยู่อย่างเป็นกังวล เมื่อถูกขุนนางผู้นี้เอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาเช่นนี้จึงตะคอกออกไปอย่างมิพอใจ “ดูการแข่งขันไปเงียบ ๆ มิต้องพูดมาก! อ๋องอี้มิใช่คนโง่เสียหน่อย หากเจ้ารู้จักเขาก็จะเข้าใจ!”“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางผู้นั้นถูกจักรพรรดิอู่อันตำหนิไปเช่นนี้ก็หน้าแดงหูแดงขึ้นมาทันที จากนั้นก็โค้งตัวรับผิดแล้วถอยไปข้างหลังจ้าวฮุยยิ้มออกมาจาง ๆ มองไปข้างหน้าก็เห็นเซียวหลินเทียนที่บีบให้เรือรบขององค์ชายอิงหันหางเสือเรือหลบการชนของเซียวหลินเทียนด้วยท่าทางห้าวหาญจ้าวฮุยเห็นแล้
เรือรบทั้งสี่ลำแล่นออกห่างจากฝั่งไปเรื่อย ๆ คนที่อยู่บนภูเขาก็มองเห็นได้ดีขึ้นด้วย แต่ก็เห็นแค่เรือเท่านั้น มิสามารถเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ชัดเจนจักรพรรดิอู่อันเป็นกังวลมาก และในขณะที่กำลังร้อนใจอยู่ก็ได้เสียงของท่านอดีตเสนาบดีดังมาจากด้านหลัง “ฝ่าบาท กระหม่อมมีของกำนัลมาถวายฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เป็นสิ่งที่อาอวี๋ขอให้กระหม่อมนำมามอบให้พ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาททรงดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ นี่คือของล้ำค่าคล้ายกับแว่นตากระจ่างที่อาอวี๋ถวายให้ไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้จะทำให้ฝ่าบาททรงเห็นเรือเหล่านั้นได้ชัดเจนขึ้น!”“น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? รีบส่งมาให้ข้าเร็วเข้า!”จักรพรรดิอู่อันได้ยินท่านอดีตเสนาบดีมารบกวนตน เดิมทีก็อยากจะด่าไป ครั้นได้ยินว่าของกำนัลนี้จะทำให้ตนเห็นเรือเหล่านั้นชัดขึ้น ความโกรธของเขาก็พลันสลายหายไป“นี่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท...”ท่านอดีตเสนาบดียื่นท่อไม้ที่มีความยาวเท่าแขนดูแปลกประหลาดให้พร้อมกับรอยยิ้มขันทีกำลังจะไปรับก็ได้ยินองค์ชายเว่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างมิเกรงใจเสียก่อน “ท่านอดีตเสนาบดี ขาบาดเจ็บก็พักผ่อนอยู่เรือนดี ๆ ไปเถิด มามอบของกำนัลให้เสด็จพ่อถึงที่นี่เวลานี้ หรือกลัวว่าหลิงอวี
“เหล่าหลิง กลเม็ดของเซียวหลินเทียนยอดเยี่ยมมาก! เขาทำลูกเรือขององค์ชายหนิงตกน้ำไปสองคนแล้ว!”จักรพรรดิอู่อันดูอย่างตื่นเต้นแล้วพูดคุยถึงภาพที่เห็นกับท่านอดีตเสนาบดีเวลานี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีกล้องส่องทางไกล จึงมีเพียงพวกเขาสองคนที่พูดคุยกันได้“ใช่ วรยุทธของเซียวหลินเทียนไร้ที่ติอยู่แล้ว แค่ประสบการณ์การต่อสู้ยังมิเพียงพอ!”ขณะที่ท่านอดีตเสนาบดีกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เห็นอะไรบางอย่างจึงตะโกนขึ้นมา “เหตุใดเซียวหลินเทียนมิฉลาดถึงเพียงนั้น หากจะกวาดล้างให้หมด กลเม็ดนี้ควรจะเข้าทางข้างหลังสิ เช่นนั้นจึงจะจัดการได้อีกสองคน!”“เจ้าต่างหากที่โง่เขลา เจ้ามิเห็นหรือว่าข้างหน้ามีทหารนายหนึ่งเกี่ยวที่กราบเรืออยู่? หากถูกจับไปที่กราบเรือ ลูกเรือขององค์ชายสี่ก็จะถูกจัดการ! แล้วก็จะถูกพวกเขาโจมตีเอาได้!”จักรพรรดิอู่อันตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “องค์ชายสี่กลับมาป้องกันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว… เอ๊ะ สู้สิ… จัดการพวกเขาให้ตกน้ำกันไปให้หมดเลย!”ขุนนางโดยรอบมองหน้ากันไปมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยแล้วว่าจักรพรรดิอู่อันกับท่านอดีตเสนาบดีเล่นละครกันอยู่ท่านอ๋องเฉิงได้ยินเช่นนั้นก
บนเรือรบของเซียวหลินเทียนในเวลานี้ข้างนอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ส่วนในท้องเรือ จู้เต๋อเห็นว่าไม่มีใครสังเกตตนอยู่จึงเดินลงไปด้านล่างของเรืออย่างเงียบ ๆเขาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นตน ก็ไปเอาสิ่วเหล็กและค้อนออกมาจากมุมหนึ่งแล้วเล็งไปที่กระดานด้านล่างก่อนจะตอกลงไปขอเพียงตอกให้แผ่นกระดานด้านล่างแตกสองสามแผ่น น้ำก็จะรั่วเข้ามาเป็นจำนวนมาก แล้วอีกไม่นานเรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะมีน้ำรั่วเข้ามาถ่วงความเร็วเอาไว้ และภายในเวลามิถึงหนึ่งก้านธูป เรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะจมลงแต่ในขณะที่จู้เต๋อยกค้อนเหล็กขึ้นมา จู่ ๆ ก็มีหินก้อนหนึ่งลอยมาในความมืดแล้วกระแทกเข้าที่สะบักของเขาจู้เต๋อเจ็บจึงทำให้ค้อนเหล็กที่ถือไว้มิมั่นคงหล่นลงไปที่เท้าของเขา“ซี้ด...”จู้เต๋อเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา เขารีบหันกลับไปมองแล้วก็เห็นชายแปลกหน้าอายุประมาณสามสิบเดินออกมาจากที่มืด พลางมองมาที่เขาอย่างเย็นชาชายผู้นั้นรูปร่างผอมเพรียว ผิวพรรณขาวผ่องจนแทบจะใส และดวงตาคู่นั้นก็โบ๋ลึกถูกจับได้แล้ว!จู้เต๋อตกใจเล็กน้อย เขามองไปรอบ ๆ โดยมิรู้ตัวและเห็นว่านอกจากชายผู้นี้แล้วก็ไม่มีคนอื่นอีกดวงตาข
เมื่อเห็นใบหน้าท้อแท้ของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมาพลางเอ่ย “เจ้ามิต้องท้อใจไปหรอก เจ้ามิได้มองคนผิด ซุนเจ๋อผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่พึ่งพาได้!”ทันทีที่เผยอวี้หลิงอวี๋บอกว่าเขาพึ่งพาได้ทั้งที่จับได้คาหนังคาเขาเช่นนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “พี่หลิงหลิง ท่านอย่ามาเยาะเย้ยข้าเลย หากเขาพึ่งพาได้แล้วจะทำร้ายพวกเราเช่นนี้หรือ?”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าหมายถึงซุนเจ๋อที่เป็นเนื้อแท้ของเขา มิใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้!”“นี่ก็คือซุนเจ๋อชัด ๆ นี่ ข้าจะจำคนผิดได้หรือ?”เผยอวี้คิดว่าหลิงอวี๋เมาเรือจนเบลอสับสนไปหมดแล้วหรือไม่หลิงอวี๋มิพูดจาไร้สาระใด ๆ กับเขาแล้วเดินตรงไปที่ซุนเจ๋อที่ถูกเผยอวี้โยนลงไปที่พื้นนางคุกเข่าลงแล้วสำรวจใบหน้าของซุนเจ๋อ จากนั้นก็จับที่ผมตรงข้างหูของซุนเจ๋อและใช้เล็บสะกิดเบา ๆจากนั้นผิวหนังก็ถูกเล็บของหลิงอวี๋สะกิดออกมาเบา ๆแล้วหลิงอวี๋ก็ดึงออกอย่างระมัดระวัง และถอดหน้ากากใบหน้ามนุษย์ที่บางราวกับปีกจักจั่นออกมาจากใบหน้าของซุนเจ๋อใบหน้าของซุนเจ๋อเผยออกมาทั้งหมดแล้วเป็นใบหน้าที่เผยอวี้มิเคยเห็นมาก่อนเผยอวี้ตกใจจนตาค้าง แล้วทีนี้ถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดหลิงอวี๋ถึงบอ
แต่จักรพรรดิอู่อันมิพูด ท่านอดีตเสนาบดีกลับทนมิไหว เขารู้เรื่องที่พ่ายแพ้การแข่งขันปีนป่าย และเขาเชื่อว่ารอกที่หลิงอวี๋ออกแบบไม่มีทางมีปัญหาแน่ท่านอดีตเสนาบดีนำทัพมาตลอดชีวิต จะมีแผนสกปรกใดบ้างที่เขามิเคยเจอเรื่องนี้ต้องเป็นคนกันเองแน่นอนที่ทำเรื่องสกปรก!แม้ว่าเขาจะมิสามารถช่วยหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจับตัวคนทำได้ในขณะนี้ แต่เขาก็สามารถแอบบอกจักรพรรดิอู่อันเป็นนัย ๆ ได้อยู่!ท่านอดีตเสนาบดีอาศัยช่วงเวลาที่มีแค่เพียงตน จักรพรรดิอู่อันและท่านอ๋องเฉิงที่มองเห็นสถานการณ์ต่อสู้นี้ เขากลอกตาแล้วจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา “เอ๊ะ เหตุใดเรือจึงได้ช้าลง น้ำเข้าหรือไม่?”เขามิได้ระบุชื่อตรง ๆ ออกไป จักรพรรดิอู่อันจึงคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีพูดถึงเรือขององค์ชายหนิง จึงเอ่ยคล้อยตามไป “เจ้ามิเห็นหรือว่าตัวเรือแตก น้ำก็เข้าสิ!”องค์ชายเว่ยไม่มีกล้องส่องทางไกลจึงมองมิเห็นการต่อสู้ เขาคิดว่าจู้เต๋อทำลายสำเร็จแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาทันที“เสด็จพ่อ ลูกก็บอกแล้วว่าองค์ชายสี่ทำมิได้ เขาล้มเหลวและแพ้ติดกันสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ยังทำผิดพลาดเช่นนี้อีก ทำให้เสด็จพ่อต้องพ่ายแพ้และเสียเมืองทั้งสองเมืองไป!”“ครั้งนี้
พวกของจักรพรรดิอู่อันยืนอยู่ด้านหน้า ส่วนบรรดาสตรีมิสามารถเข้าไปใกล้ได้จึงทำได้เพียงยืนอยู่ด้านหลังวันนี้อันซินก็มากับเหล่าคุณหนูหลายคนเพื่อให้กำลังใจกลุ่มของฉินตะวันตกเช่นกัน นางกับหลิงหว่านยืนอยู่ด้วยกันเมื่อได้ยินขุนนางเหล่านั้นต่างกำลังด่าหลิงอวี๋อยู่ อันซินก็สีหน้าเปลี่ยนไป นางเห็นหลิงหว่านหน้าซีดก็ยื่นมือไปจับมือของหลิงหว่านไว้ทั้งสองคนต่างรู้สึกหนักอึ้งหากกลุ่มของเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋จะต้องถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลส่วนอันเจ๋อกับเผยอวี้ที่เป็นรองแม่ทัพของเซียวหลินเทียน แม้ว่าจะมิถูกตัดหัวแต่ตำแหน่งการงานของพวกเขาก็ต้องจบลงเช่นกันตอนนี้พวกนางมิได้กังวลเรื่องอันเจ๋อกับเผยอวี้ ได้แต่ครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรอดพ้นจากการถูกลงโทษอย่างไรดีจ้าวเจินเจินเองก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน และนางก็ควบคุมตนเองที่อยากจะหัวเราะออกมามิได้จริง ๆแต่นางก็มิกล้าหัวเราะยินดีบนความทุกข์ของผู้อื่นออกมาต่อหน้าทุกคนเช่นนั้นหรอก จึงทำได้เพียงเอาผ้ามาปิดไว้ครึ่งหน้าแล้วหัวเราะอย่างเงียบ ๆ‘หลิงอวี๋ จะสู้กับข้าเยี่ยงนั้นหรือ? ตอนนี้รู้ถึงความแ
ปี๊ด… ปี๊ด ๆ …คนเป่าแตรเป่าดังเป็นระดับ ๆเสียงแตรประกาศข่าวดีนั้นเป็นการส่งข่าวให้ขุนนางทุกคนได้เข้าใจนี่เป็นชัยชนะของฉินตะวันตกจริง ๆ!พวกคนที่เหยียดหยามเซียวหลินเทียนและยั่วยุให้องค์จักรพรรดิประหารเขากับหลิงอวี๋เมื่อครู่ต่างก็หน้าซีดกันไปหมดพวกเขากลัวจะไปดึงความสนใจองค์จักรพรรดิจึงทยอยหลังหลังกันไปหลิงหว่านกับอันซินได้ยินข่าวนี้ก็ชะงักกันไป จากนั้นทั้งสองคนก็กอดกันน้ำตาคลอสุดยอด! ฉินตะวันตกชนะแล้ว!พวกของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนชนะแล้ว!จ้าวเจินเจินหน้าซีดไปทันที!เป็นไปได้เยี่ยงไร?เห็น ๆ อยู่ว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนหาหนอนบ่อนไส้ขององค์ชายเว่ยมิพบ อีกทั้งนางก็จัดคนที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดไปสร้างความเสียหายเพื่อเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่งด้วย!แผนสร้างความเสียหายถึงสองชั้น ว่ากันตามเหตุผลแล้วไม่มีทางที่จะล้มเหลวได้เลย!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะยังชนะได้!พระชายาเว่ยจิตใจว่างเปล่า สมองก็ว่างเปล่าเช่นกันหลิงอวี๋… นางสารเลวผู้นี้ นางเป็นคนโปรดของเทพพระเจ้าหรือไร?เหตุใดนางจึงรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ต้องตายไปอย่างโชคดีครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้?ที่แห่ง