จักรพรรดิอู่อันมิยอมรับการมีอยู่ของค่ายกองทหารเสือ เซียวหลินเทียนก็มิสามารถไปบังคับเขาได้ เขาจึงรู้สึกท้อแท้เล็กน้อยศัตรูที่แข็งแกร่งบุกมาถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เสด็จพ่อยังคงปกปิดความลับเพื่อผลประโยชน์ของเขาเองอยู่เช่นนี้จะมีความหมายอะไรกัน!“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ เช่นนั้นลูกขอทูลลา!”ได้กองทัพหลวงมาก็ย่อมดีกว่ามิได้อะไรเลย เซียวหลินเทียนเดินออกจากห้องทรงพระอักษรไปเลือกคนกับหัวหน้าราชองครักษ์ผางอย่างหน้าบึ้งเมื่อราชองครักษ์ผางได้ยินว่าเซียวหลินเทียนต้องการคนก็ยินดีมาก สั่งทหารกองทัพหลวงสิบกว่านายที่ค่อนข้างเก่งวรยุทธ ให้พวกเขาติดตามเซียวหลินเทียนไปสนับสนุนอันเจ๋อเซียวหลินเทียนทำงานเสร็จแล้วกำลังจะไป องครักษ์กองทัพหลวงนายหนึ่งก็เข้ามาพบราชองครักษ์ผางเซียวหลินเทียนจึงถือโอกาสกล่าวลาเขามีเรื่องคิดอยู่ในใจเต็มไปหมด จึงก้มหน้าคิดเรื่องค่ายกองทหารเสือของจักรพรรดิอู่อันความยอดเยี่ยมของกองกำลังนี้ทำให้เขาโหยหามาตลอด แม้ว่าเขาจะมิเคยคิดที่จะควบคุมกองกำลังนี้ แต่ก็อยากเห็นพลังการต่อสู้ของพวกเขาสักหน่อยตอนนี้ถูกองค์จักรพรรดิอู่อันปฏิเสธมา เซียวหลินเทียนจึงโกรธและแอบสาบานว่า เขาจะต้องฝ
“ท่านอ๋องอี้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กระหม่อมเองก็ปิดบังท่านมิได้แล้ว!”ราชองครักษ์ผางกระซิบ “คนที่กระหม่อมจะขอให้ท่านช่วยมิใช่ใครอื่น แต่เป็นพระสนมฮุ่ยกับองค์ชายเย่พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเย่?คิ้วหนาของเซียวหลินเทียนเลิกขึ้นทันที เขามิลืมเรื่องที่องค์ชายเย่นิ่งดูดายมิช่วยเหลือหลิงอวี๋!ทันทีที่เขาได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับองค์ชายเย่ สัญชาตญาณของเซียวหลินเทียนก็อยากปฏิเสธทันทีเลยแต่ยังมิทันที่เขาจะเอ่ยปาก ราชองครักษ์ผางก็ดูเหมือนจะอ่านความคิดของเขาออก จึงรีบเอ่ยออกไป“กระหม่อมได้ยินเรื่องที่ท่านไปขอโสมโลหิตจากองค์ชายเย่แล้ว! โสมโลหิตนั้นอยู่ในมือขององค์ชายเย่จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอ๋องอี้เข้าใจองค์ชายเย่ผิดไป... โสมโลหิตนั้นถูกใช้ไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“โสมโลหิตนั้นถูกใช้กับพระสนมฮุ่ยไปแล้ว ดังนั้นองค์ชายเย่จึงมิสามารถมอบให้ท่านได้!!”เซียวหลินเทียนตะลึงไปทันที เขามิเคยคาดคิดว่าองค์ชายเย่ซื้อโสมโลหิตให้กับพระสนมฮุ่ย!แต่นี่ก็ผิดปกติอยู่ดี!หากลูกชายซื้อโสมโลหิตให้มารดา ก็สามารถทำได้อย่างเปิดเผย เหตุใดองค์ชายเย่จึงต้องเก็บเป็นความลับด้วยเล่า?ยิ่งไปกว่านั้น เขายังฆ่าปิดปากผู้ค้าคนกลางอีก
คำพูดของราชองครักษ์ผางที่ยกทั้งตระกูลมาสาบาน เรียกได้ว่าเป็นคำสาบานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เซียวหลินเทียนเคยได้ยินมาเลยเซียวหลินเทียนจึงเชื่อสิ่งที่ราชองครักษ์ผางบอกในทันทีใครจะชั่วร้ายถึงขนาดเอาคนทั้งตระกูลของตนมาสาบานกันเล่า!ราชองครักษ์ผางบริสุทธิ์ใจจึงได้กล้าสาบานร้ายแรงเช่นนี้“ราชองครักษ์ผาง ข้าเชื่อเจ้า เจ้าพูดต่อเถิด ต้องการให้ข้าช่วยอย่างไร?”เซียวหลินเทียนรู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเกลียดองค์ชายเย่ที่ไร้เมตตาต่อตน แต่ครั้งที่แล้วที่ราชองครักษ์ผางกับพระสนมฮุ่ยช่วยเรื่องของหลิงอวี๋เป็นการช่วยที่ยิ่งใหญ่มากตอนนี้พวกเขามาข้องเกี่ยวในเรื่องใหญ่เช่นนี้แล้วเซียวหลินเทียนจะมิช่วยเหลือได้อย่างไร!“ท่านอ๋องอี้ คาดว่าตอนนี้จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมิได้แล้ว เมื่อครู่องครักษ์ของกระหม่อมมาบอกว่าฮองเฮาเว่ยแอบไปตรวจสอบบันทึกการปรนนิบัติแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”ราชองครักษ์ผางกังวลใจมาก “ดูท่าทาง เรื่องโสมโลหิตจะไปกระตุ้นความสงสัยของฮองเฮาเว่ยเข้าแล้ว ขอเพียงตรวจพบว่าพระสนมฮุ่ยไม่มีบันทึกการปรนนิบัติ แต่กลับตั้งครรภ์ ทั้งพระสนมฮุ่ยกับองค์ชายเย่ก็จะถูกองค์จักรพรรดิตัดเศียรแน่พ
“อาอวี๋ ดูเหมือนสภาพจิตใจเจ้าจะดีขึ้นมากแล้ว!”เซียวหลินเทียนเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มีสีเลือดฝาดก็รู้สึกโล่งใจเขาให้หานเหมยกับคนอื่น ๆ ออกไปแล้วก็รีบเอ่ย “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! อาอวี๋ เจ้ารีบช่วยข้าคิดหาวิธีว่าจะช่วยพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางได้อย่างไรทีเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสับสน “เกิดเรื่องอันใดขึ้นเพคะ?”เซียวหลินเทียนรีบเล่าเรื่องที่ราชองครักษ์ผางบอกกับตนให้หลิงอวี๋ฟังอย่างรวดเร็วแล้วสุดท้ายก็เอ่ย“ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ราชองครักษ์ผางพูดคือความจริง! แต่ข้ามิค่อยเชื่อสิ่งที่พระสนมฮุ่ยบอกนัก!”“คนเราหากไม่มีความสัมพันธ์กับคนอื่นจะท้องโดยไม่มีเหตุผลได้เยี่ยงไรกัน!”ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ได้รับบุญคุณของพระสนมฮุ่ย ยังคิดอยู่ว่าจะตอบแทนพระสนมฮุ่ยอย่างไร หลังจากฟังคำพูดของเซียวหลินเทียน นางก็สูดลมหายใจและเป็นกังวลแทนพระสนมฮุ่ย“พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริงหรือเพคะ? มิได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่?”ในวังมิเท่าข้างนอก หากพระสนมฮุ่ยถูกคนลอบวางแผนจริง ๆ หลังจากเกิดเรื่องนางจะมิสังเกตเห็นได้เยี่ยงไร!ยิ่งไปกว่านั้น คนที่สามารถรับใช้ในตำหนักพระสนมฮุ่ยได้ ก็น่าจะเป็นคนสนิทของนางมิใช่หรือ หรือพวก
เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใต้หล้านี้มีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ หรือ?แต่หลิงอวี๋บอกว่ามี เช่นนั้นก็น่าจะมีกระมัง“ถึงกระนั้นเจ้าก็มิสามารถเข้าวังตอนนี้ได้! นั่นจะมิทำให้เกิดความสงสัยหรือ?”เซียวหลินเทียนสงบลง เขากดหลิงอวี๋ไว้พลางรีบคิดหามาตรการตอบโต้ต้องทำอย่างไรถึงจะให้หลิงอวี๋ตรวจว่าพระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริง ๆ หรือเป็นอาการป่วยในเวลานั้นเองภายในวังมินานหลังจากที่ราชองครักษ์ผางส่งเซียวหลินเทียนกลับไป เขาก็เห็นขันทีฉางพารองราชองครักษ์เฮ่อจู้และองครักษ์กองทัพหลวงอีกสิบกว่านาย ด้วยใบหน้าบึ้งตึงแย่แล้ว!ราชองครักษ์ผางหัวใจเต้นแรง แต่มิแสดงสีหน้าใด ๆ เขาลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม “ขันทีฉาง รองราชองครักษ์เฮ่อ นี่มีเรื่องอะไรหรือ? พวกเจ้าสองคนถึงมาด้วยกันได้!”เฮ่อจู้ยืนอยู่ข้างหลังขันทีฉางด้วยรอยยิ้มมิพูดอะไร แต่มือของเขากดลงบนดาบอย่างตั้งใจและมิตั้งใจ“ราชองครักษ์ผาง องค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้ท่านไปพูดคุยที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋!”ขันทีฉางเองก็มีสีหน้าเศร้าหมองเช่นกัน เขาถ่ายทอดคำสั่งของจักรพรรดิอู่อันแล้วหันหลังเดินออกไปราชองครักษ์ผางเหลือบมองเหยียนเจ๋อ มิพูดอะไรแล้วเดินตามขันทีฉา
ทันใดนั้นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่หลุบต่ำของผางเซิง…เขาเสี่ยงชีวิตนับครั้งมิถ้วนเพื่อช่วยชีวิตจักรพรรดิอู่อัน!หากทรราชนั่นนึกถึงความดีของตน ก็คงจะใจกว้างเปิดโอกาสให้ตนกับพระสนมฮุ่ยไปแล้วหากทนพระสนมฮุ่ยมิได้จริง ๆ เช่นนั้นเขาก็คงต้องเสี่ยงชีวิตฆ่าเขาเสียก่อน...กลุ่มคนก้าวเดินกันไปที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋องครักษ์กองทัพหลวงบางส่วนที่ลาดตระเวนในวังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชองครักษ์ผาง เมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ตกใจกันท่าทางของราชองครักษ์ผาง ดูอย่างไรก็เหมือนกำลังถูกรองราชองครักษ์เฮ่อพาตัวไป!นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?กระทั่งราชองครักษ์ผางเดินไปถึงที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋ เพิ่งก้าวผ่านประตูไปก็รู้สึกได้ถึงเสียงลมที่มาจากด้านหลัง...วินาทีต่อมา ราชองครักษ์ผางก็ถูกเฮ่อจู้กับองครักษ์กองทัพหลวงหลายคนตรึงลงกับพื้นเฮ่อจู้เอื้อมมือออกไปคว้าดาบของราชองครักษ์ผางออกไปอย่างรวดเร็ว เขากดเข่าลงบนหลังของราชองครักษ์ผาง พลางเอ่ยอย่างแปลก ๆ“ผางเซิง เรื่องของท่านมันแดงแล้ว... องค์จักรพรรดิเห็นแก่ที่ท่านร่วมรบกับเขา จึงให้โอกาสท่านได้อธิบาย... ส่วนดาบนี่ข้าจะเก็บไว้ให้ท่านก่อน!”ราชองค
หมอหลี่ดูแก่ลงกว่าก่อนหน้านี้มาก เขาเหลือบมองราชองครักษ์ผางแล้วคุกเข่าลงพื้นเสียงดัง“ฝ่าบาท กระหม่อมบอกไปแล้วว่า… พระสนมฮุ่ยกำลังตั้งครรภ์ นางกลัวว่าจะถูกเปิดโปง จึงขอให้กระหม่อมสั่งยาทำแท้งให้ อีกทั้งนางยังให้เงินกระหม่อมแล้วให้ลาออกและกลับบ้านเกิดไปพ่ะย่ะค่ะ…”หมอหลี่กลัวจนตัวสั่น พลางเอ่ยอย่างสะเปะสะปะ “ฝ่าบาท กระหม่อมมิบังอาจปิดบังฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ แต่ราชองครักษ์ผางบอกว่าหากกระหม่อมกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเขาจะฆ่าทั้งครอบครัวของกระหม่อม...”“กระหม่อมไม่มีทางเลือก! ขอฝ่าบาทโปรดเข้าใจด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ราชองครักษ์ผางจ้องมองตรงไป เขาเคยบอกว่าจะฆ่าครอบครัวหมอหลี่เมื่อใดกัน?หากเขาเป็นคนเลวทรามเช่นนั้น เขาจะปล่อยหมอหลี่ไปหรือ?“ปั้ก...”ทันใดนั้นถ้วยชาก็ตกลงมากระแทกหัวราชองครักษ์ผางน้ำชาร้อน ๆ รดลงบนหัวกับใบหน้าของราชองครักษ์ผางทันทีหากเป็นราชองครักษ์ผางสมัยหนุ่ม เขาคงจะโกรธขึ้นมาแล้ว แต่เขามิใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นในตอนนั้นอีกต่อไปแล้วราชองครักษ์ผางแอบกัดฟันแล้วมองจักรพรรดิอู่อันอย่างสงบ พลางเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ฝ่าบาท นี่มันหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดจู่ ๆ ห
หลังจากนั้นมินาน ถังถีเตี่ยนกับหมอจางก็เดินเข้ามาด้วยกันจักรพรรดิอู่อันมิพูดอะไร ถือเป็นการอนุญาตโดยปริยายเขาอารมณ์มิดีมากแล้ว นี่จะทำให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าตนถูกสวมเขาหรือ?เขาแค่อยากจะจัดการพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางอย่างเงียบ ๆแต่ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ราชองครักษ์ผางควบคุมกองทัพหลวงมาหลายปี หากฆ่าราชองครักษ์ผางไปโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ รังแต่จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเคียดแค้น...องครักษ์มากมายถึงเพียงนี้ ต่อไปใครไว้วางใจได้หรือไว้วางใจมิได้ เรื่องนี้คือสิ่งที่จะมาทดสอบ!จักรพรรดิอู่อันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนองครักษ์กองทัพหลวงทั้งหมดได้ทันที ดังนั้นจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าใครในบรรดาองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านี้ที่คู่ควรกับการไว้วางใจ!“ถังถีเตี่ยน หมอจาง พวกท่านผลัดกันขึ้นไปตรวจชีพจรของพระสนมฮุ่ย!”ฮองเฮาเว่ยออกคำสั่งถังถีเตี่ยนกลืนน้ำลายแล้วก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าเขาจะถูกกองทัพหลวงเรียกตัวมาจากสถาบันหมอหลวง แต่ก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หลังจากคลุกคลีอยู่ในวังมาหลายปี ถังถีเตี่ยนได้กลิ่นแปลก ๆเขาเดินไปหาพระสนมฮุ่ย เห็นพระสนมฮุ่ยคุกเข่าอยู่ที่พื้น ถังถีเตี่ยนจึงทำได้เพ