แชร์

บทที่ 1014

ผู้เขียน: กานเฟย
ฮองเฮาเว่ยโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว​ เดิมทีวันนี้นางวางแผนมาอย่างดี ขอเพียงหลิงอวี๋ยอมรับผิดและลงนาม นางก็สามารถฆ่าหลิงอวี๋ได้แล้ว

ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะมา แล้วตอนนี้ชายชราท่านอ๋องเฉิงก็มาก่อกวนด้วยอีก ทั้งยังนำพระราชโองการขององค์จักรพรรดิมาด้วย!

ฮองเฮาเว่ยแอบกัดฟัน​ แล้วตะโกนด้วยความโกรธ “ท่านอ๋องเฉิง ท่านมาทันเวลาพอดี หลิงอวี๋วางยาพิษสังหารไทเฮา ไทเฮามิไหวแล้ว!”

“ท่านรีบไปกราบทูลองค์จักรพรรดิสิ​ ให้เขามาพบไทเฮาเป็นครั้งสุดท้าย!”

“ใครว่าไทเฮาสิ้นหวังแล้ว! หม่อมฉันสามารถช่วยไทเฮาได้!”

หลิงอวี๋เอ่ยอย่างวิตกกังวล “ท่านอ๋องเฉิง หม่อมฉันมิได้สังหารไทเฮาเพคะ! ท่านให้หม่อมฉันช่วยไทเฮาเถิด หากถ่วงเวลาออกไปอีก จะช่วยไทเฮามิได้จริง​ ๆ!”

ท่านอ๋องเฉิงโกรธจนหายใจติดขัด แล้วรีบไปข้างเตียง​ เห็นว่าไทเฮาเลือดอาบเต็มตัว​ และหายใจรวยรินแล้ว

เขาตะคอกอย่างรุนแรง “ออกไป… ไสหัวออกไปให้หมด​ ให้พระชายาอ๋องอี้ช่วยไทเฮา... “

เมื่อฮองเฮาเว่ยได้ยินสิ่งที่ท่านอ๋องเฉิงพูดนางก็เอ่ยอย่างกังวล “ท่านอ๋องเฉิง หลิงอวี๋เป็นคนวางยาพิษไทเฮา! ท่านจะวางใจให้นางรักษาไทเฮาได้เยี่ยงไร!”

“ปล่อยพระชายาอ๋องอี้!”

ท่านอ๋
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1015

    เซียวหลินเทียนเหลือบมองไทเฮาด้วยความกังวล แล้วเอ่ย “ข้าได้รับข้อความจากสุ่ยหลิง จึงไปถามขันทีเซี่ย ถึงได้รู้ว่าองค์จักรพรรดิมิรู้เรื่องนี้!”“ตอนนั้นข้ารู้สึกแปลก​ ๆ!​ ไทเฮากำลังทรงพระประชวรหนัก ด้วยนิสัยของฮองเฮาเว่ยแล้ว นางมิกล้าปกปิดองค์จักรพรรดิหรอก แต่นางกลับแค่ให้คนมาเชิญเจ้าไปเท่านั้น!”“ข้ากลัวว่าฮองเฮาจะทำอะไรมิดีกับเจ้า จึงรีบเชิญท่านอ๋องเฉิงไปขอพระราชโองการ!”ท่านอ๋องเฉิงพยักหน้า “จักรพรรดิได้ยินก็กังวล เดิมทีเขาจะมาด้วยตนเอง แต่การแข่งขันอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เขาจึงให้ข้ามาดูก่อน เมื่อการแข่งขันจบลงเขาจะรีบกลับมา!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างขอบคุณ “โชคดีที่ท่านมาทันเวลา มิเช่นนั้นหลิงซวนคงตายแล้ว!”เซียวหลินเทียนมองรอยฝ่ามือบนใบหน้าของหลิงอวี๋​ แล้วดวงตาก็เต็มไปด้วยความโกรธแม้ว่าหลิงอวี๋จะมิได้เล่าเรื่องทั้งหมด แต่เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ในเวลานั้น มิต้องคิดก็รู้ว่าฮองเฮาเว่ยกำลังเตรียมที่จะใช้ชีวิตของหลิงซวนมาบีบให้หลิงอวี๋ยอมรับผิด!“ไปล้างหน้า​ จัดผมเผ้าเสีย ข้าจะเฝ้าไทเฮาเอง!”หลิงอวี๋เดินไปด้านข้าง แม่นมเว่ยก็รีบให้ไป๋ซุ่ยไปเอาน้ำมาให้หลิงอวี๋ล้าง“แม่นมเว่ย เมื่อคืนไทเฮาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1016

    หลิงอวี๋เพิ่งจะพูดจบ ฮองเฮาเว่ยก็หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “ยาแก้พิษที่ดีที่สุดหรือ? หลิงอวี๋ มันเป็นยาพิษที่เจ้าให้ไทเฮาเอง อย่าแสร้งทำเป็นว่าเจ้าล้างพิษให้กับไทเฮาเลย!”“องค์จักรพรรดิ​ เมื่อครู่หม่อมฉันถามแล้ว​ อาหารที่ไทเฮากินนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างทำในครัวหลวง! มีเพียงยาบำรุงร่างกายที่หลิงอวี๋ให้ไทเฮาเท่านั้นที่มิได้รับการตรวจสอบ!”“แม่นมเว่ย เจ้าเอายาบำรุงร่างกายออกมาแล้วให้ถังถีเตี่ยนกับหมอต่งตรวจดูก็รู้!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมองหน้ากัน ใบหน้ามืดมนลงจักรพรรดิอู่อันเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างเย็นชา​แล้วพยักหน้าเล็กน้อยแม่นมเว่ยจึงทำได้เพียงต้องหยิบยาบำรุงร่างกายออกมาถังถีเตี่ยนมากับองค์จักรพรรดิ เขารับยาจากแม่นมเว่ยแล้วนำไปให้หมอต่งตรวจดูหลิงอวี๋มิได้พูดอะไร แค่มองอย่างเย็นชาหมอหลวงทั้งสองตรวจดูอยู่พักหนึ่งแล้วจึงมารายงานถังถีเตี่ยนเอ่ย “องค์จักรพรรดิ​ กระหม่อมได้ตรวจสอบแล้วพบว่ายาบำรุงร่างกายนี้มีสารพิษอยู่ส่วนหนึ่ง​ มันคือมะเค็ดพ่ะย่ะค่ะ... “ยังมิทันที่ถังถีเตี่ยนจะพูดจบ ฮองเฮาเว่ยก็ตะโกนขึ้นมา “ฝ่าบาท​ ได้ยินหรือไม่เพคะ ถังถีเตี่ยนบอกว่ายาบำรุงร่างกายที่หลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1017

    หมอต่งมองถังทีเดียนแล้วเอ่ย “สิ่งที่กระหม่อมพบก็คือมะเค็ดเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋ยกริมฝีปากขึ้นเยาะเย้ยทันที “หมอต่ง เจ้ามาก่อนถังถีเตี่ยน เจ้าได้ตรวจสอบอาการของไทเฮาแล้ว เจ้าแน่ใจหรือว่าไทเฮากินยาบำรุงร่างกายแล้วเป็นพิษ”หมอต่งพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ไทเฮาถูกพิษของมะเค็ด!”“ไร้สาระ!”หลิงอวี๋มิเกรงใจแล้ว นางตะคอกด้วยความโกรธ แล้วเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อัน “เสด็จพ่อ หลิงอวี๋ขอเชิญถังถีเตี่ยนไปดูอาเจียนของไทเฮาได้หรือไม่เพคะ?”“หากไทเฮาถูกพิษของมะเค็ด มันจะพบได้ในอาเจียนของพระนาง!”จักรพรรดิอู่อันเอ่ยเสียงเรียบ “ถังถีเตี่ยน ไปตรวจดูสิ!”ถังถีเตี่ยนเดินเข้าไปตรวจอาเจียนกับผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดของไทเฮาทันที หลังจากตรวจอยู่พักหนึ่งก็เอ่ยอย่างสงสัย “กราบทูลองค์จักรพรรดิ กระหม่อมตรวจอาเจียนของไทเฮาแล้วมิพบพิษของมะเค็ดพ่ะย่ะค่ะ!”“หมอต่ง เจ้าก็ไปดูได้เช่นกัน!” หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ “อย่ามาเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก!”หมอต่งเหลือบมองฮองเฮาเว่ยอย่างมิสบายใจ ภายใต้สายตาจ้องมองที่เย็นชาของจักรพรรดิอู่อัน เขาทำได้เพียงเดินเข้าไปหลังจากตรวจสอบไปครู่หนึ่ง หมอต่งก็เอ่ย “กราบทูลองค์จักรพรรดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1018

    หลิงอวี๋แสดงทุกสิ่งที่ควรแสดงออกมาแล้ว นางรู้ว่าคำพูดของตนจะทำให้ในใจองค์จักรพรรดิเกิดความสงสัยต่อฮองเฮาเว่ยอย่างแน่นอน จึงมิก้าวร้าวอีกนางยิ้มเรียบ ๆ พลางเอ่ย “ฮองเฮาเพคะ นี่หลิงอวี๋ก็กำลังยุ่งกับการอธิบายตัวเองมิใช่หรือเพคะ?”“ท่านบอกว่ายาบำรุงร่างกายที่หม่อมฉันมอบให้ไทเฮานั้นมีพิษ หลิงอวี๋ก็กำลังพิสูจน์ว่าพิษในตัวไทเฮานั้นมิได้เป็นปัญหาจากยาของหม่อมฉัน!”สายตาจ้องมองที่เย็นชาของจักรพรรดิอู่อันกวาดสายตามองฮองเฮาเว่ยกับหมอต่ง แต่ยังคงมีข้อสงสัยที่ยังมิได้รับการแก้ไขอยู่“หลิงอวี๋ เจ้าบอกว่ามีคนวางยาพิษในยาบำรุงกำลังของเจ้าเพื่อใส่ร้ายเจ้า แต่ไทเฮามิได้ถูกพิษของมะเค็ด แล้วการใส่ร้ายนั่นเจ้าคิดว่าเยี่ยงไร?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างมีความหมาย “เสด็จพ่อ ถังถีเตี่ยนเป็นหัวหน้าหมอหลวง ไทเฮาถูกวางยาพิษ เขาย่อมต้องตรวจสอบเพคะ!”“ทว่า อย่าว่าแต่ถังถีเตี่ยนเลย แม้แต่หม่อมฉันก็ตรวจมิพบว่าไทเฮาถูกพิษชนิดใด!”“หากเรามิรู้ว่าไทเฮาถูกวางยาพิษชนิดใด เช่นนั้นแล้วจะตัดสินลงโทษหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ?”“ดังนั้น พิษที่เพิ่มเข้าไปในยาบำรุงร่างกายของหม่อมฉัน ย่อมต้องให้คนตรวจให้พบ!”เซียวหลินเทียนเข้าใจค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1019

    หมอต่งมองไปที่ฮองเฮาเว่ยอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ฮองเฮาเว่ยกลับจ้องมองอย่างดุร้าย“หมอมิดี เจ้ายังกล้าบอกว่าทักษะการแพทย์ของตนดีมาก เจ้ามิรู้ด้วยซ้ำว่าไทเฮาป่วยหรือถูกวางยาพิษ เหตุใดในวังถึงเก็บหมอมิดีเช่นเจ้าไว้?”“หากเจ้ามิเอะอะโวยวายบอกว่าพระชายาอ๋องอี้วางยาพิษ ข้าก็คงมิกล่าวโทษพระชายาอ๋องอี้! เจ้ามีเจตนาอะไรถึงจงใจทำให้ข้าเข้าใจผิดเช่นนี้?”“ท่านอ๋องเฉิง เราต้องสอบสวนอย่างเข้มงวด ดูว่าใครสั่งการเขาอยู่เบื้องหลัง!”ฮองเฮาเว่ยอธิบายความสัมพันธ์ของนางกับหมอต่งด้วยประโยคเดียว ทั้งยังโยนความผิดทั้งหมดให้หมอต่งด้วย...ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเป็นคนฉลาด ใคร ๆ ก็รู้ว่าฮองเฮาเว่ยโยนให้หมอต่งเป็นแพะรับบาป...จักรพรรดิอู่อันเอ่ยกับหลิงอวี๋อีกครั้ง “หลิงอวี๋ เจ้าจงคิดหาวิธีที่จะช่วยไทเฮาโดยเร็วที่สุด! วันพรุ่งเป็นการแข่งขันล่าสัตว์ เทียนเอ๋อร์ต้องเข้าร่วมด้วย! เราต้องได้ชัยชนะนี้!”วันนี้จักรพรรดิอู่อันพอใจกับผลงานของเซียวหลินเทียนมาก แต่ในรายการแข่งขันการต่อสู้ เซียวหลินเทียนขอออกจากการเข้าร่วมเพราะเขาเป็นห่วงหลิงอวี๋กับไทเฮาเผยอวี้กับแม่ทัพคนอื่น ๆ จากฉินตะวันตกเข้าร่วมการแข่งขัน แต่พ่ายแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1020

    หลิงซวนเอ่ยอย่างวิตกกังวล “ท่านลุง มิใช่ว่าข้ามิเชื่อฟัง! แต่ตอนนี้ในตระกูลไม่มีใครแล้ว!”“แต่ในเมืองหลวง ข้ามีท่าน แม้ว่าข้าจะมิได้เจอท่านทุกวัน แต่ข้าก็สามารถเจอท่านได้เป็นครั้งคราว เมื่อรู้ว่าท่านสบายดีข้าก็สบายใจ!”“ท่านลุง รออีกสองปี ท่านแก่แล้ว และขอองค์จักรพรรดิให้ปล่อยท่านออกจากวังได้ ข้าก็คงเก็บเงินไว้ซื้อบ้านหลังใหญ่แล้ว ข้าจะกตัญญูต่อท่าน และช่วยดูแลท่านในยามแก่!”“ถึงเวลาข้ารับสมัครลูกเขย ข้าก็จะคาดหวังให้ท่านช่วยดูแลลูก ๆ ของข้า! ท่านมิอยากมีชีวิตแบบนั้นหรือ?”ขันทีเซี่ยไหนเลยจะกล้าคิดไปไกลเช่นนั้น ตอนนี้เขาค่อย ๆ หมดความโปรดปรานลงไปแล้ว หากวันหนึ่งเขาทำอะไรผิดไป ก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เขาจะกล้าคิดถึงอนาคตได้เยี่ยงไรเขามิสามารถโน้มน้าวหลิงซวนได้ และอยู่ได้มินาน ดังนั้นเขาจึงยื่นเงินให้หลิงซวนอีกครั้ง พลางเตือน “เก็บเงินไว้ หากวันหนึ่งเจ้าเห็นอันตรายใด ๆ ให้รีบหนีออกไป!”“ตราบใดที่ลุงยังมีลมหายใจ ลุงก็จะปกป้องความปลอดภัยของเจ้า!”ขันทีเซี่ยกำลังคิดจะไป แต่เมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่างก็กระซิบ “ฮองเฮาเว่ยถูกองค์จักรพรรดิดุ นางร้องไห้และแย้งว่าหมอต่งหลอกนาง... ดูจากภายนอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1021

    เมื่อเซียวทงพูดเช่นนั้น หลิงอวี๋ก็มิอยากทำลายขวัญกำลังใจคนของตน จึงกล่าวว่า “ได้! เช่นนั้นก็ตามใจพวกเจ้าเถิด!”หลิงซวนถูกหลิงอวี๋ทิ้งให้อยู่ในวังเพื่อดูแลไทเฮา วันนี้หลิงอวี๋พาเพียงเถาจื่อและหานเหมยมาด้วย ทั้งสามเลือกม้า หยิบธนูและลูกศร แล้วตามหลังกองทัพขึ้นภูเขาเซียวหลินเทียนยังมิรู้เรื่องภายใน เมื่อเห็นหลิงอวี๋มาเข้าร่วมการล่าสัตว์ก็เข้ามาสอบถาม“เกิดเรื่องอันใดขึ้น พวกเจ้าก็ขึ้นไปล่าสัตว์บนภูเขาเช่นกันหรือ?”หลิงอวี๋เล่าเรื่องที่ถูกเซี่ยโฮ่วตานรั่วท้าทายให้เขาฟัง เมื่อเซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว เซี่ยโฮ่วตานรั่วผู้นี้คอยหาเรื่องหลิงอวี๋ครั้งแล้วครั้งเล่า นางยังมิสิ้นหวังในตัวเขาอีกหรือไรเซียวหลินเทียนกล่าวด้วยความมิวางใจ “เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวให้ดี อย่าวิ่งไปไกลนัก! บนภูเขามีอันตรายมากมาย ทั้งงูพิษและสัตว์ร้าย อย่าให้ได้รับบาดเจ็บเชียว!”“วางใจเถิดเพคะ หม่อมฉันจะมิประมาท”หลิงอวี๋เห็นว่าการแข่งขันใกล้จะเริ่มแล้ว จึงกำชับว่า “ท่านก็ระวังตัวด้วย ธนูที่เห็นนั้นหลบหลีกได้ง่าย แต่ลูกธนูที่มองมิเห็นนั้นป้องกันได้ยาก ระวังถูกคนลอบทำร้าย!”เซียวหลินเทียนยิ้มเล็กน้อย พยักหน้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1022

    หลิงอวี๋ถูกทำให้โกรธจนหัวเราะออกมา และเยาะเย้ยว่า “การล่าสัตว์เพิ่งเริ่มต้น ใครแพ้ใครชนะก็ยังมิรู้! แต่ความสามารถในการพูดจาโกหกหน้าตายขององค์หญิงตานรั่ว หม่อมฉันสู้มิได้จริง ๆ เพคะ!”“กระต่ายเป็นของใคร ท่านรู้แก่ใจดี ท่านรีบแย่งเช่นนี้ ชัดเจนว่ากลัวจะแพ้!”“ช่างเถิด แค่กระต่ายตัวเดียว ท่านต้องการก็เอาไปเถิด พวกเรามิกลัวแพ้หรอก!”หลิงอวี๋พูดจบก็เรียกเถาจื่อแล้วหันหลังเดินจากไปเซี่ยโฮ่วตานรั่วโกรธจนหน้าแดง นางมักติดตามองค์ชายหนิงไปล่าสัตว์อยู่เสมอ จึงย่อมรู้กฎเหยื่อตัวนี้ควรเป็นของหลิงอวี๋และพวกของนางจริง ๆ!แต่นางเกลียดหลิงอวี๋ จึงอยากแย่งชิงเมื่อครู่ยังถูกหลิงอวี๋ดูถูกเช่นนี้อีก ความโกรธนี้จะปล่อยผ่านไปได้เยี่ยงไร“ตามพวกนางไป ข้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าเก่งกว่าพวกนาง!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็พากองทัพของตนตามหลิงอวี๋ไปจากอีกด้านหนึ่งเมื่อเห็นเหยื่อ เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็รีบยิงธนูแย่งชิงเหยื่อกับหลิงอวี๋และพวกนางหลิงอวี๋เล็งไก่ป่าตัวหนึ่ง กำลังจะยิงธนูก็ถูกเซี่ยโฮ่วตานรั่วแย่งยิงไปก่อนเซี่ยโฮ่วตานรั่วเหลือบมองหลิงอวี๋ด้วยความภาคภูมิ “เป็นอะไรไป พระชายาอ๋องอี้ ไก่ป่าตัวนี้ข้าเป็นค

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status