Share

บทที่ 50  

Author: ฉินอันอัน
เคราะห์ดี ไม่นานนักเกาเจียก็เดินเข้ามา และหยุดตรงเบื้องหน้านางหวังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนจะประชิดเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่าง

นางหวังที่ตอนแรกยังคิดจะซักถามชีหยวนครั้นได้ฟังวาจาจากเกาเจียแล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที

สูญเสียการทรงตัวจนต้องจับมือเกาเจียไว้แน่น พลางถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “ว่าอย่างไรนะ?”

รอยยิ้มบนใบหน้าเกาเจียดูน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าร้องไห้ นางกดเสียงลงกระซิบบอกว่า “ฮูหยิน บัดนี้มิใช่เวลาจะถามเรื่องนี้ ท่านรีบ…”

สีหน้าของนางหวังย่ำแย่ถึงที่สุด สภาพจิตใจยิ่งย่ำแย่ถึงขีดสุด

นางต้องรีบทำอะไร?

บัดนี้นางยังรีบทำอะไรได้อีก?!

ร่างกายโอนเอนไปมา นางหวังกัดริมฝีปากแน่นถึงจะพอสงบสติอารมณ์ได้ จากนั้นก็เดินขึ้นไปมองฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ยง และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินผู้เฒ่า ข้ามีบางสิ่งอยากจะบอกกับท่าน…”

เห็นนางหวังผิดแปลกไปจากตอนแรก สีหน้าในยามนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ชีหยวนก้มศีรษะลง ปกปิดแววตาเยาะเย้ยไว้

ในเวลาแบบนี้ เรื่องที่จะสามารถทำให้นางหวังตื่นตระหนกตกใจได้ถึงเพียงนี้ นอกจากเรื่องของชีจิ่นและชีอวิ๋นถิงแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว

ดูเหมือนว่า ชีอวิ๋นถิงจะไม่ทำให้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 51  

    ชีจิ่นพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกจากอกอย่างรุนแรง มาแล้ว! นางรู้อยู่แล้ว ว่าชีอวิ๋นถิงจะเป็นกำลังสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของนางตลอดไป สิ่งนี้ทำให้หัวใจของนางสงบลงได้บ้าง ตราบใดที่มีความดื้อรั้นของเซียวอวิ๋นถิงอยู่ นางก็พอจะมีความมั่นใจแล้ว อย่างน้อยชีเจิ้นและนางหวังจะต้องลูบหน้าปะจมูกแน่ ชีอวิ๋นถิงรีบร้อนบุกเข้ามาในหมู่บ้านชนบท เมื่อเห็นชีจิ่น ก็กระโจนเข้าใส่นางทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว ถามไถ่นางด้วยความเคร่งเครียด “อาจิ่น เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม? พวกนางรังแกอะไรเจ้าหรือไม่?” พ่อบ้านประจำหมู่บ้านชนบทตกใจจ้าละหวั่น ยกไม้ยกมือปรามชีอวิ๋นถิงอย่างชุลมุน “คุณชายใหญ่ คุณหนูรองอยู่ที่นี่แล้ว พวกข้ารับรองว่าจะดูแลนางอย่างดี จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางแน่นอน ท่านวางใจเถิด” เอ่ยพลางก็อดไม่ได้ส่งสายตาคาดโทษใส่บรรดาหญิงรับใช้กี่คนตรงนั้นที่ส่งตัวชีจิ่นเข้ามา บรรดาหญิงรับใช้เห็นก็รีบร้อนลากตัวชีจิ่นเข้าไปด้านใน และกระซิบตักเตือนไปพร้อมกัน “คุณหนูรองเจ้าคะ คำสั่งของฮูหยินคือให้ท่านอยู่ห่างจากคุณชายใหญ่ไว้ ท่านเองก็ทราบดีว่าบ่าวรับใช้อย่างพวกข้าจะทำอะไรก็มิใช่เรื่องง่าย ท่านได้โป

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 52  

    มิเช่นนั้นคุณชายใหญ่จะยังคิดว่าพวกเขากำลังรังแกแม่คุณทูนหัวคนนี้อีกหรือไม่ก็ไม่รู้ ถึงตอนนั้นแล้วจะถูกแส้ม้าฟาดใส่อีกหรือไม่ก็ไม่รู้? ดูสิว่าเมื่อครู่นี้พ่อบ้านและหญิงรับใช้คนนั้นถูกเฆี่ยนตีทารุณขนาดไหน? ชีอวิ๋นถิงยังคงเดือดดาลไม่จางหาย ชี้นิ้วตะคอกใส่พวกเขา “ไสหัวออกไป!” ทันใดนั้นก็วิ่งไปด้านหน้า ดึงตัวชีจิ่นขึ้นมา ชีจิ่นร้องไห้น้ำตาไหลพรากนองหน้า สะอึกสะอื้นไม่หยุด แม้แต่จะตะโกนเรียกพี่ชายยังทำไม่ได้ มองแล้วน่าเวทนาถึงที่สุด ชีอวิ๋นถิงเห็นแล้วถึงกับพูดไม่ออก “อาจิ่น เจ้าอย่ากังวลเลย ข้าจะเกลี้ยกล่อมท่านพ่อท่านแม่ และพาตัวเจ้ากลับไปให้ได้!” ดวงตาของชีจิ่นเป็นสีแดงก่ำ เหมือนกระต่ายตัวหนึ่งที่ทั้งน่ารักและน่าสงสาร ได้ยินชีอวิ๋นถิงเอ่ยเช่นนี้ ทันใดนั้นก็โผเข้าใส่อ้อมอกของเขาพลางร่ำไห้ว่า “ท่านพี่! ข้ากลัว!” ชีอวิ๋นถิงถึงกับทำวางมือไม้ไม่ถูกไปชั่วขณะ เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาเป็นพี่น้องกัน ก็น้อยครั้งนักที่จะแตะเนื้อต้องตัวใกล้ชิดเพียงนี้ ถูกชีจิ่นกอดไว้ในยามนี้ ในใจของเขากลับมีความรู้สึกสั่นไหวอันน่าประหลาดผุดขึ้นมา ใช่สิ พี่น้องอะไรกัน? ในเมื่อไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 53  

    พิธีสมรสของพวกเขาถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย แม้ยังไม่ผ่านหกพิธีการตามประเพณี แต่เรื่องนี้ก็แทบจะแน่นอนแล้ว ทุกคนต่างรู้แก่ใจดี ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับเซี่ยงหรงแล้ว นางกับบุรุษผู้นี้เป็นสหายกันตั้งแต่วัยเยาว์ สองฝ่ายต่างรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี ความจริง ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากแล้วที่ชีอวิ๋นถิงดีกับชีจิ่นมากเกินไป พี่ชายของครอบครัวอื่นทำดีกับน้องสาว ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ไม่มีผู้ใดเป็นเหมือนชีอวิ๋นถิง ตราบใดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีจิ่น ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตเพียงใดเขาล้วนต้องถามไถ่ทุกครั้ง อย่าว่าแต่พี่ชายเลย ต่อให้เป็นบิดาก็ไม่ใส่ใจรายละเอียดถึงเพียงนี้หรอก ทว่าตอนนั้นนางกลับไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ซ้ำยังตำหนิตนเองอีกว่า อาจจะตั้งความหวังกับชีอวิ๋นถิงไว้สูงเกินไป หรืออาจจะไม่เข้าใจเหตุผลและความรู้สึกมากพอ สองคนเป็นพี่ชายน้องสาวโดยกำเนิด ความผูกพันจะลึกซึ้งแน่นแฟ้นมากสักหน่อยก็ใช่ว่าจะแปลกอะไร? บัดนี้ ในที่สุดนางก็รู้แล้ว ว่ามันไม่ถูกต้องจริง ๆ สิ่งเหล่านั้นที่นางสังเกตเห็น มันมีอยู่จริงมาตั้งแต่ตอนต้นแล้ว เห็นเซี่ยงหรงมาแล้ว ชีอวิ๋นถิงลุกลี้ลุกล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 54  

    หากนางจะจับตระกูลชีจับชีอวิ๋นถิงแล้วผิดตรงไหน? คิดเพื่อตนเองมันผิดตรงไหน?! ทุกคนถือสิทธิ์อะไรมาชี้หน้าประณามนาง?! นางหันศีรษะขวับ กัดฟันกรอดมองเซี่ยงเจี้ย “พี่ชายใหญ่เซี่ยง พวกข้าเองก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ท่านเองก็รู้ชัดว่าข้ากับท่านพี่เติบโตมาด้วยกัน พวกข้าสามารถกระทำสิ่งไม่เหมาะสมอันใดได้หรือ?” เซี่ยงหรงอยากจะเดินขึ้นไปด้านหน้า แต่กลับถูกเซี่ยงเจี้ยดึงรั้งไว้ เซี่ยงเจี้ยส่ายศีรษะให้นางเบา ๆ ชีอวิ๋นถิงพลันปวดหัวใจจนทนไม่ไหว “อาจิ่น เจ้าอย่าเถียงกับพวกเขาเลย ข้าเข้าใจทุกอย่าง! ข้าไม่มีวันยอมปล่อยให้เจ้าต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด! จะคู่หมั้นหรืออะไรก็ตาม ในเมื่อยังไม่ได้สมรสกัน ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น!” เซี่ยงหรงแค่นเสียงหัวเราะด้วยความโกรธ สรุปแล้วสองคนนี้กำลังแสดงให้พวกเขาดูว่าความสัมพันธ์อันลึกซึ้งมันเป็นเช่นไรอยู่สินะ? นางถามติดตลก “คู่หมั้นที่ยังไม่ผ่านพิธีสมรส มันไม่มีความหมายอะไรอย่างนั้นหรือ?” สองตระกูลต่างกำหนดวันพิธีสมรสไว้นานมากแล้ว แต่ในสายตาของชีอวิ๋นถิง กลับไม่มีความหมายอะไรเลย น่าขันสิ้นดี ชีอวิ๋นถิงบัดนี้ไม่สนใครหน้าไหนทั้งสิ้นแ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 55  

    ทั้งสองคนกลิ้งตกบันไดลงไปพร้อมกัน และกอดกันแน่น ชีจิ่นน้ำตานองอาบใบหน้า ร้องไห้จนควบคุมตนเองไม่ได้ “ท่านพี่ ท่านจะช่วยข้าไว้ทำไมกัน? ท่านควรปล่อยให้ข้าตายไปซะ! ไยข้าจะต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ให้ขายหน้าด้วย?” พ่อบ้านเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง คุกเข่าลงกับพื้นริมฝีปากสั่นสะท้าน โกรธจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ใครกันแน่ที่จะตาย? เขาต่างหากที่สมควรตาย! จบสิ้นแล้ว จบสิ้นแล้ว หากฮูหยินและท่านโหวรู้เรื่องนี้เข้า…เขาต้องเป็นคนที่ตายก่อนใครแน่ไม่ใช่หรืออย่างไร?! เซี่ยงเจี้ยโกรธกรุ่นแต่กลับผุดยิ้ม คิดจะเดินเข้าไปหาอย่างเหลืออด แต่กลับถูกเซี่ยงหรงรั้งเอาไว้ เขามองไปยังน้องสาว “หรงหรง?!” เหตุใดพวกเขาตระกูลเซี่ยงจะต้องทนรับความอัปยศนี้ด้วย! กลับเป็นเซี่ยงหรงที่ใจเย็นลงมาแล้ว นางดึงข้อมือของพี่ชายไว้ พลางส่ายหน้าเอ่ยเสียงขรึมว่า “ท่านพี่ ยังมีสิ่งใดจำเป็นต้องพูดอีกหรือ? พูดเหตุผลกับคนโง่ ก็มีแต่จะทำให้ตนเองยิ่งดูโง่” นางกระแอมออกมาครั้งหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่เหลือเยื่อใยใดอีก “พวกเรากลับเถิด!” เซี่ยงเจี้ยยังคงอารมณ์โกรธกรุ่น แต่เห็นน้องสาวหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเตรียมจะไปจากที่นี่ เขาก็ได้แต่ตามนา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 56

    หรือจะบอกว่าเป็นบุตรชายของตนเองที่ทำเรื่องโง่เขลา ไล่ตามบุตรสาวบุญธรรมออกไป ไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งยังถูกหลานสาวของท่านเห็นด้วยกระนั้นหรือ?นางรู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง ครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน ทันใดนั้นก็มองเห็นชีหยวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงรีบร้อนดึงชีหยวนออกมาเพื่อใช้เป็นข้ออ้าง “เด็กคนนี้ปรับตัวยังไม่ค่อยได้ ข้าจะพานางกลับไป...”ฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ยงเหลือบมองไปที่ชีหยวน มองเห็นนางกำลังยืนสงบนิ่งอยู่อย่างว่านอนสอนง่าย ไม่พูดอันใดมาตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่ากลับไม่เสียมารยาทเลยแม้แต่น้อย จึงรู้สึกพึงใจในทันทีถึงแม้ไม่รู้ว่าชีหยวนมีตรงไหนที่ผิดปกติ ทว่านางหวังพูดอย่างร้อนรนถึงเพียงนี้ นางจึงกระแอมกระไอออกมา “ช่างเถิด ลูกสำคัญกว่า”นางหวังรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย นางต้องรีบไปที่เรือนพักนอกเมืองโดยเร็ว ฉวยโอกาสตอนที่พี่น้องสกุลเซี่ยงยังไม่กลับมา เรื่องนี้ยังไม่ถูกทำใหญ่โต ต้องหยุดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนจะต้องไม่ทำให้เรื่องราวใหญ่โตเป็นอันขาด ถ้าหากทำให้ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของสกุลเซี่ยงรู้เข้าละก็ การแต่งงานในครั้งนี้ก็อาจจะไม่สำเร็จ!ชีเจิ้นพอใจกับการแต่งงานในครั้งนี้มากนัก ถ้าหากรู้ว่าการแต่งงานคร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 57

    สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ยงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนางมองไปยังนางหวังด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ใบหน้ายิ้มแต่ภายในไม่ยิ้มพลางส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจเห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ยิ้มมาจากก้นบึ้ง ทว่าน้ำเสียงกลับยังมีความอ่อนโยน พลางตบไปที่มือของเซี่ยงหรงอย่างยิ้มแย้ม “ห้ามพูดจาส่งเดช! ท่านพี่อวิ๋นถิงของเจ้าเป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ ส่วนชีจิ่นก็เป็นไข่มุกงามแห่งเมืองหลวง ทุกคนต่างก็รู้ดี”ไข่มุกงามแห่งเมืองหลวง คุณชายตระกูลใหญ่คำเรียกขานสองชื่อนี้ ไม่ว่าชื่อใดก็รู้สึกว่าไพเราะเสนาะหู ทว่าเมื่อออกมาจากปากของฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ยงในตอนนี้ ไม่สามารถปิดบังกลิ่นอายที่มีนัยของการเหน็บแนมเอาไว้ได้เลยนี่แสดงให้เห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่ามีโทสะมากเพียงใดนางหวังยิ้มไม่ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางกล่าวอย่างตื่นตระหนกจนทำอันใดไม่ถูก “จะต้องเป็นเพราะเด็กน้อยไม่รู้ความเป็นแน่…”นางแทบจะร้องไห้เสียงดังภายในใจอยู่แล้ว!เจ้าโง่สองคนนี้! นางปฏิบัติต่อชีจิ่นอย่างสุดใจ ต่อให้รู้ว่านางไม่ใช่บุตรสาวแท้ ๆ แต่ก็เป็นบุตรสาวที่นางเอ็นดูและปกป้อง นึกไม่ถึงว่าจะหันกลับมาใช้มีดแทงลงบนหัวใจของนางอย่างโหดเหี้ยม!ชีจิ่นอยู่ที่ตระ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 58

    ถ้าสมองของเขายังดีอยู่ ก็ควรรู้ว่าเขามีสถานะเช่นไร!ทว่าสุดท้ายนึกไม่ถึงว่าเขาจะกอดชีจิ่นไว้แล้วประท้วงเซี่ยงหรง บอกเซี่ยงหรงว่าคู่หมั้นไม่นับว่าเป็นอันใดได้! นี่มันหมายความว่ากระไรกัน?!พวกไม่มีสมอง!แต่งงานกับคนประเภทนี้ สู้แต่งงานกับหมูเสียยังดีกว่า!เมื่อได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ยงกล่าวเช่นนี้ นางก็กล่าวออกมาอย่างหมดข้อสงสัยในทันที “ใช่เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่ตระกูลชีช่างทำตัวเหมือนเด็กยิ่งนัก เรื่องเช่นนี้สามารถเอามาล้อเล่นได้กระนั้นหรือ?”ทั้งสองคนต่างก็พูดเช่นนี้แล้ว ก็ถือว่าได้พูดออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งต่อหน้าสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงเหล่านี้แล้วว่าตระกูลของพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลชีแม้แต่น้อยงานแต่งงานอันใดนั่น เดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้ยอมรับอยู่แล้วนางหวังรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก ทว่าในเวลานี้พวกเขามีเหตุมีผล ส่วนนางกลับเป็นฝ่ายที่ไร้เหตุผลเสียเอง ย่อมมีความทุกข์ใจที่พูดออกมาไม่ได้อยู่แล้วทว่าในสถานการณ์นี้ ไม่ว่านางจะอธิบายอันใดก็เหมือนกับกำลังช่วยชีอวิ๋นถิงกับชีจิ่นอธิบายท้ายที่สุดนางออกมาจากตระกูลเซี่ยงได้อย่างไรนั้น นางจำได้ไม่ชัดเจนแล้ว จนกระทั่งรถม้าหยุดลง

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 192  

    นางไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว เพียงแต่บอกให้พวกชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าวางใจ มีลูกหลานที่มีความสามารถเก่งกาจเกินไปก็มิใช่เรื่องน่ายินดีอะไรนัก เพราะเมื่อใดที่เราอยากเป็นผู้ตัดสินใจบ้างก็เป็นเรื่องที่ยากมากเกินไปจริง ๆ ทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นต่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี หนนี้กลับเป็นฮูหยินผู้เฒ่าที่รู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุด: “ให้น้าสะใภ้รองของเจ้าพาเจ้าไปสิ! ข้าจะให้คนไปตัดอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เมื่อถึงยามนั้นเจ้าจงเที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ” เที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ… ชีเจิ้นคล้ายจะเอ่ยบางอย่างแต่ชะงักไป ชีหยวนกลับผุดยิ้มพลางกล่าวขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าชี จากนั้นก็หยัดกายขึ้นและกลับไปที่หอหมิงเยว่ ครั้นกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เหลียนเฉียวมารออยู่หน้าประตูเรือนได้พักหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นนางก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะสืบเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน: “คุณหนู ท่านกลับมาแล้ว!” จากนั้นก็กดเสียงลงเอ่ยว่า: “ท่านอ๋องอยู่ด้านในเจ้าค่ะ” นางแทบจะตกใจตายให้ได้เลยจริง ๆ ก่อนหน้าตอนที่นางเข้าไปในห้อง ครั้นเห็นเซียวอวิ๋นถิงนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในตอนนั้น ก็เกือบจะตกใจตายแล้ว ช่วงนี้มันอย่าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 191  

    ครั้นได้รับเทียบเชิญ คนทั้งตระกูลชีต่างรู้สึกประหลาดใจและไม่มั่นใจเล็กน้อย สาเหตุเพราะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในสกุลโจว ดังนั้นระยะนี้ชีฟางอวิ๋นจึงต้องพำนักอยู่ที่เรือนมารดามาตลอด พอได้ยินข่าวนี้ก็เผลอมองชีหยวนหลายครั้งอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็แอบกระซิบถามฮูหยินผู้เฒ่าชีว่า: “ท่านแม่ พี่หยวนนางเป็น…” เป็นใครมาจากไหนกันแน่? เรื่องที่ทำไมตอนนี้ทุกคนในตระกูลชีถึงยอมรับกลาย ๆ ว่านางเป็นผู้นำบังไม่เท่าไร ทว่าเหตุใดแม้กระทั่งบรรดาบุคคลผู้มีชื่อเสียงนอกเรือนยังพากันให้ความสำคัญกับนางมากถึงเพียงนี้อีก? งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว ใช่ว่าจวนหย่งผิงโหวจะไม่เคยได้รับเทียบเชิญมาก่อนเสียเมื่อไร ทว่าแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคยระบุเจาะจงชัดเจนว่าเชิญผู้ใดอย่างเช่นตอนนี้ แบบนี้จะไม่แปลกเกินไปหน่อยหรือ? ชีหยวนเพิ่งจะกลับมาได้เพียงไม่นาน ตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในเมืองหลวงมีใครบ้างเกรงว่ายังรู้จักไม่ครบเสียด้วยซ้ำไป นับดูให้ดีแล้วที่ออกไปเยี่ยมเยียนเป็นแขกก็มีเพียงตระกูลเซี่ยงตระกูลเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเป็นการไปที่มิใช่เรื่องน่ายินดี แวะไปเพียงครู่เดียวก็กลับแล้ว จวนอ๋องโจวมีเหตุผลใดถึงต้องเจาะจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 190

    เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่หลิ่วก็โกรธจัด: “งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว เจ้าไม่ต้องไป!”หลิ่วหมิงจูกังวลใจทันที: “ทำไมล่ะ?! ข้าเตรียมตัวมาครึ่งปีแล้ว ข้าต้องไปให้ได้!”ทุกปีในฤดูหนาว นอกจากงานชุมนุมดอกไม้ของบรรดาจวนขุนนางแล้ว งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว เป็นงานที่ผู้คนในเมืองหลวงเฝ้ารอมากที่สุดราชวงศ์นี้ยกย่องทักษะด้านการต่อสู้ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ฮ่องเต้หย่งชางยังเป็นอ๋องอยู่ พระองค์ก็โปรดปรานการเล่นตีคลีอย่างมาก นายว่าขี้ข้าพลอย หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว บรรดาอ๋องทั้งหลายก็เล่นตีคลีคล้อยตามพระองค์ การแข่งตีคลีจึงกลายเป็นกระแสนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงหญิงชาย การได้แสดงฝีมือและโดดเด่นในสนามแข่งของจวนอ๋องโจวถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดหลิ่วหมิงจูเริ่มฝึกขี่ม้าตั้งแต่อายุสิบสองปี และฝึกฝนการเล่นตีคลีมาโดยตลอด ทว่าสองปีที่ผ่านมา นางยังอายุน้อย จึงได้เล่นอย่างไม่เต็มที่ เป็นแค่ตัวสำรอง ปีนี้นางรอคอยมานานจนกระทั่งอายุครบวัยปักปิ่น และนางยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในกลุ่มบุตรสาวขุนนาง นางจะพลาดงานนี้ไปได้อย่างไร?ฮูหยินใหญ่หลิ่วกำลังจะพูดต่อ แต่หลิ่วจิง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 189

    หลิ่วจิงหงพยักหน้า ยิ้มพร้อมกล่าวให้บิดาของตนวางใจ: “ลูกมีแผนการในใจแล้วขอรับ”ต่างจากลูกหลานขุนนางทั่วไป ส่วนใหญ่พอรุ่นที่สองก็มักอาศัยเกียรติยศของบรรพบุรุษกินสมบัติเก่า แต่สำหรับหลิ่วจิงหง เขายืนหยัดอยู่ในแวดวงขุนนางด้วยความสามารถของตนเองตระกูลหลิ่วของพวกเขาเป็นขุนนาง และยังเป็นพระญาติชั้นนอก เพราะเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานอย่างมาก สถานะของตระกูลหลิ่วจึงสูงส่งยิ่งขึ้นกล่าวโดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งขุนนางที่ได้มาจากพระมาหกรุณาธิคุณ ล้วนใช้คำว่าเฉิงเอิน (รับพระมหากรุณาธิคุณ) เป็นคำนำหน้าตำแหน่ง เช่น ตระกูลของฮองเฮาเฝิงก็มีตำแหน่ง “เฉิงเอินโหว”แต่ตระกูลหลิ่วกลับได้เป็นจวนฉู่กั๋วกง สาเหตุหนึ่งมาจากพระสนมหลิ่วได้รับความโปรดปรานอย่างมาก และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเพราะความสามารถของหลิ่วจิงหงเอง หลิ่วจิงหงเป็นคนมีพรสวรรค์ เขาสามารถทำดินปืนได้ ในอดีตเมื่อครั้งอยู่ฝูเจี้ยน เขาเติบโตเข้าออกจวนอ๋อง เรียกอ๋องหมิ่น ซึ่งก็คือฮ่องเต้หย่งชางในปัจจุบันว่า “พี่เขย” ตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าหลิ่วจิงหงมีทั้งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น กับฮ่องเต้หย่งชาง และความสามารถอันโดดเด่นดังนั้น ตอนนี้เขาจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 188

    เมื่อเขาเดินออกไป คนเฝ้าประตูก็เข้าไปรายงานท่านผู้เฒ่าหลิ่วทำเสียงฮึดฮัด: “ไร้ประโยชน์สิ้นดี มีแต่ทำเรื่องเสียหาย! เจ้าเองก็เถอะ ไฉนถึงเลียนแบบสตรีไปได้?”คนที่เขาหมายถึงย่อมไม่พ้นบุตรชายของตน ผู้สืบทอดของจวนฉู่กั๋วก๋ง หลิ่วจิงหงหลิ่วจิงหงหัวเราะเบาๆ นั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างสง่างาม: “ก็คิดว่าอย่างไรเสียก็เป็นคนเคยใช้งานมาก่อน อีกอย่างเขาก็เป็นญาติเกี่ยวดองกับจวนหย่งผิงโหว เลยช่วยพูดแทนสักสองสามคำ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะไร้ความสามารถเพียงนี้?”ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถสร้างปัญหาให้จวนหย่งผิงโหวได้ ยังทำอะไรตระกูลชีไม่ได้เลยสักนิด ซ้ำร้ายยังทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนเสียอีกท่านผู้เฒ่าหลิ่วสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี: “เจ้าต้องระวังให้มาก คนประเภทนี้ พบเจอเรื่องราวมามากจึงไม่กลัวอะไรทั้งนั้น หากตระกูลโจวเกิดเรื่องขึ้นจริง ก็จะพูดอะไรไม่ควรพูดออกมา”นี่คือกำลังเตือนเขาถึงเรื่องราวในตอนนั้นหลิ่วจิงหงเข้าใจดี ยื่นมือรินน้ำชาให้ท่านผู้เฒ่า: “ท่านก็วางใจเถิด ลูกไม่ใช่คนโง่เยี่ยงนั้น เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว”กล่าวจบก็หัวเราะเยาะ: “พูดไปท่านอาจไม่เชื่อ ไอ้คนโง่นี่ ตอนเราปูทางให้เข้าไปทำงานในกรมทหารม้าในตอน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 187

    โจวผิงหนวดเครารุงรัง เห็นได้ชัดว่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้เขายุ่งจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านรองโจว เขาจึงได้สติและหันมาถามด้วยความหวัง: “อารอง ท่านกลับมาแล้ว ทางนั้นว่าอย่างไรบ้าง?”ว่าอย่างไรงั้นหรือ?นายท่านรองโจวมองเขาแล้วก็ยิ่งขุ่นเคือง: “จะว่าอย่างไรได้อีก? เรื่องนี้พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว!”บาดแผลบนหน้าผากของชีฟางอวิ๋นเขาเห็นมากับตา ตอนนี้ถึงแม้จะถูกพันแผลไว้อย่างเรียบร้อย แต่ก็ยังดูน่าสยดสยอง แสดงว่าตอนนั้นคงบาดเจ็บหนักไม่น้อยท่านหญิงโจวตอนสาวๆ ก็ชอบตีลูกหลานอยู่แล้ว ไม่คิดว่าพอแก่ตัวลงนิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน ตีแรงเกินเหตุเช่นนี้อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงคุณหนูจากจวนโหว นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องเป็นศัตรูกับตระกูลโหวอย่างชัดเจนหรือ?สีหน้าของโจวผิงเคร่งขรึมลงทันทีเขาอดไม่ได้ที่โกรธเดือดดาล: “ทั้งหมดเป็นเพราะหญิงชั่วคนนั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะนาง เรื่องคงไม่วุ่นวายถึงขนาดนี้!”……นายท่านรองโจวไม่อาจพูดอะไรได้มากกว่านี้ ได้แต่ถามกลับไปว่า: “ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ? เรื่องนี้มันใหญ่โตเกินไปแล้ว…...”หากเป็นคนอื่นทำลายซุ้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 186

    ไฉนถึงกลายเป็นเยี่ยงนี้ไปได้?หญิงชั้นต่ำที่กลับมาจากบ้านนอกนั่น เดิมทีนางเป็นเพียงคนไร้ความสำคัญ เดิมทีนางควรจะอยู่อย่างเงียบๆ ในมุมหนึ่งของจวนโหว หรือไม่ก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนนอกเมืองจนหมดอายุขัยแต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่านางได้รับความโปรดปรานในจวนโหว?ชีอวิ๋นถิงจ้องมองไปทางหอหมิงเยว่ด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนจะหมุนตัวรีบเดินไปที่โรงม้าจูงม้าออกจากจวนอย่างรวดเร็วรุ่ยซงไม่กล้าที่จะหละหลวมติดตามเขาอยู่ด้านหลัง: “คุณชาย! คุณชายรอข้าด้วย! คุณชาย ท่านจะไปไหนกันแน่?”ไปไหนงั้นรึ?ชีอวิ๋นถิงลดเสียงลงต่ำ: “ข้าจะออกนอกเมือง!”ออกนอกเมือง?รุ่ยซงสับสนงงงวย: “คุณชาย! ท่าน ท่านเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บเองนะขอรับ! ฮูหยินก็ยังป่วยอยู่ ท่านอย่าไปทำให้ท่านโหวพวกท่านโกรธเลยนะขอรับ!”“ไร้สาระ!” ชีอวิ๋นถิงเตะเขา: “ที่นี่ไม่มีสิทธิ์ให้เจ้ามายุ่ง! ถ้าเจ้าไม่อยากตามไป ก็ไสหัวไป!”รุ่ยซงที่โดนเตะจนเหมือนกุ้งตัวงอ นอนกองอยู่กับพื้นเกือบสลบ แต่ชีอวิ๋นถิงกลับไม่สนใจ หมุนตัวก็กระโดดขึ้นหลังม้าทันทีเห็นเช่นนี้ รุ่ยซงฝืนความเจ็บรีบลุกขึ้นติดตามเขา และควบม้าตามหลังไปอย่างเร็วพลันในฐานะบ่าวรับใช้อย่าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 185

    ท่านโหวผู้เฒ่ากุมมือของชีเจิ้นไว้ ไม่รอให้ชีเจิ้นตอบ ก็เอ่ยถามขึ้นเองก่อนว่า: “อาหยวน เจ้ามั่นใจมากน้อยเท่าไร?”เขาจ้องมองชีหยวนอย่างลึกซึ้ง คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นว่า: “ข้าหมายถึง หากต้องกำจัดอ๋องฉี เจ้ามั่นใจมากเท่าไร?”ชีเจิ้นมองชีหยวนด้วยความกังวลเขารู้สึกว่านี่เป็นคำถามที่ตอบยากยิ่ง ท้ายที่สุดแล้วการจะกำจัดอ๋องฉีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่สำหรับชีหยวนเอง ก็เกรงว่าจะต้องใช้วิธีวางหมากซ้อนหมาก สุดท้ายจะสามารถทำได้ถึงขั้นไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสามารถของคน แต่ยังต้องอาศัยโอกาสและจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกด้วยทว่า ชีหยวนกลับตอบทันที สีหน้าที่เรียบนิ่ง: “มั่นใจที่สุด”มั่นใจที่สุด!ท่านโหวผู้เฒ่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้อีกต่อไป เอ่ยถามต่อทันที:“เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจถึงเพียงนี้?”“เพราะเขาต้องตาย” น้ำเสียงของชีหยวนสงบนิ่งอย่างมาก ปราศจากความรู้สึกใดๆ ด้วยซ้ำ นางเงยหน้าขึ้นมองชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าอย่างตรงไปตรงมา: “ข้าจะเป็นคนลงมือสังหารเขาด้วยตัวเอง”ฆ่าเขา เพื่อล้างแค้นให้ตระกูลเซี่ยเพื่อล้างแค้นให้พระชายาหลิ่วสองแม่ลูก ล้างแค้นให้พ่อลูกตระกูลลู่ และชีวิตของผ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 184

    สีหน้าของชีเจิ้นเคร่งขรึม: “ตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงข่าวลืออีกเท่านั้น จนกระทั่งคนสนิทของข้าเดินทางไปตรวจสอบดู และนำสิ่งหนึ่งกลับมา”เขาพูดแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปเลื่อนตู้หนังสือออก เผยให้เห็นช่องลับด้านหลัง จากนั้นก็ยกกล่องใบหนึ่งมาวางบนโต๊ะ และค่อยๆ เปิดกล่องอย่างระมัดระวังภายในกล่องนั้นมีคันธนูเล็กๆ หนึ่งคันวางอยู่อย่างเงียบสงบ คันธนูเล็กนั้นขนาดประมาณว่าวหนึ่งตัว บนตัวธนูนั้นถูกประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดโต เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ธนูสำหรับใช้งานจริง แต่เป็นของเล่นสำหรับความบันเทิงเท่านั้นสายตาของชีหยวนกวาดมองคันธนูนั้น ก่อนจะเอ่ยถามเสียงขรึมว่า: “นี่คือของของพระชายาหลิ่วหรือ?”ดังนั้นจึงทำให้ชีเจิ้นมั่นใจได้ว่า มีพระชายาหลิ่วอยู่ที่เมืองเล็กๆ ของเมืองซ่งในเจียงซีกระมัง?หัวใจของนางรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยชาติที่แล้ว ข่าวนี้ตกไปอยู่ในมือของอ๋องฉีอ๋องฉีสั่งให้คนไปสังหารพระชายาหลิ่วสองแม่ลูกหลังจากสังหารแล้ว ก็ใส่ร้ายป้ายสีว่าตระกูลเฝิงเป็นผู้ลงมือเซียวอวิ๋นถิงและตระกูลเฝิงจึงให้ตระกูลเซี่ยตรวจสอบเรื่องนี้ สุดท้ายทำให้อ๋องฉีเกิดความสนใจ อ๋องฉีจึงหาข้ออ้างและสัง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status