Share

บทที่ 451

Author: ฉินอันอัน
ทันทีที่โทษลวงเบื้องสูงสี่คำถูกเอ่ยออกมา ขาของชีเจิ้นก็ถึงกับอ่อนแรง

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังพยายามรักษาท่าทีให้มั่นคง สมกับฐานะของท่านโหวแห่งจวนโหว

ท่านโหวผู้เฒ่าชีสูดลมหายใจลึก มองไปที่ชีหยวน “แม่หนูหยวน ครั้งนี้อันตรายไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ ปู่หวังว่าเจ้าจะคิดทบทวนให้ดีก่อนลงมือ ตระกูลชีทั้งครอบครัว ทั้งตระกูลขึ้นอยู่กับเจ้า ฝากไว้ที่เจ้าแล้ว!”

เขาไม่เคยสงสัยในความสามารถของชีหยวนเลย

ตอนนี้ ฮ่องเต้หย่งชางก็เหมือนยื่นดาบให้ชีหยวนกับมือแล้ว

หากชีหยวนคิดจะสังหารเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยจริง ๆ แค่ฟันครั้งเดียวก็จบเรื่อง

ทว่า เช่นนั้นคนของตระกูลชีและตระกูลชีก็จะพินาศไปด้วย

ผู้เฒ่าดูเหมือนจะชราลงไปในพริบตา ไม่ใช่ผู้นำครอบครัวที่เคยตัดสินใจเด็ดขาด ลูกหลานต้องคอยเชื่อฟังทุกคำพูดอีกต่อไปแล้ว

ชีหยวนมองเขาอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะพูดเพียงสองคำว่า “วางใจ”

พูดจบ นางก็หมุนตัวเดินจากไปทันที

ชีเจิ้นหน้าซีดเหมือนคนร้องไห้ “จะวางใจได้อย่างไรล่ะ?! ท่านพ่อ…… ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันต่อดี?”

ท่านโหวผู้เฒ่าไม่สั่นอีกต่อไปแล้ว แม้แต่น้ำเสียงกลับมาหนักแน่นกว่ามาก “เข้าไปรอที่เรือนกรรมฐาน! ข้าเชื่อในตัวนาง!”

นางบ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 452

    “ขอบคุณ แต่ข้าไม่ต้องการ!”ชีหยวนปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและหนักแน่น “ถ้าข้าน้อยเป็นท่าน ตอนนี้ข้าน้อยจะไปอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาทกับพระชายาหลิ่วเสีย ท่านอ๋องมิต้องห่วง ข้าน้อยจะไม่ตายหรอก ข้าน้อยไม่เคยทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจ”เขาเชื่อก็บ้าแล้ว!เซียวอวิ๋นถิงทั้งโกรธ ทั้งร้อนใจ แต่สุดท้ายก็ได้แต่สูดลมหายใจลึก “ระวังตัวให้ดี! หากเรื่องไม่สำเร็จ ก็โยนความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ข้าเอง!”……ชีหยวนหันกลับไปมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย ก่อนจะโบกมืออย่างขอไปทีนางไปพบเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก่อนเมื่อเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยและองค์หญิงเป่าหรงเห็นหน้านาง ก็พากันทำหน้าบึ้งตึงทันทีโดยเฉพาะองค์หญิงเป่าหรง พอเห็นนางคุกเข่าทำความเคารพแล้วกำลังจะลุกขึ้น ก็ตวาดเสียงดัง “ข้าอนุญาตให้เจ้าลุกขึ้นแล้วหรือไร?! เจ้าไม่รู้กฎระเบียบเลยหรือ?”ชีหยวนเป็นคนรู้จักยืดหยุ่น นางไม่ใส่ใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ถึงอย่างไรคุกเข่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรทว่าองค์หญิงเป่าหรงกลับเดินเข้าไปหานาง เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนมือของนางนี่เป็นวิธีที่องค์หญิงเป่าหรงทำจนเคยชิน ไม่ว่าจะในยุคปัจจุบันหรือตอนอยู่ในวัง นางก็ชอบทรมานคนด้วยวิธีน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 453

    ผู่อู๋ย่งเป็นขันทีคนสนิทข้างกายของฮ่องเต้หย่งชาง เขาและขันทีเซี่ย คนหนึ่งเป็นผู้ดูแลงานนอกวัง อีกคนเป็นผู้ควบคุมงานภายในวัง ต่างฝ่ายต่างไม่ก้าวก่ายกัน แต่กลับมักจะคอยจ้องจับผิดกันตลอดเวลาคนที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกรมขันทีพระราชพิธี รับหน้าที่เขียนและประทับตราแทนฮ่องเต้ เขาไม่เคยมีท่าทางตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อนนี่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการสูญเสียแม่เสียอีก! เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยตายแล้วจริง ๆ!ถ้าเป็นอย่างนั้นฮ่องเต้จะไม่คลั่งไปเลยหรืออย่างไร?คนที่อยู่ที่นี่คืนนี้ บางทีอาจล้วนต้องตายกันหมดก็ได้!เมื่อโอรสสวรรค์พิโรธ ศพจะกองพะเนินนับแสน คนที่อยู่ที่นี่วันนี้จะเหลือรอดกี่คน ก็ไม่อาจรู้ได้เลยพระชายาหลิ่วก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ในขณะที่รู้สึกสะใจที่ได้ระบายความแค้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบรู้สึกสะใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเฉียบอย่างหวาดหวั่นนางนึกถึงเด็กสาวคนนั้นขึ้นมา!ชีหยวน!เด็กที่ช่วยเหลือนางไว้มากมาย เด็กที่พูดจาเกินวัยอย่างผู้ใหญ่ นางเป็นคนที่ไปช่วยรักษาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย แล้วตอนนี้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยตาย นั่นจะเกี่ยวกับนางด้วยหรือไม่?!ถ้ามันเป็นเช่น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 454

    เขาเมินเฉยต่อคำเตือนของขันทีเซี่ย ก้าวขึ้นบันได แล้วเอ่ยเสียงดังว่า “เสด็จปู่ ข้า…...”เขาจะรับทุกอย่างแทนชีหยวนเองเขาจะทำให้นางรู้ว่า นางไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียว นางก็มีคนที่เป็นที่พึ่งพิงได้เหมือนกัน!ขันทีเซี่ยเหงื่อแตกพลั่กด้วยความร้อนรน หากพระองค์เอาตัวเองไปพัวพันกับเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่ตำแหน่งจะหมดหวัง แม้แต่ชีวิตก็อาจรักษาไว้ไม่ได้เลย!โชคดีที่ในจังหวะนั้นเอง ราชบุตรเขยลู่จากเรือนกรรมฐานองค์หญิงใหญ่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาดึงเซียวอวิ๋นถิงออกไป แล้วรีบทูลรายงานต่อฮ่องเต้หย่งชางและพระชายาหลิ่วว่า “ฝ่าบาท พระชายา เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทรงอาเจียนไม่หยุด ท้องเสียอย่างหนัก พระวรกายอ่อนแรงมาก เกรงว่าจะไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”จะไม่ไหวแล้ว?!เซียวโม่?!ฮ่องเต้หย่งชางถึงกับชะงักไป เดิมที่โกรธเกรี้ยวอยู่เต็มอก ตอนนี้กลับรู้สึกสับสนเพิ่มขึ้นอีก พระองค์รีบหันไปสั่งการกับไล่เฉิงหลง “ไล่เฉิงหลง! รวมคนทั้งหมดในอารามไป๋อวิ๋น ค้น ค้นให้ทั่ว ตรวจสอบให้ดี! ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! เริ่มจากตำหนักของอ๋องก่อน ส่วนข้าจะไปหากุ้ยเฟยก่อน!”เดิมทีพระชายาหลิ่วค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 455

    เดิมทีตอนที่องค์หญิงเป่าหรงพุ่งเข้าหาตนนั้น ชีหยวนสามารถหลบได้อย่างสบาย ด้วยฝีมือห่วย ๆ ของเป่าหรง ชีหยวนแค่เตะเข้าที่หัวเข่าเบา ๆ สักที ก็สามารถส่งนางไปนั่งเป็นคู่ขากับพี่ชายของนาง กลายเป็นคนขาพิการไปอีกคนได้แล้วทว่านางมีประสาทหูที่ไวมาก นางได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคนดังมาจากข้างหลัง รู้ได้ทันทีว่า ฮ่องเต้หย่งชาง น่าจะได้ข่าวแล้ว กำลังรีบมาแน่ ๆ นางเลยปล่อยให้องค์หญิงเป่าหรงกระโจนเข้ามาบีบคอตนเองแต่บีบคอสินะ?นางโดนบีบคอ ยืนไม่ไหว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรใช่หรือไม่ล่ะ?ดังนั้นนางเลยแอบเกี่ยวขาองค์หญิงเป่าหรงอย่างมีชั้นเชิง ทิ้งตัวล้มลงกับพื้นทันที และตัวนางผ่อนแรงไปกว่าครึ่ง ทว่าองค์หญิงเป่าหรงนี่สิ ล้มหัวทิ่มพื้นไม่เป็นท่า จนหน้าผากบวมเป็นลูกเท่าหน้าผากของเทพเจ้าซิ่วแชกงในขณะนี้นางไม่มีแรงและความคิดที่จะบีบคอชีหยวนต่อแล้วเมื่อเห็นฮ่องเต้หย่งชางเดินเข้ามาพอดี ก็รีบกระโจนเข้าไปซบอกฮ่องเต้หย่งชางอย่างน่าสงสาร ร้องไห้สะอื้น “เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อ! เสด็จแม่ของลูกสิ้นแล้ว เสด็จแม่ของลูกสิ้นแล้ว!”นางเสียใจจริง ๆ ความเจ็บปวดที่แท้จริงเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนเห็นอกเห็นใจน้ำตาของนางราวกั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 456

    อย่าว่าแต่คุกเข่าเลย ต่อให้องค์หญิงเป่าหรงจะเอาหัวโขกพื้นจนแตกอยู่ที่นี่ ชีหยวนก็สมควรได้รับ!เซียวอวิ๋นถิงรีบคว้าโอกาสทันที เขาขมวดคิ้ว “เสด็จอาหญิงเป่าหรง ท่านทั้งร้องไห้และโวยวาย พวกเราเพิ่งเข้ามา ท่านก็ลงมือบีบคอคน แถมยังลงไม้ลงมือตบตีคน ตอนนี้ยิ่งแล้ว ลงไปนั่งคุกเข่าให้อีก ท่านนี่มันเสียเกียรติของราชวงศ์เราโดยแท้!”เขาฉวยโอกาสก่อนที่ฮ่องเต้หย่งชางจะโกรธ รีบพูดขึ้นว่า “เสด็จปู่ยังอยู่ที่นี่ เสด็จปู่ยังอยู่ที่นี่ ความจริงยังไม่ถูกตรวจสอบให้ชัดเจน สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือหาสาเหตุการตายของกุ้ยเฟยให้ได้ ท่านทำแบบนี้ มิเท่ากับทำให้กุ้ยเฟยจากไปอย่างไม่สงบหรือ?”ฮ่องเต้หย่งชางก็คิดเช่นนี้เหมือนกันพระองค์สูดหายใจลึก พระพักตร์เคร่งขรึม แล้วหันไปถามชีหยวน “เจ้าเป็นคนรักษากุ้ยเฟย และเป็นคนจ่ายยาให้กุ้ยเฟยเอง? และเป็นคนต้มยาให้กุ้ยเฟยเอง?”องค์หญิงเป่าหรงรู้สึกพึงพอใจนางตระเตรียมไว้นานแล้ว ทุกเรื่องให้ชีหยวนเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง ไม่มีทางให้นางพ้นผิดไปได้เลยแค่คิดไม่ถึงว่าชีหยวนจะวางยาจริง ๆ!นางอยากให้ชีหยวนตาย แต่จะคิดให้เสด็จแม่ตัวเองตายได้อย่างไรเล่า? เสด็จแม่เป็นที่โปรดปรานขนาด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 457

    ช่างเป็นเด็กสาวที่ประหลาดจริง ๆแม้ว่าไล่เฉิงหลงจะคิดเช่นนั้น แต่ก็ยังทำตามหน้าที่ ก้าวไปข้างหน้าหมายจะไปจับคุมตัวนางแต่ในตอนนั้นเอง ชีหยวนกลับก้าวไปข้างหน้า คุกเข่าลงตรงหน้า ฮ่องเต้หย่งชาง “ฝ่าบาท หม่อมฉันมีทั้งตระกูลโหวอยู่เบื้องหลัง บิดาของหม่อมฉันก็เป็นขุนนางคนสำคัญของพระองค์ เว้นเสียแต่ว่าหม่อมฉันจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ มิเช่นนั้นหม่อมฉันจะลอบวางยาพิษกุ้ยเฟยได้อย่างไรเพคะ?”ฮ่องเต้หย่งชางจ้องมองนางอย่างไร้ความรู้สึกชีหยวนไม่แม้แต่จะหวาดหวั่นเกรงกลัว นางยกเปลือกตาขึ้นประสานตากับฮ่องเต้หย่งชางโดยตรง ครั้งนี้แม้แต่ไล่เฉิงหลงก็อดสะดุ้งไม่ได้ จ้องตาฮ่องเต้ตรง ๆ เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆฮ่องเต้หย่งชางทรงพระสรวลอย่างเย็นชา แล้วทรงชี้ไปที่เหล่าหมอพื้นบ้าน และตะกอนยาเหล่านั้น “แล้วเจ้าจะอธิบายอย่างไร? ในนี้มีโหราเดือยไก่ ซึ่งมีพิษร้ายแรง?! ยานี่เจ้าต้มเอง เขียนตำรับยาเองกับมือ หรือว่านี่มันผิดงั้นหรือ?!”ชีหยวนพยักหน้า “ไม่ผิดเพคะ เป็นใบจ่ายยาที่หม่อมฉันเขียนเองจริง ๆ ดังนั้นหม่อมฉันมีหลักฐานบันทึกไว้”นางหันไปมองนางกำนัลชื่อซวงฮวา ที่ยืนอยู่ข้างหลังองค์หญิงเป่าหรง “กูกูผู้น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 458

    นางยืนตัวตรงหลังตรงไม่ไหวติงจากนั้นพูดอย่างสงบนิ่งว่า “มีคนจงใจสับเปลี่ยนยาของหม่อมฉัน”ขณะนั้นเอง พระชายาหลิ่วก็วิ่งร้องไห้เข้ามา “เซียวเสี่ยนเจียว! เจ้ารีบไปดูอาโม่เร็วเข้า อาโม่เขาอาเจียนไม่หยุด ถ่ายท้องไม่หยุด อาการหนักมาก เจ้ารีบหาหมอมาดูเขาทีเถอะ!”แม้ว่าในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง จะยุ่งเหยิงไปหมด แต่ชีวิตของลูกก็ต้องช่วยไว้ก่อนพระองค์จึงสั่งหมอทั้งหลายทันที “รีบไปตรวจดูอาการอ๋องเร็วเข้า! หากอ๋องเป็นอะไรไป พวกเจ้าก็อย่าหวังจะรอดเหมือนกัน!”หมอหลวงแต่ละคนขาสั่นพากันรีบออกไปจู่ ๆ ชีหยวนก็เอ่ยถามพระชายาหลิ่ว ที่กำลังจะออกไป “พระชายา ท่านบอกว่าท่านอ๋องอาเจียนไม่หยุด ถ่ายท้องไม่หยุดอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”พระชายาหลิ่วตอบรับด้วยเสียงสะอื้น สีหน้าของชีหยวนเคร่งขรึมลงทันที นางคุกเข่าลงแล้วโขกศีรษะต่อหน้าฮ่องเต้หย่งชาง “ฝ่าบาท! ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้หม่อมฉันไปดูอาการของท่านอ๋องด้วยเพคะ บางทีหม่อมฉันอาจจะรู้สาเหตุโรคของท่านอ๋องก็เป็นได้เพคะ!”ถึงตอนนี้แล้ว อย่างไรพระโอรสที่มีชีวิตก็สำคัญกว่ามิฉะนั้น บรรดาขุนนางคงจะด่ากันขรม กฎเกณฑ์ราชสำนักก็คงกดดันพระองค์ ไหนจะพวกเมืองขึ้นเล็ก ๆ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 459

    องค์หญิงเป่าหรงแทบจะเสียสติด้วยความโกรธแล้วนางเคยคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกนี้แล้ว ไม่มีใครจะร้ายกว่านางได้อีกแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าจะมีจริง ๆ!นางเป็นคนสั่งให้ซวงฮวาไปบอกให้แม่ชีคนนั้นหลอกล่อให้ชีหยวนออกไป จากนั้นก็แอบใส่ผงปาโต้วลงไปในยาแต่ผงปาโต้วพวกนั้นนั้นไม่มีผลอะไรกับอาการป่วยของเสด็จแม่ได้เลยนางรู้อยู่แก่ใจดี เสด็จแม่ไม่ได้ป่วยจริง!โรคชี่ถูกปิดกั้นอะไรนั่น ก็แค่ฉีหยวนกุเรื่องขึ้นมาเพื่อเปิดโปงว่าเสด็จแม่ของนางแกล้งเป็นลมเท่านั้น!นางแค่อยากให้เสด็จแม่ดูเหมือนป่วยเล็กน้อย เพื่อหลอกล่อให้เสด็จพ่อลงโทษชีหยวนได้ง่ายขึ้น!พอดีกับที่พระชายาหลิ่วกำลังทำให้เสด็จพ่อลำบากพระทัย ไม่ยอมให้อภัยเสด็จพ่อ แถมยังโกรธไม่เลิก จนเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วราชสำนัก ถึงขั้นต้องมาฉลองวันปีใหม่กันที่อารามไป๋อวิ๋นเสด็จพ่อที่กำลังหงุดหงิด ถ้ารู้ว่าชีหยวนรักษาเสด็จแม่ของนางจนแย่ลงล่ะก็ ต้องสั่งประหารชีหยวนแน่นอน!แต่ใครจะรู้ล่ะ ใครจะรู้ว่ายานั่นกลับมีโหราเดือยไก่ด้วย!นางไม่ได้ใส่!นางไม่ได้ใส่เลยจริง ๆ!แล้วใครเป็นคนใส่กัน?!องค์หญิงเป่าหรงชี้หน้าด่าชีหยวนอย่างเกรี

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 497  

    สวีฮว่านรู้สึกอึดอัดกับแรงกดของกริชเล่มนั้น และไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ารอยแผลที่ชีหยวนกรีดไปนั้นยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สิ่งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุดจริง ๆ คนย่อมมีจุดอ่อน ชื่อเสียงและความรู้สึกหวงแหนชีวิตก็คือจุดอ่อนของสวีฮว่าน เขาเอ่ยด้วยความร้อนรน “ข้าช่วยเจ้าได้! ข้าช่วยล้างมลทินให้ตระกูลของเจ้าได้ ตราบใดที่พวกเจ้ายอมให้ความร่วมมือ ความผิดนี้ ข้าสามารถโยนให้คนอื่นรับไว้ได้!” ใบหน้าของชีหยวนไร้ซึ่งความรู้สึก ทว่าความเยือกเย็นในดวงตากลับยิ่งลุ่มลึกขึ้นมา ปลายกริชที่นางกดเอาไว้บนลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เพียงเสี้ยวพริบตาก็สร้างรอยแผลเลือดซิบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรอยให้เขาได้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มข้นขึ้น “จะผลักความผิดให้แม่ทัพขุนศึกท่านอื่นที่บัดนี้ยังคงสู้รบในสมรภูมิอย่างซื่อสัตย์ภักดี พร้อมยอมพลีชีพเพื่อชาติได้อย่างนั้นหรือ? หรือคิดจะโยนความผิดให้บรรดาบุตรชายของครอบครัวทหารที่ต้องเข้าสู่สมรภูมิรบตั้งแต่วัยเพียงสิบสองสิบสามเหล่านั้นกัน พวกเขายังไม่ทันได้เติบโตด้วยซ้ำ ก็ต้องมาตายภายใต้อุบายชั่วช้าสามานย์ของพวกเจ้า”

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 495  

    อาภรณ์ชุดใหม่ในเรือนตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ปีนี้นับเป็นปีที่หาได้ยากที่เหล่าดรุณีสกุลสวีจะได้สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไปเที่ยวชมพระโพธิสัตว์ สกุลสวีทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างปีติยินดี แม้แต่ฮูหยินสวีก็ยังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ทั้งตัว ในปีนี้นางสวมเสื้อนวมสองชั้นที่ทำจากผ้าไหมฝูกวงซึ่งเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ข้างนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนนกยูง มองแล้วดูหรูหราเจิดจ้าจับตา เดิมทีนางรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย ก่อนออกจากเรือนยังถึงขั้นถามสวีฮว่านขึ้นมาเป็นพิเศษว่า “วันนี้เป็นวันที่สาม ต้องขึ้นเขาไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ จุดธูปทอนน้ำมัน ทว่าก็มีบรรดาสตรีผู้มีหน้ามีตาในเมืองหลวงไปที่นั่นด้วยเช่นกัน พวกเราแต่งกายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?” หลายปีที่ผ่านมานี้ บรรดาสตรีในสกุลสวีได้ชื่อว่ามัธยัสถ์เรียบง่ายมาตลอด แต่กระนั้นก็ไม่มีใครดูถูกดูแคลนพวกนาง ใครต่างก็รู้ว่าในเมืองหลวงสวีฮว่านขึ้นชื่อว่าสุจริตมือสะอาด งานเลี้ยงของคนอื่น งานสังสรรค์สุราของคนอื่น เขาไม่เคยไปร่วมเลยสักครา เพราะไปกินของคนอื่น ย่อมเลี่ยงไม่ได้ต้องเชิญคนอื่นมากินเลี้ยงตอบแทนกลับในภายหลัง ใต้เท้าสวีเคร่งครัดในความสุจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status