Share

บทที่ 400

Author: ฉินอันอัน
เขาแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้พลางเรียกออกมา “คุณหนูใหญ่ตระกูลชี!”

เป็นชีหยวน!

ชีหยวนมาช่วยเขาแล้ว!

ภายใต้แสงราตรีที่สลัว ชีหยวนสะบัดแส้เกี่ยวดาบของนักฆ่า แล้วออกแรงกระชากเพียงครั้งเดียว นักฆ่าก็ถึงกับเสียการทรงตัว ตามมาด้วยแส้เส้นเดิมฟาดลงไปบนศีรษะของเขา ทำให้คนๆ นั้นร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา

แค่จะมาฆ่าผู้ลี้ภัยสักคนเท่านั้นเอง คนที่มาไม่ได้มีมากมายเท่าไหร่ แถมฝีมือก็ไม่ได้สูงส่งอะไรเลย

ชีหยวนสะบัดแส้ก็แทบจะทำให้คนๆ หนึ่งล้มลงไปกองกับพื้นได้แล้ว นางฟาดใส่คนทั้งหมดจนทรุดลงไปโดยไม่หยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็นั่งลงบนหลังของคนสุดท้าย และยื่นมือไปหาเด็กชายตัวน้อยที่อยู่ในซากปรักหักพัง พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ลุกขึ้น”

จากนั้น นางก็หันไปมองหูอี้ชวน “อยากแก้แค้นให้ราบคาบกว่านี้ไหม?”

ดวงตาของหูอี้ชวนทอประกาย เขาพยักหน้าทันที

คืนนั้นเอง หูอี้ชวนพาชาวบ้านจากชุมชนแออัดจำนวนหนึ่ง ลากร่างพวกนักฆ่ามาที่หน้าจวนฉู่กั๋วกง!

ตอนแรกบ่าวรับใช้ของจวนก็เข้าไปขวาง ทว่าหยุดพวกเขาไม่ได้

เพราะก่อนมา หูอี้ชวนตะโกนร้องขอความเป็นธรรมมาตลอดทาง ร้องตะโกนว่าจวนฉู่กั๋วกงจะฆ่าคนปิดปาก คำพูดนี้เร
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (2)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นี่ มันต้องอย่างนี้ เรื่องนี้บู๊สะใจสุดเท่าที่อ่านนิยายมาเลย
goodnovel comment avatar
Sukunya Nok
ตื่นเต้น สุดๆ นางเอกเก่งมาก
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 401

    สีหน้าของชีหยวนไม่สู้ดีนัก นางรู้ว่าฮูหยินฉู่กั๋วกงเพิ่งล้มศีรษะกระแทก น่าจะกำลังเลี่ยงการโมโหและอารมณ์รุนแรง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าฮูหยินฉู่กั๋วกงจะเปราะบางได้ถึงเพียงนี้ นางยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ฮูหยินฉู่กั๋วกงก็โกรธจนตนเองขาดใจตายไปเองแล้ว สตรีที่มีจิตใจลึกล้ำแยบยลเพียงนี้ กลับทนรับแรงโทสะไม่ไหว ดูเหมือนว่าจะใช้ชีวิตสุขสบายมานานมากเกินไปแล้วจริง ๆ นางมองฮูหยินฉู่กั๋วกงด้วยสีหน้าซับซ้อน ไม่มัวรีรอล่าช้า ก็พลิกตัวออกทางหน้าต่างหลัง แล้วอ้อมไปยังประตูใหญ่ของจวนฉู่กั๋วกง กระทั่งมาถึงจุดเลี้ยวตรงหัวมุม นางถูกใครบางคนกระชากแขนแล้วดึงไปด้านข้างอย่างแรง จึงตอบสนองด้วยสัญชาตญาณงอศอกและกระแทกกลับไป ขณะเดียวกันอีกมือก็ดึงปิ่นปักผมออกเตรียมจะแทงใส่ผู้เข้ามา แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ จึงกดมืออีกข้างของนางลง พร้อมทั้งกำปิ่นปักผมของนางไว้พลางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าเอง!” ได้ยินเสียงของเซียวอวิ๋นถิง ชีหยวนก็หยุดการเคลื่อนไหวในมือ สะบัดเซียวอวิ๋นถิงออก จากนั้นค่อยปักปิ่นกลับไปที่มวยผมอีกครั้ง พลางถามด้วยเสียงเคร่งขรึม: “ท่านอ๋องมาได้อย่างไร?” เซียวอวิ๋นถิงมองออกไปด้านนอก: “ก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 402  

    ฉู่กั๋วกงแทบอยากจะตรงเข้าไปเชือดคอเจ้าโง่ที่ดื้อด้านไม่รู้จักเจียมตัวตรงหน้าคนนี้เสียให้สิ้นเรื่อง! กว่าจะไล่เจ้าพวกหายนะกลุ่มนี้ออกไปจนหมดไม่ง่ายเลย และทันทีที่เขาหมุนตัวเตรียมจะกลับเข้าไปในจวน ก็เห็นว่าฮูหยินหลิ่วลูกสะใภ้ของตนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา พร้อมเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น: “ท่านพ่อสามี! ท่านแม่สามีนาง ท่านแม่สามีนางสิ้นใจแล้วเจ้าค่ะ” เสียงอื้ออึงดังสนั่น ราวกับถูกอสนีบาตฟาดโครมลงมากลางใจ ฉู่กั๋วกงผลักพ่อบ้านที่เข้ามาพยุงออก ก่อนจะเซถลาและวิ่งเข้าไปในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วทันที กระทั่งเขามาถึงเรือนหลัง ก็เห็นว่าประตูบานเฟี้ยมของเรือนแถวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเรือนส่วนหลังถูกไฟไหม้ไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว บัดนี้กลิ่นไหม้กำลังลอยคลุ้ง ทว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจจะมาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในตอนนี้ รีบร้อนรุดเข้าไปในห้องของฮูหยินฉู่กั๋วกงทันที จากนั้นก็เห็นฮูหยินฉู่กั๋วกงที่นอนแน่นิ่งบนพื้น ฮูหยินหลิ่วรีบตามเข้าไป เห็นเช่นนั้นก็เอ่ยทั้งเสียงสะอึกสะอื้น: “ท่านพ่อสามี ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นที่ส่วนหน้า ท่านแม่สามียืนกรานจะให้ข้าไปดูให้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 403  

    เจียงเหยียนเจินออกจากจวนฉู่กั๋วกงด้วยท่าทางร้อนอกร้อนใจ ท่าทางฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียด เหมือนปลาปักเป้าโมโห ครั้นผ่านประตูเรือนสกุลเจียงเข้าไป ก็ด่ากราดตั้งแต่หน้าประตูมาจนถึงเรือนหลัง ฮูหยินเจียงอยู่ในห้องกำลังดูพวกบ่าวรับใช้จัดของ เห็นใต้เท้าเจียงเข้ามา ก็แค่นเสียงหัวเราะเยาะพลางเหน็บแนมเสียดสี: “แต่ละคน พวกที่ไม่รู้ไหนเลยจะรู้สึกว่าพวกเราเป็นแค่ครอบครัวสามัญชนคนธรรมดา มีแต่จะคิดว่าพวกเราสูงส่งเทียมฟ้าเทียมสวรรค์กันหมดแล้ว! อยากได้สิ่งนี้ก็มาหา อยากได้สิ่งนั้นก็มาหา!” เจียงเหยียนเจินอารมณ์ไม่ดีอยู่เป็นทุนเดิม ยิ่งเห็นท่าทีเช่นนี้ของนางก็ยิ่งโมโห จึงเตะหีบที่วางอยู่บนพื้นเต็มแรงไปหนึ่งที: “มันผู้ใดทำให้เจ้าขุ่นเคือง เจ้าก็ไปหาเรื่องมันผู้นั้น อย่ามาทำหน้าเป็นผีตายซากทั้งวันทั้งคืนให้ข้าเห็น!” ก่อนหน้านี้เจียงเหยียนเจินและฮูหยินเจียงเป็นคู่สามีภรรยาที่กลมเกลียวตลอด เจ้าดีมาข้าก็ดีด้วย แม้ว่าฮูหยินเจียงจะมีนิสัยขี้หงุดหงิดไปบ้าง และมักจะทำหน้าบูดบึ้งตลอดทั้งวันเมื่อมีบางสิ่งไม่ได้ดั่งใจ ทว่าใต้เท้าเจียงก็ยังอดทนกับนางได้เสมอ ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังยอมลดทิฐิลงมาเป็นฝ่ายปลอบโยนแล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 404  

    เจียงเหยียนเจินถามอย่างไม่อยากเชื่อ: “ข้ายังมีเงินที่ไหนอีก? เงินของข้ามิใช่ว่าให้เจ้าดูแลจัดการหมดแล้วหรือ?” “ท่านอย่ามาเล่นลิ้นกับข้า เมื่อปีนั้นจวนฉู่กั๋วกงคืนสินเดิมทั้งหมดของน้องหญิงท่านให้ท่านแล้วมิใช่หรือ สินเดิมของน้องหญิงท่านมีอยู่เท่าใด คนอื่นไม่รู้แต่ข้ารู้ เรือนหลังของท่านทั้งแถวมีกองสมบัติอัดแน่นเต็มไปหมด! เป็นอะไรไป หรือว่าท่านนึกเสียดายจนไม่อยากเอาออกมาแล้ว?” จวนฉู่กั๋วกงอีกแล้ว! เป็นนางเจียงอีกแล้ว! เจียงเหยียนเจินพลันคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที หัวใจของเขาจมดิ่งลงไปอย่างสุดชีวิต ทว่าโทสะกลับทะยานขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ได้ยินฮูหยินเจียงยังเอาแต่พูดไม่หยุดปากว่าจะไปเปิดประตูเรือนหลังหยิบเงินออกมา เขาพลันสมองเดือดพล่านโผเข้าไปบีบคอฮูหยินเจียงทันที แม่นางไซซีร้านเต้าหู้แล้วอย่างไร? บุรุษก็เป็นเช่นนี้ แม้จะได้เทพธิดาจากสวรรค์มาเป็นภรรยา ผ่านพ้นคืนวันอันสดใหม่ไปแล้วก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นฮูหยินเจียงก็มิใช่เทพธิดาอะไร เป็นแค่หญิงยากจนหยาบคายก้าวร้าวคนหนึ่งเท่านั้น ตอนแรกเจียงเหยียนเจินรู้สึกว่านางมีอะไรในใจก็พูดออกไปแบบนั้น อุปนิสัยตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 405  

    เจียงเหยียนเจินเม้มปากอย่างอดไม่ได้ ภัยใหญ่บังเกิดต่างคนต่างก็หนีกระเจิง เขายังไม่ทันทำอะไร ฉู่กั๋วกงก็ชิงตัดสัมพันธ์ขาดไมตรีก่อนแล้ว เขากดเสียงลงและเอ่ยว่า: “เรื่องไม่เกี่ยวกับข้า ข้ากับหูอี้ชวนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำไป!” สิงหมิ่นผุดยิ้มบาง ๆ : “ใต้เท้าเจียง จะรู้จักไม่รู้จัก พวกข้ามิอาจยืนยันแน่ชัด เพียงแต่มือสังหารเหล่านั้น ล้วนเป็นคนของพวกท่านสกุลเจียงจริง ไม่ว่าอย่างไร ท่านก็ควรจะเข้าไปดูสักครั้งมิใช่หรือ?” เจียงเหยียนเจินแทบหายใจไม่ทัน จวนฉู่กั๋วกงคิดจะไม่ยุ่งเกี่ยวแล้วจริง ๆ มิเช่นนั้น แค่ไม่กี่คนที่ต้องเข้าศาลซุ่นเทียน มีหรือที่คนอย่างเขาหรือจะกู้สถานการณ์ไม่ได้? จะว่าไปแล้ว ฉู่กั๋วกงน่าจะจงใจให้เขาส่งคนไปสังหารปิดปากมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ความผิดทั้งหมดก็จะถูกปัดมาตกที่ตัวเขาแล้ว ฉู่กั๋วกงก็สามารถลอยตัวเหนือความเกี่ยวข้องทั้งหมดได้แล้ว ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี! เรื่องปีนั้นก็ให้แล้วกันไป ในเมื่อทุกคนต่างก็มีมลทิน มันจึงทำให้ต่างคนต่างยอมอดทนอดกลั้นต่อกันได้ แต่เรื่องของฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วพวกมันเป็นคนก่อเวรก่อกรรมขึ้นเองทั้งนั้น! แล้วเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 406  

    เจียงเหยียนเจินแข้งขาอ่อนยวบ ราชบุตรเขยลู่จำได้แล้วอย่างนั้นหรือ?! นั่นมิได้หมายความว่า ราชบุตรเขยลู่รู้แล้วว่ามือสังหารที่ตามฆ่าพระชายาหลิ่วเมื่อปีนั้นก็คือลู่หมิงฮุย และฉู่กั๋วกงก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรอกหรือ? แต่เขาก็คอยออกหน้าพูดและช่วยทำเรื่องต่าง ๆ แทนฉู่กั๋วกงมาตลอด .... พระชายาหลิ่วต้องแค้นเขาแน่ เกรงว่าคงเคียดแค้นจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแน่นอน หากว่าพิสูจน์ความจริงแล้ว พระชายาหลิ่วจะต้องสับเขาจนแหลกเละแน่! และถ้าหากว่ารอกระทั่งราชบุตรเขยลู่กลับมา ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว บัดนี้ กลุ่มคนเหล่านั้นที่ถูกคุมตัวเข้าศาลซุ่นเทียน ล้วนเป็นคนในบัญชาของเขาทั้งสิ้น หากว่าราชบุตรเขยลู่กลับมาและดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เช่นนั้น เช่นนั้นแล้วคนอย่างฉู่กั๋วกง จะไม่ผลักความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเขาหมดหรือ? ให้เขาแบกความเรื่องทั้งหมดแทนฉู่กั๋วกงแบบนั้นมันเสียสติไปแล้วชัด ๆ! คิดได้ถึงจุดนี้ เจียงเหยียนเจินพลันรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว รีบเอ่ยอย่างร้อนรน: “ไม่ ๆ ไม่ใช่ข้า! ไม่ใช่ข้าจริง ๆ วันนี้คนพวกนี้แม้เป็นคนของข้าจริง แต่ข้ามิได้สั่งให้พวกเขาไปทำ! เป็นฉู่กั๋วกง เป็นฉู

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 407  

    มือของลู่หมิงอันยังคงสั่นสะท้าน อันที่จริงเขายังตั้งสติกลับมาได้ไม่ทั้งหมด ตอนนั้นที่เห็นลู่หมิงฮุยคุกเข่าลง มิใช่ว่าเขาจะไม่ใจอ่อนเลย โง่เขลาเกินไปหน่อย คนที่โง่เขลามาตั้งแต่เด็กจนโตแล้วก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทั้งที่เคยพลาดพลั้งมาหลายต่อหลายครั้งขนาดนั้นแล้วแท้ ๆ แต่เมื่อย้อนคิดถึงสมัยเยาว์วัยเขามักจะตามอยู่ด้านหลังพี่ชายตลอด เป็นเหมือนเงาตามตัวของพี่ชาย ทำให้เขาเผลอลังเลไปชั่วขณะ จนกระทั่งเขามองเห็นมือขวาของลู่หมิงฮุยแอบล้วงเข้าไปในรองเท้าหุ้มแข้ง เขาคุ้นเคยกับกลอุบายนี้ของลู่หมิงฮุยดีเกินไป ด้านหนึ่งทำท่ายอมแพ้ แต่อีกด้านกลับจ้องฉกฉวยโอกาสทำร้ายโดยที่อีกฝ่ายไม่ระวังตัว ภาพอันเลวร้ายเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ถูกไล่ล่าถาโถมเข้ามาในความคิด ตอนนั้นบุตรชายวัยเพียงไม่กี่ขวบปี ต้องทนหวาดวิตกและต้องทนทุกข์ทรมานอย่างสุดชีวิตไปพร้อมกับเขา แม้กระทั่งตกลงไปในหุบเหว ดวงตามืดบอดมองไม่เห็นไปช่วงหนึ่ง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฝีมือใครกัน? ใครกันที่ทำให้พวกเขาต้องอยู่ในสภาพจนตรอกแบบนี้? ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะลู่หมิงฮุย! บัดนี้น้ำตาที่จระเข้หลังออกมาก็เพื่อจะอ้าปากเขมือบคนต่อก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 408  

    บัดนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถล้างแค้นให้ตนเองเมื่อปีนั้นรวมถึงเหล่าองครักษ์ที่ปกป้องพวกเขาเมื่อปีนั้นได้ด้วยตนเองแล้ว ชีหยวนพูดถูก รอให้ฮ่องเต้มอบความเป็นธรรมไม่ต้องรอจนถึงปีลิงเดือนม้าเลยหรือ? มิหนำซ้ำยังมีความเป็นไปได้ว่าคนพวกนั้นอาจจะไม่ต้องตาย เส้นสายของพวกมันโยงใยไปทั่วทั้งราชสำนักและประชาชน แม้ว่ามีคนประกาศกร้าวว่าจะเล่นงานสังหารพวกมันจริง แต่ก็ยังมีคนอีกมากพร้อมออกมาร้องขอความเห็นใจให้พวกมันเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์และความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อถึงเวลานั้นพวกมันอาจจะแค่ถูกพิพากษาให้เนรเทศหรือก็แค่ปลดบรรดาศักดิ์เท่านั้น? ไหนเลยจะสาแก่ใจเท่าสังหารพวกมันด้วยมือตนเอง?! เขายืนยิ่ง มองเห็นอ๋องโจวกำลังกุมมือตนเองไว้ จึงค่อย ๆ หันไปมองอ๋องโจว ทั้งที่เขามีแต่เลือดเปรอะทั่วตัว ทว่าอ๋องโจวในยามนี้กลับมองไม่เห็น ในมือของเขายังถือมีดไว้ อ๋องโจวก็เลือกที่จะทำเป็นไม่เห็น สิ่งที่อ๋องโจวกังวลใจที่สุดยังคงเป็นเพียงสิ่งเดียว: “หมิงอัน เซียวโม่ปลอดภัยดีใช่หรือไม่?” สวรรค์ ฟ้าดิน ต้องปกป้องคุ้มครองเซียวโม่ให้ปลอดภัย! มิเช่นนั้น จุดจบของเขาคงไม่ได้ดีไปกว่าลู่หมิงฮุยที่นอนแน่นิ่งอยู่บน

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 495  

    อาภรณ์ชุดใหม่ในเรือนตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ปีนี้นับเป็นปีที่หาได้ยากที่เหล่าดรุณีสกุลสวีจะได้สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไปเที่ยวชมพระโพธิสัตว์ สกุลสวีทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างปีติยินดี แม้แต่ฮูหยินสวีก็ยังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ทั้งตัว ในปีนี้นางสวมเสื้อนวมสองชั้นที่ทำจากผ้าไหมฝูกวงซึ่งเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ข้างนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนนกยูง มองแล้วดูหรูหราเจิดจ้าจับตา เดิมทีนางรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย ก่อนออกจากเรือนยังถึงขั้นถามสวีฮว่านขึ้นมาเป็นพิเศษว่า “วันนี้เป็นวันที่สาม ต้องขึ้นเขาไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ จุดธูปทอนน้ำมัน ทว่าก็มีบรรดาสตรีผู้มีหน้ามีตาในเมืองหลวงไปที่นั่นด้วยเช่นกัน พวกเราแต่งกายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?” หลายปีที่ผ่านมานี้ บรรดาสตรีในสกุลสวีได้ชื่อว่ามัธยัสถ์เรียบง่ายมาตลอด แต่กระนั้นก็ไม่มีใครดูถูกดูแคลนพวกนาง ใครต่างก็รู้ว่าในเมืองหลวงสวีฮว่านขึ้นชื่อว่าสุจริตมือสะอาด งานเลี้ยงของคนอื่น งานสังสรรค์สุราของคนอื่น เขาไม่เคยไปร่วมเลยสักครา เพราะไปกินของคนอื่น ย่อมเลี่ยงไม่ได้ต้องเชิญคนอื่นมากินเลี้ยงตอบแทนกลับในภายหลัง ใต้เท้าสวีเคร่งครัดในความสุจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 489

    กลางดึก ของขวัญหลากสีสันที่ได้รับในคืนวันปีใหม่กองเต็มโถงบุปผา ทั้งห้องสวีฮว่านมองแวบเดียวก็ขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนส่งของโจ่งแจ้งขนาดนี้?”สวีซินเฉียวเดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางหัวเราะ “อารอง เป็นข้าเอง! หลานมิใช่เพิ่งกลับมาจากจี้โจวหรือ? ก็เลยตั้งใจเอาของมาคำนับท่านอารองโดยเฉพาะขอรับ”สีหน้าของสวีฮว่านไม่ได้ดูดีขึ้นเลย พอเห็นเขาก็ตวาดเสียงดังทันที “เจ้าคนสารเลว! เจ้าคิดว่านี่เป็นที่ไหนกัน? คิดว่าเจ้าตัวเองเป็นใคร? ตำแหน่งผู้ตรวจการเมือง มันเด่นขนาดนั้น ยังไม่รู้เหรอว่ามีคนจับตาดูอยู่เท่าไหร่? เจ้ากลัวคนอื่นไม่รู้รึไงว่าเจ้ารับสินบนไปมากแค่ไหน?!” สวีซินเฉียวทำปากเบะทันที สีหน้าดูเหมือนน้อยใจ “ท่านอารอง อย่างน้อยก็ท่านช่วยดูของที่หลานเอามาก่อนเถอะ! เมืองจี้โจวน่ะ อะไรที่ไม่ค่อยมี แต่หนังสัตว์นั้นหลากหลายเยอะสุด หลานกลับมาทั้งที จะเอาของฝากมาฝากท่านอาสะใภ้ กับพวกน้อง ๆ สักหน่อย มันก็เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่หรือไร? ใครจะมาตำหนิได้ล่ะ?”ว่าแล้ว เขาก็หัวเราะระรื่น พลางขยับยื่นหน้ามาใกล้ “ว่าไปแล้ว ท่านอา เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี นี่ไม่ใช่เพราะท่านอาช่วยเชื่อมโยงให้หลานได้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 488

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนยังเงียบอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “พวกเขาเป็นครอบครัวทหารตระกูลชีแน่นอน และตลอดหลายปีมานี้ก็มีการติดต่อกับเผ่าหว่าล่าจริง ลักลอบค้าขายเหล็กเถื่อนกับเผ่าหว่าล่า พวกท่านแน่ใจหรือว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย?!”ชีเจิ้นไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าคือพระราชนัดดา “พวกเราจะไปทำเรื่องโง่ๆ ทำลายตนเองแบบนั้นได้ยังไง?! ตั้งแต่ไหนแต่ไร แคว้นเรากับเผ่าหว่าล่าก็เป็นศัตรูกันมานาน ญาติพี่น้องของเรากี่คนแล้วที่ต้องตายในมือของเผ่าหว่าล่า เราจะไปสมคบคิดกับพวกมันได้ยังไง?!”สีหน้าของท่านโหวผู้เฒ่าชีซีดขาวราวกับเถ้าถ่านเรื่องคราวนี้เล่นงานเขาจนตั้งตัวไม่ทันจริง ๆจะจัดการยังไงดี? จะทำอย่างไรดีกันแน่?จะติดสินบนเจ้าเมืองทงโจว หม่าเซวียนไหม?ไม่ได้ เรื่องนี้ทำแบบนั้นไม่ได้เบื้องหลังคนพวกนั้นวางแผนมาอย่างดี แสดงว่าจ้องเล่นงานพวกเขาเต็มที่แล้วถ้าให้หม่าเซวียนช่วยกลบเรื่อง จะยิ่งกลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตระกูลเราสมคบขายชาติครั้งนี้ ดูยังไง ก็เป็นกับดักตายชัด ๆ!เซียวอวิ๋นถิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะหินเบา ๆ “คดีนี้ อย่างช้าบ่ายนี้ถูกส่งไปถึงมือกรมยุทธนาการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมยุทธนาการ ยังไง

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status