แชร์

บทที่ 260  

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
คนที่เข้ามาคือพ่อบ้านสวีซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแก่ที่คอยดูแลรับใช้นายท่านในเรือนนี้มาแล้วสามรุ่น

ทันทีที่เขาเข้ามาด้านในก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือด: “ฮูหยิน คุณชาย แย่แล้วขอรับเกิดเรื่องขึ้นแล้วขอรับ พวกท่านสองคนรีบพาคุณหนูและพวกคุณชายน้อยหนีไปก่อนเถิดขอรับ!” อยู่ ๆ ก็พรวดพราดเข้ามาแบบไม่มีเหตุผลแล้วพูดแบบนี้ ทว่าทั้งฮูหยินเซี่ยและเซี่ยอิ๋งไม่มีใครตำหนิเขาทันที กลับถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

พ่อบ้านสวีร้องโฮออกมาก็ร่ำไห้ทันที: “นายท่าน นายท่านเกิดเรื่องแล้วขอรับ! มีคนฟ้องนายท่านขอรับ กล่าวหาว่าเขาลักลอบเขียนตำราเผยแพร่เรื่องราวผิดครรลองครองธรรมในที่ลับ ใส่ร้ายป้ายสีฝ่าบาท ไม่เคารพเบื้องสูง ถือเป็นความผิดร้ายแรงมิอาจอภัย บัดนี้นายท่านถูกจับกุมตัวไปแล้วขอรับ!”

อะไรนะ?

เซี่ยอิ๋งสีหน้าถมึงทึง ลุกพรวดขึ้นทันที: “ท่านแม่ ลูกจะไปที่ศาลาว่าการ!”

เซี่ยฉางชิงเป็นคนอย่างไรเขาย่อมรู้จักดี

แม้จะจงเกลียดจงชังสังคมอันฟอนเฟะอยู่หน่อย แต่ก็เป็นคนที่ระมัดระวังรอบคอบมาตลอด

ที่สำคัญกว่านั้นคือ เซี่ยฉางชิงเป็นปัญญาชนตัวอย่าง เขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฮ่องเต้!

คิดว่าหากมีความผิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 1

    แสงจันทร์ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า ทันใดนั้น สวี่อินอินก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขาลูกหนึ่งทับลงบนร่างกายของตนเองความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วอก นางรู้สึกราวกับปลาที่ขาดน้ำ พยายามอ้าปากเพื่อสูดอากาศหายใจ ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ ใบหน้าที่ดูดุร้าย ส่วนประกอบบนใบหน้าดูแข็งกระด้างเป็นติงเฉิงหย่ง!สวี่อินอินตกตะลึงอย่างยิ่ง ฉากนี้ช่างคุ้นเคยเสียจริงแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?นางยังไม่ทันได้ไตร่ตรอง เสียงเล็กแหลมของหลี่ซิ่วเหนียงก็ดังขึ้น “เจ้าจะเล่นก็เล่นไป แต่อย่าทำให้ตายเสียล่ะ!”เป็นหลี่ซิ่วเหนียง แม่บุญธรรมของนาง!สวี่อินอินโกรธจนดวงตาแทบถลนออกมา สั่นเทิ้มไปทั้งตัวนางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ย้อนเวลากลับมาเมื่อสิบสามปีก่อน!ตอนที่นางเพิ่งจะรู้ว่าตนเองเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนหย่งผิงโหวในเมืองหลวงหลังจากที่จวนหย่งผิงโหวมาตรวจสอบแล้ว พวกเขาบอกว่าจะส่งคนมารับนางทว่า ในคืนนั้นเองนางก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หลี่ซิ่วเหนียงขังนางเอาไว้ในห้องเก็บฟืน แล้วพาติงเฉิงหย่งมา นางต่อสู้อย่างสุดกำลังจึงรอดพ้นจากการถูกข่มเหง แต่วันรุ่งขึ้น หลี่ซิ่วเหนียงก็พาคนมาจับนางในข้อ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 2

    หลี่ซิ่วเหนียงนำผู้คนกลุ่มหนึ่งรีบรุดฝ่าแสงจันทร์กลับไปที่นางหามา ล้วนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงขี้นินทาประจำหมู่บ้าน สามารถพูดจาบิดเบือนความจริงได้เมื่อคนเหล่านี้เห็นสวี่อินอินและติงเฉิงหย่งนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน คงจะถ่มน้ำลายรุมด่าทอสวี่อินอินจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่!ฮึ คุณหนูสูงศักดิ์ที่ยังไม่ทันกลับบ้านก็เสียความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว ยังจะเรียกว่าคุณหนูสูงศักดิ์ได้อีกหรือ?นางเคยเป็นแม่นมอยู่ในจวนโหว ย่อมรู้ดีว่าพวกชนชั้นสูงเหล่านั้นทั้งเรื่องมากและจู้จี้จุกจิก มีหรือที่จะอยากได้หญิงสำส่อนที่เคยนอนกับคนอื่นแล้ว?เมื่อถึงตอนนั้น หญิงสำส่อนที่เสียตัวก่อนแต่งงาน กับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่มีความรู้ความสามารถ ต่อให้จวนหย่งผิงโหวหลับตาเลือก ก็คงเลือกได้ไม่ยากคิดจะกลับไปขวางทางลูกสาวของนาง ฝันไปเถอะ!คิดได้ดังนั้น หลี่ซิ่วเหนียงก็แทบทนรอไม่ไหวแล้ว อยากจะรีบกลับถึงบ้านเสียเดี๋ยวนี้เลยใครจะไปรู้ว่า ห่างจากประตูบ้านประมาณหนึ่งร้อยเมตร หัวหน้าหมู่บ้านกลับพาคนกลุ่มใหญ่ถือคบเพลิงมาล้อมพวกนางเอาไว้หลี่ซิ่วเหนียงชะงักไปครู่หนึ่ง “หัวหน้าหมู่บ้าน? ท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”หัวหน้าหม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 3

    “ข้าก็คือสวี่อินอินน่ะสิ” นางแสยะยิ้มมุมปาก “เพียงแต่ไม่ใช่สวี่อินอินคนเดิมที่ยอมให้เจ้าข่มเหงรังแกอีกแล้ว”“แผนการของลูกสาวแท้ ๆ ของเจ้าล้มเหลว พวกเจ้าสองคนก็ตายแล้ว” สวี่อินอินโน้มตัวเข้าไปใกล้หลี่ซิ่วเหนียงน้ำเสียงของนางราวกับภูตผี “เจ้าเดาสิว่าหลังจากข้ากลับไป นางยังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือไม่?”หลี่ซิ่วเหนียงสติแตก ทันใดนั้นนางก็เริ่มคลุ้มคลั่ง ดิ้นรนอย่างรุนแรงอยู่ในกรง “นางสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า! เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”สวี่อินอินกลัวจนถอยหลังไปสองสามก้าว ล้มลงนั่งกับพื้นจากนั้นก็ร้องไห้ขอร้องด้วยความหวาดกลัว “ท่านแม่ อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าหมู่บ้านแค่นเสียง “จะตายอยู่แล้วยังไม่สำนึกผิด ชั่วร้ายที่สุด! ถ่วงน้ำเดี๋ยวนี้!”กรงถูกยกขึ้น สวี่อินอินมองหลี่ซิ่วเหนียงที่ยังคงดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งอยู่ในกรง จากนั้นค่อย ๆ ยิ้มอย่างชั่วร้ายทันใดนั้น เสียงตูมดังขึ้น กรงหมูก็ตกลงไปในทะเลสาบ เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดกระเซ็นเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ก็มีคนจากจวนหย่งผิงโหวมาถึง เป็นแม่นมคนหนึ่งที่วางมาดใหญ่โตสวี่อินอินมองแวบเดียวก็จำได้ทันทีว่า คนที่วางมาดโอหังยิ่งกว่านายหญิงคนนี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 4

    อากาศบนผิวน้ำสดชื่นกว่าอากาศในน้ำมากแม่นมฮวาคิดจะฆ่านางให้จมน้ำตายจริง น่าขันสิ้นดีนางต้องรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มหัดกินข้าวเองได้เหล่าชาวนาต้องจ่ายค่าเช่าทำนาให้กับเจ้าของที่ดิน หลี่ซิ่วเหนียงและคนขายเนื้อสวี่ก็ใช้สารพัดวิธีกดขี่ขูดรีดเงินจากนางขึ้นเขาเก็บเห็ด ตัดฟืน เก็บเมล็ดชา ลงน้ำจับปลา จับเต่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานถนัดของนางสวี่อินอินเงยหน้าโผล่พ้นน้ำ รู้สึกได้ว่าแรงดิ้นรนของแม่นมฮวาค่อย ๆ น้อยลง จนกระทั่งไม่มีแรงเหลืออยู่สายลมอ่อน ๆ พัดมาจากริมฝั่ง นางอ้าปากจาม กำลังจะดำลงไปลากแม่นมฮวาขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพเหตุการณ์ ‘วีรกรรมช่วยชีวิต’ ของนางแต่ใครจะรู้ว่าขณะที่ยกมือขึ้น ข้อศอกของนางกลับไปกระแทกเข้ากับบางอย่างสัมผัสนี้ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง สมองพลันว่างเปล่า จากนั้นก็ตระหนักได้ในทันทีว่า มีคนอื่นอยู่ในน้ำด้วย!หรือว่าแม่นมฮวาจะยังเตรียมคนไว้ในน้ำอีก?หากเป็นเช่นนั้น...ในชั่วพริบตา เลือดในร่างกายของนางก็เดือดพล่านขึ้น แต่สมองกลับสงบลงอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ปล่อยแม่นมฮวา และพุ่งตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็วโดยอาศั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 5

    สวี่อินอินเป็นที่รักของผู้คนในหมู่บ้านต่างจากคนขายเนื้อสวี่และหลี่ซิ่วเหนียงที่ใจดำ สวี่อินอินเป็นเด็กที่เชื่อฟังและรู้ความ คนเราย่อมมีความรู้สึก เห็นสวี่อินอินอายุยังน้อยแต่ต้องลำบากเช่นนี้ คนในหมู่บ้านจึงดูแลนางเป็นพิเศษสวี่อินอินก็เป็นเด็กที่รู้จักบุญคุณ กินข้าวบ้านไหนก็ไปช่วยเขาเลี้ยงหมู ดื่มน้ำบ้านใครก็ไปช่วยเขาตัดฟืนดังนั้นตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านมองนาง ก็เหมือนกับมองลูกหลานของตัวเองยังไม่ทันได้กลับไป บ่าวไพร่ของจวนโหวก็คิดจะฆ่าสวี่อินอินแล้ว ถ้ากลับไป จะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร?อีกอย่าง อย่างน้อยในหมู่บ้าน สวี่อินอินก็เข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี หากนางสามารถยืนหยัดอยู่ในจวนโหวได้ ในอนาคตก็จะเป็นผลดีต่อหมู่บ้านด้วยเขาตอบรับทันที “ได้! แม่หนูไม่ต้องกลัว ข้าจะไปแจ้งหน่วยปราบปรามเดี๋ยวนี้!”เห็นหัวหน้าหมู่บ้านกำลังจะไปแจ้งทางการจริง ๆ บ่าวไพร่ของจวนหย่งผิงโหวก็นั่งไม่ติดแล้วโดยเฉพาะสาวใช้ที่แต่งตัวงดงามคนนั้น นางรู้ดีแก่ใจว่าแม่นมฮวาตั้งใจนัดสวี่อินอินไปที่ริมทะเลสาบ เพื่อจะฆ่าสวี่อินอินให้จมน้ำตายจริง ๆ หากแจ้งทางการจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จวนโหวจะเสียหน้าตัวนางเอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 6

    แม่นมจางควบอาชาเร็วกลับเมืองหลวงแล้วนางหวังฮูหยินหย่งผิงโหวอ่านบันทึกบัญชีที่หัวหน้าหมู่บ้านนำมามอบให้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังจะจิบน้ำชา ก็ได้ยินเสียงของชีอวิ๋นถิงคุณชายใหญ่แว่วดังมาจากด้านนอกนางพลันวางน้ำชาในมือทันใด จ้องมองชีอวิ๋นถิงที่เพิ่งเข้ามา : “เห็นเจ้าดูร้อนรนกระวนกระวายนัก ไปทำอะไรมาหรือ? เพิ่งจะยามนี้เองเหตุใดจึงกลับมาแล้ว?”บุตรธิดาสกุลชีถูกแบ่งตามลำดับอาวุโส ชีอวิ๋นถิงเป็นบุตรคนแรกของนางหวัง และเป็นหลานชายสายหลักคนโตสุด คนทั้งตระกูลล้วนมองเขาประหนึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชีอวิ๋นถิงอยู่ต่อหน้ามารดา ครั้นหยิบขนมกุ้ยฮวาขึ้นชิ้นหนึ่งพลางผุดยิ้มอย่างดี ส่งเข้าปากแล้วคำหนึ่ง ค่อยเอ่ยขึ้นว่า : “วันนี้จะออกไปชมงิ้วร่วมกับสหายที่หอจิ่นซิ่ว”“น้องหญิงของเจ้ากลับมาถึงวันนี้ เจ้ายังมีจิตใจไปชมงิ้วอีกหรือ?” นางหวังขมวดหัวคิ้ว ท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “ในฐานะที่เจ้าเป็นพี่ชายแท้ ๆ ก็สมควรอยู่ต้อนรับคนกลับสู่เหย้าด้วยตนเองสิ!”ชีอวิ๋นถิงพ่นลมฮึออกจากจมูก เบะปากอย่างดูแคลน : “ท่านแม่ จะให้ข้าไปรับเด็กบ้านนอกกลับมา ท่านอยากทำให้เจ้าเด็กอ่อนต่อโลกน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 7

    ชีเจิ้นเป็นผู้บัญชาการทัพประจำกองพันจีหยิงซึ่งเป็นหนึ่งในสามกองพันใหญ่ และดำรงตำแหน่งเป็นรองเสนาบดีฝ่ายซ้ายประจำกรมยุทธนาการควบคู่ไปด้วย ยามปกติเขาต้องเข้าไปรายงานตัวที่กรมยุทธนาการเสมอ งานยุ่งสาหัสเพียงนี้ คนในเรือนยังไม่กล้าไปรบกวนเขาตามใจเสียด้วยซ้ำ ผู้ใดเล่าจะกล้าเข้าไปพบเขาที่ศาลาว่าการ? นางหวังปรายตามองแม่นมจางปราดหนึ่ง ใบหน้าของแม่นมจางเองก็ฉายแววประหลาดใจไม่ต่างกัน ก่อนที่นางจะเดินทาง ได้กำชับพวกอวิ๋นเชวี่ยแล้วว่าจงดูแลคุณหนูใหญ่ให้ดี และห้ามสะเพร่าจนทำให้อีกคนไม่พอใจอย่างเด็ดขาด หรือเจ้าคนพวกนี้มิได้ฟังที่พูดไปเลยสักนิด?! แต่นั่นก็ไม่น่าเป็นไปได้! เพราะตนเองนั่งรถม้ากลับมาแล้ว สวี่อินอินไม่มีทั้งรถและไม่มีทั้งคน นางจะส่งข่าวมาถึงเมืองหลวงได้อย่างไร? หรือพูดอีกอย่างว่า สวี่อินอินก็เป็นแค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น เกรงว่าแม้แต่เมืองเป่าตี้กับเมืองต้าซิงยังแยกไม่ออกเสียด้วยซ้ำ อย่างนางจะไปหาศาลาว่าการของกรมยุทธนาการเจอได้อย่างไร? ชีอวิ๋นถิงเองก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นเดียวกัน เหลือบสายตาลอบมองชีเจิ้นแล้วปราดหนึ่ง สีหน้าของชีเจิ้นเยียบเย็น จ้องมองพวกเขาก็ส่งเสีย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 8

    สวี่อินอินค่อยๆ เงยศีรษะขึ้น แสงอาทิตย์ส่องสว่างบาดตายิ่งนัก ตรงที่ไกลออกไปคนผู้หนึ่งกำลังควบอาชาสูงใหญ่ พร้อมนำคนกลุ่มหนึ่งทะยานเข้ามาด้วยความรวดเร็ว และหยุดตรงเบื้องหน้าสวี่อินอิน ประชาชนไม่ต่อสู้ขุนนาง ถึงแม้กลุ่มชาวบ้านที่เข้ามามุงดูความครึกครื้นเหล่านั้นจะชมเหตุการณ์อย่างเพลิดเพลินได้อรรถรสอยู่ในตอนแรก แต่เมื่อมองเห็นท่านโหวซึ่งสวมชุดเกราะ ห้ออาชาศึกที่ตัวสูงใหญ่กว่าคนเข้ามา ฝูงชนต่างพร้อมใจกันแหวกทางให้ทันที ชีเจิ้นปรายสายตามองลงไปยังจุดที่ต่ำกว่า ประเมินดรุณีที่เนื้อตัวเปียกโชกคนนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก็ถามด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “เป็นเจ้าเองหรือที่เข้ามาฟ้องร้องต่อทางการ?” เขาหันหลังให้ดวงอาทิตย์ และเป็นสวี่อินอินที่เผชิญหน้ากับแสงอาทิตย์โดยตรง เพียงเสี้ยวขณะเดียวก็ถูกแสงอาทิตย์เจิดจ้าร้อนแรงส่องทะลุเข้าตาจนลืมไม่ขึ้น ทั้งที่มองไปแล้วดูบอบบางอ่อนแอ มิหนำซ้ำบนดวงหน้ายังเปรอะดินโคลนสกปรก มิอาจเทียบทาริกาจากตระกูลเศรษฐีผู้รากมากดีได้เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าชีเจิ้นมองปราดเดียวกลับเห็นแผ่นหลังตั้งตรงของนางได้ทันท

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 260  

    คนที่เข้ามาคือพ่อบ้านสวีซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแก่ที่คอยดูแลรับใช้นายท่านในเรือนนี้มาแล้วสามรุ่น ทันทีที่เขาเข้ามาด้านในก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือด: “ฮูหยิน คุณชาย แย่แล้วขอรับเกิดเรื่องขึ้นแล้วขอรับ พวกท่านสองคนรีบพาคุณหนูและพวกคุณชายน้อยหนีไปก่อนเถิดขอรับ!” อยู่ ๆ ก็พรวดพราดเข้ามาแบบไม่มีเหตุผลแล้วพูดแบบนี้ ทว่าทั้งฮูหยินเซี่ยและเซี่ยอิ๋งไม่มีใครตำหนิเขาทันที กลับถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พ่อบ้านสวีร้องโฮออกมาก็ร่ำไห้ทันที: “นายท่าน นายท่านเกิดเรื่องแล้วขอรับ! มีคนฟ้องนายท่านขอรับ กล่าวหาว่าเขาลักลอบเขียนตำราเผยแพร่เรื่องราวผิดครรลองครองธรรมในที่ลับ ใส่ร้ายป้ายสีฝ่าบาท ไม่เคารพเบื้องสูง ถือเป็นความผิดร้ายแรงมิอาจอภัย บัดนี้นายท่านถูกจับกุมตัวไปแล้วขอรับ!” อะไรนะ? เซี่ยอิ๋งสีหน้าถมึงทึง ลุกพรวดขึ้นทันที: “ท่านแม่ ลูกจะไปที่ศาลาว่าการ!” เซี่ยฉางชิงเป็นคนอย่างไรเขาย่อมรู้จักดี แม้จะจงเกลียดจงชังสังคมอันฟอนเฟะอยู่หน่อย แต่ก็เป็นคนที่ระมัดระวังรอบคอบมาตลอด ที่สำคัญกว่านั้นคือ เซี่ยฉางชิงเป็นปัญญาชนตัวอย่าง เขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฮ่องเต้! คิดว่าหากมีความผิ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 259  

    แสงจันทร์ส่องสว่าง ฤดูเหมันต์ในเจียงซีกลับหนาวเยือกเย็นเป็นพิเศษ แม้จะไม่มีหิมะตกเหมือนทางเหนือ ทว่าสายพิรุณโปรยปรายไม่ขาดสาย นำความหนาวชื้นซึมลึกถึงกระดูก สายลมนั้นคล้ายกับจะพัดเข้าไปในรอยแยกของกระดูกคนให้ได้เลย ทั่วทั้งเรือนสกุลเซี่ยจุดไฟส่งสว่าง ฮูหยินเซี่ยกำลังถามคนด้านนอกห้อง: “ไฉนดึกดื่นเพียงนี้แล้ว คุณชายยังไม่กลับมาอีก?” ย่อมมีคนถ่ายทอดวาจามาถึงบ่าวรับใช้และผู้ดูแลที่อยู่ด้านนอก ไม่นานนัก ก็มีเด็กหนุ่มสวมเสื้อคลุมตัวยาวสีขาว คาดสายรัดเอวสีน้ำเงินสืบเท้าจากระเบียงทางเดินยาวเข้ามาที่ประตู ร้องเรียกด้วยรอยยิ้ม: “ท่านแม่ ลูกอยู่ที่นี่แล้วมิใช่หรือ? ท่านจะกังวลใจอะไรอีกขอรับ?” ฮูหยินเซี่ยวางแบบรองเท้าในมือลง ครั้นเห็นเขาเข้ามาแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก: “ถามว่าข้ากังวลใจอะไรหรือ? มีคำกล่าวว่าบุตรชายเดินทางไกลพันลี้มารดาย่อมกังวลใจ เจ้าออกเดินทางไปเรือนสกุลเซียวที่เมืองจูหรง นั่น มิใช่เดินทางไปไกลพันลี้หรอกหรือ? ให้ข้ากังวลใจมิได้หรืออย่างไร?” ต่อหน้ามารดาเซี่ยอิ๋งปราศจากอารมณ์รำคาญโมโห: “ใช่แล้วขอรับ ลูกทำให้ท่านกังวลใจแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของลูก เพียงแต่เป็นวันเกิดข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 258  

    นับว่ามีไหวพริบ อ๋องฉีพอใจกับการรู้สถานการณ์ของเขา เปล่งเสียงรับคำก็เอ่ยยิ้ม ๆ : “สกุลเซี่ยบัดนี้ผู้ใดเป็นผู้นำหรือ? ข้าได้ยินว่า ในบรรดาลูกหลานสกุลเซี่ย ยามนี้เซี่ยอิ๋งฉายแววโดดเด่นที่สุดใช่หรือไม่?” เซี่ยอิ๋ง สองคำนี้แค่เอ่ยออกจากปาก ก็แฝงด้วยความโกรธแค้นจนต้องกัดฟันแล้ว อ๋องฉีคิดถึงเมื่อชาติที่แล้ว ตอนที่ชีหยวนสังหารเขา มีดแหลมคมถูกดึงออกก่อนจะแทงเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น ราวกับการกระทำนั้นแฝงด้วยความเคียดแค้นอันไร้สิ้นสุด ตำหนิถึงบาปกรรมของเขาประณามว่าเขาเป็นคนสังหารเซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง! เขาก็ฆ่ามันไปแล้ว และจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่การฆ่าครั้งเดียว ครั้งนี้ก็จะฆ่ามันอีก ดูสิว่าจะเป็นอย่างไร? พูดถึงเซี่ยอิ๋งขึ้นมา โจวเสี่ยวเผิงยิ่งรู้สึกครั่นคร้ามในใจ ทว่าเขาก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา: “เรียนท่านอ๋อง ความจริงเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ เขาอายุยังน้อย ทว่าสามารถผ่านการสอบคัดเลือกขุนนางในระดับซิ่วฉาย และระดับจวี่เหรินได้อย่างต่อเนื่องพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นในการสอบจวี่เหรินยังสามารถคว้าอันดับหนึ่งมาได้ และก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจี้ยหยวนแล้ว…” ดังนั้นสังคมขุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 257  

    อ๋องฉีกำลังเล่นแหวนหยกสีมรกตในมือ นี่คือของที่ผู้ว่าการเมืองฮุ่ยชางคนปัจจุบันตั้งใจส่งมาให้เขาเป็นพิเศษ ทันทีที่ได้ทราบว่าเขามาเยือน ขุนนางเหล่านี้หากจะเลื่อนตำแหน่งตามขั้นตอนไปทีละก้าว อาจจะต้องรอไปถึงปีมะโว้ถึงจะมีโอกาส ต่อให้มานะบากบั่นไม่ถอย ไต่เต้าจนสามารถขึ้นเป็นรองเสนาบดีในวัยหกสิบเจ็ดสิบได้ ก็นับว่าบรรพบุรุษได้สร้างสมบุญกุศลให้มามากแล้ว ทว่าหากเดินทางลัด ในราชสำนักเสนาบดีอายุน้อยวัยสามสิบก็มีให้เห็น ดังนั้นในเมื่อมีทางลัดแล้วใครเล่าจะไม่อยากลองเดินบ้าง? สวรรค์ประทานชินอ๋องผู้ซึ่งเป็นที่โปรดปรานที่สุดในราชสำนักลงมาให้แบบนี้ โจวเสี่ยวเผิงผู้ว่าการเมืองฮุ่ยชางดีใจจนแทบคลั่งให้ได้ แม้ว่าชื่อของเขาจะมีอักษรเผิง ซึ่งหมายถึงพญาวิหค ทว่าความเป็นจริงแล้วเส้นทางขุนนางของเขากลับไม่ราบรื่นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนวัยเดียวกับเขาไต่เต้าขึ้นไปจนได้เป็นเจ้าเมืองกันหมดแล้ว เหลือแต่เขาที่ต้องอดทนตรากตรำเป็นผู้ว่าการเฝ้าเมืองที่ยากจนข้นแค้นเช่นนี้อยู่ ไม่รู้จะไปเรียกร้องจากใครที่ไหนได้เลยจริง ๆ? หนนี้อ๋องฉีอุตส่าห์ลดเกียรติลงและเสด็จมายังที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ราวกับสวรรค์ประทานพรลงมาจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 256  

    คนพวกนี้ก็เป็นแค่นักต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้านก็เท่านั้น ฉู่กั๋วกงเห็นนางพูดเช่นนี้ ก็ได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น: “กระหม่อมเองก็หวังว่าจะเป็นแค่การหลอกลวง เพียงแต่เขานำหยกห้อยเอวประจำตระกูลของพี่ชายท่านออกมา กระหม่อมทราบดี จี้หยกชิ้นนี้พี่ชายของท่านไม่เคยเก็บไว้ห่างตัว!” หากว่าเป็นการขโมยมา หวงเหวินจวิ้นคงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดเป็นสิ่งแรก จะเดินมาติดกับดักด้วยตนเองแบบนี้ได้อย่างไร เพียงเสี้ยวพริบตาสีหน้าของหลิ่วกุ้ยเฟยพลันซีดลงทันใด หายใจติดขัด: “เช่นนั้นท่านพ่อหมายความว่า พี่ชายลูก…” จากไปแล้วจริงหรือ?! แล้วยังเป็นเพราะนางสารเลวชีหยวนนั่น? สารเลว! ชั่วช้าสารเลวจริง ๆ! หลิ่วกุ้ยเฟยกัดฟันแน่น: “ข้าจะต้องเอาชีวิตนางผู้หญิงคนนั้นมาให้ได้! ไม่สิ แค่ฆ่านางมันง่ายเกินไป ข้าจะทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายไปอีก ให้มันได้รู้ซึ้งถึงความหมายของการอยากอยู่ก็ไม่ได้ อยากได้ก็ไม่ได้เป็นอย่างไร!” ฉู่กั๋วกงถอนหายใจออกมา: “กุ้ยเฟย เรื่องนี้ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือเอง ข้าได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ที่กระหม่อมเข้าวังมาครั้งนี้ เพราะวาดหวังให้ท่านช่วยพูดเกลี้ยกล่อมท่านแม่ของท่าน บอกให้นางปล่อยวางและใจเย็นล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 255  

    เพื่อฝึกฝนคนเหล่านี้ จวนอ๋องฉีและจวนฉู่กั๋วกงทุ่มเทหยาดเหงื่อโลหิตและความพยายามไปนับไม่ถ้วนแล้ว และคนเหล่านี้ก็มีความบากบั่นมุมานะมากพอ อ๋องฉีพาออกไปด้วยจำนวนหลายสิบคนแล้ว และส่วนที่เหลืออยู่นั่น ฉู่กั๋วกงก็เพิ่งจะส่งพวกเขาออกไปแล้วเช่นกัน ฮูหยินฉู่กั๋วกงยังไม่รู้ว่าสองวันที่ผ่านมานี้เขากำลังยุ่งอยู่กับการเคลื่อนย้ายองครักษ์ลับ จึงได้แต่ถามเขาอย่างกังวลใจ: “ส่งคนออกไปตามหาจิงหงใช่หรือไม่เจ้าคะ? จริงสิ จิงหงยังไม่ส่งข่าวคราวกลับมาอีกหรือเจ้าคะ?” ผ่านมานานหลายวันเพียงนี้แล้ว! หากว่าเป็นตอนก่อนที่หวงเหวินจวิ้นจะเข้ามา ต่อให้หลิ่วจิงหงหายออกไปนานถึงเพียงนี้ นางก็คงไม่เป็นกังวล ทว่าตอนนี้ นับแต่หวงเหวินจวิ้นปรากฏตัว นางกลับต้องรู้สึกกังวลใจอยู่ร่ำไป ยิ่งไปกว่านั้นยังขาดการติดต่อจากหลิ่วจิงหงไปอย่างสิ้นเชิง นางยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจตลอด คล้ายว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนดูซูบผอมแห้งเหี่ยวลงไปมาก เห็นนางร้อนรนเป็นกังวลเช่นนี้ ฉู่กั๋วกงไหนเลยจะกล้าบอกความจริงกับนาง? ได้แต่ปลอบโยนว่า: “วางใจเถิด เขาออกไปทำภ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 254  

    ราวกับอสนีบาตฟาดลงมา ในที่สุดอ๋องฉีก็ตระหนักได้แล้วว่าเหตุใดตนเองถึงรู้สึกแปลกอยู่ตลอด หากว่าเป็นชีหยวนตัวจริง นางหรือจะปล่อยม้าเร็วไว้โดยไม่ขี่มัน และเลือกจะนั่งรถม้าไปอย่างเชื่องช้าเช่นนี้หรือ? เขากัดฟันกรอด ก่อนจะยื่นมือไปคว้าจอกชาที่อยู่ข้างตัวขึ้นมา และเขวี้ยงมันลงไปบนพื้นสุดแรง เพล้ง จากนั้นโต๊ะก็ถูกเขาพลิกคว่ำเสียงดังสนั่น ไม่ใช่ชีหยวน! แล้วชีหยวนตัวจริงอยู่ที่ใด? นางสารเลวคนนี้ นางกล้าหลอกเขาอีกแล้วหรือ! กี่ครั้งแล้ว? เขาถูกนางผู้หญิงคนนี้มองเป็นลิงโง่ ที่ถูกนางหลอกปั่นหัวเล่นอยู่ในกำมือทุกครั้ง! ทว่าสิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่า คือตัวเขาที่คอยตกหลุมพรางของนางอยู่ทุกครั้ง แต่ละวันมีแต่โดนหลอก โดนหลอกไม่ซ้ำแบบอีกต่างหาก! เห็นอ๋องฉีบันดาลโทสะ เสวียนอู่ไป๋หู่ก็รับคุกเข่าและหมอบลง ไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมอง ระหว่างเดินทางพวกเขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่า นิสัยของอ๋องฉีนับวันยิ่งดุร้ายฉุนเฉียวง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ลำพังแค่องครักษ์ลับที่ต้องถูกลงโทษก็จำนวนไม่น้อยแล้ว ทว่าอ๋องฉีไม่มีเวลามาลงโทษองครักษ์สองคนนี้ เขาถีบชั้นวางที่ตั้งอยู่ด้านข้างล้มระเนระนาด ก่อนจะตะคอกด้วยเสียงดุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 253  

    ปาเป่าลิ่วจินสองคนเหงื่อเย็นไหลท่วม หลังจากผ่านเขตชายแดนเข้าสู่เมืองอันฮุยแล้ว เขาก็ค้นพบว่า การไล่ตามของอ๋องฉีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มีหลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะถูกจับได้ หลังจากหลบหนีคนพวกนั้นได้อีกครั้งหนึ่ง ปาเป่าก็เลื่อนมือขึ้นเช็ดเหงื่อเย็นบนศีรษะของตนเองไปทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ พลางเอ่ยอย่างอกสั่นขวัญแขวน: “เล่นเอาข้าตกใจแทบแย่! ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้ไล่กวดเอาเป็นเอาตายเช่นนี้?” เห็นชัดว่าครึ่งทางแรก คนพวกนั้นยังไล่ตามอย่างเชื่องช้าไม่เอาไหน ทว่าต่อมากลับไล่กวดอย่างบ้าคลั่งจนแทบประชิดได้แล้ว สีหน้าของลิ่วจินกลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมมากกว่าตอนก่อนหน้านี้ เขาไม่มีความคิดจะพูดตลกอีกแล้ว หันศีรษะมามองคนตรงหน้า พลางเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า: “ไม่ เขาไม่ได้บ้า คงเพราะรู้ตัวแล้วว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล” ประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา ปาเป่าที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ พ่นน้ำชาออกมาทันที จากนั้นก็ถามด้วยความขนลุก: “ไม่หรอก?! ตลอดทาง ข้าก็ซ่อนตัวแนบเนียนมากมิใช่หรือ!” เขารับหน้าที่สวมผ้าคลุมของชีหยวนเพื่อปลอมตัวเป็นชีหยวน และคิดว่าตนเองก็ทำสุดความสามารถแล้ว แน่นอนว่า แม้จะมิไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 252  

    เหล่าจ้าวพาหลีฮวาไปส่งให้คนที่ไว้ใจได้รับผิดชอบต่อ ไม่นานนักตนเองก็กลับมาอยู่ข้างกายเซียวอวิ๋นถิง : “ท่านอ๋อง ให้ข้าน้อยไปเองเถิด” หลีฮวายอมเผยคำสั่งของชีหยวนแล้ว หากว่าหวงเหวินจวิ้นคิดทรยศและไปแจ้งข่าว ตามวิธีการอันเด็ดขาดไร้ความปรานีของจวนฉู่กั๋วกงแล้ว จะต้องส่งองครักษ์ลับในเงามืดมาไล่ล่าสังหารนางแน่ และบัดนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะลงมือที่สุดแล้ว อ๋องฉีและจวนฉู่กั๋วกงใช้ความพยายามและเงินทองไปมากมายมหาศาลเพื่อเลี้ยงดูฝึกฝนเหล่านักฆ่ากลุ่มนี้ เพื่อดูแลพวกคนเหล่านี้ เงินที่ทุ่มไปในทุกปีล้วนมีมากจนนับไม่ถ้วน จนถึงทำให้ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ต้องกระเสือกกระสนเปิดหอคณิกาเพื่อหารายได้ การทำลายองครักษ์ลับเหล่านี้ ทำให้พวกเขาเจ็บใจเสียยิ่งกว่าฆ่าพวกเขาให้ตายเสียอีก เขาอาสาออกศึกนี้ด้วยตนเอง และคิดว่าหากสังหารคนเหล่านี้ได้แล้ว จะไปตามหาปาเป่าลิ่วจิน และจากนั้นค่อยดูไปทีละขั้นว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคนนี้จะสามารถทำอะไรได้อีก และคิดจะลงมืออย่างไรต่อไปอีก ช่างเป็นคนที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับส่ายหน้า: “ไม่ เจ้าไม่ต้อง ข้าไปเอง” เหล่าจ้าวคัดค้านทันควัน: “ท่านอ๋อง เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status