แชร์

บทที่ 264

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
ต่อหน้าอ๋องฉี โจวเสี่ยวเผิงย่อมแสดงท่าทีแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เขารีบรินน้ำชาให้อ๋องฉี ก่อนจะรายงานอย่างนอบน้อมว่า “ท่านอ๋องวางพระทัยเถิด หากมีผู้ใดเล็ดลอดไปได้แม้แต่คนเดียว กระหม่อมจะนำศีรษะของกระหม่อมมาให้ท่าน! ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย แม้แต่เจ้าคนโง่ของตระกูลเซี่ย กระหม่อมก็ให้คนส่งไปที่โรงทานแล้ว บัดนี้ตระกูลเซี่ยไม่มีใครเหลืออีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดอ๋องฉีจึงมีความแค้นต่อตระกูลเซี่ยถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่โจวเสี่ยวเผิงจะต้องสนใจ เขาเพียงแค่ต้องทำงานให้สำเร็จ

อ๋องฉีมองชายตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะเย้ยหยัน “ดีจริงๆ ดีมาก ใต้เท้าโจว ตลอดหลายปีมานี้ท่านยังเป็นเพียงผู้ว่าการอำเภอ ช่างน่าเสียดายพรสวรรค์ของท่านยิ่งนัก! อ๋องอย่างข้าชื่นชมท่านจริง ๆ”

โจวเสี่ยวเผิงถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะรีบโขกศีรษะให้อ๋องฉีหลายครั้ง “ท่านอ๋องทรงชมเกินไปแล้ว! กระหม่อม กระหม่อมรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก ขอทรงโปรดเมตตา!”

“ไม่ต้องตื่นตระหนก” อ๋องฉีมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย “แต่ใต้เท้าโจวควรจะไตร่ตรองให้รอบคอบอีกครั้ง เจ้าเพิ่งบอกว่าคนในตระกูลเซี่ยไม่มีผู้ใดหลุดรอดไปแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Urai Thiangyou
อัปเดตหลายๆตอนกว่านี้ใด้ป่าวค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 265

    โดยทั่วไป ที่ว่าการอำเภอแบ่งเป็นสองส่วน คือเรือนหน้าและเรือนหลัง ผู้ว่าการอำเภอมักมีวาระดำรงตำแหน่งเพียงสามปี จึงไม่มีใครสิ้นเปลืองเงินทองจัดหาที่อยู่อาศัยเอง เว้นเสียแต่เป็นผู้มั่งคั่ง ส่วนใหญ่มักพักอาศัยอยู่ในเรือนหลังของที่ว่าการทว่าโจวเสี่ยวเผิงหาเป็นเช่นนั้นไม่จวนของเขาตั้งอยู่บนถนนสายที่สองด้านหลังที่ว่าการอำเภอ บริเวณนั้นคึกคักพลุกพล่านเป็นศูนย์กลางของอำเภอ สะดวกแก่การเดินทางไปทุกแห่งชีหยวนอยู่ในโรงน้ำชาได้ครู่หนึ่ง สิ่งที่ควรรู้ก็นับว่ารู้ครบถ้วนแล้ว จึงไม่รั้งรออีก นางออกจากโรงน้ำชา มุ่งไปยังหน้าจวนของโจวเสี่ยวเผิงก่อนหน้านี้ ขณะอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ นางสืบข่าวจนแจ่มชัดแล้วว่า ในช่วงนี้มารดาของโจวเสี่ยวเผิงซึ่งนอนป่วยเรื้อรังมีอาการทรุดหนักลงช่วงหลังมานี้ จวนตระกูลโจวเชิญหมอมาไม่เว้นวันภายหลังเมื่อแพทย์ไม่อาจรักษาได้ ก็ตั้งต้นเชื่อถือหมอผีและนักพรต ช่วงนี้จึงมีคนพวกนี้แวะเวียนไปที่จวนอยู่บ่อยครั้งถึงอย่างไร หากฮูหยินผู้เฒ่าโจวเสียชีวิต โจวเสี่ยวเผิงย่อมต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาสามปีฉะนั้นแม้เขาจะเกาะขาอ๋องฉีได้แล้ว โจวเสี่ยวเผิงก็ยังให้ความสำคัญกับอาการป่วยของมารดา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 266

    “ฮูหยิน การตรวจสอบความจริงก็หาใช่เรื่องยากอันใด” ชีหยวนมองนางพลางยิ้มบาง ๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องโกหก ข้าก็ยืนอยู่ตรงนี้ ท่านอยากจะสังหารข้าก็ทำได้ทุกเมื่อ แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง...”หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นสำหรับฮูหยินโจวแล้วคงไม่ผิดอะไรไปจากฟ้าถล่มลงมา!นางย่อมรู้จักเฉินฮ่าวฮุยดี เขาเป็นคนสนิทของสามีนางเขาก็เป็นเพียงสุนัขรับใช้ เชือกที่ใช้จูงเขาอยู่ในมือของโจวเสี่ยวเผิงร่างของฮูหยินโจวสั่นระริก สีหน้าสลับกันระหว่างซีดขาวและเขียวคล้ำชีหยวนเอนกายลงบนเก้าอี้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า “ฮูหยินโจว ท่านเป็นภรรยาที่ดีจริง ๆ แต่เขาเป็นสามีที่ดี เป็นบุตรที่ดี เป็นบิดาที่ดีหรือไม่?”สามคำถามถูกเอ่ยออกมา สีหน้าของฮูหยินโจวพลันซีดขาวราวหิมะมีเพียงสตรีเท่านั้นที่รู้ว่าสตรีให้ความสำคัญกับสิ่งใดที่สุดนางแต่งงานกับโจวเสี่ยวเผิงมาหลายปี ผู้คนภายนอกต่างกล่าวว่าเขาเป็นบุรุษที่เอาใจใส่ ทั้งยังเคารพและปฏิบัติต่อภรรยาเช่นนางอย่างอ่อนโยน เป็นสามีที่ไร้ที่ติแต่ความจริงแล้ว โจวเสี่ยวเผิงไม่เคยใส่ใจเรื่องในบ้านเลยแม้แต่น้อยมารดาของเข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 267

    ชีหยวนยิ้มบาง ๆ “ฮูหยินโจว สมแล้วที่เป็นบุตรีแห่งตระกูลเซี่ย ช่างเด็ดขาดแน่วแน่โดยแท้”สตรีหลายนางเมื่อแต่งเข้าสกุลสามีแล้ว ก็มักถือว่าตนเป็นคนของตระกูลนั้นโดยสมบูรณ์ทว่าเห็นได้ชัดว่า ฮูหยินโจวหาใช่สตรีเช่นนั้นไม่ชีหยวนลอบถอนหายใจเบา ๆ อย่างแนบเนียนฮูหยินโจวถอนหายใจยาว รู้สึกว่าความอัดอั้นในอกพลันคลายลงบ้าง ก่อนเอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าช่วยตระกูลเซี่ยได้จริงหรือ?”นี่เป็นข้อหากบฏที่โทษร้ายแรงเชียวนะ!ชีหยวนพลันยิ้ม นางลุกขึ้นปัดฝุ่นบนร่าง “ฮูหยินวางใจเถิด ข้ากล่าวว่าสามารถช่วยได้ เช่นนั้นย่อมต้องช่วยได้”กล่าวจบ นางก็หันไปถามฮูหยินโจวด้วยเสียงแผ่วเบา “ฮูหยิน โจวเสี่ยวเผิงไม่ใช่ว่ากำลังปราบปรามโจรภูเขาหรอกหรือ?”เมื่อเอ่ยถึงโจรภูเขา สีหน้าของฮูหยินโจวพลันแปรเปลี่ยนเล็กน้อยใช่แล้ว เมืองเจียงซีนั้นอยู่ติดกับฝูเจี้ยน พวกโจรสลัดทางฝูเจี้ยนมักลี้ภัยจากการกวาดล้างของราชสำนักและหลบหนีเข้าป่าภูเขาในเจียงซี และตั้งตนเป็นใหญ่ที่อำเภอฮุ่ยชางนั้นมีรังโจรอยู่แห่งหนึ่ง พวกมันมักยกพวกลงจากเขามาปล้นสะดม ทำให้ราษฎรเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ถึงขั้นที่ก่อนหน้านี้ พ่อค้าชาในเจียงซีที่ต้องเดินทางผ่าน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 268

    หากเป็นเมื่อก่อน โจวเสี่ยวเผิงคิดแทนนางเช่นนี้ ฮูหยินโจวคงตื้นตันใจจนน้ำตาคลอเป็นแน่แต่บัดนี้ เพียงแค่คิดว่าเขาจับตัวคนในตระกูลของนางไปโดยไร้สุ้มเสียง ซ้ำยังใส่ร้ายว่ากบฏ นางก็ไม่กล้าแตะต้องขนมนั้นเลยฮูหยินโจวปฏิเสธอย่างอ่อนโยน “วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมื้อเย็นไม่ถูกปากหรืออย่างไร รู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง เก็บไว้กินพรุ่งนี้เถิด”“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?” โจวเสี่ยวเผิงขมวดคิ้ว “หากกระเพาะไม่ดี ก็ยิ่งต้องกินอะไรไว้บ้าง ไม่กินอะไรเลย จะไม่หิวแย่หรือ?”กล่าวจบ เขาหยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วยื่นส่งให้นาง “กินเถิด ยังอุ่นอยู่เลย!”ฮูหยินโจวหาได้อยากกินไม่ “ช่างเถิด ข้ากินไม่ลงจริง ๆ พรุ่งนี้ค่อยกินก็เหมือนกัน”แต่ทันใดนั้นโจวเสี่ยวเผิงกลับหงุดหงิดขึ้นมาน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นไม่พอใจทันที “บอกให้กินเจ้าก็ต้องกิน! ข้าซื้อขนมมาเพราะเป็นห่วงเจ้า เจ้ายังคิดจะปฏิเสธความหวังดีอีกหรือ?”ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทั้งโจวเสี่ยวเผิงและฮูหยินโจวต่างตกตะลึงดวงตาของฮูหยินโจวพลันแดงก่ำ “ท่านพี่ นี่หมายความว่าอย่างไร? ข้าเพียงแค่กระเพาะไม่ดี ไม่อยากกินขนมเท่านั้น... ท่านต้องขึ้นเสียงใส่ข้าถึงเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 269

    เมื่อเห็นศพที่ล้มลงกับพื้น ฮูหยินโจวก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะล้มลงไปเช่นกัน นางใช้มือทั้งสองยันพื้นไว้ทั้งร่างสั่นระริกบางทีอาจเพราะตึงเครียดเกินไป นางพลิกตัวไปด้านข้างอยากจะอาเจียนออกมา น้ำตาหยดโตไหลลงมาเป็นสายเวลาเพียงแค่วันเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด กลับคล้ายกับว่าได้ผ่านไปเป็นสิบปีนางใช้มือกดแน่นที่อกตนเอง นั่งนิ่งอยู่บนพื้นมองไปยังโจวเสี่ยวเผิงซึ่งยังลืมตาค้างอยู่ไม่ไกล ตกอยู่ในความเงียบงันชีหยวนเอื้อมมือไปดึงมีดออกจากร่างของโจวเสี่ยวเผิง นางเห็นว่าเขาตายตาไม่หลับก็ไม่ได้ใส่ใจนัก คนแบบนี้ตายตาไม่หลับก็ดี จะได้มองเห็นผลลัพธ์ของสิ่งที่ตนกระทำไว้ทั่วทั้งห้องเงียบสนิท เงียบจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจเมื่อเห็นชีหยวนชักมีดออกแล้วลุกขึ้นยืน ฮูหยินโจวรีบวิ่งตามหลังนางไป “คุณหนูใหญ่ชี ข้า... ตอนนี้ข้าควรทำอย่างไร?”น้ำตาของนางไหลพรั่งพรูอย่างไม่อาจควบคุมได้ “เขาเป็นขุนนางของราชสำนัก หากเขาตายไปราชสำนักจะต้องสืบสวนแน่นอน!”ยังมีเฉินฮ่าวฮุย เขาเป็นสุนัขรับใช้ของโจวเสี่ยวเผิง ตอนนี้โจวเสี่ยวเผิงตายไปแล้ว แล้วเฉินฮ่าวฮุยจะไปหาที่พึ่งที่ดีเช่นนี้ได้จากที่ใดอีกเล่า?เขาจะต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 270

    ดังนั้น ฮูหยินเจ้าเมืองซ่งจึงให้เกียรตินางมาโดยตลอดเมื่อชีหยวนให้นางไปพบฮูหยินเจ้าเมือง นางก็ตอบรับในทันที “ได้ ข้าจะได้เข้าพบเจ้าเมืองซ่งแน่นอน!”ชีหยวนจึงกระซิบเบา ๆ ข้างหูนางสองสามประโยคยามค่ำคืนล่วงเลย เฉินฮ่าวฮุยเสร็จจากเที่ยวสำมะเลเทเมาในหอนางโลม ร้องเพลงไปตลอดทางขณะเดินกลับเรือนของตนเองเขาเพิ่งก้าวเข้าประตู ภรรยาของเขาก็รีบเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง “เหตุใดจึงเมากลับมาดึก ๆ อีกแล้ว? ข้า...”นางยังกล่าวไม่ทันจบประโยค เฉินฮ่าวฮุยก็เตะนางกระเด็นไปทันที “พร่ำเพ้ออะไรนักหนา ไสหัวไปให้พ้น! ข้าแต่งเจ้าเข้ามาแล้วช่างซวยนัก เจ้าคอยดูเถิด รอให้ข้ามั่งมีเมื่อใด อย่างแรกที่จะทำก็คือปลดเจ้า!”สวีผิงถูกเตะจนกระเด็นล้มลงไปชนกระถางต้นไม้ ร่างกายกระแทกพื้นจนมึนงง พอได้ยินเสียงเขาตะโกนด่าทอลูก ๆ ในห้องนางก็พลันตกใจแล้วรีบวิ่งเข้าไป ก็เห็นเฉินฮ่าวฮุยกำลังใช้รองเท้าหวดใส่บุตรชายคนโตไม่ยั้งมือ“ไอ้โง่! ทำไมข้าถึงมีลูกอย่างเจ้าได้?! ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว ไอ้คนโง่นั่นน่ะ แค่ส่งมันไปตายในหุบเขาสักแห่งก็จบแล้ว!”เฉินฮ่าวฮุยยกมือฟาดรองเท้าลงไปบนร่างลูกชายคนโตไม่หยุด “แม่เจ้าไปเป็นชู้กับใครถึงได

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 271

    เขาพุ่งเข้าไปหมายจะกอดหญิงงามให้เต็มอ้อมแขนแต่สิ่งที่ต้อนรับเขากลับไม่ใช่อ้อมกอดและร่างอันหอมหวนอ่อนนุ่มของหญิงงาม กลับเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้ความจริงแล้วร่างกายที่เมามายตอบสนองได้ไม่รวดเร็วนัก ดังนั้นกว่าที่เฉินฮ่าวฮุยจะรู้สึกถึงความเจ็บ ก็ใช้ไปเวลาสักพัก ถึงจะตระหนักได้ว่าแขนตัวเองถูกกรีดเป็นแผลยาวเขากุมบาดแผล ความมึนเมาสลายหายไปกว่าครึ่ง ดวงตาเบิกกว้างมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวก่อนหน้านี้เขามองว่านางเป็นนางฟ้าที่จุติลงมาจากสวรรค์ บัดนี้กลับเห็นเป็นอสูรที่บังเกิดจากนรกริมฝีปากของเขาสั่นระริก เอ่ยถามขึ้น: “เจ้า...เจ้าเป็นใครกันแน่?”แต่ชีหยวนไวกว่าเสียงของนางเสียอีกนางคว้าเก้าอี้ข้างตัวขึ้นมาอย่างสบาย แล้วฟาดลงไปบนร่างเฉินฮ่าวฮุยทันทีศีรษะของเฉินฮ่าวฮุยถูกฟาดจนแตกเลือดอาบ ตอนนี้เขาไม่สนใจหญิงงามอะไรอีกแล้ว รีบชักดาบที่เอวออกมาฟันใส่ชีหยวนทันทีเมื่อมีอาวุธในมือ หัวใจของเขาก็รู้สึกมั่นคงขึ้นมาหน่อยแต่ว่าเขาจะฟันไปไม่กี่ครั้ง กลับไม่สามารถฟันเข้าตัวชีหยวนได้เลยสักนิดหญิงสาวผู้นี้ช่างเป็นดุจภูติผีปีศาจเสียจริง ไม่รู้ว่านางหลบได้อย่างไร รู้แค่ว่าตอนนี้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 272

    เหมือนกับตอนที่เขาเผชิญกับโชคร้ายของตระกูลเซี่ย ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับตระกูลนั้นเลย แต่กลับเลือกจะฉี่ใส่หน้าของเซี่ยเยวียนต่อหน้าคนมากมาย เพื่อเหยียดหยามเซี่ยเยวียนผู้ชายแบบนี้มันน่ารังเกียจที่สุดรอยยิ้มบนใบหน้าของนางหายไปทันที: “ข้านึกว่าคนแบบพวกเจ้าจะไม่รู้จักความเจ็บปวดเสียอีก ที่แท้ เจ้าก็รู้ว่ามันเจ็บและรู้ว่ามันน่ากลัวเหมือนกันสินะ?”เพราะบาดแผลมากมาย และเสียเลือดมากเกินไป สติของเฉินฮ่าวฮุยก็ค่อยๆ เลือนราง เขาแทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นลูกหลานของใครที่เขาเคยทำร้ายเอาไว้แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังรีบยกเอาคนหนุนหลังของตัวเองขึ้นมา: “เจ้า เจ้าอย่าทำอะไรไปเรื่อยนะ! ตอนนี้ข้าเป็นถึงขุนนางทหาร เบื้องหลังข้ามีผู้ว่าการ ยังมี ยังมีอ๋องฉี เจ้ารู้หรือไม่ว่าการล่วงเกินท่านอ๋องจะมีผลอย่างไร?”ภายใต้แสงตะเกียง สีหน้าของชีหยวนไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อยนางแค่ตอบรับ ย่อตัวลงอย่างเฉยเมย มองดูเฉินฮ่าวฮุยที่ขดตัวถอยหนีอย่างหวาดกลัว: “ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ รวมถึงอ๋องฉีที่เจ้าว่า เจ้าทำชั่วไว้มากมาย สวรรค์ไม่ลงโทษเจ้า งั้นข้าจะเป็นคนจัดการเอง”สิ้นคำ นางหมดความอดทนที่จะพูดอี

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 306

    สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าหวังพลันดูลำบากใจขึ้นมาเล็กน้อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามตีคลี ทุกคนต่างรู้กันดีหลิ่วหมิงจูทะเลาะกับชีหยวนจนถึงขั้นแตกหักกัน ตระกูลหลิ่วยังถึงขั้นเคยบุกไปที่จวนตระกูลชีเพื่อทวงความเป็นธรรมอีกด้วยทว่าคุณชายรองตระกูลหลิ่ว กลับถูกท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้น ทำให้ต้องกลับไปมือเปล่าอย่างน่าโมโห บัดนี้ ฮูหยินฉู่กั๋วกงกลับเอ่ยถึงชีหยวนขึ้นมาอีก ตาขวาของฮูหยินผู้เฒ่าหวังพลันกระตุก นางจึงกล่าวเลี่ยงๆ ว่า: “นางยังไม่เคยออกงานเลี้ยงมาก่อน ยังค่อนข้างขี้อาย ตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับน้องหญิงของนางที่เรือนหลัง นางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คงพูดจาผสมโรงกับพวกเราไม่ค่อยได้”ฮูหยินฉู่กั๋วกงยิ้มจางๆ : “จะพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เด็กสาวคนอื่นอาจจะเป็นเช่นนั้นจริง แต่หลานสาวของท่านผู้นี้ ใครจะมองว่านางเป็นเพียงเด็กกันเล่า? ข้าก็เคยได้ยินแต่เพียงชื่อเสียงของนาง แต่ยังไม่เคยพบตัวจริงมาก่อน จึงอยากรู้เป็นพิเศษ ฮูหยินผู้เฒ่าก็อย่าหวงนักเลย”กลุ่มสตรีต่างผลัดกันพูดคุยอย่างออกรสฮูหยินผู้เฒ่าหวังที่เริ่มรับมือไม่ไหวแล้ว ทันใดนั้น ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอกงานเลี้ยงในวันนี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 305

    ใครจะรู้ว่าเมื่อพุ่งเข้าไปกลับคว้าได้เพียงอากาศ นอกจากลูกดอกที่นางยิงมาไม่กี่ดอก กับกิ่งไม้ใหญ่ที่ถูกเหยียบจนเรียบ พิสูจน์ให้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนอยู่ที่นี่คนหนีไปแล้วงั้นหรือ?มือของชีหยวนกำกริชแน่น ดวงตาที่เย็นชากวาดมองเศษกิ่งไม้และใบไม้บนพื้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากกำแพง จึงยกมือขึ้นตามสัญชาตญาณเซียวอวิ๋นถิงกระโดดลงมาอย่างมั่นคงข้างนาง กดข้อมือนางไว้ กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์: “ข้าเอง!”ชีหยวนมองเขาด้วยความสงสัย “เหตุใดท่านอ๋องถึงอยู่ที่นี่ได้?”เซียวอวิ๋นถิงรู้สึกปวดใจเรื่องที่ควรเตือนก็ให้ลิ่วจินคอยเตือนแล้ว ใครจะรู้ว่าหญิงสาวผู้นี้กลับไม่สนใจเลย รู้ทั้งรู้ว่าข้างหน้าคือกำแพงใหญ่ แต่นางก็ยังคงต้องการที่จะพุ่งชนมันให้พังทลายแล้วเขาจะทำอะไรได้อีก?!เซียวอวิ๋นถิงไอออกมา สายตาของเขามองข้ามนางไปยังร่างของอ๋องเฉิงที่นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกล นัยน์ตาถึงกับสั่นไหวในทันที: “เจ้าฆ่าอ๋องเฉิงแล้ว!”อ๋องเฉิงกับอ๋องโจวนั้นเหมือนกัน ตามศักดิ์แล้วเขาควรเรียกว่าท่านปู่น้อยถึงแม้หลายปีมานี้อ๋องเฉิงจะใช้ชีวิตลุ่มหลงในกามารมณ์และไร้คุณธรรม เป็นที่รู้กันว่าเขาทรมานและสังห

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 304

    หรือว่าจะกระชากทั้งตัวนางให้ร่วงลงพื้นไปเสียเลย ถึงตอนนั้นกระแทกพื้นจนสับสนมึนงง จากนั้นก็ฉีกเสื้อผ้านางออก เช่นนั้นเขาก็จะสามารถทำอะไรตามใจชอบได้?บรรดาหญิงสาวผู้สูงศักดิ์พวกนั้นล้วนแต่แข็งทื่อ ไร้ชีวิตชีวา ไม่ต่างอะไรกับปลาตายแต่เด็กสาวตรงหน้ากลับต่างออกไป เขาแทบจะจินตนาการได้เลยว่า นางจะดิ้นรนขัดขืนบนพื้นอย่างสิ้นหวังเพียงใด แค่คิดก็ทำให้เลือดในกายเขาเดือดพล่านแล้วชายกระโปรงถูกเขาคว้าไว้ได้ดังใจหวังอ๋องเฉิงหัวเราะเบาๆ : “จับเจ้าได้แล้ว”ชีหยวนก็หัวเราะเช่นกันนางโปรยผงใส่หน้าอ๋องเฉิงอย่างฉับพลัน พร้อมกับยิ้มจางๆ : “เจ้าติดกับแล้ว”ทันทีที่ผงนั้นเข้าตา อ๋องเฉิงก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดแผดเผาอย่างบรรยายไม่ถูก ราวกับเปลวไฟลุกลามไปทั่วลูกตา จนเขากรีดร้องออกมาโดยไม่อาจควบคุมตนเองได้สีหน้าของชีหยวนยังคงเรียบเฉยนางรู้ดี สำหรับนักฆ่าที่ผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วนเช่นนาง ต่อให้พกของมากแค่ไหนก็ไม่นับว่ามากเกินไปตรงหน้ามืดบอดสนิท น้ำตาไหลทะลักออกมาไม่หยุด คนเราเมื่อสูญเสียการมองเห็น ก็ย่อมสูญเสียความรู้สึกปลอดภัยไปด้วยอ๋องเฉิงเจ็บปวดมากจนต้องใช้มือทั้งคู่ขยี้ตาอย่างบ้าคลั่งทัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 303

    สีหน้าของอ๋องเฉิงเรียบนิ่ง บิดคอสาวใช้อย่างง่ายดายแล้วเหวี่ยงไปด้านข้าง มืออีกข้างก็ตะปบข้อเท้าของชีหยวนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระชากนางเข้าหาตัวขาอีกข้างที่ถูกจับไว้ ทำให้ชีหยวนเสียหลัก ร่างกายท่อนบนของนางเอนล้มไปด้านหลังอ๋องเฉิงแสยะยิ้มอย่างไม่ยี่หระ : “ที่แท้ก็เป็นลูกแมวน้อยที่ชอบข่วนคนสินะ”เขากระชับข้อเท้าของชีหยวน จู่ ๆ ก็ออกแรง โน้มตัวลงใช้ปลายจมูกไล้ไปตามข้อเท้าของชีหยวน: “ช่างมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ”ชีหยวนเพียงรู้สึกขนลุกซู่แล่นขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลัง แรงอาฆาตโหมกระหน่ำในใจ ขณะที่แผ่นหลังนางกระแทกลงไปกับพื้นอย่างแรง ก็รีบสะบัดมือ ปล่อยเกาทันณฑ์แขนเสื้อพุ่งตรงไปยังอ๋องเฉิงทันทีอ๋องเฉิงไหวตัวเร็วมาก แทบจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกดอกถูกปล่อยออกมา เขาสะบัดมือปล่อยข้อเท้าของชีหยวน พร้อมกับเอนศีรษะหลบไปด้านข้างลูกดอกเฉียดแก้มของเขาไปอย่างฉิวเฉียด ทิ้งรอยแผลลึกไว้บนใบหน้าซีกซ้ายของเขาสีหน้าของอ๋องเฉิงเคร่งขรึมไปทันที มือซ้ายของเขาแตะรอยแผล สัมผัสได้ว่ามีเลือดติดมือ สีหน้าของเขามืดดำราวกับพายุที่กำลังจะโหมกระหน่ำ: “ตอนแรกคิดว่าเป็นแมวป่าตัวน้อยตัวหนึ่ง รู้สึกน่าสนใจดี แ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 302

    นางเม้มริมฝีปากเล็กน้อย มือแตะลงบนรอยแผลเป็นอยู่ชั่วขณะพลางเอ่ยถามเบาๆ: “บาดเจ็บได้อย่างไร?”ชีหยวนดึงแขนเสื้อให้เรียบร้อย โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าหวังไม่ได้เห็นแขนอีกข้าง ที่ยังผูกมีดเกาทัณฑ์แขนเสื้อเอาไว้อยู่นางตอบเสียงเรียบ: “หลานจำไม่ได้แล้ว คงเป็นตอนที่ช่วยเชือดหมูช่วงปีใหม่ปีใดปีหนึ่ง แล้วพลาดถูกมีดเชือดหมูบาดเข้า”นางจำไม่ได้แล้วจริงๆ แต่ฮูหยินผู้เฒ่าหวังกลับแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้วนางก็คิดไว้แล้วว่า ความสามารถต้องแลกมาด้วยราคาเสมอเด็กสาวที่สามารถยึดบังเหียนไว้ได้แม้ในขณะที่ตกจากหลังม้า ในชีวิตนี้ย่อมผ่านความยากลำบากมานับไม่ถ้วนขณะนั้นเอง มีเสียงรายงานจากข้างนอกว่า คนจากจวนฉู่กั๋วกงและจวนเฉิงกั๋วกงมาเยือนฮูหยินผู้เฒ่าหวังสูดลมหายใจลึกๆ ตั้งสติ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา: “เด็กดี ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ เจ้าไปเล่นกับน้องหญิงของเจ้าก่อนเถิด เดี๋ยวไว้เราค่อยคุยกันอีก”ชีหยวนรับคำ เมื่อเห็นหวังฉานเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและดึงตัวนาง ก็ก้มหน้าลงซ่อนแววตาที่เย็นชาฮูหยินฉู่กั๋วกงมาแล้ว ดูท่าปัญหาคงใกล้เข้ามาแล้วหวังฉานจูงมือนางเดินออกไป ตลอดทางนางร่าเริงเหมือนลูกกวางตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 301

    นางหลู่ในฐานะสะใภ้ใหญ่ของตระกูล ต้องเป็นผู้จัดงานวันเกิดให้แม่สามี จึงยุ่งจนหัวหมุนเมื่อพบนางหวัง ก็ยังถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่า: “อาการป่วยของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ช่วงนี้ในเรือนยุ่งกันมาก ไม่รู้ว่าโสมที่ส่งไปให้ ได้ใช้หรือไม่?”หัวข้อสนทนาภายในบ้านเหล่านี้ ทำให้นางหวังรู้สึกดีขึ้นมาก นางไอออกมาด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียว: “ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรหรอก แค่เป็นหวัดนิดหน่อยเท่านั้น พี่สะใภ้เกรงใจเกินไปแล้ว”นางหลู่เพียงยิ้ม แล้วดึงชีหยวนเข้ามาหา “เจ้าเด็กคนนี้ งานแข่งตีคลีเมื่อคราวก่อน เจ้าแสดงความสามารถจนเป็นที่กล่าวถึงไปทั่ว วันหน้าลองพาน้องหญิงของเจ้าไปฝึกขี่ม้าเสียหน่อยสิ! นางเอาแต่รบเร้าข้าทุกวัน ให้ข้าช่วยขอให้เจ้ามาเป็นอาจารย์ของนาง!”บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที นางหวังรู้สึกซับซ้อนในใจ...... นอกจากตัวนางกับชีอวิ๋นถิงแล้ว ดูเหมือนชีหยวนจะอ่อนโยนกับทุกคนได้หมดนางหลู่ยิ้มแย้มพลางจูงชีหยวนไปคารวะอวยพรวันเกิดแก่ฮูหยินผู้เฒ่าหวังทว่าอารมณ์ของฮูหยินผู้เฒ่าหวังในเพลานี้กลับไม่ดีนัก กล่าวด้วยเสียงต่ำ: “ก็แค่วันเกิดครบหกสิบปีของข้า อีกทั้งตำแหน่งของข้านั้นก็ไม่สูงส่งอะไร ยังมีฮูหยินตรา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 300

    ชีหยวนปล่อยชายแขนเสื้อกว้างลง ปกปิดเที่กาทัณฑ์แขนเสื้อ ก่อนลุกขึ้นยืนส่องกระจก ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดผิดสังเกต จึงหัวเราะเบา ๆ “ไม่มากหรอก ไม่มากเกินไปเลยสักนิด”อาวุธทุกชิ้นล้วนสามารถใช้รักษาชีวิตในช่วงเวลาคับขันได้ นางไม่เคยออกศึกที่ไม่มีความมั่นใจครานี้ผู้ติดตามออกไปพร้อมชีหยวนไม่ใช่ฮูหยินรองชี แต่เป็นนางหวังเดิมทีนางหวังถูกส่งให้ไปพักรักษาตัวที่เรือนนอกเมือง แต่ใครจะคาดคิดว่านางจะหมดสติในรถม้าระหว่างเดินทางออกจากเมือง และนอนป่วยเรื้อรังจนไม่อาจออกเดินทางได้บัดนี้ เป็นวันเกิดครบหกสิบปีของมารดานาง ในฐานะบุตรสาวแท้ ๆ ย่อมต้องไปร่วมงานภายในรถม้า ทั้งสองนั่งประจันหน้า นางหวังมองพิจารณาชีหยวนด้วยแววตาซับซ้อนเดิมนางคิดว่าเด็กที่เติบโตขึ้นในเรือนนอกเมืองและลิ้มรสความทุกข์ยากมาทุกรูปแบบ เมื่อกลับมาคงเป็นเพียงคนที่ค้อมตัวเจียมเนื้อเจียมตัว หวาดกลัวทุกสิ่งทว่า ชีหยวนกลับแตกต่างจากที่นางคาดคิดไปโดยสิ้นเชิงนางนึกถึงคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าของชีเจิ้น นึกถึงถ้อยคำกำชับของท่านโหวผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าก่อนออกจากจวน จึงพยายามปรับสีหน้าให้อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “เรื่องในอดีต อวิ๋นถิงผ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 299

    ชีหยวนมองฮูหยินผู้เฒ่าด้วยความฉงน “ข้าดูเหมือนจะไปฆ่าคนหรือเจ้าคะ?”......ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนหัวเราะออกมาหรือว่ามิใช่เล่า?ออกไปคราใด มีหรือจะไม่คร่าชีวิตคนกลับมา?นางสูดลมหายใจลึก กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ได้บอกว่าเจ้าเหมือนจะไปฆ่าคนเสียหน่อย ข้าหมายความว่าหากเลี่ยงได้ก็อย่าฆ่าเลยจะดีกว่า”แม้ว่าทุกครั้งที่ฆ่าคนชีหยวนจะมีวิธีเก็บกวาดร่องรอยอย่างไร้ที่ติ แต่ว่าเดินริมฝั่งแม่น้ำเป็นประจำ มีหรือรองเท้าจะไม่เปียกน้ำ?สุดท้ายแล้ว ก็ไม่อาจฆ่าทุกคนที่คิดต่อต้านนางได้หมดกระมังการฆ่าฟัน หาใช่วิธีแก้ปัญหาไม่ชีหยวนไม่มีทีท่าว่าจะเห็นด้วยหรือคัดค้าน นางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ท่านย่า ท่านกล่าวเช่นนี้ไม่สมกับเป็นฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลแม่ทัพเลยนะเจ้าคะ”ฮูหยินผู้เฒ่ามองนางด้วยความคลางแคลงใจเพียงเห็นชีหยวนยิ้มบาง ๆ มองนางมาด้วยดวงตาส่องประกาย “ในปีนั้นฉู่กั๋วกงนำทัพเผชิญหน้ากับฮ่องเต้ที่ถูกโค่นบัลลังก์ ครั้นตีเมืองเจียงอินอยู่นานแต่ไม่สำเร็จ จึงมีความแค้นสุมอก สุดท้ายจึงสั่งให้สังหารชาวเมืองสามวันติด สุดท้ายเมืองเจียงอินถูกกวาดล้างจนสิ้น เหลือรอดเพียงคนชราและเด็กไม่ถึงสามร้อยคน...”ช

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 298

    ชีจิ่นตะลึงงันไปโดยพลัน ครานี้จึงเพิ่งตระหนักว่าขาของอ๋องฉีดูเหมือนจะบาดเจ็บ เขาถึงกับไม่อาจลุกขึ้นได้ในฉับพลัน!เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!ในความทรงจำของนาง อ๋องฉีเองก็เชี่ยวชาญวรยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ มีองครักษ์ล้อมหน้าล้อมหลังไม่น้อย ไฉนถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงนี้?ทว่าเมื่อเห็นอ๋องฉีในสภาพนี้ นางก็ไม่กล้าซักถามสักคำ รีบรับคำก่อนวิ่งออกจากห้องไปทันทีอ๋องฉีตะโกนจากด้านในว่า “จินเป่า ยังไม่รีบเข้ามาอีก?!”จินเป่าก้าวเข้าห้องไปด้วยท่าทีหวาดหวั่น ไม่นานนักภายในห้องก็มีเสียงข้าวของแตกกระจายขันทีสวีก็เดินเข้าไป แล้วกลับออกมา พลางขมวดคิ้วแน่น ครั้นเห็นชีจิ่นก็ได้แต่ข่มความหวาดหวั่นในใจ ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เจ้าตามข้ามา”ชีจิ่นนึกถึงท่าทางของอ๋องฉีเมื่อครู่ ในใจพลันปั่นป่วนไม่อาจสงบลงได้ผู้ใดกันที่ทำให้อ๋องฉีได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้?นางเติบโตอยู่ในเมืองหลวงมาแต่เยาว์วัย ชีวิตสิบกว่าปีแรกล้วนถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี อีกทั้งเคยเข้าวังหลวงเพื่อเป็นสหายร่วมศึกษาขององค์หญิงมาก่อน ย่อมรู้จักอ๋องฉีอยู่บ้างสาวน้อยคนใดเล่าไม่ใฝ่ฝันจะได้แต่งกับคนมีฐานะสูงศักดิ์ ได้เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status