Share

บทที่ 969

Author: หว่านชิงอิ๋น
และตระกูลฉินก็จะถูกหางเลขไปด้วย และทั้งตระกูลจะต้องถูกประหาร!

“ตระกูลเหยียนสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้รึ? ในเมืองผิงหนิงนี้ยังมีสายของตระกูลเหยียนอีกกี่คน?”

สวี่อี้มองนางด้วยความตกใจ

มิคิดเลยว่านางจะรู้เรื่องนี้ด้วย

สวี่อี้กัดฟัน "ยังมีรองแม่ทัพหลิวที่ถูกเจ้าฆ่าไปอีกคน"

“และซือซิงแห่งกองทัพอู่จิ้น”

“ข้ารู้จักแค่สองคนนี้ ส่วนอีกคนข้ามิรู้แล้ว”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "สองคนนี้ข้ารู้แล้ว สิ่งที่เจ้าให้การมาไม่มีค่าอันใดสำหรับข้าเลย"

“เอ็นร้อยหวายที่เท้าอีกข้างของเจ้า มิรู้ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่”

จู่ ๆ สวี่อี้เหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกตื่นกลัวอย่างมาก

เขาพูดอย่างเร่งรีบว่า "ฉินเชียนหลี่น่าจะยังมีชีวิตอยู่! ยามที่องค์หญิงหล่างชิ่นจับกุมเขามา คำพูดนางช่างคลุมเครือนัก ดูเหมือนนางจะมิอยากฆ่าฉินเชียนหลี่เท่าไหร่เลย"

ลั่วชิงยวนตกตะลึง

หล่างชิ่น?!

“ข้ารู้แผนการของพวกนอกด่านมาบ้างเล็กน้อย พวกเขาจงใจจับข้าและทรมานข้า พวกเขาแค่หวังว่าพวกเจ้าจะมาช่วยข้า จากนั้นก็ให้ข้าสมคบกับรองแม่ทัพหลิวเปิดประตูเมืองให้พวกเจ้ายอมจำนน”

“เมื่อฟ้าสาง พวกเขาต้องการเห็นธงขาวโบกสะบัดบนประตูเมือง”

“จากนั้นพวกเขาก็จะ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 970

    เมื่อฟ้าเริ่มสาง ธงขาวก็ถูกชักขึ้นหอประตูเมืองมินานกองทัพพวกนอกด่านก็มาถึงลั่วชิงยวนซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ มองไปยังผู้นำกองทัพ ที่นำมามิใช่ใครอื่นนอกจากหล่างชิ่นและหล่างมู่“ผู้นำเมืองผิงหนิงของพวกเจ้าอยู่ที่ใด เมื่อยอมจำนนแล้วไฉนมิเปิดประตูเมืองมาแสดงความเคารพ?”เสียงของหล่างมู่หนักแน่น ท่าทางหยิ่งผยองทหารบนหอประตูเมืองตะโกนว่า "รองแม่ทัพหลิวของเราเสียชีวิตในการสู้รบไปแล้ว"“หากเราเปิดประตูเมือง พวกเจ้าจะรับประกันได้หรือไม่ว่าหลังปลดอาวุธแล้วมิฆ่าใคร?”หล่างมู่ยิ้มและพูดว่า "ย่อมเป็นเช่นนั้น ขอเพียงเปิดประตูเมือง วางอาวุธลงแล้วเราจะมิฆ่าใคร!"ทหารจึงสั่ง "เปิดประตูเมืองได้!"ประตูเมืองเปิดออกอย่างช้า ๆหล่างมู่ยิ้มอย่างเย็นชา ชักม้าเฆี่ยนแส้ นำกองทัพพุ่งเข้าไปยังประตูเมืองด้วยความยโสชาวเผ่านอกด่านตะโกนอย่างตื่นเต้นพวกเขาโบกธงสะบัด เดินหน้าบุกเข้าเมืองผิงหนิงอย่างไร้สิ่งขัดขวางขณะที่พวกเขารีบเข้าไปในเมือง ทุกคนต่างชักดาบออกมาเตรียมสังหารล้างบางเมืองผิงหนิงแต่ทว่า หลังจากที่พวกเขากรูกันเข้าไปก็พบว่าบนท้องถนนกลับว่างเปล่าหล่างมู่ชะลอม้า หัวใจเต็มไปด้วยความสงสัยว่า "ผู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 971

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ‘ถอยทัพงั้นหรือ?’มีคนตะโกนว่า "แต่องค์ชายหล่างมู่ยังอยู่ข้างใน"แต่หล่างชิ่นเพิกเฉยต่อคำทักท้วง และถอยกลับไปพร้อมกับคนของนางการถอยทัพหล่างชิ่น ทำให้คนในเมืองมีเวลาในการกวาดล้างศัตรูทั้งหมดอย่างรวดเร็ว“แม่นางลั่ว กลอุบายของท่านในการแกล้งยอมแพ้นั้นนับว่าฉลาดจริง ๆ!”“คราวนี้เราสามารถยึดอาวุธมาได้มิน้อยเลย”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองไปยังทิศทางที่พวกนอกด่านล่าถอยไป ในใจยังคงมิสบายใจ“ไม่มีทางที่พวกนอกด่านจะล่าถอยไปง่าย ๆ ถูกลวงเช่นนี้ พวกเขาต้องโกรธมากแน่”“ส่งคำสั่งไป เก็บอาวุธทันที แล้วไปประจำการที่หอประตูเมือง”"ขอรับ!"ในมิช้า ลั่วอวิ๋นสี่ก็กระโดดขึ้นมาหอประตูเมืองแล้วพูดว่า "มิพบหล่างมู่"“บางทีเขาอาจตายอยู่ข้างในแล้ว มีศพมากเกินไป”ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น "มิเป็นไร ค่อยตรวจสอบทีหลังก็ได้"“ในทางตรงกันข้าม หล่างชิ่นผู้นี้ดูเหมือนจะ... จงใจปล่อยให้หล่างมู่เข้ามาตาย”ในระหว่างการบุกโจมตี หล่างมู่ได้นำกองกำลังของเขาเข้ามาในเมืองทันที แต่หล่างชิ่นกลับมิได้เข้ามาด้วยนางคงจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ กลัวว่าเป็นกับดัก เลยมิเข้ามาแต่นางมิได้ห้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 972

    ฉินเชียนหลี่!นั่นคือฉินเชียนหลี่!ฉินเชียนหลี่ถูกลากมาไกลเพียงใดมิอาจรู้ได้ ด้วยความเร็วเพียงนั้น บางครั้งร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และบางครั้งก็กระแทกลงอย่างหนักเหมือนใบไม้ใบหนึ่งที่ปลิวไปปลิวมาอย่างไร้ทิศทางคนที่เห็นนั้นใจแทบสลายเหล่าทหารบนหอประตูเมืองต่างตกตะลึง "นั่นคือแม่ทัพฉินใช่หรือไม่?!"คนที่ควบม้ามาหยุดลงตรงหน้าหล่างชิ่น ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าแล้วคว้าตัวฉินเชียนหลี่ที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาเขายั่วเย้าอีกฝ่ายว่า "เห็นหรือไม่? นี่แหละ แม่ทัพของพวกเจ้า!"“ยังมิรีบเปิดประตูเมืองยอมแพ้อีก มิเช่นนั้นเมื่อเราตีเมืองแตก ชีวิตของพวกเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก!”หล่างชิ่นยกยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจและมองไปที่ลั่วชิงยวน "เป็นอย่างไร จะยอมแพ้หรือยัง?"ลั่วชิงยวนกัดฟัน ในใจเต็มไปด้วยความโกรธที่หล่างชิ่นยังเก็บฉินเชียนหลี่ไว้ ก็เพื่อช่วงเวลานี้เมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนมิตอบสนอง หล่างชิ่นก็พลิกตัวลงจากหลังม้า เตะฉินเชียนหลี่ที่ด้านหลัง ทำให้เขาล้มลงนอนคว่ำกับพื้น ก่อนจะเหยียบไหล่ของเขาไว้นางถือมีดยาวในมือ กรีดลงบนนิ้วของฉินเชียนหลี่ แล้วหัวเราะเบา ๆ "เจ้าเป็นแม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 973

    ฉินเชียนหลี่บีบคอของลั่วอวิ๋นสี่แล้วดึงนางลงไปด้วยร่างทั้งสองร่วงลงกับพื้นอย่างรวดเร็วหัวใจของลั่วชิงยวนแทบออกมาเต้นนอกอก จากความสูงขนาดนี้ หากลั่วอวิ๋นสี่ตกลงไป จะต้องตายอย่างแน่นอน นางรีบตะโกน "เตี่ยฉุย!"ตอนที่ลั่วอวิ๋นสี่กำลังจะกระแทกพื้น เตี่ยฉุยก็รีบฟาดฝ่ามือลงกับพื้น ส่งแรงลมมหาศาลพัดพาฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้าด้วยพลังนี้ ลั่วอวิ๋นสี่พลิกตัวกระโดดและกลิ้งลงไปกับพื้นด้วยมือที่ค้ำพื้น เลือดสดเต็มปากก็พ่นออกมาลั่วอวิ๋นสี่เช็ดเลือดจากมุมปากของนางแล้วเงยหน้าขึ้นมองฉินเชียนหลี่ที่กำลังเดินมาหานาง เส้นเลือดแดงใหญ่ปรากฏขึ้นทั้งที่มือและคอ ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงดูราวกับสัตว์ประหลาด“โจมตีเมือง!” หล่างชิ่นออกคำสั่งทันทีพวกนอกด่านดาหน้าบุกเข้ามา และการสู้รบกำลังจะเริ่มต้นขึ้นลั่วชิงยวนป้องกันหอประตูเมืองอย่างประหม่าและไม่มีเวลาดูแลลั่วอวิ๋นสี่ด้านล่างในขณะนั้นเอง ความแข็งแกร่งของฉินเชียนหลี่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งที่มีบาดแผลทั่วร่างแต่กลับมิรู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เขาพุ่งเข้าโจมตีลั่วอวิ๋นสี่อย่างดุเดือดเตี่ยฉุยต้องการลงมือ แต่ลั่วอวิ๋นสี่ปรามเขาไว้ "เจ้าจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 974

    ในระหว่างการสู้รบ หูข้างหนึ่งของหล่างชิ่นถูกตัดออกไปข้างหนึ่งทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกมาปกคลุมใบหน้าของหล่างชิ่นนางมองชายคนนั้นด้วยสายตาหวาดกลัว เขามีแผลเต็มร่าง แต่ยังทรงพลังเพียงนี้สายตาที่แสดงถึงความรุนแรงราวกับจะฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ ทำให้คนมองรู้สึกน่าหลงใหล แต่ก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน"องค์หญิง!"ผู้คนนับมิถ้วนล้อมรอบหล่างชิ่นเอาไว้ พลางยกอาวุธขึ้นและแทงเข้าที่ฉินเชียนหลี่“ช้าก่อน จับเป็นเขาไว้ แล้วส่งเขากลับมาให้ข้า!”นางอดทนกับความเจ็บปวดสาหัส หล่างชิ่นสั่งการอย่างเร่งด่วนแต่ยังมีผู้ที่มิสามารถหยุดได้ทัน ดาบคมแทงเข้าไปที่หลังของฉินเชียนหลี่เสียแล้วเลือดพุ่งทะลักออกมาในการมองเห็นอันพร่ามัวของลั่วชิงยวน นางเห็นร่างของฉินเชียนหลี่ล้มลงจมหายไปในฝูงชนหัวใจของนางสั่นไหว ในใจรู้สึกเศร้าโศกทันทีนางยังมิสามารถช่วยชีวิตของฉินเชียนหลี่ไว้ได้หล่างชิ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และพวกนอกด่านก็ถอนกำลังทหารออกไปทันทีทุกคนที่หอประตูเมืองตกอยู่ภายใต้ความสะบักสะบอมอย่างมาก ร่างกายชโลมไปด้วยเลือดและบาดแผล เมื่อมองไปยังทิศทางที่พวกนอกด่านล่าถอยออกไป พวกเขาต่างก็รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 975

    ในเวลานี้คนส่วนใหญ่ต่างประจำการปกป้องเมือง ดังนั้นลั่วอวิ๋นสี่จึงอาสาไปในเมืองเพื่อหายาและอาหารในตอนกลางคืน สายลมเย็นเยียบได้ปลุกลั่วชิงยวนให้ตื่นขึ้นจากนั้นก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่เดินถือชามบะหมี่เข้ามา“กินเสร็จก็ไปพักผ่อนเสีย ข้าจะคอยดูไว้ให้ เราจะผลัดกันเฝ้ายามเพื่อออมแรงไว้เถิด”“หากเจ้าล้มลงไปคนหนึ่ง ข้าสั่งการทัพมิได้หรอกนะ”ลั่วชิงยวนรับชามไป ก่อนนั่งลงบนพื้นและเริ่มกินหลังจากกินอิ่มแล้วนางก็พิงกำแพงและหลับตาลงพักผ่อนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ นางนอนมิหลับเอาเสียเลย และโดยปกติหากนอนมิสบายเช่นนี้นางจะมิฝันเลยแต่มิรู้เพราะอะไร คราวนี้ฝันถึงฟู่เฉินหวนฝันว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังคงนอนอยู่บนเตียง หมอหลวงเข้ามาในห้องเพื่อรักษาเขา แต่มิสามารถทำอะไรได้ในความฝัน ลั่วชิงยวนกังวลมาก และต้องการวินิจฉัยชีพจรของฟู่เฉินหวนด้วยตัวเอง แต่ถูกคนอื่นขัดขวาง มิสามารถเข้าไปได้หลังตื่นจากความฝัน หัวใจของนางก็หนักอึ้งนางเข้าไปหาเขามิได้จริง ๆ นั่นแหละ ห่างไกลหลายพันลี้ นางจะไปยังเมืองหลวงได้อย่างไร?“เจ้าฝันร้ายหรือ?” ลั่วอวิ๋นสี่มองนางอย่างสงสัยลั่วชิงยวนเช็ดหน้าผากและตระหนักว่านางมี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 976

    เป็นดังคาด ในวันนี้พวกนอกด่านกลับมาบุกอีกครั้งการโจมตีเปิดฉากอีกครั้ง กระหน่ำรุกเข้าใส่เมืองราวกับหักไม้ไผ่อาวุธลับที่ลั่วชิงยวนเตรียมไว้กับคนของนางเริ่มใช้ได้ผล สามารถสกัดกั้นศัตรูส่วนใหญ่ไว้ได้แต่ยังมีพวกนอกด่านมากเกินไป จนแทบรับมือมิไหวพวกเขาพยายามบุกเข้าไปในเมืองด้วยวิธีการต่าง ๆ จนทำให้คนในป้องกันแทบมิทันเป็นอีกวันแห่งการต่อสู้ที่สิ้นหวัง พวกนอกด่านก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล่าถอยไปอีกครั้งแต่พอถึงกลางคืน พวกเขาก็กลับมาอีกยิ่งไปกว่านั้นศัตรูกลุ่มนี้ยังแข็งแกร่งและมีพลังเต็มเปี่ยม ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อพวกของลั่วชิงยวนทันทีที่พวกเขามาถึงพวกมันปีนป่ายกำแพงเมืองเหมือนจิ้งจก มีความคล่องตัวสูงมาก บุกขึ้นหอประตูเมืองอย่างรวดเร็วทหารที่รักษาการณ์เมืองก็ล้มลงทีละคนแม้ลั่วอวิ๋นสี่และเตี่ยฉุยจะทรงพลัง แต่มิสามารถต้านศัตรูทั้งหมดได้ลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ เห็นได้ชัดว่า ศัตรูที่กำลังโจมตีในคืนนี้เป็นกลุ่มที่ต่างออกไป น่าจะเป็นชนเผ่าหลายเผ่าที่ผลัดกันต่อสู้แต่ละเผ่ามีความชำนาญต่างกันไป ความสามารถก็แตกต่างกันไป ในขณะนี้ ศัตรูที่ปีนผาหินและกำแพงได้เหล่านี้ยากที่จะต้านทาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 977

    “ข้าหาเครื่องยาสมุนไพรมิเจอ แต่ข้าเจอเล้าไก่เลยหยิบไข่ออกมาได้หลายสิบฟอง เจ้ากินก่อน หากยังมิพอข้าจะไปเพิ่มให้เจ้าอีกสองฟอง”ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างช่วยมิได้ “แล้วเจ้ากินข้าวหรือยัง?”ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า "ข้ากินแล้ว"จากนั้นลั่วชิงยวนก็เริ่มลงมือกินหลังจากกินอิ่มแล้ว แสงจันทร์ส่องสว่างพอดี นางจึงหยิบเข็มทิศออกไปนั่งสมาธิใต้แสงจันทร์เพื่อดูดซับพลังแห่งฟ้าดินนางทำได้เพียงอาศัยวิธีนี้เพื่อฟื้นฟูพลังให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้…… ที่ธารน้ำเฉี่ยนซี“รายงาน! พวกนอกด่านถอยทัพอีกแล้ว!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ซือซิงก็ตกตะลึง "ถอยทัพอีกแล้วรึ? พวกเขามีกันแค่มิกี่คน จะต้านทานทัพพวกนอกด่านนับหมื่นได้อย่างไรกัน?"ทหารตอบว่า "ข้ามิทราบสถานการณ์แน่ชัด แต่พวกนอกด่านมิสามารถเอาชนะพวกเขาได้จริง ๆ หลายชั่วยามก็ยังตีเมืองเข้าไปมิได้ขอรับ"“และผู้ที่โจมตีเมืองคืนนี้คือเผ่าปีกอินทรี ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เก่งเรื่องการปีนป่ายที่สุด แต่ก็ยังตีมิสำเร็จ”เมื่อซือซิงได้ยินเช่นนี้ก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ "ลั่วชิงยวนมีความสามารถจริง ๆ สมแล้วที่ปลอมแปลงป้ายคำสั่งของมหาราชาจารย์เหยียนได้"นายทหารที่อยู่ด

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status