แชร์

บทที่ 872

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ไม่มี”

“ข้าเพิ่งรู้เบาะแสบางอย่างก็เท่านั้น”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่ลั่วเยวี่ยอิงมิยอมเชื่อง่าย ๆ นางร้องไห้อย่างน้อยใจ และดึงแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนเอาไว้ “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องมิอยากรักษาตาให้หม่อมฉันหรือ”

“หม่อมฉันรู้ว่าที่ผ่านมามันเป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมด หม่อมฉันรู้ว่าตัวเองผิด หม่อมฉันจะมิกล้าอีกแล้ว”

“หากหม่อมฉันตาบอด หม่อมฉันคงมิอาจมีชีวิตอยู่ได้”

“ท่านอ๋องบอกความจริงกับหม่อมฉันเถิดเพคะ หากท่านมิคิดจะรักษาดวงตาของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะไปตายเดี๋ยวนี้เลย”

"จะได้มิต้องให้คนอื่นมารังแกตอนที่หม่อมฉันตาบอด..."

ลั่วเยวี่ยอิงพูดและร้องไห้สะอึกสะอื้นมากขึ้นกว่าเดิม

ลั่วชิงยวนถูกรบกวนจนปวดหัว พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง หยิบถ้วยชาข้างเตียงแล้วขว้างไป

“ถ้าอยากร้องไห้นักก็ออกไปร้องไห้ข้างนอกซะ”

ถ้วยชาแตกลงที่เท้าของลั่วเยวี่ยอิง ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้หนักขึ้นอีก

ฟู่เฉินหวนปวดหัวอย่างหนัก เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้น เขารีบยกมือขึ้นจับหัวตัวเอง

รู้สึกเหมือนมีหนามมากมายแทงเข้าไปในสมองของเขา เจ็บปวดแทบทนมิไหว

หลายครั้งที่เขาอยากจะรับปากลั่วเยวี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 873

    เขาถามอย่างเป็นกังวล “ท่านอ๋อง ท่านจะมิทรงให้หมอหลวงตรวจดูจริง ๆ หรือ?”เหตุการณ์เมื่อครู่ ท่านอ๋องมิเคยเป็นเช่นนี้มาก่อน เหมือนกับกลายเป็นคนละคน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูโหยวก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อยดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ห้ามพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้กับใครทั้งนั้น”“นอกจากเจ้าและเซียวชูแล้ว ข้ามิต้องการให้คนที่สี่รู้เรื่องนี้”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูโหยวก็พยักหน้า“"พ่ะย่ะค่ะ”“แต่ท่านอ๋อง สถานการณ์ของท่านร้ายแรงขนาดนี้ ต้องหาทางแก้ไขพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนหลับตาลงอย่างหนักใจ “แก้มิได้หรอก”ผ่านมาตั้งนานแล้วเขายังมิรู้เลยว่าร่างกายของตัวเองมีปัญหาอะไรครั้งหนึ่งเขาเคยสงสัยด้วยว่า เขาตกหลุมรักลั่วเยวี่ยอิงจริง ๆ หรือไม่แต่เขาคิดว่าการจะรักใครสักคนก็ควรยอมรับข้อบกพร่องทั้งหมดของนางได้ ตอนที่นางทำอะไรมิงามก็มินึกรังเกียจ และมิถือสาเวลาที่นางใช้เล่ห์กลแต่สำหรับลั่วเยวี่ยอิง ​​เขามิสามารถโน้มน้าวตัวเองว่าชอบนางได้เลยเขาเกลียดความเสแสร้งและเล่เหลี่ยมของนางแต่เขาก็เสียสติบ่อยครั้ง ทนมิได้ที่จะมิปกป้องนาง และกังวลเรื่องนางเขารู้สึกว่ามีบางอย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 874

    “หากเจ้าต้องการสนหิมะเขาฉีซาน ก็ไปงานเลี้ยงกับข้า”นี่คือลายมือของฟู่เฉินหวนข่มขู่นางอีกแล้วนางมิรู้ว่าคราวนี้ฟู่เฉินหวนต้องการทำอะไรอีก แต่นางก็ยังตัดสินใจไปด้วยไม่มีทางหลีกหนีได้อยู่ดีแต่คาดมิถึงว่าฟู่เฉินหวนจะพาลั่วเยวี่ยอิงเข้าวังไปด้วยตอนนี้ชื่อเสียงของลั่วเยวี่ยอิงฉาวโฉ่ นางมิรู้ว่าฟู่เฉินหวนพานางมาด้วยเพราะเหตุใด เพียงเพื่อให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาหรืออย่างไรแต่อย่างไรนางก็มิใช่คนที่ถูกหัวร่อใส่อยู่ดี ลั่วชิงยวนจึงมิสนใจวันนี้ลั่วเยวี่ยอิงแต่งตัวงดงาม นางยังสวมอาภรณ์สีสันสดใสที่นางสวมในงานชมบุปผาครั้งก่อน ด้วยความหวังที่จะให้ตัวเองเด่นกว่าลั่วชิงยวนเมื่อเห็นท่าทางภาคภูมิใจของนาง ลั่วชิงยวนรู้สึกขบขันและมิสนใจ สิ่งที่นางต้องการตอนนี้คือสนหิมะเขาฉีซานนางมิอยากเป็นคนไร้ค่าไปตลอดชีวิตหลังจากเข้าไปในวังหลวง มีหลายคนระหว่างทางที่เห็นลั่วเยวี่ยอิงอยู่ข้างกายฟู่เฉินหวน สายตาของพวกเขาแปลกและเต็มไปด้วยการนินทา“มิใช่ว่าก่อนหน้านี้ลั่วเยวี่ยอิงไปยั่วยวนคุณชายสกุลเหยียนหรอกหรือ? หลังจากก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่เช่นนั้นนางกล้าเข้ามาในวังได้อย่างไร?”"ช่างไร้ยางอาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 875

    ในที่สุด สายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่ฟู่เฉินหวน“ท่านดูเหมือนจะมีฝีมือมิธรรมดา สถานะก็มิธรรมดา ข้าหล่างมู่ต้องการท้าทายท่านและหวังว่าจะได้ประลองฝีมือกับท่าน!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนในท้องพระโรงก็ตกตะลึงจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็หัวเราะ“องค์ชายหล่างมู่ เหตุใดมิท้าทายคนอื่นเล่า?”“นี่คืออ๋องผู้สำเร็จราชการแห่งแคว้นเทียนเชวียของเรา ฝีมือของพระองค์เกรงว่าท่านจะรับมือมิไหว”หล่างมู่ยังคงมั่นใจ ยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี ข้ามาที่นี่ก็เพื่อท้าทายคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเทียนเชวียของเจ้า!”คำพูดโอหังนัก!หลายคนคิดว่าองค์ชายหล่างมู่มั่นใจถึงเพียงนี้ ฝีมือก็คงมิธรรมดาฟู่เฉินหวนยืนขึ้นอย่างช้า ๆ และเดินไปที่ท้องพระโรง “เจ้าอยากแข่งขันอย่างไร?”หล่างมู่ตอบว่า “วันนี้เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดิ มิเหมาะที่จะใช้ดาบอาวุธ เรามาประลองมือเปล่ากันดีหรือไม่!”“ตามที่ท่านปรารถนา” ดวงตาของฟู่เฉินหวนสงบนิ่ง มิแสดงอารมณ์ใด ๆจากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กำหมัดแน่น และโจมตีฟู่เฉินหวนทันทีฟู่เฉินหวนเบี่ยงหลบไปด้านข้าง องค์ชายหล่างมู่ยกมือขึ้นฟาดใส่ ฟู่เฉินหวนเอนหลังหลบ ฝีเท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 876

    แววตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา และมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงลั่วเยวี่ยอิงยกยิ้มและเหลือบมองลั่วชิงยวนอย่างยั่วยุ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองนางจงใจทำเช่นนี้!“หืม? ผู้ใดหรือ? มิทราบว่าข้าจะได้ชมความงดงามบ้างหรือไม่!”องค์ชายหล่างมู่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างมากทุกคนในท้องพระโรงมีสีหน้าประหลาดใจ สายตาต่างมองมาที่ลั่วชิงยวนใครจะมิรู้ว่าคนที่ร่ายรำเทพเหมันต์ในเมืองหลวงได้เพียงผู้เดียวนั้นคือแม่นางฝูเสวี่ย พระชายาอ๋องที่นั่งอยู่ที่นี่!ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เย็นชาเช่นกันแต่ลั่วเยวี่ยอิงยังพูดต่อ “นั่นคือพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการของเรา ลั่วชิงยวน!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ องค์ชายหล่างมู่ก็มองลั่วชิงยวน และทำความเคารพอย่างสุภาพ เขาพูดว่า “มิทราบว่าวันนี้ข้าจะขอให้พระชายาร่ายรำเทพเหมันต์เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของข้าที่เดินทางมาหลายพันลี้ได้หรือไม่!”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชา มิอยากตอบตกลงความปรารถนาของเขาเกี่ยวอะไรกับนางด้วยเล่านอกจากนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ จะให้นางซึ่งเป็นถึงพระชายาอ๋องร่ายรำต่อหน้าคนจากเผ่าอนารยะได้เช่นไร“ท่านอ๋อง มิทราบว่าจะขอให้พระชายาร่ายรำเทพเหมันต์ได้หร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 877

    “ขึ้นอยู่กับการแสดงของเจ้า”คำพูดเย็นชาเหล่านั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดในใจลั่วชิงยวนยืนขึ้นและเดินเข้าไปในท้องพระโรงสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวน นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ฝูเสวี่ยร่ายรำเทพเหมันต์หลังจากเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของนางนอกจากนี้ยังมีผู้คนที่เคยชมการร่ายรำเทพเหมันต์ที่หอฝูเสวี่ยแต่ความรู้สึกแตกต่างไปจากครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณ ท่านอ๋อง!” องค์ชายหล่างมู่ก็แสดงความเคารพต่อฟู่เฉินหวนด้วยความตื่นเต้นทำให้บรรยากาศยิ่งซับซ้อนและยากจะอธิบายยิ่งขึ้นฟู่จิ่งหลีกล่าวอย่างรวดเร็ว “นี่มิใช่เพื่อให้องค์ชายหล่างมู่พอใจ แต่องค์จักรพรรดิมิเคยเห็นการระบำเทพเหมันต์ ท่านอ๋องเพียงต้องการใช้สิ่งนี้แสดงความยินดีกับองค์จักรพรรดิเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพก็เท่านั้น"ฟู่จิ่งหานที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดทันที “ใช่! ข้าเคยได้ยินเรื่องระบำเทพเหมันต์มานานแล้วแต่มิเคยเห็นมาก่อน"“ของขวัญจากอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาในวันนี้ ข้าพอใจมาก!”คนอื่น ๆ ก็พากันเห็นด้วย ทำให้ความหมายของการร่ายรำนี้ถูกดึงกลับมาเมื่อเสียงเพลงดังขึ้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มร่ายรำแม้ว่านางจะรู้ทุกย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 878

    ฟู่เฉินหวนหันไปมองนางเมื่อมองดูสายตาของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนาวสั่นในใจ“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาหัวใจของฟู่เฉินหวนสับสน แต่มิกล้าแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย น้ำเสียงของเขาสงบและเย็นชา ปราศจากความอบอุ่นโดยสิ้นเชิงสายตาของเขาก็เย็นชาเช่นกัน“อย่างไรก็ไม่มีอะไร เจ้าไปพักสักสองวันก็มิเป็นอะไรหรอก”ดวงตาของลั่วชิงยวนแดงก่ำทันที “มิเป็นอะไรหรือ?”นางหัวเราะกับตัวเอง “ก็ดี ถ้ามิเป็นอะไร”จากนั้นดวงตาของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ในเมื่อท่านอ๋องทรงคิดว่ามันมิเป็นไรจริง ๆ เช่นนั้นก็มิเป็นไร”“หม่อมฉันจะไป”ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา องค์ชายหล่างมู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “เยี่ยมมาก! ขอขอบคุณท่านอ๋องที่ยอมเสียสละ!”คำพูดเหล่านี้เปลี่ยนการแสดงออกของฟู่เฉินหวนทันทีฟู่จิ่งหลีกังวล และรีบพูดว่า “นี่ นี่ นี่ นี่มิเรียกว่าการเสียสละ พระชายาเพียงไปฝึกทักษะดนตรี นางยังคงเป็นพระชายาอ๋องอยู่!"องค์ชายหล่างมู่ยิ้มอย่างเชื่องช้า “ใช่ ใช่ ใช่ ข้าพูดผิดไปเอง”จากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กลับไปนั่งลงที่เดิมทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ มีการร้องเพลง ร่ายรำในวังห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 879

    ลั่วชิงยวนติดตามองค์ชายหล่างมู่และองค์หญิงหล่างชิ่นออกจากวังหลวง ขึ้นรถม้า และมุ่งหน้าไปยังที่พักของพวกเขาระหว่างทาง องค์ชายหล่างมู่เยินยอลั่วชิงยวนหลายครั้ง แต่ลั่วชิงยวนเพียงยิ้มเบา ๆ และมิตอบอะไรกลับไปหล่างชิ่นยังกล่าวอีกว่า “พระชายา เจ้าเป็นสตรีที่สวยที่สุดที่ข้าเคยเห็นในแคว้นเทียนเชวีย! เจ้างดงาม อ๋องผู้สำเร็จราชการมิคู่ควรกับท่าน เหตุใดมิไปกับเราที่เผ่านอกด่านเล่า เจ้าจะกลายเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเผ่านอกด่านของเราอย่างแน่นอน!”ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ “ขอบพระทัยองค์หญิงหล่างชิ่นสำหรับความมีน้ำพระทัยของท่าน แต่หม่อมฉันเกิดและโตที่นี่ ที่นี่คือบ้านของหม่อมฉัน”“ก็ได้ เราจะมิบังคับ” หล่างชิ่นมิได้พูดอะไรมากเมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่หล่างชิ่นและคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ มันเป็นบ้านธรรมดา ๆ ดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่พวกเขาเช่าชั่วคราวเมื่อมาถึงเมืองหลวงในจวนมีทหารองครักษ์ประมาณสามสิบถึงสี่สิบนาย คงเป็นพวกที่ตามมาด้วยในหมู่พวกเขายังมีสตรีสองสามคน ดูเหมือนจะเป็นนางรับใช้ทุกคนสุภาพต่อลั่วชิงยวนมาก และยังแบ่งปันอาหารอันโอชะของเผ่านอกด่านกับลั่วชิงยวนอีกด้วยแม้ว่าพวกเขาจะใจดีมากแต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 880

    หล่างชิ่นกล่าวว่า “แยกกันปฏิบัติการ ต้องสืบให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนคุ้มกันเบี้ยหวัดทหาร และเส้นทางที่พวกเขาใช้ด้วย”“คราวนี้ ข้าจะทำให้ฉินเชียนหลี่ตายอย่างไร้ที่ฝัง!”น้ำเสียงที่โหดเหี้ยมอย่างยิ่งทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้านเบี้ยหวัดทหาร?พวกเขากำลังหมายตาเบี้ยหวัดทหารจริง ๆเป้าหมายคือฉินเชียนหลี่!นางว่าแล้ว คนเหล่านี้จะประพฤติตนนอบน้อมเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเข่นฆ่าผู้คนราวกับผักปลา?ดูเหมือนวันนี้ที่แกล้งแสดงความสามารถในท้องพระโรงแล้วพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชให้กับฟู่เฉินหวนก็เป็นการแกล้งทำตัวให้อ่อนแอ เพื่อให้พวกเขาประมาทชายแดนอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ การสื่อสารช้าอยู่แล้วหากมีการแทรกแซงข่าวกรองอีก ฉินเชียนหลี่จะตกอยู่ในอันตราย และทางราชสำนักอาจมิสามารถให้ความช่วยเหลือทันเวลา!ลั่วชิงยวนมิกล้าคิดไปไกลกว่านี้ตอนนี้นางรู้สึกขนหัวลุกทันใดนั้นก็มีแมวป่าตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากมุมห้องส่งเสียงร้องออกมาจู่ ๆ ห้องก็เงียบลงหัวใจของลั่วชิงยวนเต้นตุบ ขยับเท้าแต่ละก้าวย่างอย่างระมัดระวังเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้ามินานประตูก็เปิดออกคนข้างในออกมาตรวจสอบอาศัยประโ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1293

    นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมิพอใจนางเป็นถึงองค์หญิง ความรักของนางนั้นสูงส่งยิ่งนัก เฉินชีควรจะคุกเข่ารับมันไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนางอย่างเย็นชา! มิหนำซ้ำยังทำให้นางอับอายขายหน้าอีกด้วย!นางมิพอใจและมิเต็มใจอย่างยิ่งเฉินชียิ่งเป็นแบบนี้ นางก็ยิ่งอยากเอาชนะเขาให้ได้!เฉินชีมองนางด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจแต่เขาก็ยังคงแย่งกระบี่ในมือเกาเหมียวเหมี่ยวมา แล้วกดศีรษะของนางลง ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากของนางอย่างมิลังเลหัวใจของเกาเหมียวเหมี่ยวเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมาจากอกของนางจูบของเฉินชีนั้นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างมิอาจต้านทานได้เกาเหมียวเหมี่ยวถูกจูบจนหมดแรง แทบจะทรุดตัวลงแต่ในขณะที่นางคิดว่าเฉินชีจะทำอะไรต่อไป เฉินชีกลับผลักนางออกอย่างแรงไร้ซึ่งความปรานีก่อนเดินจากไปอย่างสง่างามโดยมิแม้แต่จะหันมามองนางด้วยซ้ำเกาเหมียวเหมี่ยวล้มลงนั่งกับพื้นพลางมองแผ่นหลังของเฉินชีด้วยความตกตะลึงเสียงเย็นชาของเฉินชีดังขึ้นว่า “สิ่งที่ท่านให้ข้าทำ ข้าทำแล้ว เรื่องนี้จบแค่นี้”“หากท่านยังคงใช้เรื่องนี้มาขู่ข้าอีก ข้าจะมิเกรงใจท่านแน่”เฉินชีเดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1289

    "ตอนนี้มิว่าท่านจะตรัสอะไรไปก็ไร้ประโยชน์”“ไม่มีใครสนใจหรอกเพคะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของฉินอี้และฮองเฮาเกาก็เปลี่ยนไปฮองเฮาเกาจ้องนางด้วยสายตาดุร้ายนางยิ้มเยาะ “ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ? อย่าลืมที่ข้าพูดไว้สิว่า หากเจ้าพูดข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย!”จากนั้นนางก็ส่งสายตาเป็นนัยให้องครักษ์องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งจับไหล่ของลั่วชิงยวน อีกคนหยิบมีดขึ้นมาเตรียมตัวพร้อมลงมือฉินอี้ตกใจและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรดีลั่วชิงยวนยังมิยอมแพ้ รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง “องค์ชายใหญ่ทรงเคยคิดหรือไม่เพคะว่าเหตุใดวรยุทธ์ของท่านถึงหยุดนิ่งมิพัฒนาไปไหน?”“เหตุใดถึงเรียนรู้ได้ช้า แม้จะทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า แต่ก็ยังมิสามารถเรียนรู้ได้เท่ากับที่คนอื่นทำได้”“นั่นมีเหตุผลอยู่เพคะ”“ที่จริงแล้ว ทั้งหมดมิใช่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาเพคะ”“แต่มีพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า…”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฉินอี้ก็ตกใจเป็นอย่างมากฮองเฮาเการีบกระชับเสื้อของนางด้วยความกังวล สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูดออกมาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status