แชร์

บทที่ 878

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนหันไปมองนาง

เมื่อมองดูสายตาของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนาวสั่นในใจ

“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชา

หัวใจของฟู่เฉินหวนสับสน แต่มิกล้าแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย น้ำเสียงของเขาสงบและเย็นชา ปราศจากความอบอุ่นโดยสิ้นเชิง

สายตาของเขาก็เย็นชาเช่นกัน

“อย่างไรก็ไม่มีอะไร เจ้าไปพักสักสองวันก็มิเป็นอะไรหรอก”

ดวงตาของลั่วชิงยวนแดงก่ำทันที “มิเป็นอะไรหรือ?”

นางหัวเราะกับตัวเอง “ก็ดี ถ้ามิเป็นอะไร”

จากนั้นดวงตาของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ในเมื่อท่านอ๋องทรงคิดว่ามันมิเป็นไรจริง ๆ เช่นนั้นก็มิเป็นไร”

“หม่อมฉันจะไป”

ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา องค์ชายหล่างมู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “เยี่ยมมาก! ขอขอบคุณท่านอ๋องที่ยอมเสียสละ!”

คำพูดเหล่านี้เปลี่ยนการแสดงออกของฟู่เฉินหวนทันที

ฟู่จิ่งหลีกังวล และรีบพูดว่า “นี่ นี่ นี่ นี่มิเรียกว่าการเสียสละ พระชายาเพียงไปฝึกทักษะดนตรี นางยังคงเป็นพระชายาอ๋องอยู่!"

องค์ชายหล่างมู่ยิ้มอย่างเชื่องช้า “ใช่ ใช่ ใช่ ข้าพูดผิดไปเอง”

จากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กลับไปนั่งลงที่เดิม

ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ มีการร้องเพลง ร่ายรำในวังห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 879

    ลั่วชิงยวนติดตามองค์ชายหล่างมู่และองค์หญิงหล่างชิ่นออกจากวังหลวง ขึ้นรถม้า และมุ่งหน้าไปยังที่พักของพวกเขาระหว่างทาง องค์ชายหล่างมู่เยินยอลั่วชิงยวนหลายครั้ง แต่ลั่วชิงยวนเพียงยิ้มเบา ๆ และมิตอบอะไรกลับไปหล่างชิ่นยังกล่าวอีกว่า “พระชายา เจ้าเป็นสตรีที่สวยที่สุดที่ข้าเคยเห็นในแคว้นเทียนเชวีย! เจ้างดงาม อ๋องผู้สำเร็จราชการมิคู่ควรกับท่าน เหตุใดมิไปกับเราที่เผ่านอกด่านเล่า เจ้าจะกลายเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเผ่านอกด่านของเราอย่างแน่นอน!”ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ “ขอบพระทัยองค์หญิงหล่างชิ่นสำหรับความมีน้ำพระทัยของท่าน แต่หม่อมฉันเกิดและโตที่นี่ ที่นี่คือบ้านของหม่อมฉัน”“ก็ได้ เราจะมิบังคับ” หล่างชิ่นมิได้พูดอะไรมากเมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่หล่างชิ่นและคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ มันเป็นบ้านธรรมดา ๆ ดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่พวกเขาเช่าชั่วคราวเมื่อมาถึงเมืองหลวงในจวนมีทหารองครักษ์ประมาณสามสิบถึงสี่สิบนาย คงเป็นพวกที่ตามมาด้วยในหมู่พวกเขายังมีสตรีสองสามคน ดูเหมือนจะเป็นนางรับใช้ทุกคนสุภาพต่อลั่วชิงยวนมาก และยังแบ่งปันอาหารอันโอชะของเผ่านอกด่านกับลั่วชิงยวนอีกด้วยแม้ว่าพวกเขาจะใจดีมากแต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 880

    หล่างชิ่นกล่าวว่า “แยกกันปฏิบัติการ ต้องสืบให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนคุ้มกันเบี้ยหวัดทหาร และเส้นทางที่พวกเขาใช้ด้วย”“คราวนี้ ข้าจะทำให้ฉินเชียนหลี่ตายอย่างไร้ที่ฝัง!”น้ำเสียงที่โหดเหี้ยมอย่างยิ่งทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้านเบี้ยหวัดทหาร?พวกเขากำลังหมายตาเบี้ยหวัดทหารจริง ๆเป้าหมายคือฉินเชียนหลี่!นางว่าแล้ว คนเหล่านี้จะประพฤติตนนอบน้อมเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเข่นฆ่าผู้คนราวกับผักปลา?ดูเหมือนวันนี้ที่แกล้งแสดงความสามารถในท้องพระโรงแล้วพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชให้กับฟู่เฉินหวนก็เป็นการแกล้งทำตัวให้อ่อนแอ เพื่อให้พวกเขาประมาทชายแดนอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ การสื่อสารช้าอยู่แล้วหากมีการแทรกแซงข่าวกรองอีก ฉินเชียนหลี่จะตกอยู่ในอันตราย และทางราชสำนักอาจมิสามารถให้ความช่วยเหลือทันเวลา!ลั่วชิงยวนมิกล้าคิดไปไกลกว่านี้ตอนนี้นางรู้สึกขนหัวลุกทันใดนั้นก็มีแมวป่าตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากมุมห้องส่งเสียงร้องออกมาจู่ ๆ ห้องก็เงียบลงหัวใจของลั่วชิงยวนเต้นตุบ ขยับเท้าแต่ละก้าวย่างอย่างระมัดระวังเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้ามินานประตูก็เปิดออกคนข้างในออกมาตรวจสอบอาศัยประโ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 881

    มิได้! นางสูญเสียวรยุทธทั้งหมดไปแล้วดังนั้นนางมิควรอยู่ที่นี่นาน!นางลุกขึ้นเปิดประตู ตั้งใจจะออกไปแต่ทว่าทันทีที่ประตูเปิด หล่างมู่กลับยืนอยู่ที่นอกประตูภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้านั้นมีความโหดเหี้ยมที่มิเคยปรากฏในตอนกลางวันแสดงออกมา“พระชายา ดึกดื่นเช่นนี้เจ้าจะไปที่ใดหรือ?”หล่างมู่เดินเข้ามาในห้อง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวนด้วยจิตสังหารรุนแรงหัวใจของลั่วชิงยวนบีบรัด แต่นางก็ยังคงสงบและพูดอย่างมิพอใจ “องค์ชายหล่างมู่เฝ้าอยู่นอกห้องของหม่อมฉันหรือ? ท่านคิดจะทำอะไร?"“หม่อมฉันแค่มาเยี่ยมในฐานะแขก มิใช่นักโทษที่ถูกกักขัง”หล่างมู่ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว บังคับให้ลั่วชิงยวนต้องล่าถอยไปทีละก้าวเขามองนางด้วยสายตาคมกริบ “พระชายา คืนนี้เจ้าได้ยินสิ่งใดบ้าง?”สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป “ว่ากระไรนะเพคะ?”หล่างมู่มองลงไปที่เท้าของนางอย่างมีนัยแล้วพูดว่า “รองเท้าของพระชายาเปื้อนโคลน และยังมีใบไม้ติดอยู่ด้วย”“หรือพระชายาตื่นตระหนกมากไปตอนหนี ถึงได้ไม่มีเวลาทำความสะอาดรองเท้ารึ?”ลั่วชิงยวนรู้สึกหายใจมิออก และมิกล้าก้มลงมองนางเพียงพูดเสียงเย็นว่า "บ้านหลังนี้มีใบไม้ร่วงอยู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 882

    อาภรณ์ฉีกขาด และแขนของลั่วชิงยวนสัมผัสกับอากาศทันที ความหนาวเย็นกระทบเข้ามาความหวาดกลัวเย็นยะเยือกแผ่ซ่านส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ผิวทุกตารางนิ้วตึงเครียดหล่างมู่คว้าเศษผ้าที่ฉีกขาดแล้วพันแผลบนฝ่ามืออย่างแน่นหนาลั่วชิงยวนใช้โอกาสลุกขึ้นและพุ่งไปที่ประตู พยายามหลบหนีออกไปแต่เมื่อนางวิ่งไปที่ประตู กลับถูกหล่างมู่ดึงกลับไปอย่างแรงพลังนั้นแข็งแกร่งมากจนลั่วชิงยวนรู้สึกเหมือนกระดูกที่ไหล่ของนางกำลังจะแหลกสลายนี่มิเหมือนกับวรยุทธที่เขาใช้ตอนที่เขาพ่ายแพ้ให้กับฟู่เฉินหวนแท้จริงแล้วทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก เป็นการแสดงทั้งสิ้น!พลังที่แข็งแกร่งเหวี่ยงลั่วชิงยวนลงไปที่พื้นอย่างแรงทันใดนั้น ร่างกายของนางก็รู้สึกเหมือนแตกสลาย กระดูกส่งเสียง และความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แผ่ไปทั่วร่างกาย ทำให้นางมิสามารถลุกขึ้นได้เลือดพุ่งออกมาจากปากร่างกายของนางรู้สึกราวกับโดนก้อนหินขนาดใหญ่หล่นทับ กระดูกของนางก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากการกระแทก มีเลือดไหลอาบลั่วชิงยวนเจ็บปวดและร่างกายสั่นสะท้าน มิสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้แม้แต่น้อยพลังและกำลังภายในนี้ อย่างน้อยก็มากกว่าเซียวชูและคนอื่น ๆลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 883

    “เจ้ากล้ารังแกท่านแม่ข้ารึ?! รนหาที่ตาย!”ร่างของหล่างมู่ลอยออกไปกระแทกกำแพงอย่างรุนแรงด้วยเสียงปัง กำแพงก็พังทลายลงมาลั่วอวิ๋นสี่ลงจากหลังคามาที่พื้นทันที ช่วยพยุงลั่วชิงยวนให้ลุกขึ้น “เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนมองดูการเคลื่อนไหว โดยคิดว่าหล่างชิ่นคงจะกลับมาในมิช้านี้ และพูดอย่างกังวลใจ “รีบไปเร็ว"“พาเซียวชูไปด้วย!”ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเซียวชู แต่เซียวชูสลบไปแล้ว และลั่วอวิ๋นสี่ก็มิสามารถช่วยพยุงเขาได้ลั่วชิงยวนตะโกน “เตี่ยฉุย มาช่วยข้าด้วย!”เตี่ยฉุยกลับมาที่ร่างของลั่วอวิ๋นสี่ทันที จับเซียวชูขึ้นมา จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่ออุ้มลั่วชิงยวน และใช้วิชาตัวเบาบินออกไปลั่วชิงยวนกระอักเป็นเลือดหลายครั้งในระหว่างทาง ลั่วอวิ๋นสี่กังวลเป็นอย่างมากนางพาลั่วชิงยวนกลับไปยังตำหนักอ๋องทันที ไม่มีเวลาเรียกหาใครด้วยซ้ำ เช่นนั้นนางจึงไปหาซ่งเชียนฉู่ทันที“เจ้าต้องทนไว้นะ!”ในสวนจือเฉาได้ยินเสียงจึงเข้ามา เมื่อนางเห็นร่างพระชายาอาบไปด้วยเลือด นางก็ตกใจมากจนแทบเสียสติ“พระชายา! พระชายา!”จือเฉาวิ่งออกไปทันทีและตะโกน “ใครก็ได้! ใครก็ได้!”ลั่วชิงยวนถูกอุ้มก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 884

    “ไสหัวไป!”เขาหันหลังกลับและเดินออกจากลานทันที“ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง!”ซูโหยวตกใจ รีบวิ่งตามเขาไปทันทีซ่งเชียนฉู่นั่งอยู่บนพื้น รู้สึกสิ้นหวังมาก นางได้ลองทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่มีทางป้องกันอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้ ตอนนี้อาการบาดเจ็บของลั่วชิงยวนแย่ลง และชีวิตของนางแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะมีวิธีไหนอีกที่จะสามารถช่วยนางได้?ดูจากท่าทางของฟู่เฉินหวนแล้วคงจะมิยอมมอบสนหิมะเขาฉีซานให้นางแน่ลั่วเยวี่ยอิงก้มหน้าลงมองไปที่ซ่งเชียนฉู่ นางแอบหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่หญิงของหม่อมฉันได้รับบาดเจ็บหรือ?"“พี่หญิงของหม่อมฉันมีวรยุทธแข็งแกร่งมิใช่หรือ? นางได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”“ท่านอ๋องวางพระทัยเถิดเพคะ พี่หญิงจะต้องดีขึ้นแน่”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกภูมิใจ นางมิคิดว่าแผนการครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นนางมิเชื่อว่าคราวนี้ลั่วชิงยวนจะยังมีชีวิตรอดไปได้แต่ทว่าสิ่งที่นางมิเคยคาดคิดก็คือ หลังจากนั้นมินานฟู่เฉินหวนก็รีบกลับมาอีกครั้งเขาหยิบกล่องผ้าปักมาแล้วมอบให้ซ่งเชียนฉู่“ช่วยรักษานางอย่างเต็มที่ด้วย!”ซ่งเชียนฉู่ตกใจและรีบหยิบกล่องผ้าไปเปิดออก ก่อนจะเห็นว่าเป็นสนหิมะเขาฉีซานนางรู้สึกม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 885

    ซ่งเชียนฉู่กังวลมากลั่วชิงยวนมองไปที่หลังคาแล้วพูดว่า "อุดอู้เกินไป เจาะรูให้ข้าหน่อย"ซ่งเชียนฉู่ตกใจเล็กน้อย มองขึ้นไปแล้วพยักหน้า “ได้สิ”จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็สั่งให้คนยกกระเบื้องหลังคาบางส่วนออกทันที เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่พระอาทิตย์ส่องแสงเข้ามา ตกกระทบไปที่ร่างกายและใบหน้าของลั่วชิงยวนนางหลับตาลง เพลิดเพลินกับความอบอุ่นที่หาได้ยากนี้ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงข้างนอกเบา ๆ นางจึงถามขึ้นว่า “ลั่วเยวี่ยอิงอยู่ข้างนอกหรือ?”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “เอะอะมานานแล้ว”“มิต้องห่วง ข้ามิให้นางเข้ามาได้หรอก”“ข้าเรียกเฉินเซี่ยวหานและองค์ชายเจ็ดแล้ว ข้ามิเชื่อว่าลั่วเยวี่ยอิงจะกล้าทำอะไร”“เพียงแต่บาดแผลของท่าน ข้า...”นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งเชียนฉู่มิมั่นใจลั่วชิงยวนกล่าวว่า “มิเป็นไร ข้าจะดีขึ้นเอง”“อาจต้องใช้เวลาสี่ห้าวันเพื่อซ่อมแซมเส้นลมปราณ”สำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับการพยายามครั้งนี้!จะฟื้นฟูวรยุทธและก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นหรือจะกลายเป็นคนไร้ค่าไปเลยซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “ได้ ข้าจะเฝ้าอยู่นอกประตู”หลังจากปิดประตูแล้วลั่วชิงยวนก็หยิบเข็มทิศออกมานางวางเข็มทิศไว้ที่หน้าอก เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 886

    ภายในห้องฟู่เฉินหวนสวมอาภรณ์ขาวบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดซูโหยวส่งยาไปให้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งว่า “ท่านอ๋อง หรือว่าเราไปขอให้แม่นางซ่งช่วยดูให้หน่อยดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านกระอักเลือดมาหลายวันแล้ว ต่อให้ร่างกายแข็งแรงแค่ไหนก็ทนมิไหวหรอกพ่ะย่ะค่ะ”มิเคยเห็นท่านอ๋องซีดเซียวอ่อนแอเช่นนี้มาก่อนเลยฟู่เฉินหวนรับถ้วยยามา แล้วค่อย ๆ กินยาในถ้วยจนหมดมือที่ซีดเซียวเช็ดมุมปาก และกล่าวถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “มีข่าวคราวของพวกชาวเผ่านอกด่านบ้างหรือไม่?”ซูโหยวส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหนีไปตั้งแต่คืนที่พระชายาเกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ตอนนี้มิน่าจะอยู่ในเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่มีบันทึกการออกเมืองของพวกเขา มิรู้ว่าออกเมืองไปได้อย่างไร”“แต่กระหม่อมคิดว่า ต้องมีคนช่วยพวกเขาอยู่เบื้องหลังเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เย็นชาลงเล็กน้อย และน้ำเสียงก็เย็นชาลง “สืบต่อไป”“ชาวเผ่านอกด่านพวกนี้มาเร็วไปเร็ว เป็นไปมิได้ที่พวกเขาจะมาเพื่อฆ่าลั่วชิงยวนเท่านั้น”“ติดต่อฉินเชียนหลี่ด้วย ถามเขาว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร”ซูโหยวรับคำ “พ่ะย่ะค่ะ”…

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1293

    นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมิพอใจนางเป็นถึงองค์หญิง ความรักของนางนั้นสูงส่งยิ่งนัก เฉินชีควรจะคุกเข่ารับมันไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนางอย่างเย็นชา! มิหนำซ้ำยังทำให้นางอับอายขายหน้าอีกด้วย!นางมิพอใจและมิเต็มใจอย่างยิ่งเฉินชียิ่งเป็นแบบนี้ นางก็ยิ่งอยากเอาชนะเขาให้ได้!เฉินชีมองนางด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจแต่เขาก็ยังคงแย่งกระบี่ในมือเกาเหมียวเหมี่ยวมา แล้วกดศีรษะของนางลง ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากของนางอย่างมิลังเลหัวใจของเกาเหมียวเหมี่ยวเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมาจากอกของนางจูบของเฉินชีนั้นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างมิอาจต้านทานได้เกาเหมียวเหมี่ยวถูกจูบจนหมดแรง แทบจะทรุดตัวลงแต่ในขณะที่นางคิดว่าเฉินชีจะทำอะไรต่อไป เฉินชีกลับผลักนางออกอย่างแรงไร้ซึ่งความปรานีก่อนเดินจากไปอย่างสง่างามโดยมิแม้แต่จะหันมามองนางด้วยซ้ำเกาเหมียวเหมี่ยวล้มลงนั่งกับพื้นพลางมองแผ่นหลังของเฉินชีด้วยความตกตะลึงเสียงเย็นชาของเฉินชีดังขึ้นว่า “สิ่งที่ท่านให้ข้าทำ ข้าทำแล้ว เรื่องนี้จบแค่นี้”“หากท่านยังคงใช้เรื่องนี้มาขู่ข้าอีก ข้าจะมิเกรงใจท่านแน่”เฉินชีเดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status