Share

บทที่ 881

Author: หว่านชิงอิ๋น
มิได้! นางสูญเสียวรยุทธทั้งหมดไปแล้วดังนั้นนางมิควรอยู่ที่นี่นาน!

นางลุกขึ้นเปิดประตู ตั้งใจจะออกไป

แต่ทว่าทันทีที่ประตูเปิด หล่างมู่กลับยืนอยู่ที่นอกประตู

ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้านั้นมีความโหดเหี้ยมที่มิเคยปรากฏในตอนกลางวันแสดงออกมา

“พระชายา ดึกดื่นเช่นนี้เจ้าจะไปที่ใดหรือ?”

หล่างมู่เดินเข้ามาในห้อง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวนด้วยจิตสังหารรุนแรง

หัวใจของลั่วชิงยวนบีบรัด แต่นางก็ยังคงสงบและพูดอย่างมิพอใจ “องค์ชายหล่างมู่เฝ้าอยู่นอกห้องของหม่อมฉันหรือ? ท่านคิดจะทำอะไร?"

“หม่อมฉันแค่มาเยี่ยมในฐานะแขก มิใช่นักโทษที่ถูกกักขัง”

หล่างมู่ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว บังคับให้ลั่วชิงยวนต้องล่าถอยไปทีละก้าว

เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ “พระชายา คืนนี้เจ้าได้ยินสิ่งใดบ้าง?”

สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป “ว่ากระไรนะเพคะ?”

หล่างมู่มองลงไปที่เท้าของนางอย่างมีนัยแล้วพูดว่า “รองเท้าของพระชายาเปื้อนโคลน และยังมีใบไม้ติดอยู่ด้วย”

“หรือพระชายาตื่นตระหนกมากไปตอนหนี ถึงได้ไม่มีเวลาทำความสะอาดรองเท้ารึ?”

ลั่วชิงยวนรู้สึกหายใจมิออก และมิกล้าก้มลงมอง

นางเพียงพูดเสียงเย็นว่า "บ้านหลังนี้มีใบไม้ร่วงอยู่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Jaruwan
ไอ้อ๋องชั่วนั่นมันจะรู้มั้ยว่าทำความลำบากให้เมียขนาดไหน มันคงอยากให้เมียมันเป็นของมือสองมั้ง แม่งเอ๊ย!
goodnovel comment avatar
Nira Ho
เหมือนกัน อยากแต่งเรื่องต่อเองจังให้พระเอก ตายโดนนางเอกฆ่าตายยิ่งดี555
goodnovel comment avatar
Nira Ho
เมื่อไหร่ พระเอกจะตายสักที รำคาญมากปัญญาอ่อน ทำร้ายนาวเอกตลอดเวลา ตอนจบขอให้ฌดนนางเอกทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใย คนแบบนี้สำควรโดน ตืบ555
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 882

    อาภรณ์ฉีกขาด และแขนของลั่วชิงยวนสัมผัสกับอากาศทันที ความหนาวเย็นกระทบเข้ามาความหวาดกลัวเย็นยะเยือกแผ่ซ่านส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ผิวทุกตารางนิ้วตึงเครียดหล่างมู่คว้าเศษผ้าที่ฉีกขาดแล้วพันแผลบนฝ่ามืออย่างแน่นหนาลั่วชิงยวนใช้โอกาสลุกขึ้นและพุ่งไปที่ประตู พยายามหลบหนีออกไปแต่เมื่อนางวิ่งไปที่ประตู กลับถูกหล่างมู่ดึงกลับไปอย่างแรงพลังนั้นแข็งแกร่งมากจนลั่วชิงยวนรู้สึกเหมือนกระดูกที่ไหล่ของนางกำลังจะแหลกสลายนี่มิเหมือนกับวรยุทธที่เขาใช้ตอนที่เขาพ่ายแพ้ให้กับฟู่เฉินหวนแท้จริงแล้วทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก เป็นการแสดงทั้งสิ้น!พลังที่แข็งแกร่งเหวี่ยงลั่วชิงยวนลงไปที่พื้นอย่างแรงทันใดนั้น ร่างกายของนางก็รู้สึกเหมือนแตกสลาย กระดูกส่งเสียง และความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แผ่ไปทั่วร่างกาย ทำให้นางมิสามารถลุกขึ้นได้เลือดพุ่งออกมาจากปากร่างกายของนางรู้สึกราวกับโดนก้อนหินขนาดใหญ่หล่นทับ กระดูกของนางก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากการกระแทก มีเลือดไหลอาบลั่วชิงยวนเจ็บปวดและร่างกายสั่นสะท้าน มิสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้แม้แต่น้อยพลังและกำลังภายในนี้ อย่างน้อยก็มากกว่าเซียวชูและคนอื่น ๆลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 883

    “เจ้ากล้ารังแกท่านแม่ข้ารึ?! รนหาที่ตาย!”ร่างของหล่างมู่ลอยออกไปกระแทกกำแพงอย่างรุนแรงด้วยเสียงปัง กำแพงก็พังทลายลงมาลั่วอวิ๋นสี่ลงจากหลังคามาที่พื้นทันที ช่วยพยุงลั่วชิงยวนให้ลุกขึ้น “เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนมองดูการเคลื่อนไหว โดยคิดว่าหล่างชิ่นคงจะกลับมาในมิช้านี้ และพูดอย่างกังวลใจ “รีบไปเร็ว"“พาเซียวชูไปด้วย!”ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเซียวชู แต่เซียวชูสลบไปแล้ว และลั่วอวิ๋นสี่ก็มิสามารถช่วยพยุงเขาได้ลั่วชิงยวนตะโกน “เตี่ยฉุย มาช่วยข้าด้วย!”เตี่ยฉุยกลับมาที่ร่างของลั่วอวิ๋นสี่ทันที จับเซียวชูขึ้นมา จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่ออุ้มลั่วชิงยวน และใช้วิชาตัวเบาบินออกไปลั่วชิงยวนกระอักเป็นเลือดหลายครั้งในระหว่างทาง ลั่วอวิ๋นสี่กังวลเป็นอย่างมากนางพาลั่วชิงยวนกลับไปยังตำหนักอ๋องทันที ไม่มีเวลาเรียกหาใครด้วยซ้ำ เช่นนั้นนางจึงไปหาซ่งเชียนฉู่ทันที“เจ้าต้องทนไว้นะ!”ในสวนจือเฉาได้ยินเสียงจึงเข้ามา เมื่อนางเห็นร่างพระชายาอาบไปด้วยเลือด นางก็ตกใจมากจนแทบเสียสติ“พระชายา! พระชายา!”จือเฉาวิ่งออกไปทันทีและตะโกน “ใครก็ได้! ใครก็ได้!”ลั่วชิงยวนถูกอุ้มก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 884

    “ไสหัวไป!”เขาหันหลังกลับและเดินออกจากลานทันที“ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง!”ซูโหยวตกใจ รีบวิ่งตามเขาไปทันทีซ่งเชียนฉู่นั่งอยู่บนพื้น รู้สึกสิ้นหวังมาก นางได้ลองทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่มีทางป้องกันอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้ ตอนนี้อาการบาดเจ็บของลั่วชิงยวนแย่ลง และชีวิตของนางแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะมีวิธีไหนอีกที่จะสามารถช่วยนางได้?ดูจากท่าทางของฟู่เฉินหวนแล้วคงจะมิยอมมอบสนหิมะเขาฉีซานให้นางแน่ลั่วเยวี่ยอิงก้มหน้าลงมองไปที่ซ่งเชียนฉู่ นางแอบหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่หญิงของหม่อมฉันได้รับบาดเจ็บหรือ?"“พี่หญิงของหม่อมฉันมีวรยุทธแข็งแกร่งมิใช่หรือ? นางได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”“ท่านอ๋องวางพระทัยเถิดเพคะ พี่หญิงจะต้องดีขึ้นแน่”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกภูมิใจ นางมิคิดว่าแผนการครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นนางมิเชื่อว่าคราวนี้ลั่วชิงยวนจะยังมีชีวิตรอดไปได้แต่ทว่าสิ่งที่นางมิเคยคาดคิดก็คือ หลังจากนั้นมินานฟู่เฉินหวนก็รีบกลับมาอีกครั้งเขาหยิบกล่องผ้าปักมาแล้วมอบให้ซ่งเชียนฉู่“ช่วยรักษานางอย่างเต็มที่ด้วย!”ซ่งเชียนฉู่ตกใจและรีบหยิบกล่องผ้าไปเปิดออก ก่อนจะเห็นว่าเป็นสนหิมะเขาฉีซานนางรู้สึกม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 885

    ซ่งเชียนฉู่กังวลมากลั่วชิงยวนมองไปที่หลังคาแล้วพูดว่า "อุดอู้เกินไป เจาะรูให้ข้าหน่อย"ซ่งเชียนฉู่ตกใจเล็กน้อย มองขึ้นไปแล้วพยักหน้า “ได้สิ”จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็สั่งให้คนยกกระเบื้องหลังคาบางส่วนออกทันที เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่พระอาทิตย์ส่องแสงเข้ามา ตกกระทบไปที่ร่างกายและใบหน้าของลั่วชิงยวนนางหลับตาลง เพลิดเพลินกับความอบอุ่นที่หาได้ยากนี้ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงข้างนอกเบา ๆ นางจึงถามขึ้นว่า “ลั่วเยวี่ยอิงอยู่ข้างนอกหรือ?”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “เอะอะมานานแล้ว”“มิต้องห่วง ข้ามิให้นางเข้ามาได้หรอก”“ข้าเรียกเฉินเซี่ยวหานและองค์ชายเจ็ดแล้ว ข้ามิเชื่อว่าลั่วเยวี่ยอิงจะกล้าทำอะไร”“เพียงแต่บาดแผลของท่าน ข้า...”นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งเชียนฉู่มิมั่นใจลั่วชิงยวนกล่าวว่า “มิเป็นไร ข้าจะดีขึ้นเอง”“อาจต้องใช้เวลาสี่ห้าวันเพื่อซ่อมแซมเส้นลมปราณ”สำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับการพยายามครั้งนี้!จะฟื้นฟูวรยุทธและก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นหรือจะกลายเป็นคนไร้ค่าไปเลยซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “ได้ ข้าจะเฝ้าอยู่นอกประตู”หลังจากปิดประตูแล้วลั่วชิงยวนก็หยิบเข็มทิศออกมานางวางเข็มทิศไว้ที่หน้าอก เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 886

    ภายในห้องฟู่เฉินหวนสวมอาภรณ์ขาวบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดซูโหยวส่งยาไปให้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งว่า “ท่านอ๋อง หรือว่าเราไปขอให้แม่นางซ่งช่วยดูให้หน่อยดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านกระอักเลือดมาหลายวันแล้ว ต่อให้ร่างกายแข็งแรงแค่ไหนก็ทนมิไหวหรอกพ่ะย่ะค่ะ”มิเคยเห็นท่านอ๋องซีดเซียวอ่อนแอเช่นนี้มาก่อนเลยฟู่เฉินหวนรับถ้วยยามา แล้วค่อย ๆ กินยาในถ้วยจนหมดมือที่ซีดเซียวเช็ดมุมปาก และกล่าวถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “มีข่าวคราวของพวกชาวเผ่านอกด่านบ้างหรือไม่?”ซูโหยวส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหนีไปตั้งแต่คืนที่พระชายาเกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ตอนนี้มิน่าจะอยู่ในเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่มีบันทึกการออกเมืองของพวกเขา มิรู้ว่าออกเมืองไปได้อย่างไร”“แต่กระหม่อมคิดว่า ต้องมีคนช่วยพวกเขาอยู่เบื้องหลังเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เย็นชาลงเล็กน้อย และน้ำเสียงก็เย็นชาลง “สืบต่อไป”“ชาวเผ่านอกด่านพวกนี้มาเร็วไปเร็ว เป็นไปมิได้ที่พวกเขาจะมาเพื่อฆ่าลั่วชิงยวนเท่านั้น”“ติดต่อฉินเชียนหลี่ด้วย ถามเขาว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร”ซูโหยวรับคำ “พ่ะย่ะค่ะ”…

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 887

    มิใช่ว่าวรยุทธของลั่วชิงยวนถูกทำลายไปแล้วหรือ!ลั่วเยวี่ยอิงหายใจติดขัด ลุกขึ้นถอยหลังไปหลายก้าวแสงจันทร์ส่องสว่าง ลั่วชิงยวนเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาฉายแววแข็งกร้าว “ต้องขอบคุณเจ้าที่ปลุกข้าขึ้นมา”ลั่วเยวี่ยอิงมองเห็นแววตาแข็งกร้าวที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย จิตใจสั่นระรัว กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แล้วหันหลังวิ่งหนีไปลั่วชิงยวนมองดูลั่วเยวี่ยอิงวิ่งหนีออกจากห้องอย่างลนลานนางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเตะมันออกไปเก้าอี้พุ่งเข้าชนหลังของลั่วเยวี่ยอิงลั่วเยวี่ยอิงล้มลงกับพื้นอย่างแรงลั่วชิงยวนเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แล้วเหยียบบนหลังของลั่วเยวี่ยอิงมิว่าลั่วเยวี่ยอิงจะดิ้นรนอย่างไรก็มิสามารถหลบหนีได้ นางจึงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”จือเฉาวิ่งเข้ามาด้วยผมที่เปียกโชกและใบหน้าซีดเซียว “พระชายา ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”ลั่วชิงยวนเหลือบมองนาง ด้วยแววตาที่เย็นชาเท้าซ้ายของนางค่อย ๆ เคลื่อนไปที่ข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงแล้วเหยียบลงไปอย่างแรง “เจ้าช่างกล้านัก กล้านำคนมาสังหารที่เรือนของข้า แล้วยังจะสังหารคนของข้าอีก”“ใครให้ความกล้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 888

    “ท่านยังอยากจะทำลายวรยุทธของหม่อมฉันอีกหรือ! ฟู่เฉินหวน มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว! ไม่มีวันเป็นไปได้ตลอดกาล!”ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบคม พร้อมกับฝ่ามือที่รุนแรงหลายครั้ง บีบให้ฟู่เฉินหวนถอยร่นไปร่างกายของฟู่เฉินหวนสั่นคลอนอย่างมิมั่นคง เขาเอามือทาบที่หน้าอกพร้อมกับกระอักเลือดออกมาซูโหยววิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก เข้าไปประคองฟู่เฉินหวนเขาตะโกนว่า “พระชายา ท่านหยุดเถิดขอรับ ท่านมิรู้หรอกว่าท่านอ๋อง…”ซูโหยวอยากจะพูดว่าท่านอ๋องกระอักเลือดออกมามากแล้วในช่วงนี้ และตอนนี้ร่างกายก็อ่อนแอมากด้วยแต่ฟู่เฉินหวนกลับยกมือขึ้น ห้ามมิให้เขาพูดต่อเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิง แวบหนึ่งในหัวของฟู่เฉินหวนก็รู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมา อยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าลั่วชิงยวนแต่สติก็บอกเขาว่าทำมิได้เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ พลิกตัวแล้ววิ่งออกจากลานเรือนไป“ท่านอ๋อง…” ซูโหยวรีบตามไปฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตกฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตก“พาลั่วเยวี่ยอิงไปรักษา ไป!”ซูโหยวก็ตกใจเช่นกัน “พ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนอดทนตลอดทางกลับห้อง มิกล้าให้คนอื่นเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 889

    ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินออกไปนางมาถึงจวนแม่ทัพใหญ่ยังมิทันได้เคาะประตู ประตูก็เปิดออกเมื่อแม่ทัพใหญ่ฉินเห็นนางก็ตกใจเล็กน้อย “พระชายามาแล้วหรือ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “แม่ทัพใหญ่กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ”แม่ทัพใหญ่ฉินจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย พลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ข้าต้องเข้าวัง จักรพรรดิสูงสุดทรงประชวรหนัก”“หากท่านมีเรื่องอะไรจะให้ข้าช่วย ก็รอข้าที่จวนสักครู่ รอข้ากลับมาค่อยว่ากัน!”ลั่วชิงยวนตอบว่า “ข้ามาหาฉินไป๋หลี่”“อ้อ ๆ งั้นก็ดี เขาอยู่จวน”แม่ทัพใหญ่ฉินพูดจบก็รีบออกไปลั่วชิงยวนเข้าไปในจวน เดินไปยังลานด้านในเห็นฉินไป๋หลี่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานจวนโดยมีหลี่เซียวม่านยืนอยู่ข้าง ๆ คอยให้คำแนะนำเมื่อฝึกกระบี่เสร็จ ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าไปในลาน“พระชายา” หลี่เซียวม่านคารวะอย่างสุภาพ“พระชายามางั้นหรือ?” ฉินไป๋หลี่ยื่นกระบี่ให้หลี่เซียวม่าน“ช่วงนี้คุณชายรองเป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนกล่าวถามฉินไป๋หลี่ยิ้ม “พอจะมองเห็นแสงสลัว ๆ และใบหน้าเลือนรางบ้างแล้วขอรับ เชื่อว่าสักวันจะต้องหายดี!”ลั่วชิงยวนจับชีพจรตรวจดู อาการของเขากำลังฟื้นตัวได้ดีจ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status