แชร์

บทที่ 887

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
มิใช่ว่าวรยุทธของลั่วชิงยวนถูกทำลายไปแล้วหรือ!

ลั่วเยวี่ยอิงหายใจติดขัด ลุกขึ้นถอยหลังไปหลายก้าว

แสงจันทร์ส่องสว่าง ลั่วชิงยวนเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาฉายแววแข็งกร้าว “ต้องขอบคุณเจ้าที่ปลุกข้าขึ้นมา”

ลั่วเยวี่ยอิงมองเห็นแววตาแข็งกร้าวที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย จิตใจสั่นระรัว กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แล้วหันหลังวิ่งหนีไป

ลั่วชิงยวนมองดูลั่วเยวี่ยอิงวิ่งหนีออกจากห้องอย่างลนลาน

นางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเตะมันออกไป

เก้าอี้พุ่งเข้าชนหลังของลั่วเยวี่ยอิง

ลั่วเยวี่ยอิงล้มลงกับพื้นอย่างแรง

ลั่วชิงยวนเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แล้วเหยียบบนหลังของลั่วเยวี่ยอิง

มิว่าลั่วเยวี่ยอิงจะดิ้นรนอย่างไรก็มิสามารถหลบหนีได้ นางจึงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

จือเฉาวิ่งเข้ามาด้วยผมที่เปียกโชกและใบหน้าซีดเซียว “พระชายา ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ลั่วชิงยวนเหลือบมองนาง ด้วยแววตาที่เย็นชา

เท้าซ้ายของนางค่อย ๆ เคลื่อนไปที่ข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงแล้วเหยียบลงไปอย่างแรง “เจ้าช่างกล้านัก กล้านำคนมาสังหารที่เรือนของข้า แล้วยังจะสังหารคนของข้าอีก”

“ใครให้ความกล้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Kanchanee Taothong
ทำไมอัพเรื่องน้อยมากวันละ2ตอน
goodnovel comment avatar
CARE บันเทิง
หายโง่แล้วนางเอก ตืบอิกเอาให้กะอัก ลั่งอิงด้วยเอาให้หนัก
goodnovel comment avatar
ลูกต้าวหนู
ในที่สุดก็ฉลาดซักที
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 888

    “ท่านยังอยากจะทำลายวรยุทธของหม่อมฉันอีกหรือ! ฟู่เฉินหวน มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว! ไม่มีวันเป็นไปได้ตลอดกาล!”ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบคม พร้อมกับฝ่ามือที่รุนแรงหลายครั้ง บีบให้ฟู่เฉินหวนถอยร่นไปร่างกายของฟู่เฉินหวนสั่นคลอนอย่างมิมั่นคง เขาเอามือทาบที่หน้าอกพร้อมกับกระอักเลือดออกมาซูโหยววิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก เข้าไปประคองฟู่เฉินหวนเขาตะโกนว่า “พระชายา ท่านหยุดเถิดขอรับ ท่านมิรู้หรอกว่าท่านอ๋อง…”ซูโหยวอยากจะพูดว่าท่านอ๋องกระอักเลือดออกมามากแล้วในช่วงนี้ และตอนนี้ร่างกายก็อ่อนแอมากด้วยแต่ฟู่เฉินหวนกลับยกมือขึ้น ห้ามมิให้เขาพูดต่อเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิง แวบหนึ่งในหัวของฟู่เฉินหวนก็รู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมา อยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าลั่วชิงยวนแต่สติก็บอกเขาว่าทำมิได้เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ พลิกตัวแล้ววิ่งออกจากลานเรือนไป“ท่านอ๋อง…” ซูโหยวรีบตามไปฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตกฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตก“พาลั่วเยวี่ยอิงไปรักษา ไป!”ซูโหยวก็ตกใจเช่นกัน “พ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนอดทนตลอดทางกลับห้อง มิกล้าให้คนอื่นเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 889

    ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินออกไปนางมาถึงจวนแม่ทัพใหญ่ยังมิทันได้เคาะประตู ประตูก็เปิดออกเมื่อแม่ทัพใหญ่ฉินเห็นนางก็ตกใจเล็กน้อย “พระชายามาแล้วหรือ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “แม่ทัพใหญ่กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ”แม่ทัพใหญ่ฉินจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย พลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ข้าต้องเข้าวัง จักรพรรดิสูงสุดทรงประชวรหนัก”“หากท่านมีเรื่องอะไรจะให้ข้าช่วย ก็รอข้าที่จวนสักครู่ รอข้ากลับมาค่อยว่ากัน!”ลั่วชิงยวนตอบว่า “ข้ามาหาฉินไป๋หลี่”“อ้อ ๆ งั้นก็ดี เขาอยู่จวน”แม่ทัพใหญ่ฉินพูดจบก็รีบออกไปลั่วชิงยวนเข้าไปในจวน เดินไปยังลานด้านในเห็นฉินไป๋หลี่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานจวนโดยมีหลี่เซียวม่านยืนอยู่ข้าง ๆ คอยให้คำแนะนำเมื่อฝึกกระบี่เสร็จ ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าไปในลาน“พระชายา” หลี่เซียวม่านคารวะอย่างสุภาพ“พระชายามางั้นหรือ?” ฉินไป๋หลี่ยื่นกระบี่ให้หลี่เซียวม่าน“ช่วงนี้คุณชายรองเป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนกล่าวถามฉินไป๋หลี่ยิ้ม “พอจะมองเห็นแสงสลัว ๆ และใบหน้าเลือนรางบ้างแล้วขอรับ เชื่อว่าสักวันจะต้องหายดี!”ลั่วชิงยวนจับชีพจรตรวจดู อาการของเขากำลังฟื้นตัวได้ดีจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 890

    “มีความเกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ?”“เมื่อครู่นี้ ท่านพ่อของข้าได้รับข่าวว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดกำลังจะสิ้นพระชนม์”“ถึงแม้ว่าองค์จักรพรรดิสูงสุดจะทรงประชวรมาโดยตลอด แต่อาการก็ทรงตัวมาตลอด เพิ่งจะทรุดหนักลงเมื่อมิกี่วันมานี้ ได้ยินมาว่าเหล่าหมอหลวงต่างเฝ้าอยู่ข้างเตียงองค์จักรพรรดิสูงสุดตลอดเวลา”คำพูดนี้เตือนให้นึกถึงกะโหลกหมาป่าที่พวกคนนอกด่านส่งมา ตอนนั้น ฟู่จิ่งหานมิต้องการรับไว้ แต่ไทเฮารับสั่งว่า สามารถนำไปถวายแด่จักรพรรดิสูงสุดได้หรือว่าจะเป็นเพราะกะโหลกหมาป่า“ข้าอยากเข้าวังไปดูสักหน่อย”ฉินไป๋หลี่พยักหน้า “ข้าจะไปกับท่าน”“ท่านพ่อน่าจะยังอยู่ในวัง”ลั่วชิงยวนพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทางเข้าวังหลวงด้วยความช่วยเหลือของฉินไป๋หลี่ ลั่วชิงยวนจึงได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ“พวกเจ้ามาเพราะเรื่องของเสด็จพ่องั้นหรือ? พอดีเลย เรากำลังจะไปเยี่ยมเสด็จพ่อ ไปด้วยกันเถอะ” ฟู่จิ่งหานจัดการกับฎีกาเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมตัวออกเดินทางลั่วชิงยวนรีบเรียกเขาไว้ “ช้าก่อนเพคะ”“ฝ่าบาท หม่อมฉันอยากจะถามว่า วันนั้นที่พวกคนนอกด่านนำกะโหลกหมาป่ามาถวาย ในตอนที่ฝ่าบาทเห็นมันครั้งแรก รู้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 891

    “ครั้งนี้ต้องขอบพระทัยไทเฮา! ไทเฮาใช้พระโลหิตของพระองค์เองเพื่อช่วยองค์จักรพรรดิสูงสุด!”ทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจอย่างมากฟู่จิ่งหานรีบก้าวไปข้างหน้าด้วยความกังวล “เสด็จแม่ ไฉนถึงได้เสี่ยงเช่นนี้เล่า”ไทเฮาตบบนหลังมือของฟู่จิ่งหานเบา ๆ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ตราบใดที่เสด็จพ่อของเจ้ามิเป็นไรก็พอแล้ว ตัวข้าเข้าวังมาตั้งแต่อายุสิบสี่ปี อยู่เคียงข้างเสด็จพ่อของเจ้ามาตลอด”“ตอนนี้จะทนเห็นพระองค์เป็นอะไรไปได้อย่างไร ตราบใดที่ยังพอมีหนทาง ตัวข้าก็จะมิยอมละทิ้งพระองค์”คำพูดของไทเฮาทำให้ขุนนางที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากไม่มีใครคาดคิดว่าไทเฮาจะยอมใช้พระโลหิตของพระองค์เองเพื่อช่วยองค์จักรพรรดิสูงสุดในเวลานี้ แม่ทัพใหญ่ฉินเดินเข้ามาถามว่า “มิทราบว่าในวันนี้พวกเราจะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิสูงสุดได้หรือไม่?”หมอหลวงหลี่กล่าวว่า “ชีพจรขององค์จักรพรรดิสูงสุดเพิ่งจะกลับมาเป็นปกติ พระองค์ยังทรงบรรทมอยู่ ขุนนางทุกท่านโปรดวางใจเถิด”“มิสะดวกให้เข้าไปรบกวนองค์จักรพรรดิสูงสุด”แม่ทัพใหญ่ฉินรู้สึกมิพอใจในใจ เรียกพวกเขามาทุกวัน แต่ก็มิให้พวกเขาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิสูงสุดมิรู้เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 892

    คำพูดมิกี่คำของลั่วชิงยวน ก็ทำให้ไทเฮาถึงกับพูดมิออกคนอื่น ๆ ก็พากันสงสัย ลั่วชิงยวนพูดถูกแล้วนี่!ไทเฮาโกรธมากแต่ก็มิสามารถโต้กลับได้ จึงตะโกนว่า “หมอหลวงหลี่ เจ้าอธิบายกับนาง!”หมอหลวงหลี่ทำหน้าลำบากใจ ได้แต่พูดปดว่า “ไทเฮาเคยเสวยโอสถอายุวัฒนะมาบ้าง พระโลหิตของพระองค์จึงสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ เพียงแต่ว่ามิเคยรู้มาก่อน เพิ่งจะมาค้นพบตอนนี้”ลั่วชิงยวนแค่นเสียงเยาะเย้ย “เช่นนั้นหมอหลวงหลี่บอกมาหน่อยว่าไทเฮาทรงเสวยโอสถอายุวัฒนะอะไรมาหรือ?”หมอหลวงหลี่พูดติดขัด ตอบมิได้สุดท้ายก็พูดเสียงเย็นว่า “ตอนนี้อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดคงที่ก็เพราะพระโลหิตของไทเฮา ความจริงเป็นเช่นนี้ ท่านจะถามอะไรมากมาย ไทเฮาทรงเสวยโอสถอายุวัฒนะอะไรมา ต้องบอกให้ท่านรู้ด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบาๆ “หมอหลวงหลี่จะพูดก็พูดสิ ไฉนต้องร้อนตัวด้วยเล่า”หมอหลวงหลี่หน้าเสียไทเฮาก็หน้าเสียมากเช่นกันฟู่จิ่งหานฉวยโอกาสพูดขึ้น “หมอหลวงหลี่ยังอธิบายเองมิได้ งั้นข้าก็ยิ่งวางใจมิได้ ให้ลั่วชิงยวนเข้าไปดูหน่อยเถอะ”แม่ทัพใหญ่ฉินก็พูดเสริมว่า “ใช่แล้ว หมอหลวงในวังรักษามานานก็มิดีขึ้น ลองวิธีอื่นดูก็มิเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 893

    ฟู่จิ่งหานมิเข้าใจ “สิ่งนั้นคืออะไรหรือ?”ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นอธิบาย “ผงกระดูกกวางสีม่วง สามารถทำให้คนเกิดภาพหลอนได้”“เพียงแค่ผงกระดูกกวางสีม่วงนิดหน่อย ก็สามารถกระจายไปในบริเวณเล็ก ๆ ได้ โดยมิต้องเข้าไปดมใกล้ ๆ ก็จะสูดดมเข้าไป”“ด้านบนนี้ถูกทาด้วยผงกระดูกกวางสีม่วง กะโหลกหมาป่าที่ถูกวางไว้หลายวันนี้ ได้กระจายไปทั่วทั้งพระตำหนักบรรทมแล้ว”“เพียงแต่ว่าเราผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง เมื่อเห็นกะโหลกหมาป่านี้ ก็จะเกิดภาพหลอนขึ้นมาบ้าง”“แต่จะมิรุนแรงมาก”“ทว่าองค์จักรพรรดิสูงสุดมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว...”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่จิ่งหานก็ตกใจมาก “พวกคนเผ่านอกด่านใช้วิธีการต่ำช้านัก!”“ข้าจะให้คนเอาไปเผาทิ้งเดี๋ยวนี้!”ฟู่จิ่งหานคว้ากะโหลกหมาป่าแล้วเดินออกไป ลั่วชิงยวนรีบร้องห้ามเขาไว้ “อย่าเผาโดยตรงนะเพคะ แช่ในโอ่งน้ำไว้สักสองสามวันก่อน แล้วค่อยเผาทิ้ง”“อีกอย่าง ฝ่าบาท พวกคนเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่านี้มา เพื่อเป็นการอวยพรวันเกิดให้ฝ่าบาท มิได้ส่งให้องค์จักรพรรดิสูงสุด”“ดังนั้น ใครเป็นคนเอาสิ่งนี้มาไว้ในห้องขององค์จักรพรรดิสูงสุด นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก”คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของฟู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 894

    ทุกคนต่างตกตะลึงมองดูตำหนักบรรทมที่พังพินาศ หลังคาเกิดรูขนาดใหญ่ ส่วนผู้ก่อเหตุก็คือ ลั่วชิงยวน ที่ถือหอกยาวมายืนอยู่บนหัวมังกร และยังคงกระหน่ำแทงหลังคาอยู่!การที่องค์จักรพรรดิสูงสุดกระอักเลือด ทำให้เหล่าขุนนางต่างพากันล้อมเข้ามา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายหมอหลวงหลี่รีบให้คนอื่นถอยออกไป“ทุกคนหลีกทางให้หน่อย องค์จักรพรรดิสูงสุดหายใจมิออกแล้ว!”หลังจากที่ทุกคนถอยออกไป หมอหลวงหลี่ประคององค์จักรพรรดิสูงสุด พลางตบหลังเขาอย่างร้อนใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุด! องค์จักรพรรดิสูงสุด!”องค์จักรพรรดิสูงสุดก็ไอออกมาอีกครั้ง พร้อมกระอักเลือดออกมาทันใดนั้นก็หลับตาลงและล้มลงไปหมอหลวงหลี่ตกใจสุดขีด คุกเข่าลงกับพื้นและร้องตะโกนว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดสวรรคตแล้ว!”เมื่อสิ้นคำ ทุกคนในท้องพระโรงต่างคุกเข่าลงฟู่เฉินหวนที่เพิ่งทราบว่าลั่วชิงยวนเข้าวังมา รีบรุดมาถึง แต่บังเอิญได้ยินเสียงนี้ที่นอกตำหนักบรรทมเขารู้สึกเบลอไปชั่วขณะและถอยหลังไปหนึ่งก้าวในเวลานี้ ไทเฮาที่ใบหน้าซีดเซียวและร้อนใจก็รีบมาถึง โดยมีจิ่นซูประคองแต่ก็ยังเกือบล้มลงไป“ไทเฮาโปรดระวังด้วยเพคะ”ไทเฮาน้ำตาคลอเบ้า กัดฟ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 895

    “ครั้งนี้ทั้งคนและหลักฐานพร้อมแล้ว อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าอย่าคิดที่จะปกป้องลั่วชิงยวนอีก!”“หากนางมิใช่พระชายาของเจ้า องค์จักรพรรดิคงมิไว้ใจนางเพียงนี้ องค์จักรพรรดิสูงสุดถูกลั่วชิงยวนลอบปลงพระชนม์ อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าเองก็หลีกเลี่ยงความผิดมิได้!”ไทเฮาตำหนิฟู่เฉินหวนอย่างโกรธเคืองทันใดนั้นก็สั่งด้วยความโกรธอย่างมากว่า “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ปลดฟู่เฉินหวนจากตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการ ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับราชสำนัก! กักบริเวณอยู่ในวังเป็นเวลาครึ่งปี!”เหล่าขุนนางต่างตกใจลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย มองไปที่ฟู่เฉินหวนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้เจ้าหลีกทางไป อาจจะยังรักษาตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการไว้ได้”เขาปีนขึ้นไปถึงตำแหน่งนี้อย่างยากลำบาก ด้วยสถานะของอ๋องผู้สำเร็จราชการ เขาจึงมีคุณสมบัติที่จะต่อต้านตระกูลเหยียนได้ฟู่เฉินหวนน่าจะหลีกทางไปยิ่งไปกว่านั้น นางมีวิธีช่วยตัวเอง และมิอยากเป็นหนี้บุญคุณฟู่เฉินหวนด้วยอย่างไรก็ตาม ฟู่เฉินหวนมิลังเลเลย เขาพูดกับไทเฮาอย่างเย็นชาว่า “หากพิสูจน์ได้ว่าลั่วชิงยวนสังหารเสด็จพ่อ ข้าจะรับผิดชอบร่วมกับลั่วชิงยวน!”“ทว่าหากไม่ การกร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1234

    เสียงกลองศึกดังขึ้นกองทัพแคว้นหลีบุกมาถึงชายแดนอีกครั้งและครั้งนี้ ฟู่เฉินหวนนำทัพออกรบด้วยตัวเองเฉินชีควบม้าอยู่หน้ากองทัพแคว้นหลีเมื่อเห็นฟู่เฉินหวน เขาก็ยกยิ้มเย็นชา “ในที่สุดเจ้าก็มิเป็นเต่าหัวหดแล้ว! ช่างหาได้ยากนัก!”ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “นางอยู่ที่ไหน?”เฉินชีหรี่ตาลง ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย “ฆ่าตายไปแล้ว”แววตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยจิตสังหาร“เป็นอย่างไร? จะสู้กับข้าจนตายไปข้างหนึ่งหรือไม่?” ดวงตาของเฉินชีลุกโชน อยากจะลงมือเต็มทีแล้วฟู่เฉินหวนชักกระบี่กระโจนเข้าใส่ในชั่วขณะนั้น เซียวชูก็ใจกระตุกวูบเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย รีบชักกระบี่กระโดดขึ้น วันนี้เขาจะฆ่าฟู่เฉินหวนด้วยมือของเขาเอง!กระบี่ยาวในมือของทั้งสองฟาดฟันกันจนเกิดเสียงดังสนั่นจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วขณะต่อสู้ ฟู่เฉินหวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินชี เจ้าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”“ไร้สาระ แน่นอนว่าต้องเป็นข้า! เฉินชีคนนี้มิเคยพ่ายแพ้!” เฉินชีหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงโอหังฟู่เฉินหวนใช้พลังทั้งหมดต้านทานการโจมตีของเฉินชี พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อหน้ากองทัพ หาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1233

    คนที่เขาต้องการฆ่าคือฟู่เฉินหวน!......ในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งมีแผนที่แขวนอยู่บนผนัง บนโต๊ะมีแบบจำลองขนาดใหญ่ ที่นี่คือสถานที่สำหรับวางกลยุทธ์ฟู่เฉินหวนที่ใบหน้าซีดเซียวกำลังดื่มชา “แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...”เซียวชูรีบลูบหลังให้ท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง ร่างกายของท่านแย่ลงเรื่อย ๆ อยู่ที่ห้องใต้ดินมิได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้างล่างนี้หนาวเย็นเกินไป”หลังจากที่ฟู่เฉินหวนหยุดไอก็โบกมือ “หากออกไปจะถูกเฉินชีหาเจอ”“เขาเป็นชาวแคว้นหลี มีวิธีมากมายในการตามหาข้า”“มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่อยู่ได้ พลังหยินปกปิดพลังหยางจึงหามิพบ”เซียวชูกล่าวอย่างจนใจ “มีเพียงท่านอ๋องเท่านั้นที่คิดวิธีนี้ออก”ที่นี่คือห้องใต้ดินของสัปเหร่อในสุสานเดิมทีห้องใต้ดินนี้ใช้สำหรับเก็บอาหารของสัปเหร่อ ตอนนี้ด้านบนเต็มไปด้วยหลุมศพในห้องใต้ดินนั้นหนาวเย็นมาก อาภรณ์หนาแค่ไหนก็มิสามารถต้านทานความหนาวเย็นได้หนึ่งถึงสองเดือนมานี้ ท่านอ๋องอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะต้องหลบหนีการตามล่าของเฉินชีคอยวางแผนในซีหลิงอย่างลับ ๆ และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ยังมิเคยแพ้ มิเพียงแต่มิให้กองทัพแคว้นหลีบุกเข้าซีหลิงได้เท่านั้น แต่ยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1232

    “จะได้มิต้องกังวล”ลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใจหายดวงตาใต้หน้ากากของนางแดงก่ำ อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็พูดมิออกนางจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเมื่ออยู่คนเดียวแล้วก็พิงกำแพงร้องไห้ออกมาเหตุใดญาติพี่น้องของนางจึงต้องจากไปทีละคนลั่วชิงยวนเอนหลังพิงเตียงพลางครุ่นคิด นางรู้ว่าคำพูดนั้นโหดร้าย ทว่าเจ็บแต่จบดีกว่าเจ็บเรื้อรังบางทีในภายภาคหน้านางอาจจะหาวิธีรักษาชีวิตได้ ถึงตอนนั้นค่อยบอกข่าวนี้กับพวกนาง อาจจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็เป็นได้หลังจากกินยาแล้วลั่วชิงยวนก็พักผ่อนครึ่งวัน จากนั้นจึงออกเดินทางไปซีหลิงต้องเดินทางอย่างช้า ๆ ร่างกายของลั่วชิงยวนมิสามารถทนต่อการเดินทางไกลได้อีกแล้วจึงต้องหยุดพักบ่อยครั้งในคืนที่แสงจันทร์กระจ่าง ลั่วชิงยวนจะใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ซึ่งพลังที่ดูดซับมาจะทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนจึงถึงซีหลิงส่วนเฉินชีนั้นเดินทางไปกลับหนึ่งรอบแล้วในวันที่เดินทางถึงซีหลิง ลั่วชิงยวนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ส่วนฉู่จิ้งรีบไปหาซ่งเชียนฉู่เขาจึงแยกทางกับพวกนางลั่วชิงยวนคิดว่าควรจะให้ลั่วอวิ๋นสี่กลับไปได้แล้ว จึงให้จือเฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1231

    บัดนี้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองกองทัพหยุดลงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดต่อไปถึงแม้ว่าเฉินชีอยากจะฆ่าฟู่เฉินหวน แต่ก็มิยอมให้คนของตัวเองตายอย่างสูญเปล่าหากพูดถึงกลยุทธ์ แม้แต่เฉินชียังต้องยอมรับว่าฟู่เฉินหวนเก่งกาจมาก ถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งการจะฆ่าเขานั้นมิใช่เรื่องง่ายดังนั้นจึงหยุดรบก่อนแล้วค่อยหาโอกาสหลายวันมานี้ เขาปลอมตัวเข้าไปในซีหลิงเพื่อสืบข่าวและสังเกตการณ์การป้องกันของซีหลิงแต่การป้องกันของซีหลิงนั้นแปลกประหลาด เพราะมิเห็นเลยว่าคนอยู่ที่ไหน มิรู้ว่าที่ใดมีกำลังพลมาก ที่ใดมีกำลังพลน้อยแม้แต่ร่องรอยของฟู่เฉินหวนก็ยังมิแน่นอนเขาคิดว่าตัวเองสามารถเข้าไปในซีหลิงได้โดยไม่มีใครรู้ บนใต้หล้านี้มีน้อยคนนักที่จะมีวรยุทธ์สูงส่งเทียบเท่าเขาแต่กลับหามิพบแม้กระทั่งที่ซ่อนของฟู่เฉินหวนมีค่ายประจำการอยู่มิน้อย แต่เฉินชีก็ดูออกว่าทั้งหมดล้วนเป็นภาพลวงตาที่ใช้หลอกล่อเขาวันนี้เฉินชียังคงเดินไปมาในซีหลิงเพื่อสำรวจไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปก่อนจะรีบควบม้าออกไปทันที......อากาศกลับมาหนาวเย็น ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1230

    “ท่านแม่... ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกเลย ท่านไปที่ใด ข้าก็จะไปที่นั่น!”เมื่อจือเฉาได้ยินดังนั้นก็ตกใจฉู่จิ้งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ“เจ้ามีลูกชายโตถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”เสียงนี้ฟังดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าลั่วชิงยวนเสียอีกลั่วชิงยวนกล่าวอย่างจนใจ “ก็... อยู่ ๆ ก็มี...”หลังจากกล่าวจบ นางก็มองไปที่ลั่วอวิ๋นสี่ “ตอนนี้วรยุทธ์ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? มิต้องการเขาแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า “แข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว น่าจะปกป้องพี่หญิงได้แล้ว”“ส่วนเตี่ยฉุย ให้เขาตามเจ้าไปเถิด”ลั่วชิงยวนตอบรับ “ได้ เมื่อไปถึงซีหลิงแล้วข้าจะหาวิธีพาเขาออกมา”......ลั่วฉิงถูกขังอยู่ในวงเวท พยายามดิ้นรนออกไป แต่ก็ออกไปมิได้วงเวทนี้ขังนางไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเห็นเลือดถูกดูดออกไปจากร่าง ลั่วฉิงก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากนางจะตายที่นี่มิได้!นางรอแล้วรอเล่า ในที่สุดเมื่อฟ้าเริ่มสางก็มีคนเดินผ่านมาลั่วฉิงราวกับพบเจอผู้ช่วยชีวิต นางนอนคว่ำอยู่บนพื้น แล้วยื่นมือออกไป “ช่วยข้าด้วย...”ชายที่แบกจอบตกใจ รีบนั่งยอง ๆ และกล่าวถาม “แม่นาง เจ้าเป็นอะไร? จะไปหาหมอหรือไม่?”ลั่วฉิงเห็นเขาเข้ามาในเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1229

    ร่างนั้นขวางหน้าลั่วฉิงไว้แล้วเข้าโรมรันต่อสู้กับลั่วฉิงหลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่า ถึงแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อย แต่ก็สามารถขวางลั่วฉิงไว้ได้ลั่วชิงยวนถือเข็มทิศตามหาตำแหน่งของฉู่จิ้งเมื่อเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ตกใจเล็กน้อย แล้วรีบวิ่งเข้าไปปลดวงเวทปล่อยตัวฉู่จิ้งออกมาเมื่อลั่วฉิงเห็นลั่วชิงยวนมาก็พลันตกตะลึง และถูกฝ่ามือตบจนกระเด็นไปหลายเมตรนางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ลั่วชิงยวน เจ้านี่เอง!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “วงเวทของเจ้ายังอ่อนหัดนัก”“ข้าจะมอบให้เจ้าอีกหนึ่ง”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา“นองเลือดแปดทิศ!”ทันใดนั้น วงเวทสีทองที่ใหญ่โตมโหฬารพลันผุดขึ้นแผ่ขยายไปบนท้องฟ้าปกคลุมลั่วฉิงไว้ลั่วฉิงอยากจะหนี แต่หนีมิพ้นนางกางมือออก เห็นเหมือนเส้นไหมสีแดงลอยขึ้นมาจากฝ่ามือถูกวงเวทดูดเข้าไปจากนั้นนางก็ตระหนักได้ด้วยความตกใจว่า นี่คือเลือดของนาง!ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ภายในเจ็ดวัน เจ้าจะกลายเป็นศพแห้ง”“เดิมทีข้าเห็นแก่มิตรภาพแห่งสำนัก จึงจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรบกวนข้ามิเลิก กัดมิยอมปล่อย”“เจ้าต้องการเข็มทิศอาณัติสวรรค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1228

    แต่ลั่วชิงยวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า ในดวงตามีเพียงความเย็นชามือกำกริชแน่น“ไม่มีใครอยากเป็นนักโทษของผู้อื่น หม่อมฉันก็เช่นกัน”“มาถึงขั้นนี้ ท่านกับหม่อมฉันก็เป็นศัตรูกันแล้ว”“อย่ามาใช้น้ำเสียงเหยียดหยามมาสั่งหม่อมฉันอีก”“หม่อมฉัน ลั่วชิงยวน มิเกี่ยวข้องอะไรกับท่านอีกต่อไป!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็คว้าปอยผมมาตัดขาดทันใดแล้วปล่อยให้ปลิวไปในอากาศ“หม่อมฉันตัดด้ายที่ผูกพันท่านกับหม่อมฉันด้วยมือของหม่อมฉันเอง นับจากนี้เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเท่านั้น”“หากท่านยังมารบกวนอีก หม่อมฉันจะฆ่าท่านโดยมิลังเล”ใต้ความมืดมิดยามรัตติกาล แววตาของลั่วชิงยวนช่างเย็นชาเหลือเกินแววตาที่มิคุ้นเคยราวกับมองคนแปลกหน้า ในดวงตาไม่มีความรักใคร่หลงเหลืออยู่อีกแล้วการตัดครั้งนี้ถือว่าตัดความอาลัยทั้งหมดของนางแล้วนับจากนี้ นางจะมิหันหลังกลับไปอีก!ลั่วชิงยวนก้าวเท้าเดินจะจากไปแต่ฟู่เฉินหวนกลับพุ่งเข้ามา คว้าไหล่ของนาง หมายจะบีบคอเพื่อควบคุมนางพลังที่รุนแรงทำให้นางรู้สึกกดดัน พยายามหลบหลีกอย่างสุดกำลังร่างกายของนางตอนนี้มิอาจสู้กับฟู่เฉินหวนได้เลย ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ใช้กลอุบายถอยหลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1227

    นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้งฉู่จิ้งมึนหัวทันที“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไปลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตรายเขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนีแต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกายวงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขาเขาออกไปมิได้!ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดนางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1226

    ลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือไว้ในมือ วินาทีต่อมายันต์นั้นลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน พลังหยินอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาลั่วฉิงตกใจมากนางเห็นยันต์ลุกไหม้ก่อนที่มิติจะเปิดออก ทันใดนั้นงูยักษ์ก็พุ่งทะยานออกมาจากมิติมันอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาลั่วฉิงเสียงคำรามดังกึกก้องลั่วฉิงรีบหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แต่กลับไร้ประโยชน์ นางถูกเสียงคำรามผลักจนกระเด็นออกจากห้อง เข็มทิศอาณัติสวรรค์ในมือหล่นลงพื้นนางตกลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง ได้แต่ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ และเงยหน้ามองห้องนั้นด้วยความโกรธนางกัดฟันแล้วหันหลังเดินออกไปข้างกายลั่วชิงยวนมีงูยักษ์คอยปกป้อง!แต่ก็ดี ทั้งเข็มทิศอาณัติสวรรค์และดีงู นางต้องการทั้งหมด!ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้งลั่วชิงยวนก้มลงเก็บเข็มทิศอาณัติสวรรค์ที่ตกอยู่บนพื้น ในที่สุดก็วางใจได้เสียทีของอย่างอื่นจะหายไปก็ได้แต่เข็มทิศอาณัติสวรรค์จะหายไปมิได้นางรู้ว่าลั่วฉิงต้องสะกดรอยตามมาแน่นอน จึงจงใจแวะพักที่นี่เพื่อให้ลั่วฉิงมีโอกาสลงมือครู่หนึ่งจือเฉาและฉู่จิ้งก็กลับมา ลั่วชิงยวนรีบพาพวกเขาเดินทางไปซีหลิงในทันทีมิกล้าเสียเวลาอีกบนรถม้า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status