แชร์

บทที่ 887

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
มิใช่ว่าวรยุทธของลั่วชิงยวนถูกทำลายไปแล้วหรือ!

ลั่วเยวี่ยอิงหายใจติดขัด ลุกขึ้นถอยหลังไปหลายก้าว

แสงจันทร์ส่องสว่าง ลั่วชิงยวนเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาฉายแววแข็งกร้าว “ต้องขอบคุณเจ้าที่ปลุกข้าขึ้นมา”

ลั่วเยวี่ยอิงมองเห็นแววตาแข็งกร้าวที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย จิตใจสั่นระรัว กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แล้วหันหลังวิ่งหนีไป

ลั่วชิงยวนมองดูลั่วเยวี่ยอิงวิ่งหนีออกจากห้องอย่างลนลาน

นางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเตะมันออกไป

เก้าอี้พุ่งเข้าชนหลังของลั่วเยวี่ยอิง

ลั่วเยวี่ยอิงล้มลงกับพื้นอย่างแรง

ลั่วชิงยวนเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แล้วเหยียบบนหลังของลั่วเยวี่ยอิง

มิว่าลั่วเยวี่ยอิงจะดิ้นรนอย่างไรก็มิสามารถหลบหนีได้ นางจึงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

จือเฉาวิ่งเข้ามาด้วยผมที่เปียกโชกและใบหน้าซีดเซียว “พระชายา ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ลั่วชิงยวนเหลือบมองนาง ด้วยแววตาที่เย็นชา

เท้าซ้ายของนางค่อย ๆ เคลื่อนไปที่ข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงแล้วเหยียบลงไปอย่างแรง “เจ้าช่างกล้านัก กล้านำคนมาสังหารที่เรือนของข้า แล้วยังจะสังหารคนของข้าอีก”

“ใครให้ความกล้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Kanchanee Taothong
ทำไมอัพเรื่องน้อยมากวันละ2ตอน
goodnovel comment avatar
CARE บันเทิง
หายโง่แล้วนางเอก ตืบอิกเอาให้กะอัก ลั่งอิงด้วยเอาให้หนัก
goodnovel comment avatar
ลูกต้าวหนู
ในที่สุดก็ฉลาดซักที
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 888

    “ท่านยังอยากจะทำลายวรยุทธของหม่อมฉันอีกหรือ! ฟู่เฉินหวน มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว! ไม่มีวันเป็นไปได้ตลอดกาล!”ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบคม พร้อมกับฝ่ามือที่รุนแรงหลายครั้ง บีบให้ฟู่เฉินหวนถอยร่นไปร่างกายของฟู่เฉินหวนสั่นคลอนอย่างมิมั่นคง เขาเอามือทาบที่หน้าอกพร้อมกับกระอักเลือดออกมาซูโหยววิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก เข้าไปประคองฟู่เฉินหวนเขาตะโกนว่า “พระชายา ท่านหยุดเถิดขอรับ ท่านมิรู้หรอกว่าท่านอ๋อง…”ซูโหยวอยากจะพูดว่าท่านอ๋องกระอักเลือดออกมามากแล้วในช่วงนี้ และตอนนี้ร่างกายก็อ่อนแอมากด้วยแต่ฟู่เฉินหวนกลับยกมือขึ้น ห้ามมิให้เขาพูดต่อเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิง แวบหนึ่งในหัวของฟู่เฉินหวนก็รู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมา อยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าลั่วชิงยวนแต่สติก็บอกเขาว่าทำมิได้เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ พลิกตัวแล้ววิ่งออกจากลานเรือนไป“ท่านอ๋อง…” ซูโหยวรีบตามไปฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตกฟู่เฉินหวนเจ็บจนชนเข้ากับกำแพง อยากจะชนให้หัวแตก“พาลั่วเยวี่ยอิงไปรักษา ไป!”ซูโหยวก็ตกใจเช่นกัน “พ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนอดทนตลอดทางกลับห้อง มิกล้าให้คนอื่นเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 889

    ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินออกไปนางมาถึงจวนแม่ทัพใหญ่ยังมิทันได้เคาะประตู ประตูก็เปิดออกเมื่อแม่ทัพใหญ่ฉินเห็นนางก็ตกใจเล็กน้อย “พระชายามาแล้วหรือ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “แม่ทัพใหญ่กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ”แม่ทัพใหญ่ฉินจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย พลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ข้าต้องเข้าวัง จักรพรรดิสูงสุดทรงประชวรหนัก”“หากท่านมีเรื่องอะไรจะให้ข้าช่วย ก็รอข้าที่จวนสักครู่ รอข้ากลับมาค่อยว่ากัน!”ลั่วชิงยวนตอบว่า “ข้ามาหาฉินไป๋หลี่”“อ้อ ๆ งั้นก็ดี เขาอยู่จวน”แม่ทัพใหญ่ฉินพูดจบก็รีบออกไปลั่วชิงยวนเข้าไปในจวน เดินไปยังลานด้านในเห็นฉินไป๋หลี่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานจวนโดยมีหลี่เซียวม่านยืนอยู่ข้าง ๆ คอยให้คำแนะนำเมื่อฝึกกระบี่เสร็จ ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าไปในลาน“พระชายา” หลี่เซียวม่านคารวะอย่างสุภาพ“พระชายามางั้นหรือ?” ฉินไป๋หลี่ยื่นกระบี่ให้หลี่เซียวม่าน“ช่วงนี้คุณชายรองเป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนกล่าวถามฉินไป๋หลี่ยิ้ม “พอจะมองเห็นแสงสลัว ๆ และใบหน้าเลือนรางบ้างแล้วขอรับ เชื่อว่าสักวันจะต้องหายดี!”ลั่วชิงยวนจับชีพจรตรวจดู อาการของเขากำลังฟื้นตัวได้ดีจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 890

    “มีความเกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ?”“เมื่อครู่นี้ ท่านพ่อของข้าได้รับข่าวว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดกำลังจะสิ้นพระชนม์”“ถึงแม้ว่าองค์จักรพรรดิสูงสุดจะทรงประชวรมาโดยตลอด แต่อาการก็ทรงตัวมาตลอด เพิ่งจะทรุดหนักลงเมื่อมิกี่วันมานี้ ได้ยินมาว่าเหล่าหมอหลวงต่างเฝ้าอยู่ข้างเตียงองค์จักรพรรดิสูงสุดตลอดเวลา”คำพูดนี้เตือนให้นึกถึงกะโหลกหมาป่าที่พวกคนนอกด่านส่งมา ตอนนั้น ฟู่จิ่งหานมิต้องการรับไว้ แต่ไทเฮารับสั่งว่า สามารถนำไปถวายแด่จักรพรรดิสูงสุดได้หรือว่าจะเป็นเพราะกะโหลกหมาป่า“ข้าอยากเข้าวังไปดูสักหน่อย”ฉินไป๋หลี่พยักหน้า “ข้าจะไปกับท่าน”“ท่านพ่อน่าจะยังอยู่ในวัง”ลั่วชิงยวนพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทางเข้าวังหลวงด้วยความช่วยเหลือของฉินไป๋หลี่ ลั่วชิงยวนจึงได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ“พวกเจ้ามาเพราะเรื่องของเสด็จพ่องั้นหรือ? พอดีเลย เรากำลังจะไปเยี่ยมเสด็จพ่อ ไปด้วยกันเถอะ” ฟู่จิ่งหานจัดการกับฎีกาเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมตัวออกเดินทางลั่วชิงยวนรีบเรียกเขาไว้ “ช้าก่อนเพคะ”“ฝ่าบาท หม่อมฉันอยากจะถามว่า วันนั้นที่พวกคนนอกด่านนำกะโหลกหมาป่ามาถวาย ในตอนที่ฝ่าบาทเห็นมันครั้งแรก รู้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 891

    “ครั้งนี้ต้องขอบพระทัยไทเฮา! ไทเฮาใช้พระโลหิตของพระองค์เองเพื่อช่วยองค์จักรพรรดิสูงสุด!”ทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจอย่างมากฟู่จิ่งหานรีบก้าวไปข้างหน้าด้วยความกังวล “เสด็จแม่ ไฉนถึงได้เสี่ยงเช่นนี้เล่า”ไทเฮาตบบนหลังมือของฟู่จิ่งหานเบา ๆ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ตราบใดที่เสด็จพ่อของเจ้ามิเป็นไรก็พอแล้ว ตัวข้าเข้าวังมาตั้งแต่อายุสิบสี่ปี อยู่เคียงข้างเสด็จพ่อของเจ้ามาตลอด”“ตอนนี้จะทนเห็นพระองค์เป็นอะไรไปได้อย่างไร ตราบใดที่ยังพอมีหนทาง ตัวข้าก็จะมิยอมละทิ้งพระองค์”คำพูดของไทเฮาทำให้ขุนนางที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากไม่มีใครคาดคิดว่าไทเฮาจะยอมใช้พระโลหิตของพระองค์เองเพื่อช่วยองค์จักรพรรดิสูงสุดในเวลานี้ แม่ทัพใหญ่ฉินเดินเข้ามาถามว่า “มิทราบว่าในวันนี้พวกเราจะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิสูงสุดได้หรือไม่?”หมอหลวงหลี่กล่าวว่า “ชีพจรขององค์จักรพรรดิสูงสุดเพิ่งจะกลับมาเป็นปกติ พระองค์ยังทรงบรรทมอยู่ ขุนนางทุกท่านโปรดวางใจเถิด”“มิสะดวกให้เข้าไปรบกวนองค์จักรพรรดิสูงสุด”แม่ทัพใหญ่ฉินรู้สึกมิพอใจในใจ เรียกพวกเขามาทุกวัน แต่ก็มิให้พวกเขาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิสูงสุดมิรู้เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 892

    คำพูดมิกี่คำของลั่วชิงยวน ก็ทำให้ไทเฮาถึงกับพูดมิออกคนอื่น ๆ ก็พากันสงสัย ลั่วชิงยวนพูดถูกแล้วนี่!ไทเฮาโกรธมากแต่ก็มิสามารถโต้กลับได้ จึงตะโกนว่า “หมอหลวงหลี่ เจ้าอธิบายกับนาง!”หมอหลวงหลี่ทำหน้าลำบากใจ ได้แต่พูดปดว่า “ไทเฮาเคยเสวยโอสถอายุวัฒนะมาบ้าง พระโลหิตของพระองค์จึงสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ เพียงแต่ว่ามิเคยรู้มาก่อน เพิ่งจะมาค้นพบตอนนี้”ลั่วชิงยวนแค่นเสียงเยาะเย้ย “เช่นนั้นหมอหลวงหลี่บอกมาหน่อยว่าไทเฮาทรงเสวยโอสถอายุวัฒนะอะไรมาหรือ?”หมอหลวงหลี่พูดติดขัด ตอบมิได้สุดท้ายก็พูดเสียงเย็นว่า “ตอนนี้อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดคงที่ก็เพราะพระโลหิตของไทเฮา ความจริงเป็นเช่นนี้ ท่านจะถามอะไรมากมาย ไทเฮาทรงเสวยโอสถอายุวัฒนะอะไรมา ต้องบอกให้ท่านรู้ด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบาๆ “หมอหลวงหลี่จะพูดก็พูดสิ ไฉนต้องร้อนตัวด้วยเล่า”หมอหลวงหลี่หน้าเสียไทเฮาก็หน้าเสียมากเช่นกันฟู่จิ่งหานฉวยโอกาสพูดขึ้น “หมอหลวงหลี่ยังอธิบายเองมิได้ งั้นข้าก็ยิ่งวางใจมิได้ ให้ลั่วชิงยวนเข้าไปดูหน่อยเถอะ”แม่ทัพใหญ่ฉินก็พูดเสริมว่า “ใช่แล้ว หมอหลวงในวังรักษามานานก็มิดีขึ้น ลองวิธีอื่นดูก็มิเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 893

    ฟู่จิ่งหานมิเข้าใจ “สิ่งนั้นคืออะไรหรือ?”ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นอธิบาย “ผงกระดูกกวางสีม่วง สามารถทำให้คนเกิดภาพหลอนได้”“เพียงแค่ผงกระดูกกวางสีม่วงนิดหน่อย ก็สามารถกระจายไปในบริเวณเล็ก ๆ ได้ โดยมิต้องเข้าไปดมใกล้ ๆ ก็จะสูดดมเข้าไป”“ด้านบนนี้ถูกทาด้วยผงกระดูกกวางสีม่วง กะโหลกหมาป่าที่ถูกวางไว้หลายวันนี้ ได้กระจายไปทั่วทั้งพระตำหนักบรรทมแล้ว”“เพียงแต่ว่าเราผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง เมื่อเห็นกะโหลกหมาป่านี้ ก็จะเกิดภาพหลอนขึ้นมาบ้าง”“แต่จะมิรุนแรงมาก”“ทว่าองค์จักรพรรดิสูงสุดมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว...”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่จิ่งหานก็ตกใจมาก “พวกคนเผ่านอกด่านใช้วิธีการต่ำช้านัก!”“ข้าจะให้คนเอาไปเผาทิ้งเดี๋ยวนี้!”ฟู่จิ่งหานคว้ากะโหลกหมาป่าแล้วเดินออกไป ลั่วชิงยวนรีบร้องห้ามเขาไว้ “อย่าเผาโดยตรงนะเพคะ แช่ในโอ่งน้ำไว้สักสองสามวันก่อน แล้วค่อยเผาทิ้ง”“อีกอย่าง ฝ่าบาท พวกคนเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่านี้มา เพื่อเป็นการอวยพรวันเกิดให้ฝ่าบาท มิได้ส่งให้องค์จักรพรรดิสูงสุด”“ดังนั้น ใครเป็นคนเอาสิ่งนี้มาไว้ในห้องขององค์จักรพรรดิสูงสุด นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก”คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของฟู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 894

    ทุกคนต่างตกตะลึงมองดูตำหนักบรรทมที่พังพินาศ หลังคาเกิดรูขนาดใหญ่ ส่วนผู้ก่อเหตุก็คือ ลั่วชิงยวน ที่ถือหอกยาวมายืนอยู่บนหัวมังกร และยังคงกระหน่ำแทงหลังคาอยู่!การที่องค์จักรพรรดิสูงสุดกระอักเลือด ทำให้เหล่าขุนนางต่างพากันล้อมเข้ามา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายหมอหลวงหลี่รีบให้คนอื่นถอยออกไป“ทุกคนหลีกทางให้หน่อย องค์จักรพรรดิสูงสุดหายใจมิออกแล้ว!”หลังจากที่ทุกคนถอยออกไป หมอหลวงหลี่ประคององค์จักรพรรดิสูงสุด พลางตบหลังเขาอย่างร้อนใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุด! องค์จักรพรรดิสูงสุด!”องค์จักรพรรดิสูงสุดก็ไอออกมาอีกครั้ง พร้อมกระอักเลือดออกมาทันใดนั้นก็หลับตาลงและล้มลงไปหมอหลวงหลี่ตกใจสุดขีด คุกเข่าลงกับพื้นและร้องตะโกนว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดสวรรคตแล้ว!”เมื่อสิ้นคำ ทุกคนในท้องพระโรงต่างคุกเข่าลงฟู่เฉินหวนที่เพิ่งทราบว่าลั่วชิงยวนเข้าวังมา รีบรุดมาถึง แต่บังเอิญได้ยินเสียงนี้ที่นอกตำหนักบรรทมเขารู้สึกเบลอไปชั่วขณะและถอยหลังไปหนึ่งก้าวในเวลานี้ ไทเฮาที่ใบหน้าซีดเซียวและร้อนใจก็รีบมาถึง โดยมีจิ่นซูประคองแต่ก็ยังเกือบล้มลงไป“ไทเฮาโปรดระวังด้วยเพคะ”ไทเฮาน้ำตาคลอเบ้า กัดฟ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 895

    “ครั้งนี้ทั้งคนและหลักฐานพร้อมแล้ว อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าอย่าคิดที่จะปกป้องลั่วชิงยวนอีก!”“หากนางมิใช่พระชายาของเจ้า องค์จักรพรรดิคงมิไว้ใจนางเพียงนี้ องค์จักรพรรดิสูงสุดถูกลั่วชิงยวนลอบปลงพระชนม์ อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าเองก็หลีกเลี่ยงความผิดมิได้!”ไทเฮาตำหนิฟู่เฉินหวนอย่างโกรธเคืองทันใดนั้นก็สั่งด้วยความโกรธอย่างมากว่า “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ปลดฟู่เฉินหวนจากตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการ ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับราชสำนัก! กักบริเวณอยู่ในวังเป็นเวลาครึ่งปี!”เหล่าขุนนางต่างตกใจลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย มองไปที่ฟู่เฉินหวนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้เจ้าหลีกทางไป อาจจะยังรักษาตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการไว้ได้”เขาปีนขึ้นไปถึงตำแหน่งนี้อย่างยากลำบาก ด้วยสถานะของอ๋องผู้สำเร็จราชการ เขาจึงมีคุณสมบัติที่จะต่อต้านตระกูลเหยียนได้ฟู่เฉินหวนน่าจะหลีกทางไปยิ่งไปกว่านั้น นางมีวิธีช่วยตัวเอง และมิอยากเป็นหนี้บุญคุณฟู่เฉินหวนด้วยอย่างไรก็ตาม ฟู่เฉินหวนมิลังเลเลย เขาพูดกับไทเฮาอย่างเย็นชาว่า “หากพิสูจน์ได้ว่าลั่วชิงยวนสังหารเสด็จพ่อ ข้าจะรับผิดชอบร่วมกับลั่วชิงยวน!”“ทว่าหากไม่ การกร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1293

    นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมิพอใจนางเป็นถึงองค์หญิง ความรักของนางนั้นสูงส่งยิ่งนัก เฉินชีควรจะคุกเข่ารับมันไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนางอย่างเย็นชา! มิหนำซ้ำยังทำให้นางอับอายขายหน้าอีกด้วย!นางมิพอใจและมิเต็มใจอย่างยิ่งเฉินชียิ่งเป็นแบบนี้ นางก็ยิ่งอยากเอาชนะเขาให้ได้!เฉินชีมองนางด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจแต่เขาก็ยังคงแย่งกระบี่ในมือเกาเหมียวเหมี่ยวมา แล้วกดศีรษะของนางลง ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากของนางอย่างมิลังเลหัวใจของเกาเหมียวเหมี่ยวเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมาจากอกของนางจูบของเฉินชีนั้นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างมิอาจต้านทานได้เกาเหมียวเหมี่ยวถูกจูบจนหมดแรง แทบจะทรุดตัวลงแต่ในขณะที่นางคิดว่าเฉินชีจะทำอะไรต่อไป เฉินชีกลับผลักนางออกอย่างแรงไร้ซึ่งความปรานีก่อนเดินจากไปอย่างสง่างามโดยมิแม้แต่จะหันมามองนางด้วยซ้ำเกาเหมียวเหมี่ยวล้มลงนั่งกับพื้นพลางมองแผ่นหลังของเฉินชีด้วยความตกตะลึงเสียงเย็นชาของเฉินชีดังขึ้นว่า “สิ่งที่ท่านให้ข้าทำ ข้าทำแล้ว เรื่องนี้จบแค่นี้”“หากท่านยังคงใช้เรื่องนี้มาขู่ข้าอีก ข้าจะมิเกรงใจท่านแน่”เฉินชีเดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status