Share

บทที่ 809

Author: หว่านชิงอิ๋น
จือเฉารู้สึกงุนงง “พระชายา แต่เหตุใดท่านมิเสนอเงื่อนไขและให้นางทำงานให้กับพระชายาต่อจากนี้เล่าเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนยิ้มและพูดว่า “หากข้าหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเสียเอง นางจะคิดว่าข้ามีเจตนาแอบแฝง”

“แค่ทำดีกับนาง ดีจนกระทั่งนางรู้สึกละอายใจไปเอง นางจะรู้สึกผิดหากนางมิทำอะไรตอบแทนความเมตตาของข้า”

“นี่คือวิธีเอาชนะใจผู้คน”

จือเฉาเข้าใจในทันทีและพยักหน้า “อย่างนี้นี่เอง! บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

ต่อจากนั้นอีกหลายวัน ลั่วชิงยวนมิได้ไปเยี่ยมทาสใบ้อีกเลย

จือเฉาแค่ส่งอาหารและยาทุกวัน โดยมิพูดอะไร

เมื่อทาสใบ้เริ่มขยับตัวได้ นางเดินออกจากลานเรือนแล้วจึงได้พบว่าไม่มีใครเฝ้าดูนาง หรือขวางนางไว้เลย

นางเดินออกจากลาน ก่อนจะเห็นลั่วชิงยวนกำลังอาบแดดอยู่ในสวนมิไกล

ลั่วชิงยวนลืมตาขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินมาตรงหน้า

“มีธุระอะไรหรือ?” ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย

ทาสใบ้ยืนนิ่ง มิรู้จะถามออกไปอย่างไร

ที่นี่ไม่มีปากกาและกระดาษ

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “เห็นเจ้าเดินได้เช่นนี้ เจ้าจะไปแล้วหรือ? เดินออกจากประตูหลังได้เลย จะไม่มีใครขัดขวางเจ้าหรอก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทาสใบ้ก็สะดุ้งเล็กน้อย

มองนางด้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 810

    “ไปคุยกันในห้องของข้าดีกว่า” ลั่วชิงยวนพาทาสใบ้ไปที่ห้องนางนำกระดาษกองหนาไปให้ทาสใบ้โชคดีที่ทาสใบ้รู้หนังสือ มิเช่นนั้นคงสื่อสารกันลำบากลั่วชิงยวนรอทาสใบ้เขียนบนกระดาษอย่างอดทน นางเขียนลงบนกระดาษว่า : อัครเสนาบดีลั่วให้นักพรตเต๋ามาสะกดแม่ของท่านเอาไว้การแสดงออกของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป เมื่อได้เห็นข้อความนั้น “ว่ากระไรนะ?”ทาสใบ้ยังคงเขียนต่อ : ข้ามิรู้รายละเอียด รู้เพียงว่ามินานหลังจากที่ท่านกลับมา เขาขอให้นักพรตเต๋ามาสะกดนางเอาไว้ ข้าเองก็มิรู้ว่าอยู่ที่ใดจู่ ๆ ลั่วชิงยวนนึกย้อนไปว่าตอนที่นางขุดโลงศพของมารดาขึ้นมา ในโลงศพกลับว่างเปล่าตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่ของนางมิได้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกลั่วไห่ผิงสะกดไว้ที่อื่น“เจ้าอยู่ในตระกูลลั่วมานานแล้ว เจ้ารู้จักแม่ของข้ามากน้อยเพียงใด?”ทาสใบ้เขียนว่า : ข้ามิรู้ ข้าถูกลั่วไห่ผิงซื้อมาเพื่อให้ปกป้องคุณหนูรอง บางครั้งเขาก็ถามข้าว่า คุณหนูรองทำอะไรบ้าง เรื่องอื่นเขามิได้บอกข้าลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ลั่วไห่ผิงจัดให้เจ้าอยู่กับลั่วเยวี่ยอิง แล้วเซี่ยหว่านก่อนหน้านี้เล่า?”ทาสใบ้พยักหน้าและเขียนว่า : อัครเสนาบดีลั่วรู้เรื่องเซี่ยหว่านมาโดย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 811

    “กระหม่อมได้ยินพระชายาบอกว่า อย่าให้ท่านอ๋องรู้”“ว่ากันว่าใช้ทำยาที่ทำให้คนหยุดมิได้” ซูโหยวพูดพร้อมขมวดคิ้ว เขินอายอย่างหนักทันใดนั้นมือของฟู่เฉินหวนก็แข็งตัว ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อยโดยมิได้ตั้งใจ“ยาอะไร?”ซูโหยวก้มหน้าลง “ยาที่ทำให้คนหยุดมิได้!”“นั่นคือสิ่งที่พระชายากล่าว! กระหม่อมเองก็มิรู้ว่าเป็นยาอะไรพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “เข้าใจแล้ว เจ้าไปได้”“พ่ะย่ะค่ะ” ซูโหยวรีบถอยออกไปฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ใบหน้ามืดมน ลั่วชิงยวนคิดจะทำอะไรอีก?เขาอยากเห็นนักว่ามันจะทำให้คนหยุดมิได้ได้อย่างไร!…… ลั่วชิงยวนยุ่งจนหัวหมุนอยู่สองวันเต็ม ก่อนที่จะเตรียมขวดโอสถปรารถนานิรันดร์ในที่สุดไม่มีสีและไม่มีกลิ่น สามารถผสมลงในสุราและชาได้อย่างลงตัว ตรวจสอบมิพบเพื่อความปลอดภัย ลั่วชิงยวนได้เตรียมยาแก้พิษไว้ขวดหนึ่งด้วยโอสถปรารถนานิรันดร์มีหลากหลายสูตร ดังนั้นยาถอนพิษก็มีหลายแบบเช่นกัน หากใช้ยาแล้วจะไม่มีเวลาเตรียมยาถอนพิษได้ทันโอสถพร้อมแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นวันนี้อากาศดี ลั่วชิงยวนกำลังอาบแดดอยู่ที่สนามหญ้าอีกครั้ง นางถามแม่นมเติ้งว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 812

    ลั่วชิงยวนมิสนใจ หลังจากดื่มแล้วก็คีบผักขึ้นมากิน และพูดว่า “ช่วงนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำเลย”“อากาศก็ค่อนข้างดี ดอกไม้ก็เบ่งบาน”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ดูเหมือนหลังจากดื่มสุราจะไม่มีความรู้สึกแปลก ๆ แต่อย่างใด เขาพยักหน้าและตอบอย่างเฉยเมยว่า “อืม”ฟู่เฉินหวนมองไปที่จานกับข้าวบนโต๊ะอีกครั้ง หรือว่ายานั่นจะอยู่ในอาหาร?เขาจึงคีบผักขึ้นมาและเริ่มกินเข้าไปเขากินทีละจานลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนกินอาหารอย่างรีบร้อน “ท่านหิวมากหรือ?”ฟู่เฉินหวนตอบเบา ๆ “นิดหน่อย”นางนำจานอาหารมาวางไว้ข้างหน้าฟู่เฉินหวน “เช่นนั้นก็กินให้เยอะ ๆ เพคะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว หรือว่ายาอยู่ในจานนี้?ฟู่เฉินหวนเริ่มคับกับข้างอีกครั้ง“หม่อมฉันได้ยินมาว่า ในวังมีงานชมบุปผา ท่านจะไปหรือไม่?” ลั่วชิงยวนเข้าประเด็นอันที่จริงแล้ว นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมิค่อยชอบเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้แต่นางอยากไปหากนางมิไป แล้วจะเปิดโอกาสให้ลั่วเยวี่ยอิงทำร้ายนางได้อย่างไรเล่า?แต่งานนี้ไทเฮาเป็นคนจัดขึ้น นางมิได้รับเชิญก็ไปมิได้ฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น “ข้ามิสนใจเรื่องพวกนี้”แน่นอนว่าเขามิอยากไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 813

    ในอีกสองวันต่อมา ฟู่เฉินหวนก็จัดการงานราชการอยู่ในตำหนัก มิได้ออกไปข้างนอกแต่มันทำให้ลั่วชิงยวนมีโอกาสนางสืบทราบมาแล้วว่าอีกเจ็ดวันในวังจะมีงานชมบุปผาดังนั้นนางจึงต้องรีบทำให้ฟู่เฉินหวนตอบตกลงดังนั้นนางจึงนำอาหารมาให้ฟู่เฉินหวนอย่างขยันขันแข็ง วันหนึ่งไปห้องตำราของเขาสามหรือสี่ครั้ง เพราะต้องการเข้าร่วมในงานชมบุปผาเป็นอย่างมากแต่นางมิเข้าใจว่า เหตุใดฟู่เฉินหวนถึงสนใจอาหารและชาที่นางส่งไปนัก เขากินจนเกลี้ยงทุกครั้งไปแต่งานชมบุปผาเขากลับยังมิตอบตกลงยิ่งลั่วชิงยวนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งแปลกใจ เมื่อเข้าวันที่สามจึงมิส่งอาหารไปอีกมิคิดว่าฝูเฉินหวนจะเป็นฝ่ายมาหานางเองบอกว่ามาลองชิมอาหารในเรือนของนางคนครัวก็คนเดียวกัน จะต่างกันตรงไหน?ลั่วชิงยวนคิดไปว่าฟู่เฉินหวนคงเสียสติกะทันหันหรือไม่ก็คงป่วยหรืออย่างไร?หลังจากมากินอาหารที่นี่หนึ่งวันในวันรุ่งขึ้นฟู่เฉินหวนก็กลับมาอีก ลั่วชิงยวนขอให้จือเฉาเก็บอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดออกไปฟู่เฉินหวนนั่งอยู่ที่ลานเรือน ชาสักถ้วยก็มิได้ดื่มฟู่เฉินหวนเริ่มหมดความอดทน เขาให้โอกาสกับลั่วชิงยวนตั้งมากมาย เหตุใดนางถึงยังมิว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 814

    ขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงคิดว่าจะเข้าร่วมงานชมบุปผาได้อย่างไร ซูโหยวก็มาบอกนางว่า ฟู่เฉินหวนจะเข้าร่วมงานชมบุปผาด้วยยามนี้ลั่วชิงยวนจึงคลายใจได้แล้วนางรีบติดต่อลั่วอวิ๋นสี่ทันทีและมอบขวดโอสถปรารถนานิรันดร์ให้กับลั่วอวิ๋นสี่“บอกลั่วเยวี่ยอิงว่าข้าจะไปงานชมบุปผา”ลั่วอวิ๋นสี่หยิบขวดยาแล้วออกไปทันทีเมื่อข่าวนี้ไปถึงหูของลั่วเยวี่ยอิง ลั่วเยวี่ยอิงก็เริ่มลงมือทันทีก่อนอื่น นางต้องไปพบเหยียนผิงเซียวเมื่อมินานมานี้ เพื่อปกป้องลั่วฉิง เหยียนผิงเซียวถูกคนของฟู่เฉินหวนไล่ล่าไปตามถนนเหมือนกับหนูตัวหนึ่ง ซึ่งนับว่าวุ่นวายมากและตอนนี้ลั่วฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องเปลี่ยนที่หลบซ่อนตัวไปเรื่อย ๆ มิได้พักผ่อนอย่างสงบ นั่นทำให้เหยียนผิงเซียวโกรธยิ่งกว่าเดิมดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงสมรู้ร่วมคิดกันว่าจะโจมตีฟู่เฉินหวนในงานชมบุปผานี้ให้หนัก!และทำให้ลั่วชิงยวนเสียชื่อเสียงด้วย!…… งานชมบุปผากำลังจะเริ่มแล้วงานชมบุปผาในครั้งนี้ ลั่วชิงยวนสืบทราบมาว่า ตัวเอกของงานน่าจะเป็นเหยียนซุยซินน้องสาวแท้ ๆ ของเหยียนหน่ายซินเรื่องของเหยียนหน่ายซินกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ดังนั้นนางย่อมมิอาจเป็นฮองเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 815

    เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเร่งเร้า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ! มิซื้อก็ออกไปเสีย!"เป็นผลให้แขกทุกคนในศาลารุ้งเมฆาถูกขับออกไปอย่างรวดเร็วศาลารุ้งเมฆาทั้งหมดถูกยึดครองโดยลั่วเยวี่ยอิงและพรรคพวกแล้วเมื่อลั่วชิงยวนมาที่ศาลารุ้งเมฆาอีกครั้ง เถ้าแก่ก็บอกกับนางอย่างช่วยมิได้ว่า “ขออภัยด้วยจริงๆ พระชายา อาภรณ์ทั้งหมดในร้านตอนนี้ขายหมดแล้ว”“ชุดที่ข้าชอบล่ะ?”“ขายไปแล้วเหมือนกัน”“ขายไปแล้วรึ? ข้าเลือกก่อนแท้ๆ! เจ้าทำการค้าเช่นนี้ได้อย่างไร?!”“ข้าขออภัยจริง ๆ เจ้าค่ะ พระชายา” เถ้าแก่เอ่ยปากขอโทษลั่วชิงยวนจากไปด้วยความโกรธเมื่อลั่วเยวี่ยอิงรู้เรื่องนี้ นางก็ยิ้มอย่างพอใจ มองดูอาภรณ์อันงดงามตรงหน้านาง และยิ้มเยาะ“ลั่วชิงยวน คนตายอย่างเจ้ามิจำเป็นต้องสวมอาภรณ์ดี ๆ พวกนี้หรอก”…… ตอนกลางคืนหลังอาหารเย็นจือเฉากลับมาอย่างเร่งรีบ “พระชายา คุณหนูลั่วเอ๋อร์ได้จัดการประมูลเล็ก ๆ ที่ภัตตาคารหงเฟิงเพื่อประมูลอาภรณ์ที่ซื้อที่ศาลารุ้งเมฆาไปวันนี้ในราคาสูงเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “นางช่างรู้วิธีหาเงินจริง ๆ”จือเฉาพยักหน้า “งานชมบุปผากำลังจะเริ่มแล้ว ต้องมีคนจำนวนมากที่ยอมจ่ายแพงเพื่อซื้อ นี่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 816

    สวนหลวงในพระราชวังในวันที่อากาศแจ่มใส งานชมบุปผาในพระราชวังก็ได้เริ่มขึ้นแล้วไทเฮาเป็นประธานในงานชมบุปผา ผู้ที่นั่งถัดจากนางคือเหยียนซุยซิน ในวันนี้นางแต่งกายอย่างอลังการซึ่งเป็นที่น่าจดจำวันนี้มีบุตรหลานจากตระกูลชนชั้นสูงมาร่วมด้วย ในขณะนี้ บุรุษและสตรีรูปงามในสวนกำลังชื่นชมบุปผาและแต่งบทกวีในสวน น่าดูเป็นอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเดินไปกับฟู่เฉินหวน ตามมาด้วยฟู่อวิ๋นโจว เพราะฟู่อวิ๋นโจวเองก็ได้รับเชิญในครั้งนี้เช่นกันแม้ว่าฟู่เฉินหวนจะมิพอใจที่มีฟู่อวิ๋นโจวติดตามเขามมาด้วย แต่เขามิอาจขังฟู่อวิ๋นโจวให้อยู่แต่ในตำหนักอ๋องได้ในขณะนี้ฟู่เฉินหวนเดินอยู่ระหว่างลั่วชิงยวนและฟู่อวิ๋นโจว มองดูการแต่งกายของลั่วชิงยวนในวันนี้อย่างพอใจและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าสายตาของข้าจะมิเลวเลย อาภรณ์เมฆารัตติกาลที่เจ้าสวมอยู่นี้ ดูดีกว่าอีกชุดมาก”ลั่วชิงยวนเหลือบมองเขาอย่างอดมิได้อีกชุดเป็นของขวัญจากฟู่อวิ๋นโจวเนื่องจากเขารู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงซื้ออาภรณ์ทั้งหมดจากศาลารุ้งเมฆา ฟู่อวิ๋นโจวจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการซื้ออาภรณ์จากศาลารุ้งเมฆาให้นางแต่ฟู่อวิ๋นโจวคงคิดมิถึงว่าฟู่เฉินหวนซื้อศาลารุ้งเมฆาไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 817

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลั่วชิงยวนนางก็ตกใจทันทีลั่วชิงยวนยังสามารถสวมอาภรณ์ของศาลารุ้งเมฆาได้อย่างนั้นหรือ?ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้วในขณะนี้ ลั่วชิงยวนรู้สึกว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นางปล่อยแขนลงลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองฟู่เฉินหวน เพียงเพื่อจะเห็นว่าดวงตาของเขากำลังมองไปยังลั่วเยวี่ยอิงอย่างมิละสายตาดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา และเดินจากไปทันที นางเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งหินข้าง ๆการปรากฏตัวของลั่วเยวี่ยอิง ได้กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจในสวนแห่งนี้ไปอย่างมิต้องสงสัย"ชุดนี้งดงามมาก"“ใช่ ชุดนี้ทำให้คนดูงามกว่าดอกไม้เสียอีก”ในศาลา ไทเฮาวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะอย่างแรง “ช่างงามกว่าดอกไม้เสียจริง!”“ลั่วเยวี่ยอิงคิดว่าตัวเองเป็นฮองเฮาหรืออย่างไร?”เหยียนซุยซินรีบปลอบไทเฮา “ไทเฮา อย่าทรงกริ้วไปเลยเพคะ”“วันนี้มีคนมามากมาย ให้หน้าตระกูลลั่วสักหน่อยเถิดเพคะ”ไทเฮาทำได้แค่กลั้นใจอดทนเท่านั้นที่นี่ ลั่วเยวี่ยอิงนั่งอยู่ข้างหน้าฟู่เฉินหวน และทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันลั่วชิงยวนนั่งอีกด้านหนึ่ง ดื่มชาและเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆฟู่เฉินหวนคงกำลังเตือนลั่วเยวี่ยอิง​​มิให้แต่งตัวเช่นนี้ใช่ห

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status