Share

บทที่ 694

Author: หว่านชิงอิ๋น
คนที่ดูเหตุการณ์อยู่ภายนอกต่างวิตกกังวล

เสียงของสัตว์ร้ายดังขึ้นในหูของลั่วชิงยวน ความกลัวในหัวใจนางก็ยิ่งกินพื้นที่มากขึ้น

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วร่างกายของนางทำให้ลั่วชิงยวนมิแข็งแกร่งเท่าที่ควร แต่นางก็เลือกที่จะกัดฟันทนต่อไป

นางจะมาตายที่นี่มิได้!

นางมิยอมตายในสถานที่อัปยศเช่นนี้!

เหยียนหน่ายซิน!

ดวงตาของลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยความดุร้าย เมื่อนางต่อต้านการโจมตีของหมาป่า นางก็ยกขาขึ้น เตะหน้าท้องของมันอย่างแรง และเตะมันออกไป

หมาป่าไม่รู้สึกเจ็บปวดและเข้าตะครุบนางอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนตบฝ่ามือลงบนพื้น พลิกตัว กระโดดขึ้นไปในอากาศ และหลีกเลี่ยงการโจมตีของหมาป่า

ในเวลาเดียวกัน ก็เตะเข้าที่หัวหมาป่าอย่างแรง

นางเตะหมาป่าแรงจนร่างของมันกระแทกเข้ากับกรงเหล็ก

ภายใต้การโจมตีอย่างหนักหน่วง ลั่วชิงยวนมองเห็นช่องโหว่ที่บริเวณข้อต่อของกรงเหล็ก

“น่าตื่นเต้นมากทีเดียว!”

“ความแข็งแกร่งของคนพวกนี้มิธรรมดาเลย!”

แม้ว่าคนในวังจะไม่พอใจกับสิ่งนี้ แต่พวกเขาก็ยังคงหลงใหลไปกับมัน ทั้งประหม่าและน่าตื่นเต้นถึงขีดสุด

ทันทีที่ฟู่เฉินหวนนั่งลง เขาก็ขมวดคิ้วและรู้สึกสับสนเมื่อเห็นร่างในกร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Benja Thongpetch
นังเขียนโครตป่วยจิตค่ะ นางเอกโง่ พระเอกระยำ
goodnovel comment avatar
Benja Thongpetch
โถนักเขียนหน้าโง่ พระเอกไม่รู้ว่าเมียตัวเองคือใคร 555555
goodnovel comment avatar
นันทกา ฤทธิ์เดช
คนเขียนกำลังทำให้คนอ่านทรมานนะนี่ อยากอ่านต่อแล้ววว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 695

    ลั่วชิงยวนเหลือบมองเหยียนหน่ายซินด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่หมาป่าคำรามและกระโจนเข้าหา ลั่วชิงยวนก็คว้าชิ้นส่วนอันแหลมคมของหน้ากากไว้ แล้วเลื่อนถอยหลังออกไปเศษชิ้นส่วนตัดเข้าที่สวนท้องของหมาป่าหมาป่าซึ่งถูกกระตุ้นด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง กลับกลายเป็นดุร้ายมากขึ้นและรีบพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอีกครั้งลั่วชิงยวนกระโดดขึ้นและกระแทกเข้าที่จุดบอดของกรงจนมันเปิดออกนางรีบทะยานตัวออกไปในขณะนั้น ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึง!มีเสียงโห่ร้องและอุทานดังขึ้น“ลั่วชิงยวน!” เหยียนหน่ายซินตกใจและตะโกนออกไปด้วยความโกรธลั่วชิงยวนบ้าหรือไร? หาเรื่องกระโจนออกจากกรงเนี่ยนะ!ทันทีที่สามคำนี้ถูกตะโกนออกมา ผู้ชมทั้งหมดก็กรีดร้องด้วยความประหลาดใจม่านตาของฟู่เฉินหวนหรี่ลง เขาจ้องมองไปยังใบหน้างดงามน่าทึ่งที่ปกคลุมไปด้วยเลือดและเจตนาสังหารอย่างตั้งใจนั่นคือ... ลั่วชิงยวนอย่างนั้นหรือ?ตลกไปใหญ่แล้ว!อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทันได้ตอบสนอง ขณะที่ลั่วชิงยวนออกจากกรงมาได้ นางก็คว้าไหล่ของเหยียนหน่ายซินไว้ทันทีนางผลักอีกฝ่ายเข้ากับกรงด้านหลังอย่างแรง“อ๊าก!” เหยียนหน่ายซินพุ่งตรงไปที่ปากหมาป่าช่องท้องของ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 696

    ทุกคนกำลังตกตะลึงและไม่อาจเรียกเตือนสติได้เป็นเวลานาน“ใช่ นางน่าเกลียดมากจนไม่เคยถอดหน้ากาก เหตุใดวันนี้นางจึง...”ทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือใบหน้าของลั่วชิงยวนผู้ซึ่งได้ฉายาว่าเป็นสตรีอัปลักษณ์ที่สุดในเมืองหลวง เป็นที่โจษจันกันว่านางคือคางคกที่อยากกินเนื้อหงส์มิใช่หรือ?เรื่องรูปร่างหน้าตาของลั่วชิงยวนนั้นนับว่าน่าตกใจยิ่งกว่าตอนที่เหยียนหน่ายซินเกือบจะถูกหมาป่ากัดจนตายเสียอีก“มิแปลกใจแล้วว่า ไฉนท่านอ๋องจึงมิยอมให้ลั่วชิงยวนถอดหน้ากาก ข้าเคยคิดว่าเป็นเพราะเขากลัวว่าใบหน้าของนางจะทำให้ท่านอ๋องอย่างเขาเสียชื่อเสียง ครั้นเมื่อเห็นอย่างวันนี้แล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าเขากลัวว่าผู้คนได้ยลโฉมความงามของชายาตัวเองมากกว่า!”“อ้อ! ต้องใช่แน่! ต้องเป็นเหตุผลนี้แน่นอน!”“ท่านอ๋องมิเห็นแก่หน้าพวกเราเลยจริง ๆ ถึงได้ซ่อนพระชายาผู้งดงามเอาไว้เช่นนี้”ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องนี้กันไม่หยุดปากลั่วเยวี่ยอิงนั่งอยู่บนที่นั่งของนาง ไม่อาจเรียกสติกลับมาได้เป็นเวลานานเมื่อฟังคำพูดรอบตัว นางได้แต่รู้สึกตกใจและโกรธอย่างรุนแรงที่สุดไฉนลั่วชิงยวนถึงมีหน้าตางดงามเช่นนั้น?ไฉนนางจึงไม่มีรอยแผลเป็นบนใบห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 697

    เขานึกอยากจะพาตัวลั่วชิงยวนออกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เขามิรู้ว่าจะกล้าสู้กับสายตาเย็นชาของนางได้อย่างไรบรรดาหมอถูกส่งไปทีละคน พวกเขาถือล่วมยาและเวชภัณฑ์มากมายอยู่ในมือด้วยเมื่อมองแวบแรก ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปรักษาอาการบาดเจ็บของเหยียนหน่ายซินฟู่เฉินหวนหยุดหนึ่งในนั้น “หมอหลวงสวี่”หมอหลวงสวี่หยุดและพูดว่า “พ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าอยู่นี่และคอยดูแลองค์ชายห้าและพระชายาอ๋องแล้วกัน ที่นี่ไม่มีหมอหลวงอยู่เลย”“พ่ะย่ะค่ะ”…… หลังจากที่ฟู่อวิ๋นโจวได้รับยา และอาการทางกายภาพของเขาเป็นปกติดีแล้ว ลั่วชิงยวนก็เบาใจได้เปลาะหนึ่ง ก่อนจะฟลุบหลับลงไปกับโต๊ะฟู่เฉินหวนเดินเข้าไปในห้องอย่างช้า ๆ หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาแล้วสวมให้ลั่วชิงยวนอย่างระมัดระวังลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาในขณะนั้น แต่นางอ่อนล้าเหลือทนและไม่อยากจะขยับกายแม้แต่น้อยในเวลานี้องค์จักรพรรดิก็รีบมาอย่างใจจดใจจ่อ“พี่สาม พี่สาม! นางผู้นั้นคือลั่วชิงยวนจริงหรือ? ท่านนี่ใจร้ายจริง ๆ เก็บงำเรื่องนี้ไว้จากข้ามาตั้งนาน!” ฟู่จิ่งหานรีบเข้าไปในห้องฟู่เฉินหวนส่งเสียง ‘ชู่ว’ ออกไปทันทีองค์จักรพรรดิตกใจเล็กน้อย เขาลดเสียงลง และชี้ไปยังร่างที่นอนอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 698

    ฟู่เฉินหวนหายใจไม่ออกเขากำมือแน่นจนเลือดแทบไหลฉากที่เขาเห็นเบื้องหน้ายิ่งทำให้จิตใจของเขาระส่ำระส่ายลั่วชิงยวนอยู่ข้างเตียง จับมือของฟู่อวิ๋นโจวไว้แน่น และพูดคุยกับเขาด้วยความกังวลฟู่เฉินหวนไม่ต้องการได้ยินอะไรสักคำ ไม่อยากแม้แต่จะเหลือบมองซ้ำ เขาเลือกที่จะหันหลังกลับและจากไปแทน “เซียวชู พาคนสองสามคนมาเฝ้านางอย่างลับ ๆ และปกป้องนางด้วย” ฟู่เฉินหวนเดินออกจากลานและสั่งเซียวชูเซียวชูตกใจเล็กน้อย “แต่... คดีขององค์ชายห้าจะไม่ตรวจสอบแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ฟู่อวิ๋นโจวฟื้นแล้ว เพียงมีคำให้การของเขา ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยดี” นี่อาจเป็นข้อดีอย่างเดียวของการที่ฟู่อวิ๋นโจวฟื้นขึ้นมา“แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด เตรียมแพะรับบาปไว้ล่วงหน้าและแกล้งทำเป็นบุคคลที่สามในคืนนั้นด้วย”เซียวชูตอบด้วยความเคารพ “พ่ะย่ะค่ะ!”จากนั้นฟู่เฉินหวนก็เดินจากไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้งภายในห้องลั่วชิงยวนคว้ามือของฟู่อวิ๋นโจวอย่างประหม่า “ท่านตื่นแล้วหรือ? ไฉนมือของท่านจึงเย็นนัก?”ลั่วชิงยวนพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เขาอบอุ่นขึ้น แต่พบว่าอุณหภูมิร่างกายของฟู่อวิ๋นโจวค่อย ๆ ลดลงนา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 699

    “พระชายา!” จู่ ๆ เซียวชูก็ปรากฏตัวขึ้นและก้าวไปประคองนางไว้ “พระชายา ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นก็ควรกลับไปพักฟื้นเสียก่อน!”เมื่อเห็นเซียวชู ลั่วชิงยวนก็สะดุ้งและคว้าแขนของเขาไว้ “ร่างของหมอกู้อยู่ที่ใด?”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซียวชูก็ประหลาดใจ ดวงตาของเขาว่างเปล่าและสับสน “ศพ? หมอกู้?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "ใช่ มีร่างของหมอกู้อยู่ในห้องนั้น!”เซียวชูขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ“ไม่มีร่างของหมอกู้เลยขอรับ”“หลังจากเหตุการณ์ระหว่างท่านกับองค์ชายห้าในคืนนั้น เราก็ไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบทันที ดูจากร่องรอยในที่เกิดเหตุ ไม่มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย!”“ข้าก็มิเห็นศพของหมอกู้เหมือนกันขอรับ”ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดออกมาเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกขนหัวลุกไม่มีศพหรือ?เหตุใดจึงไม่มีศพ?นางฆ่าหมอกู้ด้วยมือของนางเอง!หรือว่าหมอกู้จะยังมิตาย? เขาหนีไปได้งั้นหรือ?เป็นไปมิได้!ในเวลานั้นกริชจันทร์เสี้ยวเกือบจะตัดศีรษะของหมอเทวดากู้ออกไป เขาจะตายอย่างแน่นอน! นางมิอยากจะเชื่อ จึงกลับไปที่ห้องที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อตรวจสอบดังที่เซียวชูกล่าว ตำแหน่งของศพในห้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 700

    ลั่วชิงยวนเดินจากไปอย่างผิดหวังเซียวชูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วของเขาขมวดมุ่น และคิดว่าเขาพูดอะไรผิดหรือไม่?เมื่อลั่วชิงยวนกลับมาที่ห้อง ฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถามด้วยความกังวล “พบแล้วหรือยัง”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า นางนั่งลงเพื่อตรวจดูชีพจรของฟู่อวิ๋นโจวแล้วถามว่า “เมื่อพิษเริ่มทำงาน ท่านจะมีอาการเช่นไร?”ฟู่อวิ๋นโจวตกใจเล็กน้อยและดูเศร้าซึม เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่พบยาแก้พิษ“ร่างกายของข้าจะรู้สึกหนาวราวกับถูกแช่แข็งอยู่ในห้องเก็บน้ำแข็งใต้ดิน…”ฟู่อวิ๋นโจวพูดอย่างระมัดระวังโดยไม่เก็บงานรายละเอียดใด ๆลั่วชิงยวนวิเคราะห์จากสิ่งที่เขาพูด จากนั้นจึงเขียนใบเทียบยา แล้วไปเตรียมยาด้วยตนเองแม้ว่าพิษที่ฟู่อวิ๋นโจวได้รับจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็เป็นการดีกว่าที่จะระงับมันไว้ชั่วคราวและทำให้เขารอดชีวิตไปได้ในช่วงเวลานี้ก่อนตราบใดที่เขาให้เวลานางอีกสักหน่อย นางจะค่อย ๆ ค้นคว้ายาแก้พิษออกมาได้แน่!ฟู่อวิ๋นโจวกินยาแล้วและทุกอย่างก็ปกติดี อาการของเขามิได้ทรุดลงแต่อย่างใด ทว่าลั่วชิงยวนก็มิหายกังวลและคอยเฝ้าอยู่ในห้องตลอดเวลาเนื่องจากผลของยา ในไม่ช้าฟู่อวิ๋นโจวจึงเข้าสู่ภาวะหลับลึกท่ามกลา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 701

    ฝ่ามือที่เย็นเล็กน้อยของเขาสัมผัสลงบนผิวหนังของลั่วชิงยวน ทำให้หูของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ก่อนที่นางจะตะโกนขึ้นด้วยความโกรธว่า “ไปให้พ้น!”“อย่าขยับ!” ฟู่เฉินหวนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขามีเลือดออกรอยแส้ทั่วร่างเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อไร?ผิวหนังแตก เนื้อฉีก มีกลิ่นเค็มชัดเจน นี่คงเป็นน้ำเกลือ!ฟู่เฉินหวนหนักมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น“ฟู่เฉินหวน นี่ท่านคิดจะทำอะไร!” ลั่วชิงยวนคว้าอาภรณ์ขึ้นมาปกปิดร่างกายของตน นางจ้องมองบุรุษตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำฟู่เฉินหวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นความลำบากใจและการต่อต้านของนางเมื่อดูการกระทำของนาง ฟู่เฉินหวนก็เกิดกังวล"ข้าขอโทษ"การที่จู่ ๆ เขาก็เอ่ยปากขอโทษ นั่นทำให้ลั่วชิงยวนตกใจครู่ต่อมา มือใหญ่โตก็วางลงบนลำคอของนางมีเสียงดัง ‘แคว่ก’ เกิดขึ้นเสื้อผ้าของนางขาดวิ่นความเยือกเย็นที่พัดเข้ามาทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกละอายใจเล็กน้อยนางขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ฝ่ามือของฟู่เฉินหวนกลับกดไหล่ของนางไว้ได้อย่างแน่นหนาเขายังขู่ซ้ำ “หากเจ้าขยับอีกครั้ง ข้าจะฆ่าฟู่อวิ๋นโจวเสีย!”ลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 702

    ฟู่เฉินหวนตกตะลึง หัวใจเกิดเสียงดังก้องขึ้น“ข้ามิอยากถูกท่านใช้เป็นเครื่องมือซ้ำแล้วซ้ำอีก”“ตอนนี้เหยียนหน่ายซินคงไม่มีสิทธิ์ได้เป็นฮองเฮาอย่างแน่นอน ครั้งนี้ท่านบรรลุเป้าหมายอีกครั้งแล้ว เช่นนั้นก็ปล่อยข้าไปเถอะ”ฟู่เฉินหวนตกใจ นางได้ยินอย่างนั้นหรือ?ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วอยู่นาน ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นว่า “ไว้คุยกันทีหลัง”เขามิเห็นด้วยและไม่ปฏิเสธ ลั่วชิงยวนจึงมิรู้ว่าเขาหมายความเช่นไรพวกเขาเดินมาถึงจัตุรัสหน้าพระตำหนักขององค์จักรพรรดิในขณะนี้ หมอหลวงทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่พวกเขากำลังคุยกันเรื่องยาและเรื่องอื่น ๆ อยู่ภายในและยุ่งจนหัวหมุน อย่างไรก็ตามเหยียนหน่ายซินกลับยังคงมีสติอยู่นางยังมิหลับและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดองค์จักรพรรดิกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องโถงเมื่อเห็นคนทั้งคู่เข้ามาเขาก็สั่งการทันที “พระชายาอ๋องได้รับบาดเจ็บ โปรดดูอาการให้นางด้วย”ขันทีนำเก้าอี้มา ส่วนฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนก็นั่งลงด้วยกัน“ลั่วชิงยวน เจ้าคือลั่วชิงยวนใช่หรือไม่?” องค์จักรพรรดิถามด้วยความสนใจ“เพคะ” ลั่วชิงยวนดูซีดเซียวและตอบด้วยเสียงต่ำองค์จักรพรรดิค่อย ๆ วางถ้วยชาลงแล้วถามอีกครั้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status