Share

บทที่ 423

Auteur: หว่านชิงอิ๋น
“เฮ้อ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับผู้คน!”

ครั้นหอสมุทรมรกตรุ่งเรืองเฟื่องฟู ลั่วชิงยวนยังไม่ถือกำเนิด ดังนั้นนางย่อมไม่มีความทรงจำเรื่องนั้นอยู่เลย

แต่เมื่อได้ยินท่านลุงเล่าเรื่องนั้นและเห็นแววตาเร่าร้อนของเขา ไม่ว่าผู้ใดก็ย่อมนึกออกว่ายามนั้นถนนสายนี้คึกคักและเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด

ลั่วชิงยวนกับท่านลุงนั่งอยู่ในลานแล้วพูดคุยกันจวบจนรุ่งอรุณยังไต่ถามเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหอสมุทรมรกต

นางยังได้รู้อีกว่าท่านลุงผู้นี้แซ่ฟ่าน เขาเองก็มาที่เมืองหลวงเพราะหลงใหลในตัวลิ่นฝูเสวี่ย

ในที่สุดเขาก็ซื้อร้านที่นี่เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับลิ่นฝูเสวี่ยมากขึ้น ทว่าลิ่นฝูเสวี่ยกลับประสบอุบัติเหตุจนสิ้นชีพ

ยามนั้นถนนสายนี้คึกคักยิ่งนัก มีรถม้าของขุนนางชั้นสูงวิ่งกันขวักไขว่อยู่ทุกวี่ทุกวัน จากนั้นสตรีทั้งหลายก็จะเข้ามาดีดพิณและร่ายรำกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ดังนั้นยามที่ลิ่นฝูเสวี่ยถูกรับตัวไปจึงหามีผู้ใดคิดว่ามีอะไรแปลก ๆ ไม่

แต่หลังจากคราวนั้นนางก็มิได้กลับมาอีกเลย

ท่านลุงฟ่านเป็นคนจิตใจดี หากมีผู้ใดบังเอิญเผลอเข้าไปในเรือนหลังนั้น เขาก็จะช่วยเหลือคนเอาไว้

หลังจากผ่านมานานหลายปีขนาดนั้น เขากลั
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 424

    วันนั้นลั่วชิงยวนสั่งให้คนมาทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกเรือน พร้อมแขวนโคมไฟเอาไว้หน้าประตูและลานเรือน เมื่อปราศจากภาพลวงตา เรือนก็แลดูใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนกับที่เห็นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวไม่น้อยจึงเป็นที่รู้กันไปทั่วถนนทั้งสาย ช่วงกลางวันในเรือนหามีความเคลื่อนไหวอันใด ลั่วชิงยวนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็หาทราบไม่ว่าคนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ตกกลางคืน ลั่วชิงยวนก็มาที่ประตูเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้นางมิได้พาซ่งเชียนฉู่มาด้วย เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายอาจจะหวาดกลัวได้ ลมราตรีหอบหนึ่งพัดพาความเหน็บหนาวมาเล็กน้อย จากนั้นประตูก็เปิดดังเอี๊ยดราวกับต้อนรับนางให้เข้ามา ลั่วชิงยวนก้าวเดินเข้ามาในลานเรือนด้วยฝีเท้ามั่นคง นางได้ยินเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยกำลังร้องเพลงจากเรือนชั้นในแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไป ยังคงเป็นเวทีทรงกลม ดังเช่นเมื่อคืนนี้ คนที่อยู่บนเวทีกำลังร้องรำทำเพลงราวกับมีผู้ชมอยู่ ลั่วชิงยวนมัวแต่ครุ่นคิด ทว่าชั่วครู่ต่อมา ความเหน็บหนาวก็ไต่ขึ้นมาตามแผ่นหลังของนางแล้วนิ้วมือเย็นเฉียบก็ค่อย ๆ วางลงบนไหล่ของนาง ลมหายใจหอมกรุ่นราวดอกกล้วยไม้เอ่ยกระซิบว่า “คุณชาย มาเต้นรำกันเถอะเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 425

    เมื่อเห็นว่านางไม่มีเจตนาจะต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด งูยักษ์ก็ค่อย ๆ อันตรธานหายไปท่ามกลางความมืด เมื่อพลังกดดันวิญญาณรอบตัวสลายไป ลิ่นฝูเสวี่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาหวาดระแวง อีกฝ่ายไม่คาดคิดเลยว่าแม่นางน้อยจะมีผู้ช่วยเหลือที่แข็งแกร่งเช่นนั้น อีกฝ่ายหาทราบไม่ว่าแม่นางน้อยอย่างนางจะสามารถควบคุมงูยักษ์ตนนั้นได้ ลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามาหา แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับถอยหลังไปสองก้าวอย่างระวังระไว ราชันย์อสรพิษทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว นับเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ถึงแม้ว่าลิ่นฝูเสวี่ยจะมีชีวิตอยู่มานานหลายปี แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับอายุและตบะของราชันย์อสรพิษ นางไม่ต้องออกแรงก็จัดการกับลิ่นฝูเสวี่ยได้แล้ว “แม่นางหลิน ไม่ต้องกลัว” ลั่วชิงยวนเดินเข้ามาอีกก้าว แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าจักไปคืนนี้แหละ ข้ามิต้องการเรือนหลังนี้อีกต่อไปแล้ว” ลิ่นฝูเสวี่ยเอ่ยพลางเหลือบมองเรือนหลังใหญ่ สายตาของนางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ ลิ่นฝูเสวี่ยคิดว่าลั่วชิงยวนจะขับไล่นางไป เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ยิ้มขึ้นมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 426

    ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น ความทรงจำของนางคงอยู่ตอนอายุสิบสามปีเท่านั้น จากนั้นนางก็นึกอันใดมิออกแล้ว มิหนำซ้ำนางยังจำชื่อมารดาของตนมิได้เสียด้วยซ้ำไป นางถึงขนาดถามท่านป้าลั่วหรงและคนที่น่าจะรู้จักมารดาของตน แต่ก็หามีผู้ใดล่วงรู้ชื่อมารดาของลั่วชิงยวนไม่ เนื่องจากนางเป็นฮูหยินอัครมหาเสนาบดี คนภายนอกจวนจึงเรียกนางว่าฮูหยินลั่ว “ข้าจำชื่อนางมิได้ก็จริง แต่ทุกคนเรียกนางว่าฮูหยินลั่ว นางเป็นฮูหยินของลั่วไห่ผิง” เมื่อลิ่นฝูเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็หน้าเปลี่ยนสีอยู่บ้าง “ท่านถามถึงนางไปเพื่ออันใดกัน?” ลั่วชิงยวนรู้สึกตกตะลึง “เจ้ารู้จักนางด้วยรึ?!” ลิ่นฝูเสวี่ยเลิกคิ้วแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ารู้จักนาง” “ไม่เพียงพวกเรารู้จักกัน แต่พวกเรายังค่อนข้างสนิทสนมกันด้วย” ลั่วชิงยวนหัวใจบีบรัด นางกำลังจะได้ทราบเรื่องของมารดาตนเองแล้ว หรือว่ามารดาของลั่วชิงยวนจะเป็นนายหญิงของอีกฝ่าย? “เช่นนั้น…” ลั่วชิงยวนอดรนทนไม่ไหวจนต้องถามออกมา แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับค่อย ๆ ยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไม่ทำการค้าที่ขาดทุนหรอกนะ หากท่านปรารถนาสิ่งใดจากข้า ท่านก็ต้องมอบสิ่งที่ข้าปรารถนาเป็นการแลกเปลี่ยน” “มิฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 427

    “ตามที่เจ้าว่ามา เจ้าคงสนิทสนมกับท่านแม่ของข้ามาก ไฉนเจ้าถึงมิบอกข้า? นางตายไปแล้ว เจ้ามิอยากรู้หรือว่านางตายเช่นไร?” ลิ่นฝูเสวี่ยเงยหน้าพลางหัวเราะแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “ตอนนี้ข้าเองก็เป็นคนตายเหมือนกันนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” “เช่นนั้นมารดาของข้าก็…” ลั่วชิงยวนหัวใจบีบรัด ลิ่นฝูเสวี่ยเดินกรีดกรายด้วยท่าทีไม่รีบร้อน “ผู้ที่มีความยึดติดลึกล้ำจักมีจุดจบดั่งเช่นตัวข้า แต่ความยึดติดของมารดาท่านอาจหาใช่การมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้” “หาใช่การมีชีวิตอยู่กระนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแล้วรีบถามว่า “นั่นมันเรื่องอันใดกัน? เจ้ารู้ว่ามารดาของข้าตายได้อย่างไรใช่หรือไม่?” แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเปี่ยมเสน่ห์ “ข้าบอกไปแล้ว ข้าเป็นคนทำมาค้าขาย หากท่านปรารถนาสิ่งใดจากข้า ท่านก็ต้องมีเงื่อนไขมาแลกเปลี่ยน” ลั่วชิงยวนรู้สึกหน่วงอยู่ในอก นายหญิงตายไปแล้ว มิหนำซ้ำลูกสาวของนายหญิงก็ตายไปด้วย จากนั้นนางก็มาเกิดใหม่ในร่างลูกสาวของนายหญิง เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโชคชะตากระนั้นหรือ? นายหญิงตายได้อย่างไร? นางจะต้องรู้ให้จงได้! “ก็ได้ ข้าจักให้เจ้ายึดร่างของข้า!” “แต่มาทำความเข้าใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 428

    ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “ท่านอ๋องมาแต่เช้าถึงเพียงนี้ ใช่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ฟู่เฉินหวนมองเข้าไปข้างในพลางกล่าวว่า “วันนี้ตัวข้ามาหาแม่นางซ่ง” “แม่นางซ่งยังมิตื่น ท่านอ๋องประสงค์สิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ลั่วชิงยวนถาม ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าอยากซื้อโอสถ!” “แม่นางซ่งมีเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าอยู่มากหลาย ตัวข้าต้องการโสมร้อยปีมาช่วยชีวิตคนเป็นการด่วน มิทราบว่าแม่นางซ่งมีหรือไม่ ตัวข้ายอมจ่ายสิบเท่าของราคาเดิมเลย!” หากเป็นผู้อื่นที่มาซื้อและได้ยินราคาที่สูงกว่าถึงสิบเท่า ลั่วชิงยวนก็คงจะขายให้ทันทีโดยไม่ลังเลสักนิด แต่จู่ ๆ ฟู่เฉินหวนก็เสนอราคาของโอสถอายุวัฒนะให้ถึงสิบเท่าตัว ย่อมมิใช่เพื่อจุดประสงค์ทั่ว ๆ ไปเป็นแน่ ยามนี้ลั่วไห่ผิงคงจะป่วยหนัก ฟู่เฉินหวนต้องการโอสถไปช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงใช่หรือไม่? โอสถที่มอบให้ลั่วไห่ผิงเป็นของขวัญในงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อครั้งล่าสุดยังไม่พออีกกระนั้นหรือ? เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเสียงก็เดินออกมา “สิบเท่าของราคาเดิมกระนั้นหรือ? ท่านอ๋องจักเอาไปใช้ทำอันใดเพคะ?” ฟู่เฉินหวนจึงกล่าวว่า “ไม่สะดว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 429

    “เซียนฉู่ว่างเมื่อไหร่ ข้าค่อยมาดื่มกับเจ้าอีกก็แล้วกัน” หลังจากฟู่เฉินหวนพูดจบก็หันหลังเดินจากไป ทั้งสองคนยืนอยู่ใต้ชายคาแล้วมองดูเงาร่างของฟู่เฉินหวนเดินจากไป จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เขาคิดจะซื้อโอสถให้ท่านใช่หรือไม่? ที่บอกว่าใบหน้าของท่านโดนงูกัดก็เป็นเพียงข้ออ้างมิใช่หรอกหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “โสมร้อยปีย่อมมิได้ให้ข้าอยู่แล้ว คงเอาไปช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงมากกว่า” “พวกเรามอบให้เขามิได้เป็นอันขาด!” ซ่งเชียนฉู่เลิกคิ้ว “ข้ามิยอมมอบให้เขาแน่! ท่านอุตส่าห์ทุ่มเงินตั้งมากมายเพื่อจัดการกับลั่วไห่ผิง! ขืนรักษาลั่วไห่ผิงอีก คงได้ขาดทุนป่นปี้กันพอดี” จากนั้นลั่วชิงยวนก็ผลัดเปลี่ยนเป็นอาภรณ์บุรุษและผ้าคลุมหน้าที่มิเคยสวมใส่มาก่อนแล้วค่อยเดินออกไป นางไปหาลิ่นฝูเสวี่ยที่คฤหาสน์หลังนั้นก่อน นางหยิบตุ๊กตาผ้าตัวเล็กใส่ลงไปในถุงหอม จากนั้นก็ชักนำลิ่นฝูเสวี่ยเอาไว้ข้างใน “ไม่รู้ว่าท่านแค้นใจข้ามากเสียจนต้องแก้เผ็ดใช่หรือไม่? พื้นที่เล็กจ้อยเช่นนั้น ท่านจักบีบคั้นให้ข้าตายหรืออย่างไรกัน?” เสียงบริภาษของลิ่นฝูเสวี่ยดังออกมาจากถุงหอม ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 430

    ”โอ๊ย ปวดเหลือเกิน…” หญิงงามนางหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงพลางกุมท้องเอาไว้ สตรีหลายคนกับแม่เล้าที่อยู่ใกล้ ๆ ช่วยประคองนางเอาไว้ หมอท่านหนึ่งกำลังจับชีพจรให้อยู่ “เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านหมอ? เป็นอันใดหรือไม่?” แม่เล้ารีบถามขึ้นมา ท่านหมอทำสีหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าวว่า “เป็นเพราะนางกินยาระบายเข้าไปเป็นมาก! มันมิเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรอก! แต่สาเหตุที่ทำให้ปวดมากขนาดนั้นเป็นเพราะกินเข้าไปเกินขนาด หลังจากหายปวดก็ดีขึ้นเองนั่นแหละ” “ข้าจักเขียนเทียบยาให้นางค่อย ๆ กิน ประเดี๋ยวนางก็จะหายดีในสามวันห้าวัน” เมื่อแม่เล้าได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกตกตะลึง “ยาระบายกระนั้นหรือ? เช่นนั้นหลังจากหายปวด นางจักขึ้นเวทีไหวอยู่อีกหรือเจ้าคะ?” ท่านหมอมีสีหน้าหนักใจพลางกล่าวว่า “ยาระบายก็ตามที่ชื่อบอกไว้นั่นแหละ จักทำให้เกิดอาการท้องร่วง” “เกรงว่าคงไม่เหมาะที่จะขึ้นเวที มิฉะนั้น…” พอเอ่ยถึงตรงนี้ท่านหมอก็หยุดพูด จากนั้นทุกคนในห้องก็ขมวดคิ้วแล้วปิดจมูกเอาไว้ เห็นได้ชัดว่ากลิ่นแปลกประหลาดโชยออกมา หลีเถารู้สึกอับอายขายหน้าจึงกล่าวว่า “ออกไป! รีบออกไปสิ!” แม่เล้ารีบไล่สตรีคนอื่น ๆ ออกจากห้องและ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 431

    ทว่าก็ยังต้องไปอยู่ดี นางสูดหายใจลึก ๆ พลางเขย่งเท้าแล้วกระโจนตัวขึ้นกลางอากาศ นางก้าวลงบนหน้าต่างแล้วกระโดดขึ้นไปตรงกลางเวทีทรงกลม ทันทีที่ชุดกระโปรงสีแดงเจิดจ้าปรากฏขึ้น ก็ทำให้คนนับไม่ถ้วนรู้สึกตะลึงงัน แขกเหรื่อโดยรอบต่างตกตะลึง “ใช่แม่นางหลีเถาหรือไม่?” เมื่อนักดนตรีเห็นเช่นนี้ ก็บรรเลงพิณอย่างให้ความร่วมมือยิ่ง ลิ่นฝูเสวี่ยรีบตั้งสมาธิแล้วกระโดดเบา ๆ ไปตามเสียงพิณ ลั่วชิงยวนสัมผัสได้ว่าร่างกายของนางก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ แต่กลับมิได้อยู่ภายใต้การควบคุมของนาง เมื่อเห็นสายตาของผู้คนที่อยู่ ณ เบื้องล่าง นางก็รู้ว่าลิ่นฝูเสวี่ยทำสำเร็จแล้ว เช่นเดียวกับตอนที่นางพบเจออีกฝ่ายเป็นครั้งแรก นางถูกการร่ายรำของอีกฝ่ายดึงดูดความสนใจเอาไว้อย่างลึกล้ำ “ท่านแม่ ผู้ใดกำลังร่ายรำอยู่ตรงนั้นหรือเจ้าคะ?” จู่ ๆ ก็มีคนเอ่ยขึ้นมา แม่เล้าปี้มองดูแล้วให้รู้สึกตกตะลึง “นั่นผู้ใดกัน? ซิ่งอวี่กระนั้นหรือ?” “ดูเหมือนว่าจะมิใช่! ซิ่งอวี่จักมีเรือนร่างเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า!” “เช่นนั้นก็น่าแปลก ผู้ใดกันที่วิ่งขึ้นไปร่ายรำด้วยตัวเอง! ใครก็ได้ช่วยข้าเอานางลงมาที!” แม่เล้าป

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status